เรื่องทั้งหมดโดย key8news

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยความสำเร็จ “แบบบ้านประหยัดพลังงาน” ภายใต้ “โครงการสินเชื่ออยู่เย็น เป็นสุข”

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยความสำเร็จ “แบบบ้านประหยัดพลังงาน” ภายใต้ “โครงการสินเชื่ออยู่เย็น เป็นสุข” โชว์ 10 ผลงานสร้างสรรค์ ยกระดับการอยู่อาศัย บ้านยุคใหม่ “อยู่สบาย” และ “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” จากการประกวดเพื่อคว้ารางวัล มูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท พร้อมให้ดาวน์โหลดแบบบ้าน ฟรี!!! ขับเคลื่อนเป้าหมาย “ทำให้คนไทยมีบ้าน” และร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกที่ยั่งยืนต่อไป

นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานการตลาด ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า
เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันสถาปนาครบรอบ 70 ปี ธอส. และประกาศความสำเร็จของการประกวดแบบบ้านประหยัดพลังงาน ภายใต้ “โครงการสินเชื่ออยู่เย็น เป็นสุข” ธอส. จึงได้จัดงาน “Roadshow ประชาสัมพันธ์การดาวน์โหลดแบบบ้านประหยัดพลังงาน โครงการสินเชื่ออยู่เย็น เป็นสุข”

โดยงานจัดขึ้นที่ลานน้ำพุ ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวสเกต ระหว่างวันที่ 23-24 กันยายน 2566 หลังจากการประกวดแบบบ้านประหยัดพลังงานดังกล่าว ได้รับความสนใจจากนิสิต นักศึกษา บุคคลทั่วไป และคณะบุคคลที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปนิกทั่วประเทศ ร่วมส่งผลงานการออกแบบบ้านที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และประหยัดพลังงาน ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2566 มากกว่า 265 ผลงาน ก่อนประกาศผล 10 ผลงานของผู้ได้รับรางวัลในการตัดสินรอบสุดท้ายในวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ซึ่งแบบบ้านที่ชนะเลิศ ได้ผ่านการตัดสิน


โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสภาวิศวกร สภาสถาปนิก สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ สถาบันอาคารเขียวไทย และผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม โดยแบบบ้านที่ชนะการประกวดได้รับเงินรางวัลมูลค่ารวมมากกว่า 1 ล้านบาท และประกาศเกียรติคุณรับรองผ่านการประเมินเกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงานในโครงการบ้านเบอร์ 5 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถดาวน์โหลด
แบบบ้านประหยัดพลังงานไปใช้ได้ ฟรี!!! ผ่านทาง http://www.ghbank.co.th เพื่อนำไปปลูกสร้างได้จริง โดยธนาคารพร้อมสนับสนุนสินเชื่อเพื่อปลูกสร้าง อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อเป็นทางเลือกและสนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานเป็นของตนเอง

สำหรับแบบบ้านที่ชนะการประกวดในรางวัลแบบบ้านขนาดเล็ก ได้แก่ “บ้านโอบกอด” ที่มีจุดเด่นของการออกแบบอาคารให้มีความสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม การใช้ทิศทางของลมและแสงแดดให้ความใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม, บ้าน “EVERYHOME” ที่ชนะใจกรรมการตัดสินด้วยแนวคิด Flexible ความยืดหยุ่นที่พร้อมตอบรับผู้ใช้งานคนไทย “ทุกคน” ให้ได้มีบ้านอยู่เย็นเป็นสุขใน “ทุกที่”, “บ้านเล็กในเมืองใหญ่” ที่ออกแบบบ้านประหยัดพลังงานสำหรับพื้นที่แคบในเมือง , “บ้าน ชาน เอิ้น” ที่นำภูมิปัญญาของคนอีสานมาออกแบบบ้านให้มีพื้นที่ตรงกลาง หรือใต้ถุนบ้านสำหรับทำกิจกรรมของครอบครัว และ “บ้านกินลม” ที่ออกแบบบ้านโปร่งโล่ง ลมและแสงเข้าสู่ตัวบ้านได้ง่าย มีใต้ถุนที่อากาศถ่ายเทสะดวก ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง

ด้านแบบบ้านที่ชนะการประกวดในรางวัลแบบบ้านขนาดใหญ่ ได้แก่ บ้าน “Well Being House” โดยออกแบบบ้านให้คนทั้งครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีสุขภาวะที่ดี และประหยัดพลังงาน, “บ้านระเบียงเคียงดิน” ที่เน้นการหาวัสดุที่หาได้ง่ายในชนบท ช่วยประหยัดค่าก่อสร้างบ้าน “GREENHAUS” ที่ออกแบบบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกแง่มุม, “บ้านเรือนกลางสวน” โดยใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ เป็นเครื่องมือในการออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน Active Design และ บ้าน “SBYE HOUSE” ที่มีแนวคิดการออกแบบจากสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น และใกล้ชิดธรรมชาติผสมผสานอย่างลงตัว

ชมคลิป.https://youtu.be/SdGsDENB3Cs?si=cksPtpSEhhL6sTJr

ผบช.ภ.7 บรรจุพระยอดธงบนยอดเสาธง อาคารใหม่ ภาค 7

ผบช.ภ.7 บรรจุพระยอดธงบนยอดเสาธง อาคารใหม่ ภาค 7

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7

วันที่ 5 กันยายน 2566 ที่ทำการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ใหม่) ถนนขวาพระ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 (ผบช.ภ.7) ประธานฝ่ายฆราวาส และ พระครูพิพิธเจติยาภิบาล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิ หาร เจ้าอาวาสวัดปรมัยยิกาวาส วรวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ เป็นประธานในพิธีบรรจุพระยอดธงและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนหัวบัวยอดเสาธง หน้าที่ทำการตำรวจภูธรภาค7(ใหม่) โดยมี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รองผบก.ภ.จว.นครปฐม ร่วมพิธีด้วย

พิธีการเริ่มด้วย พ.ต.อ.วีระศักดิ์ ทองสาริ อนุศาสนาจารย์ ตร. นำประกอบการฯ โดยมี พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.นรเศรษฐ์ สุวรรณนิกขะ ผบก.กค.ภ.7 ผู้กำกับการตำรวจภูธร สภ.ในสังกัดภูธรจังหวัดนครปฐม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี

ทั้งนี้วันที่ 7 กันยายน พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่ทำการ ตำรวจภูธรภาค 7 จะทำพิธีเปิดอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค7(ใหม่) ต่อไป

ราชบุรี. ตลาดศรีเมืองมอบทุนนักเรียน 108 ทุน

สำนักงานตลาดศรีเมืองราชบุรี มอบทุนการศึกษาประจำปี 2566 แก่บุตรพนักงาน และเจ้าหน้าที่


ที่สำนักงานตลาดศรีเมือง นางวีณา ศรีสรรพางค์ รองประธานกรรมการบริหารตลาดศรีเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นประธานมอบทุนการศึกษาแก่บุตรพนักงานตลาดศรีเมือง ประจำปี 2566 ณ ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานศรีเมือง

สำหรับการมอบทุนดังกล่าวเป็นความประสงค์ของคุณนภินทร – คุณวีณา ศรีสรรพางค์ ประธานกรรมการบริหารตลาดศรีเมือง และครอบครัว ที่ต้องการสร้างขวัญกำลังใจ ลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่พนักงาน รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาแก่บุตรพนักงาน จำนวน 108 ทุน โดยแบ่งเป็นระดับชั้นอนุบาลถึงระดับปริญญาตรี เป็นเงินทั้งสิ้น 176,500 บาท

ขอบคุณภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

นครปฐม.ไร่ขิงจัด บาสเกตบอลการกุศล ในรายการ “RAIKHING SPORT GAMES 2023”

โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยาจัด บาสเกตบอลการกุศล ในรายการ “RAIKHING SPORT GAMES 2023

ที่โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้มีการแถลงข่าวการจัดการแข่งขันบาสเกตบอลการกุศล ในรายการ“ไร่ขิง สปอร์ตเกมส์ 2023” โดยจะมีการแข่งขันระหว่างวันที่ 23 กันยายน ถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2566 และรอบชิงชนะเลิศระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม 2566 ณ โดมอเนกประสงค์ โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา อ.สามพราน จ.นครปฐม


โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างโอกาสให้เยาวชน และบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งประชาชนทั่วไปได้รับประโยชน์จากการจัดกิจกรรมในด้านการกีฬา และเพื่อให้คณะครู ผู้ปกครอง และเครือข่ายศิษย์เก่าอนันต์ฯ-ไร่ขิงวิทยา รวมถึงบุคคลทั่วไปมีส่วนร่วมในการจัดหาทุนสนับสนุนสำหรับกิจกรรมทางการศึกษาของโรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยาต่อไป




ซึ่งภายในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 22 ตุลาคม 2566 จะมีกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย อาทิ การแข่งขันชู้ตบาส 3 แต้ม การแข่งขันดังก์ การแข่งขันบาสเกตบอลรอบพิเศษ ระหว่างผู้บริหารโรงเรียนและสมาคมผู้ปกครอง ครู และศิษย์เก่าอนันต์ฯ-ไร่ขิงวิทยา แข่งขันกับ นักกีฬาบาสเกตบอล All Star ทีมนักแสดงและศิลปิน โชว์สตรีทแดนซ์ และมินิคอนเสิร์ตภายในงานอีกด้วย

เปิดยิ่งใหญ่กีฬาสีลูกพระพันปี รร.ราชินีนครปฐม

เปิดยิ่งใหญ่กีฬาสีลูกพระพันปี โรงเรียนราชินีบูรณะนครปฐม

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 ที่โรงเรียนราชินีบูรณะ อ.เมือง จ.นครปฐม นายกองตรี เอกพันธุ์ คุปตวัช อดีตนายกเทศมนตรีนครนครปฐม กรรมการสถานศึกษาโรงเรียนราชินีบูรณะ ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาภายใน(กีฬาสี)ครู นักเรียนโรงเรียนราชินีบูรณะ “ราชาวดีเกม” ประจำปีการศึกษา2566 มีว่าที่ร้อยตรีมนต์เมืองใต้ รอดอยู่ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชินีบูรณะ รายงานว่าการแข่งขันกีฬาภานใน “ราชาวดีเกม” นี้เกิดจากความร่วมมือของกลุ่มการเรียนรู้สุขศึกษาและพละศึกษา ร่วมกับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา และนักเรียน ระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคม 2566

เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน ได้พัฒนาร่างกายจิตใจ อารมณ์ และสังคมฝึกการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี ผ่านการเล่นกีฬา และอยากส่งเสริมให้นักเรียนได้แสดงความสามารถและรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ห่างไกลยาเสพติด และเพื่อส่งเสริมความรัก สามัคคี ผู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย มีน้ำใจเป็นนักกีฬา

โรงเรียนราชินีบูรณะ เป็นสถานศึกษาหญิงล้วน ลูกพระพันปี แต่ลูกของเราสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ทั้งที่เป็นงานของผู้ชาย ด้วยความสามารถและความร่วมมือร่วมใจกัน ทำให้กิจกรรมนี้สำเร็จ สมบูรณ์แบบ ทั้ง 4สี เป็นที่เชิดหน้าชูตาว่านี่คือลูกพระพันปี” ว่าที่ร้อยตรีมนต์เมืองใต้ กล่าว

นายกองตรี เอกพันธุ์ คุปตวัช กล่าวว่า กีฬาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเราได้ผ่านอะไรๆมาทั้งเหนื่อย อดทน จนได้ชัยชนะ ล้วนมาจากความสามัคคีทั้งสิ้น ขอขอบคุณที่น้องๆร่วมมือกัน ทำให้งานวันนี้สำเร็จ สมบูรณ์ และยินดีที่ได้มาเป็นประธานเปิดงาน “ราชาวดีเกม 2566” ทั้งนี้ได้มอบทุนสนับสนุนให้กับทีมสีทั้ง 4ทีม เพื่อขวัญใจสืบไป ขอให้ทุกคนรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย

อนึ่งโรงเรียนราชินีบูรณะ แห่งนี้ก่อตั้งครั้งแรกใน พ.ศ. 2457 เดิมใช้ชื่อโรงเรียนว่า “สตรีวิทยา” ปี 2460 โรงเรียนได้ถูกเพลิงไหม้ จึงได้ย้ายสถานศึกษามาอยู่ที่เรือนพักกองเสือป่า ในภายหลัง เจ้าพระยาศรีวิไชยชนินทร (ชม สุนทราชุน) ผู้เป็นข้าหลวงเทศาภิบาลผู้สำเร็จราชการมณฑลนครชัยศรี ได้ให้คุณหญิงทองอยู่ สุนทราชุน ผู้เป็นภรรยา เข้ารับพระราชทานทรัพย์ พร้อมที่ดินจากสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถพระพันปีหลวง มาสร้างโรงเรียนรวมถึงอาคารเรียนตามแปลน ของกระทรวงธรรมการในสมัยนั้น และจัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2462 โดยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถพระพันปีหลวง โปรดเกล้าฯ ให้พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร เสด็จแทนพระองค์ และพระราชทานนามโรงเรียนแห่งนี้ว่า “โรงเรียนราชินีบูรณะ” นับแต่นั้นเป็นต้นมา

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

ขอนแก่น. ซุ้มจอมขมังเวย์ร่วมพิธีไหว้ครู สำนักสัมฤทธิ์ร้อยแปดจัดอย่างยิ่งใหญ่

สำนักสัมฤทธิ์ 108 ซุ้มจอมขมังเวย์ร่วมพิธีไหว้ครู สำนักสัมฤทธิ์ร้อยแปดอย่างยิ่งใหญ่

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2566 ที่สำนักสัมฤทธิ์108  ริมบึงหนองโคตร  บ้านคำไฮ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น
อาจารย์บิ๊ก สำนักสัมฤทธิ์ร้อยแปด เจ้าเเห่งรัตติกาล ได้จัดพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ประจำปี 2566 อย่างยิ่งใหญ่ รวมทั้งพิธีครอบเศียรครูประจำปี สำนักสัมฤทธิ์ร้อยแปด  โดยมี อาจารย์แขก รือเสาะ (มันตระสยาม) ปู่คำแสน โพธิสัตโต เป็นประธานในพิธี  พร้อมด้วยคณาจารย์จาก ซุ้มจอมขมังเวทย์   อาจารย์อ๋อ บ่อทอง  อาจารย์เจ คฤเวทมงคลชัย  นักสิทธิ์ปรเมศ ลูกบ่อทอง  อาจารย์ชิน เดชา อาจารย์เอ มันตระสยาม และคณาจารย์สายต่างๆ และคณะศิษย์ เดินทางมาร่วมพิธีจำนวนมาก

โดยวันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม 2566 มีพิธีไหวัครูยักษ์ ในวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม 2566 ไหวัครูใน ครูต้น ครูสาย ขึ้นขันธ์ธรรม ช่วงเย็นมีพิธีแห่กลองยาว  พิธีเบิกทรัพย์พญานาคาธิบดีทั้ง 9
และพิธีปลุกเสก จุดเทียน อาบน้ำมนต์ เสริมมงคล
และวันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม 2566 ใส่บาตร ถวายภัตตาหารเช้า พระสงฆ์ 9 รูป จากนั้นบวงสรวงไหว้ครูเทพเทวาครอบจักรวาลและพิธี ครอบเศียรครู โดยอาจารย์บิ๊ก

ซึ่งสำนักสัมฤทธิ์ 108 รับตรวจ ดวงชะตา สักยันต์  ดูฮวงจุ้ย และลงนะหน้าทอง  เสริมเมตตามหานิยม โชคลาภ  ในส่วนพิธีการอาบน้ำมนต์รัตติกาล ฟรีทุกเดือน เพียงท่านเตรียมดอกไม้ธูปเทียน มาที่สำนักสัมฤทธิ์ 108


  ส่วนกำหนดวันเวลาให้ติดตามกับทางเพจ และท่านที่สนใจดูดวงชะตาหรือปรึกษาทางเลือกเส้นทางการดำเนินชีวิตสามารถติดต่อสอบถาม ในการทำพิธีต่างๆได้ที่  คุณนิ่มโทร 0945254424 และแอดมินเพจ https://www.facebook.com/samrit108?mibextid=LQQJ4d ได้ตลอด

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ยกฉัตรพระธาตุเจดีย์ พุทธอรัญวาสีมณีโซติ วัดห้วยเงาะ ปัตตานี

สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย )
ยกฉัตรพระธาตุเจดีย์ พุทธอรัญวาสีมณีโซติ วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี

เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนีเจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม

วันอังคารที่ 15สิงหาคม 2566 ที่วัดอรัญวาสิการาม (วัดห้วยเงาะ ) ต.ทุ่งพลา อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนีเจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพฯ
ได้เป็นองค์ประธานในพิธียกฉัตรพระธาตุเจดีย์ พุทธอรัญวาสีมณีโซติ และทำบุญอุทิศถวายแด่ อดีตเจ้าอาวาสวัดอรัญวาสิการาม (วัดห้วยเงาะ) และบำเพ็ญกุศล อุทิศถวาย พระครูอนุศาสน์กิจจาทร (เขียว กิตฺติคุโณ) พร้อม บรรจุอัฐฐิบูรพาจารย์และอดีตเจ้าอาวาส ไว้ในพระธาตุเจดีย์ พุทธอรัญวาสีมณีโชติ


   โดยมี พระสิริจริยาลังการ รองเจ้าภาค18 วัดตานีนรสโมสร พระครูวรนาถโพธิคุณ(อุดม อริโย) รองเจ้าคณะอำเภอโคกโพธิ์ เจ้าอาวาสวัดอรัญวาสิการาม (วัดห้วยเงาะ) องค์ปัจจุบัน และ พล.ต.อ.ชินภัทร  สารสิน  รองผบ.ตร. พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 ว่าที่ ร้อยตรี ตระกูล โทธรรมรองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี   นายสมนึก มณีโชติ กรรมการ-ผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปัตตานีสหพันธ์ก่อสร้างและบริษัท ปาล์มพัฒนาชายแดนใต้ จำกัด อาจารย์แขก รือเสาะ มันตระสยาม นายพงษ์ศักดิ์  ยิ่งชนม์เจริญ  นายกเทศมนตรีนครยะลา นายสุริยา  หะยีดอเลาะเถาะ นายกอบต.ทุ่งพลา วัฒนธรรมจังหวัดปัตตาน


สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปัตตานี หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผบ.หน่วยกำลัง
คณะศิษยานุศิษย์ และพุทธศาสนิกชน
เข้าร่วมพิธีฯ

  ซึ่งในช่วงเช้ามีพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์   การแสดงรำมโนราห์ การแสดงรำอวยพรของกลุ่มแม่บ้าน บ้านห้วยเงาะ  การแสดงรำอวยพร ของกลุ่มดอกไม้บาน  ต.ยุโป อ.เมืองยะลา จ.ยะลา  การแสดงร่ำอวยพรรวมคณะ จ.ยะลา 6คณะ, คณะตำบลมะกรูด, คณะบ้านยางแดง, คณะ โคกโพธิ์, คณะบ้านห้วยเงาะ รวมจำนวน 217คน

จากนั้นมีพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีสมโภชฉัตรพระธาตุเจดีย์พุทธอรัญวาสีมณีโชติ ก่อนยกฉัตรยอดพระธาตุเจดีย์ พุทธอรัญวาสมณีโชติ ขึ้นบนยอดพระเจดีย์  พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 12 รูป เจริญชัยมงคล-คาถา ร่วมด้วย พระภิกษุ – สามเณร   พร้อมด้วยพิธี บรรจุอัฐฐิพระครูอนุศาสน์กิจจาทร (เขียว กิตฺติคุโณ) อดีตบูรพาจารย์เจ้าอาวาสวัดอรัญวาสิการาม (วัดห้วยเงาะ) ไว้ในพระธาตุเจดีย์ พุทธอรัญวาสีมณีโซติ โดยงานจะเริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 15 สิงหาคม จนถึงวันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ.2566

ขอบคุณภาพ-ข่าว ไชยอนันต์ ดลชัยกรร์สกุล

ขจร วัตรเอก Key8 NEWS รายงาน

ตลาดศรีเมืองราชบุรี มอบเสบียงอาหารให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้

ตลาดศรีเมืองมอบเสบียงอาหารให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชีในการเดินลาดตระเวนรักษาป่าไม้และสัตว์ป่า

นายชุมพล แก้วเกตุ และนางวีณา ศรีสรรพางค์



วันที่ 4 ส.ค.66 ที่ตลาดศรีเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี นางวีณา ศรีสรรพางค์ รองประธานกรรมการบริหารตลาดกลางผัก และผลไม้ (ตลาดศรีเมือง ) อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้มอบเงินสดจำนวน 5,000 บาท พร้อมเครื่องอุปโภค บริโภค พืชผัก ผลไม้

ประกอบด้วย โลชั่นกันยุงแบบซองจำนวน 960 ซอง โลชั่นกันยุงแบบขวด 180 ขวด ข้าวสาร 2 กระสอบ น้ำดื่ม 120 ขวด ปลากระป๋อง 100 กระป๋องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 180 ซอง ไข่เค็ม 300 ฟอง น้ำพริก 120 กระปุก และผักสด รวมเป็นเงิน 20,925 บาท ให้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี เพื่อเป็นเสบียงอาหาร ของกิน ของใช้ สำหรับหน่วยพิทักษ์ป่า เพื่อนำไปสนับสนุนการปฏิบัติงานในการออกเดินลาดตระเวนดูแลรักษาป่าไม้ และสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชีจังหวัดราชบุรี โดยมีนายชุมพล แก้วเกตุ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชีจังหวัดราชบุรี เป็นผู้รับมอบ ที่สำนักงานตลาดศรีเมือง จ.ราชบุรี


ขอบคุณภาพข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

เปิดแล้วงาน “มหกรรมเกษตรและกล้วยไม้นครปฐม 66”

จังหวัดนครปฐมเปิดงาน “มหกรรมเกษตรและกล้วยไม้นครปฐม 66” เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตร และสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภค ภายใต้ตราสัญลักษณ์รับรอง “นครปฐมการันตี”

นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ที่โครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา ตำบลบ่อพลับ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมเปิดงาน “มหกรรมเกษตรและกล้วยไม้นครปฐม 66” โดยจังหวัดนครปฐม ร่วมกับ สำนักงานเกษตรจังหวัด หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร ชมรม และเครือข่ายเกษตรกร กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม ถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2566 ภายใต้โครงการพัฒนานครปฐมให้เป็นเมืองอัจฉริยะ ที่มีอัตลักษณ์ด้านแปรรูปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี รองรับการท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรม เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์เกษตร รวมถึงกล้วยไม้ ไม้ดอกและไม้ประดับ ให้สาธารณชนได้รู้จักอย่างแพร่หลาย อีกทั้งเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรคุณภาพ ยกระดับการท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรมของจังหวัด ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการตลาดและเชื่อมโยงการค้าในอนาคต

นางสาวธนนันท์ ศรีสุวะ เกษตรจังหวัดนครปฐม

นางสาวธนนันท์ ศรีสุวะ เกษตรจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า จังหวัดนครปฐมมีพื้นที่การเกษตร จำนวน 637,488 ไร่ เกษตรกร จำนวน 49,963 คน ส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญในอาชีพการเกษตรที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ ทางจังหวัดได้มีการสนับสนุนส่งเสริมให้เกษตรกร ผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรให้มีมาตรฐานปลอดภัย สร้างมูลค่าภาคการเกษตร เสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรอย่างเป็นระบบ และการเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตร จึงได้จัดทำระบบการรับรองคุณภาพสินค้า เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตร เกิดการพัฒนาการผลิตเข้าสู่มาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ และสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภค ภายใต้ตราสัญลักษณ์รับรอง “นครปฐมการันตี”

สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย สินค้าเกษตรแปรรูป สินค้าประมง สินค้าปศุสัตว์ ของดีจังหวัดนครปฐม ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี มีการรับรอง “นครปฐมการันตี” กว่า 170 ร้านค้า อีกทั้งการประกวดกล้วยไม้ ได้แก่ กล้วยไม้ต้นในกระถาง 12 ประเภท กล้วยไม้ตัดดอก 3 ประเภท กล้วยไม้หมู่ 3 ประเภท ตลอดจนการประกวดไม้ดอกไม้ประดับ 4 ประเภท การจัดสวนกล้วยไม้เลียนแบบธรรมชาติ การจัดสวนไม้ประดับ ประกวดผลไม้ 8 ประเภท การแข่งขันทักษะทางการเกษตร 3 วัย รวมทั้งสิ้น 184 รายการ นอกจากนี้ยังมีการจัดอบรมอาชีพทางการเกษตร จำนวน 10 หลักสูตร การแสดงดนตรีจากสถาบันการศึกษาต่างๆ การแสดงของชมรม TO BE NUMBER ONE และการจัดนิทรรศการสินค้าเกษตร ทั้ง 7 อำเภอ ที่ผ่านการรับรองภายใต้ตราสัญลักษณ์ “นครปฐมการันตี” อีกด้วย

ทั้งนี้ ประชาชนและนักท่องเที่ยว สามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ภายในงานมหกรรมเกษตรและกล้วยไม้นครปฐม 66 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2566 ระหว่างเวลา 15.00 น. – 21.00 น. ณ โครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา ตำบลบ่อพลับ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม


ขอขอบคุณ สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

กรมการปกครอง ร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดราชบุรี และกรมพินิจฯ บุกจับ 2 ร้านดัง กลางเมืองบ้านโป่ง พบเป็นผับเถื่อนเปิดยันเช้าปล่อยมั่วยาเสพติด พกพาอาวุธปืน และมีเด็กต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ

กรมการปกครอง ร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดราชบุรี
บุกจับ ผับเถื่อนบ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมกัน 2 แห่ง
นักเที่ยวร่วม 400  ยาเสพติดเกลื่อน ฉี่ม่วงอื้อ ปล่อยเด็กเข้า พกอาวุธ เปิดยันเช้า ใช้เทคนิคลงเวลาในบิลเป็นเท็จ โดยลดเวลาลง จากความเป็นจริง 2 ชั่วโมง พบเป็นเจ้าของเดียวกันทั้งสองร้าน

ภายใต้การอำนวยการของ นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายรณภพ เหลืองไพโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง นายไกรธวัช ทินโสม ปลัดจังหวัดราชบุรี  นายเกียรติศักดิ์ หอมเย็นใจ นายอำเภอบ้านโป่ง ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดราชบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน บุกเข้าทำการจับกุม ผับเถื่อน ชื่อร้านไฮไลท์ บ้านโป่ง และร้านอารีน่า บ้านโป่ง

สืบเนื่องจากกรมการปกครอง ได้รับการประสานจากจังหวัดราชบุรี ว่ามีสถานประกอบการชื่อ “ร้านไฮไลท์ บ้านโป่ง”
ตั้งอยู่ที่ 162/8 ม.9 ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และ “ร้านอารีน่า บ้านโป่ง” ตั้งอยู่ที่ 98 ม.7 ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้เปิดให้บริการในลักษณะเป็นผับขนาดใหญ่ผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตสถานบริการ เปิดให้บริการถึงเช้า ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในร้าน ยินยอมให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าใช้บริการ
ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จึงได้ส่งสายลับฝ่ายปกครองเข้าทำการสืบสวน ปรากฎข้อมูลการกระทำผิดจริง จึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุม

  ทั้งนี้ สายลับฝ่ายปกครองยังพบว่า ทางร้านมีการลงเวลาในใบเสร็จค่าสุราเป็นเท็จ โดยมีการลงเวลาปรับลดจากเวลาที่แท้จริงลง 2 ชั่วโมง เพื่อใช้ต่อสู้ว่าขายไม่เกินเวลาเที่ยงคืน ซึ่งเป็นเวลาสุดท้ายที่กฎหมายกำหนดให้ขายได้

  และวันที่ 22 กรกฎาคม 2566 เวลา 01.30 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้สนธิกำลังเข้าทำการจับกุม เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงร้าน ได้กระจายกำลังจู่โจมเข้าปิดล้อมสถานบริการทั้งสองแห่ง ซึ่งนักเที่ยวซึ่งกำลังเต้นอย่างสนุกสนานและมีนักเที่ยวที่กำลังเสพยาอยู่ภายในร้าน ต่างตกใจวิ่งหนี แต่เจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมทางออกไว้ทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถหลบหนีได้
เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ และแยกอายุนักเที่ยว ซึ่งนักเที่ยวได้ทิ้งยาเสพติดลงเกลื่อนพื้นร้าน ส่วนใหญ่เป็นยาเคตามีนจำนวนหลายซอง
เจ้าหน้าที่พบว่าร้านทั้งสองแห่งไม่มีใบอนุญาตสถานบริการ
ได้ทำการตรวจสอบปัสสาวะของนักเที่ยว พบมีสารเสพติดในปัสสาวะจำนวน 77 ราย แยกเป็นชาย 31 ราย เป็นหญิง 46 ราย
ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจะนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดต่อไป
ทั้งนี้ ยังมีการตรวจสอบพบเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 4 ราย
โดยมีอายุ 17 ปี จำนวน 1 ราย อายุ 18 ปี  จำนวน 1 ราย และ 19 ปี จำนวน 2 ราย

   เจ้าพนักงานปกครองชุดจับกุม ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่เจ้าของร้าน ดังนี้
1.ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
2.จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด
3.จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
4.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่เหมาะสม

โดยมีนายธนวัต วิจิตรจรัสกุล อายุ 30 ปี
แสดงตนเป็นเจ้าของร้านทั้ง 2 แห่ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดจับกุม ชุดจับกุมจึงได้ทำการจับกุม และนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านโป่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในส่วน ของผู้ที่พกพาอาวุธปืนเข้าไปในสถานบริการไฮไลท์ อ้างตนเป็นตำรวจทั้งสองคน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจึงได้ตรวจยึดอาวุธปืนพร้อมกับส่งมอบตัวให้ทาง สภ.บ้านโป่ง ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดจับกุม จะเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พิจารณาสั่งปิดสถานที่ร้านไฮไลท์ บ้านโป่ง และร้านอารีน่า บ้านโป่ง เป็นเวลา 5 ปี ตามคำสั่ง หน.คสช. ที่22/2558 ลว. 22 ก.ค. 2558 ต่อไป

ชมคลิปชุดเข้าปฏิบัติหน้าที่

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง กล่าวว่า  “สถานบริการทั้ง 2 แห่ง เป็นการเปิดสถานบริการในพื้นที่นอกเขตโซนนิ่งให้ตั้งสถานบริการ และไม่มีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด อีกทั้ง ปล่อยปละละเลยให้เด็กและเยาวชนเข้าใช้บริการและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็ก ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และอาวุธปืน ซึ่งถือเป็นการกระทำที่นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนลุ่มหลงในอบายมุข อันขัดกับศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงขอฝากไปยังผู้ประกอบการสถานบริการทั่วประเทศขอให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ โดยประกอบธุรกิจให้อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 22/2558 และคำสั่ง คสช.ที่ 46/2559 ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะนี้ ขอให้ได้แจ้งไปที่ศูนย์ดำรงธรรม ทางหมายเลขโทรศัพท์ 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้งไปยังฝ่ายปกครอง นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เพื่อที่จะได้ร่วมกันสร้างสรรค์สังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งความผาสุข และดำเนินการกับผู้กระทำความผิดให้ได้รับโทษตามกฎหมาย ไม่มีละเว้น

ขอขอบคุณ.ภาพ-ข่าว กรมการปกครอง , เหยี่ยวขาว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

งานมหกรรมเกษตร และกล้วยไม้นครปฐม 66

นายกองเอกพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

นายกองเอกพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้เป็นประธานร่วมประชุมโดยมีสำนักงานเกษตรจังหวัด ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร ชมรม และเครือข่ายเกษตรกรในจังหวัดนครปฐม กำหนดที่จะจัดงานมหกรรมเกษตรและกล้วยไม้นครปฐม 66 ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 15.00 น. – 21.00 น. ณ อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา ตำบลบ่อพลับ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยภายในงานจะประกอบไปด้วยการจัดแสดงกล้วยไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ พืชผล พืชผัก อย่างสวยงามตระการตา พร้อมจุด Check In ถ่ายภาพ อีกทั้งมีการประกวดกล้วยไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ จัดสวนพืชผัก ผลไม้ กิจกรรมฝึกอบรมระยะสั้น ได้แก่ การทำขนมเค้กส้มโอ ชาส้มโอ เครื่องดื่มจากมะพร้าว ขนมจากมะพร้าว การเพาะต้นอ่อนทานตะวัน ผักบุ้ง ถั่วงอก ถั่วลันเตา การปลูกผักสลัดในดิน การทำสลัดผัก กิมจิ ผักดอง การร้อยมาลัยกล้วยไม้ จัดดอกไม้สด จัดกระเช้า จัดสวนถาด กิจกรรมส่งเสริมการขาย และการเชื่อมโยงธุรกิจกลุ่มจากผู้ประกอบการรุ่นใหม่

นอกจากนี้ยังมีการแสดงของชมรม To Be Number One จังหวัดนครปฐม การแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต (ROV) และการแสดงดนตรีพร้อม Influencer ที่มีชื่อเสียงการแสดงดนตรีของผู้ที่บกพร่องทางการได้ยิน ตลอดจนการจำหน่ายสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรนาทีทองในราคาพิเศษ ร้านอาหารฟู้ดทรัค สามารถเลือกซื้อ เลือกกิน เลือกช้อป ทุกสรรพสิ่งในราคาย่อมเยา และการจัดนิทรรศการแสดงผลผลิตทางการเกษตรของอำเภอต่างๆ ทั้ง 7 อำเภอ ที่ผ่านการรับรองในนาม “นครปฐมการันตี” อีกด้วย

สำหรับในวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดนครปฐม ได้จัดพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยมีส่วนราชการ ประชาชนชาวนครปฐม และนักท่องเที่ยว เข้าร่วมพิธี ณ อาคารปฐมสัมมาคาร อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

นครปฐม เปิดแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ “มัจฉานุแลนด์”

เดอะศาลายา เลเซอร์ ปาร์ค อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เปิดแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ “มัจฉานุแลนด์” แลนด์มาร์คสำหรับเด็กและครอบครัว มาที่เดียวเที่ยวครบทุกกิจกรรม

นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ “มัจฉานุแลนด์” ณ โครงการ เดอะศาลายา เลเซอร์ ปาร์ค อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยมี นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นายอำเภอพุทธมณฑล วัฒนธรรมจังหวัด ประชาสัมพันธ์จังหวัด สภาวัฒนธรรมจังหวัด ผอ.ททท.สำนักงานราชบุรี ร่วมเป็นเกียรติในครั้งนี้

นางกนกกร แทนไกรศร กรรมการผู้จัดการ


นางกนกกร แทนไกรศร กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า บริษัท พรพรหม เม็ททอล จำกัด (มหาชน) ได้จัดขึ้น เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คสำหรับเด็กและครอบครัว ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวและกิจกรรม กิน เที่ยว เรียน เล่น พัก อีกทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสร้างสรรค์ประสบการณ์สู่การเรียนรู้ ที่ร้อยเรื่องราวของมัจฉานุ ซึ่งเป็นตัวละครในวรรณคดีรามเกียรติ์ เป็นลูกลิงครึ่งปลา เป็นบุตรของหนุมานและนางสุพรรณมัจฉา โดยแบ่งเป็น 4 โซนท่องเที่ยว ได้แก่

  1. Thai Zone ดินแดนกำเนิดมัจฉานุผ่านการเล่านิทานสไตล์คามิชิไบ พร้อมชมการแสดงศิลปะ 4 สไตล์ และสร้างเสริมความรู้นอกห้องเรียน และกิจกรรม Workshop ภายใต้แนวคิด Low Carbon
  2. Blue Ocean ดินแดนแฟนตาซีใต้ท้องทะเล พบกับเครื่องเล่นบ่อบอลในบรรยากาศใต้ท้องทะเล พร้อม Zipline และกิจกรรมแยกขยะ
  3. Café Forest ดินแดนแห่งป่าเขาลำเนาไพร พบกับเหล่ามัจฉานุผู้ดูแลประจำโซน โดยมีกิจกรรม Workshop อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (ผักตบชวา) และกิจกรรม Body Paint และกิจกรรมเกมส่องสัตว์มหาสนุก
  4. Advanture Island ดินแดนเกาะมหาสมบัติ พบกับ เหล่าโจรสลัดมัจฉานุผู้ดูแลประจำโซน เครื่องเล่นเรือโจรสลัด และชิงช้ายักษ์ (ชิงช้ามัจฉานุ) Matchanu Wheel ค้นหาสมบัติที่โจรสลัด

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถเดินทางมาท่องเที่ยว ณ มัจฉานุแลนด์ ภายในโครงการ เดอะศาลายา เลเซอร์ ปาร์ค ทุกวันอังคาร ถึง วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ถึง 19.00 น. หรือติดต่อสอบถามได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เดอะศาลายา หมายเลขโทรศัพท์ 081 257 6053 และ 090 197 6009 และที่เว็บไซต์ https://www.thesalaya.com/matchanu

ชมคลิป https://drive.google.com/file/d/1C0GsGFR-KqYxVWk3gKGMlR-aTG_FYMJo/view?usp=drivesdk

ข้อมูลข่าว.สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.นครปฐม

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน.

สิ้นหลวงพ่อสมพงษ์ เกจิดังเมืองนครปฐม ต้นตำรับ “ชูชกเพิ่มพูนทรัพย์”

สิ้นหลวงพ่อสมพงษ์ เกจิดังแห่งวัดใหม่ปิ่นเกลียว นครปฐม ต้นตำรับ “ชูชกเพิ่มพูนทรัพย์”

พระครูปราการลักษาภิบาลหรือ “หลวงพ่อสมพงษ์ ธีรธมฺโม “

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 26 มิถุนายน 2566 มีข่าวแจ้งจากไวยาวัจกร วัดใหม่ปิ่นเกลียว อ.เมืองนครปฐม ว่าพระครูปราการลักษาภิบาลหรือ “หลวงพ่อสมพงษ์ ธีรธมฺโม “ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เจ้าอาวาสวัดใหม่ปิ่นเกลียว ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม ได้มรณภาพอย่างสงบ แล้วเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.เศษ ในกุฏิ โดยหลวงพ่อละสังขารลักษณะจำวัตรหลับอย่างสงบนิ่ง สิริอายุ 86 ปี 6เดือน 5 วัน

โดยได้รับแจ้งจากพระสงฆ์ที่คอยดูแลหลวงพ่อสมพงษ์ กล่าวว่า เวลาประมาณ 03..00 น. ได้ลุกขึ้นมาดูหลวงพ่อที่จำวัดบนเตียง เห็นว่าท่านหลับสบายดีปกติ จึงออกไปทำกิจวัตรด้านนอกกุฏิ และกลับเข้ามาเรียกหลวงพ่ออีกรอบ แต่ไม่มีการตอบสนอง จึงแจ้งพระผู้ช่วยเจ้าอาวาส และพระสงฆ์ภายในวัด รวมถึงญาติ หลวงพ่อให้มารับทราบว่าหลวงพ่อละสังขารแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์เวรโรงพยาบาลนครปฐม มาตรวจสอบตามหลักปฏิบัติของกฎหมาย

พระครูปราการลักษาภิบาลหรือ หลวงพ่อสมพงษ์ ธีรธมฺโม ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เจ้าอาวาสวัดใหม่ปิ่นเกลียว เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2479 ชาวตำบลหันคา อ.หันคา จ.ชัยนาท ท่านอุปสมบท เมื่อปี 2499 ที่วัดท่ากฤษณา อ.หันคา จ.ชัยนาท แล้วมาจำพรรษาที่วัดใหม่ปิ่นเกลียว กระทั่งปี 2510 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดใหม่ปิ่นเกลียว (รูปที่8) เมื่อปี 2514 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะอำเภอกำแพงแสน จ.นครปฐม ปี 2552 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม และปี 2557 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม

หลวงพ่อสมพงษ์ เป็นศิษย์พุทธาคมสายหลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง อีกหนึ่งรูปที่หลวงปู่หลิว ให้สร้างเต่า เมื่อปี พ.ศ.2536 มหาพุทธาภิเษก วัตถุมงคลรุ่นเสาร์5 โดยพระเกจิ 64 รูป นั่งปลุกเสก มีหลวงปู่หลิว หลวงปู่ปั่น อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองกระทุ่ม มาร่วมปลุกเสก และหลวงพ่ออวยพร เจ้าอาวาสวัดดอนยายหอม รูปปัจจุบัน แต่ด้วยหลวงพ่อสมพงษ์ ท่านได้สร้างชูชกเพิ่มพูนทรัพย์ ด้วยในวาระเดียวกัน เพื่อไว้แจกในงานฝังลูกนิมิตวัดใหม่ปิ่นเกลียวในปี 2540 และในปีนั้นเอง “ชูชกเพิ่มพูนทรัพย์” หลวงพ่อสมพงษ์ วัดใหม่ปิ่นเกลียว ก็โด่งดังไปทั้งประเทศ เนื่องจากแม่ค้าที่มาขายของในงานปิดทองฝังลูกนิมิต ถูกหวยกว่าล้านบาท เพราะเชื่อว่า”ชูชกเพิ่มพูนทรัพย์ “ ให้ลาภ ตั้งแต่นั้นมา “ชูชกเพิ่มพูนทรัพย์” วัดใหม่ปิ่นเกลียว ก็ติดอันดับ ผู้คนรู้จักหลวงพ่อสมพงษ์ และวัดใหม่ปิ่นเกลียว มากขึ้นจวบจนทุกวันนี้

ชูชกเพิ่มพูนทรัพย์

อบจ.สุพรรณ ประชุมวิชาการ การแพทย์ฉุกเฉินใน อปท.


องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี แถลงข่าวประชุมวิชาการ การแพทย์ฉุกเฉินในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี


ที่ห้องประชุม อบจ.สุพรรณบุรี นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมด้วย ดร.พิเชษฐ์ หนองช้าง รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) นายแพทย์รัฐพล เวทสรณสุธี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกันแถลงข่าวการประชุมวิชาการ การแพทย์ฉุกเฉินในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ระหว่างวันที่ 5- 7ก.ค.2566

โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติการ คณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง นักวิชาการ ผู้สนใจ และบุคลากรขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศประมาณ 2,000 คน เข้าร่วมประชุม

ขอบคุณ ข่าว-ภาพ วัฒนพล มัจฉา สุพรรณบุรี

โยมสีกาแอบนำล็อตเตอรี่เลขมงคลใส่ย่ามผูกโบว์แดงกว่า 400 ใบ ถวาย”หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม”

โยมสีกาแอบนำล็อตเตอรี่เลขมงคลใส่ย่ามผูกโบว์แดงกว่า 400 ใบ ถวาย”หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม”

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม

  เมื่อตอนบ่ายวันที่ 13 มิ.ย.66 ได้รับแจ้งจากศิษย์วัดไผ่ล้อม นครปฐม ว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ซึ่งเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อพูล อัตตรักโข เกจิดังอดีตเจ้าอาวาสที่ละสังขารไปแล้ว ได้จัดงานมุฑิตา ครบรอบอายุวัฒนมงคล ครบ 51 ปี มีสาธุชนและบรรดาศิษยานุศิษย์รวมถึงหัวหน้าส่วนราชการ มาร่วมมุฑิตาอวยพรกันอย่างมากมาย และร่วมทำบุญเพื่อช่วยเหลือสาธารณะกุศลต่างๆ ที่หลวงพี่น้ำฝนได้กำหนดไว้เข้ามูลนิธิหลวงพ่อพูล

คุณเบญจวรรณ ริทเทอร์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
เลขมงคล 51-15

โดยวันงานญาติโยมและศิษย์ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะนำกระเช้าผลไม้ และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพทั่วไป และเงินถวายเข้ามูลนิธิหลวงพ่อพูล เพื่อจัดซื้อเครื่องมือที่ทันสมัยให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลนเครื่องมือในการรักษา หรือมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนยากจน แต่มีโยมสีกาอยู่รายหนึ่งคือ คุณโยมเบญจวรรณ ริทเทอร์ ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หอพัก อาร์ทเม้นท์อยู่ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นหนึ่งในศิษย์ของหลวงพ่อพูล และหลวงพี่น้ำฝน ที่ศรัทธามายาวนานและได้ขอมาเป็นน้องบุญธรรมหลวงพี่น้ำฝน ได้นำล็อตเตอรี่ปีกใหญ่กว่า 400 ฉบับ โดยมีเลขลงท้าย 51 เป็นชุดละ 5 ใบ 10 ใบ 2 ใบ จำนวน  250 ฉบับ เลขลงท้าย 15 อีก50 ฉบับ เลขลงท้าย 12 จำนวน 85 ฉบับ และเลข 111 เป็นเลขชาติกาลปีนี้ครบ 111 ปี 20 ฉบับ และเลขอื่นๆอีก ร่วม 100 ฉบับ ถวายทั้งหมดให้กับหลวงพี่น้ำฝนเนื่องในมุฑิตาจิต ครั้งนี้

    หลวงพี่น้ำฝน ท่านได้นำล็อตเตอรี่ทั้งหมดที่ นางเบญจวรรณ ถวายให้ใส่ในถุงย่ามผูกโบว์อย่างสวยงาม นำออกมาจากถุงมาวางเรียงรายบนโต๊ะให้ดูทั้งหมดพบว่ามีเกินกว่า 400 ใบจริง และส่วนใหญ่ก็เป็นเลขอายุวัฒนะของหลวงพี่น้ำฝนและหลวงพ่อพูลทั้งสิ้น พร้อมกับเผยว่าสิ่งที่โยมเบญจวรรณ นำมาถวายให้นั้นไม่ทราบว่าเป็นอะไร เพราะอยู่ในถุงย่ามอย่างสวยงาม คิดว่าเป็นเงินทำบุญเข้ามูลนิธิหลวงพ่อพูล เพราะโยมเบญจวรรณนั้น ถือเป็นน้องบุญธรรม ชอบทำบุญช่วยเหลือคนยากจน เครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่มอบให้ ร.พ.ท่านก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือ เมื่อเปิดถุงย่ามออกถึงได้รู้ว่าเป็นล็อตเตอรี่ทั้งหมด ยังนึกว่าคุณโยมเบญจวรรณหยิบถุงผิดมาให้หรือป่าว จึงโทรไปสอบถามปรากฏว่าตั้งใจถวายหลวงพี่น้ำฝน และยังบอกว่าขอให้ได้โชคลาภก้อนโตจะได้นำมาช่วยเหลือสาธารณะสงเคราะห์และซื้อเครื่องมือแพทย์

  หลวงพี่น้ำฝนกล่าวว่า สำหรับเลขที่โยมเบญจวรรณ ซื้อมาถวายนั้น เป็นเลขมงคล ได้แก่เลข 51 คือเลขอายุของอาตมาอายุครบ 51 ส่วนเลข 15 เป็นเลขปีเกิด 2515 เลข 12 คือเลขวันเกิด ส่วนเลข 111 นั้นเป็นอายุเกิดจนมรณภาพของหลวงพ่อพูล ซึ่งปีนี้ครบ 111 ปี  หลวงพี่น้ำฝนยังพูดทิ้งท้ายเตือนสติเหล่าบรรดานักเสี่ยงโชคทั้งหลายด้วยว่า อาจมาอาจจะได้โชคลาภจากล็อตเตอรี่ครั้งนี้ก็ได้ เหมือนมีคำพังเพยว่า คนซื้อไม่ถูก คนไม่ได้ซื้อถูก แต่ทั้งหลายทั้งปวง หากได้โชคจริงก็จะทำความตั้งใจนำไปจัดซื้อเครื่องมือแพทย์และช่วยเหลือคนยากจน ตามที่คุณโยมเบญจวรรณ ตั้งใจ สำหรับนักเสี่ยงโชคก็อย่างมงายมาก พอหอมปากหอมคออย่าให้ครอบครัวเดือดร้อน สิ่งที่ดีที่สุดคือต้องทำงานหาอาชีพ ไม่งมงา

ศิษย์แห่ร่วมงานครบ 51 ปี หลวงพี่น้ำฝน

ศิษย์ร่วมอายุวัฒนมงคล 51 ปี หลวงพี่น้ำฝน จัดบุญใหญ่
มอบเครื่องถ่ายภาพจอประสาทตา ร.พ.นครปฐม 1.2 ล้านบาท

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม

ศิษยานุศิษย์ ร่วมพิธีถวายมุฑิตาสักการะเนื่องในโอกาสอายุวัฒนมงคล อายุ 51 ปี พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม โดยปีนี้ชวนศิษย์ร่วมกันทำบุญมอบเครื่องถ่ายภาพจอประสาทตาแบบดิจิตอล มูลค่า 1.2 ล้านบาท และเปิดตัวธนาคารเตียงผู้ป่วยและรถวีลแชร์ สำหรับช่วยเหลือประชาชนที่ยากไร้เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับญาติโยม

  เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 66 ที่ศาลาหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม คณะสงฆ์และศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในโอกาสอายุวัฒนมงคล อายุ 51 ปี พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม โดยมีคณะสงฆ์ และศิษยานุศิษย์ ที่มีความศรัทธาเข้าร่วมในพิธีถวายมุฑิตาสักการะโดยพร้อมเพรียงกัน

โดยช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 09.00 น. หลวงพี่น้ำฝน ได้นำศิษยานุศิษย์ทำพิธีมอบเครื่องถ่ายภาพจอประสาทตาแบบดิจิตอล ยี่ห้อ Nikon retinastation มูลค่า 1,200,000 บาทให้กับโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม  และได้เปิดโครงการเตียงสำหรับผู้ป่วยและรถวีลแชร์ให้กับผู้ป่วยติดเตียง สำหรับประชาชนที่ยากไร้ โดยมี นายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม เป็นตัวแทนรับมอบ
    จากนั้นในเวลา 10.00 น.ศิษยานุศิษย์ได้จัดพิธีร่วมถวายมุฑิตาสักการะ อายุวัฒนมงคล 51 ปี หลวงพี่น้ำฝน โดยบรรยากาศมีคลื่นศิษยานุศิษย์ หลายคนที่มีชื่อเสียงในสังคม พร้อมข้าราชการ นักธุรกิจ และคนในวงการบันเทิง ได้ทยอยนำดอกไม้มาถวายตลอดทั้งวัน

   หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า สำหรับปีนี้อาตมาอายุ 51 ปี ก็ยังคงยืนยันจะทำหน้าที่ช่วยเหลือสังคมเช่นเดิม ในปีนี้ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลศูนย์นครปฐมว่า จะมีการจัดตั้งศูนย์รักษาตาที่วัดไผ่ล้อม แต่ยังขาดอุปกรณ์ที่สำคัญเป็นเครื่องถ่ายภาพจอประสาทตาแบบดิจิตอล ซึ่งมีมูลค่าสูง จึงได้หารือกับกองทัพธรรมศิษย์หลวงพี่น้ำฝน นำโดยคุณชาติ สาลีพัฒนา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ คุณเบญจวรรณ ริทเทอร์ และอีกหลายๆ ท่านได้รวบรวมปัจจัยจัดซื้อมามอบให้เพื่อที่จะได้ใช้ดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา ซึ่งทางวัดไผ่ล้อมก็ยังสนับสนุนกิจกรรมทางการแพทย์ของโรงพยาบาลนครปฐมอย่างต่อเนื่อง และอาตมาได้ทำทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นคนที่ยังอยู่หรือคนที่จากไปแล้ว นี่คือความตั้งใจที่จะทำต่อไปเรื่อยๆ

ปีนี้อาตมาเห็นว่าหลายครอบครัวมีผู้ป่วยติดเตียงในครัวเรือนมากขึ้น สิ่งที่เห็นว่าขาดแคลน คือเตียงสำหรับผู้ป่วยและรถวีลแชร์ ซึ่งวันนี้ถือว่าเป็นฤกษ์ดีที่ทางวัดไผ่ล้อมจะได้เริ่มทำธนาคารเตียงและรถเข็น เพื่อนำไปมอบให้ผู้ที่ยากไร้ซึ่งไม่มีกำลังทรัพย์ ได้หยิบยืมไปใช้ หากเมื่อใดไม่มีความจำเป็นก็จะนำกลับไปหมุนเวียนที่รอรับการยืมไปใช้งานต่อไป ซึ่งจะเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับญาติโยมที่ยังต้องการความช่วยเหลือจากสังคมอยู่ นี่คืออีก 1 โครงการที่จะเริ่มต้นด้วย” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย

ขจร วัตรเอก KEY 8 NEWS รายงาน

สมาชิกวุฒิสภา บรรยายพิเศษ เรื่อง “สถาบันพระมหากษัตริย์กับการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน”

สมาชิกวุฒิสภา บรรยายพิเศษ เรื่อง “สถาบันพระมหากษัตริย์กับการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน” กิจกรรมบรรยายเสริมหลักสูตร นิสิตระดับปริญญาเอก และปริญญาโท วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล สมาชิกวุฒิสภา

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2566 ที่ห้องประชุม อาคารเรียนรวมพระเทพศาสนาภิบาล วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล สมาชิกวุฒิสภา บรรยายพิเศษ เรื่อง “สถาบันพระมหากษัตริย์กับการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน” กิจกรรมบรรยายเสริมหลักสูตร นิสิตระดับปริญญาเอก และปริญญาโท สาขาวิชาการพัฒนาสังคมและสาขาวิชาพระพุทธศาสนา

โอกาสนี้ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล กล่าวในความตอนหนึ่งว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย ทุกพระองค์จะทรงยึดมั่นอยู่ในหลักทศพิธราชธรรม, หลักศีลธรรม, ระเบียบกฎหมาย, ภูมิสังคม, การมีส่วนร่วม, เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา, ยึดประโยชน์ของสังคมส่วนรวม, สร้างเสริมความรู้รักสามัคคีของผู้คนในชาติ และทรงตั้งพระราชหฤทัยในการประพฤติปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุขแก่ราษฎร และประเทศชาติมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมั่นคง

สำหรับวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้เปิดการเรียนการสอนในหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา สาขาวิชาการพัฒนาสังคม ทั้งระดับปริญญาโทและปริญญาเอก เพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพพระสงฆ์และประชาชนทั่วไป ให้มีความรู้ในศาสตร์ด้านพระพุทธศาสนาและการพัฒนาสังคม สามารถนำองค์ความรู้ทางพระพุทธศาสนามาพัฒนาตนและพัฒนาสังคมได้อย่างมีคุณภาพ ตามปรัชญาของมหาวิทยาลัยที่ว่า “จัดการศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ พัฒนาจิตใจและสังคม”

ชมคลิป https://drive.google.com/file/d/19DFW8kZryJGtgUldHWV1s6fWO-BFX5mp/view?usp=drivesdk


ขอบคุณ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม

ขจร วัตรเอก KEY 8 NEWS รายงาน

วัดใหม่สุคนธารามจัดงาน ๑๓๐ ปี อัฏมีบูชา

วัดใหม่สุคนธาราม ตำบลวัดละมุด อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม จัดงานประเพณีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้าจำลอง ๑๓๐ ปี อัฏมีบูชา

พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง
นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๖ เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ วัดใหม่สุคนธาราม ตำบลวัดละมุด อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม. นางฐิติรัตน์ เรืองสังข์ วัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยนางสาวชนิดา พรหมผลิน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ และนางสาวพิทุอร จำเล นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ ร่วมงานประเพณีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้าจำลอง ๑๓๐ ปี อัฏมีบูชา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ หนึ่งเดียวในภาคกลาง ณ วัดใหม่สุคนธาราม

โดยมี พระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยพระเถรานุเถระ คณะสงฆ์ นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม นายอารุช เอมโอฐ นายอำเภอนครชัยศรี นายอาทร สูญจันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวัดละมุด หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หน่วยงานภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมงานประเพณีดังกล่าว


            ภายในงานประเพณีในวันนี้ประกอบด้วยขบวนแห่พุทธประวัติและขบวนคติธรรมอันยิ่งใหญ่ และพิธีอัญเชิญพระบรมศพจำลองเวียนทักษิณาวัตรรอบมณฑลพิธีจำลอง และประธานฝ่ายสงฆ์ได้ประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้าจำลอง ณ จิตกาธาน โดยมีพระภิกษุ แม่ขาวผู้ถือศีล หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนที่นับถือศรัทธาในองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า เข้าร่วมวางดอกไม้กันอย่างเนืองแน่น

ขอขอบคุณภาพ-ข่าว สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม
        

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

แรงงานนครปฐม จัดโครงการรวมพลคนฝึก Gig

สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 16 นครปฐม จัดโครงการรวมพลคนฝึก Gig (มอบชุดเครื่องมือทำมาหากิน) ภายใต้โครงการพัฒนาทักษะเฉพาะของแรงงานอิสระยุค 4.0 ประจำปีงบประมาณ 2566

นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

วันที่ 8 มิถุนายน 2566 ที่อาคารอเนกประสงค์ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 16 นครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดโครงการรวมพลคนฝึก Gig (มอบชุดเครื่องมือทำมาหากิน) ภายใต้โครงการพัฒนาทักษะเฉพาะของแรงงานอิสระยุค 4.0 ประจำปีงบประมาณ 2566 ให้แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรม 4 รุ่น จำนวน 86 คน ได้แก่ สาขาการออกแบบผลิตภัณฑ์จากผ้า จำนวน 20 คน สาขาการประกอบขนมอบ จำนวน 45 คน (2 รุ่น) สาขาการปูกระเบื้องเคลือบ จำนวน 21 คน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้ผ่านการอบรมร่วมโครงการในครั้งนี้


นางสาวศิริธร เลาหะวิไลย ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 16 นครปฐม กล่าวว่า ยุทธศาสตร์สำคัญภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เน้นในเรื่องการพัฒนาสู่ “ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ด้วยการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทย ให้สามารถรับมือกับโอกาสและภัยคุกคาม ซึ่งประเทศไทยกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานทั้งเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ เพื่อก้าวข้ามการพัฒนาเศรษฐกิจไทยสู่ประเทศที่มีรายได้สูง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานในฐานะหน่วยงานภาครัฐ จึงได้จัดทำ “โครงการพัฒนาทักษะเฉพาะของแรงงาน 4.0 (Gig Worker) เพื่อมอบเครื่องมือทำมาหากินที่สอดคล้องกับสาขาที่ฝึกให้แก่ผู้ผ่านการฝึกอบรม ซึ่งจะทำให้ผู้ผ่านการฝึกอบรมนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ ต่อไป

ชมคลิป. https://drive.google.com/file/d/1SY0R6Mc5RrakNXNT3r4s9jeE0vpuzITA/view?usp=drivesdk


สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

สองมหาวิทยาลัย ร่วมเป็นเจ้าภาพงานวันสหกิจศึกษาบูรณาการกับการทำงาน (CWIE DAY) ครั้งที่ 13

มทร.รัตนโกสินทร์ ร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และมหาวิทยาลัยสยาม ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดพิธีเปิดงานวันสหกิจศึกษาบูรณาการกับการทำงาน (CWIE DAY) ครั้งที่ 13 CWIE พัฒนากำลังคนสมรรถนะสูง เชื่อมโยง BCG สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี พ.ศ.2566

วันที่ 6 มิถุนายน 2566 ที่หอประชุมบัวสวรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา จังหวัดนครปฐม นายสัมพันธ์ เย็นสำราญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดงานวันสหกิจศึกษาบูรณาการกับการทำงาน (CWIE DAY) ครั้งที่ 13 CWIE พัฒนากำลังคนสมรรถนะสูง เชื่อมโยง BCG สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี พ.ศ.2566

   โดยมีนายชยชัย แสงอินทร์  รองผู้ว่าจังหวัดนครปฐม , ดร.พรชัย มงคลวนิช อธิการบดี มหาวิทยาลัยสยาม และประธานเครือข่าย CWIE ภาคกลางตอนล่าง และรศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี กล่าวต้อนรับ อีกทั้ง ดร.กิตวิชัย ไชยพรศิริ นายอำเภอพุทธมณฑล คณาจารย์ นักศึกษาร่วมเป็นเกียรติในพิธี

  ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ปอว.) กล่าวว่า  มทร.รัตนโกสินทร์ ร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และมหาวิทยาลัยสยาม ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดพิธีเปิดงานวันสหกิจศึกษาบูรณาการกับการทำงาน (CWIE DAY) ครั้งที่ 13 CWIE พัฒนากำลังคนสมรรถนะสูง เชื่อมโยง BCG สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี พ.ศ.2566 ซึ่งได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน นายกสมาคมสหกิจศึกษาไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ความท้าทายและโอกาสของสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG” Challenges and Opportunities for CWIE to Drive BCG Economy” แก่ผู้เข้าร่วมงาน



   ซึ่งทางมหาวิทยาลัย มีความมุ่งมั่นในการผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติ และมีหลักสูตรเฉพาะทางด้านสหกิจศึกษา ร่วมกับสถานประกอบการโดยการส่งนักศึกษาเข้าเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานก่อนที่จะสำเร็จการศึกษาจริง จัดให้มีการบูรณาการการศึกษาให้ร่วมกับการทำงานที่มากขึ้น โดยมุ่งพัฒนากำลังคนเพื่อตอบสนองการพัฒนาประเทศ ให้นักศึกษาฝึกประสบการณ์ทำงานร่วมกับด้านเอกชนและจะต้องนำองค์ความรู้ที่ได้รับ มาต่อยอดตามความหลากหลายในด้านต่าง ๆ ของประเทศอีกด้วย ทั้งนี้งานวันสหกิจศึกษาบูรณาการกับการทำงาน (CWIE DAY) ครั้งที่ 13 ประจำปี พ.ศ. 2566 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 -7 มิถุนายน 2566 ณ มทร.รัตนโกสินทร์ ศาลายา จ.นครปฐม

ชมคลิป https://drive.google.com/file/d/1LRTuTdYPJNGNieUoz1RqdXRxQmspSHLH/view?usp=drivesdk

ขอบคุณ สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

หลวงพี่น้ำฝน เชิญร่วมบุญใหญ่ช่วยผู้ป่วยในโรงพยาบาลฯ

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม เชิญร่วมบุญใหญ่ช่วยเหลือผู้ป่วยในโรงพยาบาล เนื่องในวันครบอายุวัฒนมงคล 51 ปี วันจันทร์ ที่ 12 มิถุนายน 2566

ได้รับแจ้งจากลูกศิษย์พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ว่าวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2566 นี้ ทางลูกศิษย์ที่เคารพนับถือในองค์หลวงพี่น้ำฝน ได้ร่วมกับหลวงพี่น้ำฝนจะจัดงานทำบุญใหญ่โดยรวมกับศิษยานุศิษย์ร่วมกันถวายมุทิตาสักการะ วันครบอายุวัฒนมงคล 51 ปี

โดยวันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2566 เวลา 10.00 น. ณ ศาลาหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม
ซึ่งมีพิธีทำบุญอายุวัฒนมงคล พร้อมถวายจตุปัจจัยไทยธรรม และร่วมกันถวายภัตตาหารเพล แด่พระสงฆ์


ต่อจากนั้นหลวงพี่น้ำฝน จะมอบเครื่องถ่ายภาพจอประสาทตาแบบดิจิตอลยี่ห้อ Nikon retinastation ราคา1,200,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม
โดยคณะศิษยานุศิษย์หลวงพี่น้ำฝน ที่ร่วมบุญ นำโดยนายสมชาติ (นายเงี๊ยบ)สาลีพัฒนา ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ

และเวลา 09.00 น.  คุณเบญจวรรณ ริทเทอร์  (โยมน้องสาวหลวงพี่น้ำฝน) จะมอบเตียงผู้ป่วย และรถวิวแชร์ให้แก่ผู้ป่วยติดเตียง

กล่าวสำหรับอัตตะโนประวัติ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นพระนักพัฒนาในด้านสาธารณสงเคราะห์ และศึกษาสงเคราะห์ เป็นเพชรเม็ดงาม ทายาทศิษย์เอกหลวงพ่อพูล ด้วยวัยวุฒิ 51 ปี สร้างผลงานไว้มากมาย มีนัยเป็นรูปธรรมโดดเด่นอยู่ในบวรพุทธศาสนา เป็นทั้งพระเกจิ และ พระนักพัฒนา ใช้เวลา 30 ปีในเพศบรรพชิต


บนเส้นทางสายธรรมหลวงพี่น้ำฝน อุปสมบท เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2536 ณ พัทธสีมาวัดไผ่ล้อม โดยพระพิพัฒน์วิริยาภรณ์ หรือ หลวงพ่อผูก วัดพระปฐมเจดีย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา กิตติจิตโต เริ่มพรรษาแรกเรียนสำเร็จวิชา ถักสายสิญจน์ ถวิลหาความ ตั้งใจในเพศบรรพชิต ยึดติดรับใช้หลวงพ่อพูล ครูองค์แรกและองค์สุดท้าย ที่ให้วิชาเริ่มต้นสนองงานด้วยความตั้งใจ ในฐานะศิษย์เอก โดยเริ่มเรียนรู้วิชาการตั้งศาลพระภูมิ วิชาเขียนผ้ายันต์เสาเอก วิชาทำรัก-ยม, วิชาทำกุมารทองสมบัติ จากเนื้อดิน 7 ป่าช้า วิชาลงนะหน้าทอง ตำรับจันทร์มหาเสน่ห์, วิชาเจิมรถแคล้วคลาดปลอดภัย
วิชาเจิมแป้งนะเมตตา วิชาสวดสะเดาะเคราะห์เสริมบารมี
วิชาขมากรรม ถอนคำสาบาน ถอนคำสาปแช่ง

หลวงพี่น้ำฝน เรียนจนจบครบถ้วนกระบวนความ รอบด้านครบวงจร จวบจนปีพ.ศ. 2539 หลวงพ่อ
พูล ได้ทำพิธีครอบครูให้ หลวงพี่น้ำฝน อย่างเป็นทางการ
เพื่อสานต่อตำนานพระเวทย์ พร้อมทั้งมอบหมายทดสอบ
งานใหญ่ให้สร้างอุโบสถเฉลิมพระเกียรติ สำเร็จ
สมปรารถนา เมื่อวันเวลาผันผ่าน สามารถพิสูจน์ได้ หลัง
จากครอบครูแล้ว หลวงพี่น้ำฝน มุมานะเรียนวิชาเขียน
อักขระคาถาเลขยันต์ ทำให้สามารถเขียนยันต์ได้หลาก
หลาย กำหนดจิตพิจารณา ลงอักขระท่องมนต์คาถา ตาม
ที่หลวงพ่อพูล ได้ถ่ายทอดวิชา สัมฤทธิ์ผล ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

สมุทรสาคร  ผบช.ภ.7 แถลงจับ 5 เมียนมาอุ้มฆ่าเพื่อนร่วมชาติทิ้งน้ำ

สมุทรสาคร  ผบช.ภ.7แถลงรวบแก๊งแรงงานต่างชาติ อุ้มฆ่าเพื่อนร่วมชาติทิ้งน้ำ

เมื่อเวลา16.30 น.ของวันที่ 5 มิถุนายน 2566 ที่สภ.กระทุ่มแบน พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7  พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7  พล.ต.ต.ดร.จักษ์ จิตรธรรม ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร   พ.ต.อ.เสรีฐกาญจน์ จันทร์ด้วง ผกก.สภ.กระทุ่มแบน พ.ต.อ.ยอดชาย แก้วเรือง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภ.จว.สมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายซายาอ่อง อายุ 30 ปี นายหม่องเมนเทค อายุ 24 ปี นายโซมินตู อายุ 33 ปี นายชิดอ่อง อายุ 25 ปี และนาย นาย เล่น อายุ 24 ปี ซึ่งทั้งหมดสัญชาติเมียนมา  พร้อมของกลางรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าสีทอง หมายเลขทะเบียน กค.-7549 สมุทรสาคร ,รถยนต์กระบะยี่ห้อฟอร์ดสีเทา หมายเลขทะเบียน บษ 5940 กาญจนบุรี พร้อมมีดปลายแหลมยาวประมาณ 30 เซนติเมตร 1 อัน

โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่าปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธปืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถึงแก่ความตาย ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกัน ตั้งแต่สองคนขึ้นไป

   ซึ่งพฤติการณ์ก่อนจับกุมเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ของวันที่ 2 มิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน รับแจ้งเหตุมีชายฉกรรจ์บุกอุ้มแรงงานพม่า บริเวณห้องเช่าตลาดนัดคุณนาย ม.1 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงเร่งตรวจสอบจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ามีกลุ่มชาวต่างด้าวจำนวน 5 คน ได้บุกเข้ามาจับตัวนายมิว อ่อง อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา  ซึ่งกำลังนอนพักอยู่ ออกไปจากที่เกิดเหตุ พร้อมกับนำรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าสีทอง หมายเลขทะเบียน กค.-7549 สมุทรสาคร ของนายยมิว อ่อง ขับหลบหนีไปด้วย

จากนั้นเวลาประมาณ 09.57 น.ของวันที่ 2 มิถุนายน 2566 ทางสภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งพบศพลอยน้ำ บริเวณลำรางสาธารณะ ม.4 ต.บางจะเกร็ง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม  จึงเข้าตรวจสอบพบศพชายไม่ทราบชื่อ มีบาดแผลฉีกขาดที่คอด้านหน้า หลอดลมขาด แผลแตกเหนือคิ้วขวา และเหนือริมฝีปากขวา ตรวจสอบพบคราบเลือดจำนวนมากริมคันดินใกล้ศพ จากการตรวจสอบพบผู้เสียชีวิตคือนายมิว อ่อง อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา  ที่ถูกกลุ่มชาวต่างด้าวจำนวน 5 คน จับตัวมาจากพื้นที่สภ.กระทุ่มแบน จึงได้บูรณาการทำงานร่วมกัน เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุ  จนกระทั่งเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ติดตามจับกุมนายซายาอ่อง อายุ 30 ปี พร้อมพวกอีก4คน ได้บริเวณบ้านพักไม่มีเลขที่  บ้านปิล็อกคี่ ม.4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี จากนั้นจึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยทางด้านนายวันชัย วนทอง  ล่ามภาษา บอกว่า จากการสอบถามนายชิด อ่อง  ผู้ร่วมก่อเหตุบอกว่าพวกเขาเจ็บช้ำใจเรื่องนายหน้าเก็บเงินแล้วไม่เอางานให้ และผู้ตายได้เอาน้องสาวของตนไปกระทำชำเราก็เลยเจ็บใจ และก็มีเรื่องแรงงานบางส่วน พร้อมกับรับสารภาพว่าได้ร่วมกันฆ่านายยมิว อ่อง  

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7


    ทางด้าน พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า จาการสอบสวนแก็งค์อุ้มฆ่าเพื่อนร่วมชาติชาวเมียนมาได้ให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันอุ้มนายมิว อ่อง ผู้เสียชีวิต ไปจากพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบนจริง เหตุเพราะความแค้นใจที่ผู้ตายเคยข่มขืนภรรยาของ 1 ในผู้ต้องหา จึงได้จับตัวขึ้นรถแล้วทำร้ายร่างกายไปตลอดทางจนสลบในรถ จากนั้นหนึ่งในผู้ต้องหาได้ลงมือฆ่าปาดคอนายมิว แล้วทิ้งศพในบ่อกุ้งที่จังหวัดสมุทรสงคราม ส่วนรถของผู้เสียชีวิตก็เอาไปทิ้งไว้ในจังหวัดเพชรบุรีพล.ต.ท.ธนายุตม์ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า สำหรับประเด็นของการฆาตกรรมโหดนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ทิ้งข้อสงสัยอื่นๆ  ทั้งเรื่องชู้สาว และขัดผลประโยชน์กันเองในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ โดยจากการตรวจสอบประวัติเบื้องต้นของกลุ่มคนเหล่านี้ พบว่าเคยมีบางคนเป็นถึงอดีตนักฆ่ากลุ่ม “ก๊อตอามี่” ที่มีความชำนาญในการใช้อาวุธ ฆ่าคนได้แบบเด็ดขาด อีกทั้งยังมีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อสังคมด้วยการตั้งแก็งค์มาเฟียต่างด้าว เพื่อหวังขยายอิทธิ และอำนาจในการเรียกรับผลประโยชน์จากคนกลุ่มเดียวกัน จึงต้องเร่งปราบปรามให้สิ้นซาก โดยจะได้ขยายผลต่อไป ส่วนผู้ต้องหานั้นพบว่ายังมีผู้ที่หลบหนีอีก  4 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด

ขอบคุณภาพ-ข่าว ทีมหมอข่าวสมุทรสาคร 

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

ยะลา.โรงเรียนสังวาลย์วิท 5 จัดกิจกรรมเกี่ยวข้าวพันธุ์ช่อขิง กับชาวสังวาลย์ 

โรงเรียนสังวาลย์วิท 5 อ.เบตง จ.ยะลา จัดกิจกรรมเกี่ยวข้าวพันธุ์ช่อขิง กับชาวสังวาลย์  ปลุกวัยใสรู้คุณค่าข้าวทุกเมล็ด สัมผัสชีวิตชาวนารวมทั้งยังได้ผลผลิตมาเป็นอาหารกลางวันให้นักเรียน

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.66 ที่แปลงนาสาธิตศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงโรงเรียนสังวาลย์วิท 5 ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง เป็นประธานเปิดกิจกรรมเกี่ยวข้าวกับชาวสังวาลย์ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 ตามโครงการการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาโรงเรียนสังวาลย์วิท 5 เพื่อให้นักเรียนได้เห็นคุณค่าและตระหนักถึงความสำคัญของข้าว เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักเรียน และนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอน 

และสร้างโอกาสการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การปลูกข้าวทำนาดำ ระหว่างผู้บริหาร ครู นักเรียนผู้ปกครองและชุมชน  จนกระทั่งการเก็บเกี่ยงผลผลิต ซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาของชาวนา โดยมี ร.ต.อ.สิทธิพงศ์ เหมกุสุมา นายก อบต.ยะรม นางสาวคาดียะห์ อามานะกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนสังวาลย์วิท 5  หัวหน้าส่วนราชการ ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้ปกครอง คณะครู นักเรียน เข้าร่วม


นางสาวคาดียะห์ อามานะกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนสังวาลย์วิท 5  กล่าวว่า โรงเรียนสังวาลย์วิท 5 เป็นโรงเรียนในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (โรงเรียนสมเด็จย่า) ซึ่งเป็นโรงเรียนในโครงการพระราชดำริ และเป็นโรงเรียนคุณภาพของชุมชน ประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลาเขต 3 ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ สนับสนุน ส่งเสริมให้คณะครูและบุคลากร รวมถึงนักเรียน ได้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอน

ได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติเพื่อพัฒนาตนเอง เป็น “ศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา” ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่า คณะครูได้มีวิธีการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ให้เป็นรูปธรรม อยู่หลากหลายรูปแบบ ประกอบด้วย การเลี้ยงปลาในบ่อดิน การปลูกพืชผักสวนครัว การเพาะเห็ดนางฟ้า การทำปุ๋ยหมัก ปุ้ยชีวภาพ การปลูกข้าว ทำนาดำ ในแปลงนาสาธิต บนพื้นที่ประมาณ 200 ตารางวา รวมถึงการปลูกผลไม้ตามฤดูกาล ได้แก่ เงาะ มังคุด ทุเรียน ลองกอง กล้วย ขนุน กระท้อน มะยงชิด มะละกอ และต้นอ้อย บนพื้นที่ของโรงเรียนรวม 24 ไร่ 3 งาน ส่งผลให้ผู้บริหาร ครู และนักเรียนสามารถเข้าถึงหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และนำมาเป็นวิถีปฏิบัติ มีทักษะการดำรงชีวิต (living skil) และทักษะชีวิตหรือ life skill ได้อย่างแท้จริง


ผู้อำนวยการโรงเรียนสังวาลย์วิท 5  กล่าวอีกว่า ในส่วนของแปลงนาสาธิตของโรงเรียนสังวาลย์วิท 5  จัดทำขึ้นเพื่อให้นักเรียนในพื้นที่ อ.เบตง ได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวนา เนื่องจาก อ.เบตง ไม่มีแปลงข้าว มีแต่สวนยางพาราและสวนผลไม้ต่างๆ ซึ่งตนอยากให้นักเรียนได้เห็นนอกจากในหนังสือเรียน ว่ากว่าจะมาเป็นข้าวที่เราได้กินกัน มีทีมา ที่ไปอย่างไร นักเรียนจะได้ทราบถึงประโยชน์และมีคุณค่าของข้าวต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ได้เรียนรู้การปลูกข้าวดำนาจากครูภูมิปัญญาท้องถิ่นและปราชญ์ชาวบ้าน สามารถทราบถึงขั้นตอนในการสีข้าวและเก็บไว้เพื่อใช้บริโภค สำหรับเป็นอาหารกลางวันให้กับนักเรียน


นางสาวคาดียะห์ กล่าวเพื่มเติมว่า  สำหรับข้าวที่นำมาปลูกในแปลงนาสาธิตศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง  ทางโรงเรียนสังวาลย์วิท 5  ได้รับการการสนับสนุนเมล็ดข้าวพันธุ์ช่อขิง จากผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกระอาน อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เพื่อใช้เป็นต้นกล้าในการเพาะปลูกข้าวในครั้งนี้ โดยมีนางละออ ฉีดเสน ปราชญ์ชาวบ้านมาร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้กับนักเรียน ซึ่งข้าวช่อขิงเป็นพันธุ์ข้าวพื้นเมืองของอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ข้าวชนิดนี้ได้หายไปจากท้องถิ่นเป็นเวลานานทีเดียว เพราะเด็กรุ่นใหม่ไม่รู้จักพันธุ์ข้าวชนิดนี้แล้ว เว้นแต่คนแก่ในท้องถิ่น ลักษณะของข้าวเมื่อสีออกมาแล้วจะมีสีแดงคล้าย ๆข้าวสังหยด  มีคุณค่าทางธาตุอาหารสูงกว่าข้าวหอมมะลิหลายเท่าตัว  เป็นข้าวเกษตรอินทรีย์ 100% เป็นพันธุ์ข้าวดั้งเดิม การสีก็สีข้าวแบบข้าวกล้อง เมื่อหุงออกมาแล้วจะมีกลิ่นหอมเป็นลักษณะเฉพาะตัว

ชมคลิป https://drive.google.com/file/d/12IWo9C71VSuB4PeRmXvJM2sFEvNDqf8h/view?usp=drivesdk


ขอบคุณ.ภาพ-ข่าว เจษฎา สิริโยทัย จ.ยะลา

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

รองนายก อบจ. นครปฐม พร้อมคณะร่วมกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2566

รองนายก อบจ. พร้อมด้วย สมาชิกสภาฯ หัวหน้าส่วนราชการ และพนักงาน อบจ.นครปฐม ได้ร่วมกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2566

เมื่อวันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน 2566 นายรัฐการ พรรณพัฒน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย สมาชิกสภาจังหวัดทุกเขต และหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมพนักงาน องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม

ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2566 ณ สถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่นอุปถัมภ์) เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ให้มีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นและเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนอีกทางหนึ่ง

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้จำหน่ายชุดสังฆทานฯ

เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม เพื่อให้คำแนะนำจัดทำสลากสินค้าถูกต้องตามกฎหมาย

วันที่ 1 มิถุนายน 2566 นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วย นายพัสกร ทัพมงคล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก ร่วมกับจังหวัดนครปฐม คณะทำงานตรวจสอบฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม ที่บริษัท มาลัยรัก จำกัด ตำบลกระทุ่มล้ม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

เพื่อตรวจสอบแนะนำให้ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมจัดทำฉลากสินค้าประเภทชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด อันเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับข้อที่ถูกต้อง และเพียงพอต่อการตัดสินใจซื้อชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมไปถวายภิกษุสงฆ์ เพื่อทำบุญเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล ตลอดจนเป็นการเฝ้าระวังการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค ประกอบกับช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่จะมาถึงนี้ คือวันวิสาขบูชา ซึ่งจะมีประชาชนผู้มีจิตศรัทธา มีกุศลเจตนาในการทำบุญ จะซื้อสินค้าชุดสังฆทานหรือชุดไทยธรรมนำไปถวายภิกษุสงฆ์เพื่อทำบุญเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัว


