ศิลปะจากปลายพู่กัน ศิลปิน ฉายา อ.อู๊ด อัมพวา ชาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้รับเชิญไปแสดงภาพเขียนสีน้ำในต่างแดน มีผลงานมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไฉนคนไทยไม่ส่งเสริม


ภาพวาดสีน้ำสวย ๆ ที่แขวนโชว์อยู่ภายในบ้านเลขที่ 51 / 2 ต.วันดาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ของ อ.อู๊ด อัมพวา หรือ อาจารย์ บัญญัติ พวงทอง วัย 61 ปี ผู้เป็นศิลปินที่เคยคว่ำหวอดอยู่ในวงการเบื้องหลังการทำงานอยู่ฝ่ายฉากกำกับศิลป์ โดยใช้ศิลปะมาประกอบฉากการแสดงของ อ. อู๊ด อัมพวา ที่เคยทำงานร่วมกับศิลปินดาราหลายคน อยู่เบื้องหลังจัดหาอุปกรณ์ประกอบฉากให้กับรายการก่อนบ่ายคลายเครียดในอดีต และอดีตผู้อยู่เบื้องหลังการทำมิวสิคเพลงเพื่อชีวิตให้กับ นายสุรชัย จันทิมาธร หรือ น้าหงา คาราวาน เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา




จากนั้นได้ผันตัวเองมาใช้ชีวิตการวาดรูปที่ตัวเองชอบ ทั้ง สีน้ำ สีน้ำมัน กับหลากหลายแนวรูปแบบตามจินตนาการ ความคิดที่ไม่เคยหยุดนิ่ง อุปกรณ์การวาดภาพแต่ละชิ้นล้วนมีคุณภาพเพื่อสรรสร้างผลงานออกมาอย่างวิจิตรงดงามหาชมได้ยาก ทั้งการใช้เทคนิคการวาด การใช้สี มุมมองของแต่ละภาพมีมิติ ดูแล้วบ่งบอกถึงความรู้สึกได้ว่า วาดภาพเหล่านั้นมีคุณค่าเป็นอย่างดี หลายภาพที่ถูกนำไปแสดงยังต่างประเทศมากมาย เช่น ภาพวาดคนกับม้าซึ่งได้รับรางวัลที่ประเทศสิงคโปร์ สื่อถึงความหมายรวมใจเป็นหนึ่ง หมายถึง คนกับม้าจะต้องรวมใจเป็นหนึ่งจึงจะไปด้วยกันได้ ถือเป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราวแสดงถึงอารมณ์ในรูปที่วาดให้สื่อออกมาจนได้รับรางวัลเหรียญทองแดงมาแล้ว



อาจารย์ อู๊ด หรือบัญญัติ พวงทอง เล่าถึงงานวาดภาพว่า มีความรู้จาการเรียนศิลปะและตั้งใจที่จะมาทำอาชีพนี้ แต่ช่วงนั้นทำงานบริษัทไว้หลายแห่ง และได้ห่างออกมาเพราะไม่ใช่งานตรงที่อยากทำ จึงหันมาทำร้านวาดรูป ช่วงนั้นวาดสีน้ำมัน สีอะคลิลิค เพื่อความอยู่รอด ส่วนมาใช้สีน้ำช่วง 15 ปีที่แล้ว เพราะมีศิลปินรุ่นใหญ่แนะนำให้ไปทางการวาดรูปด้วยสีน้ำ จากการที่ได้มาเห็นงานวาดหลายแบบ จึงใช้สีน้ำมายาวนานหลายปี ตระเวนแสดงไปหลายแห่งที่ต่างประเทศ อีกทั้งในประเทศไทยเวทีจะน้อยไม่ค่อยมีงานจัดแสดงสีน้ำ กลายเป็นว่าเราต้องทำส่งต่างประเทศอย่างเดียว ช่วงนั้นรับงานช่างเขียนอุโบสถด้วย ได้ค่าแรงมาก็ทุ่มกับสีน้ำหมด ส่งงานแต่ละประเทศต้องใช้เงินขั้นต่ำ 2 – 3 พันบาทต่อชิ้น จะมีค่าขนส่ง ค่าติดตั้งงานในต่างประเทศ ค่าสูจิบัตร เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องให้แต่ละแห่งในการจัดแสดงผลงาน ส่วนงานตัวเองเป็นงานแลนด์สเคป ส่วนใหญ่ของสีน้ำ เป็นวิวทั่วไป ทุ่งนา ป่าเขา ยังมีซิตี้สเคป จำพวกเมืองต่าง ๆ ชอบทุกงานที่ทำ



