องคมนตรี ตรวจเยี่ยมโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่จังหวัดนครปฐม

องคมนตรี ตรวจเยี่ยมโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่จังหวัดนครปฐม

พลเอกไพบูลย์  คุ้มฉายา องคมนตรี

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 พลเอกไพบูลย์  คุ้มฉายา องคมนตรี รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปตรวจเยี่ยมศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านอุเบกขา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยมีนางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครปฐม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ

  ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านอุเบกขา เป็นศูนย์ฝึกเฉพาะ ด้านการบำบัดพิเศษ รับเด็กและเยาวชนที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ จากพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ปัจจุบัน มีผู้อยู่ในความดูแล 18 คน มีพยาบาลวิชาชีพ 2 คน และนักจิตวิทยา 3 คน มีโรงพยาบาลพุทธมณฑล เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ได้รับพระราชทานเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าสำหรับใช้รักษาเบื้องต้น มีการประเมินตามสภาวะสุขภาพแบบองค์รวม, คัดกรองจำแนกการใช้ยาเสพติด แก้ไขบำบัดฟื้นฟูรายบุคคล ปัจจุบัน มีเด็กและเยาวชนจิตเวช ในความดูแล 5 คน และมีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพกาย-ใจ เช่น ศิลปะ (ช่างสิบหมู่), คหกรรม และดนตรี

   ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนสิรินธร อำเภอพุทธมณฑล เป็นศูนย์เฉพาะทางด้านวิชาชีพ รับเยาวชนที่มีความประพฤติดี สนใจเข้ารับการฝึกวิชาชีพจากศูนย์ฯ ทั่วประเทศ และเยาวชนที่ศาลเยาวชนและครอบครัว มีคําพิพากษาให้เข้ารับการฝึก ปัจจุบัน มีผู้อยู่ในความดูแล 61 คน มีพยาบาลวิชาชีพ และนักจิตวิทยา 3 คน ได้รับพระราชทานเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า โดยมีโรงพยาบาลพุทธมณฑล ตรวจรักษาโรคเบื้องต้น ผ่านระบบ Telemedicine และด้านจิตเวชผ่านระบบเทคโนโลยีสื่อสารทางไกล ร่วมกับสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ โดยติดตามผลการรักษาทุกเดือน มีเด็กและเยาวชนจิตเวช 3 คน ให้การศึกษาทั้งสายสามัญ และการศึกษาทางเลือก จากศูนย์การเรียนเซนต์ยอห์นบอสโกอุปถัมภ์ วิทยาลัยการอาชีพพุทธมณฑล และวิทยาลัยเทคโนโลยีชื่นชมไทย-เยอรมัน สระบุรี, การฝึกวิชาชีพระยะสั้น จากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 16 นครปฐม 9 หลักสูตร รวมถึงสถาบันต่าง ๆ อาทิ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ฝึกให้มีทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน, เครือข่าย ส่วนบริษัท มโนราห์อุตสาหกรรมอาหาร จํากัด ฝึกขับรถโฟล์คลิฟท์ และเครือข่าย บริษัท สยามทรอลี่โปรเกรสชัน จํากัด ร่วมกับวิทยาลัยเทคโนโลยีชื่นชมไทย-เยอรมัน สระบุรี ฝึกรถขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก พร้อมรับเข้าทํางาน

   ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านมุทิตา อำเภอพุทธมณฑล เป็นศูนย์เฉพาะ ด้านการพัฒนาเด็ก รับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ในกรุงเทพมหานคร หรือ เยาวชนอายุต่ำกว่า 17 ปี จากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา เมื่ออายุ 18 ปีบริบูรณ์ จะส่งไปฝึกอบรมต่อที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา ปัจจุบัน มีผู้อยู่ในความดูแล 53 คน ส่วนใหญ่คือฐานความผิดต่อชีวิตและร่างกาย มีพยาบาลวิชาชีพ 1 คน และนักจิตวิทยา 2 คน มีโรงพยาบาลพุทธมณฑล เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ตรวจคัดกรองวัณโรคปอด, ประเมินการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนตามมาตรฐานองค์การสหประชาชาติ, ตรวจรักษาผ่านระบบ Telemedicine, ด้านจิตเวชผ่านระบบเทคโนโลยีสื่อสารทางไกล ร่วมกับสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ มีการอบรมเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการฟื้นคืนชีพ ปัจจุบัน มีเด็กและเยาวชนจิตเวช 6 คน มีการฝึกวิชาชีพช่างยนต์, ช่างเชื่อม, วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และฝึกจิตใจด้วยศาสนบำบัด

จากนั้น เดินทางไปยังโรงพยาบาลพุทธมณฑล โดยได้เชิญพระราชกระแสความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่แพทย์ พยาบาล และบุคลากรเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ โรงพยาบาลพุทธมณฑล มีขนาด 30 เตียง เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายที่ดูแลศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนทั้ง 3 แห่ง รวมทั้งประชาชนในอำเภอพุทธมณฑล มี “ห้องปันสุข” แยกจากผู้ป่วยทั่วไป ปัจจุบัน ไม่มีผู้เข้ารับการรักษา

ต่อจากนั้น เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการราชทัณฑ์ปันสุขทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ณ เรือนจำกลางนครปฐม พร้อมเปิด “มหกรรมเรือนจำ มหกรรมสุขภาพกายและจิตห่างไกลโรคไม่ติดต่อ” เพื่อให้ผู้ต้องขังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน และความดันโลหิต อาทิ ส่งเสริมการออกกำลังกาย สร้างความรู้ด้านโภชนาการ เรือนจำกลางนครปฐม ควบคุมผู้ต้องขังกำหนดโทษตลอดชีวิต มีผู้ต้องขังชาย-หญิง 4,113 ราย ได้รับพระราชทานครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 22 รายการ และอุปกรณ์พระราชทานในการฝึกอบรมผู้ต้องขัง ที่เข้าร่วมโครงการอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ หรือ อสรจ. มีพยาบาลวิชาชีพ 7 คน, นักจิตบำบัด 1 คน และ อสรจ. 166 คน มีโรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ส่วนผู้ต้องขังหญิง ได้รับคัดกรองมะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก พบผู้ต้องขังป่วยจิตเวช 156 ราย มีการขึ้นทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพกับโรงพยาบาลแม่ข่าย รวมถึงขึ้นทะเบียนคนพิการ, ผู้สูงอายุ และลูกผู้ต้องขัง ส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคและฟื้นฟูสมรรถภาพพื้นฐานตามกลุ่มวัย ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์ 2 คน และมีเด็กติดผู้ต้องขัง 6 คน

หลังจากนั้น เดินทางไปยังโรงพยาบาลนครปฐม ขนาด 860 เตียง เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำกลางจังหวัดนครปฐม มีบริการตรวจรักษาด้วยระบบ Telemedicine ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงการรักษา สามารถรับการวินิจฉัยและตรวจรักษา ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น โรคทั่วไป จิตเวช และเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ทำให้ผู้ต้องขังได้รับการรักษาทันท่วงที มี “หอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข” สำหรับผู้ต้องขังป่วย เพื่อพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยและความปลอดภัย ปัจจุบันไม่มีผู้ต้องขังนอนพักรักษา


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม-ข่าว

ใส่ความเห็น