ทั้งนี้ หากร้านค้าขายชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่การแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีเป็นผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจ ในวันนี้ พบว่า ผู้ประกอบธุรกิจได้ดำเนินการจัดทำฉลากชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมถูกต้องครบถ้วนตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ 23 (พ.ศ. 2550)เรื่อง ให้ชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก ทั้งนี้ ในส่วนภูมิภาค สคบ.จังหวัดทุกจังหวัด จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมในแต่ละพื้นที่ของจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อกำชับให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัดด้วย

ชมคลิป https://drive.google.com/file/d/1ASWIx2wvMHtxFEbaqnCc3AvFV4B8lLC4/view?usp=drivesdk

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม /ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม ร่วมกับภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 4 จังหวัดราชบุรี จัดโครงการรับบริจาคโลหิต เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระสังฆราช ฯ

เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม ร่วมกับภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 4 จังหวัดราชบุรี จัดโครงการรับบริจาคโลหิต เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ที่ห้องประชุม ชั้น 2 สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายพัฒนพงษ์ สร้อยอินทรากุล ปลัดจังหวัดนครปฐม/เลขานุการเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม นางวรณัน สวนทอง นางกัญจนา สร้อยอินทรากุล รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม และคณะกรรมการ/สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ร่วมกิจกรรมและให้กำลังใจผู้ที่มาบริจาคโลหิต โดยมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ทหาร ตำรวจ และภาคเอกชน เดินทางมาบริจาคโลหิต ดวงตาและอวัยวะเป็นจำนวนมาก


ซึ่งจังหวัดนครปฐม เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม ร่วมกับภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 4 จังหวัดราชบุรี จัดโครงการรับบริจาคโลหิต เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก อีกทั้งช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในยามที่โลหิตขาดแคลน


        ทั้งนี้ เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม ได้มอบชุดของขวัญ และกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม นำผัดขี้เมามาร่วมมอบให้กับผู้ที่มาบริจาคโลหิตทุกราย อีกด้วย ซึ่งมีผู้มาลงทะเบียน จำนวน 238 ราย ผ่านการคัดกรองร่วมบริจาคโลหิต จำนวน 182 ราย / 182 ยูนิต ดวงตา 1 ราย และอวัยวะ 1 ราย

ชมคลิป https://drive.google.com/file/d/1dPz58IPAVwbutKGPc-C5BqO1mEGUSQAf/view?usp=drivesdk


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม /ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

นครปฐม. นายก อบจ.เปิดหอผู้ป่วยประกันสังคมในโรงพยาบาล

นครปฐม .นายก อบจ.เปิดหอผู้ป่วยประกันสังคมในโรงพยาบาลนครปฐม รองรับผู้ป่วยใช้สิทธิประกันสังคม

นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม
นายอนุชา สะสมทรัพย์ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)นครปฐม เขต 5 ร่วมพิธีเปิด

วันที่ 1 มิถุนายน 2566 ที่ชั้น5 ตึกทวารวดี โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นายอนุชา สะสมทรัพย์ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)นครปฐม เขต 5 พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นประธานเปิดหอผู้ป่วยประกันสังคมและพิเศษรวม
โดยมีนายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม รายงานถึงกา ให้บริการผู้ป่วยจากสิทธิประกันสังคม ที่จะสามารถมาใช้บริการหอผู้ป่วยประกันสังคมและพิเศษรวม ของโรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งปัจจุบันมีห้องพิเศษ 5 ห้อง ห้องพิเศษรวม 18 เตียง รองรับผู้ป่วยอายุรกรรม ศัลยกรรมกระดูก คอจมูก ซึ่งจะได้รับการดูแลอย่างสะดวกสบาย จากแพทย์ และพยาบาล ไม่ต่างกับโรงพยาบาลเอกชน เพียงผู้ประกันตนแจ้งสิทธิที่พึงมีต่อเจ้าหน้าที่ จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ให้ความสะดวก ณ จุดเดียวจบ

  นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ กล่าวว่า หอผู้ป่วยประกันสังคม และห้องพิเศษรวม นี้เป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่จะเป็นการยกระดับโรงพยาบาลรัฐในการบริการให้ทัดเทียมกับโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งการแข่งขันในการบริการประชาชน เป็นเรื่องที่ดี เพราะคนที่จะได้ประโยชน์ คือประชาชน เห็นได้จากโรงพยาบาลนครปฐม พยายามที่จะพัฒนาด้านการบริการ ไม่ใช่เพียงสิทธิราชการ วันนี้มาถึงการให้บริการผู้ประกันตน ในส่วนของประกันสังคม ทำให้การดูแลประชาชนครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

นางประไพ ปาลกะวงศ์ ณ อยุทธยา ผู้ช่วยรองประธานและบริหารฝ่ายบุคคล บริษัท อินโดรามา โพลีเอสเตอร์ อินดัสตรีส์ จำกัด ( มหาชน) กล่าวว่า การที่โรงพยาบาลนครปฐม ให้ความสำคัญด้านการบริการผู้ประกันตน มีบริการหอผู้ป่วยประกันสังคม และห้องพิเศษ เฉพาะแบบนี้ถือว่าดีมากเพราะในส่วนของโรงพยาบาลรัฐ การที่ปรับปรุงการให้บริการได้เทียบเท่ากับรพ.เอกชน แบบนี้ ซึ่งจุดแข็งของโรงพยาบาลนครปฐมมีดีที่ทีมงานแพทย์ พบาบาลวิชาชีพ ที่มีความชำนาญ การที่ได้มาเห็นการบริหารแบบนี้ถือว่ายอดเยี่ยม

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

นครปฐม.จัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง เฉลิมพระเกียรติ ฯ

จังหวัดนครปฐมจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2566 เพื่อนำเงินรายได้จากค่าสมัครทั้งหมด ส่วนหนึ่งมอบสมทบให้มูลนิธิชัยพัฒนา และมูลนิธิร่วมจิตต์ น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง

นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2566 ที่ถนนสายแยกทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 3097 – ศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานกิจกรรมเดิน-วิ่ง เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2566 โดยมีนายสมเกียรติ พูลสุขเสริม นายยงยุทธ สวนทอง นายชยชัย แสงอินทร์ รองผู้ว่าชการจังหวัด นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคประชาสังคมกว่า 1,000 คน เข้าร่วมกิจกรรมเดินวิ่ง ระยะทาง 6 กิโลเมตร จุดเริ่มต้น/สิ้นสุด ณ ถนนสายแยกทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 3097 – ศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐม


นายจรินทร์ อิ้วสวัสดิ์ ท้องถิ่นจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า เนื่องด้วยในวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 เป็นวันฉัตรมงคล เป็นวันสำคัญที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี และราชอาณาจักรไทย ซึ่งหลังจากเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ หลายด้าน โดยด้านการศึกษาทรงเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษา พระราชทานพระราชทรัพย์ร่วมสนับสนุนก่อตั้งโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร และทรงรับโรงเรียนไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ พระราชทานวัสดุอุปกรณ์การศึกษาที่ทันสมัย และมอบทุนช่วยเหลือเยาวชนที่เรียนดี ขยันหมั่นเพียร ประพฤติดี มีคุณธรรม แต่มีฐานะยากจนอย่างต่อเนื่อง


และเพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสืบสานพระราชกรณียกิจด้านการศึกษา กระทรวงมหาดไทยจึงกำหนด
จัดโครงการเดิน-วิ่ง เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวัน
ฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม 2566 ขึ้นเพื่อนำเงินรายได้จากค่าสมัครทั้งหมด ส่วนหนึ่งมอบสมทบให้มูลนิธิชัยพัฒนา และมูลนิธิร่วมจิตต์ น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์

ชมคลิป.

https://drive.google.com/file/d/1rrnvGV_eXJzey-YQi0755t9fqHDBcUfE/view?usp=drivesdk

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม /ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

โครงการอร่อยเด็ด 7 อำเภอ เฟ้นหาเมนูสุดอร่อยประจำจังหวัดนครปฐม

โครงการอร่อยเด็ด 7 อำเภอ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดเมนูอร่อยเด็ดประจำจังหวัดนครปฐม รอบชิงชนะเลิศ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดเมนูอร่อยเด็ดประจำจังหวัดนครปฐม ให้เป็นที่รู้จักแก่นักกอล์ฟชาวไทยและต่างชาติ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัล รวมทั้งสิ้น 1,000,000 บาท

นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
นายไชยยศ สะสมทรัพย์ ผู้บริหารนิกันติ กอล์ฟ คลับ
นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด



         วันที่ 27 พฤษภาคม 2566 ที่นิกันติ กอล์ฟคลับ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม  เป็นประธานการแข่งขันโครงการอร่อยเด็ด 7 อำเภอ รอบชิงชนะเลิศ โดยมีนายไชยยศ สะสมทรัพย์ ผู้บริหารนิกันติ กอล์ฟ คลับ นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด พร้อมด้วยคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ นำโดย หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล (เชฟป้อม) นักออกแบบอาหารและนักโภชนาการ นางสาวปิยะดา ปุณณกิติเกษม เจ้าของเพจ PP Gallery อินฟลูเอนเซอร์ด้านอาหารชื่อดัง และ ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานราชบุรี ร่วมเป็นเกียรติและตัดสินการแข่งขันในครั้งนี้

นางสาววริสรา สะสมทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด นิกันติ กอล์ฟ คลับ จังหวัดนครปฐม


          นางสาววริสรา สะสมทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด นิกันติ กอล์ฟ คลับ จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า นิกันติ กอล์ฟ คลับ พร้อมด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม และ ททท. สำนักงานราชบุรี ซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงการการท่องเที่ยว และกีฬากอล์ฟในจังหวัดนครปฐม ได้ริเริ่มโครงการนำร่อง “อร่อยเด็ด 7 อำเภอ” ในการเฟ้นหาสุดยอดเมนูอร่อยเด็ดจาก 7 อำเภอ ในจังหวัดนครปฐม  เพื่อลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,000,000 บาท และโอกาสในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับนิกันติ กอล์ฟ คลับ ในการเผยแพร่วัฒนธรรมการทำอาหาร และยกระดับผลิตภัณฑ์การเกษตรของแต่ละอำเภอให้แก่นักกอล์ฟชาวไทย และชาวต่างชาติให้เป็นที่รู้จัก และเป็นที่นิยมมากขึ้น นอกจากนี้บางสูตรอาหารที่ได้รับเลือกเป็นพิเศษจะถูกนำไปพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติมเพื่อผลักดันครัวไทยสู่ครัวโลก ซึ่งทำการแข่งขันรอบคัดเลือกไปเมื่อวันที่ 29-30 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา จนได้ผู้ชนะเลิศในแต่ละอำเภอ ได้รับเงินรางวัล จำนวน50,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 30,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 20,000 บาท
          

ทั้งนี้ จากการแข่งขันรอบคัดเลือกที่ผ่านมา มีผู้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ทั้งหมด 7 ทีม ได้แก่
1. ทีมกิน’กับ (Kin’Kabb) จากอำเภอเมืองนครปฐม
2. ทีมครัวหลังบ้าน จากอำเภอนครชัยศรี
3. ทีมกระจาบทอง จากอำเภอพุทธมณฑล
4. ทีมปกครองจินดา (ทีมสตรีตำบลคลองจินดา) จากอำเภอสามพราน
5. ทีมปืน เอก แอนด์ ปัน จากอำเภอกำแพงแสน
6. ทีมบางภาษี จากอำเภอบางเลน
7. ทีมบ้านนาปู จากอำเภอดอนตูม
          สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้ ได้นำเป็ดเชอร์รี่มาเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหาร ซึ่งผลการแข่งขัน ทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ “ ทีมกินกับ”  จาก อ.เมืองนครปฐม ในเมนูสำรับเป็ดจำแลงกาย ได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศและประกาศนียบัตร
          รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ “ทีมครัวหลังบ้าน” จาก อ.นครชียศรี    เมนูเป็ดพาเต๊ะ (เป็ดสะเต๊ะ) ได้รับโล่เกียรติยศและประกาศนียบัตร
          รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ “ทีมปืนเอกแอนด์ปัน” จาก อ.กำแพงแสน เมนูเป็ดรมควัน ซอสองุ่นกล้วยไม้ดำ (Smoked Duck with Black Orchid Grape Sauce) ได้รับโล่เกียรติยศและประกาศนียบัตร
         โดยเมนูอาหารจากผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ, รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง และรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองจากการแข่งขันรอบคัดเลือก และรอบชิงชนะเลิศรวม 28 เมนูนี้ จะถูกนำมาเสิร์ฟที่ห้องอาหารขันธ์ของนิกันติ กอล์ฟ คลับ เพื่อให้นักกอล์ฟจากทั่วทุกมุมโลกได้มีโอกาสรับประทาน


        นางสาววริสรา  สะสมทรัพย์  กรรมการผู้จัดการ นิกันติ กอล์ฟ คลับ  กล่าวทิ้งท้ายว่า การแข่งขันเฟ้นหาสุดยอดเมนูอร่อยเด็ดในครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากขาดความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานราชบุรี ผู้ดูแลโครงการการท่องเที่ยว และกีฬากอล์ฟในจังหวัดนครปฐม, ภาครัฐ และภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการ ตลอดไปจนถึงผู้เข้าแข่งขันทุกทีมในรอบคัดเลือก และรอบชิงชนะเลิศจากทั้ง 7 อำเภอ ที่ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการริเริ่ม และผลักดันวัฒนธรรมอาหาร วัตถุดิบ และพืชผลทางการเกษตรของชาวจังหวัดนครปฐม ก่อให้เกิดประโยชน์ตั้งแต่ระดับครัวเรือน ไปจนถึงระดับประเทศในอนาคต ทั้งนี้ นิกันติ กอล์ฟ คลับ จะนำประสบการณ์จากการจัดโครงการริเริ่มนำร่องในครั้งนี้ ไปพัฒนาในการจัดโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเช่นนี้ต่อไปในอนาคต

ชมคลิปคลิก https://drive.google.com/file/d/1yGuB2xlNF8JhZ1_cPf5g4q9MCj2arXiP/view?usp=drivesdk

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

เชิญชมงาน “มหกรรมเกษตร และกล้วยไม้ นครปฐม 66” 27 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2566

นครปฐมเชิญชมงาน “มหกรรมเกษตร และกล้วยไม้ นครปฐม 66” 27 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2566 ณ อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา จังหวัดนครปฐม


เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดนครปฐม นายกองเอกพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข

เพื่อระดมแนวคิดในการจัดงานแสดงสินค้าเกษตรปลอดภัย สินค้าแปรรูปและไม้ดอกไม้ประดับ ในงาน“มหกรรมเกษตร และกล้วยไม้ นครปฐม 66”ให้มีความน่าสนใจ แสดงอัตลักษณ์โดดเด่นของจังหวัดนครปฐม ด้านการเกษตรปลอดภัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีการแปรรูปอาหารที่หลากหลาย ครบครันทั้งชม ชิมและช้อป รวมทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรมของชนชาติพันธุ์ต่างๆในจังหวัด การแสดงความสามารถของนักเรียน นักศึกษา และยังมีกิจกรรมที่เตรียมไว้เพื่อสร้างแรงจูงใจเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากจังหวัดต่างๆ ให้มาเที่ยวชมงาน จึงขอความร่วมมือประชาชนชาวจังหวัดนครปฐม ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับผู้มาเยือนงาน “มหกรรมเกษตร และกล้วยไม้ นครปฐม 66” ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2566 ณ อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม.

อบจ.นครปฐม สนับสนุนครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ เขตพื้นที่การศึกษานครปฐม

อบจ.นครปฐม สนับสนุนครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ เขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เพื่อให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างทั่วถึง

นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม


 
  เมื่อวันอังคารที่ 23 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.00 น. ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการอุดหนุนครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ระหว่าง อบจ.นครปฐม โดยมีนายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก อบจ.นครปฐม กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต 1, เขต 2, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม และศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 1 จังหวัดนครปฐม 

สำหรับโครงการนี้เพื่อเป็นการร่วมมือกันระหว่าง อบจ.นครปฐม และสถานศึกษา ในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และนักเรียนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างทั่วถึง

ขจร วัตรอก KEY8 NEWS รายงาน

นครปฐม จัดคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 48   และพระปฐมเจดีย์เกมส์การแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ 38

นครปฐม จัดคัดเลือกตัวแทนกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 48   และพระปฐมเจดีย์เกมส์การแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ 38 การแข่งขันในแนวคิด”ที่สุดของการแข่งขัน ที่สุดแห่งมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของระดับภาค”


        นครปฐมเกมส์ การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 48 รอบคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาระดับภาค 2 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-30 มิถุนายน 2566  ณ จังหวัดนครปฐม และพระปฐมเจดีย์เกมส์ “การแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 38” รอบคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาระดับภาค 2 ระหว่างวันที่ 10-15 มิถุนายน 2566

โดยมีการจัดทัพนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกว่า 5,000 คน กับโปรแกรมการแข่งขัน 39 ชนิดกีฬา ในสนามกีฬามาตรฐานสากล ได้แก่ ศูนย์กีฬาในเขตอำเภอเมืองนครปฐม อำเภอสามพราน อำเภอนครชัยศรี อำเภอกำแพงแสน อำเภอพุทธมณฑล
เชิญร่วมส่งใจเชียร์นักกีฬาทั้ง 14 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี อ่างทอง ชัยนาท นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา  ราชบุรี สระบุรี ลพบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี และจังหวัดนครปฐม ในนครปฐมเกมส์ วันที่ 20-30 มิถุนายน 2566 และและพระปฐมเจดีย์เกมส์ “การแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 38” ระหว่างวันที่ 10-15 มิถุนายน 2566
………………………………..

นครปฐม อบรมปลุกจิตสำนึกเจ้าหน้าที่รัฐตามหลักธรรมาภิบาล

นครปฐม อบรมปลุกจิตสำนึกเจ้าหน้าที่รัฐตามหลักธรรมาภิบาลภายใต้หลักสูตรเสริมสร้างธรรมาภิบาล ต่อต้านการทุจริตประจำปี 2566

นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลกระตีบ อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดโครงการอบรมปลุกจิตสำนึกเจ้าหน้าที่รัฐตามหลักธรรมาภิบาล ภายใต้หลักสูตรเสริมสร้างธรรมาภิบาล ต่อต้านการทุจริตประจำปี 2566 โดยมี ผู้บัญชาการโรงเรียนการบิน นายอำเภอกำแพงแสน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา ส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมโครงการในครั้งนี้


นายเสริม มีผิวหอม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกระตีบ กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนตำบลกระตีบ ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนา และเสริมสร้างจิตสำนึกให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัด เป็นข้าราชการที่มีเกียรติ ศักดิ์ศรี เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึงการมีคุณธรรม จริยธรรม อันจะส่งผลให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการ ประชาชน และผู้รับบริการ รวมทั้งสร้างจิตสำนึกเรื่องคุณธรรมจริยธรรมในการทำงานอันจะนำไปสู่การทำงานที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ และความสำเร็จขององค์กรอย่างยั่งยืน จึงได้จัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้บริหาร สมาชิกสภา ข้าราชการ และพนักงานจ้าง โดยมีวิทยากรจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 7 และสำนักงานอัยการพิเศษ มาบรรยายให้ความรู้ในครั้งนี้


ขอบคุณภาพ-ข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

สสจ.นฐ. ขอเชิญร่วมงานวันรณรงค์งดสูบบุหรี่โลก ปี 2566

สสจ.นฐ. ขอเชิญร่วมงานวันรณรงค์งดสูบบุหรี่โลก ปี 2566 “กิจกรรมบุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษ เสพติด อันตราย และรวมพลังคนนครปฐม ต้านบุหรี่ไฟฟ้า

ชมการแสดงดนตรีเปิดหมวก ศิลปะสร้างสรรค์เพื่อชุมชนปลอดบุหรี่จากเด็กและเยาวชนริมคลองวัดพระงาม

วันที่ 27 พฤษภาคม 2566 เวลา 16.30 – 20.30 น. ณ ตลาดนัดถนนคนเดินชุมชนริมคลองวัดพระงาม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

นครปฐมจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ในพระราชานุเคราะห์ฯ

จังหวัดนครปฐมจัดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อให้บริการแก้ปัญหาด้านเกษตรแก่เกษตรกรได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2566 ที่โรงเรียนบ้านอ้อกระทิง ตำลห้วยขวาง อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม นายกองเอก พงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ประจำปีงบประมาณ 2566 โดยมี นายอำเภอกำแพงแสน หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ และประชาชน เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้เกษตรกรที่ประสบปัญหาด้านการเกษตร สามารถเข้าถึงบริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ได้รับรู้ด้านวิชาการและได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจร ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยการปฏิบัติงานเชิงรุกที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายได้รับบริการทางการเกษตร เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัยโรคพืช โรคสัตว์ โรคสัตว์น้ำ รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอบรมความรู้การเกษตรเสริมเพิ่มเติมไปด้วยกั

โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย การให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ จำนวน 14 คลินิก ได้แก่ คลินิกพืช คลินิกข้าว คลินิกดิน คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกบัญชี คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ คลินิกกฎหมาย และคลินิกอื่นๆ อีกทั้งมีกิจกรรมส่งเสริมอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ และการให้บริการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก จากนั้นได้ร่วมกันปลูกต้นไม้ และเยี่ยมชมนิทรรศการต่างๆ อีกด้วย

นายกฟลุ๊คนำคุณแม่ฉอ้อน และครอบครัวคุปตวัชบริจาคเงิน 2 โรงพยาบาล 1,000,000 บาท

นายกฟลุ๊คและคุณแม่ฉอ้อน นำครอบครัวคุปตวัช
บริจาคเงิน 2 โรงพยาบาล 1,000,000 บาท

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่โรงพยาบาลนครปฐม นางฉอ้อน คุปตวัช รองประธานกรรมการ เครืออรพรรณ กรรมการผู้จัดการโรงแรมเวล จ.นครปฐม นายเอกพันธุ์ คุปตวัช อดีตนายกเทศมนตรีนครนครปฐม และกรรมการบริหารเครืออรพรรณ ได้มอบเงินจำนวน 500,000 บาท เพื่อให้โรงพยาบาลนครปฐม นำไปจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ โดยมีนายแพทย์สุรชัย โชคครรตชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม เป็นผู้รับมอบเงินดังกล่าว เพื่อนำไปจัดซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นการช่วยต่อลมหายใจ และช่วยชีวิตผู้คนตามเจตนารมณ์ และยังได้มอบให้กับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว(องค์การมหาชน) อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร อีก 500,000 บาท โดยมีนายแพทย์พรเทพ พงศ์ทวิกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว เป็นผู้รับมอบเพื่อเป็นการต่อยอดบุญ อันยิ่งใหญ่ และนำไปพัฒนาโรงพยาบาลต่อไป

นายเอกพันธุ์ คุปตวัช อดีตนายกเทศมนตรีนครนครปฐม (นายกฟลุ๊ค) กล่าวว่า นอกจากมอบเงิน 500,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาลนครปฐมแล้ว ยังมอบให้โรงพยาบาลบ้านแพ้ว(องค์การมหาชน) อ.บ้านแพ้ว อีก 500,000 บาทรวม 2 โรงพยาบาล 1,000,000 บาท เพราะเชื่อเสมอว่าเรา ยิ่งให้ เราก็จะยิ่งได้ อย่างน้อยเราได้ช่วยคนอื่นอีกมากมายที่มาใช้บริการทางการแพทย์โรงพยาบาลทั้งสองแห่ง ได้เห็นคนป่วยได้รับการดูแลรักษาสุขภาพ โดยที่เราไม่หวังผลตอบแทนใดๆ นี้คือสิ่งที่แม่ฉอ้อน สอนสั่งมาตลอด ทุกปีเมื่อครบวันคล้ายวันเกิด 25 พฤษภาคม ก็ปฎิบัติแบบนี้เสมอมา ตามปนิธานให้ปีละ 1ล้าน เพื่อเสริมดวงวันเกิด

ผมขอเติมต่อบุญให้ทุกท่านเข้าถึงการรักษาที่โรงพยาบาลผมพร้อมคุณแม่ฉอ้อนและครอบครัวคุปตวัช มีโอกาสมอบเงินบริจาคกับโรงพยาบาลบ้านแพ้วและโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม โดยทั้ง2 ที่มีท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ มารับมอบ เป็นความตั้งใจของคุณแม่ฉอ้อน ที่ได้บอกเสมอเมื่อครอบครัวของเราทำงานมีโอกาสต้องตอบแทนและแบ่งปันสร้างโอกาสดีๆ ให้กับนครปฐมบ้านของเรา โดยโรงพยาบาลฯ จะนำไปซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อบริการพี่น้องประชาชนให้เข้าถึงการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ” ครับ

พิธีมิสซาศพก๋งเล็กผ้าขาวม้าวัดนักบุญเปโตร นครปฐม

พิธีมิสซาศพก๋งเล็กผ้าขาวม้า
วัดนักบุญเปโตร นครปฐม



เมื่อวันที่ 22พ.ค. 66 ที่วัดนักบุญเปโตร อ.สามพราน จ.นครปฐมได้มีพิธี มิสซาศพ อันตน อรรถพล วณิชยาพันธุ์ (ก๋งเล็กผ้าขาวม้า) อายุ 91 ปี ซึ่งเป็นบิดาของ นาย สมเกียรติ วณิชยาพันธุ์ ที่จากไปด้วยโรคชรา
นายสมเกียรติ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตั้งแต่ตนจำความได้ เตี่ยผ้าขาวม้าไม่เคยขาดจากเอวของเตี่ยเลย ท่านบอกเสมอว่าผ้าขาวม้าใช้ประโยชน์ได้อย่าง เอนกประสงค์ แม้เราเป็นคนไทยเชื้อสายจีนโพนทะเลก็จริงๆ แต่ชอบคาดเอวด้วยผัาขาวม้าแบบไทยๆ

ในพิธีมิสซาศพในวันนี้ได้รับความเมตตา จากบาทหลวง บัณฑิต ประจงกิจ ซึ่งเป็นคุณพ่อ เจ้าวัดนักบุญเปโตร พร้อมคณะร่วมประกอบพิธี มิสซาโดยมี ผู้บริหารท้องถิ่น นักปกครอง ญาติมิตรร่วม พิธีมิสซาไว้อาลัย แบบอบอุ่นก่อนนำศพ ก๋งเล็กผ้าขาวม้า ไปบรรจุ ณ สุสานวัดนักบุญเปโตร อ.สามพราน จ. นครปฐม

สถาบันพระปกเกล้า เปิดอบรมหลักสูตรระยะสั้นเสริมศักยภาพบุคลากร อปท.

สถาบันพระปกเกล้า โดยวิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่นขอเชิญชวนบุคลากร อปท.เข้ารับการอบรมหลักสูตรระยะสั้นเพื่อส่งเสริมศักยภาพบุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

โดยมีหลักสูตรที่จะติดอาวุธและพัฒนาเครื่องมือสำหรับ
การทำงานท้องถิ่นให้มัประสิทธิภาพและบรรลุผลสำเร็จ

ทุกหลักสูตรมีระยะเวลาการอบรมหลักสูตรละ 3 วัน ท่านที่สนใจสามารถสมัครได้หลายหลักสูตร เพราะเวลาเรียนไม่ตรงกันหลักสูตรละ 5,900 บาทเท่านั้น สำเร็จการอบรมในแต่ละหลักสูตรฯ รับใบรับรอง จากสถาบันพระปกเกล้า พร้อมเอกสารมากมาย

  1. หลักสูตรถอดรหัสแผนพัฒนาท้องถิ่น :
  2. หลักสูตรปิดจุดเปลี่ยนการเงินการคลังท้องถิ่น :
  3. หลักสูตรรู้แล้วรอดว่าด้วยคดีเกี่ยวกับการปกครองท้องถิ่น:
  4. หลักสูตรสารพันปัญหาท้องถิ่นกับหน่วยกำกับดูแล:
  5. หลักสูตร co-creation เทคนิคการสร้างสรรค์พื้นที่สมัยใหม่สำหรับท้องถิ่น:

สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้-15 มิ.ย.66 คลิกลิงก์👇
https://kpi.ac.th/news/news/data/1772

ติดต่อสอบถาม
วิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า
ชนาธิป  โรจน์สิรวรพัฒน์
โทร. 02-141-9568
ระพีพรรณ  ทิวสระแก้ว
โทร. 02-141-9570

มหาวิทยาลัยรังสิตทำโครงการ “การสร้างสรรค์สื่ออย่างมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาชุมชน”

สาขาวิชามัลติมีเดีย วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จัดทำโครงการ “การสร้างสรรค์สื่ออย่างมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาชุมชน”

เมื่อวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.00 น.ได้มีโครงการจัดเวทีส่งมอบสื่อสร้างสรรค์ให้กับ 7 ชุมชน
ณ โรงภาพยนตร์ วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
โดยผลสัมฤทธิ์ของโครงการดังกล่าวจะทำให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ในการออกแบบและสร้างสรรค์สื่อโดยผู้ใช้สื่อมีส่วนร่วมในการออกแบบ ทำให้สื่อที่สร้างสรรค์ตอบสนองปัญหาและความต้องการในการทำงานขับเคลื่อนการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรม

รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนโครงการโรงเพาะเห็ดสาธิตให้กับ ศูนย์ฝึกอาชีพนักเรียนเก่าโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1

รัฐบาลญี่ปุ่นให้การสนับสนุนโครงการจัดทำโรงเพาะเห็ดสาธิตให้กับศูนย์ฝึกอาชีพนักเรียนเก่าโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 ผ่านความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์(จีจีพี)

เมื่อวันที่ 11 พ.ค.66 นายโอบะ ยูอิจิ อัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย,นายยูอิชิโระ โดอิ เลขานุการเอก (แผนกการเมือง),นางสาวทาคากิ มิสะ เลขานุการโท หัวหน้าโครงการ จีจีพี,นายอาคิโยชิ สุชุกิ เลขานุการโท ผู้ซึ่งจะมารับตำแหน่งหัวหน้าโครงการจีจีพีในวาระถัดไป เข้าร่วมพิธีส่งมอบอาคารโรงเพาะเห็ด ณ ศูนย์ฝึกอาชีพนักเรียนเก่าโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จังหวัดกาญจนบุรี

โดยมี พล.ต.ต.กัญชล อินทราราม ผบก.ตชด.ภาค 1 ,ผอ.ศูนย์ฝึกอาชีพนักเรียนเก่าโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน,พล.ต.ต.ประกอบ พลเดชา ผบก.ตชด.ภาค 3,ผู้ประสานงานโครงการฯ,พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13,พ.ต.ท.ยอดยิ่ง ชมมี รอง ผกก.ตชด.๑๓,พร้อมด้วย สว.กก.ตชด.13(ธกวส.,กง.,ผงป,จอส.กร.,ผบ.ร้อย ตชด.๑๓๑-๑๓๓ ,นักเรียนประจำศูนย์ฝึกอาชีพฯ หัวหน้าหน่วยงานและผู้แทนจากกรมทรัพย์พยากรธรณี เข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าว.

นครปฐม รองผู้ว่าฯ นำประชาชนถวายผ้าห่มองค์พระปฐมเจดีย์ เนื่องในวันสงกรานต์

นครปฐม รองผู้ว่าฯนำประชาชนถวายผ้าห่มองค์พระปฐมเจดีย์ เนื่องในวันสงกรานต์

เวลา14.00น.วันที่16 เมษายน ที่โถงรับรองลาน หน้าวิหารพระร่วงโรจนฤทธิ์ฯ นายกองเอกพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานถวายผ้าห่มองค์พระปฐมเจดีย์ที่ความยาวทั้งสิ้น 270 เมตร
โดยมีพระเทพมหาเจติยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค14 รองเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร รับถวายผ้าห่มองค์พระปฐมเจดีย์ จากรองผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำขึ้นไปห่มรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ช่วงปล้องไฉนเหนือฐานสี่เหลี่ยมด้านบน ซึ่งพิธีการห่มผ้าองค์พระปฐมเจดีย์นี้เป็นการถวายพุทธบูชา จะมีเพียง 2 วาระคือ 1.งานเทศกาลสงกรานต์ประจำปี และงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ เท่านั้น

สำหรับบรรยากาศการเล่นสงกรานต์ของ จ.นครปฐม ที่บริเวณเวทีกลางด้านถนนต้นสน (หรือที่นักท่องเทื่ยวเรียกกันว่าถนนข้าวหมูแดง) ที่ทางเทศบาลนครนครปฐม ปิดถนนจัดให้มีการเล่นสาดน้ำตลอดเส้นทางระหว่างองค์พระปฐมเจดีย์ ด้านทิศตะวันตกไปจรดหน้าพระราชวังสนามจันทร์ ระยะทาง 1,200 เมตร นายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครนครปฐม พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้ร่วมกันเปิดกิจกรรมเล่นสาดน้ำมหาสงกรานต์ ถนนสายวัฒนธรรมนครปฐม หรือ ถนนข้าวหมูแดงดังกล่าวด้วย กิจกรรมของการเล่นน้ำสงกรานต์จะจบลงในเวลา 18.00 น.

เทศมนตรีเมืองบางคูวัด มอบโล่เยี่ยมให้กำลังใจผู้สูงอายุเกิน 100 ปี

นายวีระ  กล่ำสนอง  นายกเทศมนตรีเมืองบางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี มอบโล่เยี่ยมให้กำลังใจผู้สูงอายุเกิน 100 ปี


นายวีระ  กล่ำสนอง  นายกเทศมนตรีเมืองบางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี  ได้มอบหมายให้ ว่าที่ ร.ต.สมชาย  ทองมี  ปลัดเทศบาลเมืองบางคูวัด และนางสาว อรุณศรี จารีบูรณภาพ หัวหน้าฝ่ายกองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองบางคูวัด ร่วมกับ ดต.อุทัย นามเสนาะ ประธานสาขาสมาคมสภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ จาก ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ จ.ปทุมธานี ได้นำโล่และเข็มเกียรติคุณไปมอบ ให้นางสำเนียง  สว่างอารมณ์  ผู้สูงอายุที่มีอายุ 100 ปี 4 เดือน ณ บ้านเลขที่ 13/3 หมู่ 9  ต.บางคูวัด  อ.เมือง จ.ปทุมธานี

นางสำเนียง  สว่างอารมณ์  ผู้สูงอายุ 100 ปี 4 เดือน


นางบุญตา บุ้นเสา อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นบุตรสาว ของนางสำเนียง สว่างอารมย์เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าคุณแม่ตนเอง
แม้อายุเกิน 100 ปีแต่มีสุขภาพที่ดี ช่วยตนเองได้ รับประทานอาหารเองได้ เจรจารู้เรื่อง ความจำอาจเลือนลางบ้าง ไม่มีโรคประจำตัวอะไร ได้รับการช่วยเหลือจากเทศบาลเมืองบางคูวัด โดยได้รับเบี้ยยังชีพเดือนละ 1,000 บาททุกเดือน อาจไม่พอค่าใช้จ่ายที่ใช้จ่ายไปในการดูแลคุณแม่ แต่แม่ก็มีลูกหลานช่วยเหลือเจือจุนกันไปต้องขอขอบคุณ นายกเทศมนตรี ปลัดเทศบาลเมืองบางคูวัด เจ้าหน้าที่ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองบางคูวัด ที่แวะมาเยี่ยมนำ สิ่งของอุปโภค บริโภค มามอบให้ เสมอนางบุญตา บุ้นเสา กล่าวในที่สุด

นครปฐม จัดงาน SME เฟสติวัล หวังกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดนครปฐม 1-7 พ.ค.66 หน้าองค์พระปฐมเจดีย์

จังหวัดนครปฐม จัดงาน SME เฟสติวัล เพื่อสริมและผลักดันผู้ประกอบการเพิ่มยอดขายและกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัด

วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ที่บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดงาน SME นครปฐม ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 – 7 พฤษภาคม 2566 บริเวณหน้าองค์พระปฐมเจดีย์เฟสติวัล โดยมี ดร.สุกิจ ศรีบัวทอง ประธานหอการค้าจังหวัดนครปฐม หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธีในครั้งนี้

นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดงาน SME นครปฐม
นายสมศักดิ์ ธีรภาพสกุลวงศ์ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครปฐม

นายสมศักดิ์ ธีรภาพสกุลวงศ์ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า งาน SME นครปฐม เฟสติวัล จัดขึ้นเพื่อสริมและผลักดันผู้ประกอบการเพิ่มยอดขายและกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัด.พร้อมทั้งสร้างความภูมิใจให้คนรุ่นใหม่ในการเป็นผู้ประกอบการเพื่อพัฒนาท้องถิ่นต่อไป โดยในงานมีการจัดกิจกรรมหลากหลาย ให้คนจำนวนมากได้สร้างการรับรู้ในสินค้าและบริการของผู้ประกอบการได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการสร้างความ สัมพันธภาพ และเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์ร่วมกัน


ภายในงานนอกจากผู้ประกอบการมาร่วมออกบูธแสดงสินค้าของแต่ละอำเภอแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น กิจกรรมประกวดคลิปวีดีโอ ทำคอนเท้นท์ ชิงรางวัล และมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่สนุกสนานน่าสนใจอีกหลายอย่าง จะมีการจัดทริปพานักท่องเที่ยวมาเที่ยวงาน ซึ่งเป็นการโปรโมท จังหวัดนครปฐม ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น


การจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ทั้งวัดใหม่ห้วยลึก วัดหนองกระโดน วัดโพรงมะเดื่อ สถานศึกษาต่างๆ วิทยาลัยเทคนิคนครปฐม วิทยาลัยอาชีวศึกษานครปฐม วิทยาลัยสารพัดช่างนครปฐม โรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัย โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน มหาวิทยาลัยศิลปากร หอการค้าจังหวัดนครปฐม สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม สมาคมนักธุรกิจอุตสาหกรรมATED กลุ่มนักธุรกิจบีเอ็นไอ ธนาคารออมสิน ธนาคารเอสเอ็มอี ที่ให้ความร่วมมือในการจัดงาน ตลอดจนสนับสนุนด้านแหล่งเงินทุนให้SME ด้านองค์ความรู้ ด้านการสร้างอาชีพ ด้านการผลิต ด้านการตลาดออนไลน์ ออฟไลน์ ด้านนวัตกรรม ด้านการออกแบบ ด้านการส่งออกต่างประเทศ ทำให้ผู้ที่มาเที่ยวงานนอกจากจะได้ความสุขแล้ว ยังได้อาชีพต่อยอดการค้าขาย ต่อยอดเชื่อมโยงสิ่งต่างๆได้อีกมากมาย


ปาดคอแท็กซี่หวังชิงรถปล้นร้านทอง

ผบช.ภ.7 แถลงข่าวจับคนร้ายปาดคอแท็กซี่หวังชิงรถไปปล้นร้านทอง บอกไม่กลัวตร.ยิงมาก็ยิงสู้

เวลา15.00น.วันที่ 28 เมษายน 2566 ที่สภ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้บังคับบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้แถลงข่าวว่า ตำรวจภูธรเมืองนครปฐม ร่วมกับอาสาอำเภอเมืองนครปฐม ได้จับกุมนายชานน พลเยี่ยม หรือเบิร์ด อายุ 24 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 271 ม.2 ต.โป่งเปือย อ.เมือง จ.บึงกาฬ พร้อมยึด มีดคัตเตอร์เปื่อนเลือด ที่ใช้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายหนูมอณ ศรีโท คนขับแท็กซี่ เขียว เหลือง ทะเบียน 1มค-499 กรุงเทพมหานคร ที่ว่าจ้างมาจากกรุงเทพมหานครโดยให้มาส่งที่วัดไผ่ล้อม อ.เมืองนครปฐม จากการสอบถามนายชานน เล่าว่าต้องการชิงรถแท็กซี่คันดังกล่าวเพื่อใช้เป็นยานพาหนะในการที่จะไปก่อเหตุปล้นร้านทองในกรุงเทพมหานคร ซึ่งจากการสอบถามนายชานน ว่าไม่กลัวตำรวจจับเหรอ นายชานน บอกว่าเฉยๆ ถ้ายิงมาก็ยิงกลับถ้าไม่ตาย ก็เข้าคุกเดี๋ยวก็ออก

พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า นายชานน เป็นบุคคลอันตราย เพราะพร้อมที่จะก่อเหตุ และแต่ละครั้งมีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบแผนที่จะโจรกรรมร้านทองที่ไปซุ่มดูไว้แล้ว พร้อมเส้นทางหลบหนีหากได้รถแท็กซี่คันนี้ไป และยังพบมีดยาว1 เล่ม มีดสั้น1เล่ม เหล็กแหลม 1อันใบมีดคัตเตอร์ มีดตัดกระจก และหมวกอยู่ในถุงกระสอบสีฟ้า ที่เตรียมมา เคสนี้ต้องยอมรับว่าคนขับแท็กซี่มีสติดี เมื่อถูกมีดคัตเตอร์ปาดคอถึงสามครั้งยังตั้งสติบีบแตรรถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ และชนรถที่จอดข้างทาง ทำให้คนร้ายกลัวจึงเปิดประตูรถวิ่งหลบหนีปีนรั่วเข้าไปในที่ว่าการ อำเภอเมืองนครปฐม ซึ่งมีอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.)แลผู้ใหญ่บ้านเข้าเวรอยู่จึงจับกุมไว้ได้ ขณะที่นายหนูมอณ ศรีโท มีบาดแผลถูกมีดคัตเตอร์ปาดที่คอ ได้รับบาดเจ็บขณะนี้อาการดีขึ้น เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา พยายามชิงทรัพย์และพยายามฆ่าผู้อื่น

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อ 22.40 น.วันที่27 เมษายน ที่ผ่านมา นายชานน พลเยี่ยม หรือเบิร์ด ได้เช่ารถแท็กซี่ของนายหนูมอณ มาจาก กทม. พอถึงบริเวณหน้าอำเภอเมืองนครปฐม ได้ใช้มีดคัตเตอร์ ปาดคอนายหนูมอณแล้วได้กระโดดข้ามรั้วกำแพงที่ว่าการอำเภอเข้าเมาหลบอยู่ที่ข้างในตัวอำเภอลักษณะตัวเปื้อนเลือด เจ้าหน้าที่เวรและอส.จึงเข้าไปสอบถาม นายชานน ว่าเป็นอะไรตัวเปื้อนเลือด นายชานน บอกว่าทะเลาะกันมาผมเลยเอามีดแทงมัน ขอหลบตัวในนี้ก่อน อส.จึงวิทยุแจ้งร้อยเวรมา ขณะนั้นทางโรงพยาบาลนครปฐม แจ้งว่ามีคนขับแท็กซี่ถูกทำร้ายร่างกาย มีบาดแผลที่ลำคอเหมือนโดนของมีคมมารักษาตัว จึงควบคูมตัวนายชานนไว้ ส่วนนายหนูมอณ คนขับแท็กซี่แพทย์รับตัวไว้นักษาบาดแผลที่ลำคอ อาการปลอดภัยแล้ว

นายชานน พลเยี่ยม หรือเบิร์ด ให้การรับสารภาพโดยไม่สะทกสะท้าน เล่าว่าได้เรียกแท็กซี่มาจากกรุงเทพมหานครให้มาส่งที่วัดไผ่ล้อม เมื่อมาถึงถนนเทศาซอย10 เป็นซอยระหว่างศาลแขวงนครปฐมกับที่ว่าการอำเภอเมืองนครปฐม นายชานน ให้คนขับเลี้ยวเข้าซอย เมื่อรถเข้าซอยเป็นซอยเปรี่ยว จึงลงมือใช้มีดคัตเตอร์ปาดคอไปสามที คนขับบีบแตรรถเสียงดังลั่นซอยจึงเปิดประตูวิ่งหนี ปีนข้ามรั้วเข้าไปหลบซ่อน ไม่รู้ด้วยว่าเป็นที่ว่าการอำเภอ

นายหนูมอณ ศรีโท กล่าวว่า เมื่อคนร้ายใช้มีดคัตเตอร์แทงและปาดที่คอ พยายามตั้งสติแล้วบีบแตรเพื่อหวังให้มีคนช่วย และคนร้ายตกใจเปิดประตูรถวิ่งหลบหนี ตัวเองก็ตกใจเห็นเลือดออก จึงรีบขับรถไปโรงพยาบาล ยังเสียหลักไปชนรถของชาวบ้านเสียหายด้วย

ตำรวจภูธรภาค 7,8,9 ร่วมตำรวจ ป.ป.ส.จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า 1 ล้าน 2 แสนเม็ด ตรวจยึดทรัพย์สิน รวมมูลค่ากว่า 54 ล้านบาท

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงผลปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7,8,9 และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 1 พันคน พร้อมของกลางยาบ้า 1 ล้าน 2 แสนเม็ด รวมถึงยาเสพติดอื่นๆ อาวุธปืน และตรวจยึดทรัพย์สิน รวมมูลค่ากว่า 54 ล้านบาท

วันที่ 20 เมษายน 2566 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พลตำรวจเอก สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นายกองเอกพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ร่วมแถลงผลปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7,8,9 และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายรัฐบาล ที่เน้นการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการเชิงรุกในการปราบปรามจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ขยายผลการจับกุมและยึดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติด อีกทั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายให้ทุกหน่วยในสังกัด ดำเนินการปราบปรามทำลายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดทุกระดับ เพิ่มความเข้มในการทำลายเครือข่ายผู้ค้ารายย่อยในระดับชุมชนที่มีความใกล้ชิดกันประชาชนอย่างจริงจัง และให้ดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมดำเนินคดีและยึดทรัพย์สินผู้ค้ายาเสพติด ทั้งระดับรายย่อยในชุมชน ผู้ค้ารายกลางและรายใหญ่ที่มีความเชื่อมโยงหลายพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ


สำหรับผลปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 7,8,9 และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ทำการปิดล้อมตรวจค้น เป้าหมายเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด จำนวน รวมทั้งสิ้น 904 เครือข่าย และเป้าหมายจุดปิดล้อมตรวจค้นทั้งสิ้น จำนวน 1,504 เป้าหมาย สามารถจับกุมได้ 966 คดี จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาเสพติดหรืออาวุธปืนทั้งสิ้น 982 คน ศาลอนุมัติออกหมายจับ 80 หมาย จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 60 คน การตรวจยึดของกลาง ได้แก่ ยาบ้า 1,228,809 เม็ด, ไอซ์ 162.16 กรัม, เคตามีน 0.43 กรัม, เฮโรอีน 5.4 กิโลกรัม, โปรเมตาซีน 10 ขวด, อาวุธปืน 105 กระบอก, ตรวจยึดทรัพย์สินเพื่อตรวจสอบ รวมมูลค่าประมาณ 54,144,661 บาท, ทรัพย์ของกลาง 9,299,290 บาท และทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องฯ 44,845,371 บาท

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดช่องทางแจ้งเบาะแสยาเสพติดและรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนทั่วประเทศ ที่หมายเลข 1599 และศูนย์ 191 ทุกจังหวัด เพื่อเป็นทางเลือกในการร้องเรียนและแจ้งเบาะแสเรื่องยาเสพติดเพิ่มขึ้น


ภาพ-ข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม

KEY8 NEWS รายงาน

พระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 5 ปี 2566 “ครูนิวัฒน์” ครูผู้บุกเบิกการเรียนรู้และนักพัฒนาบนดอยสูง

คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี พิจารณาเห็นชอบการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 5 ปี 2566 “ครูนิวัฒน์” ครูผู้บุกเบิกการเรียนรู้และนักพัฒนาบนดอยสูง

เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2566 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปในการประชุมสามัญ ประจำปี 2565 คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี โดยมีวาระการประชุมที่สำคัญ คือการพิจารณาให้ความเห็นชอบรายชื่อครูผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 5

รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีเป็นรางวัลนานาชาติ ที่จัดมอบให้แก่ครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์และมีคุณูปการต่อวงการศึกษาในประเทศอาเซียน และติมอร์-เลสเต รวม 11 คน ทุก ๆ 2 ปี โดยพิธีพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 5 จะจัดขึ้น ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ซึ่งครูที่ได้รับพระราชทานรางวัล จาก 11 ประเทศ ได้แก่ เนการาบรูไนดารุสซาลาม ครูโมฮัมหมัด อาเมียร์ อิรวาน บิน ฮาจิมุกซิน , ราชอาณาจักรกัมพูชา ครูเฮ ชาคริยา , สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ครูฮาริสดายานิ , สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ครูกีมเฟือง เฮืองมะนี , ประเทศประเทศมาเลเซีย ครูไซฟุลนิซาน เจ๊ะ อิสมาอิล , สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ครูดอว์ เอ ซู วิน , สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ครูเจอร์วิน โอ. วาเลนเซีย , สาธารณรัฐสิงคโปร์ ครูชอง หลวน เพนนี , สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ครูฟิโลมีนา ดา คอสตา , สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ครูเหงียน หมั่น หุ่ง

สำหรับประเทศไทย มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ร่วมกับหน่วยงานด้านการศึกษาดำเนินการคัดเลือกครูผู้

สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ระหว่างปี 2565 – 2566 โดยคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัดและกรุงเทพมหานคร รวม 77 จังหวัด และองค์กรที่มีรางวัลระดับประเทศ 7 องค์กร ซึ่งพิจารณาให้ครูนิวัฒน์ เงินงามมีสุข ครูศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” (ศศช.) บ้านมอโก้คี อ.ท่าสองยาง จ.ตาก และทำหน้าที่ครูนิเทศก์ ใน 5 ศูนย์การเรียน และห้องเรียนสาขาที่บ้านมอโก้ใหม่ อ.ท่าสองยาง โดยจัดการศึกษาให้กับประชาชนทุกกลุ่มวัยในชุมชน ทั้งการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการรู้หนังสือ การพัฒนาอาชีพ คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม โดยใช้เวทีประชาคมหมู่บ้านทำให้เกิดการเรียนรู้ในชุมชนเพื่อแก้ปัญหายาเสพติด ลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ลดการทำลายป่า ส่งเสริมการปลูกกาแฟครบวงจรและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ รวมถึงทักษะชีวิตที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ครูนิวัฒน์อุทิศทั้งชีวิตของการเป็นครูบนดอยสูง มากกว่า 21 ปี และบุกเบิกศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” 5 แห่ง ซึ่งแต่ละศูนย์อยู่ห่างกัน 7 – 10 กิโลเมตร ด้วยความมุ่งมั่นว่า “อยากตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน โดยให้ความรู้ที่จะติดตัวนักเรียน ไปตลอดจนหมดลมหายใจ”

มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ยังพิจารณามอบรางวัลคุณากร จำนวน 2 ราย คือ ครูอุดร สายสิงห์ ครูผู้เป็นที่รักและศรัทธายิ่งของศิษย์ผู้ปกครอง และชุมชน ปฏิบัติหน้าที่ ณ โรงเรียนบ้านโกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา และครูสมเกียรติ แซ่เต็ง ครูยุคใหม่ผู้สร้างคุณภาพการศึกษาเพื่อการรักถิ่น เน้นความมีตัวตนและความสำเร็จของเด็กทุกคน ปฏิบัติหน้าที่ ณ โรงเรียนเขาน้อยวิทยาคม อ.เมือง จ.ตราด

นอกจากนี้ที่ประชุมได้เพิ่มประเทศเพื่อเสนอชื่อครูเข้ารับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ในครั้งที่ 6 ปี 2568 อีก 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศบังกลาเทศ ภูฎาน และมองโกเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีโครงการตามพระราชดำริด้านการศึกษา และในรอบปีที่ผ่านมามูลนิธิฯ และภาคีเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศยังมีการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเครือข่ายครูรางวัล อาทิ โครงการส่งเสริมและพัฒนาการสะกด พูด อ่าน เขียน ภาษาไทย เพื่อเด็กในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยความร่วมมือของสภากาชาดไทย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และสถาบันอุดมศึกษา เพื่อสนับสนุนครูสอนภาษาไทยในโรงเรียนที่นักเรียนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ ผ่านระบบอาสาสมัครการศึกษาหมู่บ้าน การใช้สื่อและกลไกสนับสนุนในระดับพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันมีพลังครูและอาสาสมัครใน 14 จังหวัดทดลองนำร่อง ครอบคลุมโรงเรียนเป้าหมาย 1,619 แห่ง

นครปฐม รองผู้ว่าฯนำประชาชนถวายผ้าห่มองค์พระปฐมเจดีย์ เนื่องในวันสงกรานต์

รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นำประชาชนถวายผ้าห่มองค์พระปฐมเจดีย์ เนื่องในวันสงกรานต์ ประจำปี 2566

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 16 เมษายน 2566 ที่โถงรับรองลาน หน้าวิหารพระร่วงโรจนฤทธิ์ฯ นายกองเอกพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานถวายผ้าห่มองค์พระปฐมเจดีย์ที่ความยาวทั้งสิ้น 270 เมตร
โดยมีพระเทพมหาเจติยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค14 รองเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร รับถวายผ้าห่มองค์พระปฐมเจดีย์ จากรองผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำขึ้นไปห่มรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ช่วงปล้องไฉนเหนือฐานสี่เหลี่ยมด้านบน ซึ่งพิธีการห่มผ้าองค์พระปฐมเจดีย์นี้เป็นการถวายพุทธบูชา จะมีเพียง 2 วาระคือ 1.งานเทศกาลสงกรานต์ประจำปี และงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ เท่านั้น

สำหรับบรรยากาศการเล่นสงกรานต์ของ จ.นครปฐม ที่บริเวณเวทีกลางด้านถนนต้นสน (หรือที่นักท่องเทื่ยวเรียกกันว่าถนนข้าวหมูแดง) ที่ทางเทศบาลนครนครปฐม ปิดถนนจัดให้มีการเล่นสาดน้ำตลอดเส้นทางระหว่างองค์พระปฐมเจดีย์ ด้านทิศตะวันตกไปจรดหน้าพระราชวังสนามจันทร์ ระยะทาง 1,200 เมตร นายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครนครปฐม พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐมด้ร่วมกันเปิดกิจกรรมเล่นสาดน้ำมหาสงกรานต์ ถนนสายวัฒนธรรมนครปฐม หรือ ถนนข้าวหมูแดงดังกล่าวด้วย กิจกรรมของการเล่นน้ำสงกรานต์จะจบลงในเวลา 18.00 น.

ราชินีบูรณะ จ.นครปฐม คว้า 4 เหรียญทองชนะเลิศระดับชาติ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ปีการศึกษา 2565

โรงเรียนราชินีบูรณะ จ.นครปฐม คว้า 4 เหรียญทองชนะเลิศระดับชาติ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ปีการศึกษา2565 สูงสุดเป็นอันดับ 1โรงเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดนครปฐม

ปิดฉากลงเรียบร้อยแล้วสำหรับการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ภาคกลางและภาคตะวันออก ปีการศึกษา2565 โดยจังหวัดราชบุรีเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 25-27มกราคม 2565ที่ผ่านมา ซึ่งโรงเรียนราชินีบูรณะ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม มีนักเรียนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันระดับเขตพื้นที่การศึกษา และได้เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันในระดับชาติ จำนวนทั้งสิ้น 48 รายการ
สำหรับผลการแข่งขันปรากฏว่านักเรียนโรงเรียนราชินีบูรณะได้รับรางวัลเหรียญรางวัลจำนวน 31 รายการ โดยเป็นรางวัลเหรียญทองชนะเลิศจำนวน 4 รายการ ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดนครปฐม จากการแข่งขันการแกะสลักผลไม้ ม.1-ม.3 การแข่งขันการแกะสลักผลไม้ ม.4-ม.6 การแข่งขันจิตรกรรมเทคนิคผสม Mix Media ม.4-ม.6 และการแข่งขันคีตะมวยไทย ม.1-ม.6 นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลระดับเหรียญเงินจำนวน 10รายการ และเหรียญทองแดง 4รายการ

ว่าที่ร้อยตรีมนต์เมืองใต้  รอดอยู่ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชินีบูรณะ ประธานเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการมัธยมศึกษาจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า “รู้สึกยินดีและภูมิใจกับลูกๆ ราชินีบูรณะที่ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนและจังหวัดนครปฐม สำหรับความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ต้องขอขอบคุณคณะครูที่ช่วยกันกันฝึกซ้อมนักเรียน และที่ขาดไม่ได้คือต้องขอขอบคุณผู้ปกครองนักเรียนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริมนักเรียนให้ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยดีเสมอมา”


สำหรับการจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ได้จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2455 กระทั่งเมื่อปี 2562 ได้งดเว้นการจัดงานไปเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 และในปีการศึกษา 2565ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยมีนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาจากภูมิภาคภาคกลางและภาคตะวันออกเข้าร่วมการแข่งขันรวม 27 จังหวัด

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

รากถั่วพู 1 ปีมีกินครั้งเดียว ของหากินยากของ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

รากถั่วพู 1 ปีมีกินครั้งเดียว ของหากินยากของ ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี


เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 66 เกษตรกรหมู่ที่ 3 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้เวลาขุดรากถั่วพูขึ้นมาจากดิน ซึ่งเป็นหัวเคลือยหัวมัน 1 ปีมีกินแค่ครั้งเดียว โดเกษตรกรจะเริ่มปลูกถั่วพูเพื่อเอาหัวจากรากที่อยู่บริเวณโคนราก ในเดือนสิงหาคมของทุกปี ถึงช่วงปลายเดือนธันวาคมหรือต้นเดือนมกราคม จึงจะเริ่มขุดดูรากว่ามีหัวขนาดโตพอที่จะนำไปต้มได้หรือยัง เมื่อได้ขนาดแล้วจะค่อย ๆ ทยอยขุดและนำขึ้นมาต้ม และจำหน่ายผู้ที่นิยมชื่นชอบบริโภค โดใช้จอบขุดขึ้นมาตัดแต่งล้างทำความสะอาด และนำไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 4 ชั่วโมง ก็จะได้รากถั่วพูต้มที่รสชาติ หวาน มัน เค็ม โดยรากถั่วพูจะมีสรรพคุณทางยามากมาย อาทิ ช่วยแก้ไอ ขับเสมหะ แน่นหน้าอก อ่อนเพลีย ร้อนใน กระหายน้ำ และไข้กาฬ


นายสนอง ศรีวิจิตร เกษตรกร กล่าวว่า ตำบลคลองข่อยมีการปลูกต้นถั่วพู ปลูกกันมานานแล้ว ตั้งแต่รุ่น ปู่ ย่า ตา ยาย ต่อมาได้มีการพัฒนา วิธีการปลูกปลูก การล้างโดใช้เครื่อง บางปีก็ได้ผลผลิตดี บางปีก็ไม่ดีแล้วแต่ดินฟ้าอากาศ ทำกันเป็นกลุ่ม 10 ราย ใน ต.คลองข่อย ซึ่งการปลูกต้นถั่วพูลงทุนสูง ซึ่งเกษตรกรไม่มีทางเลือก ปีนี้ขายหน้าเตากิโลละ 200 พ่อค้าแม่ค้ารับไปขาย 220 – 250

ซึ่งขั้นตอนการทำมีหลายขั้นตอน ยกร่อง ใส่ปุ๋ย พลวนดิน รดน้ำ ซึ่งปีนี้ปุ๋ยมีราคาแพงมาก กระสอบละประมาณ 1600 -1700 บาท รากถั่วพูจะได้กินปีละครั้ง ถ้าหน้าร้อนจะไม่มีหัว หากอากาศหนาวหัวก็จะดี จะเริ่มหว่านเม็ดถั่วพูประมาณเดือนสิงหา – กันยายน จากนั้นก็รดน้ำใส่ปุ๋ย จนกว่าต้นจะโตเต็มที่ช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นดือนกุมภาพันธ์ ก็จะเริ่มขุดหัวขึ้นมา แล้วคัดเอาแต่หัวที่ใช้ได้ นำมาตัดหัวท้าย และนำไปขัดผิวล้างดินโคลนออก ในส่วนของการต้มนั้นใช้ถังสแตนเลสขนาดใหญ่ ต้มนานกว่า 4 ชั่วโมง พอใกล้จะใช้ได้ก็นำเกลือและน้ำตาลปรุงรสเทลงไปในถัง เพื่อให้ได้รสชาติหวามเค็ม จึงตักขึ้นมาทำการคัดหัวใหญ่เล็กนำส่งให้ลูกค้า


อย่างไรก็ตามเกษตรกรผู้ปลูก อยากชวนชวนประชาชนที่สนใจ หรือไม่เคยได้ชิมรากหัวถั่วพูลองมาชิมกันได้ที่ ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ในช่วงนี้ได้เลย หากหมดก็จะได้กินอีกทีปีหน้าในเดือนเดียวกัน

ภาพ-ข่าว พันธุ์ , จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

พาณิชย์ออนทัวร์ นครปฐม ลดราคาหมู 150 ไข่แผงละ 90

พาณิชย์ออนทัวร์ จังหวัดนครปฐม จัดลดราคา หมู 150 ไข่แผงละ 90

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศาลาโดม ด้านทิศเหนือองค์พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร นายสมเกียรติ พูลสุขเสริม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดโครงการ พาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ทั่วไทย มาเปิดให้บริการสินค้าราคาประหยัดให้แก่พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครปฐม มีนายพงศ์สุธี สุขศิริ พาณิชย์จังหวัดนครปฐม รายงานว่ากระทรวงพาณิชย์ได้รับสนับสนุนเงินงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ.2566 เพื่อดำเนินโครงการพาณิชย์ลดราคาออนทัวร์ทั่วไทย เพื่อกระตุ้นการค้าภายในประเทศ การลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนจากสถานการณ์ปัจจุบันและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให่แก่ผู้ประกอบการ เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ให้แก่คนนครปฐม 3ครั้งๆ ละ 3 วัน

โดยครั้งแรกจัดที่องค์พระปฐมเจดีย์ระหว่าง 3-5 กุมภาพันธ์ ครั้งที่ 2 ตลาดกิเลน พุทธมณฑล 20-12 กุมภาพันธ์ และครั้ลงที่ 3 วัดไร่ขิง 17-19 กุมภาพันธ์นี้

โดยเป็นการออกร้านจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ (หมูสด 150/กก. ไก่สด 60/กก. ไข่สด 90/แผง น้ำมันพืชปาล์ม 45/ขวด น้ำตาลทราย 18/กก. ข้าวสารเจ้า 90/5กก. ข้าวสารหอม 110/5กก. และสินค้าโชว์ห่วยลดราคาตั้งแต่ 5-20% เป็นต้น

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

สมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก เปิดงาน ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 The7 th “Western Motor Expo 2023”

สมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก เปิดงาน ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566The7 th “Western Motor Expo 2023”โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ผู้บริหารเทศบาลนครนครปฐม หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ประกอบการรถบรรทุก ร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก โดยเน้นการแสดงนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการขนส่งสร้างเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและยกระดับการขนส่งให้ทัดเทียมนานาชาติ

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ลานหลังโรมแรมเวล จังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 The7 th “Western Motor Expo 2023” โดยมีนายสุนทร แก้วพิจิตร ประธานสภาเทศบาลนครนครปฐม นายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศบาลนครนครปฐม นายยุทธนาโพธิวิหค นายอำเภอเมืองนครปฐม พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจรถบรรทุกภาคตะวันตกเข้าร่วมในพิธี

นายบุญชู กัลยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการสมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก ประธานการจัดงาน กล่าวว่า การจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 The7 th “Western Motor Expo 2023” มีวัตถุประสงค์ ในการพบปะสังสรรค์ และแลกดเปลี่ยนข้อมูลของผู้ประกอบการทุกภูมิภาคในภูมิภาคตะวันตกและพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงการส่งเสริมกิจกรรมและร่วมสร้างกิจกรรมในการกระตุ้นเศรษฐกิจในส่วนของเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ใหม่และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับยานยนต์รถบรรทุกที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้รับกับสภาวะการณ์ในปัจจุบันและอนาคต มาจัดแสดงโชว์สินค้าเพื่อเป็นการพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าของประเทศไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ โดยปีนี้ได้เป็นปีที่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 60 ที่ได้มีการจัดงานขึ้น

นายชัยพล แซ่เฮง รักษาการสมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก กล่าวว่าในปีนี้การจัดงานเป็นไปได้ด้วยดีซึ่งมีผู้สนับสนุนกิจกรรมนี้อย่างล้นหลาม และยังมีผู้บริหารจากสหพันธ์การขนส่งทางบกและสมาคมอื่นๆ ที่ให้กับสนับสนุนการจัดงานซึ่งเป็นอีกปีที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีด้วย

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม สยบข่าวลือ ไม่ได้ไล่ศูนย์รักษาโรคและเจาะเลือด รพ.นครปฐม พ้นวัด

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวจ.นครปฐม ได้รับแจ้งว่ามีกระแสข่าวลือจากชาวบ้านและพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนครปฐม พูดร่ำลือเกี่ยวกับเรื่องพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน ไล่พื้นที่ที่ทางโรงพยาบาลนครปฐมมาเปิดอำนวยความสะดวก ให้กับประชาชนและคนไข้ได้ตรวจเจาะเลือดรักษาที่ตั้งอยู่ภายในวัดไผ่ล้อม ทำให้ชาวบ้านต่างไม่พอใจและพูดกันปากต่อปากจนทำให้ทางวัดและทางโรงพยาบาลได้รับความเสียหาย จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังวัดไผ่ล้อม อ.เมืองนครปฐม พบว่าเหตุการณ์ยังคงเป็นปกติ มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลปฏิบัติการดังเดิม

นายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม


โดยเฉพาะวันนี้ นายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม ลงเยี่ยมคลินิกเบาหวาน ความดันโลหิตสูงวัดไผ่ล้อม เตรียมความพร้อม เปิดบริการ คลินิกโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงแบบครบวงจร วัดไผ่ล้อม ในวันที่ 1 มีนาคม 2566 เพื่อให้ประชาชนในเขตเทศบาลนครนครปฐม มารับบริการ ตรวจรักษา โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง แบบบูรณาการ โดยทีมแพทย์ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญ จากโรงพยาบาลนครปฐม เพื่อให้ประชาชนเข้ารับบริการได้สะดวก รวดเร็ว มาตรฐานเดียวกับการไปรับบริการที่โรงพยาบาลนครปฐม โดยได้รับความเมตตา จาก พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน ในการขยายบริการ คลินิกเบาหวานความดันโลหิตสูงแบบบูรณาการในครั้งนี้อย่างเต็มที่ ประชาชนมารับบริการได้ในวันราชการ จันทร์ถึงศุกร์ตั้งแต่เวลา 8.30 ถึง 16.30 น.สำหรับบริการเจาะเลือดสามารถมารับบริการได้ตามนัด ตามเวลาเดิม

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า ทางวัด และโรงพยาบาลได้มีการช่วยเหลือประชาชนมายาวนานกว่า 5 ปีแล้ว รวมถึงอาคารสถานที่ เจ้าหน้าที่วัด เด็กวัด ก็เข้ามาช่วยเหลือกัน รวมถึงอำนวยความสะดวกด้านที่จอดรถ โรงพยาบาลนครปฐมเปิดศูนย์รักษาเบาหวาน ความดัน หัวใจ โรคไต และเจาะเลือด ตั้งใจในช่วงโควิดหนักที่ผ่านมาแล้ว เพราะโรงพยาบาลไม่สามารถที่จะให้บริการและเจาะเลือดได้ จึงมาใช้สถานที่ของวัดไผ่ล้อม ต่อ 1 วันมีผู้เข้ารับการเจาะเลือดไม่ต่ำกว่า 400 คน

ซึ่งขณะนี้ ได้มีกระแสข่าวลือแพร่สะพัดออกไปว่า หลวงพี่น้ำฝนจะปิดศูนย์บริการและทางวัดไผ่ล้อมจะไม่ให้ใช้สถานที่ หรือพยายามจะย้ายการดูแลรักษานี้ออกพ้นจากวัดไป หลวงพี่น้ำฝนได้เผยว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงเพราะวัดได้มีการสงเคราะห์อยู่แล้ว เมื่อโรงพยาบาลมาขอความอนุเคราะห์กับวัด อาตมาทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ เจ้าหน้าที่เด็กวัดไม่ได้มีการรับเงินเดือนใดๆ ทั้งหมดทำด้วยจิตอาสาในการช่วยโรงพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลเห็นว่าทางวัดมีการบริการที่เริ่มแออัดมากขึ้น จึงจะขยายไปที่อุทยานชัยพัฒนา ต้องขึ้นอยู่ว่าทางโรงพยาบาลจะมีการบริหาร จัดการอย่างไร อาตมาไม่สามารถไปก้าวก่ายได้ โรงพยาบาลจะจัดสรรว่า คนไข้ส่วนใดจะไปรักษาที่จุดใด วัดไผ่ล้อมก็ยังให้การอนุเคราะห์เหมือนเดิม แต่เป็นนโยบายของโรงพยาบาลที่ต้องการขยายพื้นที่ออกไปเพื่อลดการแออัดเท่านั้น

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ธกส.ราชบุรี ทำ MOU ข้าวหอมมะลิ เชื่อมโยงสินค้าเกษตรช่วยเหลือเกษตรกร


ธ.ก.ส.ฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก รวม 8 จังหวัด จัดทำ MOU ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) สุรินทร์ และเครือข่ายสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ( สกต. ) ฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก บริษัท ไปรษณีย์ไทยเขต 7 เพื่อ เชื่อมโยงสินค้าเกษตร สร้างเครือข่ายด้านการตลาด การขนส่ง ให้กับเกษตรกร


เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 66 นายนักรบ อินทรสาลี ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส. ฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก พร้อมด้วย นายสามารถ เอี่ยมวงษ์ รอง ผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก (ธ.ก.ส.) และผู้บริหาร ธ.ก.ส. ในสังกัดทั้ง 8 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ราชบุรี นครปฐม เพชรบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร ประจวบคีรีขันธ์ สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี นายสายันต์ พูนศิริ ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส. จ.สุรินทร์ และ นายเกียรติศักดิ์ อันแก้ว รักษาการส่วนทีมขายและดูแลลูกค้า บริษัท ไปรษณีย์ไทยเขต 7 ร่วมเป็นสักชีพยานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือเชื่อมโยงสินค้าเกษตร ระหว่าง สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) สุรินทร์

โดย นายบัวสิน คมกล้า ประธานกรรมการ และเครือข่ายสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) ฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก โดย นายมานัส เพิ่มพูน ประธานกรรมการเครือข่าย บริเวณหน้าสำนักงาน ธ.ก.ส.ฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก อ.เมือง จ.ราชบุรี
ซึ่งโครงการเชื่อมโยงสินค้าเกษตรดังกล่าว ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน 2565 และในครั้งนี้เครือข่าย สกต. ธ.ก.ส. ฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก ได้สั่งซื้อข้าวหอมมะลิคุณภาพ จาก สกต.สุรินทร์ จำนวน 16.845 ตัน และ สกต.สุรินทร์ ได้สั่งซื้อสินค้าจาก สกต. ในเครือข่าย ธ.ก.ส.ฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก เป็นจำนวนมาก อาทิเช่น หมี่กรอบโบราณ จ.กาญจนบุรี ทองม้วนน้ำตาลโตนด จ.เพชรบุรี เฟรนซ์ฟรายต์แห้ว จ.สุพรรณบุรี มะพร้าวน้ำหอม จ.สมุทรสาคร กล้วยแผ่นอบแห้ง จ.ราชบุรี น้ำปลาวังใต้ จ.ประจวบศีรีขันธ์ ส้มโอขาวใหญ่ จ.สมุทรสงคราม และ ข้าวเพื่อสุขภาพ กข 43 จ.นครปฐม ซึ่งสินค้าดังกล่าวได้รวบรวมจากเกษตรกรสมาชิก ซึ่งเป็นลูกค้า ธ.ก.ส.ในสังกัด 8 จังหวัดในฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก

เพื่อเป็นการสร้างโอกาสด้านการตลาดให้กับเกษตรกรสมาชิกทั้ง 8 จังหวัด ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่ม และ สร้างการเรียนรู้ด้านการตลาดสมัยใหม่ โดยมี ธ.ก.ส. และ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ให้การสนับสนุน คำปรึกษา สินเชื่อ และโลจิสติกส์ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะเติบโต ขยายผลให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเกษตรกร และ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ทั้งสองฝ่ายต่อไป
นายนักรบ อินทรสาลี ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.ฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตกพร้อมด้วยผู้บริหาร ธ.ก.ส. กล่าวว่า ทางธ.ก.ส.ฝ่ายกิจการภาคตะวันตกได้ประสานความร่วมมือกับประธานสหกรณ์การเกษตรและการตลาดคู่ค้า ธ.ก.ส. จ.สุรินทร์ ภายใต้การให้คำปรึกษาของ ผอ.สำนักงาน ธ.ก.ส.จ.สุรินทร์ ซึ่งเดินทางมาร่วมงานด้วย ส่วนทางเราได้ประสานประธานเครือข่ายสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาด ในพื้นที่ฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตกทั้ง 8 จังหวัด วันนี้เป็นพิธีลงนามร่วมมือการเชื่อมโยงสินค้าเกษตรของเกษตรกรของลูกค้า ธ.ก.ส. ซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาด ได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัทไปรษณีย์ไทย เขต 7 มาให้ความรู้เรื่องการขนส่ง การเชื่อมโยงสินค้าเกษตร ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน ทาง สกต.สุรินทร์ได้นำข้าวหอมมะลิคุณภาพดีมาจำนวน 16,845 กิโลกรัม หรือ 16.845 ตัน มาแลกเปลี่ยนสินค้าซึ่งเป็นผลผลิตสินค้าของพื้นที่ภาคตะวันตกทั้ง 8 จังหวัด ซึ่งเป็นโปรดักส์แชมป์เปี้ยน เป็นสินค้าที่แลกเปลี่ยนกลับไปจ.สุรินทร์ และทางจ.สุรินทร์ก็จะนำข้าวหอมมะลิมาจำหน่ายเพื่อเชื่อมโยงสินค้าแลกเปลี่ยนกัน


นายบัวลิน คมกล้า ประธานกรรมการ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. สุรินทร์ จำกัด หรือ (สกต.) กล่าวว่า ส่วนพื้นที่ สกต.สุรินทร์จะนำสินค้าของทางราชบุรีไปจำหน่าย ซึ่งจะต้องหาตลาด หาคนซื้อไว้รออยู่แล้ว อนาคตข้างหน้าเมื่อธุรกิจตลาดเพิ่มขึ้นสมาชิกมีการกระจายสินค้า โดย จ.สุรินทร์มีสาขาอยู่ 8 สาขา และสาขาอำเภอจำนวน 17 อำเภอ สามารถไปหาซื้อสินค้าได้ทุกอำเภอ เพื่อให้สมาชิกเลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพ
ด้านนายมานัสเพิ่มพูน ประธานเครือข่ายสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส.ฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก กล่าวว่า อนาคตแต่ละจังหวัดจะมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นโปรดักส์แชมป์เปี้ยนเป็นของตัวเอง เป็นของดีเด่น เช่น จ.เพชรบุรีมีของดีคือ น้ำตาลโตนด จ.สมุทรสาครมีผลไม้หลากหลาย จ.กาญจนบุรีจะมีทุเรียนทองผาภูมิ ของแต่ละฤดูการก็จะมีแตกต่างกัน ก็จะพยายามสืบหาข้อมูลให้ จ.สุรินทร์เป็นฝ่ายทำตลาดล่วงหน้าเพื่อที่จะพรีออเดอร์สินค้าตามความต้องการของลูกค้า และทางฝ่ายภาคตะวันตกจะร่วมมือกันไปทุกด้านที่จะส่งเสริมให้สินค้าเกษตรกรในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้เข้าไปสู่การลิ้มลองของผู้บริโภค เป็นการต่อยอดส่งเสริมให้กิจการสหกรณ์มีความเชื่อมโยงต่อเนื่องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


ทั้งนี้ภายหลังจากเสร็จพิธีลงนาม ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส. ฝ่ายกิจการสาขาภาคตะวันตก พร้อมด้วยผู้บริหาร ปล่อยขบวนรถบรรทุกข้าวสารหอมมะลิจาก จ.สุรินทร์ เพื่อกระจายไปยังแต่ละสาขาใน 8 จังหวัดภาคในภาคตะวันตก



พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี ภาพ-ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ มทร.รัตนโกสินทร์เปิดโครงการประกวดนวัตกรรมการบริหารการศึกษาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพนักบริหารการศึกษาในยุคดิจิทัล

โครงการประกวดนวัตกรรมการบริหารการศึกษาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพนักบริหารการศึกษาในยุคดิจิทัล “Education management innovation contest to promote the development of education administrators’ in the digital era” วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ มทร.รัตนโกสินทร์

ในวันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2566 มทร.รัตนโกสินทร์ นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี กล่าวต้อนรับศาสตราจารย์ ดร.สัมพันธ์ ฤทธิเดช เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ประธานในพิธีเปิดโครงการประกวดนวัตกรรมการบริหารการศึกษาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพนักบริหารการศึกษาในยุคดิจิทัล “Education management innovation contest to promote the development of education administrators’ in the digital era” วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ มทร.รัตนโกสินทร์

โดยมีผู้ร่วมโครงการเป็นนักศึกษาหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตและหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขานวัตกรรมการบริหารการศึกษา ของวิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ณ ห้องประชุมบัวสวรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา

วิภาวี เกษรบุญนาค ภาพ-ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

มทร.รัตนโกสินทร์ ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48

มทร.รัตนโกสินทร์ ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48

วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา มทร.รัตนโกสินทร์ นำโดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48 “ดอกจานบ้านเชียงเกมส์” Spirit of the Games : ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่คือน้ำใจนักกีฬา

โดยมี ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานเปิดพิธี ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ในเมือง) มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี

วิภาวี เกษรบุญนาค /ภาพ ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

อบจ.ราชบุรี จัดกิจกรรมแปรรูปหมูส้มเพิ่มมูลค่าให้ชุมชน

องค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี จัดกิจกรรมแปรรูปหมูส้มเพิ่มมูลค่าให้ชุมชนที่โรงเรียนสายธรรมจันทร์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี พร้อมจัดกิจกรรมแปรรูปหมูส้มเพิ่มมูลค่าให้ชุมชนมีรายได้


เมื่อวันที่ 19 ม.ค.66 ที่ผ่านมา นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี กล่าวเปิดโครงการ อบจ.พบประชาชน ประจำปี 2566 ที่โรงเรียนสายธรรมจันทร์ อ.ดำเนินสะดวก โดยมี นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ดร.กาณชาญ รังสีวรรธนะ รองนายก อบจ.ราชบุรี นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ รองนายกอบจ.ราชบุรี นายดุสิต จิรภัทรากร เลขานุการนายก อบจ.ราชบุรี นาย ดร.พงษ์ดนัย เดชเดชาโชติ ผู้อำนวยการโรงเรียนสายธรรมจันทร์ พร้อมทั้งผู้บริหาร อบจ. ส.อบจ.ทุกเขต ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านเข้าร่วมพิธีเปิดโครงการเป็นจำนวนมาก โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมาออกบูธให้บริการประชาชน เช่น การตรวจวัดสายตา ตรวจวัดความดัน ตรวจเบาหวาน การบริการตัดผมฟรี และอื่น ๆ อีกทั้งยังได้มอบหน้ากากอนามัยแก่ประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมเพื่อป้องกันโรคโควิด -19


นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้รับหน้าที่บริหารงานมาเป็นเวลา 2 ปีเต็มแล้ว มีโอกาสมาพื้นที่ดำเนินสะดวกบ่อยครั้งเพื่อเยี่ยมประชาชน บางตำบลอาจจะเข้าไปไม่ทั่วถึง แต่สิ่งต่างๆนั้นได้รับรู้ปัญหาของพื้นที่ทั้งหมด เพราะมีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เขตอ.ดำเนินสะดวกที่มีความขยัน ทั้ง สจ.ไชยา เอี่ยมสะอาด และ สจ.ชัยวัฒน์ หงส์สุภางค์พันธ์ นำปัญหาในพื้นที่ดำเนินสะดวกมาเล่าสู่กันฟังตลอด