โดยประเทศที่ได้รับรางวัลที่ 1 คือ ที่ประเทศอินเดีย เป็นภาพเด็กยากจนกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ อาจสื่ออารมณ์ของความหิว มีความหมายในรูปนั้น ได้รางวัลเหรียญทอง ไม่มีเงินรางวัลให้ แต่เขาจะดูแลเรื่อง ค่าเครื่องบินไปกลับ ค่าเป็นอยู่ร่วมงาน ได้เกียรติบัตร ได้รางวัลเป็นอุปกรณ์การวาดภาพกลับมา ส่วนเรื่องที่ประทับใจคือ ได้มีโอกาสไปสอนการวาดภาพที่ประเทศสเปน พร้อมกับนำรูปไปขายที่นั่นด้วย รวม ๆ ขายครั้งนั้นเป็นเงินหลักแสนบาท ส่วนรูปที่ราคาแพงสุดที่เคยขายได้เป็นไซส์เล็กราคาภาพละ 80,000 บาท ส่วนใหญ่งานขนาดใหญ่ ๆ จะไม่ค่อยมีคนซื้อเพราะไม่มีที่ติด ขณะที่ภาพวาดออกมาเล็กที่สุด ซึ่งนำไปแสดงที่ประเทศอินเดีย มีขนาด 4 ซม. x 8 ซม. หรือประมาณเท่ากับใบนามบัตร เป็นงานเทศกาลสีน้ำที่แสดงงานจะมีชิ้นนี้ที่มีขนาดเล็กสุด ตอนนี้กำลังทำอีกชิ้นหนึ่งที่เล็กกว่านี้ โดยมีผู้จัดคนเดียวกัน รูปเล็กในการเขียนต้องใช้กล้องขยายเข้ามาช่วย เวลาเขียนต้องเอากล้องขยายบังและเอาพู่กันแทรกไว้หลังกล้องขยายเขียน มีการเขียนภาพที่เล็กสุดแบบนี้เพียงแค่ตนเองและอาจารย์อีกท่านหนึ่งเท่านั้น



อ.อู๊ด อัมพวา ยังเคยเป็นจิตอาสาเคยมีโครงการทำมาตั้งแต่ก่อนโควิด 19 จะมีศิลปินอยู่ในกลุ่มประมาณ 5-6 คน เมื่อก่อนจัดตอนวันเกิดจะไปสอนฟรี ให้แก่เด็ก ป. 1 – ป. 6 พอช่วงโควิดก็ไปต่อไม่ได้ จึงหยุดยาวเรื่อยมา คงมีบางแห่งที่เชิญไปสอนเป็นวิทยากรพิเศษ แต่ถ้ามีโครงการดี ๆ สามารถบอกมาไปสอนให้ได้



อ.อู๊ด มองว่าประเทศไทยให้ความสำคัญเรื่องนี้น้อยไป ซึ่งเคยไปหลายประเทศมาแล้ว เช่น ประเทศจีนที่ให้ความสำคัญมาก จะดึงดูดหัวใจคนได้ คนถ้ามีศิลปะในหัวใจจะใช้ชีวิตไปได้สวยงาม เคยสอนลูกจากที่ช่วงหนึ่งที่เคยเกเร ได้จับไปเรียนศิลปะ ไปขัดเกลาจิตใจออกมาใช้ชีวิตได้สวยงาม มองว่าศิลปะสมัยนี้เปิดกว้าง ไม่จำเป็นต้องมาวาดภาพแบบนี้ รุ่นใหม่จะใช้สมองมากกว่ามือ ทุกคนมีศิลปะอยู่ในหัวใจอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มีเวที หรือ มีคนสนับสนุน ไม่ส่งเสริม ทำให้เสียดายโอกาส อาจจะโดนอย่างอื่นดึงออกไป ถ้ามีผู้ใหญ่ในวงการช่วยสนับสนุนสามารถดึงคนเหล่านี้กลับมาได้ ส่วนผลงานที่วาดไว้ตอนนี้มีอยู่ 200 – 300 ชิ้น ที่ยังไม่ได้ใส่กรอบ และที่แสดงอยู่ต่างประเทศก็ยังมี ซึ่งต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ ก็อาจจะจัดแสดงเดี่ยวอีกสักครั้งหนึ่งก่อนที่จะหมดแรง คงจะมีอีกชุดที่กำลังรวบรวมอยู่
วันนี้จึงถือเป็นโอกาสดี มีเด็กน้อยสนใจมาหัดเรียนศิลปะการวาดภาพจากสีน้ำ ด้วยเทคนิคต่าง ๆ เป็นภาพดอกไม้ ใช้กระดาษเฉพาะใช้พู่กันจุ่มน้ำปาดลงบนพื้นกระดาษให้ชุ่ม มีเทคนิคการต้องรอให้กระดาษแห้งหมาดได้ที่ แล้วจึงใช้พู่กันแต่งแต้มสีสันลงไป แต่ละสีมีความหนัก เบา ไม่เท่ากัน ทำให้ภาพออกมาดูมีมิติได้อารมณ์ นอกจากนี้ยังมีการแสดงการวาดภาพด้วยเกรยอง เรียกง่าย ๆ คือ เป็นแท่งถ่านสีดำรูปร่างสี่เหลี่ยม ใช้ปาด ลาก ถูก หรือ ขีดเขียนไปตามความคิดที่เห็นตรงหน้า ใช้เวลาเพียง 5-6 นาที ต่อ 1 รูป ให้หันหน้าเอียงประมาณ 45 องศา ทำให้ภาพออกมาดูมีอารมณ์ ดูมีมิติ และความสวยงามเสมือนจริง




ประเทศไทย มีสุดยอดศิลปิน ด้านศิลปะสีน้ำจากปลายพู่กันเช่นนี้ แล้วไฉนหน่วยงานราชการไทยถึงไม่คิดส่งเสริม มารอให้ต่างชาติแย่งชิงความได้เปรียบไป ขณะที่นักศึกษาคนรุ่นใหม่ที่เรียนจบด้านศิลปะ ต้องไปละเลงภาพแสดงออกถึงความสามารถอยู่ริมกำแพงอย่างนั้นหรือ
สำหรับสนใจสามารถ เข้ามาศึกษาชมงานศิลปะ หรือ มาเรียนรู้เทคนิคการวาดภาพได้ที่บ้านอาจารย์ อู๊ด อัมพวา ติดต่อไปที่. โทร 089-7526181
ขอขอบคุณ ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