วันนี้เป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ อบจ.ราชบุรีได้จัดโครงการพบประชาชน โครงการนี้มีจัดทั้ง 10 อำเภอ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยครั้งแรกที่ อ.ปากท่อ ครั้งที่ 2 จัดที่ อ.โพธาราม และครั้งที่ 3 จัดที่ อ.ดำเนินสะดวก ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากวิทยาลัยการอาชีพอ.บ้านโป่ง ที่นำเจ้าหน้าที่มาบริการประชาชน เช่น การซ่อมบำรุงเครื่องใช้ การบริการตัดผม และการบริการต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ซึ่งได้จัดโครงการดังกล่าวนี้ขึ้นเพื่ออยากให้ชาวบ้านได้รับประโยชน์ในของวัตถุดิบที่ดีจากของที่มีอยู่ในท้องถิ่นบ้านเรา และการมีวัตถุดิบมากนั้นบางครั้งอาจเหลือใช้จากการที่อยู่ในครัวเรือน จึงอาจจะนำมาใช้ในการถนอมและปรุงอาหาร นอกจากเป็นของสดแล้ว ยังนำมาแปรรูปเพื่อชะลอความสูญเสียได้ในการใช้ประกอบอาหารต่อไป วันนี้ได้มีโครงการหมูส้มคล้ายกับปลาส้ม โดยครั้งแรกได้แปรรูปทำปลาส้ม ได้รับความนิยมดี แต่มีบางอำเภอที่ไม่มีปลาเป็นวัตถุดิบ

ซึ่ง จ.ราชบุรีมีการเลี้ยงสุกรจำนวนมากอันดับหนึ่งของประเทศ จึงมีวัตถุดิบนี้มาก จึงคิดว่าน่าจะลองมาแปรรูปทำหมูส้มแทนการทำปลาส้ม เพื่อที่อยากให้เข้ากับสถานการณ์ในพื้นที่ราชบุรีซึ่งจะมีวัตถุดิบอยู่มาก วันนี้จึงได้ให้ชาวบ้านมาเรียนรู้การแปรรูปทำหมูส้มเพิ่มมูลค่า สามารถนำกลับไปบ้านเพื่อรับประทาน และยังนำความรู้ไปต่อยอดทำหมูส้มเพื่อจำหน่าย ในอนาคตอาจจะมีรวมตัวตั้งเป็นกลุ่มแม่บ้านดำเนินการเป็นโอท็อปเพื่อก่อให้เกิดรายได้เสริมขึ้นสู่ชุมชนต่อไปในอนาคต
อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดโครงการเสร็จแล้วทางคณะได้เดินเยี่ยมชมดูการสาธิตการแปรรูปทำหมูส้ม เพื่อเป็นส่งเสริมอาชีพ เพิ่มมูลค่าให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งเยี่ยมชมการบริการของหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมทั้งร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ห้องประชุม เพื่อให้ผู้บริหารท้องถิ่นนำปัญหาร่วมพูดคุย เพื่อเตรียมหาแนวทางแก้ไข เรื่องต่างๆของชุมชนนำไปสู่การพัฒนาของแต่ละพื้นที่อย่างยั่งยืนต่อไป



ภาพ_ข่าว พันธุ์,จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

มทร.รัตนโกสินทร์ ร่วมพิธีเปิดโครงการ Lions Clubs International Youth Camp and Exchange

มทร.รัตนโกสินทร์ ร่วมพิธีเปิดโครงการ Lions Clubs International Youth Camp and Exchange

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา  มทร.รัตนโกสินทร์ นำโดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี พร้อมด้วย รศ.ดร.อาคีรา ราชเวียง รองอธิการบดี นางสาวกนกรัตน์ โพธิ์ศรี รองอธิการบดี ดร.ณัฐพงศ์ โชติกเสถียร ผู้อำนวยการวิทยาลัยผู้ประกอบการสร้างสรรค์นานาชาติรัตนโกสินทร์ อ.กฤตพร วงศ์ถาวร ผู้อำนวยการศูนย์ภาษาและวิเทศสัมพันธ์ และนางสาวณัณทนัณณ์ ชูราศรี ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการ Lions Clubs International Youth Camp and Exchange ณ มทร.สุวรรณภูมิ ศูนย์พระนครศรีอยุธยา หันตรา จ.พระนครศรีอยุธยา

ทั้งนี้ อธิการบดี ได้กล่าวขอบคุณ Mr.Soren Ole Bich Rasmussen ผู้ก่อตั้ง Lions Clubs International Youth Camp and Exchange Denmark ขอบคุณ Mr.Jens Henriksen และ Lions Clubs International Denmark ที่มอบโควตาโครงการ Lions Clubs International Youth Camp and Exchange ให้กับนักศึกษา เป็นประจำทุกปี และในปี 2566 จำนวน 4 ทุน ซึ่งโครงการ Lions Clubs International Youth Camp and Exchange

เป็นโครงการที่นักศึกษาจะได้พัฒนาความรู้ และทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สร้างเสริมความรู้ความสามารถในการนำเสนอความเป็นไทย ทั้งในด้านศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทยต่อนานาชาติ รวมทั้งยังเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัย และประเทศไทย ในการนำเสนอผลงานแสดงความเป็นไทย และเผยแพร่ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยอีกด้วย


วิภาวี เกษรบุญนาค ภาพ/ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

นครปฐม รพ.สามพราน เปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องเชื้อดื้อยาและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา

นครปฐม. โรงพยาบาลสามพราน เปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องเชื้อดื้อยาและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา


วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2566 ที่ โรงพยาบาลสามพราน (วัดไร่ขิง) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
นายแพทย์ทินกร ชื่นชม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องเชื้อดื้อยาและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา โดยมีนายแพทย์ชัยวัฒน์ อิสสวาณิชย์ หัวหน้างานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ พร้อมด้วย นางพัชรี เกษรบุญนาค รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน น.ส.วาสนา คำเช่ง หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสามพราน ที่เข้าร่วมโครงการฯ


ซึ่งโครงการเชิงปฏิบัติการเรื่องเชื้อดื้อยาและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา พุทธศักราช 2566 มี วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ สถานการณ์เชื้อดื้อยา และการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาในโรงพยาบาล อันนำไปสู่การสร้างมาตรฐาน/คุณภาพงานภายในหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในวันนี้ จะมี 2 กิจกรรมหลัก คือ การให้ความรู้ และการฝึกทักษะรวมไปถึงดูสถานที่ที่ให้บริการดูแลผู้ป่วยจริง เพื่อให้คำแนะนำการจัดการที่ถูกต้อง


ด้านนายแพทย์ทินกร ชื่นชม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ได้กล่าวว่า สำหรับเรื่องการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องเชื้อดื้อยาและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก ถ้าเจ้าหน้าที่ขาดความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องเชื้อดื้อยาและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาที่ถูกต้อง อันจะส่งผลกระทบให้มีอัตราป่วยและอัตราตายของผู้ป่วยเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เรื่องเชื้อดื้อยาและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา ที่นำไปสู่การสร้างมาตรฐาน คุณภาพงานภายในหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพ และลดอัตราการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา อัตราป่วย และอัตราตายในโรงพยาบาลต่อไปอีกด้วย


วิภาวี เกษรบุญนาค ภาพ /ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

มทร.รัตนโกสินทร์ สถาปนาครบรอบ 18 ปี

  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีรัตนโกสินทร์ สถาปนาครบรอบ 18 ปี

วันพุธที่ 18 มกราคม 2566 ที มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีรัตนโกสินทร์ โดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ ประกอบพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำมหาวิทยาลัย จากนั้นเป็นพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน และพิธีถวายราชสดุดีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9)

ทั้งนี้ อธิการบดี ได้มอบโล่เชิดชูเกียรติให้กับผู้ทำคุณประโยชน์แก่มหาวิทยาลัย และมอบประกาศนียบัตรแก่บุคลากรดีเด่นอีกด้วย ณ หอประชุมบัวสวรรค์ (1,500 ที่นั่ง) มทร.รัตนโกสินทร์

ภาพ-ข่าว วิภาวี เกษรบุญนาค นครปฐม

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ราชบุรี.เด็กชายไก่ (นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี) แต่งชุดนักเรียนโชว์ลีลาการชักว่าวงานวันเด็กแห่งชาติ 2566

  ราชบุรี.เด็กชายไก่ ” นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี แต่งชุดนักเรียนโชว์ลีลาการชักว่าวทะยานขึ้นท้องฟ้าจนติดลมบน งานนี้เจ้าตัวบอกนึกถึงวัยเด็กออกมาเล่นว่าวกับเพื่อน ๆ วันหนึ่ง 2 – 3 ชม.

เด็กชายไก่.นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี


เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2566 บรรยากาศงานวันเด็กที่จังหวัดราชบุรี คึกคักไม่แพ้กัน โดยเฉพาะที่ลานกลางแจ้งหน้าสวนบ้านไร่ในฝัน ตลาดเดอะนายน์ ต.บ้านไร่ อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้มีการจัดกิจกรรมการเล่นว่าว และ โชว์ว่าวนานาชาติ จากกลุ่มคนรักษ์ว่าว จ.ราชบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพมหานคร นำว่าวนานาชนิด อาทิ ว่าวจุฬา ว่าวปักเป้า ว่าวควาย ว่าวแฟนซี ว่าวการ์ตูน โดเรม่อน โนบิตะ และ ชิซูกะ ว่าวสาย ว่าวนก ว่าวงู ว่าวดุ๊ยดุ่ย ว่าวอีลุ้ม ว่าวผีเสื้อ ว่าวปลา และ ว่าวสายลายธงชาติไทย ที่มีความยาวเกือบ 1 กิโลเมตร ขึ้นลอยเต็มท้องฟ้า เป็นที่ถูกอกถูกใจให้กับบรรดาเด็ก ๆ ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมในงานวันเด็กจำนวนมาก


โดยมีนายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี วันนี้มาด้วยชุดนักเรียนพร้อมด้วย นายเรืองชัย เนตรปฐมพร รองนายกเทศบาลเมือง นายพินิจ ด้วงพิบูลย์ นายก อบต.ตำบลบ้านไร่ นางนิตฐา เจริญทรัพย์ ผู้บริหารบ้านไร่ในฝัน ตลาดเดอะนายน์ ดร.โอสธี พุทธเมธี ผู้สนับสนุนว่าวให้กับเด็ก ๆ ร.ต.ต. วิเชียร มณีวิหก ตำรวจกลุ่มงานจราจร สภ.เมืองราชบุรี มาเป็นพิธีกร พร้อมกลุ่มคนรักษ์ว่าว และประดิษฐ์ว่าว นำโดยนายพนัส เทียนศิริ หรือ เม่น มหาชัย นายปรีชา สุคธมาน หรือ ลุงชาจุฬาไทย นายพันธุ์ แก้วนุ้ย ผู้นิยมการเล่นว่าว และสมาชิกทีมเล่นว่าวกลุ่มภาคกลาง ร่วมถึงอาจารย์แจง สานรังศิลป์ปั่นดินเผา มาสอนให้เด็กปั้นดิน ร่วมเปิดงานมหกรรมว่าวนานาชนิด วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566


บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ปกครองต่างพาลูกหลาน ที่กลับจากการร่วมกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ จากสถานที่ต่างๆ ที่ได้จัดเพื่อให้เด็กๆ ได้เข้าไปร่วมกิจกรรมกัน ได้เข้ามาเล่นว่าวกัน โดยเด็กๆ ต่างให้ความสนใจนำว่าวมาเล่นกัน ทั้งเล่นกันเอง และ ชวนผู้ปกครอง คุณพ่อ คุณแม่ร่วมเล่นด้วย สร้างเสียงหัวเราะ และรอยยิ้ม กันอย่างสนุกสนาน เรียกได้ว่า งานนี้ ผู้ปกครอง เหนื่อยมากกว่าเด็กๆ ที่ทั้งวิ่ง นำว่าวขึ้นท้องฟ้า และต้องคอยชักว่าวให้ติดลมบนก่อนจะส่งให้ลูกได้เล่นต่อ
แต่ที่เป็นสีสันและเรียกลอยยิ้มให้กับผู้ที่มาร่วมงานคือ นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี แต่งชุดนักเรียนมาร่วมกิจกรรม เรียกกันว่า “ เด็กชายไก่ ” หลังจากที่ไปเปิดงานวันเด็กของทางเทศบาลเมืองราชบุรี ซึ่งจัดที่สวนเฉลิมพระเกียรติ สวนสุขภาพของเทศบาลเมืองราชบุรี มาร่วมลงสนามโชว์ลีลาการชักว่าวแบบมืออาชีพ ด้วยการนำว่าวปักเป้าตัวเล็ก และว่าวงู ชักว่าวขึ้นท้องฟ้าด้วยลีลาเด็ดเรียกเอามืออาชีพการเล่นว่าวต้องยกนิ้วชื่นชมกันเลยทีเดียว


ลีลาการชักว่าวของ เด็กชายไก่ หรือ นายศักชัย พิศาลผล นายกเทศบาลเมืองราชบุรี ที่เรียกสายตาของคนดูภายในสนามที่หันมามอง ลีลาการชักว่าว ทั้งชักว่าวมือเดียว ชักว่าวสองมือ ทั้งลุก ทั้งนั่ง ทั้งซอย เรียกได้ว่า ลีลาเด็ด ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที ว่าวก็ขึ้นติดลมบน ก่อนจะมอบว่าวฟรีให้กับเด็ก ๆ เพื่อเป็นของขวัญสำหรับวันเด็กได้เล่นกัน


เด็กชายไก่ บอกอีกว่า ว่าวงูตัวที่ตนกำลังเล่นอยู่ มีทักษะที่ดีมาก ขึ้นง่าย ปล่อยทีเดียวขึ้นเลย และเล่นง่ายมาก ส่วนลีลาการชักว่าวตนไม่ได้ไปซุ่มซ้อมที่ไหนมา ตนเคยเล่นมาเมื่อครั้งที่ยังเด็ก ๆ 7 – 8 ขวบ ตอนนี้ อายุได้ 41 ปี แล้วไม่ได้เล่นมา 30 กว่าปีแล้วสมัยช่วงเด็ก ๆ ทุกเย็นทุกเย็นจะมาเล่นว่าวกันตรงตลาดคุณหญิงน้อย ในตอนนั้นมีความรู้สึกว่าเล่นยากมาก ตอนนี้เล่นง่ายมาก วิทยากรน่าจะออกแบบได้ดีมาก นับว่ามีความชำนาญมาก เล่นกันที 2-3 ชั่วโมง

ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

กองทัพอากาศ จัดเต็ม งานวันเด็กปี 2566 เปิดรันเวย์ แสดงAir Show เต็มรูปแบบ ที่โรงเรียนการบิน กำแพงแสน จ.นครปฐม

กองทัพอากาศ จัดเต็ม งานวันเด็กปี 2566 เปิดรันเวย์ แสดงAir Show เต็มรูปแบบ ที่โรงเรียนการบิน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

กองทัพอากาศ เปิดสถาบันผลิตนักรบทางอากาศของกองทัพอากาศ ที่โรงเรียนการบิน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ให้เด็กๆ ได้เข้ามาร่วมกิจกรรม ในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีการจัดแสดงการบินAir Show อย่างเต็มรูปแบบ นำโดย พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นประธาน ซึ่งมีความมุ่งมั่น ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กและเยาวชน โดยปีนี้ได้ปรับเปลี่ยนสถานที่จากกองบิน 6 ดอนเมือง มายังโรงเรียนการบิน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งการจัดงานวันเด็กแห่งชาติครั้งนี้ เยาวชนจะได้เข้ามาเรียนรู้ และสัมผัสประสบการณ์ ด้านการบินและภารกิจของกองทัพอากาศอย่างใกล้ชิด เป็นการเปิดประสบการณ์ โลกทัศน์ ความกล้าแสดงออกให้กับเด็กและเยาวชน ภายใต้คำขวัญวันเด็กปี2566 ที่ว่า รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี

หลังจากที่ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวเปิดงานเสร็จ ก็ได้มีเครื่องบินF-16 บินผ่านพิธีเปิด และเครื่องบินAu-23 บินปล่อยควันสีธงชาติ ถือเป็นการเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ปี2566 ในส่วนของกองทัพอากาศอย่างเป็นทางการ โดยวันนี้จะเปิดให้เข้าชมการแสดงทางอากาศยานต่างๆ ถึงเวลา 15.00น.

สำหรับกิจกรรม ประกอบด้วย การจัดแสดงการบิน (Air Show) ของอากาศยานแบบต่าง ๆ ของกองทัพอากาศ ที่บอกเล่าเรื่องราวการปฏิบัติภารกิจปกป้องน่านฟ้าไทย อาทิ การบินต่อสู้ในอากาศ การบินโจมตีทางอากาศ การบินค้นหาและช่วยชีวิต การบินแสดงสมรรถนะอากาศยาน และการแสดงบินหมู่4 นอกจากนี้ ยังมีการตั้งแสดงอากาศยานและยุทโธปกรณ์ภาคพื้น การแสดงดนตรีจากวงดุริยางค์ทหารอากาศ นิทรรศการและกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

นครปฐม.จัดกิจกรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2566

จังหวัดนครปฐม จัดกิจกรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2566 พร้อมแจกของขวัญ อาหาร และเครื่องดื่ม แก่เด็กๆ โดยมีผู้ปกครองพาบุตรหลานมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

วันที่ 14 มกราคม 2566 ที่บริเวณสนามกีฬาพระราชวังสนามจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 พร้อมอ่านสารจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยในปีนี้ได้มอบคำขวัญวันเด็กแห่งชาติไว้ว่า “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” ซึ่งกิจกรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติในปีนี้ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีการจัดนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ การให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม การแจกของขวัญ ของรางวัล การแสดงกลางแจ้งของหน่วยงานต่างๆ และการแสดงบนเวทีของเด็กนักเรียน ซึ่งมีพ่อแม่ ผู้ปกครอง ได้พาลูกหลานมาร่วมกิจกรรมต่างๆ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติที่พระราชวังสนามจันทร์เป็นจำนวนมาก

นายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครนครปฐม


ด้าน นายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครนครปฐม กล่าวว่า เทศบาลนครนครปฐม ได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก และเยาวชน ซึ่งจะต้องเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ

และสังคมให้เจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า และมั่นคงต่อไป จึงได้จัดให้มีกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมให้เด็กตระหนักถึงคุณค่า บทบาท และความสำคัญของตนเอง อีกทั้งเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก ให้การคุ้มครอง เลี้ยงดู อบรมสั่งสอนและสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนเป็นพิเศษ ตลอดจนปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก

ขอบคุณ.สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

นครปฐม. ชาวบ้านชื่นชมรองผอ.รพ.สามพรานกับลูกสาวช่วยผู้บาดเจ็บประสบอุบัติเหตุ

นครปฐม ชาวบ้านชื่นชมรองผอ.รพ.สามพรานกับลูกสาวช่วยผู้บาดเจ็บประสบอุบัติเหตุจากรถยนต์

นางพัชรี เกษรบุญนาค รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน กำลังช่วยปฐมพยาบาลผู้ประสบเหตุ

เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2566 ที่บริเวณถนนแยกหน้าโรงเรียนปรีดาราม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ได้เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน ระหว่างรถปิคอัพ กับรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดจ็บเป็นเด็กวัยรุ่นชาย 1 ราย มีบาดแผลตามตัวหลายแห่ง และได้มีพลเมืองดี วิ่งไปขอความช่วยเหลือจาก นางพัชรี เกษรบุญนาค รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน ซึ่งเปิดคลินิครักษาผู้ป่วยอยู่ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ100เมตร ขณะนั้นยังมีคนไข้ตรวจรักษาอยู่แต่ด้วยความเป็นพยาบาลวิชาชีพ จึงได้ขอพักการรักษาคนไข้ไว้ก่อน ซึ่งมีอาการเป็นไข้เล็กน้อย และรีบไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บอย่างเร่งด่วนพร้อมด้วยบุตรสาว ชื่อนางสาววิภาวี เกสรบุญนาค ที่เป็นนักโภชนาการปฏิบัติการ โรงพยาบาลสามพราน ได้เตรียมอุปกรณ์ทำแผล แล้วรีบวิ่งไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ช่วยปฐมพยาบาล ทำแผล ตรวจศรีษะ หน้าอก ผู้บาดจ็บแจ้งว่า เจ็บหน้าอก(ตรวจแล้วไม่พบกระดูกหัก) และมีสิทธิ์ค่ารักษา ที่โรงพยาบาล บ้านแพ้ว ประสานเรียกรถกู้ภัยมูลนิธิ นำส่งโรงพยาบาลบ้านแพ้วอย่างปลอดภัย

ทางด้าน นางพัชรี เกษรบุญนาค กล่าวว่า การทำดี ทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ตนนั้นเป็นพยาบาล วิชาชีพ และยังได้ฝึกให้ลูกสาว ที่เป็นนักโภชนาการ ได้ทำหน้าที่ปฐมพยาบาลได้อย่างถูกต้อง สามารถช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้อย่างทันท่วงทีและปลอดภัย ให้สมกับเป็น“พยาบาลของพระราชา”

ภาพ-ข่าว ไชยอนันต์ ดลชัยกรร์สกุล

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

นครปฐม. ภาคโรตารี 3330 และสโมสรโรตารีสนามจันทร์ จัดอบรมการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR)

นครปฐม. ภาคโรตารี 3330 และสโมสรโรตารีสนามจันทร์ จัดอบรมการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR)

อดีตผู้ว่าการภาค3330 คุณวิชัย มณีวัชรเกียรติ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิโรตารี ภาค 3330


เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 ที่ห้องกิ่งทอง โรงแรมเวล อ.เมือง จ.นครปฐม
อดีตผู้ว่าการภาค3330 คุณวิชัย มณีวัชรเกียรติ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิโรตารี ภาค 3330 เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) จัดโดย ภาคโรตารี 3330 และสโมสรโรตารีสนามจันทร์

นายกอัมพวัน สุวัฒนานันท์ นายกสโมสรโรตารีสนามจันทร์

โดยมี นายกอัมพวัน สุวัฒนานันท์ นายกสโมสรโรตารีสนามจันทร์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ พร้อมด้วย คณะวิทยากรจากชมรมผู้ฝึกสอนการช่วยฟื้นคืนชีพฉุกเฉิน สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และผู้เข้าอบรมจากสโมสรโรตารีสนามจันทร์และประชาชนเข้าร่วมอบรม ซึ่งสโมสรโรตารีสนามจันทร์ร่วมกับภาค 3330 จัดทำโครงการฝึกอบรมการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน หรือเรียกว่า ซีพีอาร์

โดยเป็นหลักสูตรที่ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้และทำความเข้าใจหลักการและวิธีการ ตลอดจนฝึกปฏิบัติการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการช่วยฟื้นคืนชีพได้อย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิต การช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้นก่อนที่ผู้ปวยจะถึงมือแพทย์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า คนที่เรารัก คนรอบข้าง คนใกล้ตัว หรือแม้กระทั่งตัวเราเองจะไม่ตกอยู่ในภาวะฉุกเฉินหลังจากที่สโมสรได้ประชาสัมพันธ์โครงการผ่านสื่อต่างๆ ไป ได้มีผู้สนใจเข้าร่วมอบรมจำนวนจำกัด 32 ท่าน


การเสียชีวิตอย่างกะทันหันส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายนอกโรงพยาบาล จากสถิติพบว่า ในบรรดาผู้หมดสตินอกโรงพยาบาลมีเพียง20% เท่านั้น ที่ได้รับการช่วยชีวิตโดยคนที่อยู่ใกล้ๆ ทั้งๆที่หากได้รับการช่วยชีวิตทันที จะเพิ่มความสำเร็จของการฟื้นคืนชีพได้ถึง1เท่าตัว และว่ามาตรฐานใหม่นี้เป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกปฏิบัติร่วมกัน เพื่อใช้ช่วยชีวิตคนในเวลาฉุกเฉิน เป็นการช่วยฟื้นคืนชีพด้วยมือเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีตัวอย่างจากทั่วโลก ที่คนหมดสติแล้ว ได้รับการกดลงที่หน้าอกเพื่อช่วยบีบเลือดที่หัวใจออกไปเลี้ยงร่างกายแล้ว ทำให้สามารถฟื้นคืนชีวิตกลับมาได้อย่างปกติ


การสอนการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) สามารถช่วยชีวิตผู้หมดสติที่เสียชีวิตกะทันหัน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจ นอกจากนี้ยัง
ช่วยชีวิตผู้ที่จมน้ำ ถูกไฟฟ้าดูด ขาดอากาศหายใจ หรือได้รับยาเกินขนาด เป็นการต่อชีวิตของผู้ป่วย เพื่อรอให้ผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ต่อไป จึงจำเป็นต้องเรียนรู้และหาวิธีการป้องกันเพื่อลดความสูญเสียค่าใช้จ่าย และบุคลากรให้กับองค์กรที่ได้รับผิดชอบอยู่ “การปฐมพยาบาลเบื้องตันและการช่วยฟื้นคืนชีพ ( FIRST AID & CPR )” จึงเป็นหลักสูตรที่ผู้เข้าอบรมสามารถเรียนรู้และความเข้าใจในหลักการและวิธีการ ตลอดจนการฝึกปฏิบัติการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการช่วยฟื้นคืนชีพได้ป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิต ร่วมถึงการลดค่าใช้จ่ายทางด้านการรักษาพยาบาลอีกด้วย
โดยวัตถุประสงค์ของหลักสูตร

  1. มีความรู้ความเข้าใจ และสามารถประเมินผู้บาดเจ็บที่ต้องทำ CPR และใช้เครื่อง AED
  2. สามารถทำการ CPR และใช้เครื่อง AED ผู้บาดเจ็บได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
  3. สามารถขอความช่วยเหลือจากระบบบริการฉุกเฉินทางการแพทย์ และส่งต่อผู้บาดเจ็บได้

ซึ่งผู้ที่ผ่านการอบรมในครั้งจะได้รับใบประกาศเกียรติคุณในการช่วยเหลือปฐมพยาบาลผู้ป่วยเบื้องตันได้อย่างถูกต้อง สามารถนำไปช่วยชีวิตบุคคลบุคคลใกล้ตัว คนรอบข้าง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไป

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

นายก อบจ.นครปฐม ยกทีม สจ.อวยพรปีใหม่ อนุชา สะสมทรัพย์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มชาวบ้าน

นายก อบจ.นครปฐม ยกทีม สจ.อวยพรปีใหม่ อนุชา สะสมทรัพย์ ผู้ก่อตั้งกลุ่มชาวบ้าน

วันที่ 26 ธันวาคม 2565 ที่บ้านสะสมทรัพย์ ถนนเพชรเกษม ตำบลธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ หรือนายกหนึ่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ได้นำทีม สจ. กลุ่มชาวบ้าน เข้าอวยพร นายอนุชา สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพย์ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (นายวราวุธ ศิลปอาชา) ผู้ก่อตั้งกลุ่มชาวบ้าน เนื่องในวาระปีใหม่ 2566 ที่จะมาถึงนี้

นายจิรวัฒน์ ได้นำ สจ.มาร่วมอวยพร ขอให้นายอนุชา ได้เป็นรัฐมนตรีในสมัยหน้า เพื่อประชาชน และชาวจังหวัดนครปฐม และสมาชิกกลุ่มชาวบ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองท้องถิ่นที่ท่านได้ก่อตั้งไว้ จะทำความดีงาม ตั้งใจพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญก้าวหน้า ตามเจตจำนงของท่านอนุชา ผู้ก่อตั้งกลุ่มชาวบ้าน ให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการพัฒนาให้มากที่สุด ตามที่ท่านเคยแนะนำไว้ว่า ให้ยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง

นายอนุชา สะสมทรัพย์ ผู้ก่อตั้ง”กลุ่มชาวบ้าน”

ด้านนายอนุชา สะสมทรัพย์ กล่าวว่าขอบคุณทุกคน นายก อบจ.ซึ่งเป็นหลานชาย ผมได้ส่งต่อกลุ่มชาวบ้าน ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองท้องถิ่น ให้กับจิรวัฒน์ หรือหนึ่ง หลานชายไปสานต่อ โดยมีพวกท่าน (สจ.) ทั้ง 30 คน เป็นบุคลากรขับเคลื่อนความสำเร็จ การทำงานการเมืองของบ้าน “สะสมทรัพย์”เรายึดประชาชนเป็นหลัก ประชาชนต้องการอะไร ประชาชนขาดเหลืออะไร ถนน น้ำประปา ไฟฟ้า เศรษฐกิจ สะท้อนขึ้นมาผ่านสภา อบจ. เพื่อนำไปแก้ไข พัฒนา ต่อยอดให้สมบูรณ์ เป็นรูปธรรม สจ.ทุกคนไปทำงานสร้างความเจริญ  ชาวบ้านเขาก็เห็น เท่ากับช่วยนายก ช่วยสะสมทรัพย์แล้ว  เราทำความดีให้กับประชาชน เหมือนเราทำบุญ แล้วบุญก็จะสนองเราในภายภาคหน้า มันเป็นเรื่องธรรมดา และขอขอบใจที่ทุกคนอวยพร และอยากให้เป็นรัฐมนตรี เป็นเรื่องอนาคตก็ต้องช่วยกัน ขอทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อน

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

วัดไผ่ล้อม นครปฐม เจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนาถวายพระพรชัยมงคล  แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงหายจากพระอาการประชวร

วัดไผ่ล้อม นครปฐม เจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนาถวายพระพรชัยมงคล  แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงหายจากพระอาการประชวร

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม 


วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2565 ที่ วิหารพระพุทธเมตตาประธานพร วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม  เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนาถวายพระพรชัยมงคล  แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงหายจากพระอาการประชวร พร้อมคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อม

โดยมีนายแพทย์วิโรจน์ รัตนอมรสกุล
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส เปิดกรวยสักการะ หน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ซึ่งวัดไผ่ล้อมได้ร่วมกับ สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม โรงพยาบาลนครปฐม และศาลจังหวัดนครปฐม  ศาลแขวนนครปฐม   ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครปฐม  สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค7  สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครปฐม และสถานศึกษา  ร่วมกันจัดพิธี

โดยมีคณะผู้บริหารสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม คณะผู้บริหารสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค7   คณะผู้บริหารโรงพยาบาลนครปฐม คณะผู้บริหารการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครปฐม   คณะอาจารย์ นักศึกษา จาก วิทยาลัยอาชีวะศึกษานครปฐม  คณะครู นักเรียน โรงเรียนวัดไผ่ล้อม พูลประชาอุปถัมภ์  คณะครู นักเรียน โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร  รวมทั้งพสกนิกร และคณะศิษย์วัดไผ่ล้อม  ร่วมในพิธีจำนวนมาก

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

อบจ.นครปฐม นำ ส.อบจ.ข้าราชการ สวดมนต์และเจริญจิตตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นำ ส.อบจ.ข้าราชการ สวดมนต์และเจริญจิตตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

เมื่อ เวลา 17.04 น.วันที่ 19 ธันวาคม  ที่พระอุโบสถ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระเทพมหาเจติยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค14 รองเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร พร้อมคณะสงฆ์วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร เจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

โดยมีนายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นางสุภาพร สะสมทรัพย์ (มารดา) นางวิลาสินี สะสมทรัพย์ (ภรรยา) นายวีรวิชญ์ สะสมทรัพย์ นายฐิรวิชญ์ สะสมทรัพย์ (ลูกชาย) โดยนายธนพันธ์ โชคดำรงสุข ประธานสภาอบจ. พร้อมสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม และน.ส.ปทุมมาศ กมลเวช รองปลัดอบจ.รักษาราชการแทน.ปลัดอบจ.นำข้าราชการ กว่า100 คน ร่วมสวดมนต์ เจริญจิตตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลฯ ด้วย

ทั้งนี้คณะสงฆ์วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร เจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนา ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และเดชานุภาพแห่งพระกุศลผลบุญที่ทรงบำเพ็ญมา ส่งผลให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ปราศจากโรคาพาธ หายจากอาการพระประชวรโดยเร็วพลัน

ขจร วัตรเอก KEY 8 NEWS▪︎PRESS 191222

รร.ราชินีบูรณะ นครปฐม ฉลองรางวัลสถานศึกษาพระราชทาน

รร.ราชินีบูรณะ นครปฐม ฉลองรางวัลสถานศึกษาพระราชทาน และพิธีเทศน์มหาชาติ13กัณฑ์

เมื่อเวลา 09.40 น.วันที่ 15 ธันวาคม ที่โรงเรียนราชินีบูรณะ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานฉลองรางวัลสถานศึกษาพระราชทาน เฉลิมการกุศลเทศน์มหาชาติ เทิดพระบาทจอมราชทศมินทร์ มีว่าที่ร้อยตรี มนต์เมืองใต้ รอดอยู่ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชินีบูรณะ รายงาน ว่าโรงเรียนราชินีบูรณะได้รับคัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการ เป็นสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ระดับมัธยมศึกษาขนาดใหญ่ ประจำปีการศึกษา 2564 (รางวัลระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ประเภทโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่ ระดับยอดเยี่ยม) ซึ่งโรงเรียนราชินีบูรณะได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากคณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาสถานศึกษา และชุมชน จึงทำให้มีวันนี้

นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ กล่าวว่าในนามของจังหวัดนครปฐม ขอแสดงความยินดี กับโรงเรียนราชินีบูรณะ ที่ได้รับรางวัล”สถานศึกษาพระราชทาน” นับเป็นสิ่งที่น่าปลาบปลื้มยินดีเป็นอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นรางวัลแห่งความหวัง เป็นแรงบันดาลใจแห่งเกียรติยศและศักดิ์ศรี เป็นความภาคภูมิใจอันสูงสุดของชาวราชินีบูรณะและพี่น้องชาวจังหวัดนครปฐม นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่โรงเรียนราชินีบูรณะ ได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้ได้รับรางวัล “สถานศึกษาพระราชทาน
ระดับมัธยมศึกษาขนาดใหญ่” การที่สถานศึกษาได้รับรางวัล “สถานศึกษารางวัลพระราชทาน” ถึง 3 ครั้ง รวมถึงรางวัลนักเรียนพระราชทาน 3 ปีต่อเนื่อง รางวัลโล่ทองคำระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และรางวัลเกียรติยศอื่น ๆ บ่งบอกถึง ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา มีความสามัคคีมุ่งมั่น ร่วมแรงร่วมใจกัน มุ่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยยึดถือเด็กนักเรียนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาทุกมิติเกิดผลสัมฤทธิ์เป็นที่ประจักษ์อันประกอบไปด้วยผู้บริหาร คณะครู บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สมาคมผู้ปกครอง ครู และศิษย์เก่าราชินีบูรณะ และนักเรียนโรงเรียนราชินีบูรณะ เป็นปัจจัยในการกำหนดทิศทาง วิสัยทัศน์ การบริหารจัดการ การพัฒนาการเรียนการสอน พัฒนานักเรียนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประสบความสำเร็จในชีวิตและยังมีส่วนในการอบรมให้นักเรียนเป็นคนดีคนเก่ง ถือว่าเป็นสถานศึกษาที่มีการบริหารจัดการ การเรียนการสอนที่ดี มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาเยาวชนอย่างต่อเนื่อง
ขอบคุณผู้บริหาร คณะครู ผู้ปกครอง ที่มีส่วนผลักตัน ส่งเสริม ทั้งด้านการเรียนการสอน การอบรมสั่งสอนให้เยาวชนของชาติ มีความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตนเป็นคนดี
ของสังคม มีวินัยในตนเอง พร้อมที่ จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า
อย่างมั่นคงในอนาคต

ว่าที่ร้อยตรี มนต์เมืองใต้ รอดอยู่ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชินีบูรณะกล่าวอีกว่า สมาคมผู้ปกครอง ครู และศิษย์เก่าราชินีบูรณะ ร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนราชินีบูรณะ และเครือข่ายผู้ปกครอง ได้เห็นชอบให้จัดกิจกรรมเทศน์มหาชาติ 13กัณฑ์ ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ยึดมั่นตามหลักคำสอนของศาสนา และเพื่อหารายได้สมทบกองทุนพัฒนาการศึกษา โรงเรียนราชินีบูรณะ โดยนิมนต์พระพรหมเวที ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนางสุภาพร สะสมทรัพย์ มารดานายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม เขต2 พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS 151222

อบต.ยี่สาร จ.สมุทรสงคราม เชิญร่วมงาน “โครงการมองเขายี่สาร ผ่านงานศิลป์”โดยศิลปินระดับโลก

อบต.ยี่สาร จ.สมุทรสงคราม เชิญร่วมงาน “โครงการมองเขายี่สาร ผ่านงานศิลป์”
โดยศิลปินระดับโลก และเยาวชนที่จะมาร่วมสร้างสรรค์งานศิลปบนยอดเขายี่สาร

นางทัศนีย์ พยนต์ยิ้ม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลยี่สาร


ที่ องค์การบริหารส่วนตำบลยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม นางทัศนีย์ พยนต์ยิ้ม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลยี่สาร เปิดเผยว่าในวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2565 นี้ ทาง อบต.ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มศิลปินที่มีชื่อทั้งระดับโลกและระดับประเทศ จะมารวมตัวกันสร้างงานศิลปะหลากหลายรูปแบบให้เด็กและเยาวชนรวมถึงผู้สนใจในงานศิลปะได้ชมกัน

  นางทัศนีย์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมมองเขายี่สารผ่านงานศิลป์  ณ ลานทำบุญบนยอดเขายี่สาร วัตถุประสงค์เพื่อปลูกฝังให้เยาวชนในชุมชนและผู้ที่สนใจมีความรู้ความเข้าใจงานศิลปะชุมชนวัดเขายี่สาร เห็นถึงคุณค่าของงานศิลปะในท้องถิ่น ให้เกิดความภาคภูมิใจในการมีส่วนร่วม และหวงแหนถิ่นกำเนิดทำให้เกิดวัฒนธรรมอันดี และเกิดความรักความสามัคคีที่ยั่งยืนในชุมชน มีขบวนการคิดในเชิงสร้างสรรค์มีทางเลือกในการแสดงความสามารถให้หลากหลาย รูปแบบภายใต้สภาพแวดล้อมที่แปลกใหม่โดยใช้ศิลปะเป็นสื่อในการแสดงออกสามารถนำความรู้ และประสบการณ์ในการทำกิจกรรมครั้งนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันตลอดจนเพื่อเผยแพร่งานศิลปะท้องถิ่นวัดเขายี่สารให้เป็นที่รู้จักกันแด่คนทั่วไป

นายบัญญัติ พวงทอง หรือ อ.อู๊ด อัมพวา ศิลปินสีน้ำชื่อดังระดับโลก

นายบัญญัติ พวงทอง หรือ อ.อู๊ด อัมพวา ศิลปินสีน้ำชื่อดัง ซึ่งได้รับเหรียญทองระดับโลกมากมาย กล่าวว่าตัวผมเองเป็นคนในพื้นที่ “เขายี่สาร” เป็นเกาะเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในเขต อ.อัมพวา ใกล้ชายฝั่งอ่าวไทย อุดมสมบูรณ์ ไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามมากๆ และเป็นแหลงอาหารทะเล มีน้ำล้อมรอบเขา และมีวัตถุโบราณสถาน ที่สวยงาม มีพิพิธภัณฑ์ มีร้านอาหารอร่อยๆมาก


ผมในนามศิลปินพื้นที่และเพื่อนๆ ศิลปิน ระดับประเทศ ที่ได้เชิญมาร่วมสาธิต ในการวาดภาพให้แก่นักเรียน นักศึกษา บนเขาแห่งนี้
จึงขอเชิญชวน เพื่อนๆ ศิลปิน ที่อยู่ใกล้ๆ หรือไกล ที่มีความสนใจมาร่วมกิจกรรมกัน ผมยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ และประชาชน นักเรียน นักศึกษา หรือลูกหลานของท่าน ที่สนใจการวาดภาพ เข้ามาร่วมกิจกรรมของเรา โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นครับผม เรามีอุปกรณ์ให้ยืมเรียนครับ

ขอเชิญท่านที่สนใจนะครับ พบกัน 11ธันวาคม นี้ครับ
ทุกท่านสามารถ พูดคุย แลกเปลี่ยน ความรู้ประสบการณ์ กับศิลปินโดยตรงได้ตลอดเวลาครับผม
เริ่มกิจกรรม 9.00-16.00 อยู่บนเขาครับ

งานโครงการ”มองเขายี่สาร ผ่านงานศิลป์” โดยศิลปินและเยาวชน จะมีขึ้นวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2565 นี้ ที่บริเวณบนเขายี่สาร ตั้งแต่เวลา 9.00 น.ถึง 16.00 น.เป็นต้นไป

ขจร วัตรเอก KEY 8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ผบช.ภ.7 แถลงจับกุมมือยิงสาวใหญ่ตายคาบ้าน เพื่อชิงสร้อยทองขายเล่นพนันออนไลน์

ผบช.ภ.7 แถลงจับกุมมือยิงสาวใหญ่ตายคาบ้าน เพื่อชิงสร้อยทองขายเล่นพนันออนไลน์

  วันที่ 7 ธันวาคม 2565 ที่สภ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 แถลงว่าพล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ได้จับกุมตัวนายวัชราวุธ บุญเรืองรอด อายุ 31 ปี ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.470/2565 ลงวันที่ 6 ธันวาคม 2565 ข้อหา “ชิงทรัพย์ในเคหสถาน โดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธปืน โดยแปลงตัว หรือทาด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้น ไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา เพื่อความสะดวกในการที่จะกระทำความผิดอย่างอื่น และฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอา หรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแก่การที่ตนได้ กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้ กระทำไว้ มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต  พาอาวุธปืนติดตัว ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และโดยไม่มีเหตุ จำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ ชุมนุมชน


โดยจับตัวได้ที่บ้านพักในจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคาน้ำหนัก 2บาท พระเหลี่ยมทอง 1 องค์ อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ไม่มีหมายเลขทะเบียน ขนาด .38 ที่ใช้ในการก่อเหตุ เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 อีก8 นัด

และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นเวฟ 125 ไอ สีแดงดำ ทะเบียน 1กถ-7307สุพรรณบุรี ที่ใช้ในการก่อเหตุยิงและชิงทรัพย์ น.ส.น้ำอ้อย เวสสะภักดี อายุ 46 ปี เสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 99/13-15 ม.9 ต.หนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐม และหลบหนี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ 15.47 น.

โดยนายวัชราวุธ บุญเรืองรอด ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวยิงผู้เสียหายเนื่องจากต้องการทรัพย์สิน แล้วขี่รถหลบหนีไปหลบซ่อนที่บ้านภรรยา แถวบ้านนาสร้าง ตำบลนครปฐม อ.เมืองนครปฐม ทำการเปลี่ยนยางรถจักรยานยนต์ จากล้อแม็กดำ เป็นล้อซี่ลวด กระทั่งรุ่งเช้าดูข่าวว่าคนที่ไปชิงทรัพย์มานั่นเสียชีวิต จึงหลบหนีไปพักที่บ้านพ่อในจ.สมุทรปราการ และยังไม่กล้าขายสร้อยคอทองคำเพราะกลัวตำรวจตามเจอ

รายงานข่าวแจ้งว่า นายวัชราวุธ บุญเรืองรอด เป็นชาวจังหวัดสุพรรณบุรี มาทำงานเป็นลูกจ้างที่ร้านผ้าม่านแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครนครปฐม พักอาศัยอยู่กับแฟนในตำบลนครปฐม ติดการพนันออนไลน์ และช่วงหลังเล่นเสียจนหมดตัว จึงตระเวนหาเหยื่อ ลงมือก่อเหตุเพราะต้องการเงิน และวันเกิดเหตุ นายนายวัชราวุธ ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนไปเรื่อยๆ กระทั่งมาสวนกับผู้เสียหายจึงติดตามมา และลงไปก่อเหตุ ระหว่างหลบหนีได้เปลี่ยนเสื้อผ้า ทิ้งระหว่างทางเพื่อไม่ให้คนจำได้

ภาพ-ข่าว ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ

ขจร วัตรเอก KEY 8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

MG.ราชบุรี เปิดตัวรถไฟฟ้าคันใหม่ เป็นทางเลือกของการใช้พลังงานสะอาด

MG.ราชบุรี เปิดตัวรถไฟฟ้าคันใหม่
เป็นทางเลือกของการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น ด้านในตัวรถมีสิ่งอำนวยความสะดวก และปลอดภัย รูปตัวรถออกแนวสปอร์ต

นายศักดิ์ชัย พิศาลผล ผู้บริหาร บริษัท MG ก้องกังวาล จำกัด ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี

นายศักดิ์ชัย พิศาลผล ผู้บริหาร บริษัท MG ก้องกังวาล จำกัด ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ในประเทศไทยมีการตื่นตัวรถไฟฟ้าสูงมาก ตอนนี้รถไฟฟ้าจากประเทศจีนหลายยี่ห้อได้เข้ามาในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว โดย บริษัทแรกที่นำเข้ามาคือ บริษัท MG และ บริษัท เจ็ทวอ มอเตอร์ ซึ่งการจองรถไฟฟ้าในประเทศไทย ทุกยี่ห้อมากกว่า 10,000 คัน ตอนนี้ถือว่าผู้บริโภคให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เป็นพลังงานสะอาด ประหยัดมาก ค่าที่ชาร์ตไฟจะถูกกว่าน้ำมันหลายเท่าตัว อย่างตอนนี้งานมอเตอร์โชว์ที่เมืองทองทุกยี่ห้อได้นำรถไฟฟ้ามาจัดแสดง และมีหลายยี่ห้อที่จำหน่ายและส่งมอบภายในสิ้นปีนี้ ยอมรับว่าช่วงนี้กระแสรถไฟฟ้ามาแรงมาก ทาง MG ก้องกังวาล ได้มียอดจองมากกว่า 30 คัน ตอนนี้ได้ทยอยส่งมอบมาต่อเนื่อง


การเปิดตัวรถ MG ในประเทศไทยใช้ชื่อ MG 4 แต่ในประเทศจีนจะใช้ MG มู่หลาน ในการเปิดราคาซึ่งทำให้ประชาชนในประเทศไทยตกใจเพราะราคาถูกมาก รวมส่วนลดที่รัฐบาลสนับสนุนแล้ว ถ้าตัวท็อป อยู่ที่ราคาประมาณ 960,000 กว่าบาท ถ้าเป็นตัวรองท็อป ราคาถูกกว่ากันประมาณ 100,000 บาท หรือ อยู่ประมาณ 860,000 กว่าบาท พลังงานสามารถวิ่งได้กว่า 400 กิโลเมตร ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภคที่จะหันมาใช้พลังงานสะอาด ปัจจุบันต้องยอมรับว่ารถที่มีพลังแรกคือ รถที่ใช้เครื่องยนต์ปกติ ต่อมาเป็นรถยนต์ที่เป็นไฮบริด และรถที่วิ่งน้ำมันได้ และสามารถชาร์ตไฟได้ และรถอีวีที่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน จึงน่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ประชาชนน่าจะมาให้ความสนใจมากขึ้น


สำหรับรถ MG ถือเป็นครั้งแรกของการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ กับขุมพลังการขับขี่จากระบบขับเคลื่อนล้อหลังในรถยนต์ EV ที่มาพร้อมนวัตกรรม NEBULAPURE ELECTRIC PLATFORM สู่การเกิดมาเพื่อเป็นต้นแบบมาตรฐานใหม่ให้กับรถ EV เป็นการผสานที่สร้างสรรค์ ผสานไปกับความล้ำสมัยให้มีความปลอดภัย ก้าวเข้าสู่นิยามใหม่ของการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ให้คุณไปได้เร็ว และแรงกว่าที่เคย เพราะเราเชื่อว่าทุกคนเกิดมาเพื่อเป็นไอคอนของบางสิ่ง NEW MG4 ELECTRIC ICON


สำหรับการออกแบบตัวรถใหม่ให้อารมณ์พรีเมียมสปอร์ต แบบ AVANT –GARDE INDUCTIVE DESIGN ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS ไฟท้าย LED หลังคาแบบ 2 –TONE พร้อมสปอยเลอร์หลัง แบบ TWIN ARROW WING ด้านในตัวรถถูกออกแบบอย่างสวยงาม มีอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย หน้าจอ TOUCHSCREEN ขนาดใหญ่ 10.25นิ้ว พื้นที่วางของ จุดของได้เยอะถึง 2 ระดับ มีช่องเชื่อมต่อ USB TYPEC และ A AREA จุของได้เยอะถึง 2 ระดับ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยใช้งานได้เต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น ด้วยเบาะด้านหลังปรับพับได้ พร้อมช่องใส่สมาร์ทโฟนหลังเบาะนั่งคู่หน้า สามารถปรับความลึกได้ 2 ระดับ มีความโดดเด่นอย่างลงตัวทุกองค์ประกอบ เพื่อให้ดูโปร่ง เรียบง่ายแต่เน้นอารมณ์ความเป็นสปอร์ตพร้อมคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยสูงสุด
สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่โชว์รูมรถ MG ก้องกังวาล ริมถนนเพชรเกษม ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรีได้


ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ขจร วัตรเอก KEY 8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ม.ราชภัฏ จอมบึง จ.ราชบุรี นำนักศึกษาเรียนรู้การทำว่าวจุฬา ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมาแต่สมัยกรุงสุโขทัย รอการสืบทอดแลของเล่นโบราณให้คงอยู่คู่แผ่นดิน


มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี นำนักศึกษาเรียนรู้การทำว่าวจุฬา ที่ อ.วัดเพลง เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมาแต่สมัยกรุงสุโขทัย รอการสืบทอดและอนุรักษ์ของเล่นโบราณให้คงอยู่คู่แผ่นดิน


ดร.รัชนิดา รอดอิ้ว อาจารย์ ชญาดา อาสนสุวรรณ อาจารย์สาขาวิชานิเทศศาสตร์ และนวัตกรรมสื่อ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงและนางฐิรัตทียา สุภาชัย ประชาสัมพันธ์จังหวัดราชบุรี ได้นำนักศึกษาชั้นปีที่ 2 จากสาขาวิชานิเทศศาสตร์และนวัตกรรมสื่อ มาศึกษาเรียนรู้และฝึกการถ่ายภาพทำข่าว การทำว่าวจุฬาไทย ของนายปรีชา สุคนธมาน อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 5 ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี


ว่าวจุฬาเป็นว่าวไทย ที่มีการละเล่นมาแต่สมัยโบราณ ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา รัตนโกสินทร์ มาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะรัชกาลในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 ทรงโปรดปรานการเล่นว่าวไทยโบราณมาก มีการละเล่นว่าวจุฬา และว่าวปักเป้า ชิงถ้วยพระราชทานในสมัยนั้น โดยให้พลโท พระยาสโมสรสรรพการ (ทัด ศิริสัมพันธ์ ) เป็นนายสนาม นักเล่นว่าวนิยมนำว่าวมาแข่งขัน จึงเป็นกีฬาที่สนุกสนาน เมื่อถึงฤดูแข่งขันว่าวจะมีประชาชนไปชมกันทุกเพศทุกวัย ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพวงมาลัย โดยทรงสวมให้เพื่อเป็นเกียรติ
สำหรับว่าวจุฬาจะได้รับพระราชทานผ้าแพรปัก พระปรภิไธย ย่อ จปร. ติดที่ตัวว่าว ผ้าแพร 3 สี คือ สีทอง สีชมพู และสีทับทิม ส่วนว่าวปักเป้าได้รับดอกจันทน์ 3 สี ในระหว่างแข่งขันด้วย มีแตรวงและพิณพาทย์ บรรเลงเพลงต่างๆทำให้สนุกสนานครึกครื้น


แต่ปัจจุบันการทำว่าว เล่นว่าวลดน้อยลง เพราะผู้เชียวชาญการทำได้ล้มหายตายจากกันไป แต่ก็ยังมีผู้สืบทอดกันมา อย่างอาจารย์ปรีชา สุคนธมาน ยังมีการสืบทอดการทำว่าวจุฬาไทยมานานกว่า 50 ปีแล้ว เพื่อเป็นการสืบสานศิลปะแขนงนี้ จึงได้นำน้อง ๆ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 จากสาขาวิชานิเทศศาสตร์และนวัตกรรมสื่อ มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง ไปเลือกไม้ไผ่สีสุก ซึ่งเป็นไม้ที่มีความเหมาะสมคงทนในการทำว่าว เนื่องจากเนื้อไม้มีน้ำหนักเบา เหนียว ยืดหยุ่นสูง ไม่หักง่าย

โดยจะต้องเลือกไม้ที่อยู่บริเวณกลางกอไผ่ จะมีแสงแดดส่องได้ทั่วลำ อายุในการใช้อยู่ประมาณ 3-5 ปี จึงตัดลงมาทำว่าวจุฬาได้รูปทรงดี นำมาตัดเป็นท่อนผ่าออกมาเป็นซีก เหลาให้เรียวยาวตามสัดส่วน โดยหากเป็นว่าวจุฬาจะประกอบด้วยไม้ 5 อัน ไม้อันกลางเรียกว่า “อก” เหลาหัวท้ายให้ปลายเรียว ไม้อีก 2 อัน ผูกขนาบตัวปลายให้จรดกันเป็นปีก และไม้อีก 2 อัน เป็นขาว่าว เรียกว่า “ขากบ” จากนั้นนำโครงว่าวมาขึงด้าย เป็นตารางตลอดตัวว่าวเรียกว่า “ผูกสัก” แล้วใช้กระดาษทากาวแล้วปิดทับลงบนโครง โดยวิธีการทำอาจจะดูว่าทำง่าย ๆ แต่ความเป็นจริงแล้ว การทำว่าวถือเป็นภูมิปัญญาที่จะต้องใช้ความอดทน มีสมาธิ เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียด หากทำแล้วไม่ได้สัดส่วนอาจจะทำให้ว่าวไม่สามารถลอยตัวขึ้นบนฟ้าได้เลย หรือ อาจลอยตัวขึ้นได้ แต่การทรงตัวไม่ค่อยดี เอียงซ้าย เอียงขวา หรือ หมุนควงดิ่งลงพื้นดินได้ โดยช่างแต่ละคนจะมีเทคนิคและเคล็ดลับการทำว่าวที่แตกต่างกันไป

ส่วนการทำว่าวจุฬาแต่ละตัวใช้เวลาค่อนข้างนานประมาณ 3-7 วัน อยู่ที่ความชำนาญและความประณีต ทั้งการติดดอกลายไทยประยุกต์เป็นรูปต่าง ๆ ตั้งแต่ 5-7 ชั้น และยังพัฒนาเรื่องรูปทรงการขึ้น การส่าย ต้องสวย ต้องเสียงดัง และต้องสูง ทรงตัวดี ส่วนราคาจำหน่ายมีหลายขนาดตั้งแต่ 1 – 4 ศอก เช่น ว่าวจุฬา 1 ศอก หรือ ขนาด 50 เซนติเมตร ขายราคา 750 บาท ขึ้นไป แล้วแต่ละขนาดราคาจะไม่เท่ากัน


นายปรีชา สุคนธมาน หรือ ลุงชาจุฬาไทย ผู้อนุรักษ์ว่าวจุฬาโบราณ กล่าวว่า อยากให้ว่าวไทยมีการอนุรักษ์สืบสานต่อไปจนถึงชั่วลูกหลาน เพราะว่าว่าวไทยตอนนี้กำลังจะหมดไปแล้ว จึงคิดว่าอยากทำให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ก่อนที่ชีวิตยังมีอยู่ อยากให้มีการส่งเสริมเรื่องมีบุคลากรมาสืบสานต่อ อยากให้มีการส่งเสริมเรื่องผู้ที่จะสืบสานหรือ เรื่องงบประมาณต่างๆมาช่วย เพราะการทำจะมีค่าใช้จ่ายเรื่องหาไม้ กระดาษ อุปกรณ์ในการทำว่าว อยากให้เด็กได้กลับมามีว่าวไทยวิ่งเล่นกันอีกเหมือนเดิมสมัยที่ตนเองเคยเป็นเด็กได้วิ่งเล่นว่าวไทยในสมัยก่อนกลับคืนมา ปัจจุบันนี้เด็ก ๆ จะยึดติดเล่นอยู่แต่โทรศัพท์มือถือ เกม ยาเสพติด จึงอยากทำให้เด็กหันมาสนใจการเล่นว่าวไทยอีกครั้ง อีกทั้งยังได้ประโยชน์คือ เด็กยังได้ออกกำลังกายมีสุขภาพที่แข็งแรง ช่วงหน้าเล่นว่าวที่กำลังจะมาถึงนี้ อยากให้ผู้ที่สนใจได้จัดกิจกรรมว่าวไทยกันให้มากขึ้น ทั้งว่าวจุฬา ว่าวปักเป้า ว่าวสาย ว่าวภาพต่างๆ อยากให้มองอย่างลึกซึ้งถึงประโยชน์ของการเล่นว่าว ซึ่งขณะนี้ได้รับการติดต่อจากสถานที่ต่างๆ เช่น บ้านไร่ในฝัน อ.เมืองราชบุรี ให้นำว่าวจุฬาไปแสดงโชว์ในงานวันเด็กแห่งชาติที่กำลังจะมาถึงในต้นเดือนมกราคมนี้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หันมาช่วยกันส่งเสริมและสนับสนุนภูมิปัญญาว่าวไทยโบราณได้ดำรงคงอยู่ไปชั่วลูกหลานจะได้ไม่สูญหายไปจากแผ่นดิน
สำหรับที่นี่ยินดีสอนการทำว่าวจุฬาฟรี ทางเฟซบุ๊ก ชา จุฬาไทย หรือ ติดต่อเบอร์ 081-4979219


ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ขจร วัตรเอก KEY 8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

สาวราชบุรีเปิดร้าน “หลงรักกัญ” ขายกัญชากลางเมืองโอ่งราชบุรี อย่างถูกกฎหมาย


สาวราชบุรีเปิดตัวร้าน “ หลงรักกัญ ” ขายกัญชากลางเมืองโอ่งราชบุรี อย่างถูกกฎหมาย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง มีสาวหนุ่มให้ความสนใจเมนูเครื่องดื่ม และขนม ที่ร้านมีไอเดียสร้างสรรค์ หวังเอาใจลูกค้าหลังโควิดคลี่คลาย

นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี มาร่วมพิธีเปิดแชมเปญแสดงความยินดี


เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา นางสาวอภิรดา พงษ์ประภัทร พร้อมเพื่อน ๆ ร่วมเปิดร้าน “ หลงรักกัญ ” ขายกัญชา ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง เขตเทศบาลเมืองราชบุรี โดยมีนายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี มาร่วมพิธีเปิดแชมเปญแสดงความยินดี มีการนำเมนูเครื่องดื่มจากกัญชา ที่ปลูกเลี้ยงอย่างดีแบบออแกนิกส์มาปรุงเป็นเมนูต่าง ๆ เช่น เมนูขนมมาให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ชิมกัน พร้อมยังได้เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงและดนตรีที่มาขับกล่อมให้นักท่องเที่ยวได้มีความสุข

นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี


นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี เปิดเผยว่า หลังมีการปลดล็อกกัญชาไปเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่มาจะบริโภคกัญชาจะต้องมีอายุมากกว่า 20 ปี บริบูรณ์ เป็นคนที่ห้ามตั้งครรภ์ ซึ่งกัญชาในสถานศึกษาก็ยังถือว่าผิดกฎหมายอยู่ ถ้าหากมีการจำหน่ายกัญชาในสถานที่ เช่นที่ร้าน “ หลงรักกัญ ” ซึ่งมีการได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข โดยสาธารณสุขจังหวัดราชบุรีเป็นผู้ที่ออกใบสำหรับจำหน่ายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กัญชาได้ ถือว่าเป็นร้านแห่งแรกในจังหวัดราชบุรีและแห่งแรกในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงอยากจะบริโภคกัญชาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้มาบริโภคอุดหนุนได้ที่ร้าน “ หลงรักกัญ ” ได้


สำหรับบรรยากาศของร้านถูกออกแบบตกแต่งเป็นห้องกระจก อยู่ใกล้กับสะพานธนรัชต์ ที่มีระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จมอยู่ใต้น้ำ โดยขนาบคู่ไปกับสะพานขึงรถไฟแห่งแรกของประเทศไทย ริมแม่น้ำแม่กลอง ที่ได้มีการก่อสร้างแล้วเสร็จและเตรียมเปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการในช่วงปีหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้ ถือเป็นสะพานขึงที่สวยงาม และเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.ราชบุรี และของประเทศไทย ทำให้ร้าน “หลงรักกัญ” ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดสะพาน ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมานั่งรับประทานอาหาร และเครื่องดื่มเมนูน้องใหม่ โดยเฉพาะช่วงเย็นวันศุกร์ – อาทิตย์ จะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะมีการเปิดตลาดโคยกี๊ริมแม่น้ำแม่กลอง มีการจำหน่ายอาหาร สินค้า ผลิตภัณฑ์ของดี ของอร่อยมาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ เลือกชิม เลือกช้อป ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายริมแม่น้ำช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งร้านจะเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ร้าน “ หลงรักกัญ ” เบอร์ 081-0146444


ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ขจร วัตรเอก KET 8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

เทศบาลเมืองบางคูวัด  อ.เมืองปทุมธานี เปิดลงทะเบียนผู้สูงอายุ (รายใหม่) ประจำปีงบประมาณ  2567

  นายวีระ  กล่ำสนอง  นายกเทศมนตรีเมืองบางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี เปิดลงทะเบียนผู้สูงอายุ (รายใหม่) ปีงบประมาณ  2567


  นายวีระ  กล่ำสนอง  นายกเทศมนตรีเมืองบางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี  เปิดเผยว่า ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 กำหนดให้ผู้สูงอายุแสดงความจำนงขึ้นทะเบียนเพื่อขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุประจำปีงบประมาณ  2567 ต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในปีงบประมาณ 2567  โดยเป็นผู้ที่เกิดก่อน 2 กันยายน 2507 (ในกรณีไม่ปรากฏวันที่ เดือนเกิด ให้ถือว่าบุคคลผู้นั้นเกิดในวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้นๆ) และยังไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้แก่  ผู้รับเงินบำนาญหรือเบี้ยหวัด  บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน


นายกเทศมนตรีเมืองบางคูวัด กล่าวอีกว่า สำหรับผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทนรายได้ประจำหรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจำยกเว้นผู้พิการและผู้ป่วยเอดส์ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพของ อปท.
นายวีระ  กล่าวต่อว่า ผู้สูงอายุที่ต้องการแสดงความจำนงขึ้นทะเบียน เพื่อขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ  ประจำปีงบประมาณ 2567 ยื่นคำร้องขอขึ้นทะเบียนได้ที่  สำนักงานเทศบาลเมืองบางคูวัด  ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน  2565 และ เดือนมกราคม ถึงเดือนกันยายน 2566 (ในวัน เวลา ราชการ) พร้อมทั้งให้นำบัตรประชาชนหรือบัตรที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายของผู้ขอ ลงทะเบียนพร้อมสำเนา 1 ชุด ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา 1 ชุด สมุดบัญชีเงินฝาก ธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ สาขาใดก็ได้พร้อมสำเนา 1 ชุดเพื่อเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนผู้สูงอายุ หากท่านมีข้อสงสัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองบางคูวัด หมายเลขโทรศัพท์ 02-1570845-50 ต่อ 104 ในวันและเวลาราชการ

ภาพ-ข่าว.ประพฤติ อรรฆธน

ขจร วัตรเอก KEY 8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ราชบุรี – จัดงานมหกรรมว่าวนานาชนิด ณ บ้านไร่ในฝันเดอะนายน์ สุดยอดแห่งความสนุกสนานของเด็กๆ และผู้ใหญ่

จังหวัดราชบุรีจัดงานมหกรรมว่าวนานาชนิด ณ บ้านไร่ในฝันเดอะนายน์
สุดยอดแห่งความสนุกสนานของเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ ในงานโชว์มหกรรมว่าวแบบหลากหลาย


เมื่อวันที่ 12-13 พ.ย. 65 ที่ผ่านได้การจัดงานมหกรรมว่าวนานาชนิด ที่บริเวณสนามด้านหน้าของสถานที่ท่องเที่ยว ณ บ้านไร่ในฝัน ตลาดเดอะนายน์ ต.บ้านไร่ อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยมี พลตำรวจตรี วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส. เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ นายดุสิต จิรภัทรากร เลขานุการนายก อบจ.ราชบุรี นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี นายเรืองชัย เนตรปฐมพร รองนายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี นายพินิจ ด้วงพิบูลย์ นายก อบต.ตำบลบ้านไร่ นางนิตฐา เจริญทรัพย์ ผู้บริหารบ้านไร่ในฝัน ตลาดเดอะนายน์ พร้อมกลุ่มผู้อนุรักษ์การเล่นว่าว และประดิษฐ์ว่าว นำโดยนายพนัส เทียนศิริ หรือ เม่น มหาชัย นายพันธุ์ แก้วนุ้ย ผู้นิยมการเล่นว่าว และสมาชิกทีมเล่นว่าวจาก จ.ราชบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพมหานคร ตลอดจนพี่น้องประชาชน และภาคเอกชน ร่วมพิธีเปิดงาน


ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวมีโชว์การเล่นว่าวนานาชนิด ที่มีผู้ปกครอง พาบุตรหลานมาทดสอบการวิ่งเล่นว่าว เพื่อได้ออกกำลังกายผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และห่างไกลยาเสพติด และให้เด็กได้เว้นช่วงจากการอยู่กับโทรศัพท์มือถือนาน ๆ พร้อมอุดหนุนว่าวที่ประดิษฐ์ขึ้นมา เพื่อนำเงินรายได้ส่วนหนึ่ง มอบให้เป็นการกุศลกับโรงเรียนวัดใหม่ราษฎร์บำรุงเจริญธรรม ต.บ้านไร่

โดยมีนายมนต์ทิพย์ มรรคเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ เป็นผู้แทนรับมอบ
สำหรับงานมหกรรมว่าวนานาชนิด ที่จัดขึ้น ถือเป็นความร่วมมือของผู้นำท้องถิ่น กลุ่มผู้อนุรักษ์การเล่นว่าว การทำว่าว รวมถึงผู้บริหารบ้านไร่ในฝัน ตลาดเดอะนายน์ ที่ต้องการอนุรักษ์กีฬาว่าวไทยให้คงอยู่คู่ชุมชนท้องถิ่น โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และผู้ที่สนใจ มีพื้นที่ในการเล่นว่าวนานาชนิด ที่ปัจจุบันหาดูได้ยากมาก อาทิเช่น ว่าวจุฬา ว่าวปักเป้า ว่าวควาย ว่าวแฟนซี ว่าวการ์ตูน ว่าวสาย ว่าวนก ว่าวงู ว่าววงเดือน ว่าวดุ๊ยดุ่ย ว่าวอีลุ้ม ว่าวผีเสื้อ ว่าวปลา และว่าวนกยูง ฯลฯ


อย่างไรก็ตามการจัดกิจกรรมดังกล่าว นอกจากจะเป็นการอนุรักษ์ว่าวไทยแล้ว ยังเป็นการเปิดพื้นที่ให้เด็ก ๆ ได้รู้จักลักษณะ และการเล่นว่าวนานาชนิด ที่สามารถประดิษฐ์เล่นเองได้ง่าย ๆ การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ การทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว ฝึกการใช้ทักษะ สมาธิ ในการชักว่าวขึ้นสู่ท้องฟ้า และการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 คลี่คลายลง

ภาพ,ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

กรมวังผู้ใหญ่ เปิดหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข รพ.ศูนย์นครปฐม โดยหลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม สร้างเพื่อผู้ต้องขังจากเรือนจำนครปฐม

กรมวังผู้ใหญ่ เปิดตัวหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม โมเดลจัดแยกการตรวจรักษาผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขังและประชาชนทั่วไป โดยหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นำคณะศิษยานุศิษย์ ร่วมสนับสนุนส่งเสริมการจัดการที่เกิดประโยชน์ลดความเครียดสร้างความสะดวกในการรับการตรวจรักษาอย่างไม่กดดัน


ที่อาคารรวมเมฆ โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม พล.อ.อ.สุบิน ชิวปรีชา กรมวังผู้ใหญ่ เป็นประธานในพิธีเปิดหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม โดยมีนายขวัญไชย สันติภราภพ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม นายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเรือนจำกลางนครปฐม โรงพยาบาลนครปฐม และพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมและศิษยานุศิษย์ เข้าร่วมในพิธีดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน



สำหรับหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เป็นการดำเนินการโครงการต้นแบบในการจัดทำหอผู้ป่วยสำหรับผู้ต้องขังโดยเฉพาะโดยจะเป็นการจัดไว้สำหรับแยกออกจากห้องรักษาผู้ป่วยทั่วไปที่มารับการตรวจและรักษาตัวภายในโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ซึ่งจะมีแพทย์ พยาบาล และบุคคลากรทางการแพทย์ประจำอยู่ในหอผู้ป่วยดังกล่าว ซึ่งจะมีการจัดเตียงสำหรับผู้ป่วยที่ต้องนอนพักรักษาเบ็ดเสร็จ ซึ่งจะทำให้เกิดความสะดวกสบายกับผู้ที่มารับการตรวจรักษาทั้งสองส่วนแบบแยกออกจากกันโดยชัดเจน




พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า สำหรับหอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข ถือว่าเป็นหอผู้ป่วยแห่งแรกที่ทางอาตมาและศิษยานุศิษย์ของวัดไผ่ล้อมได้ร่วมมือกับเรือนจำกลางนครปฐม ในการจัดสร้างขึ้นที่โรงพยาบาลนครปฐม โดยเป็นการร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐ วัด และภาคประชาชน ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรักษาผู้ป่วยที่เป็นผู้ต้องขังและประชาชนทั่วไป



หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่าเดิมสืบเนื่องจากที่อาตมาเข้ารับการตรวจสุขภาพและรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลนครปฐม ครั้งหนึ่งได้เห็นมีรถของกรมราชทัณฑ์ นำผู้ต้องขังที่เป็นผู้ป่วยมารับการตรวจรักษาที่ ซึ่งก็มีภาพที่น่าหดหู่ใจเนื่องจากต้องมีการสวมกุญแจมือและบางรายที่ก่อโทษหนักก็จะถูกใส่โซตรวนล่ามขามาด้วย ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ต้องขังเกิดความอาย วิตกและเกิดความเครียดทั้ง ๆที่ป่วยและยังขาดอิสรภาพ ขณะที่ประชาชนที่มารับการรักษาก็เกิดความไม่สบายใจเมื่อต้องมาอยู่ในช่วงของการรอรับการตรวจรักษา จึงเป็นที่มาที่อยากจะทำให้เกิดความสะดวกและแยกสัดส่วนที่ชัดเจนขึ้น



“อาตมาเห็นว่าการต้องจัดทำหอผู้ป่วยแบบแยกออกจากกัน จะทำให้ทุกฝ่ายเกิดความสะดวกในการรับการตรวจรักษา เพราะประชาชนที่ป่วยก็มาเกิดความกลัว ส่วนผู้ต้องโทษก็เครียดไปด้วย อาตมาจึงได้มาหารือกับศิษยานุศิษย์ กองทัพบุญของวัดไผ่ล้อม ซึ่งก็ได้เห็นตรงกันว่าควรที่จะมีหอผู้ป่วยที่ยากจากกัน จึงได้นำไปสู่การหารือกับเรือนจำกลางนครปฐมและกรมราชทัณฑ์ และเกิดเป็นหอผู้ป่วยต้นแบบ ที่โรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับสังคมอีกหนึ่งรูปแบบด้วย”

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS 111122

เทศบาลนครนครปฐม ร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทย จัดงานประเพณีลอยกระทง ภายใต้ชื่องาน “คืนเพ็ญงามอร่าม สายน้ำประวัติศาสตร์ร้อยปี คลองเจดีย์บูชา”

เทศบาลนครนครปฐม ร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทย จัดงานประเพณีลอยกระทง ภายใต้ชื่องาน “คืนเพ็ญงามอร่าม สายน้ำประวัติศาสตร์ร้อยปี คลองเจดีย์บูชา”

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ที่บริเวณคลองเจดีย์บูชา หน้าวัดพระงาม พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้เป็นประธานเปิดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2565 โดยมี นายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครนครปฐม ร่วมกับ สำนักงานจัดประโยชน์และรักษาองค์พระปฐมเจดีย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 8 พฤศจิกายน 2565 ภายใต้ชื่องาน “คืนเพ็ญงามอร่าม สายน้ำประวัติศาสตร์ร้อยปี คลองเจดีย์บูชา” เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและขอขมาพระแม่คงคา อีกทั้งสืบสานศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามให้อยู่คู่สังคมไทย ตลอดจนส่งเสริมให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ในการจัดงานประเพณีลอยกระทง และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครปฐม อีกด้วย

โอกาสนี้ พระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม รองเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร แสดงพระธรรมเทศนา เนื่องในวันลอยกระทง จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายกเทศมนตรีนครนครปฐม ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติ ร่วมลอยกระทง โดยมีประชาชนร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

สำหรับกิจกรรมภายในงานคืนเพ็ญงามอร่าม สายน้ำประวัติศาสตร์ร้อยปี คลองเจดีย์บูชา ประกอบด้วย ขบวนแห่กระทง การแสดงเพลงเรือ การแสดงมหรสพ กิจกรรมวาดภาพเหมือน ตลาดย้อนยุค การแสดงทางวัฒนธรรม การเต้นประกอบดนตรีผู้สูงอายุ การประกวดหนูน้อยนพมาศ การแสดงกระทงและโคมแขวนสวยงาม การแสดงดนตรีไทย ลูกทุ่ง สตริง คลาสสิก และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ผู้ว่าฯ จันทบุรี ร่วมงานแต่งนักกีฬาซูโม่ อันดับ2 ของโลก

ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ร่วมงานแต่งนักกีฬาซูโม่ทีมชาติไทย ที่เคยติดอันดับ2 ของโลก

ที่เซ็ลทรัล ฮอลล์ จ.จันทบุรี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้เดินทางมาเป็นเป็นประธานจัดงาน มงคลสมรส ระหว่าง นางสาววิภารัตน์ วิทูธีรศานต์ (เตย) บุตรตรีของ นายภานุ (กำนันต้น) และนางรุ่งรัตน์ (เจ๊ต๋อย) วิทูธีรศานต์ เจ้าของลานกางเต้นท์กำนันต้น เขาคิชกูฎ อ.เขาคิชกูฏ จ.จันทบุรี กับนายจิรวัฒน์  เกรียงพิริยกุล(อาร์ม) บุตร นายสวัสดิ์ (บอสแก่น)  เขตน์คงกับ
และนางศิริพร (อาจารย์พร)
โคตะมา


  โดยเจ้าสาวงานนี้เป็นบุตรตรีคนเดียวของนายภานุ และนางรุ่งรัตน์ มีดีกรีเป็นนักกีฬาทีมชาติซูโม่อันดับ 2 ของโลก จากรายการ women sumo wolrd championship 2017

  นายภานุหรือกำนันต้นเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนและภรรยาดีใจและมีความสุขมากที่ได้ร่วมกับบิดา มารดา ฝ่ายเจ้าบ่าว ร่วมกันจัดงาน มงคลสมรสให้ลูกสาวคนเดียวของตน งานมงคลสมรสในครั้งนี้ตนต้องขอขอบคุณ งท่านมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ที่ได้ให้เกียรติมาเป็นประธาน
พร้อมทั้ง ผศ.ไวกูณฑ์ ทองอร่าม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
และผู้มีเกียรติ พร้อมญาติผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อนๆ

ที่เดินทางมาจากสถานที่ต่างๆ หลายท่าน ตนได้สั่งอาหารโต๊ะจีนซื่อดังจาก จ.นครปฐม คือ“ยุทธพงษ์โภชนา” ซึ่งเป็นโต๊ะจีนแนวหน้าจังหวัดนครปฐมมาเลี้ยงรับรอง แขกผู้มีเกียรติ  จำนวน 150 โต๊ะ เต็มพื้นที่ของสถานที่จัดงาน ตนทั้งสองต้องขอขอบคุณ ผู้ใหญ่ และญาติมิตรทุกท่าน ที่ให้เกียรติมาร่วมฉลองงาน มงคลสมรสของบุตรี ตนหากมีสิ่งผิดพลาดประการใดตนทั้งสองกราบขออภัย มา  ณ ที่นี้ด้วย

ภาพ-ข่าว ประพฤติ อรรฆธน


ขจร วัตรเอก NEWS▪︎PRESS รายงาน

เปิดยิ่งใหญ่งานท่องเที่ยวเขาช่องพราน ‘ชุมชนยลถ้ำค้างคาวร้อยล้าน ตระการตาแสงเสียงประวัติศาสตร์ “ เขาช่องพราน LIGHT & SOUND ”

อลังการเปิดงานท่องเที่ยวเขาช่องพราน
ชุมชนยลถ้ำค้างคาวร้อยล้าน ตระการตาแสงเสียงประวัติศาสตร์ “ เขาช่องพราน LIGHT & SOUNDW ”

นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี
นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส. เขต 2 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ นายชัยทิพย์ กมลพันธุ์ทิพย์ ส.ส. เขต 3 ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์

ที่วัดเขาช่องพราน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส. เขต 2 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ นายชัยทิพย์ กมลพันธุ์ทิพย์ ส.ส. เขต 3 ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ นายสุธีร์ เล้าสุบินประเสริฐ นายอำเภอโพธาราม ผู้บริหาร และสมาชิด อบจ. ผู้นำชุมชน และประชาชน ได้ร่วมพิธีเปิดงานท่องเที่ยวชุมชนยลถ้ำค้างคาวร้อยล้าน ตระการตาแสงเสียงประวัติศาสตร์ “เขาช่องพราน LIGHT & SOUND “ ที่วัดเขาช่องพราน ที่เปิดระหว่างวันที่ 4-7 พ.ย. 2565 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนมีรายได้

นายชัยทิพย์ กมลพันธุ์ทิพย์ ส.ส. เขต 3 ราชบุรี

สำหรับวัดเขาช่องพรานแห่งนี้ยังถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ.ราชบุรี ที่มีค้างคาวนับล้านๆอาศัยอยู่ และยังอยู่ในคำขวัญของจังหวัดราชบุรีตอนหนึ่งในข้อความที่ว่า “ เพลินค้างคาวร้อยล้าน ” ซึ่งถือเป็นอันซีนแห่งหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้ความสนใจและนิยมเดินทางมาชมความงดงามในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า จะมีฝูงค้างคาวบินออกจากปากถ้ำเป็นสายยาว เป็นภาพที่หาชมได้ยาก
สำหรับกิจกรรมช่วงเย็นซึ่งเป็นวันเปิดงาน ทางวัดเขาช่องพรานได้จัดพิธีบวงสรวงบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในวัด ได้แก่ พระพุทธมหามุนี (หลวงพ่อร้อยล้านศักดิ์สิทธิ์)ที่ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองราชบุรี

เนื่องจากแผ่นดินบริเวณแถบนี้มีความเกี่ยวข้องอยู่ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้สู้รบกับแม่ทัพพม่าในสมรภูมิรบบางแก้ว เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2317 หลังจากมีพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสร็จแล้วได้มีการเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่อลังการไปกับการแสดงละครอิงประวัติศาสตร์ของเหล่านักแสดงในชุดเรื่อง “ตำนาน เมืองราชาบุรียุทธวิธีศึกบางแก้ว”

ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน มีการแสดงระบำค้างคาว การแสดงนาฏมวยไทย และการแสดงละครอิงประวัติศาสตร์ ย้อนอดีตในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในสมรภูมิบางแก้ว ในพื้นที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นการรบครั้งประวัติศาสตร์ชาติไทยที่ได้มีการจารึกไว้ในพงศาวดารเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงดำเนินกลยุทธ์และยุทธวิธี ให้งุยอคงหวุ่น แม่ทัพใหญ่พม่า ยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข ทรงให้ทหารตั้งค่ายล้อมทัพพม่าเอาไว้ จนพม่าขาดแคลนเสบียงอาหาร ในที่สุดพม่าก็ทยอยกันออกมาถวายบังคมสมเด็จพระเจ้าตากสินเพื่อขอละเว้นชีวิตในครั้งนั้น พสกนิกรชาวราชบุรีต่างน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อแผ่นดินตราบจนทุกวันนี้

บริเวณภายในงานนักท่องเที่ยวยังได้เลือกซื้อสินค้าสินค้า ผลิตภัณฑ์ของดีในชุมชน อาหารคาวหวานพื้นบ้าน ผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ การจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก พืชผัก ผลไม้ ซึ่งเป็นของดีในชุมชนที่ชาวบ้านนำมาวางจำหน่ายในราคาถูกในช่วงระหว่างการจัดงานดังกล่าวด้วย ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาเที่ยวชมงานได้ในช่วงวัน เวลาดังกล่าวในช่วงวันหยุด ซึ่งยังสามารถเดินทาแวะเที่ยวพักผ่อนแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงได้อีกหลายแห่ง การเดินทางสะดวก สบาย ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ได้อีกด้วย

ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

จับแล้วผู้ต้องหาขโมยผ้าไตร จนมุมตำรวจนครปฐม หลังจากตระเวณขโมยของตามวัดหลายท้องที่

จับแล้วผู้ต้องหาขโมยผ้าไตร วัดพระศรีอารย์ จนมุมตำรวจนครปฐม หลังจากตระเวณขโมยของตามวัดหลายท้องที่

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนก่อเหตุขโมยผ้าไตรวัดพระศรีอารย์  ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้แล้ว  หลังติดตามและได้ก่อเหตุขโมยของตามวัดหลายท้องที่  

โดยก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจาก พระมหาสมบูรณ์ สัมปุณโณ เจ้าอาวาสวัดบุญมงคล หมู่ 5 ต.ดอนใหญ่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี ว่า กล้องวงจรปิดได้จับภาพคนร้ายไว้ได้ ขณะขับรถยนต์เข้ามาในวัดแล้วขโมยนั่งร้านเหล็กที่พึ่งซื้อมาได้ 2 เดือน เพื่อที่จะนำมาใช้ในงานก่อสร้างเพื่อบูรณซ่อมแซมบูรณะวัด  เป็นนั่งร้านแบบ 3 ชั้น ซึ่งนั่งร้านนั้นวางไว้ข้างศาลา โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา    ทางวัดได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้โดยคนร้ายเข้ามาก่อเหตุประมาณ 7 โมงเช้า ทางวัดมาทราบเรื่องก็เกือบ ๆ เที่ยงของวันที่ 22 เนื่องจากที่วัดมีพระเพียงไม่กี่รูป และเป็นวัดที่เงียบสงบอยู่กลางทุ่ง ซึ่งคนร้ายได้ขับรถกระบะเข้ามาในวัด โดยมาคนเดียวโดยคนร้ายใช้ผ้าโผกปิดหน้าปิดตา ซึ่งวันเกิดเหตุไม่ได้อยู่วันเนื่องจากติดกิจนิมนต์ที่ต่างอำเภอ พอกลับมาถึงวัดก็ทราบเรื่องว่าคนร้ายได้เข้ามาขโมยนั่งร้านไป ทางวัดก็ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.บางแพ ทางชุดสืบสวนก็ลงพื้นที่มาตรวจสอบดูที่เกิดเหตุพร้อมทั้งดูกล้องวงจรปิด เพื่อจะติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ส่วนนั่งร้านชุดนี้ซื้อมาประมาณ 9,000 บาท เพราะมีล้อด้วย ส่วนคนร้ายที่ดูจากกล้องวงจรปิดก็ไม่ทราบว่าคนในพื้นที่หรือเปล่าเนื่องจากไม่เคยเห็นรถคันนี้ในพื้นที่และคนร้ายปิดบังหน้าด้วย แต่ในภาพกล้องวงจรปิดดูเหมือนคนร้ายจะระแวงกลัวจะมีคนมาเห็น
               ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อช่วงก่อนออกพรรษาทางวัดยังไม่ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด จำได้ว่าน่าจะก่อนเที่ยง ก็มีคนร้ายขับรถยนต์กระบะสีบอร์นเงิน ผู้ชายคนเดียว เข้ามาหาพร้อมกับบอกอาตมาว่าตนมาจาก ต.พิกุลทอง เขตเมืองราชบุรี เนื่องจากญาติได้เสียชีวิต ตนอยากจะเป็นเจ้าภาพ เลยมาขอเปลี่ยนผ้าไตรจำนวน 4 ชุด ซึ่งตนเงินน้อยประกอบกับเศรษฐกิจไม่ดี จะซื้อใหม่ก็แพง หลวงพ่อก็เลยพาเดินไปที่ศาลา เพื่อนำผ้าไตรมาให้ แต่พอเปิดประตูไป ชายคนดังกล่าวก็เปลี่ยนใจจะขอเปลี่ยนผ้าไตรเป็น8ชุด พร้อมกับบอกว่าตนอยากเป็นเจ้าภาพ 2 คืน ตอนแรกอาตมาจะไม่ให้ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมให้ไป โดยชายคนดังกล่าวถวายซองมาให้ 200 บาท จากนั้นก็รีบขับรถออกไป ตนก็ไม่ได้ว่าไร ตกตอนเย็นอาตมากับพระในวัดได้ไปร่วมสวดศพที่วัดข้างเคียง ซึ่งระหว่างรอคนขับรถวัดตนก็มองออกมาเห็นรถกระบะขับเข้ามาที่ศาลาที่โยมที่วัดดูแลอยู่ตนก็คิดว่าอาจจะมาธุระกับโยมที่เฝ้าศาลา พอกลับมาถึงได้รู้ว่ารถคันดังกล่าวเข้ามายกผ้าไตรไปกว่า30ชุดร่วมที่เอาไปรอบแรกด้วย ซึ่งโยมที่เฝ้าศาลาบอกว่าเป็นคนเดียวกันที่มาเปลี่ยนผ้าไตรเพร่ะจำหน้าได้แม่นยำ หลวงพ่อจึงได้เข้าแจ้งความไว้
                ต่อมาทางวัดก็ทราบข่าวว่ามีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักผ้าไตรที่วัดพระศรีอารย์ เขต อ.โพธาราม ซึ่งภาพกล้องวงจรปิดที่ทางวัดจับภาพได้ลักษณะของรถใกล้เคียงกันเลย ต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดพระศรีอารย์ ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม เพื่อ ติดตามความคืบหน้าคดี พบเจ้าหน้าที่ของวัดกำลังจัดเตรียมสถานที่เพื่อเตรียมงานกฐินในวันที่ 6 พ.ย.65 ซึ่งมีญาติโยมที่ทราบข่าวว่าที่วัดมีคนร้ายเข้ามาขโมยผ้าไตรไปจำนวน 45 ชุด ได้เดินทางมายังวัดเพื่อนำผ้าไตรมาถวายให้กับทางวัด อย่างต่อเนื่อง ในส่วนของรถที่คนร้ายก่อเหตุนั้นดูจากกล้องวงจรปิดทั้ง 2 ที่คาดว่าน่าจะเป็นรายเดียวกัน


              ล่าสุดได้รับรายงานว่า  คนร้ายถูกจับกุมได้ในเขตจังหวัดนครปฐมแล้ว  จากการสืบสวนทราบว่าคนรายก่อเหตุหลายคดี ในหลายท้องที่ เขตราชบุรี  และผู้ต้องหายังรับสารภาพว่าได้เข้ามาขโมยผ้าไตรที่วัดพระศรีอารย์จริง ทางชุดสืบสวน สภ.โพธาราม ได้ขออายัดตัวคนร้ายเพื่อนำตัวกลับมาดำเนินคดีต่อไป

ภาพ-ข่าว พันธ์-จรรยา แก้วนุ้ย ราชบุรี

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

โจรใจบาป ขโมยผ้าไตรวัดดังราชบุรี 45 ผืน ที่เจ้าอาวาสยืมมาเตรียมทอดกฐิน

หลวงพ่อวัดพระศรีอารย์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี น้ำตาตก ถูกโจรขโมยผ้าไตรไป 45 ผืน เกือบแสนบาท ที่ไปยืมวัดอื่นมาเตรียมทอดกฐินวันที่ 6 พย.นี้

พระครูวิทิตพัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์
ผ้าไตรที่ยืมมาผืนละ 2,000 บาท

พระครูวิทิตพัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ แจ้งว่า สาเหตุจากงานกฐินปีนี้ทางวัดไม่มีเจ้าภาพกฐิน วัดเลยได้ทำเป็นกฐินสามัคคี โดยขอให้ญาติโยมช่วยมารับผ้าไตรงานกฐิน และได้ไปยืมผ้าไตรวัดอื่นมาจำนวน 45 ผืน มูลค่า 90,000 บาท แต่กลับมาถูกโจรใจบาปขโมยไปโดยมีภาพวงจรปิดเห็นชัดเจน ตอนนี้ก็ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามโจรที่ขโมยไป

ภาพจากกล้องวงจรปิด

แต่ตอนนี้งานกฐินก็จะถึงแล้ว ปรึกษากรรมวัดกันว่า ทางวัดก็คงต้องพึ่งญาติโยมที่ใจบุญมาร่วมทอดกฐินให้สำเร็จลุล่วงไปให้ได้ ส่วนผู้ใจบุญไม่สะดวกมาวัดก็สามารถโอนเงินมาทำบุญร่วมสมทบซื้อผ้าไตรให้กับวัดหลังถูกโจรขโมยไป 45 ผืน รวมเป็นเงิน 90,000 บาท กำหนดจัดงานทอดกฐินคือวันที่ 6 พย.นี้
เบอร์บัญชีวัดพระศรีอารย์ ธ.ไทยพาณิชย์เลขที่ 5952182851 หรือ เบอร์ติดต่อเจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ 063-2218589

ขอบคุณ.ภาพ-ข่าว จรรยา แก้วนุ้ย ราชบุรี

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

นครปฐม.วัดทัพหลวง จัดพิธีตักบาตรเทโวโรหณะ และทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2565 

วัดทัพหลวง นครปฐม จัดพิธีตักบาตรเทโวโรหณะ และทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2565

 
  เมื่อวันที่ 11 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ที่บริเวณวัดทัพหลวง อ.เมือง จ. นครปฐม ได้มีพุทธสนิกชนกว่าสองพันคนร่วมตักบาตร เวโวโรหณะ และร่วมทอดผ้ากระฐินสามัคคี ในงานนี้ได้มีชาวเขาเผ่า ลั๊ว ที่ได้มาทำงาน ในเขต จ. นครปฐม มาร่วมด้วยเป็นที่น่าสังเกตว่า ชาวเขาเผ่าลั๊ว แม้จะอยู่ต่างถิ่น ก็ยังแต่งกายและนำเครื่องดนตรีประจำเผ่าอาทิกลองซึ่งมีความยาวกว่า 2 เมตร มาร่วมแห่พุ่มกฐินอีกด้วย ทามกลางสายฝนที่โปรยลงมาอย่างหนัก  แต่ด้วยความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ทุกคนยังคงสู้ฝนจนเสร็จพิธี


พระครูวิจิตรสรคุณ  เจ้าอาวาสวัดทัพหลวง กล่าวว่า กฐินสามัคคีที่ทำการทอดในวันนี้ ได้มีสำนักงาน เอ ไอ เอ และ บริษัท FCG GROUP จำกัด จ.นครปฐม โดย นายธีรัตน์ อรรฆธน นางฐาปนีย์ เทียนทอง นายวิญญู เฉลิมทอง นางจารุวรรณ อริยานนท์ เป็นประธานดำเนินการในครั้งนี้ นอกจากนี้ได้มี องค์การบริหารส่วนตำบลทัพหลวง  กำนันผู้ใหญ่บ้าน และพุทธศาสนิกชน จากสถานที่ต่างๆมาร่วมพิธีทอดผ้าพระกฐินในครั้งนี้อย่างเนืองแน่น  และขอบคุณ อาสาสมัครทุกคนที่มาช่วยอำนวยการจราจร เป็นที่เรียบร้อย  อาตมาขอบคุณประชาชนที่นำอาหารหารมาเปิดเป็นโรงทาน จำนวนกว่า 50 ร้าน เพื่อแจกจ่าย ให้ผู้ที่มาร่วมบุญทอดผ้ากฐินสามัคคีได้รับประทานอย่างทั่วถึง สำหรับยอดเงินจากการทอดผ้าพระกฐินในปี 2565 นี้ ได้เงินจำนวนทั้งสิ้น 2,000,058 บาท
(สองล้านห้าสิบแปดบาทถ้วน) อาตมาจะได้นำไปบูรณปฎิสังขรวัด ในส่วนที่ชำรุดทรุดโทรม ให้คงทนถาวรสืบไป เพื่อเป็นประโยชน์ของพุทธศานิกชน ทุกท่าน ขอความสุข ความเจริญรุ่งเรืองในธรรมบังเกิด
แก่ ทุกๆท่านที่มาร่วมกุศลในครั้งนี้โดยทั่วกันเทอญ
ท่านพระครูวิจิตรสรคุณ เจ้าอาวาสวัดทัพหลวง กล่าวในที่สุด

ทางด้านนายธีรัตน์ และนายวิญญู ร่วมกันเปิดเผยว่า การที่ตนทั้งสองและครอบครัว ได้รับเป็นประธานในการทอดพระกฐินในครั้งนี้ไม่ต้องการ แสวงหาเกียรติยศ ชื่อเสียง แต่ทำด้วยความตั้งใจเพื่อ สืบทอดเจตนารมณ์ วัฒนธรรม ประเพณีให้อยู่กับ อนุชนรุ่น หลัง  เป็นการบำรุงพุทธศาสนา ให้ยั่งยืน และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ ใจบุญใจกุศลทุกท่าน ได้มาร่วมบุญกุศล ร่วมทอดผ้าพระกฐินสามัคคีในครั้งนี้ ตนทั้งสอง ขอบคุณประธานดำเนินงานรวมถึงประชาชนทุกท่านที่มาร่วม ทอดผ้าพระกฐินสามัคคีในวันนี้ หากเราสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจ กันทุกท่านเช่นงานนี้ ความสำเร็จจึงเกิดขึ้นเช่นภาพที่ปรากฏเบื้องหน้านี้ นายธีรัตน์กล่าวในที่สุด

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม สร้างห้องรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วย จากเรือนจำกลางนครปฐม ที่แรกที่เดียวใน ‘โรงพยาบาลนครปฐม’

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม สร้างห้องรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วย ผู้ต้องขัง เรือนจำกลางนครปฐม ถือว่าเป็นที่แรกที่เดียวในโรงพยาบาลนครปฐม และเป็นแห่งแรกในประเทศไทย

หลวงพี่น้ำฝน กล่าว่าการทำครั้งนี้ ถ้าทำเพื่อตัวเองก็อยู่แค่สิ้นลม แต่ถ้าทำเพื่อสังคมแม้สิ้นลมก็ยังอยู่ การสร้างห้องรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วย ผู้ต้องขัง สำหรับเรือนจำกลางนครปฐม ในครั้งนี้เป็นการสร้างในโรงพยาบาลนครปฐม เป็นที่แรก ที่เดียว ในประเทศไทย อาตมาคิดว่าใครไม่ทำ หลวงพี่น้ำฝนทำเอง อาจเป็นแบบอย่างให้จังหวัดอื่นๆ ก็ได้ ถือว่าเป็นเรื่องดี ๆ สำหรับผู้ต้องขัง.

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

อบจ.นครปฐม เปิดโรงอาหารเจ ส่งเสริม ปชช.กินผัก ลดเนื้อสัตว์ทุกชนิด

องค์การบริการส่วนจังหวัดนครปฐม เปิดโรงอาหารเจ ส่งเสริมประชาชนกินผัก ลดเนื้อสัตว์ทุกชนิดช่วงเทศกาลถือศิลกินเจ 24 ก.ย. ถึง 4 ต.ค. 65

นายกหนึ่ง และภรรยา ช่วยทำครัวด้วยตัวเอง

วันที่ 26 กันยายน 2565 ที่โรงครัวชั่วคราว ในบริเวณองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม ได้ร่วมเป็นจิตอาสาปรุงอาหารกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม โดยมีนายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ (นายกหนึ่ง) นายกอบจ.นครปฐม นางสุภาภรณ์ สะสมทรัพย์ (คุณแม่นายกหนึ่ง) และนางวิลาสินี สะสมทรัพย์ (ภรรยานายกหนึ่ง) พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ อบจ.นครปฐม ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานจ้าง อบจ.นครปฐม และจิตอาสาฯ

ได้ร่วมกันในการเตรียมอาหารคาว หวาน สำหรับบริการให้แก่พี่น้อง ประชาชน ชาวไทยเชื้อสายจีน และบุคคลทั่วไปที่อยู่ในระหว่างเทศกาลถือศีลกินเจ ประจำปี2565 ระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 4 ตุลาคม 2565 โดยให้บริการอาหารเจแบบอาหารกล่อง มื้อกลางวัน ทุกวัน (ตั้งแต่เวลา 11.30 – 13.00) โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ บริเวณหน้าสำนักงาน อบจ.นครปฐม

นางสุภาภรณ์ สะสมทรัพย์ แม่ครัวจิตอาสา ซึ่งเป็นคุณแม่ของนายกหนึ่งแจ้งว่าสำหรับเมนูอาหารเจวันนี้ (26 กันยายน 2565 ) เป็นผัดกระเพรา ผัดขิง ถั่วเขียวต้มน้ำตาล คุณแม่บอกว่าเทศกาลถือศีลกินเจ ของชาวจีน เป็นการกินเพื่อรักษาสุขภาพ การกินที่ปราศจากเนื้อสัตว์ทุกชนิดของร่างกาย เป็นการดีต่อสุขภาพ และยังเป็นการช่วยลดการฆ่าสัตว์ ได้ช่วงหนึ่งด้วย เป็นการได้ทำบุญ และโปรดสัตว์ อีกทาง

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

สนับสนุนข้อมูล ภาพ-ข่าว

ตำรวจ สภ.ห้วยยาง ประจวบฯ ร่วมทหารหน่วยฯ จงอางศึก จับยาไอซ์ 17 กิโลกรัม

ตำรวจ สภ.ห้วยยาง ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมทหารหน่วยฯ จงอางศึก จับยาไอซ์ 17 กิโลกรัม พร้อมยาบ้า 2,400 เม็ด



เมื่อวันที่ 20 ก.ย.65 ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์  รอดมา รอง ผบช.ภ.7
นายพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจภูธร จ.ประจวบศีรีขันธ์ นำโดย พ.ต.อ.ภาคภูมิ  โห้ใย
รองผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์
และ พ.อ.พงษ์พัฒน์  ห้องสินหลาก
รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก
นายมนตรี เมืองนก
นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ ปปส.ภ.7
พ.ต.อ.นนท์ ภักดีพันธ์ ผกก.สภ.ห้วยยาง
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

   ได้ร่วมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง จำนวน 4 ราย ดังนี้
1.นายเตชิน  ยุพการณ์ อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 99 ม.15 ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์
2.นายธนวัฒน์  ธรมบุตร อายุ 23 ปี  บ้านเลขที่ 13 ม.13  ต.กังแอน อ.ปราสาท  จ.สุรินทร์
3.นายปิยะศักดิ์  อำไพเพชร อายุ 29 ปี  บ้านเลขที่ 233/61  ม.5 ถ.เลี่ยงเมือง   ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี
4.นายคำเตือน เฉลียวพรหม อายุ 41 ปี  บ้านเลขที่ 259 ม.1  ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์


   โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันจำหน่าย (โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย) ซึ่งยาเสพติดประเภทที่ 1(ยาไอซ์, ยาบ้า) เพื่อการค้าอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป
   พร้อมด้วยของกลาง ได้แก่
   1.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์ ) ชนิดเกล็ดสีขาวใส จำนวน 17 ถุง น้ำหนักประมาณ 17 กิโลกรัม
   2.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 12 ถุง มียาบ้าบรรจุอยู่ ประมาณถุงละ 200 เม็ด รวมยาบ้า ประมาณ 2,400 เม็ด น้ำหนักประมาณ 192 กรัม
   3.รถยนต์เก๋ง ยี้ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ภฮ 1741 กทม. จำนวน 1 คัน
   4.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 6 เครื่อง

   สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 10.00  น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรห้วยยาง   และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ร่วมกันตั้งด่านตรวจ บริเวณหน้าด่านกักกันสัตว์ประจวบคีรีขันธ์ ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ม.1 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นแลนเซอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ภฮ 1741 กทม. ขับมาตามถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ เมื่อถึงด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจเห็นผิดสังเกตจึงเรียกให้หยุดพบ นายเตชิน  ยุพการณ์ เป็นผู้ขับขี่ และ มีนายธนวัฒน์  ธรรมบุตร อายุ 23 ปี นั่งคู่มาในด้านหน้า นายปิยะศักดิ์  อำไพเพชร อายุ 29 ปี นั่งด้านหลังทางขวา และนายคำเตือน เฉลียวพรหม นั่งด้านหลังทางซ้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ลงจากรถ และขอทำการตรวจค้น
   ผลการตรวจค้นพบด้านท้ายรถบริเวณที่เก็บของ พบกระสอบใส่เสื้อผ้าสีดำ ด้านในมี ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ ) ชนิดเกล็ดสีขาวใส จำนวน 17 ถุง น้ำหนักประมาณ 17 กิโลกรัม และ ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) บรรจุอยู่ในถุงสีฟ้า แบบกดปิด – ดึงเปิด จำนวน 12 ถุง มียาบ้าบรรจุอยู่ ประมาณถุงละ 200 เม็ด รวมยาบ้า ประมาณ 2,400 เม็ด น้ำหนักประมาณ 192 กรัม  จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

สอบถาม ผู้ต้องหาให้การว่า  เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 11.00 น.ได้รับการติดต่อจากกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีให้ไปรับยาไอซ์และยาบ้า ของกลางลำดับ 1 และ 2 จากพื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อไปส่งยังจังหวัดสุราษฏร์ธานี จากนั้นได้ขับรถยนต์ของกลางลำดับที่ 3 เดินทางไปรับของยาไอซ์และยาบ้า ในเขตอำเภอเมืองกาญจนบุรี เดินทางมาจนถูกตรวจค้นจับกุมดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบสวนขยายผลจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป      
   สถานที่จับกุม บริเวณด่านตรวจ หน้าด่านกักกันสัตว์ประจวบคีรีขันธ์ ถนน เพชรเกษมขาล่องใต้ ม.1 ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 เวลาประมาณ 10.00 น.

   จากนั้น ผบช.ภ.7 ได้มอบเงินสร้างขวัญกำลังใจ ให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน ที่มีปฏิภาณไหวพริบในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดี

   ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้รอบคอบ เพื่อให้สามารถดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องได้จนถึงที่สุด ตามคติที่ว่า”คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์”
   ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ผบช.ภาค 7 แถลงข่าวตำรวจนครปฐม จับอดีตทหารค้าอาวุธสงครามขณะลำเลียงส่งชายแดนตะวันตก

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 แถลงข่าวตำรวจนครปฐม จับอดีตทหารค้าอาวุธสงครามขณะลำเลียงส่งชายแดนตะวันตก

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 20 กันยายน 2565 ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค7 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 แถลงข่าวว่า พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไพบูลย์  แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้จับกุมนายวี พิมพร อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 529 ม.1ต.หนองปรือ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี นายศักดา ทองไวย อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46 ม.6 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และนายบุญเจิด กระเจียงหอม อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 18 ม.9 ต.นครชุมน์ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมของกลาง อาวุธปืนขนาด.45 จำนวน 1 กระบอก วัตถุระเบิดขว้างแบบสังหารบุคคล MK2 จำนวน 1 ลูก วัตถุระเบิดขว้างแบบสังหารบุคคล M 26 จำนวน 1 ลูก เครื่องกระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 217 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 60 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด 7.65 มม.จำนวน 19 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด 7.62 x 39 มม. จำนวน 75 นัด เครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 x 45 มม.จำนวน 95 นัด 8.แม็กกาซีน 7.65 มม.จำนวน 2 อัน แม็กกาซีนก๊อก16 จำนวน 2 อัน และกระเป๋าลายพรางทหารจำนวน 1 ใบ ในรถปิคอัพอีซูซุ สีบอร์นเงิน ทะเบียน บม 8866 กาญจนบุรี ขณะขับเข้ามาในด่านตรวจหน้าร้านกุ้งอบภูเขาไฟ ถนนเพชรเกษม ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม

เมื่อเวลา 03.50 น.วันที่ 19 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา แล้วจึงส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน นอกจากที่กำหนดในกฎกระทรวงที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ไว้ในครอบครองและพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้พกพา

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายศักดา ทองไวย   อ้างว่าของกลางที่ยึดได้ทั้งหมดนำมาจากปทุมธานี เตรียมนำไปส่งให้กับลูกค้า ที่ชายแดนอำเภอสังขละบุรี เพิ่งทำเพียงครั้งแรก ส่วนรถยืมมาแล้วให้เพื่อน(นายวี)ขับให้โดยมีญาติ(นายบุญเจิด)นั่งมาเป็นเพื่อนอีกคนรวมสามคน ในเบื้องต้นให้ฝ่ายสืบสวนขยายผลไปตรวจค้นที่บ้านพักใน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และที่จ.ปทุมธานี เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม และเพื่อขยายผลในเชิงลึกถึงที่มาของวัตถุระเบิด เพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

รายงานข่าวแจ้งว่า นายศักดา ทองไวย เป็นอดีตทหารมีประวัติโชกโชน และจากแหล่งข่าวความมั่นคง ว่าในวันเวลาดังกล่าว จะมีการลักลอบขนวัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนปืนสงคราม ไปตามถนนเพชรเกษม ผ่านเมืองนครปฐมลงไปจังหวัดกาญจนบุรี ผบก.ภ.จว.นครปฐม จึงให้ตำรวจเมืองนครปฐม ตั้งด่านตรวจที่บริเวณดังกล่าวจนพบรถปิคอัพอีซูซุ สีบอร์นเงิน ทะเบียน บม 8866 กาญจนบุรี ตามที่รายงาน ขับเข้ามาในจุดตรวจ จึงปิดล้อมเข้าตรวจค้นพบของกลางตามปรากฎ

ด้านนายวี อ้างว่านายศักดาฯ ขอยืมรถคันดังกล่าวของตนเพื่อจะไป ทำธุระที่จ.ปทุมธานี แต่เป็นห่วงรถจึงได้อาสาขับรถพานายนายศักดาฯ ไป จึงให้การปฏิเสธว่าของกลางทั้งหมดไม่ใช่ของตน

ด้านนายศักดาฯ อ้างว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนเองจริง แต่ไม่รู้ว่าในถุงสีแดง เป็นลูกระเบิด และไม่รู้ว่าของเป็นเครื่องกระสุนปืนขนาด 7.62 x 39 มม. จำนวน 75 นัด และเครื่องกระสุนปืนขนาด 5.56 x 45 มม. จำนวน 95 นัด อยู่ในถุงพลาสติกใสขุ่นที่ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าโดยของกลางทั้งหมด นายต้น(ไม่ทราบชื่อนามสกุล)บอกจุดและตำแหน่งที่ตั้งของกลางทั้งหมดว่าอยู่ที่บริเวณริมถนนสาธารณะใกล้เคียง อบต.พยอม เพื่อที่จะนำไปขาย

ด้านนายบุญเจิด ให้การว่าได้โดยสารรถคันดังกล่าวเพื่อไปเป็นเพื่อน นายศักดาฯ และให้การปฏิเสธถึงของกลางทั้งหมดไม่ใช่ของตน

ขอบคุณข้อมูล ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS 200922

กลุ่มรถออฟโรด ร่วมกันสร้างฝายกั้นน้ำ เป็นแหล่งสำรองน้ำเพื่อสัตว์ป่าช่วงฤดูแล้ง

กลุ่มรถออฟโรด (4×4) Vitara Mania Thailand (คนคลั่ง วีทาร่า) กลุ่มนักท่องเทื่ยวเชิงอนุรักษ์ป่าไม้รวมตัวกันสร้างกั้นน้ำ บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าแอ่งกะลา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่นัำภาชี เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง

สืบเนื่องจาก นายโชค มั่นคง ตัวแทนกลุ่มรถออฟโรด “วีทาร่ามาเนี่ย ไทยแลนด์ (คนคลั่งวีทาร่า)” ได้รับแจ้งเรื่องจากเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าแอ่งกะลาฯ ว่าช่วงหน้าแล้งน้ำในลำธารจะแห้งหรือน้อยมาก ทำให้สัตว์ป่าที่ลงมากินน้ำแห่งนี้ซึ่งมีจำนวนมากจะขาดน้ำซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตอยู่ของสัตว์ป่า รวมถึงเจ้าหน้าที่ด้วยก็ใช้แหล่งน้ำนี้เช่นเดียวกัน

จึงเกิดแนวคิดกับหัวหน้าหน่วยร่วมกับกลุ่มวีทาร่า ว่าจะขอสร้างฝายชะลอน้ำเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดีเพราะจะได้อยู่คงทนและถาวร จึงเกิดการร่วมแรงร่วมใจกันระดมทุน รวมเงินกันคนละหมื่นสองหมื่น ต่อกลุ่มเพื่อมาช่วยกันบริจาคสร้างฝาย โดยคำนวณงบค่าใช้จ่ายกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ ก็น่าจะเกิน 100,000 บาท ซึ่งพวกเราอาศัยเพื่อนๆ รถออฟโรค ในกลุ่มวีทาร่า มาเนี่ย เช่นแก๊งค์หมูกรอบบ้านแพ้ว แก๊งลูกกวาดบางใหญ่ กลุ่มบูรพาออฟโรด และกลุ่มสุดสาครออฟโรด ระยอง นำทีมโดย คุณเทิดไทยต้นไม้ซิ่งระยอง นำทีมช่วยกันวิ่งหาแหล่งคนคิดทำดีช่วยบริจาคบ้างและจัดทำเสื้อแอ่งกะลาขายเป็นที่ระะลึก โดยรายได้จากการขายเสื้อก็จะนำมอบเงินที่ได้ เพื่อเสริมในการสร้างฝายอีกโดยไม่หักค่าใช้จ่ายอื่นๆ

นายโชค กล่าวต่อว่า การจะเกิดฝายเป็นรูปร่างเพื่อสัตว์ป่าและไม้นานาพันธุ์ และช่วยให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพื่อนๆ นักท่องเทื่ยวเชิงอนุรักษ์หรือท่านอื่นๆ ก็สามารถช่วยบริจาคร่วมสบทบทุนซื้อเสื้อที่ระลึก หรือจะบริจาคเป็นสิ่งของวัสดุก่อสร้างเลยก็ได้นะครับ เรายินดีไปรับของถึงที่

นายชาญ อัคนาน หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าแอ่งกะลา กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณทางกลุ่มรถออฟโรด วีทาร่า มาเนี่ย และกลุ่มอื่นๆ ที่ระดมทุนและชวนเพื่อนสมาชิกมาช่วยกันทำฝายชะลอน้ำ ฝายนี้จะมีประโยชน์มากสำหรับสัตว์ป่า และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ในช่วงฤดูแล้ง เพราะน้ำจะมีน้อยมากถ้าไม่มีฝายชะลอน้ำไว้
สำหรับการสร้างครั้งนี้ก็คืบหน้าไปประมาณ 60-70 % แล้ว ถ้าเสร็จสมบูรณ์นอกจากจะได้ฝายแล้วยังได้ถนนข้ามลำห้วยด้วย

สำหรับท่านที่สนใจจะซื้อเสื้อที่ระลึกสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 084-0729401 (คุณก้อย)
เสื้อยืด sml ตัวละ 300
ไซร์ xl 2xl ตัวละ 350
ทุกบาททุกสตางค์หักค่าผลิตเสื้อแล้วมอบเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างทั้งหมดครับ

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS ▪︎ PRESS 170922

ร่มรื่น เย็นสบาย สายน้ำใส
พบกันเร็วๆ นี้ ที่สวนผึ้ง

ห้วยกระบอก ชุมชนจีนแคะประเทศไทย รับมอบชุดเชิดสิงห์โตจีนแคะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ.

ห้วยกระบอกชุมชนจีนแคะประเทศไทย มอบชุดเชิดสิงห์โตจีนแคะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะชาวจีนแคะเท่านั้น


   
ที่ห้องรัตนะ ศาลเจ้าซำซานเกร็ดหวอง(เจ้าพ่อ3 ภูเขา)ตลาดห้วยกระบอก ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี นายประวิทย์ ศรีฟ้าวัฒนา ประธานมูลนิธิประโยชน์มวลชนห้วยกระบอก ได้เป็นตัวแทนรับมอบหัวสิงห์โตจีนแคะ และเปิดเผยที่มาของชาวจีนแคะห้วยกระบอกว่าว่า บ้านห้วยกระบอก เป็นชุมชนชาวจีนแคะ หรือชาวฮากกา ที่มาตั้งรกราก อยู่ที่บ้านห้วยกระบอกนี้ มาเป็นเวลากว่าหนึ่งร้อยปี มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจ รวมไปถึงวัฒนธรรมของชาวจีนแคะโบราณ เนื่องจากชาวจีนแคะที่มาตั้งรกรากที่ห้วยกระบอกเดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่

ในช่วงสมัยหนึ่งชุมชนแห่งนี้มีความเจริญรุ่งเรืองมีผู้คนสัญจรไปมามากมาย เพราะเป็นที่ชุมนุมของคนจีนแคะ ถึงสามจังหวัด ราชบุรี  กาญจนบุรี  นครปฐม ปัจจุบันวัฒนธรรม และความเจริญของชุมชน จีนแคะแห่งนี้  รวมถึงอาหารสูตรจีนแคะทั้งอาหารคาว และหวานสูตรดั้งเดิมแบบโบราณแท้ ๆ ยังหารับประทาน ได้ที่นี่ ส่วนวัฒนธรรม ประเพณี ลูกหลาน คนจีนฮากกาห้วยกระบอก ยังคงรักษาไว้อย่างเหนียวแน่น
ตนขอขอบคุณ ผศ.ดร.ปรียาพร บุษบา มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง ที่ให้เกียรติเดินทางมามอบหัวเชิดสิงห์โตจีนแคะ 1 ชุดเพื่อใช้ในกิจกรรม ต่างๆของชุมชน


พิธีมอบหัวเชิดสิงห์โตในครั้งนี้ ได้มีผู้มีเกียรติมาร่วมเป็นสักขีพยาน พร้อมทั้งชมการแสดงของหลานชาวจีนแคะ ห้วยกระบอก อาทินายอภิรัตน์ ศิวพรพิทักษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักโยธาฯ กรุงเทพมหานคร ผู้แทนกลุ่มน้ำตาลมิตรผล นายธรรมรัตน์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ นายกเทศมนตรีตำบลกรับใหญ่
พันตำรวจเอกวีระศักดิ์ กลั่นเกิดผกก.สภ.กรับใหญ่ ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านห้วยกระบอก โรงเรียนกรับใหญ่ว่องกุศลกิจพิทยาคม โรงเรียนศาลาตึกวิทยา พร้อมด้วยคณะกรรมการ มูลนิธิมวลชนห้วยกระบอก และสื่อมวลชนร่วมในการนี้โดยพร้อมเพรียงกัน

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS 130922

ผบช.ภ.7 รับมอบข้าวสารจากวัดเล่งเน่ยยี่ เพื่อมอบต่อข้าราชการตำรวจในสังกัด

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 รับมอบข้าวสารจาก วัดเล่งเน่ยยี่ เพื่อมอบต่อข้าราชการตำรวจในสังกัด

วันที่ 8 กันยายน ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 7 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ปรีดา  อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7 พ.ต.อ.สายฟ้า  จิราวรรธนสกุล รอง ผบก.อก.ภ.7
พ.ต.อ.ปรัชญา  ทองน้ำวน รอง ผบก.อก.ภ.7 พ.ต.อ.หญิง ดวงใจ  พานิชอัตรา รอง ผบก.อก.ภ.7

ได้รับมอบข้าวสาร ถุงๆละ 5 กก. จำนวน 300 ถุง น้ำหนักรวม 1,500 กก. จากนายสกุล นาคธรรมาภรณ์  ผู้แทนพระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่ 1) เจ้าอาวาสวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) รักษาการเจ้าอาวาสวัดทิพยวารีวิหาร (วัดกัมโล่วยี่)เลขานุการเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย ปลัดขวาจีนนิกาย เพื่อนำไปแจกจ่าย ให้กับข้าราชการตำรวจ สังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ครอบครัว และพนักงาน ลูกจ้าง ตำรวจภูธรภาค7 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS 080922

ศิษย์เก่า ร.ร.วัดดอนยายหอม ชวนเพื่อน จัดโครงการเลี้ยงอาหารกลางวัน “พี่เลี้ยงน้อง”

ศิษย์เก่าโรงเรียนวัดดอนยายหอม อ.เมือง จ.นครปฐม ชวนเพื่อนพี่น้อง จัดโครงการเลี้ยงอาหารกลางวัน “พี่เลี้ยงน้อง”

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่โรงเรียนวัดดอนยายหอม  อ.เมือง จ.นครปฐม
นายเกียรติศักดิ์ กุลสืบ ในนามศิษย์เก่า โรงเรียนวัดดอนยายหอม ในรวมตัวชวนพรรคพวกเพื่อนฝูง จัดโครงการอาหารกลางวัน “พี่เลี้ยงน้อง”
โดยนำอาหารไปเลี้ยงเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล -ป.1ถึง ป.6 จำนวน 467 คน รวมถึงครูและผู้บริหาร,ครูฝึกสอน,นักการภารโรงอีก  35 คน
 

นายเกียรติศักดิ์ กุลสืบ กล่าวว่าสำหรับค่าอาหารที่นำมาในวันนี้ไดัรับความสนับสนุนจากพี่ๆ น้องๆ ที่มาร่วมงาน และทางบ้านด้วย เราร่วมด้วยช่วยกัน พร้อมความเมตตาจาก พระครูปฐมวราจารย์ หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม และพระมหาสุดใจนำของที่ระลึกแจก คณะศิษย์ญานุศิษย์ งานครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้อย่างดี ก็เพราะความสามัคคี พี่ๆ น้องๆ เด็กๆ ในตำบลดอนยายหอมของเรา ที่เป็นศิษย์เก่า ร.ร.นี้ ขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกๆ ท่านมาก สำหรับอาหารที่นำมาเลี้ยงดูแลเด็กอย่างดี เช่นร้านข้าวหมูแดง อึ้งทงฮะ ตลาดท่ารถบางเลน ,ร้านข้าวหมูบิน ตลาดนครปฐม ,ไอศครีมไผ่ทอง สาขาสามพราน รวมยอดเงินทั้งสิ้นที่ใช้จ่ายในงานนี้กว่า 35,000 บาท 

สุดท้ายขอขอบพระคุณทุกท่านและขออวยพรให้อย่าเจ็บอย่าจนจงมีแด่ทุกท่านครับ

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS 010922

ผบช.ภาค 7 เป็นประธานการประชุมแผนถวายความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจร งานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ม.ราชภัฏ นครปฐม

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
ผบช.ภ.7

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานการประชุม
“แถลงแผนถวายความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจร ตามหมายกำหนดการ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จพระดำเนินแทนพระองค์ ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ เขตภาคกลาง และ กทม. ประจำปีการศึกษา 2560-2562 ณ หอประชุมสิริวรปัญญา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ถ.มาลัยแมน อ.เมืองนครปฐม จว.นครปฐม ระหว่างวันที่ 1-13 ก.ย. 65 รวม 13 วัน”

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS 300822

ปกครองฯ บุกจับ“ละอ่อนผับ”ไร้ใบอนุญาต เด็กมั่วสุมเพียบ! หวั่นซ้ำรอย”เมาน์เทน บี”

นายอำเภอแก่งคอย ร่วมกับที่ทำการปกครองจังหวัดสระบุรี ชุดเฉพาะกิจมหาดไทย และกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน บุกจับ “ละอ่อน” ผับลับกลางเมืองแก่งคอย ไร้ใบอนุญาตหลังเที่ยงคืนคลุมผ้าใบพรางตาเจ้าหน้าที่ พบเด็กมั่วสุมเพียบ ฝ่ายปกครองเร่งกวดขัน หวั่นซ้ำรอยสัตหีบ

ชมคลิป.

“ปฏิบัติการ….ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม” สืบเนื่องจากกรมการปกครอง ได้รับการประสานจาก อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ว่ามีสถานบันเทิงย่าน อ.แก่งคอย เปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่งเสียงดังรบกวน สร้างความเดือดร้อน ให้กับประชาชนในบริเวณใกล้เคียง อีกทั้งยังมีการปล่อยปละ ละเลยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้ามาใช้บริการ
ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จึงได้ส่งสายลับเข้าทำการตรวจสอบ พบว่าสถานบริการแห่งนี้ ไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ไม่มีการตรวจบัตรประจำตัวประชาชน รวมถึงไม่มีการตรวจสอบอาวุธของนักเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการ ภายในร้านพบนักเที่ยววัยโจ๋ เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก โดยจะปิดให้บริการในเวลา 24.00 น. และจะมีการเปิดให้บริการในอีกโซนหนึ่ง ซึ่งเป็นบริเวณผับลับ เมื่อถึงเวลาผับลับเปิด ทางร้านได้ทำการคลุมผ้าใบดำทั้งร้าน เพื่อพรางตาเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งมีนักเที่ยววัยโจ๋ แสร้งทำเดินออกไปหน้าร้าน คล้ายว่าสถานประกอบการดังกล่าวได้ปิดทำการแล้ว เมื่อถึงเวลา ผับลับเปิดกลุ่มนักเที่ยวซึ่งเป็นเด็กได้กลับเข้ามา และตรงไปยังทางเดินบริเวณสถานที่สำหรับสูบบุหรี่ ซึ่งเป็นประตูทางเข้า ผับลับ โดยปกติเส้นทางตรงนี้หากไม่สังเกตุจะไม่พบว่ามีประตูสำหรับเข้าไปในผับลับ ต่อมาชุดสายลับจึงได้เข้าไปใช้บริการในโซนดังกล่าว พบมีการเล่นดนตรีสด และปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการจำนวนมาก และทำการปิดให้บริการในเวลา 01.30 น.

คืนวันที่ 21 ส.ค. 65 เวลา 00.30 น. นำโดย นายดุรงค์ฤทธิ์ ศิริวัฒนพันธ์ นายอำเภอแก่งคอย นายพุฒิชาติ จันทอง ป้องกันจังหวัดสระบุรี นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ และนางสุภาภรณ์ ชมชัย ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการพัฒนาระบบงานยุติธรรมเด็กและเยาวชน กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน จึงได้ทำการตรวจค้นจับกุมสถานประกอบการชื่อ “ละอ่อน” โดยพบว่าในร้านมีการปล่อยปละละเลยให้มีนักเที่ยววัยโจ๋ซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้ามาใช้บริการ จำนวน 7 คน จากการสอบถามพบว่าทางร้านไม่มีการตรวจสอบอายุของผู้เข้าใช้บริการ รวมถึงไม่มีการตรวจสอบอาวุธของนักเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการ จึงสามารถเข้ามาใช้บริการได้ แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ปกครองในพื้นที่ จ.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการเข้มงวดกวดขันให้สถานบริการหรือสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ในวันนี้จึงไม่มีการเปิดโซนผับลับ


จากการเข้าตรวจสอบสถานประกอบการดังกล่าว มีการให้บริการในลักษณะเป็น “สถานบริการ” แต่ไม่พบว่ามีใบอนุญาตตั้ง สถานบริการ ตาม พ.ร.บ. สถานบริการ พ.ศ.2509 และภายในร้านพบนักเที่ยวเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 7 คน ซึ่งหนึ่งในนี้มีอายุต่ำสุดเพียง 17 ปี โดยเมื่อเข้าตรวจสอบในโซนผับลับ พบว่ามีการใช้อาคารสถานที่ผิดประเภท และอาจมีการต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีช่องทางการหนีไฟ ไม่มีป้ายบอกทางหนีไฟ ไม่มีแสงสว่างเพียงพอ ไม่พบอุปกรณ์การถังดับเพลิง และประตูทางเข้า – ออก มีเพียงทางเดียว หากเกิดเพลิงไหม้ จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้ หวั่นซ้ำรอย สัตหีบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ว่าสถานประกอบการดังกล่าว ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต,จำหน่ายสุราให้แก่บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี ,จำหน่ายสุราเกินกว่าเวลาที่กฎหมายบัญญัติ ,ความผิดฐานโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม ,ส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร และยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ข้อ 4 (1)-(4) ทั้งนี้ อ.แก่งคอย จะเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเพื่อออกคำสั่งปิดสถานประกอบการดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปี พร้อมทั้งประสาน อบต.ตาลเดี่ยวเข้าตรวจสอบอาคารสถานที่ดังกล่าว หากพบกระทำผิดกฎหมายจะให้มีการสั่งระงับการใช้อาคารต่อไป

นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง ได้กล่าวว่า ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทยได้มีนโยบายให้เข้มงวดกวดขันสถานประกอบการที่ไม่ได้รับใบอนุญาต ไม่มีมาตรฐาน มีการปล่อยปละละเลยให้มีเด็กเข้ามาใช้บริการ หรือมีการฝ่าฝืนกฎหมายอื่นๆ หากพบว่ามีการร้องเรียนเข้ามายังกระทรวงมหาดไทย จะมีการตรวจสอบทุกแห่ง ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำความผิดจะมีการดำเนินคดีกับสถานประกอบการทุกแห่งทั้งทางอาญา พร้อมทั้งเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ปิดสถานประกอบการดังกล่าว เป็นระยะเวลา 5 ปี ตามกฎหมายโดยเคร่งครัด

ขอขอบคุณ.ภาพ-ข่าว กรมการปกครองเหยี่ยวขาว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS 082122

นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ มอบบ้านปันสุขเพื่อผู้ยากไร้ แห่งแรกของสมุทรสาคร

นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพันท้ายนรสิงห์ มอบบ้านปันสุข เพื่อผู้ยากไร้ แห่งแรกของสมุทรสาคร เฟส 1 จำนวน 23 ห้อง มูลค่า 8 ล้านบาท

นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ให้เกียรติเป็นประธานเปิดโครงการ


วันที่ 18 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ที่โครงการหมู่บ้านปันสุข พันท้ายนรสิงห์ (เฟส 1) หมู่ที่ 3 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ พร้อม มอบบ้านปันสุขฯ จำนวน 23 ห้อง มูลค่าโดยรวมกว่า 8 ล้านบาท ให้แก่ครอบครัวผู้ยากไร้ของตำบลพันท้ายนรสิงห์ โดยมีนายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ในฐานะประธานมูลนิธิพันท้ายนรสิงห์ และเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินการโครงการบ้านปันสุข พันท้ายนรสิงห์ ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ที่ให้การสนับสนุนการจัดสร้างฯ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่จำนวนมาก ได้มาร่วมเป็นสักขีพยานพร้อมกับแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับมอบบ้านปันสุขพันท้ายนรสิงห์ที่จัดขึ้นนี้ ในการนี้ก็ได้มีการจัดพิธีทำบุญถวายภัตราหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัย และมอบประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้สนับสนุนสร้างบ้านปันสุขทั้ง 23 ห้องก่อนที่จะจัดมอบเครื่องอุปโภค บริโภคให้แก่ผู้เข้าพักอาศัยในแต่ละห้อง และที่หน้าห้องทุกห้องยังมีการติดกระดาษแจ้งปัญหา เพื่อให้เจ้าของห้องได้เขียนปัญหาที่พบอันจะนำไปสู่การแก้ไขให้ทุกคนมีความสุขในระดับหนึ่งอีกด้วย

นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ / ประธานมูลนิธิพันท้ายนรสิงห์


นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ / ประธานมูลนิธิพันท้ายนรสิงห์ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างบ้านปันสุขพันท้ายนรสิงห์ (เฟส 1) นี้ ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ซึ่งเกิดจากนโยบายในการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยด้วยการสร้างบ้านพักให้กับครอบครัวผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ไร้ที่พึ่งในสังคมในเขตพื้นที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ ตลอดจนยังเพื่อเป็นการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ไร้ที่พึ่งทางสังคมให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้องค์การบริหารส่วนตำบลพันท้ายนรสิงห์ จึงได้ร่วมกับ มูลนิธิพันท้ายนรสิงห์ และนิคมสหกรณ์บ้านไร่ ดำเนินการโครงการ “บ้านปันสุข พันท้ายนรสิงห์” โดยประสานกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ บริษัท ห้างร้านตลอดจนเพื่อนๆ ในการร่วมกันสนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างบ้าน รวมทั้งสิ้น จำนวน 23 ห้อง ให้แก่ครอบครัวผู้ที่ผ่านการพิจารณาอนุมัติความช่วยเหลือจากคณะกรรมการ ให้เข้าพักในโครงการฯ ได้


นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ กล่าวอีกด้วยว่า สำหรับ “โครงการบ้านปันสุข พันท้ายนรสิงห์” นี้ มีแนวทางการดำเนินโครงการโดยเริ่มจากการหาที่ดินที่จะทำโครงการ โดยได้จัดซื้อที่ดิน 3 งาน 10 ตารางวา ในบริเวณพื้นที่นี้ ด้วยงบประมาณส่วนตัว ในวงเงิน 2,300,000 บาท พร้อมกับจัดซื้อเนื้อที่ดินประกอบค่าถมปรับพื้นที่อีกจำนวน 600,000 บาท รวมเป็นเงินเบื้องต้น 2,900,000 บาท จากนั้นได้รวบรวมกลุ่มเพื่อน ผู้ที่มีจิตที่เป็นการกุศล ดำเนินการสร้างห้องพักพร้อมอยู่อาศัยให้กับผู้ยากไร้ โดยมีมูลค่าการก่อสร้าง ห้องละ 200,000 บาท จำนวนทั้งสิ้น 23 ห้อง รวมเป็นเงินค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 4,600,000 บาท อีกทั้งยังมีการจัดสรรงบเพื่อการปรับภูมิทัศน์ถนนและเสริมความสวยงามประมาณ 400,000 บาท โดยทั้งหมดนี้สรุปเป็นงบประมาณเบื้องต้นรวมมูลค่าทั้งสิ้น 7,900,000 บาท แต่ยังไม่รวมถึงการดูแลด้านอาหาร ที่ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิพันท้ายนรสิงห์ กับ อบต.พันท้ายนรสิงห์ ตลอดจนการส่งเสริมอาชีพให้ผู้ที่อยู่อาศัยได้มีรายได้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งหากจะคิดมูลค่าโดยรวมทั้งหมดแล้วก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 8 ล้านบาท


นายวัฒนาฯ ยังกล่าวเสริมอีกว่า หลังจากนี้ทาง อบต.พันท้ายนรสิงห์ ยังได้มีการโครงการ “บ้านปันสุข พันท้ายนรสิงห์ เฟสที่ 2 ต่อ” โดยได้รับการสนับสนุนพื้นที่จากนิคมสหกรณ์บ้านไร่ เพิ่มเติมในการจะได้จัดทำโครงการบ้านปันสุขอีกจำนวน 2 แห่งได้แก่ 1) บริเวณที่ดินริมคลองหมู่บ้านพฤกษาบางขุนเทียน หมู่ที่ 6 และ 2) บริเวณหน้าวัดวิสุทธิวราวาส หมู่ที่ 6 โดยได้รับการสนับสนุนจากบริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด (มหาชน) เป็นจำนวนเนื้อที่ 2 งาน เพื่อรองรับสำหรับผู้ยากไร้ที่อยู่อาศัยและผู้ที่ขาดที่พึ่งพิงของตำบลพันท้ายนรสิงห์ต่อไปอย่างยั่งยืน ซึ่งการดำเนินโครงการฯ เฟส 2นั้น ยังอยู่ในระหว่างของการสำรวจข้อมูลเพื่อนำมาวิเคราะห์และวางแผนในการดำเนินการจัดสร้างต่อไปอย่างเร็วที่สุด


นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ตนเองในฐานะผู้นำท้องถิ่น รู้สึกมีความยินดีและปลาบปลื้มใจที่ได้มีส่วนช่วยผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ไร้ที่พึ่งในสังคม โดยเฉพาะการได้เข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนในตำบลพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งเป็นถิ่นเกิดของตนเองและครอบครัว การได้เห็นรอยยิ้ม ได้เห็นว่าทุกคนมีความหวังมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งตนเองและพันธมิตรที่ให้การสนับสุนน ก็พร้อมที่จะเดินหน้าช่วยเหลือสังคมต่อไป
ขณะที่ผู้ยากไร้ฯ ซึ่งได้รับการพิจารณาให้เข้ามาอยู่ในโครงการบ้านปันสุข พันท้ายนรสิงห์ เฟส 1 นี้ ก็บอกว่า ตนเองรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณผู้ที่ให้การช่วยเหลือเป็นอย่างมาก เพราะบ้านเดิมนั้นแทบจะไม่สามารถป้องกันอะไรได้เลยแม้แต่ยุง พอได้มาอยู่ในโครงการนี้ตนเองและหลานสาว ก็รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น และขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนร่วมในการสร้างบ้านปันสุขให้แก่ผู้ยากไร้ในพื้นที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์

ขอบคุณ.ภาพ-ข่าว ณัฐวุฒิ เอกจิโรภาส สมุทรสาคร

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

มูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา มอบเงิน 69.9 ล้านบาท สมทบทุนจัดสร้างศูนย์ผ่าตัดตา โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว

โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) รับมอบเงินบริจาคสมทบทุนจัดสร้างศูนย์ผ่าตัดตาโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว โดยความอนุเคราะห์ของมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา มูลค่า 69,900,000 บาท

วันที่ 17 ส.ค. 2565 โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) ได้มีพิธีรับมอบเงินบริจาคสมทบทุนจัดสร้างศูนย์ผ่าตัดตา โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว โดยความอนุเคราะห์ของมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา มูลค่า 69,900,000 บาท โดยมี นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) พร้อมคณะผู้บริหาร แพทย์ พยาบาล กลุ่มจิตอาสาสร้างสุข โรงพยาบาลบ้านแพ้วฯ รวมถึงผู้แทนมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา โดยนายสมคิด รุจิปกรณ์ กรรมการและเลขาธิการฯ และนายวุฒิพงค์ ชาครัตพงศ์ รองประธานกรรมการมูลนิธิ พร้อมคณะ เข้าร่วมพิธี ณ ห้องประชุมเทพกาญจนา ชั้น 10 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) จ.สมุทรสาคร

นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า ทีมงานมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ได้เข้ามาช่วยบริจาคและสนับสนุนกิจกรรมของโรงพยาบาลมาตลอด ทั้งการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหัวใจ และสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ในช่วงวิกฤติโควิด-19 และมีโอกาสได้พบและตรวจสุขภาพตาให้คุณสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา จึงได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นรวมถึงฝันของเจ้าหน้าที่และทีมจักษุแพทย์ที่อยากจะช่วยคนไข้โรคตาจำนวนมาก ให้ได้พบแสงสว่างอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานทางมูลนิธิฯ ได้ตัดสินใจสนับสนุนการสร้างศูนย์ผ่าตัดตา โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว จำนวน 69.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินก้อนใหญ่ที่สุดที่โรงพยาบาลบ้านแพ้วฯ เคยได้รับ

โดยทางมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา เป็นองค์กรสาธารณกุศล ดำเนินงานช่วยเหลือสังคม โดยมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการพัฒนา เพื่อคน เพื่อสังคม เพื่อโลกที่ยั่งยืน ได้มีความสนใจและติดตามการทำงานของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) จึงพบว่าโรงพยาบาลมีศักยภาพในการช่วยเหลือประชาชน รวมถึงมองเห็นความตั้งใจของทีมแพทย์และพยาบาล ความพร้อมของบุคลากรเชี่ยวชาญพิเศษทางด้านจักษุ มีแผนชัดเจนในการขยายโอกาส อีกทั้งมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เดินทางออกไปดูแลรักษาประชาชนในสถานที่ต่าง ๆ ทางมูลนิธิฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการมอบโอกาสให้กับประชาชนได้เข้าถึงการรักษา เพื่อเพิ่มโอกาสในการมองเห็นจึงสนับสนุนเงินเพื่อสร้างศูนย์ผ่าตัดตา โรงพยาบาลจักษุแห่งนี้

ทั้งนี้ โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จในเฟสที่ 1 โดยเปิดให้บริการเมื่อ 1 พ.ค. 2564 และเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลในเฟสที่ 2 เมื่อเดือน ก.ค. 2565 ในส่วนที่เป็นหัวใจหลักของโรงพยาบาล คือ “ศูนย์ผ่าตัดตา” มูลค่า 89 ล้านบาท แต่ยังขาดงบประมาณการก่อสร้าง และจากพลังศรัทธาการร่วมสร้างโอกาสในการมองเห็นนี้ ทำให้การก่อสร้างจะแล้วเสร็จในเดือน มี.ค. 2566 ประกอบด้วยห้องผ่าตัดตามาตรฐานสูงจำนวน 9 ห้อง จากเดิมมีเพียง 2 ห้อง ต่อจักษุแพทย์ 14 คน สามารถผ่าตัดตาได้มากกว่า 16,000 รายต่อปี ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้จะทำให้โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว สามารถเพิ่มศักยภาพการผ่าตัดตา ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพและเพียงพอกับจำนวนผู้ป่วยที่รอคอยการผ่าตัดรักษา อีกทั้งสามารถดูแลผู้ป่วยที่ส่งต่อจาก 8 จังหวัดในเขตบริการสุขภาพที่ 5 ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งช่วยลดภาระการส่งต่อผู้ป่วยไปรักษายังโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ได้อีกด้วย

ขอขอบคุณ ภาพ-ข่าว ณัฐวุติ เอกจิโรภาส สมุทรสาคร

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

ชาติไทยพัฒนาเปิดตัว “ศุภโชค” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นครปฐม อายุน้อยที่สุด เชื่อมั่นรวมรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ มุ่งทำการเมืองสร้างสรรค์

ชาติไทยพัฒนาเปิดตัว “ศุภโชค” ว่าที่ผู้สมัครส.ส. นครปฐม อายุน้อยที่สุด เชื่อมั่นรวมรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ มุ่งทำการเมืองสร้างสรรค์

เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ,นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค พร้อมนายอนุชา สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายธีระ วงศ์สมุทร ที่ปรึกษาพรรค ,นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัว นายศุภโชค ศรีสุขจร หรือ สจ.ฟิล์ม ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา

นางสาวกัญจนา กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสำคัญของพรรคชาติไทยพัฒนาอีกหนึ่งวัน ซึ่งวันนี้ชาวชาติไทยพัฒนามีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ นายศุภโชค ศรีสุขจร ที่นำพาโดย บ้านสะสมทรัพย์ ซึ่งเรามั่นใจอยู่แล้วว่าบ้านสะสมทรัพย์จะคัดเลือกคนมีคุณภาพเข้ามาร่วมงาน โดยครั้งนี้พรรคชาติไทยพัฒนาของเราจะมีสมาชิกพรรคเพิ่ม และเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่มีอายุน้อยที่สุดของพรรค เป็นการรวมรุ่นคนทำงานการเมือง ทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่า เราจะแลกเปลี่ยน เสริมสรรพกำลังกัน เสริมทัพให้จังหวัดนครปฐมเข้มแข็ง ขยายเป็นพรรคขนาดกลาง เพิ่มตัวเลือกให้ประชาชนได้รับใช้มากขึ้น และเราจะขยายพื้นที่สร้างคนทำงานไปอีกหลาย ๆ ภาคเพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งสมัยหน้า

นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับวันนี้เป็นการย้ำถึงจุดยืนของพรรคชาติไทยอีกครั้ง ว่าเราจะเดินไปข้างหน้าท่ามกลางความขัดแย้ง เราจะร่วมกันพาประเทศไทยฝ่าวิกฤตต่าง ๆ มองหน้าโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่ประชาชน ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าความรู้ ความสามารถของนายศุภโชค จะเข้ามาร่วมกันออกแบบพรรคไปข้างหน้า ทั้งนี้เราจะทยอยเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ไปเรื่อย ๆ ตามวาระที่เหมาะสม และชาติไทยพัฒนา จะสามารถปักธงได้ในทุก ๆ จุดที่เราเลือก เราจะมีผู้สมัครคุณภาพในทุก ๆ ภาค และจะสร้างนโยบายพรรคให้เหมาะกับคนทุกกลุ่มต่อไป

นายศุภโชค กล่าวว่า ตนขอขอบคุณหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคผู้ให้การสนับสนุนทุกคน ที่มาร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนตัวตนเชื่อเรื่องความหลากหลายทางความคิด การทำงานร่วมกันระหว่างคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ จะนำพาพรรคให้เข้มแข็ง และจะเข้ามาสานต่อ เติมเต็มนโยบาย ให้ตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม ด้วยการนำประสบการณ์ที่เรียนรู้มาทำงานอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ นายศุภโชค ศรีสุขจร อายุ 28 ปี จบการศึกษาจาก Columbia University in the City of New York และมีประสบการณ์ทางการเมือง โดยเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ซึ่งตลอดการทำงานในพื้นที่จังหวัดนครปฐม นายศุภโชคได้เฝ้ามองการทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนา และตระกูลสะสมทรัพย์ ที่ดูแลชาวนครปฐมเป็นอย่างดี จึงเชื่อมั่นในการทำงานว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะตอบโจทย์ชาวนครปฐมในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า

Cr.พรรคชาติไทยพัฒนา นครปฐม

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

ตำรวจนครปฐมร่วมกับ มหาวิทยาลัยศิลปากรมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษากตัญญูที่ดูแลยายพิการและน้องวัย 7 ขวบ

ตำรวจนครปฐมร่วมกับมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์นครปฐม มอบทุนการศึกษา 25,000 บาทและเครื่องอุปโภคบริโภค ให้กับนักศึกษากตัญญูที่ดูแลยายพิการทางสมอง และน้องชายวัย 7 ขวบ

เมื่อวันจันทร์ ที่ 15 ส.ค.2565 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม มอบหมายให้ พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชูนาค รองผบก.ภ.จว.นครปฐม และคณะข้าราชการตำรวจ ภ.จว.นครปฐม ร่วมกับคณะอาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ เข้ามอบเครื่องอุปโภค บริโภค และทุนการศึกษา
จำนวน 25,000 บาท ให้กับ น.ส.ปพิชญา มนูเลิศนักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์
นักศืกษาที่เป็นผู้ดูแล น.ส.ลัดดา ประทุมวัน อายุ 70 ปี (คุณยาย) ซึ่งเป็นผู้ป่วยพิการทางสมอง และน้องชายอายุ 7 ขวบ

พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชูนาค รองผบก.ภ.จว.นครปฐม กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดจากมีลูกชายนายตำรวจท่านหนึ่ง ที่เรียนอยู่ ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร มาเล่าให้พ่อฟังว่ามีเพื่อนคนหนึ่งที่เรียนดี และนศ.คนนี้พ่อแม่ตายหมดแล้ว อยู่กับยายพิการและน้องชายอายุ 7 ขวบ มีบ้านอยู่ในเขตเมืองนครปฐม เมื่อทราบเรื่องและตรวจสอบแล้วว่าน้องลำบากจริง เลยนำเข้าโครงการตรวจติดตามการบริหารและพัฒนาทรัพยากรของสถานีตำรวจ ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม
ในเขตพื้นที่ อ.เมืองนครปฐม จว.นครปฐม
และได้ประสานไปยังมหาวิทยาลัยฯ เพื่อเข้าไปเยี่ยมบ้านน้องนักศึกษา เห็นสภาพบ้านแล้วน่าสงสารมาก น้องอยู่กับยายอายุ 70 ปี ที่เป็นอัลไซเมอร์ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และยังมีน้องชายวัย 7 ขวบอีกหนึ่งคนที่ต้องดูแล สอบถามว่าน้องว่าพ่อแม่ไม่ไหนน้องว่าเสียชีวิตหมดแล้ว จากโรคมะเร็ง

รองผู้การ.กล่าวต่อว่าวันนี้เราได้มอบเงินทุนการศึกษาจำนวน 25,000 บาท ที่เป็นเงินโครงการส่วนหนึ่ง และเงินที่ข้าราชการตำรวจนครปฐม และะเงินจากผู้มีอุปการะคุณที่ทราบเรื่องได้มอบให้มา และยังมีคณะอาจารย์และเพื่อนนักศึกษาได้ช่วยกันรวบรวมกันมอบให้น้องส่วนตัวในวันนั้นอีก และนอกจากเงินยังซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคมอบให้น้องในครั้งนี้ด้วย

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

นักวิชาการธรรมศาสตร์ เห็นร่วม ‘รองศานนท์’ ชูสร้างพื้นที่ปลอดภัยเพื่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชน

วงเสวนาเห็นร่วม สร้าง “พื้นที่ปลอดภัย”ให้เยาวชนในการแสดงออกทางความคิด “ศานนท์” รองผู้ว่าฯกทม.ย้ำกทม.จัดพื้นที่ปลอดภัยคือจุดเริ่มต้นของการมีส่วนร่วมทางการเมือง ขณะที่นักวิชาการชี้ การเมืองไม่ใช่แค่เลือกตั้งแต่คือวิถีชีวิต

ในวงเสวนา เรื่อง “เยาวชน การเมืองและข่าวปลอม” ที่หอประชุมศรีบูรพา(หอประชุมเล็ก) ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา มีวิทยากรจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่สำคัญ คือนายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  ,ดร.มนต์ศักดิ์ ชัยวีระเดช  อาจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ม.ธรรมศาสตร์   ,น.ส.ฐปณีย์ เอียดศรีไชย ผู้สื่อข่าวสามมิติและผู้ก่อตั้งสำนักข่าว The Reporter และ นายธนกร วงษ์ปัญญา บรรณาธิการข่าวการเมือง The Standard

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 


นายศานนท์ กล่าวว่า ปัญหาการมีส่วนร่วมทางการเมืองของเยาวชนต้องมองไปที่รากของปัญหาคือ การขาดการมีพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงออกแสดงความคิดเห็น ที่ผ่านมามีวัฒนธรรมกดทับหลายเรื่องจนทำให้ไม่เกิดการมีส่วนร่วมจากเยาวชน เมื่อมีพื้นที่ปลอดภัยจะเกิดการมีส่วนร่วม เช่นกทม.กำลังจะทำ”ย่านสร้างสรรค์”

ชุมชนไหนอยากเปลี่ยนแปลง 10ชุมชนนำร่อง เยาวชนและชุมชนแจ้งมาว่าอยากทำถนนคนเดิน อยากทำกีฬา เราเริ่มเปลี่ยนจากการสั่งการจากกทม.ไปเขตให้ทำตามนโยบายแต่ดูว่าสิ่งที่ต้องการจากชุมชนขึ้นมาคืออะไรแล้วกทม.จะสนับสนุน ให้ชุมชนที่อยากผลักดันชุมชนตัวเอง รากของการสร้างการมีส่วนร่วมขั้นพื้นฐาน


“อย่าไปมองว่าไปม๊อบไปโครงสร้างใหญ่มองจากเริ่มใกล้ตัวบ้านตัวเอง  กทม.กำลังสนับสนุนสิ่งนี้ เมืองจะดีขึ้นได้ไม่ใช่กทม.ทำ เมืองจะดีต้องให้เยาวชนเข้มแข็ง ชุมชนเข้มแข็ง สิ่งเหล่านี้เกิดไม่ได้ถ้าไม่มีพื้นที่ปลอดภัยไม่มีวัฒนธรรมทางสังคมที่ดี เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การมีส่วนร่วมทางการเมืองหรือด้านอื่นๆก็จะตามมา”

ดร.มนต์ศักดิ์ ชัยวีระเดช  อาจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ม.ธรรมศาสตร์ 


ดร.มนต์ศักดิ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาสังคมมักจะผลักคำว่าการเมืองออกไปไกลตัวของเยาวชน  แต่ในความเป็นจริงการเมืองคือกระบวนการตัดสินใจในการมีส่วนร่วมในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง การเมืองคือวิถีชีวิตตั้งแต่บริบทของครอบครัว โรงเรียน มหาวิทยาลัย และสังคม เช่น การตัดสินใจกินข้าวนอกบ้าน การตัดสินใจเข้ามหาวิทยาลัย การเมือง มีทั้งเรื่องหน้าที่ และสิทธิคือเสรีภาพในการแสดงออกแสดงความคิดเห็น แต่ตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน ถูกปลูกฝังให้กับเยาวชนว่าให้รู้แค่หน้าที่ ซึ่งหลายเรื่องอาจไม่สอดคล้องกับสิทธิและหน้าที่หรือไม่ ดังนั้นสิ่งที่ควรจะทำคือการสร้างบรรยากาศให้เกิด Active citizen 


“สังคมเรายังไม่สามารถแสดงออกทางความคิดเห็นได้อย่างอิสระ  สังคมยังมีการตีกรอบกดทับ สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงได้คือการมีพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออกทางความคิดเห็น ขณะที่ส่วนสำคัญสำหรับเยาวชนในการมีส่วนร่วมทางการเมืองคือ การเปิดใจให้เริ่มจากการฟังและเริ่มตั้งคำถามได้เช่นการแต่งตัวชุดนักศึกษา แต่งกายตามเพศสภาพ การไว้ผมยาว  สิ่งเหล้านี้ทำได้หรือไม่อย่างไร”


สำหรับวงเสวนาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัย “การเมืองเยาวชนร่วมสมัยกับการส้รางเครือข่ายการมีส่วนร่วมทางการเมืองรู้เท่าทันข่าวปลอม” โดยมีหัวหน้าวิจัยคือ ผศ.ดร.วิไลวรรณ จงวิไลเกษม  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และดร.นิพนธ์ ตั้งแสงประทีป โปรดิวเซอร์ และผู้ดำเนินรากยาร Big story ไทยพีบีเอส ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

“เสือป่าราชา” นครปฐม เปิดตัวยิ่งใหญ่ ขอก้าวขึ้นชั้นปีนี้

วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม 2565 ที่บริษัท สโมสรฟุตบอลนครปฐม จำกัด ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสโมสรฟุตบอลนครปฐม ยูไนเต็ด ประจำ ฤดูกาล 2022/23 ภายใต้แคมเปญ “KING TIGER FOREVER 2022”

เนื่องจากสโมสรฟุตบอลนครปฐม ยูไนเต็ด ได้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ “ไทยลีก 2” รายการ M-150 Championship 2022/23 ซึ่งดำเนินการจัดการแข่งขันโดย บริษัท ไทยลีก จำกัด ภายใต้การกำกับจากสมาคมกีฬา ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีกำหนดเริ่มการแข่งขันประจำฤดูกาล นัดแรก วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป สโมสรฟุตบอลนครปฐม ยูไนเต็ด จึงได้จัดงานเปิดตัวสโมสรฟุตบอลนครปฐม ยูไนเต็ด ประจำ ฤดูกาล 2022/23 ภายใต้แคมเปญ “KING TIGER FOREVER 2022”

เพื่อเป็นการขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนสโมสรฟุตบอลนครปฐม ยูไนเต็ด ด้วยดีเสมอมา อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์แก่ สื่อมวลชน, แฟนคลับสโมสรฯ และประชาชนผู้ติดตามความ เคลื่อนไหว ได้รับทราบ การเตรียมความพร้อมของทีมในฤดูกาลนี้ และเป็นการเปิดตัวคณะผู้บริหารสโมสรฯ ชุดปัจจุบัน โดย ดร.พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ประธานสโมสรฯ (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐม), ดร.ชุตินันศ์ สะสมทรัพย์ รอง ประธานสโมสรฯ, นางสาวพิมพ์ชญา สะสมทรัพย์ ผู้จัดการทีม, นางสาวชญาดา สะสมทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและสิทธิประโยชน์, นางสาวโญธญา สะสมทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์, ทีมงานสต๊าฟโค้ช นำโดย “โค้ชธง” ธงชัย สุขโกกี หัวหน้าผู้ฝึกสอน, และนักกีฬาฟุตบอลสังกัดสโมสรนครปฐม ยูไนเต็ด
โดยนัดแรก “เสือป่าราชา” นครปฐม ยูไนเต็ด จะออกไปเยือน “เขี้ยวสมุทร” สมุทรปราการ ซิตี้ ณ สนาม สมุทรปราการ สเตเดียม ในวันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม 2565 เวลา 18.30 น. ถ่ายทอดสดทาง AIS PLAY แฟนบอลสามารถ ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ทาง Official Fan Page : https://www.facebook.com/NakhonpathomUTD

นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ประธานสโมสรฟุตบอลนครปฐม ยูไนเต็ด

นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ประธานสโมสรฟุตบอลนครปฐม ยูไนเต็ด “เสือป่าราชา” กล่าวว่า จะสานฝัน และทำตามคำสั่งคุณพ่อ “ไชยา สะสมทรัพย์” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ท่านเสียชีวิตไปแล้ว ว่าให้พาทีมฟุตบอลนครปฐม ขึ้นไทยลีกให้ได้ และผมจะพาทีมฟุตบอลนครปฐม ยูไนเต็ด “เสือป่าราชา”ขึ้นไทยลีกให้โดยเร็วที่สุด

นางสาวพิมพ์ชญา สะสมทรัพย์ ผู้จัดการทีม
นางสาวชญาดา สะสมทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและสิทธิประโยชน์,
“โค้ชธง” ธงชัย สุขโกกี หัวหน้าผู้ฝึกสอน

ด้าน”โค้ชธง” นายธงชัย สุขโกกี กล่าวว่า ด้วยความพร้อมของสโมสรฟุตบอลนครปฐม ยูไนเตด “เสือป่าราชา”ปีนี้ เราตั้งเป้าของเราว่า ปี ค.ศ.2022 นี้ เราจะต้องจบที่ 6 แต่เมื่อผู้บริหารบอกว่าต้องขึ้นไทยลีกหลังจบฤดูกาลนี้ จึงต้องเน้นให้ทีมเก็บชัยชนะให้ได้มากที่สุดเพื่อขึ้นไทยลีก

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

คนตาบอดใจไม่บอด มอบโลงศพ 100 ใบ ถวายหลวงพ่อสมหวัง ช่วยเหลือผู้ยากไร้ และศพไร้ญาติ

สมาคมประชาคมคนตาบอดไทย มอบโลงศพ 100 ใบ ถวายหลวงพ่อสมหวัง แจกจ่ายผู้ยากไร้ และศพไร้ญาติ

วันที่ 16 กรกฎาคม 2565 ที่วัดกลางบางพระ หลวงพ่อสมหวัง ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม พระครูศรีสุตากร เจ้าอาวาสวัดกลางบางพระ ประธานมูลนิธิหลวงพ่อสมหวัง รับมอบหีบศพจำนวน 100 ใบ จากนายพัฒน์ชัย สระกวี ประธานสมาคมประชาคมคนตาบอดไทย โดยมีนายสมพงษ์ มุดา  ประธานโครงการถนนคนเดินชุมชนริมคลองวัดพระงาม ร่วมบริจาคหีบศพดังกล่าวให้วัดกลางบางพระ หลวงพ่อสมหวัง

  นายเทิดศักดิ์ นัดสูงวงศ์ ไวยาวัจกรวัดกลางบางพระ หลวงพ่อสมหวัง พร้อมคณะมูลนิธิบรรเทาสาธารณภัยหลวงพ่อสมหวัง จะนำโลงศพดังกล่าว ส่งมอบต่อไปยังวัดใหม่ปิ่นเกลียว ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม จำนวน 20 ใบ และวัดพระบาทน้ำพุ ตำบล เขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี จำนวน 30 ใบ เพื่อผู้ยากไร้ และศพไร้ญาติต่อไป

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

หลวงพี่น้ำฝน เข้าเรือนจำ เปิดโอกาสผู้ต้องขัง ทำบุญตักบาตรวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ให้โอกาสผู้ต้องขัง เรือนจำกลางนครปฐมทำบุญตักบาตรเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา หลังงดมาแล้วกว่า 2 ปี พร้อมจัดกิจกรรมบรรยายธรรมและมอบอุปกรณ์กีฬาส่งเสริมนักมวยนักโทษ พัฒนาฝีมือสร้างชื่อเวทีระดับชาติ พร้อมตั้งเป้าวัดไผ่ล้อมจะนำหลักธรรมให้โอกาสขัดเกลาคนเคยผิดคิดใหม่ตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ

วันที่ 13 ก.ค. 65 ที่เรือนจำกลางนครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้นำคณะสงฆ์พร้อมด้วยคณะกองทัพธรรม เข้าร่วมจัดกิจกรรมในการเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้มีโอกาสได้ทำบุญตักบาตรและร่วมฟังการบรรยายธรรมเนื่องในโอกาสวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ประจำปี พ.ศ.2565 โดยมี พ.ต.ท.วรชัย อารักษ์รัฐ ผบช.เรือนจำกลางนครปฐม นายธิตินัย พาติกบุตร รองผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐมและนายวิรัตน์ พรมน้อย ผู้อำนวยการสถานกักกันนครปฐม พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ 

โดยในการจัดกิจกรรมดังกล่าว ช่วงเช้าได้มีการจัดพิธีการทำบุญตักบาตรให้กับคณะเจ้าหน้าที่ จากนั้นได้มีการจัดให้ผู้ต้องขังในเรือนจำกลางนครปฐม ได้มีโอกาสในการทำบุญตักบาตรในพื้นที่ควบคุม ซึ่งมีผู้ต้องขังได้มีการเข้าแถวและได้ร่วมกันใส่บาตรเป็นครั้งแรก หลังจากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้กิจกรรมดังกล่าวได้มีการยกเลิกนานกว่า 2 ปี

จากนั้นหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้จัดการบรรยายธรรม โดยนิมนต์พระสงฆ์ของวัดไผ่ล้อมที่เคยหลงผิดและตกเป็นทาสของยาเสพติด กระทั่งถูกจับกุมทั้งในฐานะของผู้ค้าและผู้เสพซึ่งเคยต้องโทษในเรือนจำมาแล้วถึง 5 ครั้งก่อนที่จะตัดสินในบวชเพื่อศึกษาพระธรรม ซึ่งปัจจุบันสามารถกลับตัวกลับใจจนไม่กลับไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดและใช้หลักพระธรรมคำสั่งสอนมาปฏิบัติปรับใช้จนสามารถเข้าใจถึงความหมายของชีวิตได้ โดยได้มุ่งเน้นเพื่อนำประสบการณ์มาถ่ายทอดให้ผู้ต้องขังในเรือนจำกลางนครปฐม ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนราว 3 พันคนได้รับฟังและนำวิธีคิดและปฏิบัติไปปรับใช้ในช่วงที่รอการปลดปล่อยหลังรับโทษครบตามคำพิพากษา

นอกจากนี้ ยังได้จัดคณะทัพบุญวัดไผ่ล้อม ในวงการมวยอาทิ นายธนากร สอนดี และบุคคลในวงการมวยได้ร่วมกับหลวงพี่น้ำใน นำเวทีมวยพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้ในการฝึกซ้อมมวยไทย มอบให้กับเรือนจำกลางนครปฐม สำหรับให้นักมวยในสังกัดที่เป็นผู้ต้องขังได้นำไปฝึกซ้อมสำหรับเตรียมตัวนำไปแข่งขันซึ่งปัจจุบันมีนักมวยที่ไปสร้างชื่อเสียงเป็นแชมป์หลายเวทีในขณะนี้ด้วย

หลวงพี่น้ำฝน เผยว่า การที่วัดไผ่ล้อมได้นำคณะสงฆ์ มาจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาในเรือนจำกลางนครปฐม เป็นอีกหนึ่งแนวทางในการสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานรัฐ ซึ่งมองเห็นว่าผู้ต้องขังนั้นมีโอกาสน้อยกว่าคนที่อยู่ภายนอกกำแพงสูงมาก และยังมีผู้ต้องขังอีกมากที่มีความรู้ ความสามารถ แต่อาจจะหลงกระทำความผิด หรือตั้งใจกระทำความผิดแต่เมื่อมารับโทษและมีความคิดใหม่ ซึ่งการนำเอาศาสนามาปรับสอนให้เขาเหล่านั้นได้เข้าถึงจะทำให้เป็นการนำหลักพระธรรมคำสั่งสอนมาปรับใช้ในช่วงถูกควบคุมตัว

“อาตมา เชื่อว่าถ้าเราตั้งใจจะให้โอกาสในการกลับตัวกลับใจกับเขาเหล่านี้เมื่อเขาพ้นโทษออกไปก็จะมีภูมิป้องกันในการไม่กลับไปกระทำความผิด อย่างที่อาตมานำคณะสงฆ์มาให้เขาได้ร่วมกันทำบุญตักบาตร ภาพที่เห็นคือเขาดีใจ เขาตั้งใจและอยากทำบุญหลายคน ยิ่งเมื่อได้มานั่งพูดคุยกันแล้วถ้าเราทำให้เขาศรัทธาและให้โอกาสกับเขา ก็จะทำให้เขาเริ่มคิดดีและเริ่มต้นทำดีได้ทันที แม้จะไร้อิสรภาพแต่เขามีอิสระทางการติดเริ่มต้นที่จะวางชีวิตใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอถึงวันที่ปลดปล่อยออกมา และวัดไผ่ล้อมก็พร้อมจะทำหน้าที่ด้านสาธารณสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือให้สังคมมีความสงบเหมือนหลายโครงการที่ผ่านมา” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน