เรื่องทั้งหมดโดย key8news

จิตอาสา.จับมือหลายหน่วยงาน ทาสีทางม้าลายเน้นความปลอดภัยให้นักเรียน

จิตอาสานครปฐม จับมือหลายหน่วยงาน ทาสีทางม้าลายเน้นความปลอดภัยให้นักเรียน

วันที่ 28 มิถุนายน 65 ที่ผ่านมา ที่บริเวณถนนเลียบคลองเจดีย์บูชา หน้าวัดพระงาม พระอารามหลวง ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นางสาวทศนาถ อุนทริจันทร์ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครนครปฐม นางสาวปุณิกา พ่วงทรัพย์ ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม นางพิมพ์ชญาภัค เขื้อโตหลวง นักพัฒนาชุมชน กองสวัสดิการสังคม และคณะ นายสมพงศ์ บุดา ประธานชุมชนริมคลองพระงาม (ถนนคนเดิน) และคณะกรรมการชุมชนริมคลองพระงาม พ.ต.ท.อชิรวัตต์ ถาวรเจริญวัฒน์ รองผกก.จร.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ต.รุ่งธรรม เมษะยศพัฒน์ สว.จร.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองนครปฐม นักเรียนเทศบาล1 (ท.1) และจิตอาสา ร่วมกันทำความสะอาดถนนตีเส้นขาวแดง และทางม้าลาย คนข้าม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุแก่นักเรียน และพระภิกษุสงฆ์ที่ต้องใช้ทางม้าลายในการข้ามทางสัญจร

นายสมพงศ์ บุดา ประธานชุมชนริมคลองพระงาม กล่าวว่า คณะกรรมการชุมชน ได้หารือกันเรื่องของความปลอดภัยของนักเรียน ท.1 และได้เล็งเห็นความสำคัญของทางม้าลาย จึงได้ปรึกษา พ.ต.ท.อชิรวัตต์ ถาวรเจริญวัฒน์ รองผกก.จร.สภ.เมืองนครปฐม ว่าจะทาสีทางม้าลาย และขอบฟุตบาท จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่มาแนะนำและมาช่วยดำเนินการ และทางเทศบาลนครนครปฐม โดยนางสาวทศนาถ อุนทริจันทร์ ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีนครนครปฐมได้เชิญกองสวัสดิการสังคมมา และคณะพร้อมนักเรียน และอาจารย์ ท.1 และจิตอาสามาช่วยกันทำกิจกรรมครั้งนี้ ถือว่าเป็นทางม้าลายสมานสามัคคีที่ได้ทำงานจิตอาสาร่วมกัน.

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

HBD. ‘เสี่ยโหน่ง’ ส.ส.เขต 2 นครปฐม คนร่วมงานมากมาย นายก’หนึ่ง’พี่ชายอ้อนฝากอนาคตน้องชายกับชาวนครปฐม มุ่งสู่ตำแหน่งรัฐมนตรี

บ้านใหญ่ตระกูล”สะสมทรัพย์” จัดงานครบรอบวันเกิด ‘เสี่ยโหน่ง’ ดร.พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ส.ส.เขต 2 นครปฐม คนร่วมงานมากมาย นายก’หนึ่ง’ จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก อบจ.นครปฐม พี่ชายอ้อนฝากอนาคตน้องชายกับชาวนครปฐม มุ่งสู่ตำแหน่งรัฐมนตรี.

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2565 ที่บ้านสะสมทรัพย์ ม.8 บ้านห้วยชัน ตำบลมาบแค อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งเป็นที่ก่อสร้างบ้านหลังใหม่ของ ดร.พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ หรือ ส.ส.โหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร เขต2 จ.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา ที่อายุครบรอบ 48 ปี
โดยมีคุณแม่สุภาภรณ์ สะสมทรัพย์
นายจิระวัฒน์ สะสมทรัพย์ (เสื่ยหนึ่ง) นายกอบจ.นครปฐม ซึ่งเป็นพี่ชายคนโต และนายปองพล สะสมทรัพย์ (เสี่ยหนุ่ม)น้องชายคนเล็ก และนางชุตินันท์ สะสมทรัพย์ ภรรยา และลูกสาว ร่วมเป่าเทียนเค้กฉลองวันเกิด ท่ามกลางข้าราชการ นักการเมืองท้องถิ่น ประชาชนที่มาร่วมอวยพรอย่าางเนืองแน่น ตั้งแต่ 08.00-12.00น.


นายจิระวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกอบจ.นครปฐม ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า แสดงความยินดีกับน้องชายที่ประสบความสำเร็จ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร และหากจะดีใจกว่ายิ่งกว่านี้ คือได้เห็นน้องชายได้เป็นรัฐมนตรีฯ แต่ความหวังนี้จะสำเร็จได้ต้องได้พี่น้องประชาชนชาวนครปฐมช่วยสนับสนุน เลือกให้น้องชายคนนี้ได้เป็น ส.ส.เพื่อก้าวไปสู่ตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไป

นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ หรือ ส.ส.โหน่ง กล่าวว่า เวลานี้นอกจากเป็น ส.ส.ของพี่น้องชาวนครปฐมแล้ว ยังเป็นกรรมาธิการงบประมาณชุดปัจจุบัน กรรมาธิการตำรวจ และกรรมการ ปภ. วันนี้ยังยึดมั่นกับพรรคชาติไทยพัฒนา และยังไม่คิดย้ายพรรค เพราะเชื่อว่าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นพรรคที่อบอุ่น และย้ำว่า “ไม่ย้ายพรรค”แน่นอน

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

หอการค้านครปฐม แถลงข่าว การจัดงานเทศกาลอาหารผลไม้และของดีนครปฐม ครั้งที่ 36

หอการค้าจังหวัดนครปฐม ร่วมกับจังหวัดนครปฐม วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และทุกภาคส่วน เตรียมจัดงานเทศกาลอาหารผลไม้และของดีนครปฐม ครั้งที่ 36 ระหว่างวันที่ 1-9 กรกฎาคม 2565 พบกับโซนอาหาร ผลไม้ และโต๊ะจีนราคาปกติ 3,500 บาท เหลือเพียง 1,999 บาท เท่านั้น


วันที่ 20 มิถุนายน 2565 ที่อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายสมเกียรติ พูลสุขเสริม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยนายวิชัย โกสมนึก ประธานหอการค้าจังหวัดนครปฐม และนางสาวปิยพัชร์ วงศ์โดยหวัง ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานราชบุรี ได้ร่วมกันแถลงข่าวเตรียมการจัดงานเทศกาลอาหารผลไม้และของดีนครปฐม ครั้งที่ 36 ซึ่งกำหนดจัดวันที่ 1-9 กรกฎาคม 2565 ณ บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เพื่อประชาสัมพันธ์ชื่อเสียงผลผลิตด้านการเกษตรและอาหารนานาชนิดให้แพร่หลาย อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการรักษาคุณภาพสินค้าและผลผลิตของจังหวัดนครปฐมให้ได้มาตรฐาน และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว เผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีของจังหวัดนครปฐมด้วย


สำหรับกิจกรรมภายในงานได้จัดเป็นโชนต่างๆ อย่างน่าสนใจ ได้แก่ โซนอาหาร จำหน่ายอาหารอร่อยขึ้นชื่อ อาหารถิ่น ยกร้านเด็ดในจังหวัดนครปฐมมาให้บริการในงาน ,โชนผลไม้ จำหน่ายผลไม้จากชาวสวนผู้ผลิตโดยตรง, โซนท่องเที่ยวและวัฒนธรรม พบกับกิจกรรม DIY เพ้นท์หน้ากากโขน, โชนสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน จำหน่ายสินค้าของดีระดับ 5 ดาว สินค้า OTOP , โซนข้าวหลาม พบกับการเผาข้าวหลาม 9 สี 9 รส ยาว 9 เมตร, โซนยานยนต์ จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษจากค่ายรถชั้นนำ, โซน กกร. จังหวัด/คลังจังหวัด/หน่วยราชการ/สถาบันการเงิน ที่มาให้บริการให้คำปรึกษา รวมถึงจำหน่ายผักปลอดภัย สินค้าธงฟ้า เนื้อสุกรและสินค้าแปรรูปจากเนื้อสัตวิในราคาพิเศษ

โซนอาหารโต๊ะจีน ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการโต๊ะจีนนครปฐม จัดเมนูอาหารเด็ดจากราคาปกติโต๊ะละ 3,500 บาท เหลือเพียง 1,999 บาท จำหน่ายวันละรอบ เวลา 18.00 น. จำนวน 21 โต๊ะต่อวัน สอบถามรายลเอียดงานและจองโต๊จีน ได้ที่หอการคำจังหวัดนครปฐม โทร. 034-254647, 034-254231


Cr.สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

หน่วยบรรเทาฯ หลวงพ่อสมหวัง. ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย อ.บางเลน

หน่วยบรรเทาสาธารณะภ้ยหลวงพ่อสมหวัง ช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย ต.บางระกำ อ.บางเลน จ.นครปฐม

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 9 ต.บางระกำ อ.บางเลน จ.นครปฐม บ้านพักของนายสมชาย ริดวันนา พระครูศรีสุตากร ประธานหน่วยบรรเทาสาธารณภัยหลวงพ่อสมหวัง  พระครูปุญญาภิสันท์ เจ้าคณะอำเภอบางเลน หัวหน้างานสาธารณะสงเคราะห์ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงาน ปภ.ได้มอบเงินช่วยเหลือ และสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค ให้แก่ผู้ประสบอัคคีภัย(ไฟไหม้)  โดยมีนายวีระกิตติ์ ชั้นอินทร์งาม นายก อบต.บางระกำ ให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกอย่างดียิ่ง

สืบเนื่องจาก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุอัคคีภัยขึ้นที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ที่ 9 ต.บางระกำ อ.บางเลน จ.นครปฐม ของนายสมชาย ริดวันนา

พระเทพศาสนาภิบาล เจ้าคณะภาค ๑๔ เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ประธานอำนวยการศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม พระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม รองประธานอำนวยการศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม ให้พระครูปุญญาภิสันท์ เจ้าคณะอำเภอบางเลน หัวหน้างานสาธารณสงเคราะห์ และพระครูศรีสุตากร ประธาหน่วยบรรเทาสาธารณภัยหลวงพ่อสมหวัง มอบเงินช่วยเหลือ และสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนที่ได้รับความเสียหาย และได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้น

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

สมาคมแม่บ้านกองทัพไทย มอบเครื่องฟอกอากาศให้ห้องทันตกรรม โรงพยาบาลเบตง จ.ยะลา

สมาคมแม่บ้านกองบัญชาการกองทัพไทยมอบระบบระบายและฟอกอากาศให้แก่ ห้องทันตกรรม โรงพยาบาลเบตง อ.เบตง จ.ยะลา

ที่สมาคมแม่บ้านกองบัญชาการกองทัพไทย คุณจิราพรรณ เบญญศรี อดีตนายกสมาคมแม่บ้านกองบัญชาการกองทัพไทย ปี 2561-2563 ได้บริจาคเงินปรับปรุงระบบระบายและฟอกอากาศห้องทันตกรรม 7 ห้อง รวมเป็นเงิน 688,100 บาท โดยมีนายแพทย์สวรรค์ กาญจนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง เป็นผู้รับมอบและให้การต้อนรับอพร้อมกล่าวขอบคุณ

คุณจิราพรรณ เบญญศรี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้มาเยือนโรงพยาบาลเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชายแดนภาคใต้ทางสมาคมฯ มีความยินดีที่ได้บริจาคเงินสนับสนุนโรงพยาบาลเบตง เพื่อได้ปรับปรุงระบบห้องทันตกรรม เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่เจ้าหน้าที่และประชาชนในอำเภอเบตง วันนี้นับเป็นโอกาสดีที่คณะได้เดินทางมามอบอย่างเป็นทางการ ทางสมาคมฯ ยินดีที่จะสนับสนุนในโอกาสต่อไป จากนั้นนายแพทย์สวรรค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตง พร้อมด้วยทันตแพทย์ชัยศักดิ์ แช่ว่อง และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเบตง ได้นำคณะไปดูระบบระบายอากาศที่ประกอบไปด้วยเครื่องฟอกอากาศคุณภาพสูงและเครื่องปรับและเติมอากาศบริสุทธิ แผนกทันตกรรม โรงพยาบาลเบตง

ทั้งนี้คณะได้เข้าสักการะพระพุทธรูปพระพุทธมหากรุณาประชานาถ สังฆราชประทาน 2010 และหลวงปู่ทวดปลอดโรคปลอดภัย917 ประทานโปรดสร้างโดยสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายกพระองค์ที่ ๒๐ และผู้อำนวยการโรงพยาบาลเบตงได้มอบหลวงปู่ทวดปลอดโรคปลอดภัย ๙๑๗ และพระพุทธมหากรุณาประชานาถ สังฆราชประทาน 2010 เพื่อสักการะบูชากับทีมสมาคมแม่บ้านฯ ด้วย

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

นายกฟลุ๊ค.นครปฐม ควงคุณแม่ฉอ้อนเดินสายทำบุญต่อเนื่อง ล่าสุดบริจาคให้ รพ.บ้านแพ้ว 500,000 เพื่อซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์

นายกฟลุ๊ค.นครปฐม ควงคุณแม่ฉอ้อน เดินสายทำบุญต่อเนื่อง ล่าสุดบริจาคซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้โรงพยาบาลบ้านแพ้ว 500,000 บาท

   วันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร นายกองตรี เอกพันธุ์ คุปตวัช อดีตนายกเทศมนตรีนครนครปฐม มอบเงินจำนวน 500,000 บาท เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว โดยมีท่านผู้อำนวยการ นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว(องค์การมหาชน)ให้การต้อนรับ โดยเงินดังกล่าวเป็นความตั้งใจของคุณแม่ฉอ้อน คุปตวัช และครอบครัวคุปตวัช เพื่อนำเงินดังกล่าวไปจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์นำมาใช้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่มารับบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลจักษบ้านแพ้วนี้อย่างสมบูรณ์

  นายกฟลุ๊ค กล่าวว่า เป็นอีกครั้งสำหรับโอกาสดีๆ ที่ได้ทำในช่วงเดือนเกิด (25 พฤษภาคม) ที่จะถึงนี้ซึ่งได้รับความเมตตาจากคุณแม่ฉอ้อนให้เงินสดผมมา 1,000,000 บาท เพื่อบริจาคให้แก่โรงพยาบาล ตามที่กระผมเห็นสมควร ซึ่งก่อนหน้านี้ไปมอบให้โรงพยาบาลดอนตูม 300,000 บาท และมาที่นี่อีก 200,000 บาท และวันนี้ได้มามอบให้โรงพยาบาลบ้านแพ้ว อีก 500,000 บาท
  ผมขอน้อมนำบุญมาฝากเพื่อนๆพี่น้องของกระผมทุกท่านครับ ขอให้ทุกท่านปลอดภัยสุขภาพแข็งแรง พบเจอแต่สิ่งที่ดีๆ ครับ

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม จัดครบรอบ 17 ปี หลวงพ่อพูลละสังขาร แสดงถึงความกตัญญูกตเวทีมิจางหาย

หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม จัดครบรอบ 17 ปี หลวงพ่อพูลละสังขาร  แสดงถึงความกตัญญูกตเวทีมิจางหาย


  เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน เมื่อ“จุดไฟในใจคน” ถึงมือผู้อ่าน ก็เป็นวาระสําคัญของทางวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม เนื่องจากเป็นวาระครบรอบ 17 ปี การละสังขารของพระเดชพระคุณพระมงคลสิทธิการ หรือพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล อตฺตรกโข พระอมตะเถราจารย์ผู้ทรง คุณวิเศษแห่งเมืองนครปฐม พระมหาเถระผู้เป็นที่ยกย่องนับถือ ทั้งจากชาวนครปฐมและในที่อื่น ๆ และที่สําคัญที่สุด คือ เป็นบิดาทางธรรมของอาตมาเอง


พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ท่านเป็นพระที่ญาติโยมนับถือมาก แม้ท่านจะเป็นคนพูดน้อย แต่ก็เพราะคุณธรรมในเรื่อง ความเมตตาของท่านนั่นแหละที่แผ่ไปในทุกทิศ จนเป็นที่ยอมรับ โดยทั่วกัน ความเมตตาของท่านนี ้ไม่มีกําแพงฐานะ ชนชั้น ทุกคน ย่อมได้รับความเมตตาจากท่านเสมอกัน เพียงแค่เรียนท่าน ขอท่าน จะเป็นแม่ค้าธรรมดาท่านก็เมตตาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทุกคนล้วนเท่าเทียมกันในสายตาของหลวงพ่อจนได้ชื่อว่า พระผู้เมตตากับพ่อค้าแม่ค้า แม้ท่านจะมีคุณวิเศษ มีวัตถุมงคลมากมายจนทุกวันนี้ก็ยัง เป็นที่ต้องการของนักสะสม
แต่ท่านจะสอนกํากับไว้เสมอว่า นี่ไม่ใช่ของไว้ให้งมงาย เป็นที่ระลึก ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ หากจะเกิด ปาฏิหาริย์แล้วไซร้ นั่นมาจากจิตศรัทธาของท่านเอง นอกจากนี้สิ่งที่อาตมาพูดเสมอว่า ให้ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน รู้คุณคน ก็เป็นสิ่ง ที่ท่านถ่ายทอดมาตลอด และด้วยเหตุนี้เองที่หลวงพ่อ
นั้นท่านรัก หนุมานมากที่สุด เพราะหนุมานมีคุณสมบัติครบทั้งสี่ประการ แล้ว ก็เป็นวัตถุมงคลชิ้นเอกของหลวงพ่อมาจนถึงทุกวันนี้คุณวิเศษของท่านนั้นยังมีอีกมากมายกล่าวได้ไม่หมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวอาตมาเองซึ่งก็เป็นผู้ติดสอยห้อยตามท่านมาแต่ ยังบวชใหม่ๆ เป็นพระน้ําฝน จนกระทั่งมาเป็นศิษย์
ใกล้ชิดที่ได้ รับความวางใจจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อให้กระทําการสําคัญต่าง ๆ ตามที่ หลวงพ่อมอบหมายมาหลายสิ่งที่หลวงพ่อให้อาตมาไปกระทํา ชนิดที่อาจจะเรียกว่า หลวงพ่อปล่อยบินเดี่ยวก็ได้ อาตมาในฐานะพระเล็ก ๆ อาตมาเองก็มีความหวั่นอยู่ในใจ แต่หลวงพ่อจะ
ให้กําลังใจอาตมาเสมอ ให้อาตมามั่นใจในการกระทํา เมื่อครูบาอาจารย์พูดแบบนั้นอาตมาก็ใจสู้ขึ้นมา จนแม้หลวงพ่อ ท่านจากไปแล้ว เสียงของหลวงพ่อก็ยังคงอยู่ในหัวอาตมาตลอดหลวงพ่อยังคงอยู่กับอาตมาเสมอ

จากวันนั้น วันที่หลวงพ่อจากไปในวันวิสาขบูชา ปีพุทธศักราช 2548 จากไปพร้อมกับหน้าที่ตามปกติของท่าน คือ การเจริญจิต ภาวนา แม้เวลานั้นท่านจะอยู่บนเตียงผู้ป่วย และวันนั้นก็เป็นวัน ไหว้ครูประจําปี ซึ่งจัดขึ้นทุกวันวิสาขบูชา ท่านนับว่าได้มรณภาพ ในวันสําคัญยิ่งนี้หลังจากนั้น ผู้คนหลั่งไหลกันมาสักการะหลวงพ่อไม่ขาดสาย และเมื่อถึงคราวเปิดหีบบรรจุร่างหลวงพ่อ ก็พบความ อัศจรรย์ที่ร่างหลวงพ่อนั้น ไม่เน่าไม่เปื่อยผิดกับร่าง คนทั่วไปยังคล้ายคนนอน หลับอยู่ จึงได้เชิญออกมา แล้วบรรจุในโลงแก้วให้ สาธุชนได้บูชาสักการะต่อไป

จนบัดนี้ก็ 17 ปีแล้ว สรีระสังขารของท่านก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิมคงเดิมคือมีสีออกไปทางทองเป็นที่อัศจรรย์ ที่กล่าวเช่น นี้ได้เพราะทุกปีจะทําการ เปลี่ยนผ้าครองไตรจีวร แก่สรีระสังขารหลวงพ่อ ประหนึ่งท่านยังมีชีวิตอยู่ เมื่อนําสรีระ สังขารท่านมาทําความสะอาด ก็พบความ
เปลี่ยนแปลงอันน่า อัศจรรย์ดังกล่าว
วันนี้สรีระสังขารของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ประดิษฐานอยู่ในศาลาทองคําด้านข้างวิหารพระพุทธเมตตา อยู่ในโลงแก้วซึ่งมีรูปเหมือนพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลนั่งถือโลง แก้วนั้นอยู่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อนั่นนั่งอยู่บนหนุมานขนาดใหญ่ เป็นไปตามนิมิตที่ได้เห็น อาตมาก็นํามาทําเป็นความจริง หลวงพ่อนั่งบนหนุมาน หนุมานคือตัวแทนแห่งความ
กตัญญู เป็นตัวแทน แห่งความขยัน ซื่อสัตย์ อดทน รู้คุณคน หนุมานเป็นเช่นนั้นแท้จริง แล้วศาลาหลังนี ้ก็คือศาลาดั้งเดิมเลย ที่ตั้งสรีระสังขารของ หลวงพ่อ นับตั้งแต่ปี 2548 แต่ด้วยแรง
ศรัทธาสาธุชน ศาลานี้ก็ได้กลายเป็น ศาลาทองคํา ประดับกระเบื่องโมเสกทอง ประดิษฐานรูปเหมือน และโลงแก้ว ด้านหลังมีภาพประติมากรรมนูนต่ำเทพชุมนุม ให้ ความรู้สึกดุจอยู่ในวิมานสวรรค์ อันมีเทพเจ้าและครูบาอาจารย์ประทับอยู่ เป็นสิริมงคลแก่ผู้เข้ามาเยือน มากราบ
ไหว้ทุกคน และ ในอนาคตจะมีพระพุทธรูปทองคําแท้ปางเปิดโลก ประดิษฐานใน มณฑปเบื้องบนของหลวงพ่อ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการจัดสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็ว ๆ นี้ ในปี 2565 พิธีเปลี่ยนผ้าครองสรีระสังขารพระเดชพระคุณ หลวงพ่อพูล และลงกระหม่อม ในวันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมาเป็นวาระประจําปีอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งศิษยานุศิษย์ทั้งหลายได้มารวมตัวกันแสดงกตัญญูกตเวที กระทําทุกครั้งเหมือนพระเดช พระคุณหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ ก่อนในวันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ.2565 จะจัดพิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ ครอบครู เศียรท้าวเวสสุวรรณ ตามอย่างที่พระเดชพระคุณหลวง พ่อได้ปฏิบัติมา

นับว่าทั้งหมดทั้งมวลนี้ ตั้งอยู่บนความกตัญญูกตเวที คือ รู้ ในพระคุณ และทําการตอบแทนพระคุณ ไม่ว่าจะขณะท่านยังมีชีวิตอยู่ หรือเมื่อท่านได้จากไปแล้ว ภาษิตว่า ความกตัญญูเป็น เครื่องหมายของคนดี หากเราอยากเป็นคนดี สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือ ความกตัญญูรู้คุณคน จะนําไปสู่ความเจริญ เพราะเราถือว่า ยังมีบุคคลจํานวนมากที่ทําให้เราประสบความสําเร็จ เป็นคนมาหนึ่งคนนี้ได้ คนเหล่านี้เป็นผู้มีพระคุณแก่เรา และเมื่อมีพระคุณแล้ว เรา ก็พึงแสดงการตอบแทนพระคุณท่านอันเป็นสิ่งน่าสรรเสริญ เป็น คุณธรรมที่เราควรจะมีในหัวใจเราทุกคน

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

นายกฟลุ๊ค ควงแม่ฉอ้อน และครอบครัวคุปตวัช บริจาคโรงพยาบาลดอนตูม นครปฐม เพื่อซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์

นายกฟลุ๊คควงแม่ฉอ้อน และครอบครัวคุปตวัช บริจาคโรงพยาบาลดอนตูม นครปฐม เพื่อซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 300,000 บาท

ที่โรงพยาบาลดอนตูม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม นายกองตรีเอกพันธ์ คุปตวัช หรือนายกฟลุ๊ค อดีตนายกเทศมนตรีนครนครปฐม พร้อมคุณแม่ฉอ้อน คุปตวัช บิ๊กบอสโรงแรมเวล อ.เมืองนครปฐม มอบเงินจำนวน 300,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาลดอนตูม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม เพื่อนำไปจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ มี โดยนายแพทย์มานะชัย อิงสุรารักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดอนตูม รับมอบเพื่อนำเงินที่ได้รับมอบไปดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ และเครื่องมือแพทย์ตามวัตถุประสงค์ และให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนทั่วไป ที่มารับบริการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลดอนตูม

นายกองตรีเอกพันธ์ คุปตวัช หรือนายกฟลุ๊ค กล่าวว่า การมามอบเงินจำนวนดังกล่าวนี้ ผมได้เรียนปรึกษากับคุณแม่ฉอ้อน ว่าในวันคล้ายวันเกิดปีนี้ ขอนำเงิน 300,000 บาท ไปมอบให้โรงพยาบาลดอนตูม เพื่อสนับสนุนทางการแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลเล็กๆที่มีคุณภาพ เพื่อนำไปจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์มาช่วยเหลือประชาชน ซึ่งคุณแม่ก็เห็นด้วย และเดินทางมาพร้อมกัน และต้องขอขอบคุณ คุณพัลลภ เวศย์วรุตม์ และบุตรชายที่เป็นสะพานบุญประสานทางโรงพยาบาลดอนตูมให้ครับ

ขจร วัตรเอก KET8 NEWS-PRESS รายงาน

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นำพระทองเหลืองที่ญาติโยมนำมาแก้บนที่มีอยู่จำนวนมากมาหลอมเป็นชนวนในการเททองหล่อพระองคุลีมาลเถระ

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นครปฐม นำพระทองเหลืองที่ญาติโยมนำมาแก้บนที่มีอยู่จำนวนมากมาหลอมเป็นชนวนในการเททองหล่อพระองคุลีมาลเถระ สูง 3 เมตร และรูปหล่อองคุลีมาล สูง 1 เมตร

  เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2565 ที่หน้าพระอุโบสถวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ได้เปิดกรุเก็บพระทองเหลืองที่ญาติโยมนำมาถวายแก้บน ที่เก็บไว้ใต้พระอุโบสถวัดไผ่ล้อมหลังเก่าที่มีอยู่จำนวนมากตั้งแต่สมัยหลวงพ่อพูล ท่านเก็บไว้ จึงนำมาหลอมเป็นเชื้อชนวนในการเททองหล่อพระองคุลีมาลเถระ สูง 3 เมตร และรูปหล่อ องคุลีมาล สูง 1 เมตร
โดยจะมีพิธีในวันที่ 12 มิถุนายน 2565 นี้ ซึ่งตรงกับวันเกิดอายุครบ 50 ปี ของหลวงพี่น้ำฝน ซึ่งในพิธีหลอมชนวนในครั้งนี้ ได้มีคณะศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชน ที่ทราบข่าวและประชาชนที่เดินทางมากราบสังขารหลวงพ่อพูลและทำบุญที่วัดไผ่ล้อมได้เข้ามาร่วมพิธี ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายลงมาตลอดตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนที่จะเริ่มพิธีทำให้เกิดความร่มเย็น

  หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า การจัดพิธีหลอมชนวนทองเหลืองในวันนี้ สืบเนื่องจากการที่มีนิมิตจากหลวงพ่อพูล ซึ่งท่านได้แสดงจิตว่าช่วงสถานการณ์เวลานี้คนไทยลำบากและสังคมกำลังเกิดปัญหาควรที่จะมีการจัดทำอะไรเพื่อให้เป็นการเตือนสติให้กับประชาชนที่กำลังหลงผิดหรือได้กระทำความผิด ให้ลด ละ เลิก สิ่งไม่ดีทั้งปวง ซึ่งเป็นช่วงที่ใกล้วันวิสาขบูชา และเป็นวันที่หลวงพ่อพูลท่านละสังขารในวันพระใหญ่ เมื่อ 17 ปีที่แล้ว จากนั้นอาตมาได้มาตรองคิดว่าจะทำอะไรให้เป็นสัญลักษณ์ของการแสดงตัวในการกลับตัวกลับใจ ของผู้ที่เคยหลงผิดซึ่งหลายคนได้กลับมาตั้งหลักดำเนินชีวิตไปได้ แต่อีกมากที่ยังไม่สามารถกลับตัวกลับใจได้ ประเด็นเรื่องนี้ จึงได้นำมาซึ่งการจัดสร้างประติมากรรม พระองคุลีมาลเถระ ขนาดสูง 3 เมตรและรูปหล่อองคุลีมาล ขนาดความสูง 1 เมตร โดยเป็นรูปหล่อทองเหลืองทั้งคู่ยืนอยู่ข้างกันเพื่อแสดงให้เห็นก่อนที่ท่านจะบวชและไล่สังหารผู้คนไปถึง 999 คน และมีการตัดนิ้วมาร้อยเป็นสร้อยติดตัวไว้กับช่วงที่ท่านได้บรรลุธรรมสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว   มนุษย์เราทำผิดแล้วรู้จักแก้ไข สามารถกลับตัวกลับใจและพัฒนาตัวได้เสมอ และการนำพระพุทธรูปทองเหลืองซึ่งเป็นพระที่ประชาชนได้นำมาถวายสมัยหลวงพ่อพูล เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ หรือการแก้บนนั้นเองเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งได้ถูกจัดเก็บไว้ใต้พระอุโบสถของวัดมานานไม่ได้ใช้งานไร้ประโยชน์ อะไร จึงได้นำกลับมาทำประโยชน์หล่อ พระองคุลีมาลเถระ เพื่อเตือนสติใจคนในช่วงเวลานี้ได้ โดยดีกว่าที่จะปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นของที่ไม่ได้ใช้งาน  และยังมีคุณค่าในการเตือนสติ สร้างสังคมให้ดีได้  ส่วนทองเหลืองช่วงนี้มีราคาสูงมาก จะจัดสร้างก็ต้องใช้ปัจจัยเป็นจำนวนมาก การรีไซเคิลของที่มีอยู่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ย่อมดีโดยที่ไม่ต้องไปเดือดร้อนญาติโยม ซึ่งหากใครจะนำทองเหลืองมาถวายก็สามารถนำมาร่วมบุญในการเป็นชนวนสำหรับการเป็นมวลสารในการเททองหล่อพระในครั้งนี้ได้เช่นกัน


“พระองคุลีมาลเถระ” ที่จัดสร้างขึ้นจะมีการเททองหล่อในวันที่ 12 มิถุนายน นี้ โดยจะถือเอาวันดังกล่าวซึ่งเป็นวันครบรอบอายุ 50 ปีของอาตมาในการจัดพิธีโดยเมื่อมีการจัดสร้างเสร็จสิ้นก็จะมีการนำมาตั้งไว้ที่วัดไผ่ล้อม เพื่อให้ประชาชนได้มากราบไหว้บูชาและนำเอาแบบอย่างของท่านมาเป็นวิธีคิดในการกลับตัวกลับใจของประชาชน ซึ่งก็อยู่ที่ตัวเองว่าจะตั้งใจเป็นคนดีได้หรือไม่ ดังที่องคุลีมาลได้สติเมื่อได้รับฟังประโยคเดียวขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้แนวทางในการหยุดฆ่าคน และกลับมาเป็นพระอรหันต์ได้ในที่สุด” หลวงพี่น้ำฝนกล่าวปิดท้าย

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS 090522

อำเภอโนนสะอาด อุดรธานี ติดตั้ง “ตู้ราชสีห์” รับเรื่องร้องทุกข์และแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่

อำเภอโนนสะอาด อุดรธานี นำร่องติดตั้ง “ตู้ราชสีห์” รับเรื่องร้องทุกข์และแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่

ที่ทำการกำนันตำบลโคกกลาง อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี นายวันชัย จันทร์พร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วย นายชวิศ ป้องขันธ์ นายอำเภอโนนสะอาด ร่วมทำพิธีส่งมอบและติดตั้ง “ตู้ราชสีห์” รับเรื่องร้องทุกข์ (ทุกเรื่อง) โดยมี นายอนันต์ ละครมูล กำนันตำบลโคกกลาง พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ร่วมพิธี

นายวันชัย จันทร์พร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลในการขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยคำว่า “ความยากจน” หมายถึง ทุกปัญหาความเดือดร้อนที่ประชาชนประสบอยู่และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง” และมอบหมายให้ศูนย์อำนวยการปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอำเภอ (ศจพ.อำเภอ) ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แล้วเสร็จในระดับอำเภอ ตามกรอบระยะเวลาการทำงาน และวัตถุประสงค์ในการขับเคลื่อน นอกจากนี้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบนโยบายในการประชุมติดตามการขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และนายอำเภอ ทุกอำเภอ ในการมุ่งมั่นขับเคลื่อนการบริหารราชการในระดับพื้นที่โดยยึดหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) ตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด ได้กำกับติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการให้บริการประชาชน รวมถึงที่ว่าการอำเภอทุกแห่งที่มีลักษณะงานในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนในท้องที่ ท้องถิ่น ได้ริเริ่มสร้างสรรค์กิจกรรมหรือวิธีการที่ทำให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงบริการหรือสามารถสื่อสารข้อมูลระหว่างประชาชนกับภาครัฐได้อย่างใกล้ชิดและสะดวกมากยิ่งขึ้น โดย นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้ให้ความสำคัญและมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กำกับติดตามการดำเนินงานของทุกอำเภอเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย และสนองตอบต่อปณิธานการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข พี่น้องประชาชนที่คนมหาดไทยได้ยึดถือปฏิบัติมาเป็นระยะเวลากว่า 130 ปี “ในขณะนี้ยังมีพี่น้องประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุบางส่วนยังไม่มีโทรศัพท์รุ่นสมาร์ทโพน รวมทั้งยังเข้าไม่ถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ (โซเชียลมีเดีย) ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือไลน์ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงบริการหรือสื่อสารกับภาครัฐในระดับพื้นที่ได้โดยสะดวก จึงเป็นที่มาของการติดตั้ง “ตู้ราชสีห์”

เพื่อเป็นช่องทางในการร้องเรียนร้องทุกข์ของพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างทั่วถึงในทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ของอำเภอโนนสะอาด และยังเป็นช่องทางในการรับคำร้องขอจดทะเบียนการดำเนินการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงระดับอำเภอ (ศจพ.อำเภอโนนสะอาด) เพื่อให้ประชาชนครัวเรือนเป้าหมายสามารถเข้าถึงช่องทางการติดต่อสื่อสารกับภาครัฐอีกด้วย” นายวันชัยฯ กล่าวเน้นย้ำ นายชวิศ ป้องขันธ์ นายอำเภอโนนสะอาด กล่าวว่า อำเภอโนนสะอาด ได้ดำเนินการติดตั้ง “ตู้ราชสีห์” ในพื้นที่อำเภอโนนสะอาด รวมจำนวน 70 ตู้ แบ่งเป็น บริเวณที่ว่าการอำเภอโนนสะอาด จำนวน 4 ตู้ กระจายโดยรอบ ทั้งบริเวณอาคารที่ว่าการอำเภอ หอประชุมอำเภอโนนสะอาด และได้ทยอยส่งมอบเพื่อติดตั้งในพื้นที่หมู่บ้านทั้ง 66 หมู่บ้าน โดยได้รับความร่วมมือจากชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอโนนสะอาดในการขับเคลื่อนอันจะส่งผลให้พี่น้องประชาชนได้รับการบริการที่ดี และสามารถเสนอแนะหรือขอรับความช่วยเหลือผ่านตู้ดังกล่าว ทั้งยังเป็นการก้าวไปสู่การยกระดับงานบริการประชาชนเพื่อความยั่งยืนในมิติอำเภอวิถี...ใหม่ อีกทางหนึ่งด้วย ด้าน

นายอนันต์ ละครมูล กำนันตำบลโคกกลาง กล่าวว่า ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอโนนสะอาด ได้รับมอบหมายจากท่านนายอำเภอโนนสะอาดในการร่วมดำเนินงานเพื่อดูแลชีวิต ดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนลูกบ้านในตำบล/หมู่บ้าน ซึ่ง “ตู้ราชสีห์” ที่ได้ติดตั้งในครั้งนี้นั้น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยใหญ่บ้าน จะได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเปิดตู้เป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อนำข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียน รวมถึงคำร้องตามนโยบายแก้ปัญหาความยากจนของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำเสนอท่านนายอำเภอ พิจารณาดำเนินการต่อไป

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน 040522

ผบช.ภ.7 พร้อมประธานชมรมแม่บ้านตำรวจ ภ.7 เยี่ยมให้ขวัญกำลังใจ ตำรวจ สภ.ไทรโยค กาญจนบุรี

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมประธานชมรมแม่บ้านตำรวจ เยี่ยมให้ขวัญกำลังใจ ตำรวจ สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 และคุณนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญและกำลังใจ และติดตามผลงานการขับเคลื่อน ตาม นโยบายผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ที่ สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
เพื่อตรวจเยี่ยมเป็นขวัญกำลังใจข้าราชการตำรวจ และขับเคลื่อนนโยบายของ ผู้บัญชาการ สนง.ตำรวจแห่งชาติ

  โดยมี พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
และข้าราชการตำรวจในสังกัดเข้าร่วมประชุม
โดยได้กำชับให้
1. นำนโยบายรัฐบาล วิสัยทัศน์ของ ผบ.ตร. เป็นองค์กรที่บังคับใช้กฎหมายที่นำสมัย ในระดับมาตรฐานสากล เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธาตามวิสัยทัศน์ของตำรวจภูธรภาค 7 คือ “ภักดีองค์ราชันมุ่งมั่นสร้างศรัทธา พัฒนาเป็นมืออาชีพ บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม นำสมัย เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา”
2. ต้องทำงานกันเป็นทีม ยึดมั่นในระเบียบวินัย บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน และดำรงตนอย่างมีเกียรติ
3. การทำงานต้องประกอบด้วย “หลักการทำงาน4443”
3.1 “4 เกาะ” เกาะติดพื้นที่ เกาะติดประชาชน/มวลชน/และชุมชน เกาะติดคนร้ายหรือเกาะติดศัตรูของประชาชน และเกาะติดผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเกาะติดลูกน้อง
3.2 “4 ยก” ยกระดับองค์ความรู้ ยกระดับวิธีคิด ยกระดับวิธีการทำงาน และ ยกระดับการใช้ดุลพินิจ
3.3 “4 ทำ” ทำงาน ทำดี ทำบุญ และมีภาวะผู้นำ
3.4  “3 S” Smart Smile Strong
4. ให้มีการระดมกวาดล้างอาวุธปืน วัตถุระเบิด มือปืนรับจ้าง อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันเหตุเชิงรุก ก่อนเหตุเกิด อันอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศ
4.1 นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อช่วยดูแลความปลอดภัยของประชาชนตามโครงการ”SMART SAFETY ZONE 4.0″
4.2 บริการประชาชน และนักท่องเที่ยวด้วยใจบริการ(SERVICE MIND)
5. ให้มีมาตรการป้องกัน/แก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 มีการตรวจสอบแหล่งท่องเที่ยว โรงแรม บ้านพัก ประชาสัมพันธ์ให้ปฏิบัติตามคู่มือการปฏิบัติ มาตรการของกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด
6. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติ และพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชา ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ คำสั่ง แบบแผนธรรมเนียมของทางราชการอย่างสม่ำเสมอโดยใกล้ชิด และสร้างขวัญกำลังใจ ความสามัคคี ภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริงตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค.2537 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ
7. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การกระทำความผิดใดๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์ การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพันกับการกระทำความผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางวินัย คดีอาญาและปกครองอย่างถึงที่สุด และให้จัดตั้งโครงการเพื่อช่วยสอดส่องดูแลหนี้สินของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด
8. กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในหน่วยงาน มีความรักใคร่ สามัคคี ปรองดองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้องค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยให้ยึดหลัก “ขยัน อดทน ดำรงตนอย่างมีเกียรติ”

ทั้งนี้ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค ข้าวสาร 20 กิโลกรัม ,น้ำดื่ม 15 โหล ,เครื่องดื่ม M 150 1 ลัง เครื่องดื่มสปอนเซอร์ 1 ลัง ,น้ำมะพร้าว 1 ลัง น้ำยูนีฟ 1 ลัง ,หมี่แห้ง 1 ลัง , ขนมปังปี๊ป 1 ลัง ,เบอร์ดี้ 1 ลัง ,มะพร้าวกาแฟ 4ลัง ,มะพร้าว vid C 4 ลัง ,เจลแอลกอฮอล์ 2 ลัง,โคโค่แม็ก 1 ลัง ,มาม่าคัพ 7 แพ็ค เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ ของ สภ.ไทรโยค ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

ขจร วัตรเอก KEY 8 NEWS-PRESS รายงาน

‘วัดไผ่ล้อม นครปฐม’แจ้งน้ำมันขึ้นราคามีผลกระทบเผาศพโควิด -19 ฟรี.

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นครปฐม

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ทำใจน้ำมันเผาศพแพงยังเดินหน้าเผาฟรีแบ่งทุกข์โยมช่วงวิกฤติถึงราคาน้ำมันดีเซลจะปรับตัวขึ้นเนื่องจากวัดไผ่ล้อมมีโครงการเผาศพฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งต้องใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิงหลักในการเผาร่างผู้เสียชีวิต โดยที่วัดมีถังสต๊อกน้ำมันสำหรับใช้ในการดำเนินการไว้แล้วย้ำญาติโยมไม่ต้องวิตกวัดไผ่ล้อมยังคงเดินหน้าบรรเทาทุกข์ให้ญาติโยม โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเช่นเดิม

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 ที่วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เปิดเผยว่าถึงกรณีหลังวันที่1พฤษภาคม 2565 ภาครัฐจะปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลเป็นขั้นบันได โดยอ้างอิงราคาน้ำมันดิบตลาดโลกและจะช่วยเหลือ 50% ของราคาน้ำมันดีเซลในส่วนที่เกิน 30 บาท ซึ่งที่วัดไผ่ล้อมได้มีโครงการในการสวดเผาฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ร้องขอการอนุเคราะห์ต่อวัด และที่ผ่านมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทุกวันนี้ยังมีการเผาศพผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ล่าสุดได้ทำการเผาไปแล้วจำนวน 287 ศพ

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม บอกว่า ได้มีการติดตามกระแสข่าวดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในส่วนของวัดไผ่ล้อมต้องยอมรับและทำใจหากเกิดเหตุสถานการณ์นี้ขึ้น เพราะกระบวนการเป็นแบบนั้นไปแล้วซึ่งตอนนี้ที่วัดไผ่ล้อมได้มีการเตรียมสต๊อกน้ำมันเอาไว้แล้วส่วนหนึ่งเพื่อเตรียมสำหรับใช้การในการเผาศพ ซึ่งมีทั้งผู้เสียชีวิตที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย ซึ่งในฐานะเป็นผู้ปฏิบัติ ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จากช่วงก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 น้ำมันดีเซล ที่สำหรับใช้ในการเผาศพก็จะมีราคาต่ำกว่าลิตรละ 20 บาท แต่พอมีสถานการณ์ของการแพร่ระบาดน้ำมันก็มีการปรับมาราคาประมาณ 25 บาทต่อลิตร ซึ่งก่อนหน้า ก็จะมีการใช้น้ำมันในการเผาศพ 1 ศพ จะใช้น้ำมัน ประมาณ 80 ลิตร ซึ่งก็ไม่เคยมีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดใด ทั้งโลงศพ ดอกไม้ ค่าบำรุงเมรุ ค่าเจ้าหน้าที่ เรียกว่าพิธี 0 บาท ซึ่งตอนนี้วัดไผ่ล้อมได้มีการปรับเปลี่ยนเตาเผาศพแบบใหม่ โดยใช้น้ำมันลดลงเหลือศพละประมาณ 50-60 ลิตร ก็เรียกว่าประหยัดค่าใช้จ่ายจากเดิมที่เคยใช้น้ำมันจำนวนมาก

การจัดพิธีเผาศพฟรี ไม่มีคิดค่าใช้จ่ายหรือเรียกค่าน้ำมันในการเผาศพให้กับญาติโยม ไม่ได้พึ่งเริ่มทำแต่ทำมาหลายสิบปี ตั้งแต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ท่านยังอยู่ ฉะนั้นบอกว่า แม้สถานการณ์น้ำมันจะมีราคาแพงขึ้นบอกได้เลยว่า วัดไผ่ล้อมไม่ล้มเลิกความคิดการช่วยเหลือ และยังคงตั้งเป้า จัดพิธีเผาศพให้ฟรีแบบไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นเดิมแน่นอน ซึ่งเรามีกองทุนที่จะมีการเก็บสต๊อกน้ำมัน โดยเป็นถังลอย ภายในวัดเราเอง ซึ่งจะมีการซื้อน้ำมันมาสต๊อกไว้ใช้งาน ครั้งละ 3,000 – 5,000 ลิตร ขอให้โยมมั่นใจได้ หรือท่านใดจะร่วมด้วยช่วยบริจาคค่าน้ำมันก็ได้ มาที่วัดหรือทางออนไลน์ตามเลขบัญชีที่แจ้งมานี้ หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

อากาศร้อน คนอย่าร้อน.. แนะนำใช้ธรรมดับร้อนจาก ‘หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม’

อากาศร้อน คนอย่าร้อน พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน ) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ได้กล่าวธรรมดับร้อนแก่ญาติโยมและลูกศิษย์ว่า.


เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน จุดไฟในใจคนฉบับนี้ อาตมาขอเริ่มต้นด้วยข่าวสารงานบุญที่ผ่านมาในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา อาตมาได้จัดพิธีเทวาภิเษก กำไรมหานาคราช และกระเป๋ามหามงคลพูลเพิ่มทรัพย์ เป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ เข้มขลังตามตำรับโบราณ กระทำขึ้นในวันสงกรานต์ วันปีใหม่ไทย
พญาศรีสัตตนาคาธิบดี เป็นพญานาคผู้ยิ่งใหญ่อีกองค์หนึ่งตามคติความเชื่อของชาวไทย และชาวลาวสองฝั่งโขง เป็นพญานาคที่มีจิตฝักใฝ่ในธรรม เป็นที่เคารพของผู้คนจนกล่าวกันว่า หากมีพิธีกรรมใดเกิดขึ้น แล้วได้เชิญพญานาคมาในพิธี พิธีนั้นก็จะศักดิ์สิทธิ์ มีผลสำเร็จทุกประการ
กำไลนี้ อาตมาเขียนว่า กำไร ให้เป็นลางดีว่า บูชาแล้วจะเกิดกำไรงอกงาม ดุจดังพญานาคราชบันดาลทรัพย์สมบัติมาให้ เมื่อมีทรัพย์มาแล้วก็ต้องมีที่เก็บ ก็มีกระเป๋ามหามงคลพูลเพิ่มทรัพย์ สำหรับเก็บทรัพย์และให้ทรัพย์นั้นงอกเงยยิ่ง ๆ ขึ้นไป ท่านที่สนใจบูชากำไร หรือกระเป๋า สามารถติดต่อได้ที่วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม
อย่างไรก็ตาม มีวัตถุมงคลคู่กายแล้ว อย่าลืมหลักธรรมคู่ใจ หัวใจเศรษฐี “ขยันหา รักษาดี มีเพื่อนดี ชีวิตพอเพียง” สี่ข้อนี้ทำให้กำไรและกระเป๋าใช้ได้ผลจริง ๆ จะเพิ่มอีกสี่ข้อก็ได้ ว่า “อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา” ได้กำไร ได้กระเป๋ามาก็ปฏิบัติตามทั้งแปดข้อนี้ รับรองกินดีอยู่สบายในไม่ช้าก็เร็วแน่นอน


สงกรานต์ผ่านพ้นไปแล้ว แต่อากาศนั้นเรียกได้ว่าร้อนระอุเต็มที ร้อนเสียจนเหมือนถูกเผา แทบจะละลายไปกับพื้นถนน เปิดประตูบ้านออกไปเหมือนเปลวไฟต้องร่าง อยู่ข้างนอกก็ถูกแดดเผา อยู่ในบ้านก็เหมือนอยู่ในเตาอบ เปิดพัดลมก็คือได้ลมร้อน เปิดแอร์แอร์ก็เหมือนไม่ช่วยอะไร อากาศแบบนี้ ลองสังเกตดูดี ๆ ว่า เราใจร้อนขึ้นหรือไม่ คนรอบตัวเราใจร้อนขึ้นหรือไม่ เช่น เห็นอะไรก็ขวางหูขวางตา พูดจาผิดหูไปนิดเดียวก็มีปฏิกิริยา เกิดความหงุดหงิดขึ้นตลอดเวลา ปกติเราหรือเขาไม่ใช่คนแบบนี้นี่ ถ้าสังเกตแบบนี้ สงสัยเกิดอาการ อากาศร้อน คนก็ร้อนด้วยนั่นเพราะว่า เราถูกความร้อนกระตุ้นนั่นเอง อารมณ์ ความคิด จิตใจ ความรู้สึกสุข ความรู้สึกทุกข์ที่เกิดขึ้นนั้น มาจากขันธ์ 5 หรือเบญจขันธ์ เป็นการทำงานต่อเนื่องกันไป ประกอบด้วย รูป (สิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรม) เวทนา (รับความรู้สึก) สัญญา (จดจำได้) สังขาร (การปรุงแต่ง) และวิญญาณ (สภาพรับรู้)
อวัยวะคือตัวเรารับรู้ถึงความร้อน นั่นคือรูปได้ความร้อน สำหรับคนไทยเรานั้นอากาศร้อนเราไม่ชอบ ยอมเสียค่าไฟเพราะเปิดแอร์ยังจะดีเสียกว่า นั่นคือเกิดเวทนา เป็นทุกข์เวทนา เพราะว่าเราไม่ชอบ ไม่ปรารถนาความร้อนแต่ต้องมาเจอความร้อน ทั้งนี้เพราะเราจำได้ว่าอาการเช่นนี้คือความร้อน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบและเราหงุดหงิดเสมอที่จะต้องเจอมัน นี่คือสัญญา ทีนี้เกิดการปรุงแต่งต่าง ๆ นานาในดวงจิต ตามวัตถุดิบที่มีอยู่ อันนี้คือสังขาร ถ้าเป็นคนทนร้อนก็แต่งไปอีกอย่าง ถ้าเป็นพวกไม่ทนร้อนก็แต่งไปอีกอย่างหนึ่ง เกิดความคิดความรู้สึกพุ่งพล่านขึ้นมา ทำไมร้อนฉิบหายร้อนวอดวายอะไรขนาดนี้ นั่นคือเกิดการปรุงแต่งขึ้นมา สุดท้ายเกิดผลคือตัววิญญาณ คือสภาพรับรู้ซึ่งเกิดขึ้นในแต่ละบุคคล ก็ออกอาการในประการต่าง ๆ เช่น ความหงุดหงิด ความโมโหร้อน อันเป็นผลของความร้อนนั้น


กระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นตลอดเวลา วนเวียนอยู่เป็นวงจร ร้อน หงุดหงิด ร้อน ว้าวุ่น ร้อน พลุ่งพล่าน เกิดวนไปเช่นนี้ และเป็นความเร็วระดับสายฟ้าแลบ คือ เกิดขึ้นไวมาก ตั้งแต่รูปได้ความร้อนจนถึงออกอาการหงุดหงิด จนทำให้ปฏิกิริยาต่อความร้อนนั้นมันเป็นเรื่องปกติ เรื่องที่เป็นธรรมดา แต่อย่างไรก็ตาม หากสมมติโลกนี้สามารถกดปุ่มให้เกิดภาพสโลว์โมชั่นได้ ให้เห็นภาพชัด ๆ เราจะพบว่า กระบวนการพวกนี้มันเกิดแล้วมันก็ดับไป สมมติว่า เราร้อนอยู่ดี ๆ แล้วจู่ ๆ เราเดินผ่านประตูห้างสรรพสินค้า เข้าไปในห้างที่แอร์เย็นสบาย ไอ้ความรู้สึกหงุดหงิดมันหายไปไหม วงจรความหงุดหงิดโมโหร้อนนั้นมันยังมีอยู่อีกหรือไม่ มันไม่มี มันหายไปแล้ว มันจะเกิดวงจรของความสบายอกสบายใจได้แอร์เย็น ๆ ขึ้นมาแทน แต่พอออกประตูห้างไป เจออากาศร้อนระอุเหมือนเดิม เอ้า วงจรความสบายหายไปแล้ว วงจรความร้อนเกิดขึ้นแทน หงุดหงิดอีกรอบ
อันนี้แหละเกิด-ดับ อันนี้คือองค์วิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งใช้สิ่งที่เกิดขึ้นในตัวเรานี่แหละเป็นเครื่องทำให้รู้ว่า นี่แหละเกิดดับแต่ว่า ณ ที่นี้ เราเอาแค่เราสังเกตตัวเรา ให้มีสติว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเรา เกิดความหงุดหงิดใช่ไหมเวลาเจอความร้อน แล้วก็พาลไปถึงเรื่องอื่นมากมาย แสดงว่าความหงุดหงิดนั้นเป็นของไม่ดีเราห้ามความร้อนไม่ได้ แต่เราลดความหงุดหงิดลงได้ด้วยตัวของเราเองด้วยภายนอก เช่น เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนดี ไม่อมความร้อน ทาแป้งเย็น หรือฉีดสเปรย์เย็นและด้วยภายใน คือ การมีสติกำหนดรู้ว่าเราคิดและรู้สึกอะไรอยู่ รู้สึกหงุดหงิดก็รู้ว่าหงุดหงิด อย่าให้เตลิดไปเป็นสิ่งอื่น อะไรอย่างอื่นที่มันเตลิดเปิดเปิงไป เช่น โมโหร้อนไปเหวี่ยงใส่คนอื่นอย่างที่บอกไปข้างต้น
หน้าร้อนยังคงอยู่คู่เราไปอีกหลายวัน และคงจะอยู่คู่เมืองไทยไปชั่วฟ้าดินสลาย สภาพแวดล้อมเรากำหนดได้ยาก แต่สภาพในใจเรากำหนดได้ เพื่อให้เราอยู่ในหน้าร้อนได้อย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ อากาศร้อน แต่คนอย่าร้อนตามอากาศ ขอเจริญพร

ขจร วัตรเอก Key8 News-Press รายงาน

แม่ค้านครปฐมสุดปังได้รับอานิสงส์จาก”น้องมิลลิ”ข้าวเหนียวมะม่วงขายดีมาก หลังซบเซาจากผลโควิด-19 มานาน

ขอขอบคุณภาพน้องมิลลิ จาก Google

กระแสข้าวเหนียวมะม่วงมาแรง แม่ค้านครปฐมสุดปังได้รับอานิสงส์จาก”น้องมิลลิ”ขายดีมาก จากซบเซาจากผลโควิด-19 มานาน

เมื่อวันที่ 20 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก “น้องมิลลิ” ดนุภา คณาธีรกุล อายุ 19 ปี แร็พเปอร์สาว ขึ้นแสดงบนเวทีโคเชลลา (Coachella) แล้วกินข้าวเหนียวมะม่วงโชว์ ทำให้เกิดกระแส “ข้าวเหนียวมะม่วง” ขึ้นนั้น ที่หน้าสถานีรถไฟนครปฐม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐมที่เป็นแหล่งรวมร้านขายข้าวเหนียวมะม่วง ของคนนครปฐม มีลูกค้าทะยอยมาซื้อข้าวเหนียวไม่ขาดสาย

  เจ๊นันท์ กล่าวว่า ปกติขายข้าวเหนียวมูน หรือข้าวเหนียวมะม่วง ประจำอยู่หน้าสถานีรถไฟมาหลายสิบปี มีข้าวเหนียวมูน มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงอกร่อง สังขยา และน้ำกะทิทุเรียน ช่วงโควิดค้าขายยาก และเศรษฐกิจก็ไม่ดี ขายข้าวเหนียวมูน มะม่วง ประทังชีวิตไปวันๆ แต่สองวันนี้ขายดีผิดปกติ เพิ่งรู้ว่ามีนักร้องเอาข้าวเหนียวมะม่วงไปกินบนเวที ทำให้เกิดกระแส คนกินข้าวเหนียวมะม่วงขึ้น ทำให้การค้าคึกคัก ขอบใจนะ”มิลลิ” มาช่วยชีวิตป้า

  ด้านป้าณีย์ เจ้าของร้านกล้วยทอด ข้าวเหนียวมะม่วงเจ๊ณีย์ กล่าวว่าปกติขายกล้วยทอด ระยะหลังมาขายข้าวเหนียวมะม่วงเสริม สองวันนี้ตั้งแต่มีกระแสข้าวเหนียวมะม่วงขึ้น ขายดีมาก
ข้าวเหนียวมูนนครปฐมบ้านเราขึ้นชื่ออยู่แล้ว เพราะนครปฐมเป็นแหล่งทำข้าวหลามที่บ้านพระงาม ใกล้สถานีรถไฟนครปฐมนี้ ทำให้ย่านหน้าสถานีรถไฟนี้จะมีร้านข้าวเหนียวมูนหลายร้าน แต่รสชาติไม่แตกต่างกัน ข้าวเหนียวเม็ดเป็นตัวสวย และหวานมันกะทิสด น้ำกะทิราดหอมหวาน เป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญข้าวเหนียวมูนนครปฐมส่วนใหญ่ใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงูคัดพิเศษ ชนิดเดียวกับที่ทำข้าวหลาม

ขอบคุณข้อมูล ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน 200422

ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ถวายสมุนไพรฟ้าทะลายโจรแด่พระสงฆ์ ที่กลับจากแสวงบุญประเทศอินเดีย.

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถวายสมุนไพรฟ้าทะลายโจรแด่พระสงฆ์ ที่กลับจากแสวงบุญประเทศอินเดีย.

นายอนุชา สะสมทรัพย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

  นายอนุชา สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม  (สจ.กลุมชาวบ้าน) และทีมงานเป็นตัวแทนนำยาฟ้าทะลายโจร ยาน้ำแก้ไอมะขามป้อม และยาอม
ของ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัดไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์จำนวน 12 รูป และอุบาสิกา 21 ท่าน ที่กลับจากการไปแสวงบุญ ที่ประเทศอินเดียที่ต้องทำการกักตัว

   นายอนุชา สะสมทรัพย์  กล่าวว่า ได้ทราบว่าพระภิกษุสงฆ์ 12 รูป และอุบาสิกา 21 ท่าน ที่กลับจากการไปแสวงบุญ ที่ประเทศอินเดียนั้น เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จำเป็นต้องกักตัวตามระเบียบของ ศบค. ที่วัดสำโรง ต.สำโรง อ.นครชัยศรี. จ.นครปฐม จึงได้ให้ทีมงานไปประสานกับทางวัด และดำเนินการถวายยา และให้ติดตามดูว่ามีอะไรที่ต้องการเพิ่มเติมขอให้แจ้งมา ผมขอเป็นโยมอุปฐากกับพระคุณท่านครับ

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

ผบช.ภ.7 แถลงข่าวตำรวจเมืองมหาชัย จับมือยิง 3 ศพ ตามยุทธการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก”

เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2565 ที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย
พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์
ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร
พ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์ ชั้นประเสริฐ
รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร
พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย อินทรปรีชา
รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร
พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์
ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร
พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม
ผกก.สส.2 ภ.7
พ.ต.อ.ยอดชาย แก้วเรือง
ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 1 ราย ซึ่งก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นมีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายธีรเมศร์ แก้วหะ อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.88/2565 ลงวันที่ 8 เม.ย. 65 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”

พร้อมตรวจยึดของกลาง

  1. รถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ100 สีเทา ทะเบียน กบค 270 สมุทรสาคร จำนวน 1 คัน (รถที่ใช้ก่อเหตุและหลบหนี)

โดยแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ทราบว่า “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”

พฤติการณ์กล่าวคือ
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 65 เวลาประมาณ 11.30 น. สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งมีคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 3 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายธีรเมศร์ แก้วหะ ที่ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย แล้วขับขี่รถจักรยานยานต์หลบหนีไป
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบภาพคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์คันก่อเหตุหลบหนีไป จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ ซึ่งศาลจังหวัดนครปฐมอนุมัติหมายจับที่ จ.88/2565 ลงวันที่ 8 เม.ย. 65 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามติดตามคนร้ายตามเส้นทางหลบหนีทราบ ทราบว่าคนร้ายหลบหนีทิ้งรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุไว้บริเวณ ซ.พัฒนา 3 ต.หญ้าแพรก อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร จึงได้สืบสวนติดตามจนทราบว่าคนร้ายหลบหนีไปพักอาศัยในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ จึงได้สืบสวนกดดันคนร้ายจนกระทั้งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้บริเวณพื้นที่ ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่ง พงส.สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้รอบคอบ เพื่อให้สามารถดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องได้จนถึงที่สุด รวมถึงสืบสวนขยายผลถึงผู้ให้ความช่วยเหลือ ให้ที่พำนักผู้กระทำความผิดให้ให้ถูกจับกุม ตามคติที่ว่า “คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์ ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน

ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

ส.ส.โหน่ง ติดตามงานขยายช่องทางถนนแยกพระแท่น-กำแพงแสน เพื่อแก้ปัญหารถติดสะสมแยกไฟแดง

นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ( ส.ส.โหน่ง) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จ.นครปฐม ติดตามงานขยายช่องทางถนนแยกพระแท่น-กำแพงแสน เพื่อแก้ปัญหารถติดสะสมแยกสัญญาณไฟจราจร

ชมคลิป.แถลงในสภาฯ

วันที่ 7 เมษายน 2565 นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ (ส.ส.โหน่ง ) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จ.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา ลงพื้นที่อำเภอกำแพงแสน พร้อมกับนายธนพันธ์ โชคดำรงสุข ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหัวัดนครปฐม  ส.อบจ.เขตอำเภอกำแพงแสน เพื่อตรวจเยี่ยมติดตามการก่อสร้างถนนสายกำแพงแสน-พระแท่น ส่วนขยายขาเข้า ตัดถนนมาลัยแมน ตำบลกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เป็นการเพิ่มเส้นทางเบี่ยงช่องซ้ายอีกหนึ่งช่องทางเพื่อให้ยานพาหนะ ของประชาชนที่มุ่งหน้าเข้าชุมชน มาจากพระแท่น จ.กาญจนบุรีไป จ.สุพรรณบุรี ได้ใช้ช่องทางที่สะดวกมากขึ้น ลดปัญหาการจราจรติดขัด และรถติดสะสมในผิวจราจรช่วงเวลาเร่งด่วน และลดอุบัติเหตุได้เป็นอย่างดี

  นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์  กล่าวว่า โครงการขยายช่องทางเพิ่มถนนพระแท่น-กำแพงแสน นี้เป็นโครงการที่ตนได้ขอยื่นอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อของบประมาณมาดำเนินการ 30ล้านบาท เพื่อลดปัญหาการจราจร และลดอุบัติเหตุ เนื่องจากถนนเส้นนี้เป็นถนนเส้นทางตัดระหว่างเมือง (อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม – อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี) ถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางที่มีรถบรรทุกขนาดใหญ่ เช่น รถบรรทุกทราย รถบรรทุกอ้อย และพืชผลการเกษตร รถยนต์ส่วนบุคคล ใช้เส้นทางนี้จำนวนมากทุกวัน และในช่วงวันเสาร์-วันอาทิตย์ จะมีรถนักท่องเที่ยวกลับจาก จ.กาญจนบุรี วิ่งมาทางนี้เพื่อขึ้นถนนมาลัยแทน ไปตาม.สุพรรณบุรี ไป จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา และกรุงเทพมหานคร  เป็นจำนวนมาก เมื่อแล้วเสร็จถนนส่วนขยายเส้นนี้จะอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก

  ด้านนายธนพันธ์ โชคดำรงสุข หรือ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหัวัดนครปฐม  ส.อบจ.เขตอำเภอกำแพงแสน กล่าวว่าการขยายถนนเพิ่มช่องทางด้านซ้ายแก่ถนนเส้นนี้ตั้งแต่ประตูมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ฝั่งโรงเรียนสาธิต จะช่วยการระบายรถได้เป็นอย่างดี เพราะช่วงโรงเรียนเปิด จะมีผู้ปกครองมาส่งลูกหลานจำนวนมากทำให้มีรถยนต์จอดสะสมมากทำให้การจราจรติดขัด เพราะเดิมมีแค่ 2 ช่องทาง ก็ต้องขอขอบคุณส.ส.โหน่ง ที่คอยดูแลแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนชาวกำแพงแสน เพราะถนนสายกำแพงแสน-พระแท่น นี้เป็นถนนหลักเชื่อมระหว่าง 3 จังหวัด มีรถบรรทุกขนาดใหญ่ใช้จำนวนมาก

ข้อมูล ภาพ-ข่าว ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

อบจ.นครปฐม แต่งดำแสดงสัญลักษณ์ พร้อม อบจ.ทั่วประเทศ ประทัวงรัฐฯ โอน รพ.สต.ให้บริหาร แต่ไม่จัดงบให้ตามข้อตกลง.

วันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2565 ที่หน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม (อบจ.) นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย สมาชิกสภาฯ ประธาน อสม., ผอ.รพ.สต. ในจังหวัดนครปฐม และส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม พร้อมใจกันแสดงสัญลักษณ์ด้วยการแต่งกายชุดดำ พร้อมร่วมถือป้ายเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาอุปสรรคในการถ่ายโอนภารกิจ รพ.สต.
       โดยในวันนี้ทาง อบจ.ทุกแห่งทั่วประเทศที่ได้ดำเนินภารกิจถ่ายโอน รพ.สต. จะพร้อมใจกันแสดงสัญลักษณ์นี้โดยพร้อมเพรียงกัน เพื่อร่วมกันยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีและจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อไป


นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า วันนี้พวกเราชาว อบจ.ทั่วประเทศได้ร่วมกันแต่งชุดดำแสดงสัญลักษณ์ ให้รัฐบาลหรือหน่วยงานที่โอนภารกิจ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือ อบจ.มาบริหาร แต่ทางรัฐฯ ไม่จัดสรรงบประมาณตามประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้เรา อบจ.ทั่วประเทศไม่สามารถบริหารจัดการได้
  โดยทาง อบจ.นครปฐม ได้รับโอน รพ.สต.มาทั้งหมด 134 แห่งแบ่งเป็น 3 รอบ รอบแรกผ่านการประเมินจำนวน 36 แห่ง เราของบไป ทั้งสิ้น 399,029,700 บาท ได้อนุมัติมาแค่ 14,172,100 บาทจาก 36 แห่ง เหลือ 4 แห่ง และ 4 แห่งนี้จากงบ แห่งละ 1-2 ล้าน ได้มาแค่แห่งละ 4 แสน  ทำให้ทาง อบจ.ทั้งทางนครปฐม และทั่วประเทศได้รับผลกระทบเหมือนกัน เราจึงออกมาแต่งชุดดำแสดงให้ทางรัฐบาลรับทราบปัญหา.

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา จัดพิธีทำบุญ ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า ฯ


นายอนิรุทธิ์ สุขจิต ผู้อำนวยการโครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา จังหวัดนครปฐม พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ และพนักงานภายในโครงการ ร่วมกับ ชมรมศิษย์อุทยานฯ และ มูลนิธิคลังสมอง(วปอ.)เพื่อสังคม หลักสูตรผู้นำพอเพียงเพื่อความมั่นคง (นพม) รุ่น 10/1 1/12

ได้จัดพิธีทำบุญ ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายน 2556 5 ณ.โครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา จังหวัดนครปฐม
และในการนี้ได้จัดให้มีกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เช่นการฝึกอบรมวิชาชีพหลักสูตรการทำน้ำยาล้างจาน และงานประดิษฐ์สายคล้องแมส ให้แก่กลุ่มคนผู้พิการทุกประเภทและบุคคลทั่วไปที่สนใจในจังหวัดนครปฐม โดยมีเจ้าหน้าที่และชมรมศิษย์อุทยานฯเป็นวิทยากรฝึกอบรมให้ความรู้

KEY8 NEWS▪︎PRESS 040422

นายก อบจ.นำจิตอาสา กำจัดผักตบชวาในคลองพระยากง เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นครปฐม นำจิตอาสาร่วมกันกำจัดผักตบชวาในคลองพระยากง เนื่องในวันข้าราชการพลเรือน

วันที่ 1 เมษายน 2565 ที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองพระยากง ตำบลธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม
นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด จิตอาสาจากหน่วยงานต่างๆ และประชาชนในพื้นที่ นครปฐม ร่วมกิจกรรมจิตอาสากำจัดวัชพืช เก็บผักตบชวา และสิ่งปฏิกูลออกจากแหล่งน้ำในคลองพระยากงจรดประตูระบายน้ำคลองพระยากง ตำบลธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม พร้อมกับปล่อยพันธุ์ปลาลงสู่แหล่งน้ำเนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2565

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม รับรางวัล บุคคลดีเด่น องค์กรหัวใจทองคำ GOLDEN HEART AWARD ประจำปี 2564

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม รับรางวัล บุคคลดีเด่น องค์กรหัวใจทองคำ GOLDEN HEART AWARD ประจำปี 2564 จากสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ หลังผลงานโดดเด่นในฐานะพระสงฆ์ที่ทำงานทุ่มเทเพื่อสังคมในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด


วันที่ 31 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ห้องบอลรูม MATFAIR โรงแรม เดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ สมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ ได้จัดงาน องค์กรหัวใจทองคำ ประจำปี 2564 GOLDEN HEART AWARD โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธานในการเปิดงานและมอบรางวัล ร่วมด้วย นายแพทย์ฆนัท ครุฑกูล นายกสมาคมสมาพันธ์สถานประกอบการเพื่อสุขภาพและผู้สูงอายุ นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธ์ นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย และแขกผู้มีเกียรติภายในงาน

ซึ่งในปีนี้ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ได้รับคัดเลือกให้เข้ารับรางวัล บุคคลดีเด่น สำหรับบุคคลที่มีผลงานสาธารณประโยชน์ช่วยบรรเทาสาธารณภัยโควิด-19 หลังจากมีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์และยอมรับในสังคม จากการดำเนินการในการโครงการต่าง ๆ ที่นำคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อมช่วยเหลือสังคมในการประสานงานและดำเนินการเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบวิกฤติภัยโควิด-19 อาทิเป็นวัดแรกๆ ในประเทศไทยที่มีการประกาศรับเผาศพของผู้ที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การจัดโครงการสวดเผาฟรี สำหรับผู้ยากไร้และประสบปัญหาเศรษฐกิจ การจัดระบบการเผาศพโควิด-19 ให้เกิดความปลอดภัยของคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่ การริเริ่มแนวคิดจัดการไลฟ์สด พิธีฌาปนกิจศพของผู้เสียชีวิตเพี่อให้ญาติและครอบครัวได้รับชมพิธีการ รวมถึงการจัดกระบวนการฌาปนกิจแบบครบถ้วนตามหลักพระพุทธศาสนาฉบับย่อ และยังมีการจัดสถานที่วัดไผ่ล้อมให้เป็นคลินิกครอบครัวโรงพยาบาลนครปฐม (วัดไผ่ล้อม)เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ สามารถดูแลรักษาผู้สูงวัย ที่ไม่สามารถเดินทางไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลนครปฐม ลดการแออัดและเสี่ยงต่อโรคอีกด้วย

สำหรับการจัดพิธีการมอบรางวัลดังกล่าว ได้มีการมอบรางวัลหัวใจทองคำ ให้กับองค์กรดีเด่น จำนวน 38 องค์กร และบุคคลดีเด่นจำนวน 23 ท่าน และการมอบรางวัลสถานประกอบการเพื่อสุขภาพดีเด่น จำนวน 49 แห่ง ซึ่งในปีนี้ได้มีการเล็งเห็นถึงความสำคัญเกี่ยวกับการดูแลช่วยเหลือประชาชนให้รอดพ้นภัยจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย โดยได้รับความร่วมแรงร่วมใจและบุคคลทั่วไปในการช่วยเหลือประชาชนทั่วไปในการออกมาตรการต่าง ๆ รวมถึงอำนวยคามสะดวกให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ในการควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

เชียงใหม่.ประธานสภาเทศบาล ต.สุเทพ จัดงานแต่งหลานชายสุดอลังการ

เชียงใหม่.ประธานสภาเทศบาล ต.สุเทพ จัดงานแต่งหลานชายสุดอลังการ


 
นายพศิน อัคเดชธนโชติ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสุเทพ และนายกิตติพงศ์ พลับพลาทอง ประธานสภาเทศบาลตำบลสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ได้เดินทางมาที่สนามหน้าโรงแรมแอทพิงค์นครริเวอร์ไซค์ ริมแม่น้ำปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อร่วมงานมงคลสมรส
ระหว่าง นางสาว พัชราพร บุตรนิยม  (เจ้าสาว) บุตรของนาย สุพจน์ นางประภาพร บุตรนิยม    และนายธนพล วะน้ำค้าง (เจ้าบ่าว)บุตรของนายพยงค์ นางอำไพ วะน้ำค้าง
  โดยมีนาย พศิน อัคเดชธนโชติ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสุเทพให้เกียรติเป็นประธานในงานมงคลสมรสครั้งนี้ 
  โดยแขกที่มาร่วมงานครั้งนี้ เจ้าภาพจัดให้มีการตรวจ ATK หน้างานให้กับผู้เข้าร่วมงานเพื่อเป็นการ ป้องกันการแพร่เชื้อของเชื้อโควิด-19 (โอไมครอน )เป็นการปฏิบัติตามระเบียบของกรมป้องกันโรคกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด

นครปฐม..ผบช.ภ.7 แถลงจับก๊วนวัยรุ่น มั่วสุมยา พกพาอาวุธปืน

ผบช.ภ.7 แถลงจับก๊วนวัยรุ่น มั่วสุมยา พกพาอาวุธปืน

เมื่อเวลา 15.30น.วันที่ 25 มีนาคม ที่สภ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
ผบช.ภ.7แถลงว่าพล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์
ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษกร  อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม ว่าที่ พ.ต.อ.อรรถการ กองสุผล ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมพวกสืบสวน จับกุม กลุ่มวัยรุ่นลักลอบจัดปาร์ตี้ยาอี และเสพยาเสพติด ในรีสอร์ทแห่งหนึ่งหมู่3 ต.วังตะกู อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2565 เวลาประมาณ 00.30 น. เป็นชาย หญิง รวมกัน 24 คน และตรวจยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม.จํานวน 5 กระบอก อาวุธปืนขนาด11มม.จํานวน3กระบอก(อาวุธปืนรวม 8 กระบอก เป็นปืนมีทะเบียนจํานวน 7 กระบอก และไม่มีทะเบียนจํานวน 1 กระบอก) เครื่องกระสุนปืน จํานวน 67 นัด
ยาเคตามีน จํานวน 20.1 กรัม และยาอี จํานวน 6 เม็ด

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาฝ่าฝืนพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ทั้งหมด24 คน และแบ่งกลุ่มผู้ต้องหาตามข้อหาความผิดเป็น 4 กลุ่ม มีผู้ต้องหาที่กระทําความผิด ตาม พรบ.อาวุธปืนฯ จํานวน 5 ราย ผู้ต้องหาที่กระทําความผิด ตาม พรบ.อาวุธปืนฯ และ พรบ.ยาเสพติดฯ จํานวน 3 ราย ผู้ต้องหาที่กระทําความผิด ตาม พรบ.ยาเสพติดฯ จํานวน 8 ราย และผู้ต้องหาที่ตรวจไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย และผลตรวจไม่พบสารเสพติด อีกจำนวน 8 ราย ได้แจ้งข้อหา “ฝ่าฝืนพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558”

ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ตามวันและเวลาเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่า ที่เกิดเหตุมีกลุ่มวัยรุ่นมา เปิดห้องพักลักลอบมั่วสุมเสพยาเสพติดและส่งเสียงดัง หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ไปตรวจสอบ เมื่อไป ถึงพบกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมอยู่ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจ ตรวจสอบพบกลุ่มบุคคลจํานวน 24 คนรวมตัว มั่วสุมกัน จึงทําการแยกชาย-หญิงและทําการตรวจค้นพบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงยึดไว้เป็นของกลาง จากนั้นนํา ตัวกลุ่มบุคคลดังกล่าวไปตรวจสารเสพติด พบบางส่วนมีสารเสพติด จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นําส่งพนักงานสอบสวน

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

คณะสงฆ์ไทย เรียนรู้ต้นแบบโคกหนองนา นำสร้างศรัทธาต่อประเทศอังกฤษ


พระเดชพระคุณ พระราชมหาเจติยาภิบาล ในฐานะประธานสมาคมวัดอรุณสหราชอาณาจักร นำคณะพระธรรมทูตวัดอรุณสหราชอาณาจักร ศึกษา เรียนรู้ต้นแบบโคกหนองนาโมเดล ณ ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำกลางคลองเปรม เพื่อนำไปเป็นต้นแบบดำเนินการต่อยอดโครงการโคกหนองนาแห่งศรัทธาประเทศอังกฤษ และเสริมพลังศรัทธาให้มั่นคงยิ่งขึ้น



วัดอรุณสหราชอาณาจักร ได้นำต้นแบบโครงการพระราชทาน โคกหนองนา บินลัดฟ้าข้ามพรมแดนไปบ่มเพาะ ลงผืนแผ่นดินสหราชอาณาจักร เมืองนอริช ประเทศอังกฤษ เมืองใหญ่ที่มีคนไทยอยู่จำนวนมาก ซึ่งวัดอรุณสหราชอาณาจักรเป็นวัดไทยแห่งเดียวที่เมืองแห่งนี้ ทำหน้าที่หลอมรวมศรัทธาชาวไทย ชาวต่างชาติ และชาวพุทธ  ด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่อบอุ่นไปด้วยความรัก ความเมตตา และน้ำใจที่มอบให้แก่กัน

  วัดอรุณสหราชอาณาจักร แม้จะเป็นวัดเล็กๆ มีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนัก อีกทั้งสภาพอากาศของประเทศอังกฤษ ก็ไม่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตของพืชผักบางชนิด จึงสร้างผลผลิตได้เป็นบางช่วงเวลาเท่านั้น แต่ปัญหาดังกล่าวหาได้เป็นอุปสรรคขวางกั้นความศรัทธา และความตั้งใจได้ ….ในเบื้องต้นวัดอรุณสหราชอาณาจักร นำโดย พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระราชมหาเจติยาภิบาล…ท่านได้ริเริ่มแนวคิด และมอบหมายให้พระธรรมทูต คณะญาติโยม นำรูปแบบโครงการพระราชทาน โคกหนองนามาทำเป็นแปลงผักเล็กๆ ในเรือนกระจก ตามสภาพแวดล้อมจะเอื้ออำนวย ตั้งใจแต่เพียงว่าทำในส่วนที่เราทำได้ให้ดีที่สุด

การดำเนินโครงการในช่วงแรกๆ แม้ชาวต่างชาติหลายคนก็ไม่เข้าใจ เพราะด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ มีอากาศที่ไม่เหมาะแก่การปลูกพืชผักบางชนิด จึงทำนายผลได้ชัดเจนตั้งแต่แรกว่าคงไม่คุ้มค่ากับการลงทุนอย่างแน่นอน…พระเดชพระคุณ พระราชมหาเจติยาภิบาล ได้ให้นโยบายแก่พระธรรมทูตไว้ว่า เราก็อธิบายเขาไปด้วยปรัชญาเบื้องต้นว่า จริงๆแล้ว การไม่คุ้มค่า บางครั้ง เป็นสิ่งที่มี “คุณค่า” และ การ “ขาดทุน”นั่นแหละคือ “กำไร”  เพราะ…แนวคิดโคกหนองนาที่เราทำอยู่ คือเกษตรเพื่อแบ่งปัน บนพื้นฐานของวัฒนธรรมพึ่งพาอาศัยกัน ไม่ใช่เกษตรเพื่อขายบนพื้นฐานของการคำนวนผลกำไรที่ชาวต่างชาติเขาคุ้นเคยจากการทำเกษตรแปลงใหญ่ๆ หลายร้อย หลายพันไร่ สามารถคำนวนผลกำไร-ต้นทุนได้อย่างชัดเจน แต่ภายใต้แนวคิดโครงการโคกหนองนาที่พระราชาพระราชทานให้ เราต่างมั่นใจว่า…นอกเหนือจากผลผลิตที่ได้ เรายังได้ความรัก ความศรัทธา ความสามัคคี กับการช่วยเหลือแบ่งปันซึ่งกันและกัน

…ด้วยเหตุว่าพื้นที่ของวัดนั้นมีจำกัด ทางวัดจึงได้สร้างความร่วมมือกับญาติโยมชาวไทย ให้นำแนวคิดโครงการโคกหนองนาไปดำเนินการในที่ของตนๆ ตามแต่พื้นที่นั้นจะเอื้ออำนวย…ทางวัด และพระธรรมทูตช่วยเหลือร่วมลงแรงออกแบบแปลน ร่วมด้วยช่วยกันบ่มเพาะดูแล จนเมื่อผลผลิตเกิดขึ้นก็ได้นำไปแบ่งปันทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ตามโอกาศต่างๆ ผลงานปรากฏชัด จนได้รับคำชื่นชมจากชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงได้รับรางวัลอันน่าภาคภูมิใจด้วย และมากไปกว่าการเอาชนะปัญหา อุปสรรคของสภาพอากาศในต่างแดนแล้ว…เรายังสามารถเอาชนะข้ออ้างในใจตนเองที่มักบอกเราเสมอว่า เราทำไม่ได้ แต่แท้จริงแล้วเราทำได้เพราะสิ่งที่เราทำมันยิ่งใหญ่กว่าอุปสรรค ดั่งคำที่ว่า “DO IT WITH YOUR HEART ALWAYS GREATEST”ทำด้วยใจ ยิ่งใหญ่เสมอ”

จนถึงวันหนึ่งความดีที่เราทำอย่างเงียบๆในต่างแดน แต่ผลของมันกับส่งเสียงดังด้วยความทราบถึงพระเนตร พระกรรณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ท่านได้โปรดพระราชทานเมล็ดพันธ์ผัก เสื้อ สมุดไดอารี่ และสิ่งของเครื่องใช้อื่นๆ ถวายแก่พระเดชพระคุณพระราชมหาเจติยาภิบาล นำไปมอบต่อให้พระธรรมทูต และญาติโยมชาววัดอรุณสหราชอาณาจักร เป็นที่ปลาบปลื้มยินดี เสริมกำลังใจให้รักษาความดีที่ทำอยู่ และตั้งใจทำให้ดียิ่งๆขึ้นไป

ประเทศอังกฤษและประเทศไทยเป็นราชอาณาจักร
ที่มีพระเจ้าแผ่นดินเหมือนกัน ประชาชนทั้งสองประเทศต่างมีความปลื้มใจในกษัตริย์ของตน
โดยเฉพาะของไทย ท่านเป็นสมมติเทพที่เราเคารพบูชาคนไทยอยู่เย็นเป็นสุขปลอดภัย เพราะเราได้อาศัยพื้นแผ่นดิน ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงทศพิธราชธรรม ซึ่งเป็นหลักคำสอนในสยามเมืองยิ้ม “เรายิ้ม” เพราะเรามีความสุข ไม่ทุกข์  เมื่อเหล่าพระธรรมทูตไปทำหน้าที่ เผยแผ่ ณ ประเทศอังกฤษ ก็เอาความสุขนี้แหละไปด้วยความสุขที่พวกเราภาคภูมิใจว่าแผ่นดินไทย เพราะเรามีร่มโพธิ์ใหญ่คือ ร่มพระบรมโพธิสมการ

จนถึงตอนนี้ คำถาม และความสงสัยในเบื้องต้นของชาวต่างชาติ ได้ถูกตอบผ่านผลงาน และการทำสิ่งเล็กๆ ด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ว่า…ขาดทุนนี่แหละคือกำไร เพราะแม้ผลผลิตจะขาดทุน ขาดกำไร…แต่เราได้แบ่งปันน้ำใจที่ประเมินค่าไม่ได้…และเราได้พบของขวัญอันล้ำค่าที่พระราชาพระราชทานให้พสกนิกรชาวไทยคือ “ความมีน้ำใจ และการแบ่งปัน” ซึ่งเป็นดั่งพรอันประเสริฐ เป็นเกียรติยศ และเป็นเกราะป้องกันติดตัวเราไม่ว่าจะอยู่ในต่างแดน หรือในประเทศไทย อยู่ที่ใดก็มีความสุข เป็นคนเล็กๆ แต่ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เป็นคนธรรมดาที่มีคุณค่าในสังคม.

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS

ผอ.รร.ราชินี อาสาลงชิงเก้าอี้ประธานสหกรณ์ครู นครปฐม

ว่าที่ร้อยตรี ดร.มนต์เมืองใต้ รอดอยู่ อาสาลงสมัครรับเลือกเป็นประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครู นครปฐม จำกัด ในนามกลุ่มสหกรณ์ก้าวหน้า หมายเลข 1 พร้อมสมาชิกครบทีม เพื่อหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเพื่อนำไปสู่การแก้ไข พัฒนา เพื่อความมั่นคง โปร่งใส ใส่ใจดูแล และพัฒนาสหกรณ์

ว่าที่ร้อยตรี ดร.มนต์เมืองใต้ รอดอยู่ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชินีบูรณะ และตำแหน่งต่างๆ ในปัจจุบันคือ ประธานเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการมัธยมศึกษาจังหวัดนครปฐม ที่ปรึษาพิเศษนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม

ประสบการณ์และประวัติการทำงาน.. อดีตประธานชมรมผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็ก สำนักงานเขตพื้นการศึกษานครปฐม เขต2
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองปรง ผู้อำนวยการโรงเรียนปรีดารามวิทยาคม ผู้อำนวยการโรงเรียนโพรงมะเดี๋อวิทยาคม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดห้วยจรเข้วิทยาคม กรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา ที่ปรึกษากรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประธานผู้ตรวจกิจการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครปฐม จำกัด กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครปฐม จำกัด ประธานกรรมการเงินกู้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครปฐม จำกัด และที่ปรึกษาประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครปฐม จำกัด

ว่าที่ร้อยตรี ดร.มนต์เมืองใต้ รอดอยู่ เผ่ยว่าผมตั้งใจจะเข้ามาทำงานในสหกรณ์โดยมีนโยบายว่า “สร้างความมั่นคงทางการเงิน บริหารตามหลักธรรมาภิบาล สมาชิกมีคุณภาพชีวิตที่ดี”

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ปลัดมหาดไทย บรรยายพิเศษหลักสูตรนายกเทศมนตรีและรองนายกเทศมนตรี รุ่นที่ 3

ปลัดมหาดไทย บรรยายพิเศษหลักสูตรนายกเทศมนตรีและรองนายกเทศมนตรี รุ่นที่ 3 เน้นย้ำใช้กลไก “ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนในท้องถิ่น พร้อมร่วมกัน Change for Good สร้างสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาช

     วันนี้ 2 มี.ค. 65 เวลา 16.00 น. ที่ห้องผาไท 1 ชั้น 2 สถาบันพัฒนาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย บรรยายพิเศษ “การเสริมสร้างสมรรถภาพนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ตามโครงการฝึกอบรมหลักสูตรนายกเทศมนตรีและรองนายกเทศมนตรี รุ่นที่ 3 โดยมี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายยงยุทธ สุวรรณบุตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสมุทรปราการ และผู้เข้าฝึกอบรมซึ่งเป็นนายกเทศมนตรี และรองนายกเทศมนตรี รวมจำนวน 72 คน ร่วมรับฟัง

     นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายกเทศมนตรี เป็นผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต และดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นที่รับผิดชอบ ตั้งแต่แรกเกิด ดังเช่นการพัฒนาเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้มีพัฒนาการสมบูรณ์ทุกด้านผ่านการเล่นสนามเด็กเล่นสร้างปัญญา 5 ฐาน คือ ฐานที่ 1 ค่ายกล Spider man ฐานที่ 2 สระน้ำ อิน จัน ฐานที่ 3 สระทารก ฐานที่ 4 เรือสลัดลิง และฐานที่ 5 หัดว่ายน้ำ เพราะเด็กต้องมีเครื่องมือหรืออุปกรณ์เสริม ให้ได้เกิดการพัฒนา IQ ครบทุกด้าน ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม รวมถึงด้านจิตใจ และระเบียบวินัย จากการเข้าคิวเข้าแถวเล่น เช่น เล่นดิน เล่นทราย ปีนป่ายต้นไม้ โหนเชือก สไลเดอร์ เล่นขายขนมครก ทำกับข้าวที่กองทราย ฝึกความกล้าหาญ เล่นสะพานเชือก ส่งผลให้เกิดการพัฒนากล้ามเนื้อ ทำให้เกิดพัฒนาการทางสมอง เพราะการเล่นจะเสริมสร้างสมาธิให้แก่เด็ก ทำให้เกิดความสามัคคีกัน เด็กมีสังคมแห่งมิตรภาพ มีความเป็นจิตอาสา ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของพัฒนาการที่ดี อันจะทำให้เด็กในท้องถิ่นได้รับสิ่งที่ดี มีความสุข มีความพร้อมที่จะเติบใหญ่เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ

     นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า ในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนซึ่งในขณะนี้รัฐบาลได้มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคน ทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) โดยตั้งเป้าหมาย “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” มีกลไกขับเคลื่อนตั้งแต่ระดับนโยบายสู่การปฏิบัติในระดับพื้นที่ทั้งระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานขับเคลื่อนในภาพรวมจังหวัด และนายอำเภอเป็นประธานระดับอำเภอ โดยใช้ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐานจากระบบ TPMAP 5 มิติ คือ ด้านสุขภาพ ด้านการเป็นอยู่ ด้านการศึกษา ด้านรายได้ และด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ  ซึ่งในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในท้องถิ่นนี้ มีกลไกที่เทศบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถดำเนินการได้ผ่าน “ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ให้มีความเข้มแข็ง ด้วยการติดตั้งป้ายด้านหน้าที่ทำการให้ชัดเจน และมอบหมายเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน พร้อมเชิญผู้ที่มีจิตอาสา มีจิตใจที่อยากช่วยประชาชน มาร่วมเป็นคณะกรรมการร่วมกับกรรมการชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน และประชุมพิจารณาช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเป้าหมายในแต่ละด้าน โดยต้องอาศัยผู้มีจิตใจที่เป็นกุศล เสียสละ ทำศูนย์ฯ ให้มีความเข้มแข็ง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน ศจพ. นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือบทบาทในการเกื้อหนุนระหว่างวัดและชุมชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืนร่วมกับสมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อให้วัดได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน  ทั้งนี้ เทศบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนได้อย่างเป็นระบบด้วยการจัดทำฐานข้อมูลสารสนเทศ (Big Data) เพื่อสามารถวางแผนดูแลคนทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กเล็ก เด็กโต ส่งผลต่อการพัฒนาด้านอื่น ๆ และแก้ไขตามสภาพปัญหา

     นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังได้กล่าวอีกว่า ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกเทศมนตรี มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งเป็นการสืบสานอัตลักษณ์ภูมิปัญญาผ้าไทยให้คงอยู่คู่กับท้องถิ่น ตามพระปณิธานของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยการสวมใส่ผ้าไทย อุดหนุนผ้าไทยจากฝีมือคนไทย  ดังแนวคิดที่ว่า “ผู้นำต้องทำก่อน” เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับข้าราชการ พนักงาน และพี่น้องประชาชนในท้องถิ่น อันจะทำให้เม็ดเงินหมุนเวียนอุดหนุนจุนเจือช่วยเหลือประชาชนผู้ประกอบการทอผ้าในท้องถิ่น ทำให้เศรษฐกิจฐานรากมีความมั่นคงชุมชนพึ่งตนเองได้ นอกจากนี้ ผู้บริหาร อปท. สามารถส่งเสริมการลดรายจ่ายครัวเรือนให้กับพี่น้องประชาชน ด้วยการส่งเสริมการปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางอาหาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปลูกผักสวนครัว พืชสมุนไพร เลี้ยงเป็ด เลี้ยงปลา เลี้ยงกบ เลี้ยงไก่ ในบริเวณรั้วบ้าน ซึ่งเป็นการช่วยลดรายจ่าย สร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรงจากพืชผักปลอดสารพิษ และยังเป็นการสร้างความรักของคนในครอบครัว รวมถึงอาจทำให้เกิดการเพิ่มรายได้จากการจำหน่ายพืชผักจากสวนอีกด้วย

     นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นหน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่งของเทศบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะต้องดำเนินการบริหารจัดการขยะในชุมชนท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยวิธีการที่สามารถทำให้เกิดการสร้างกระแสในท้องถิ่น ผ่านอาสาสมัครท้องถิ่นรักษ์โลก (อถล.) ที่สามารถรับสมัครสมาชิกได้ตั้งแต่อายุ 7 ปี เป็นต้นไป ทำให้เกิดเครือข่ายที่ยิ่งใหญ่และสำคัญในการรณรงค์ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เกิดวัฒนธรรม 3ช คือ ใช้น้อย ใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่ เป็นมนุษย์คัดแยกขยะ รวมถึงส่งเสริมให้แต่ละบ้านทำถังขยะเปียกลดโลกร้อนด้วยวิธีการง่าย ๆ คือ นำถังอะไรก็ได้มาตัดก้นถังออก ขุดหลุมให้ก้นหลุมลึกกว่าก้นถัง ปากถังสูงเหนือกว่าดิน และนำขยะเปียก ขยะเศษอาหาร น้ำล้างจาน มาเทใส่ถังขยะเปียก และปิดด้วยฝาถัง ทำให้เกิดเป็นปุ๋ยอินทรีย์บำรุงดิน บำรุงต้นไม้ บำรุงพืชผักสวนครัว อีกด้วย

     “งานของเทศบาลเป็นงานที่ต้องดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน วิธีการทำงานที่สำคัญที่สุด คือ ต้องไปคิด ไปวางแผนทำ 3 เรื่อง คือ 1) งานที่กฎหมายกำหนดให้ต้องทำ 2) งานนอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ (Extra job) ด้วยการนำอุดมการณ์ (Passion) ที่คิดอยากให้ประชาชนทุกคน ทุกครัวเรือน ในเขตเทศบาล มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยนำสภาพปัญหามาวิเคราะห์เพื่อแก้ไขปัญหาโดยกลไกศูนย์ช่วยเหลือประชาชน และ 3) การรายงาน (Report) และสื่อสารประชาสัมพันธ์ (Public Relations) ให้ประชาชนได้รับรู้การขับเคลื่อนงานอันจะทำให้เกิดการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชน ซึ่งสามารถทำได้ในหลายลักษณะ ทั้งการบอกปากต่อปาก  เสียงตามสาย ประกาศ และสื่อมวลชนในพื้นที่ ทั้งนี้ การฝึกอบรมในครั้งนี้ จะทำให้ท่านนายกเทศมนตรีและรองนายกเทศมนตรีที่เข้ารับการฝึกอบรม จะได้มีเครือข่ายในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงาน มีองค์ความรู้ มีข้อมูลข่าวสารมาถ่ายทอด  สร้างเครือข่ายในการทำงาน นำตัวอย่างความสำเร็จของเทศบาลอื่น มาวิเคราะห์ประยุกต์พัฒนาในท้องถิ่นเทศบาลของท่าน เพื่อ Change for Good สร้างสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน อันเป็นการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

อบต.ตลาดจินดา พร้อมเปิด’ศูนย์พักค่อยตลาดจินดาอุ่นใจ’ 3 มี.ค.65

ที่ศูนย์พักคอยตลาดจินดาอุ่นใจ นายขวัญใจ เขียวอ่อน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลาดจินดา พร้อมด้วย นายพลรัตน์ คูสมบัติ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล หัวหน้าส่วนราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น อสม. รพ.สต.ตลาดจินดา และ รพ.สต.บ้านตากแดด ได้ร่วมเข้าเก็บรายระเอียดและทำความสะอาดอีกครั้ง และดำเนินการประชุมวางแผน การดำเนินการการเข้าบริการศูนย์พักคอย การแบ่งขอบข่ายหน้าที่ของแต่ละส่วนงานต่างๆ เพื่อให้พร้อมเปิดให้บริการใน วันที่ 3 มีนาคม 2565

ขอขอบคุณ ภาพข่าว จากธีรพงศ์ พันธุ์ศรี

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม มอบน้ำดื่มบุญ 1,000 โหลสนับสนุนโรงพยาบาลสนาม 3 แห่ง 2 จังหวัด

หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม อ.เมืองจ.นครปฐม มอบน้ำดื่มบุญ1,000โหลสนับสนุนโรงพยาบาลสนาม 3 แห่ง 2 จังหวัด


พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม โดยกองทุนหลวงพ่อพูล ได้มอบหมายให้ พระครูสมุห์พงษ์ดนัย สุวโจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พร้อมคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่วัดไผ่ล้อม เป็นผู้แทนนำน้ำดื่มบุญ มอบสนับสนุนให้แก่โรงพยาบาลสนาม จำนวน 3 แห่ง ใน 2 จังหวัด โดยแห่งแรกที่โรงพยาบาลนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม แห่งที่ 2 โรงพยาบาลสามพราน(วัดไร่ขิง) จังหวัดนครปฐม แห่งที่ 3 โรงพยาบาลบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี

ทั้งนี้กองทุนหลวงพ่อพูล โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม มีเจตนาในด้านสาธารณะสงเคราะห์ที่คณะสงฆ์วัดไผ่ล้อมสามารถที่จะช่วยเหลือสนับสนุนญาติโยม เมื่อเกิดความเดือดร้อน และ
เพื่อเป็นกำลังใจแก่ทีมแพทย์ พยาบาล รวมถึงผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย และผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ได้มีน้ำดื่มสะอาดระหว่างปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยสู้วิกฤตไวรัสโควิด-19 และขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกคน ที่ได้ร่วมกันดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤตินี้ในเร็ววัน

สำหรับกองทุนหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม นั้นได้สนับสนุนโครงการต่างๆมามากมาย ตั้งแต่ช่วยผู้ยากไร้ มอบเครื่องอุปโภค บริโภคข้าวสาร สนับสนุนการศึกษา มอบอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา สนับสนุนกิจการตำรวจเช่นมอบเครื่องคอมพิวเตอร์ รวมทั้ง สวดเผา ฟรี ไม่มีข้อแม้ เผาศพโควิด ศพอนาถา มอบโลงศพ จัดรถบริการ ช่วยเหลือครบวงจร
ทุกท่านสามารถร่วมบุญสมทบทุน กองทุนหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ได้ที่ ชื่อบัญชี กองทุนหลวงพ่อพูล โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์(คมน์กฤตย์) เลขบัญชี 152-2-67866-6

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

รพ.สต.กระตีบ,รพ.สต.เฉลิมพระเกียรติ อ.กำแพงแสน เปิดฉีดวัคซีนโควิด19 เข็มที่ 1-2-3

รพ.สต.กระตีบ รพ.สต.เฉลิมพระเกียรติ ตำบลห้วยม่วง อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด19 เข็มที่ 1-2-3เป้าหมาย 200 ราย


เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2565
ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนชั่วคราว ร.ร.วัดห้วยม่วง
นางพนารัตน์ เปี่ยมคล้า ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลกระตีบ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าที่ศาลาเอนกประสงค์ โรงเรียนวัดห้วยม่วง ซึ่งจัดให้เป็นศูนย์ฉีควัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนที่มีภูมิลำเนา ในตำบลกระตีบ และตำบลห้วยม่วง จำนวนทั้งสิ้น 200 ราย สำหรับวัคซีนที่นำมาฉีดให้แก่ประชาชนในวันนี้ ประกอบด้วย แอสตร้าเซนิก้า และไฟเซอร์

ศูนย์วัคซีนชั่วคราวแห่งนี้ เปิดให้บริการฉีดวัคซีนทุกวันพุธ ของสัปดาห์ ตั้งแต่เวลา 09.00 ถึง 11.00 น.ประชาชนที่ไม่มีภูมิลำเนาใน ตำบลกระตีบและตำบลห้วยม่วง และนอกตำบล ประสงค์จะมาฉีดวัคซีนที่นี่บริการทั้งประชาชนคนไทย และต่างชาติ ตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป ในกรณีต่างชาติ ให้ใช้บัตรสีชมพู หรือหนังสือเดินทาง(พาสปอตร์) ตามเงื่อนใขท่านต้องแจ้งความประสงค์เพื่อลงทะเบียนผ่านผู้นำหมู่บ้าน อสม. และ รพ.สต.ทั้งสองแห่งท่านสะดวกที่ใหน ลงทะเบียนได้ที่นั่น เพื่อรับการนัดหมายมาฉีดวัคซีนในวันและเวลา เพื่อลดความแออัด และท่านจะได้รับการฉีดวัคซี ตามนัดอย่างแน่นอน ศูนย์วัคซีนแห่งนี้ จะเปิดให้บริการ ต่อเนื่องตามที่ศูนย์เครือข่ายวัคซีน อำเภอกำแพงแสน ประสานงานมาเพื่อให้ รพ.สต.ดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชน ต่อไป

ขอบคุณ ข่าว-ภาพ ประพฤติ อรรฆธน

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ร้านชื่อแปลก ‘แดงแดกด่วน’ ทำอาหารให้แดก แบบไม่ชิม

  เปิดหัวเรื่องมา‘ร้อยเรื่องเล่า’ ตอนนี้อาจจะดูแปลกๆ ออกไปทางแนวไม่สุภาพหน่อย เพราะมีภาษาชาวบ้าน หรือภาษาในวงเหล้าที่เรียกกันว่า แดกหรือกิน ซึ่งเป็นความหมายเดียวกัน แต่คำว่า “แดก” ที่จะเล่าให้ฟังในตอนนี้มันเข้าไปอยู่ในชื่อร้านอาหารริมทางที่ขายดีและอร่อยด้วยชื่อร้านว่า “แดงแดกด่วน”

   ร้านอาหารที่ว่านี้เป็นร้านอาหารตามสั่งริมถนน ตั้งอยู่เลขที่ 68/2 หมู่ 8 ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี  สังเกตบริเวณหน้าร้านมีป้ายชื่อ  “แดงแดกด่วน” ร้านนี้เปิดมากว่า 20 ปี และเท่าที่ทราบมาร้านนี้ทำอาหารด้วยความเร็วเมนูละไม่เกิน 3 นาที และช้าสุดแค่ 5 นาที ทำแบบไม่ต้องชิมรสชาต จึงเป็นที่มาของชื่อร้าน  ลูกค้าร้านนี้มีหลายระดับตั้งแต่ข้าราชการ ชาวบ้าน นักท่องเที่ยวแวะเวียนมากินกันเพียบ
   

บงกช ครือเครือ อายุ 60 ปี  มีชื่อเล่นว่า “ เจ๊แดง ”   เจ้าของร้านอาหารซื่อแปลกเล่าว่า ได้ใช้พื้นที่ข้างบ้านตัวเองเปิดเป็นร้านอาหารตามสั่งมานานกว่า 20 ปีแล้ว  มีลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุนเป็นประจำตั้งแต่เช้าถึงบ่าย  โดยเฉพาะช่วงพักเที่ยงจะมีลูกค้าแน่นร้านทุกวัน

เนื่องจากที่นี่ขายราคาไม่แพง ปริมาณมาก รสชาติอร่อยถูกปาก มีหลากเมนูให้เลือก  จะมีเมนูแนะนำติดไว้ที่ร้าน เช่น แกงป่า แกงเขียวหวาน ผัดฉ่า  ผัดขี้เมา  ผัดไทย ผัดซีอิ้ว  ผัดกบ ผัดนก ผัดปลาดุก และอีกมากมาย 

ลูกค้ามาสั่งอาหารจะนั่งรอไม่เกิน 3 – 5 นาที  ก็จะได้รับประทานอาหารตามสั่ง ทำให้หลายคนชอบใจที่ไม่ต้องรอคอยเป็นเวลานาน และรสชาติก็ยังเข้มข้น จัดจ้าน ถูกใจด้วย วิธีการทำให้เร็ว คือการเตรียมเครื่องเคียง  เครื่องปรุงไว้ให้พร้อมอยู่ใกล้มือ  ระดับของไฟที่ใช้ต้องแรงและปรับระดับได้สะดวก


  เจ๊แดง เล่าต่อว่าส่วนมากลูกค้าชอบเป็นอาหารจานเดียว พวกผัดกระเพรา ผัดฉ่า ผัดไทย สุกี้ ราดหน้า และทั่วไป อาหารป่าอีกหลายอย่างตามแต่ลูกค้าจะชอบ ร้านนี้เดิมชื่อร้านว่า อร่อยไม่ต้องเดิน  และได้เปิดขายมาเรื่อย ๆ มีลูกค้ามาเยอะ และจะมีเวลาแค่ชั่วโมงเดียวที่จะมานั่งกินอาหารกันเพราะเป็นช่วงพักกลางวัน จึงต้องทำให้เร็ว ถ้าทำช้าก็จะหมดเวลา ลูกค้าจะไปทำงานไม่ทัน ส่วนรสชาติที่อร่อยนั้นเดิมตนเองเคยทำอาหารโต๊ะจีนมาก่อน จึงเป็นความเคยชินของตัวเองว่าจะปรุ่งรสอะไรให้ลูกค้ากิน  เวลาทำจะไม่เคยได้ชิมเลย  ตั้งแต่จานแรกยันจานสุดท้าย


    ส่วนที่มาของชื่อร้าน “แดงแดกด่วน” นั้น เพื่อนได้มานั่งกินอาหารที่ร้านเห็นว่าเราทำเร็วมาก และมีข้าราชการคนหนึ่งบอกว่าน่าจะต้องเปลี่ยนชื่อร้านใหม่ว่า เป็นร้านแดงแดกด่วนก็แล้วกัน จานหนึ่งใช้เวลาทำประมาณ 3 นาที  ไม่เกิน 5 นาทีก็เสร็จเสริ์ฟลูกค้าได้แล้ว  ส่วนราคานั้น อาหารจานเดียว 40 บาท ถ้ามีไข่ดาว ไข่เจียวเพิ่มก็จะอีกราคา  ส่วนก๋วยเตี๋ยวราคา 40 บาทเท่ากัน  ขายต่อวันไม่ต่ำกว่า 50 จาน  ส่วนหนึ่งมีลูกค้าสั่งใส่กล่องกลับไปกินที่บ้านด้วย 
                      

  ไพรัช วรศิริ ผู้จัดการศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง   บอกว่ามากินที่ร้านนี้บ่อยมาก รสชาติดี ด้วยความอร่อยและรวดเร็วทุกอย่าง มีเมนูประจำ  ไม่ต้องปรุงเพิ่ม  วันนี้กินมาม่าผัดขี้เมาราดข้าว ใช้เวลาที่มานั่งไม่เกิน 5 นาที ก็ได้กินแล้ว  หรือเรียกกันติดปากว่า “แดกด่วน”  ฟังดูชื่อแปลกนะแต่ แต่ก็ที่ได้กินอาหารที่เร็วมากสมชื่อร้าน ด้วยเวลาที่เราต้องรีบทำงานต่อ เรื่องรสชาติจัดจ้านถึงเครื่องดี 

  ปัญญา ถ้ำแก้ว นายก อบต.รางบัว ซึ่งเป็นลูกค้าประจำเล่าว่า ที่ร้านทำเร็วมากไม่เกิน 5 นาที ก็ได้กินแล้ว ถ้าผ่านมาก็จะแวะชิมประจำ รสชาติจัดจ้านกำลังดี ส่วนใหญ่จะสั่งแกงป่ากินกันในพื้นที่อ.จอมบึง จะมีหลายร้าน  แต่ส่วนที่ร้านนี้จะมีรสชาติที่แตกต่างกันกับร้านอื่น ๆ ลูกค้าที่เคยมากินจะติดใจย้อนกลับมากินอยู่บ่อยๆ
                
  ก็พอทราบที่มาของชื่อร้านกันแล้วนะครับ สำหรับผู้สนใจอยากจะชิมฝีมือ  ลองไปแวะชิมที่ร้านแดงแดกด่วน ได้ เปิดขายวันจ้นทร์ถึงเสาร์ตั้งแต่เช้าถึงบ่าย หยุดวันอาทิตย์  สอบถามได้ที่เบอร์ 092-5858960
                                          
ข้อมูลเล่าเรื่อง พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี   

ขจร วัตรเอก คนเล่าเรื่อง

อบจ.นครปฐม เปิดWalk-in ฉีดวัคซีน ‘โมเดอร์นา’ เข็ม 3 จำนวน 1,500 คน ที่ รพ.สามพราน (วัดไร่ขิง)

องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม เปิด Walk-in ฉีดวัคซีน ‘โมเดอร์นา’ เข็ม3 จำนวน 1,500 คน ที่ โรงพยาบาลสามพราน(วัดไร่ขิง)

ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด แจ้งว่าในวันที่ 4 มีนาคมนี้ ทาง อบจ.จะเปิดให้ประชาชน ผู้มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป เข้ารับการฉีดวัคซีน”โมเดอร์นา” เข็ม 3 (Walk – in) เพียงนำบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนา 2 แผ่น และหลักฐานการฉีดวัคซีนเข็ม1 – เข็ม2 มารับการฉีดวัคซีน

ได้ที่ อาคารพระเทพศาสนภิบาล โรงพยาบาลสามพราน (วัดไร่ขิง) ในวันที่ 4 มีนาคม 2565 ตั้งแต่เวลา 08.00- 12.00 น. โดยมานับบัตรคิวได้ตั้งแต่ 07.00 น. จำนวน 1,500 คน

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

อบต. ตลาดจินดา เปิดศูนย์พักคอยตลาดจินดาอุ่นใจ  รองรับสถานการณ์ โควิด-19

นายขวัญใจ เขียวอ่อน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลาดจินดา และสมาชิกสภา อบต.ตลาดจินดาทุกหมู่ ร่วมกับฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลตลาดจินดา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตลาดจินดาและผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านตากแดด ร่วมประชุมเพื่อปรึกษา และดำเนินการจัดทำ ศูนย์พักคอยตลาดจินดาอุ่นใจ  (Community Isolation) ที่ประชุมได้ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการของศูนย์ในฝ่ายต่างๆ และจัดตั้ง เวรยาม เจ้าหน้าที่ เข้าดูแล ปฏิบัติภารกิจในการเปิดทำการของศูนย์

ในการเปิดศูนย์ครั้งนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลตลาดจินดาขอกราบขอบคุณ ท่านจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ท่านพลเอกอุดมชัย ธรรมสาโรรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา ได้มอบเงินจำนวน 20,000 บาท และนายกองโทพเยาว์ เนียะแก้ว ที่ได้นำข้าวสารมามอบให้กับศูนย์พักคอยตลาดจินดาอุ่นใจ และท่านมาริษา กมลเวช ท้องถิ่นอำเภอสามพราน คุณธวัชชัย นาคศรีสังข์ หน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม

พร้อมด้วยนายกประเสริฐ อินทร์บำรุง นายกเทศมนตรีเมืองกระทุ่มล้ม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองกระทุ่มล้มที่ได้มอบชุดที่นอนจำนวน 50 ชุด
โรงพยาบาลพุทธมณฑล มอบมุ้งจำนวน 50 หลัง
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนยายหอม มอบผ้าห่มจำนวน 30 ผืน
ให้กับศูนย์พักคอยตลาดจินดาอุ่นใจ โดยมีนายธีรพงศ์ พันธุ์ศรี เลขานุการสภาองค์การบริหารส่วนตำบลตลาดจินดา นางสาวฐิติพร แสงจันทร์ เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี และ เจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลตลาดจินดาเป็นผู้รับมอบ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลตลาดจินดาขอกราบขอบพระคุณทุกๆท่าน มา ณ ที่นี้

ศูนย์พักคอยตลาดจินดาอุ่นใจ (Community Isolation) จัดตั้งขึ้นที่ โรงเรียนหลวงพ่อแช่มอุปถัมภ์ ตำบลตลาดจินดา อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม แบ่งออกเป็น ๒ อาคาร รองรับผู้ป่วย ได้ ๕๐ เตียง อาคารอุ่นใจ ๑ รองรับได้ ๒๗ เตียง อาคารอุ่นใจ ๒ รองรับได้ ๒๓ เตียง

ผู้ใดจำนงค์ร่วมสนับสนุนศูนย์ฯ ติดต่อประสานงานได้ที่ น.ส.ฐิติยา (ลูกน้ำ) จนท.อบต.ตลาดจินดา 0931342915

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

รัฐมนตรีช่วยฯ มหาดไทยเปิดงานประชุม ‘สมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก’ The 6 Western Motor Expo 2022

นครปฐม รมช.มหาดไทย เปิดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 “The 6″ ” Western Motor Expo 2022 “

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 สมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก “The 6″ ” Western Motor Expo 2022 “
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บริเวณสนามไดร์กอล์ฟ โรงแรมเวล จังหวัดนครปฐม นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 สมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก “The 6″ ” Western Motor Expo 2022 โดยมีนายสมเกียรติ พูลสุขเสริม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พันโท ดร.สินธพ แก้วพิจิตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนครปฐม เขต 1 นายกสมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก ,มิสเตอร์เคน อิวาโมโต้ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ฮีโน่มอเตอร์เซลส์ ( ประเทศไทย ) จำกัด, นายอำเภอเมืองนครปฐม ,นายกเทศมนตรีนครนครปฐม ตลอดจนคณะกรรมการสมาคมรถบรรทุก สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการ ร่วมงานในครั้งนี้

นายบุญชู กัลยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการสมาคมรถบรรทุกภาคตะวันตก ประธานการจัดงาน กล่าวว่า การจัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ได้จัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกลุ่ม ผู้ประกอบการรถบรรทุกในภูมิภาคตะวันตกและภูมิภาคใกล้เคียง รวมถึงส่งเสริมและร่วมสร้างกิจกรรม รวมไปถึงเป็นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นจากหลากหลายค่ายรถ มาจัดแสดงโชว์เพื่อเป็นการพัฒนาระบบกรขนส่งสินค้าของประทศไทย ให้ทัดเทียมนานาประเทศ ซึ่งการขนส่งทางถนนทุกวันนี้ ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศ เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่จะนำพาให้ประเทศ ผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในภาคตะวันตก การขนส่งสินค้าต่างๆ ได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างมาก จากการพัฒนาด้านถนน หนทาง และการพัฒนาด้านรถบรรทุกที่ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งทำให้เศรษฐกิจในภูมิภาคนี้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ได้มีการตรวจ ATK หรือตรวจคัดกรอง ก่อนเข้างาน และได้ดำเนินการแบบ New normal ภายใต้มาตรการ ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid – 19) ด้วย


KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

อช.แก่งกระจาน เพชรบุรี รับมอบกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ เพื่องานอนุรักษ์

23 ก.พ. 2565 ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กลุ่มนักท่องเทื่ยวเพื่ออนุรักษ์ป่าไม้ ได้ร่วมตัวกันระดมทุนจัดซื้อกล้องดักถ่ายภาพสัตว์ป่า (camera tap) เพื่อมอบไว้ใช้สำหรับงานอนุรักษ์ของอุทยานฯ

โดยนายอิทธิพล ไทยกมล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มอบหมายให้นายกษิดิศ จั่นประดับ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ รับมอบแทน

นายธนภณ ถาวรธนัตกุล (ต๋อย เผ่าฅณฑี) กล่าวว่า ผมและเพื่อนๆ พี่น้องๆ ทั้งรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ ป๋าล้านกลุ่มสยามแมมมอธนครปฐม พี่เบิ้มสมุทรสาคร ร้านยำแซบบางพรหม อัมพวา ร้านอาหารนารา พวกเราเหล่านี้คือกลุ่มคนปลายน้ำรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่ได้ดูแลป่าต้นน้ำให้พวกเราได้ใช้อย่างมีความสุขสบาย พวกเราตระหนักดีถึงการเสียสละของพวกท่านที่ดูแลป่าไม้ให้พวกเรา


จึงได้รวบรวมเงินเพื่อซื้อกล้องจับภาพสัตว์ป่า จำนวน 9 ตัว มูลค่า 54,186 บาทมอบเพื่องานวิจัยสัตว์ป่าต้นน้ำเพชร ที่สำคัญอย่ายิ่งคือ จระเข้พันธุ์ไทยต้นน้ำเพชรบุรี เพื่อประโยชน์ต่อไปข้างหน้ากับประเทศชาติและคนไทยทุกคน พวกเราขอฝากธรรมชาติป่าไม้นี้ไว้ให้ท่านดูแลแทนให้พวกเราด้วยขอขอบคุณครับ

นายกษิดิศ จั่นประดับ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ แจ้งกับกลุ่มอนุรักษ์ว่า สืบเนื่องจาก คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายศึกษาและวิจัยอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ร่วมกับสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS) ประเทศไทย ดำเนินการสำรวจความหลากหลายทางชีวภาพบริเวณแม่น้ำเพชรบุรี ตั้งแต่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาพะเนินทุ่ง ถึงหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแม่สะเลียง โดยวิธีการล่องแพยางเป็นเวลาสี่คืนห้าวัน ระยะทางประมาณ 35 ก.ม. เพื่อสำรวจร่องรอยสัตว์ป่าและติดตั้งกล้องเพื่อเก็บข้อมูลจากกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าประจำเดือน ก.พ. ผลปรากฏว่าได้ภาพจระเข้น้ำจืด (Siamese crocodile) ซึ่งอยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งในสภาพธรรมชาติ และสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ เช่น หมีหมา กวางป่า ชะมดแปลงลายแถบ หมาไม้ นากใหญ่ขนเรียบ

เพื่อให้การสำรวจสัตว์ป่าประสิทธิภาพและครอบคลุมเพิ่มขึ้น ทางอุทยานก็ได้รับความอนุเคราะห์จากกลุ่มเพื่อน พี่ต๋อย เผ่าฅณฑี ที่ได้จัดซื้อกล้องดักถ่ายสัตว์ป่ามาเพิ่มเติมจำนวน 9 ตัว ถือว่ามีประโยชน์มากครับ ทางอุทยานจึงขอขอบคุณกลุ่มเพื่อนพี่ต๋อย เผ่าฅณฑี เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

จากสื่อมวลชน..”สู่นักชงมืออาชีพ”

22-02-2022 ถือเป็นวันดีผู้รู้บอกว่า 200 ปีจะมีครั้งหนึ่ง KEY8 NEWS▪︎PRESS ก็เลยถือโอกาสเป็นวันปฐมฤกษ์เปิดคอลัมน์ “ร้อยเรื่องเล่า” (Hundrdes of stories) ที่หาเรื่องหลากหลายมาเล่าให้ฟังจากวิถีชีวิตคน จากอาชีพทำมาหากิน สำหรับเรื่องเล่าเรื่องแรกที่อยากเล่าในวันนี้ เป็นเรื่องของเพื่อนนักข่าวนครปฐมคนเจดีย์ใหญ่บ้านเรานี่เอง

อาชีพสื่อมวลชน หรือที่เรียกกันแบบบ้านๆ ว่า “นักข่าว” ถือว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี แต่จะยึดอาชีพนี้เพื่อเลี้ยงครอบครัวเป็นหลักอย่างเดียวคงยาก โดยเฉพาะสื่อต่างจังหวัด ดังนั้นสื่อหลายคนต้องหาอาชีพเสริมเลี้ยงครอบครัว เพื่อสร้างรายได้เสริม

ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ
ผู้สื่อข่าว’มติชน’ จังหวัดนครปฐม

ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ หรือตี๋ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์มติชนประจำจังหวัดนครปฐม หรือที่ทุกคนรู้จักกันในนาม “ตี๋ มติชน” ที่เดินเส้นทางสายสื่อมาเกิน 25 ปี ปัจจุบันเปิดร้านกาแฟในตรอกเล็กๆ ชื่อ ” 8 Success “

ทวีพลได้เปิดใจว่า.. ทำไมถึงเปิดร้านกาแฟและก็เป็นเพียงร้านเล็กๆ ที่ไม่เน้นทำเล บนความท้าทายของธุรกิจกาแฟในยุคปัจจุบัน ที่มาของ 8 Success coffee คืออะไร คำถามนี้มันกว้างมากเลย ผมว่ามันเป็นคำถามขั้นพื้นฐานทั่วไป มากกว่า เพราะชื่อร้านเราก็บอกอยู่แล้ว ว่าเราเกิดมาจากความสำเร็จ มิได้เกิดมาเพื่อความสำเร็จ เลข 8 คือ เลขมงคลของผมคือ ผมเกิดวันที่ 8 ส่วน Success หมายถึงความสำเร็จ เพราะสิ่งที่ผมจะทำในแต่ละสิ่ง ผมมีการวิเคราะห์ มีการสืบค้น เรียนรู้ เพื่อให้ถึงแก่นมิใช่รู้เพียงกระพี้ และนั่นคือสิ่งที่สำคัญ

สถานที่ร้านอยู่หลังธนาคารไทยพานิชย์ สาขาใหญ่ตลาดนครปฐม
แจ็ก แปปโฮ ลูกค้าประจำร้าน

บริการจากใจ. การบริการของผมจะให้เกียรติลูกค้าทุกคน ผมจะส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุด ที่สรรหามาด้วยองค์ความรู้เสิร์ฟให้ลูกค้า ทุกเสิร์ฟล้วนมาจากใจ มาจากความรัก และหลงไหลในกาแฟ

อยากแบ่งปันรสชาต. ผมเชื่อสนิทใจว่า หากเรารักในรสชาตของกาแฟแบบนี้ เราก็อยากแบ่งปันรสชาตกาแฟแบบนั้นให้แก่คนที่รัก เพราะเราตระหนักว่า ลูกค้าทุกคนที่แวะเวียนมา หรือลูกค้าประจำ เป็นเสมือนญาติ เสมือนคนรักของเรา

ลูกค้าคือเพื่อนพี่น้อง. ทุกเช้าผมต้องกระตือรือร้นเพื่อรอการมาเยือนของญาติและเพื่อนรักที่เข้ามาดื่มกาแฟแก้วแรก จากมือผม ผมจะชะเง้อมองเฝ้าสังเกตุทุกเช้าเมื่อเวลาผ่านไปแล้ว ญาติ และเพื่อนรักผมทำไมยังไม่มา ด้วยความห่วงหา มากกว่าหวังเงินทอง ทำเลร้านผมอาจดูไม่ใหญ่โต แต่สิ่งที่ผมกล่าวมาข้างต้นต่างหากที่ผมทำมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา บนโลกใบน้อยๆ ในอาณาจักรเล็กๆ ริมทางรถไฟ หลังสถาบันการเงินสีม่วง (ธนาคารไทยพานิชย์)

ทวีพลกล่าวว่าทิ้งท้าย..ตรรกะของเราคือ เราต้องการให้ทุกคนได้ดื่มกาแฟในแบบที่เราคิดเอาไว้ และถ้าคุณเลือกกาแฟที่รสชาตที่อร่อยมากกว่าบรรยากาศ “เราว่าคุณมาถูกทาง”
แต่อาจจะไม่มีอะไรอร่อยสักอย่าง ถ้าคุณตั้งเงื่อนไขว่าไม่ชอบ เราอยากให้คุณได้ดื่มกาแฟที่เราคิด สรรหามาก่อน แล้วค่อยมาบอกว่าอะไรอร่อย ดีกว่า ซึ่งเราไม่กล้าที่จะบอกว่าเราดีกว่าใคร เพียงแต่สิ่งที่เราได้คิด สรรหามานั้น เพียงแค่ต้องการให้คุณๆ ได้ดื่ม ในสิ่งที่เรารัก สิ่งที่เราค้นคิดไว้ ตาม Concept ของ 8 Success coffee คือเราจะเสิร์ฟน้ำผลไม้สีทอง ที่เราคิดว่าเหมาะสมที่สุดแล้วให้กับคนที่เรารักและญาติมิตรของเราเพราะ "กาแฟที่เราชง เราใส่ใจในทุกแก้ว"

เส้นทางไปชิมกาแฟ 8 Success Coffee
https://maps.app.goo.gl/PsR5hqi5Kg9mXJMi7

“ร้อยเรื่องเล่า” By Key8 News▪︎Press 22022022

นครปฐม.  เปิดงานอบรม การแข่งขันกีฬา ‘อีสปอร์ต’

สโมสรนครปฐมอีสปอร์ต เปิดงานอบรม การแข่งขันและกิจกรรมกีฬา ‘อีสปอร์ต’

ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลศาลายา นางจินดารัตน์ พันทนพิเชฐ ประธานสโมสรนครปฐมอีสปอร์ต ได้เป็นประธานเปิดงานการอบรม การแข่งขัน และกิจกรรมอีสปอร์ต  โดยมีนายทีรเดช พันทนพิเชฐ  นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตจังหวัดนครปฐม ได้กล่าวรายงานและกล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานใครั้งนี้ และก่อนที่ประธานในพิธีจะกล่าวเปิดงาน นายสันติ โหลทอง นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย ได้ไลฟ์สดเข้ามาพูดคุย กับแขกผู้มีเกียรติ และร่วมแสดงความยินดีในการเปิดตัวสโมสรนครปฐมอีสปอร์ตในครั้งนี้ ต่อมาประธานได้ร่วมกันตัดริบบิ้นเปิดงานกับบอร์ดบริหารสโมสร, กรรมการสมาคมกีฬาอีสปอร์ตจังหวัดนครปฐม


  ซึ้งการจัดงานในครั้งนี้มีการอบรม  การเป็นนักกีฬาอีสปอร์ต ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสินและแคสเตอร์ มีการแนะนำเกมที่ผู้ที่อยู่ในงาน เป็นกิจกรรมสำหรับน้องๆ ที่มาเข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

นครปฐม.จัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าราคาถูก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

จังหวัดนครปฐมจัดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บริเวณโดม หน้าองค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายรัฐศาสตร์ ชิดชู รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดกิจกรรมจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัดให้กับประชาชน โดยจังหวัดนครปฐม ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานพาณิชย์ สำนักงานปศุสัตว์ สำนักงานประมง สำนักงานเกษตร สำนักงานสหกรณ์ สำนักงานพัฒนาชุม สำนักงานอุตสาหกรรม สำนักงานประชาสัมพันธ์ สถานประกอบการ บริษัทผู้ผลิตสินค้า ทั้งรายใหญ่และรายย่อย กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มผู้ประกอบการ OTOP และกลุ่มเกษตรกรต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ภายใต้โครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเร่งด่วนของประชาชนจังหวัดนครปฐม ประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ในเรื่องของภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อีกทั้งกระจายสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างทั่วถึง ตลอดจนเพิ่มช่องทางการเลือกซื้อสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ในราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป

สำหรับสินค้าที่นำมาจัดจำหน่ายในครั้งนี้ ได้แก่ เนื้อหมู กิโลกรัมละ 115 บาท, ไข่ไก่ เบอร์ 3 แผงละ 70 บาท, น้ำมันพืช 1 ลิตร ขวดละ 53 บาท, ข้าวหอมมะลิ 5 กิโลกรัม 135 บาท, ข้าวเหลืองอ่อน 5 กิโลกรัม 105 บาท, เนื้อโคขุนกำแพงแสน สะโพกใน 0.5 กิโลกรัม 180 บาท เนื้อแดง 0.5 กิโลกรัม 130 บาท นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ให้ประชาชนได้เลือกซื้ออีกเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ กิจกรรมจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัดให้กับประชาชนในครั้งต่อไป จะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามพื้นที่อำเภอต่างๆ ได้แก่ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 ณ บริเวณลานข้างหอประชุมที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี, วันที่ 4 มีนาคม 2565 ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอสามพราน, วันที่ 11 มีนาคม 2565 ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอพุทธมณฑล, วันที่ 18 มีนาคม 2565 ณ ตลาดอำนาจ อำเภอดอนตูม, วันที่ 25 มีนาคม 2565 ณ บริเวณองค์การบริหารส่วนตำบลนราภิรมย์ อำเภอบางเลน และวันที่ 29 มีนาคม 2565 บริเวณองค์การบริหารส่วนตำบลสระพัฒนา อำเภอกำแพงแสน ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด


สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม-ข่าว

ขจร ว้ตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

นครปฐม พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 พุ่งสูงสุดวิ่งชน 500 รายต่อวัน

รายงานสถานการณ์ ผู้ป่วยโคโรน่า-19 ระลอกใหม่ประจำปี 2565 ของจังหวัดนครปฐมว่า ล่าสุดพบยอดผู้ติดเชื้อสูงสุดถึง 484 ราย ถือว่าสูงสุดตั้งแต่เริ่มปี 2565 เป็นต้นมา

โดยยอดอันดับสูงสุด คืออำเภอเมืองนครปฐม ตามด้วยอำเภอกำแพงแสน ส่วนยอดผู้ติดเชื้อประจำววันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 มีดังนี้ ผู้ป่วยรายใหม่ 484
ราย ผู้ป่วยสะสม(ระลอกปี 2565) 7,068 ราย

แยกเป็นสัญชาติไทย 469 ราย
ต่างชาติ 15 ราย

ลำดับผู้ป่วยรายอำเภอ
1️⃣อำเภอเมือง 134 ราย
2️⃣อำเภอกำแพงแสน 87 ราย
3️⃣อำเภอดอนตูม 86 ราย
4️⃣อำเภอสามพราน 70 ราย
5️⃣ อำเภอพุทธมณฑล 42 ราย
6️⃣ อำเภอนครชัยศรี 27 ราย
7️⃣อำเภอบางเลน 26 ราย
⭕นอกจังหวัด 12 ราย
⭕เรือนจำป่วยใหม่ 0 ราย

ส่วนผู้เสียชีวิตวันนี้ +0 ราย
รวมเสียชีวิตสะสม 9 ราย

ขอขอบคุณข้อมูล ข่าวสารสาธารณสุขนครปฐม

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ผู้ว่าฯ นครปฐม เปิดขายหมูเนื้อแดงราคาถูกกิโลละ 140 บาท

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดขายหมูเนื้อแดงราคาถูกกิโลละ 140 บาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนให้สามารถซื้อหมูได้ในราคาที่ย่อมเยา

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองนครปฐม ได้เปิดให้มีการจำหน่ายหมูเนื้อแดงราคาถูก กิโลกรัมละ 140 บาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้สามารถซื้อหมูได้ในราคาที่ย่อมเยา ลดภาระค่าใช้จ่าย จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยนายรัฐศาสตร์ ชิดชู รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเหล่ากาชาดจังหวัด ปลัดจังหวัด นายอำเภอเมืองนครปฐม และหัวหน้าส่วนราชการ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจำหน่ายในครั้งนี้

สำหรับการจำหน่ายหมูราคาถูกในครั้งนี้ เป็นหมูเนื้อแดงคุณภาพดี ด้วยมาตรฐานปศุสัตว์ OK ในราคากิโลกรัมละ 140 บาท ถุงละ 2 กิโลกรัมต่อคน จำนวน 3,000 กิโลกรัม โดยจำหน่ายระหว่างวันที่ 12 – 14 กุมภาพันธ์ 2565 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองนครปฐม ซื้อได้คนละ 2 กิโลกรัม เพื่อให้ทั่วถึงกันทุกคน นอกจากนี้ทางโลตัส สาขานครปฐม ได้นำสินค้าลดราคามาจำหน่าย เช่น น้ำมัน ข้าวสาร และสินค้าทั่วไป เพื่อให้ประชาชนได้เลือกซื้ออีกด้วย


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ- ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ตำรวจภาค7 จับมือสมาคมพระเครื่องนครปฐม สร้างท้าวเวสสุวรรณ รุ่น 1 หากองทุนให้ขวัญกำลังใจตำรวจ

ตำรวจภาค7 จับมือสมาคมพระเครื่องนครปฐม สร้างท้าวเวสสุวรรณ รุ่น 1 หากองทุนให้ขวัญกำลังใจตำรวจ

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ห้องเสสะเวช สำนักงานตำรวจภูธรภาค 7 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ได้เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการจัดสร้างวัตถุมงคล ท้าวเวสสุวรรณโณ ครั้งที่1 /2565 โดยมี นายยุทธชัย ปฐมวัฒนศิริ นายกสมาคมพระเครื่องจังหวัดนครปฐม เป็นที่ปรึกษาร่วม เพื่อหารายได้สมทบกองทุนเสริมสร้างขวัญกำลังใจ สวัสดิการตำรวจภูธรภาค7

โดยครั้งนี้นายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชา ได้เข้าร่วมประชุม คือ พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.รักษ์จิต หม้อมงคล รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.นิรันดร ศิริสังข์ไชย
ผบก.อก.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์
ผบก.ภ.จว.นครปฐม พล.ต.ต.ปิติ นฤขัตรพิชัย
ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย
ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พล.ต.ต.สุเมธ ปุณสีห์
ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รอง ผบก. ผกก.และเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

ทั้งนี้ การจัดสร้างวัตถุมงคล ท้าวเวสสุวรรณโณวัดจุฬามณี (ตำรวจภูธรภาค7) นี้เป็นการจัดสร้างขึ้นโดยตำรวจภูธรภาค7 กับ สมาคมพระเครื่องจังหวัดนครปฐม เพื่อสมทบกองทุนเสริมสร้างขวัญกำลังใจ และสวัสดิการตำรวจภูธรภาค7 ซึ่งเป็นการสร้างวัตถุมงคล ท้าวเวสสุวรรณ โณ เป็นครั้งแรก และเป็นรุ่นที่1ด้วย

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

อบจ.นครปฐม มอบเงิน 5 ล้าน อุดหนุนโครงการชุมชนป้องกันยาเสพติด ให้กับตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม

อบจ.นครปฐม มอบเงินอุดหนุนโครงการชุมชนป้องกันยาเสพติด กว่า 5 ล้านบาท ให้กับตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม
  เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนเข้ามาเป็นเครือข่ายสอดส่องและให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ ในการแก้ไขปัญหายาเสพติด

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม มอบเงินมอบเงินอุดหนุนโครงการเครือข่ายชุมชนป้องกันยาเสพติด จำนวน 5,162,000 บาท

ให้กับ พลตำรวจตรีชมชวิณ  ปุระธนานนท์ ผู้บังการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ตามโครงการเครือข่ายชุมชนป้องกันยาเสพติด ประจำปี 2565 เพื่อเสริมสร้างให้หมู่บ้าน/ชุมชนและประชาชนเกิดความเข้มแข็ง โดยการให้รู้ถึงพิษภัยของยาเสพติต สร้างการรับรู้ถึงปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดในชุมชน และเปิดโอกาสให้ประชาชาชนเข้ามาเป็นเครือข่าย มีส่วนร่วมในการสอดส่อง ฝ้าระวัง และให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ประชาชนที่ประสงค์จะเป็นเครือข่ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยไม่จำกัดเพศ อายุ อาชีพ ของหมู่บ้าน/ชุมขนในจังหวัดนครปฐม ที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด จำนวน 600 หมู่บ้าน หมู่บ้าน/ชุมชนละ 50 คน รวมทั้งสิ้น 30,000 คน


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRES รายงาน

สมเด็จธงชัยฯ เป็นประธานหล่อ “พระทองคำ” หนัก 1.5 กก. พร้อมยกช่อฟ้าฉลองศาลาหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม

สมเด็จธงชัยฯ เป็นประธานหล่อ “พระทองคำ” หนัก 1.5 กก. ยกช่อฟ้าฉลองศาลาหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม


ที่ศาลาหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม
สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นองค์ประธานพิธีเททองหล่อพระพุทธเจ้าปางเปิดโลกทองคำ น้ำหนัก1.5กิโลกรัม และเป็นองค์ประธานยกช่อฟ้า ศาลาหลวงพ่อพูล
โดยมี พระเทพศาสนาภิบาล เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง พร้อมด้วยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พระครูยติธรรมานุยุต หลวงพ่อแป๊ะ เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์(แคแถว) อ.นครชัยศรี พระเถรานุเถระ  ถวายการต้อนรับ  ซึ่งมี รองผู้ว่าฯ ข้าราชการ นักธุรกิจ คณะศิยานุศิษย์  ร่วมในพิธีจำนวนมาก ในระบบการตรวจป้องกันโควิด ของผู้เข้าร่วมพิธีอย่างเคร่งครัด


ซึ่ง สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ได้เข้ากราบสักการะพระพุทธเมตตาประทานพร ที่วิหารพระพุทธเมตตาประธานพร ก่อนจะเข้ากราบสักการะสรีระสังขาร พระมงคลสิทธิการ หลวงพ่อพูล ซึ่งอยู่ในศาลาหลวงพ่อพูล สถานที่ที่เป็นที่ตั้งของกุฎิครั้งยังมีชีวิตอยู่ โดยพิธีการได้จัดขึ้นที่บริเวณหน้าศาลาหลวงพ่อพูล  พร้อมกันนี้ก็ได้มีพุทธศาสนิกชน ได้นำทองคำมาเข้าร่วมหล่อพระพุทธเจ้าปางเปิดโลก ขนาดความสูง 25 เซนติเมตร น้ำหนัก1.5กิโลกรัม

ซึ่งจะนำไปประดิษฐานบนยอดเหนือประติมากรรม หนึ่งเดียวในโลกที่เป็นหุ่นหลวงพ่อพูล นั่งยกโลงแก้วอยู่บนตัวหนุมาน ซึ่งมีความวิจิตรงดงามในศาลาทองคำ ซึ่งหลวงพี่น้ำฝนได้ตั้งเป้านำทองคำน้ำหนัก 1 กิโลกรัมมาจัดสร้าง แต่วันนี้พบว่ามีประชาชนที่ทราบข่าวได้มีการนำทองคำมาร่วมในพิธีเพิ่มอีก ครึ่งกิโลกรัม รวมเป็น 1.5 กิโลกรัม


ต่อจากนั้น สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ได้เป็นประธานในพิธียกช่อฟ้า ศาลาหลวงพ่อพูล โดยมีพุทธศาสนิกชน คณะศิษย์ที่มาร่วมในพิธีได้เข้ามาร่วมในการทำบุญและสัมผัสก่อนที่จะมีการยกขึ้นไปติดตั้งที่ยอดศาลาหลวงพ่อพูล ซึ่งเป็นศาลาสีทองคำอร่ามที่ตั้งอยู่ติดกับวิหารพระพุทธเมตตาประทานพร และได้รับการจัดยกเป็นวัดที่เป็นสถานที่แห่งใหม่ในจังหวัดนครปฐม ในการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมประเพณีอีกด้วย

KEY8 NEWS▪︎PRESS 070222

ราชบุรี..ผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 เข้าเยี่ยมมอบสิ่งของ’ให้หนุ่มยอดกตัญญูเลี้ยงพ่อแม่พิการ’

ราชบุรี  – ผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 เข้าเยี่ยมมอบสิ่งของให้หนุ่มยอดกตัญญูเลี้ยงพ่อ  แม่พิการ
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 นำสิ่งของใช้จำเป็นมอบให้หนุ่มยอดกตัญญูเลี้ยงพ่อ  แม่พิการ  ที่ราชบุรี


    พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7   นางนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์  ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7  ได้นำสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค ข้าวสาร  น้ำดื่ม น้ำยาถูพื้น  น้ำยาซักผ้า ถุงดำ น้ำดื่ม น้ำยาซักผ้า ทิชชูเปียก และสิ่งของอีกส่วนจากพระธรรมวชิรเมธี   (มีชัย วีรปัญโญ) เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ สิ่งของใช้ที่จำเป็น อาทิ  น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ แพมเพิส ชุดทำแผลปลอดเชื้อ  เจลล้างมือ หน้ากากอนามัย ชุดปฐมพยาบาล น้ำยาซักผ้า ผลไม้ และสิ่งของที่จำเป็นต่อความเป็นอยู่แก่ นายกันค์กวี ณ บางช้าง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/2 หมู่7 ต.เตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลังจากที่หนุ่มคนนี้เคยไปแข่งขันร้องเพลงรายการไมค์ปลดหนี้เสี่ยงโชค

โดยครอบครัวของหนุ่มคนดังกล่าวมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก สภาพบ้านสร้างแบบชั้นเดียวเป็นปูน ผนังกั้นด้วยฟากไม้ไผ่เก่าๆ โดยมีนายปรีดา สุธาพจน์ อายุ 60 ปี เป็นบิดา พิการนอนป่วยจากการเป็นเส้นเลือดในสมองแตก ส่วนนางอารีย์ สุธาพจน์ อายุ 55 ปี ประสบอุบัติเหตุที่บริเวณสะโพก เดินไม่สะดวก นอกจากนี้ยังมี ด.ญ.มีนตรา สุธาพจน์ อายุ 9 ปี ซึ่งเป็นหลาน และนายณัฐภาคน์ สุธาพจน์ บุตรชาย   อาศัยอยู่ด้วย  โดยมีนายกันค์กวี ณ บางช้าง  หรือ นัท ซึ่งมีอาชีพเป็นพ่อครัวร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวสุขุมวิท ขายอาหารไทยภาคตะวันออกเป็นผู้คอยส่งเสียเลี้ยงดูครอบครัวมาโดยตลอด  แม้จะต้องไปกู้หนี้นอกระบบเพื่อนำเงินมารักษาพ่อกับแม่ด้วยความกตัญญูรู้คุณเป็นตัวอย่างที่น่ายกย่อง

 
              พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์  ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7  เปิดเผยว่า ได้ชมรายการไมค์ปลดหนี้ ทราบว่าลูกชายของครอบครัวนี้เป็นลูกกตัญญู ท่านพระธรรมมีชัย แห่งวัดหงส์ ได้ดูทีวีและเห็นว่าน้องเป็นคนดีกตัญญู เลี้ยงดูพ่อแม่ รู้สึกสารในหัวอกลูกที่ต้องดูแลเลี้ยงดูพ่อแม่ และมีหนี้สินด้วย ท่านจึงประสานมายังผมในฐานะเจ้าของพื้นที่รับผิดชอบราชบุรี และประสานมายังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และ สภ.เขาดิน ให้มาตรวจสอบบ้านอยู่ตรงไหน วันนี้จึงเดินทางมาพร้อมกับสิ่งของ โดยสิ่งของส่วนหนึ่งเป็นของเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม ฯ ซึ่งท่านเป็นผู้มีเมตตาธรรมช่วยเหลือทุกภาคส่วน  อีกบางส่วนเป็นของชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 และภูธรจ.ราชบุรี มาช่วยกันเบื้องต้น  และขอให้กำลังใจแก่น้องนัทด้วย สิ่งที่น้องทำวันนี้คือการตอบแทนบุญคุณที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเป็นลูกกตัญญูที่เลี้ยงดูแลครอบครัว วันนี้นำสิ่งของมาให้พร้อมกับเงินบางส่วนแก่ครอบครัว  และมีอะไรที่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดูแลก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลต่อไป
                  นางอารีย์ สุธาพจน์ มารดา กล่าวว่า อยู่บ้านจะขายอาหารตามสั่ง ขายกก๋วยเตี๋ยว ได้เงินประมาณ 400-500 บาท คนไม่มากปัญหาจากโควิด ตัวเองยืนนานไม่ได้ เพราะเคยประสบอุบัติเหตุข้อเท้าไม่ค่อยมีแรง เวลาทำเสร็จแล้วก็จะวางไว้ให้ลูกค้าเดินมาหยิบไปเอง ส่วนสามีก็ล้มป่วยนอนติดเตียงจะต้องจ้างคนดูแลทุกวัน ที่บ้านอยู่กัน 4 คน คนที่ทำงานจะมีตนเองและนัท ที่ทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว
              นายกันค์กวี ณ บางช้าง  หรือ นัท เปิดเผยว่า พ่อป่วยเป็นเป็นเส้นเลือดในสมองแตกทางซีกขวาเป็นเส้นเลือดฝอยเป็นเส้นเลือดความจำ ตอนนี้นอนติดเตียงอยู่บ้าน เมื่อวันจันทร์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาที่บ้านบอกว่า จะเข้ามามอบสิ่งของให้โดยทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จะมาเยี่ยมที่บ้าน เนื่องจากได้ดูเทปรายการไมค์ปลดหนี้เสี่ยงโชคที่นัทไปออกรายการ ท่านเมตตาช่วยเหลือนัท สอบถามว่าอยากได้อะไรพิเศษมั๊ย ของใช้ขอพ่อ จึงบอกไปว่าเป็นของใช้พวกแพมเพิส ถุงดำ กระดาษเปียก ที่ใช้เยอะ  ท่านนำมาให้แล้ว ทำให้ลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ไปได้เยอะมาก รู้สึกตกใจมาก และต้องขอขอบคุณท่านเจ้าคุณมีชัย เจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามฯ ที่เมตตาครอบครัว ให้ความช่วยเหลือทั้งปัจจัยและสิ่งของที่นำมาให้วันนี้
                 ส่วนร่างกายแม่นั้นก่อนหน้านี้ถูกรถกระบะชนแต่ต้นปี 63 ทำให้กระดูกสะโพกเกิดการเสื่อมเดินไม่ปกติ จึงได้ไปกู้เงินนอกระบบมาใช้รักษาแม่ จนแม่ช่วยเหลือตัวเองได้ อยู่บ้านก็ขายขนมครกตอนเช้า พอสายจะขายอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ลูกค้าจะรู้ว่าแม่เดินไม่ได้ก็จะลุกมาหยิบเอาไปรับประทานเอง และยังมีรายจ่ายต้องจ้างคนมาดูแลพ่ออีก ตนเองต้องหาเงินใช้หนี้ ส่งดอกเบี้ยทุกเดือน และจ้างป้าข้างบ้านเก็บจานล้างอีก  ตอนนี้เป็นหนี้อยู่ 1.2 แสนบาท  ใช้หนี้ไปได้แล้วกว่า 20,000 บาท จากที่ผู้ชมรายการมีเมตตาโอนเงินมาให้คนละเล็กน้อย นำไปใช้หนี้นอกระบบก่อน ส่วนหนี้ที่ร้านอาหารเบิกเจ้านายมาก็ยังไม่ได้ใช้คืน  ช่วงโควิดตอนนี้ได้รับเงินเดือนประมาณ 11,000 บาท 
ผู้ที่อยากช่วยเหลือสามารถโอนเข้าบัญชีกสิกรไทย  หมายเลขบัญชี 0632843100  ชื่อ นายกันค์กวี ณ บางช้าง   หรือ สอบถาม  ที่เบอร์ 063-5946190


                                       
ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา  แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ผบช.ภ.7 สั่งเด้ง 5 เสือโรงพักศรีประจันต์ พิษบ่อนไฮโลในไร่

ผบช.ภ.7 สั่งเด้ง 5 เสือโรงพักศรีประจันต์ พิษบ่อนไฮโลในไร่

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค7 อ.เมือง จ.นครปฐม พล.ต.ท. ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์  ผบช.ภ.7 เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครปฐม ว่าได้มีคำสั่งตำรวจภูธรภาค 7 ที่ 77/2565 ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 7 โดยขาด จากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่ง

ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ 2565 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง มี พ.ต.อ.วรภพ จำปาเงิน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี, พ.ต.ท.สุรศักดิ์ เรืองวิทย์ รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี,  พ.ต.ท.พีรพงษ์ ตนะทิพย์ รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจภูธรศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี, พ.ต.ท.ชวการ ถิราพิพัฒน์ สารวัตรป้องกันปราบปราม สถานีตำรวจภูธรศรีประจันต์จังหวัดสุพรรณบุรี และ พ.ต.ท.สุเทพ พิกุลขาว สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจภูธรศรีประฉันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2565 เวลา 21.30 พ.ต.ท.เสนีย์ เวชพัฒ รองผู้กำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 กับพวก ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายคำรณ กลำพบุตร กับพวกรวม 19 คน ในข้อหา ร่วมกันลักลอบเล่นการพนัน (ไฮโล) พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้ ลักลอบเล่นการพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมั่วสุมฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 56/2565 เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19 ) ในเขตพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมของกลาง จำนวน 18 รายการ ที่ไร่ไม้ล้อมริมถนนในหมู่บ้าน หมู่ที่ 3 ตำบลดอนปรู อำเภอศรีประจัต์ จังหวัดสุพรรณบุรี

KEY 8 NEWS▪︎PRESS

ขอบคุณ ภาพ.ข่าว ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ

ขจร วัตรเอก รายงาน

ตำรวจ,ทหาร จับกุม 185 เมียนม่าร์ ลักลอบเข้าเมือง อ้างจ่ายค่าหัว 22,000-27,000 ต่อคน

ตำรวจ,ทหาร จับกุม 185 เมียนมาร์ลักลอบเข้าเมือง อ้างจ่ายค่าหัว 22,000-27,000 ต่อคน

  ที่สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7  แจ้งต่อผู้สื่อข่าวว่าพล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี , พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย  ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อม เจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า เจ้าหน้าที่ทหารพราน 1404 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.136  และเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง จับกุมผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวเมียนมาร์ 185 คน เป็นชาย 119 คน หญิง 65 คน พร้อมผู้ติดตามชาย 1 คน ที่บริเวณชายป่าหมู่สุพรรณ (ศาลเจ้าพ่อเขาแดน) ม.2 ต.บ้านเก่า อ.เมืองจ.กาญจนบุรีเมื่อ18.00น.วันที่31 มกราคม ที่ผ่านมา

  จากการสอบถามพูดคุย ผ่านล่าม ว่าผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวเมียนมาร์ทั้งหมดเดินทางมาจาก เมืองพะโค เมืองยะไข่ เมืองเมาะลำใย เมืองมะเกว เมืองมะชิวา เมืองเมียวดี และ เมืองย่างกุ้ง  ประเทศเมียนมาร์ โดยจะไปทำงานที่กรุงเทพมหานคร , สมุทรสาคร , ชลบุรี , ราชบุรี , ปทุมธานี และกาญจนบุรี  ยังไม่ทราบชนิดงาน บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองทั้งหมดเดินเท้ามาตามช่องทางธรรมชาติ เสียค่าใช่จ่ายในการเดินทาง คนละ 22,000 – 27,000 บาท โดยจ่ายเงินแล้ว แต่ไม่พบตัวผู้นำพา และช่วยเหลือ จึงได้นำไปบูรณาการร่วมกัน และผลักดันที่จุดผ่อนปรนช่องทางพุน้ำร้อน ม.12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จว.กาญจนบุรี ตามมติข้อตกลงในการประชุมศูนย์สั่งการชายแดน จว.กาญจนบุรี

KET 8 NEWS▪︎PRESS

ภาพ-ข่าว ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ

ขจร วัตรเอก รายงาน

ทึ่ง ! นักธุรกิจสาว จัดจระเข้แทนหมู ทำอาหารเซ่นไหว้บรรพบุรุษ’ตรุษจีน’

นครปฐม. นักธุรกิจสาว จัดจระเข้แทนหมู ทำอาหารเซ่นไหว้บรรพบุรุษ’ตรุษจีน’

เมื่อเวลา 10.30น.วันที่ 31 มกราคม ที่ฟาร์มรุ่งทวีชัย (ฟาร์มจระเข้) เลขที่ 31 ม.9 ต.สามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม นางสาววิสาชิณี รุ่งทวีชัย หรือคุณแน๊ส เจ้าของฟาร์มรุ่งทวีชัย พร้อมครอบครัว จัดเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน 2022 โดยใช้จระเข้น้ำจืดความยาว 2 เมตร น้ำหนัก 30 กิโลกรัมต้มสุก 1 ตัว และอาหารเมนูเนื้อจระเข้ อีก 6เมนู มีจระเข้ต้มหน่อไม้จีน เนื้อจระเข้ผัดเผ็ด เนื้อจระเข้ผัดผักรวม เนื้อจระเข้ ทอดกระเทียมพริกไท และ บ่องตันตุ๋นยาจีน ซึ่งเป็นส่วนที่อร่อยที่สุด และแพงที่สุดของชิ้นส่วนจระเข้ นอกจากอาหารคาวแล้วยังมี ผลไม้ที่ได้จากสวนตัวเอง อาทิ ส้มโอ กล้วย มะพร้าว ลำไย ฝรั่ง พร้อมเครื่องเซ่นไหว้กระดาษอื่น จากนั้นจุดประทัด 20,000 นัด

นางสาววิสาชิณี รุ่งทวีชัย กล่าวว่า วันตรุษจีนปีนี้ เป็นปีที่ 30 ของการก่อร่างสร้างตัวฟาร์มเลี้ยงจระเข้ แห่งนี้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของรุ่นลูกอย่างพวกเรา จึงได้หารือกันในครอบครัว ว่าจะนำจระเข้น้ำหนัก 30 กิโลกรัม สัก 1 ตัวเพื่อเป็นเคล็ด ให้แก่บรรพบุรุษ พร้อมเมนูอาหารคาว ที่ทำจากเนื้อ และชิ้นส่วนจระเข้ และผลไม้ที่ปลูกในสวนในฟาร์ม ไหว้อากง อาม่า และบรรพบุรุษ เพราะเชื่อว่า สิ่งเหล่านี้ ที่เรานำมาเซ่นไหว้อากง อาม่าได้รับและรับรู้ในคำอธิษฐานบอกกล่าว เพื่อเป็นสิริมงคลของลูกหลาน และสิ่งของเหล่านี้ลูกหลานก็จะนำมาแบ่งปันกันไปรับประทาน โดยปีที่ผ่านๆ มา เราก็ใช้ หมู ไก่ เป็ด ตามปกติ ประกอบกับปีนี้หมูไก่หายาก และก็แพงขึ้นเราเลยคิดว่าใช้เนื้อจระเข้ที่เรามีอยู่มาแทน หมูและไก่ดีกว่า

   เราเลี้ยงจระเข้น้ำจืด จำหน่ายในประเทศไทย และส่งออกต่างประเทศ  ระยะหลัง ทัวร์จีนไม่มา
จากทัวร์จีนไม่มา ธุระกิจพวกเราก็แย่ลง เพราะเราเน้นคนจีน และเจอโควิดด้วย ส่งออกไม่ได้
  ดังนั้น การไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ตรุษจีน ปีนี้จึงต้องเซฟค่าใช้จ่ายมาก ประหยัดเรื่องของไหว้ฟุ่มเฟือย ใช้ของส่วนใหญ่ที่มี หาได้ในฟาร์ม เพื่อจะได้เหลือเงินไว้เป็นอั่งเปาให้คนงาน ดีกว่า เพราะธุรกิจเราขับเคลื่อนได้ด้วยกำลังคน  เราต้องดูแลคนของเราให้ดี อยู่กับปัจจุบันให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคนี้

KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

หน่วยบรรเทาสาธารณภัยสงเคราะห์องค์พระปฐมเจดีย์ฯ มอบเงินและของช่วยผู้ประสบอัคคีภัย ชุมชนข้างวัดพระงาม เมืองนครปฐม

พระเดชพระคุณ พระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร ประธานหน่วยบรรเทาสาธารณภัยสงเคราะห์องค์พระปฐมเจดีย์ ได้มอบหมายให้ พระครูพิทักษ์เจติยานุกิจ เลขานุการหน่วยบรรเทาสาธารณภัยสงเคราะห์องค์พระปฐมเจดีย์ฯ

พร้อมด้วยพระครูพิพิธเจติยาภิบาล เจ้าคณะตำบลพระปฐมเจดีย์ และพระครูสมุห์สุพล สุพโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ฯ คณะสงฆ์วัดพระปฐมเจดีย์ฯ ไปทำการมอบเงินและสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสพอัคคีภัยที่ชุมชนข้างวัดพระงาม อ.เมืองนครปฐม ที่ประสบเหตุไฟไหม้เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ในการนี้ พระมหารุ่งธรรม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระงาม และคณะสงฆ์วัดพระงาม ได้อำนวยความสะดวกและร่วมแจกของดังกล่าวด้วย

KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ผบช.ภ.7 แถลงข่าวการจับกุม ขบวนการฉ้อโกงลอตเตอรี่ มูลค่า 24 ล้านบาท

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 แถลงข่าวการจับกุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีขบวนการฉ้อโกงลอตเตอรี่ มูลค่า 24 ล้าน

ที่ สภ.ห้วหิน จ.ประจวบคีรีจันธ์ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 ได้แถลงข่าวการจับกุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง สลากกินแบ่งรัฐบาล 
โดยมีผู้ต้องหาคือ
1.นายภาณุพงศ์ หรือชีส ชุมภารี อายุ 24 ปี
2.นายบัณฑิต หรือปอง เฟื่องฟู อายุ 23 ปี
3.นายอนุสรณ์ หรือกอล์ฟ ชุมภารี อายุ 29 ปี
4.นายอนุชา หรือแซม ทุ่งคำ อายุ 33 ปี
  ซึ่งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดหัวหิน ที่ จ.5-8/2565 ลงวันที่ 28 ม.ค. 65 ตามลำดับ ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”

     สืบเนื่องจาก นายภาณุพงศ์หรือชีสฯ นายบัณฑิตหรือปองฯ และนายอนุสรณ์หรือกอล์ฟฯ ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ร่วมกันโดยแบ่งหน้าที่กันทำ ด้วยการติดต่อชักชวนประชาชนทั่วไปโดยการติดต่อชักชวนคนที่รู้จัก และประกาศข้อความทางเฟชบุ๊ค(Facebook) ให้บุคคลทั่วไปทราบ โดยอ้างว่ามีโควต้าผู้ใหญ่ซึ่งมีโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลในสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ชักชวนให้ร่วมสั่งจองโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลกับกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งสามารถซื้อได้ในราคาถูกใบละ 78-79 บาท เป็นเหตุให้ นายสิทธิชัย สายบัว กับพวกรวม 32 คน ผู้เสียหายที่หลงเชื่อว่าเป็นความจริง ได้โอนเงินสั่งจองสลากกินแบ่งรัฐบาลกับกลุ่มผู้ต้องหาช่วงแรกจะได้สลากตามที่สั่งซื้อ เมื่อผู้เสียหายสั่งซื้อสลากจำนวนเงินเพิ่มมากขึ้น กลุ่มของผู้ต้องหาได้เงินไปแล้ว แต่ไม่ได้สลากมาส่งมอบสลากให้ผู้เสียหายตามที่สั่งซื้อ และเมื่อผู้เสียหายติดตามทวงถามเงินคืน นายภาณุพงศหรือชีสฯ จึงให้ข้อเท็จจริงว่า นายอนุชาหรือแซมฯ เป็นผู้รับเงินต่อไปอีกทอดหนึ่ง เป็นเหตุให้ผู้เสียหายทั้ง 32 คนได้รับความเสียหายรวมเป็นเงินจำนวน 24,063,640 บาท
    ทางพนักงานสอบสวน เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว จึงขอศาลจังหวัดหัวหิน ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 4 จากนั้นต่อมา จึงได้ทำการจับกุมตัวนายภาณุพงศ์ หรือชีส ชุมภารี, นายอนุสรณ์ หรือกอล์ฟ ชุมภารี และนายบัณฑิต หรือปอง เฟื่องฟู ได้ในวันที่ 28 มกราคม 2565 และนายอนุชา หรือแซม ทุ่งคำ ได้ในวันที่ 29 มกราคม 2565

   ในการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาอันรวดเร็ว การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง

KEY8 NEWS▪︎PRESS 300122

ผบช.ภ7 เยี่ยม บำรุงขวัญตำรวจ สภ.องค์พระ ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี

วันที่ 27 มกราคม ที่ บช.ภ.7 อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วยนางนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 เดินทางไป สภ.องค์พระ ต.วังยาว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เพื่อตรวจเยี่ยม บำรุงขวัญกำลังใจข้าราชการตำรวจ และขับเคลื่อนนโยบายของ ผบ.ตร.ในการยกระดับสถานีตำรวจเพื่อประชาชน มี พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพาณิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.นิวัติ มาตะราช รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.ท.ธีระวุฒิ สุทธิพนไพศาล สวญ.สภ.องค์พระ และข้าราชการตำรวจในสังกัด เข้าร่วมประชุม

โดนได้กำชับให้ 1.นำนโยบายรัฐบาล วิสัยทัศน์ ผบ.ตร. “เป็นองค์กรบังคับใช้กฎหมายที่นำสมัย ในระดับมาตรฐานสากล เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา” วิสัยทัศน์ตำรวจภูธรภาค 7 “ภักดีองค์ราชันมุ่งมั่นสร้างศรัทธา พัฒนาเป็นมืออาชีพ บังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียม เป็นธรรม นำสมัย เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา” และวิสัยทัศน์ ผบช.ภ.7 “ทำงานเชิงรุก เป็นตำรวจมืออาชีพ เพื่อความผาสุกของประชาชน” ไปปฏิบัติให้เห็นผลเป็นรูปธรรม 2. ต้องทำงานกันเป็นทีม ยึดมั่นในระเบียบวินัย บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชน และดำรงตนอย่างมีเกียรติ

  1. การทำงานต้องประกอบด้วย “หลักการทำงาน (4443)”4 เกาะ” เกาะติดพื้นที่ เกาะติดประชาชน มวลชน และชุมชน เกาะติดคนร้ายหรือเกาะติดศัตรูของประชาชน และเกาะติดผู้ใต้บังคับบัญชาหรือเกาะติดลูกน้อง “4 ยก” ยกระดับองค์ความรู้ ยกระดับวิธีคิด ยกระดับวิธีการทำงาน และ ยกระดับการใช้ดุลพินิจ “4 ทำ” ทำงาน ทำดี ทำบุญ และมีภาวะผู้นำ และ “3 S” Smart Smile Strong
  2. ให้มีการระดมกวาดล้างอาวุธปืน วัตถุระเบิด มือปืนรับจ้าง อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันเหตุเชิงรุก ก่อนเหตุเกิด อันอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของประเทศ
    4.1 นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อช่วยดูแลความปลอดภัยของประชาชนตามโครงการ”SMART SAFETY ZONE 4.0″ 4.2 บริการประชาชน และนักท่องเที่ยวด้วยใจบริการ(SERVICE MIND)
    5.ให้มีมาตรการป้องกัน/แก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 มีการตรวจสอบแหล่งท่องเที่ยว โรงแรม บ้านพัก ประชาสัมพันธ์ให้ปฏิบัติตามคู่มือการปฏิบัติ มาตรการของกรมควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด และ6. ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติ และพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชา ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ คำสั่ง แบบแผนธรรมเนียมของทางราชการอย่างสม่ำเสมอโดยใกล้ชิด และสร้างขวัญกำลังใจ ความสามัคคี ภาพลักษณ์ของตำรวจให้ดีขึ้น และสร้างความเชื่อถือศรัทธาแก่ประชาชนเพื่อให้ยอมรับว่าข้าราชการตำรวจเป็นมิตรที่ดีของประชาชน เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริงตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 ลง 1 ต.ค.2537 เรื่อง มาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ

7.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบควบคุมกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด การกระทำความผิดใดๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์ การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพันกับการกระทำความผิด หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางวินัย คดีอาญาและปกครองอย่างถึงที่สุด และให้จัดตั้งโครงการเพื่อช่วยสอดส่องดูแลหนี้สินของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด 8.กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในหน่วยงาน มีความรักใคร่ สามัคคี ปรองดองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อให้องค์กรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยให้ยึดหลัก “ขยัน อดทน ดำรงตนอย่างมีเกียรติ”

จากนั้นพล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 นางนภัสนันท์ วุฒิจรัสธำรงค์ ประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 ได้มอบถุงบำรุงขวัญ,น้ำดื่ม,เครื่องดื่ม superfight,ข้าวสาร ถุงละ 5 กก. จำนวนอย่างละ 35 ชุด,หน้ากากอนามัย จำนวน 1 ลัง และแก้วน้ำ จากพล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วประธานชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่ดูบ่อเลี้ยงปลาและฝายชะลอน้ำ ในโครงการโคกหนองนา สู่ครัวโรงพัก “สภ.องค์พระ”

KEY8 NEWS▪︎PRESS 270122

อบจ.นครปฐม จัดทำโครงการพัฒนาระบบบริการ การแพทย์ทางไกล(Telemedicine) สำหรับระบบสาธารณสุข

องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม จัดทำโครงการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ทางไกล(Telemedicine) สำหรับระบบสาธารณสุขในจังหวัดนครปฐม ในปีงบประมาณ 2565 เพื่อนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในด้านการรักษาประชาชน โดยปรึกษากับแพทย์โดยตรงผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์

ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นายแพทย์วิโรจน์ รัตนอมรสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม แพทย์หญิงดารารัตน์ รัตนรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม นายแพทย์ทินกร ชื่นชม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน และนายอรรถสิทธิ์ จีนคล้ำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลคลองจินดา ร่วมแถลงโครงการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ทางไกล(Telemedicine) สำหรับระบบสาธารณสุขในจังหวัดนครปฐม ในปีงบประมาณ 2565 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ร่วมพิธี พร้อมมอบเงินอุดหนุนโครงการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ทางไกล (Telemedicine)สำหรับระบบสาธารณสุขในจังหวัดนครปฐม ปีงบประมาณ 2565 ให้กับโรงพยาบาลนครปฐม 25,894,600 บาท


นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือโควิด 19 ในประเทศไทย ได้ขยายขอบเขตการแพร่ระบาดของโรคออกเป็นวงกว้าง กระจายออกไปในหลายพื้นที่ โดยที่กิจกรรมต่าง ๆ ต้องดำเนินการเพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด 19 การรักษาระยะห่างและลดการเดินทางออกจากบ้านเพื่อลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ แต่ในการรักษาทางการแพทย์มีกิจกรรมที่จำเป็นต้องดำเนินอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีผู้ป่วยในกลุ่มที่จำเป็นต้องทำการรักษาต่อเนื่องอย่างเป็นประจำ โดยจำนวนคนไข้ในกลุ่มที่เป็นโรคเรื้อรัง ซึ่งยังเป็นกิจกรรมที่ไม่สามารถงดเว้นได้นั้น
ในปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาระบบบริการการแพทย์ทางไกล โดยการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาในเรื่องของระบบเครือข่ายและโปรแกรมคอมพิวเตอร์โดยทั้งหมด ทำให้มีศักยภาพในการมาประยุกต์ในการบริการทางด้านการแพทย์ประชาชนไม่ต้องมารับบริการในกรณีที่ไม่จำเป็นต้องมาด้วยตนเอง เช่น การรับยาที่ต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ลดการแออัดลดระยะเวลารอคอย ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว และพึงพอใจ
อบจ.นครปฐม ได้เห็นถึงความสำคัญของการที่ประชาชนในจังหวัดนครปฐมได้รับการบริการด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึง ลดความแออัดของผู้ป่วยที่เข้ามาตรวจรักษา ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่าย ในการเดินทางของผู้ป่วย จึงได้ดำเนินการสนับสนุนงบประมาณตามโครงการฯดังกล่าว เพื่อพัฒนาระบบบริการการแพทย์ทางไกล ให้ใช้งานการบริการประชาชนในจังหวัดนครปฐม โดยโครงการแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ

ระยะที่ 1 เริ่มดำเนินการที่โรงพยาบาลนครปฐม เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชนในเขตจังหวัดนครปฐม ร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเขตจังหวัดนครปฐม รวม 3 แห่ง
ระยะที่ 2 ดำเนินการขยายที่โรงพยาบาลชุมชนในเขตจังหวัดนครปฐม 7 แห่งและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเขตจังหวัดนครปฐม 60 แห่ง รวมทั้งหมด 67 แห่ง

ทั้งนี้ อบจ.นครปฐม จะดำเนินโครงการร่วมกับ รพ.นครปฐม รพ.ประจำอำเภอ และ รพ.สต. ในจังหวัดนครปฐม จัดทำโครงการตรวจรักษาโรคผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (Telemedicine) ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนช่วยในการให้บริการด้านการรักษา แก่ประชาชน โดยสามารถปรึกษากับแพทย์ได้โดยตรงผ่านอุปกรณ์สื่อสารเช่น โทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ เป็นต้น โดยผู้ป่วยสามารถดาวน์โหลดแฮปพลิเคชั่น ดูตารางนัดพบแพทย์ทำการนัดหมายแพทย์เพื่อตรวจรักษาได้ผ่านแอปพลิเคชั่น รวมถึง การแจ้งผลข้อมูลการตรวจเบื้องต้น เช่น ผลการตรวจเลือด และการจ่ายยา – รับยา หรือสามารถใช้บริการระบบดังกล่าโดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกผ่านทางรพ.สต. ในท้องถิ่นที่ใกล้บ้านพักอาศัย


KEY8 NEWS▪︎PRESS

นครปฐม.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจัดระเบียบสายสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อสร้างทัศนียภาพให้สวยงาม.

จังหวัดนครปฐมเปิดงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจัดระเบียบสายสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างเป็นระบบ เป็นการสร้างทัศนียภาพที่สวยงาม สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนฺโดยส่วนรวม


ที่บริเวณลานจอดรถเจอาร์ คาราโอเกะ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดการจัดระเบียบสายสื่อสารโทรคมนาคมบนเสาไฟฟ้า ของPEA นครปฐม ประจำปี 2565

โดยนายพิเชฐ อรุณมาศ ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครปฐม กล่าวรายงานว่า ด้วยสภาพความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยของสายสื่อสารเป็นปัญหาที่สะสมมาเป็นระยะเวลานาน ยากต่อการแก้ไขให้สำเร็จลุล่วงในเวลาอันรวดเร็วโดยหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเพียงลำพัง PEA ได้ดำเนินการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาด้วยหลากหลายวิธีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการนำสายลงใต้ดินและการแก้ไขสายบนเสาไฟฟ้า แต่เนื่องจากการนำสายลงใต้ดินต้องใช้งบประมาณสูง อีกทั้งพื้นที่ความรับผิดชอบของ PEA มีมาก การนำสายลงใต้ดินจึงทำได้เพียงพื้นที่สำคัญฯ บางส่วนเท่านั้น จึงมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาโดยจัดระเบียบสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าเป็นหลักในปี 2565 PEA ได้จัดทำแผนปฏิบัติการ จัดระเบียบสายสื่อสารโทรคมนาคมบนเสาไฟฟ้าของ PEA ทั่วทั้งพื้นที่จังหวัดนครปฐม และกำหนด Kick Off การปฏิบัติการจัดระเบียบสายสื่อสารร่วมกับทุกหน่วยงาน

ใน ปี 2565 ที่บริเวณ ถนนราชมรรคคา จากบริเวณแยกเจ อาร์ คาราโอเกะ – โรงแรมทานตะวัน ระยะทาง 1.8 กม. โดยได้รับความร่วมมือ จากเทศบาลนครนครปฐม , บ.โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) , หน่วยงานสื่อสารทุกหน่วยงาน และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการจัดการสาย และอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม ให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างเป็นระบบ เป็นการสร้างทัศนียภาพที่สวยงาม สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนฺโดยส่วนรวม และยังก่อให้เกิดความมั่นคงในระบบจำหน่ายไฟฟ้า ของ PEA อีกด้วย


ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ข่าว

KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ผบช.ภ.7 จับตำรวจตรวจโควิด-19 หลังปฎิบัติหน้าที่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ ข้าราชการตำรวจทุกหน่วยในสังกัด ตำรวจภูธรภาค 7 ทั้ง 8 จังหวัด ดำเนินการตรวจ Antigen Test Kit (ATK)เพื่อคัดกรองโรคโควิด-19 ทุกราย ก่อนกลับมาปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมาข้าราชการตำรวจ ได้ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความสะดวก เพื่อป้องกันอาชญากรรมแก่พี่น้องประชาชน จึงมีความเสี่ยงติดเชื้อสูง และบางส่วนได้แบ่งกำลัง work from home ที่บ้าน จึงต้องเข้มงวดกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ของเชื้อ โควิด-19 โดยเน้นเรื่องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากผู้อื่น โดยไม่ให้กระทบกับการบริการประชาชน และการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนายให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัด จึงต้องมีการตรวจหาเชื้อโควิด -19 ตำรวจทุกนาย

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัด กำลังพลทุกนาย ก่อนปฏิบัติหน้าที่ ให้กำลังตรวจ Antigen Test Kit หรือ ATK เพื่อคัดกรองโรคโควิด-19 ทุกรายตามมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดสายพันธุ์ใหม่ โอมิครอน ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว

KEY8 NEWS▪︎PRESS 11/1/65

ตชด.มอบบ้าน โครงการ “บ้านจากใจ จิตอาสา” เพื่อผู้ยากไร้

วันนี้ (27 ธันวาคม 2564) เวลา 10.00 นาฬิกา พลตำรวจโท ณัฐ สิงห์อุดม ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นประธานในพิธีมอบบ้าน โครงการ “บ้านจากใจ จิตอาสา” เพื่อผู้ยากไร้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ให้แก่นายน้อม แตงเทศ อายุ 82 ปี ผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง ในพื้นที่ หมู่ 5 ตำบลธรรมศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ วันพ่อแห่งชาติ(5 ธันวาคม 2564) โดยมีพลตำรวจตรี สุนทร เฉลิมเกียรติ
รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน พลตำรวจตรี กัญชล อินทราราม ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 พลตำรวจตรี ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจตระเวนชายแดนจิตอาสา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมพิธี ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) อย่างเคร่งครัด

กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้น้อมนำแนวทางจิตอาสาพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน จึงได้จัดทำโครงการ “บ้านจากใจ จิตอาสา”เพื่อผู้ยากไร้ขึ้น เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยให้กับ นายน้อม แตงเทศ ผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยได้นำกำลังพลตำรวจตระเวนชายแดนจาก 2 หน่วยงาน ได้แก่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 และกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 มาดำเนินการก่อสร้างบ้านพักแบบถาวร


โดย พันตำรวจเอก สมเกียรติ เฉลิมเกียรติ อดีตรองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี บริจาคที่ดินจำนวน 50 ตารางวา และได้รับการสนับสนุนเงินจากข้าราชการตำรวจตระเวนชายแดน ภาคเอกชนและผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค
ทั้งนี้กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ เป็นงานที่ทุกหน่วยในสังกัดดำเนินการอย่างเต็มกำลังความสามารถ มีการจัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในโอกาสต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเป็นอยู่ของชุมชนให้เข้มแข็ง ประชาชน มีความสุขอย่างยั่งยืน

ข้อมูล,ภาพ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน

KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

นครปฐม. จัดตรวจวัดควันดำ รถยนต์ราชการในศูนย์ราชการจังหวัด.

นครปฐม. จัดตรวจวัดควันดำรถยนต์ราชการในศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อเป็นการป้องกันและลดการปล่อยฝุ่นละอองจากรถยนต์ ให้เป็นตามเกณฑ์ของกฎหมายการจราจรขนส่ง

วันที่ 27 ธันวาคม 2564 ที่กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดน ศูนย์ราชการจังหวันนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดกิจกรรมตรวจวัดควันดำรถยนต์ราชการในศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐม โดยนายพรศักดิ์ ภู่อิ่ม ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ในช่วงระยะเวลาเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนมีนาคมของทุกปี เป็นช่วงที่ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาว ทำให้เกิดสถานการณ์การสะสมของฝุ่นละอองขนาดเล็กมีค่าสูงเกินมาตรฐานในบรรยากาศของบางช่วงเวลาได้อันเนื่องมาจากกิจกรรมการใช้พลังงาน การคมนาคมขนส่ง การเผาในที่โล่ง และปัจจัยสภาพอากาศปิดและมีสภาพอุตุนิยมวิทยาที่แปรปรวนส่งผลให้เพดานการลอยตัวอากาศมีแนวโน้มลดต่ำลง ทำให้การกระจายตัวของฝุ่นละอองไม่ดี
จังหวัดนครปฐมได้ประสานหน่วยงานราชการในศูนย์ราชการจังหวัดนครปฐมนำรถยนต์ราชการมาตรวจวัดควันดำ เนื่องจากรถยนต์เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก เพื่อเป็นการป้องกันและลดการปล่อยฝุ่นละอองจากรถยนต์ ให้เป็นตามเกณฑ์ของกฎหมายการจราจรขนส่ง และเป็นตัวอย่างที่ดีในการร่วมมือดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM25 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน สอดคล้องกับการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองของจังหวัดนครปฐม โดยทำการตรวจวัดควันดำให้แก่รถยนต์ราชการของหน่วยงานราชการ จำนวน 40หน่วยงาน มีรถยนต์ประมาณ 154 คัน ในวันที่ 27- 28 ธันวาคม 2564 ซึ่งได้รับความร่วมมือจากสำนักงานขนส่งจังหวัดนครปฐม

จัดส่งเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ตรวจวัดควันดำ สำหรับการตรวจในครั้งนี้มีรถหน่วยงานราชการบางส่วนพบว่ามีควันดำ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้ให้นโยบายไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ประชาชนในการร่วมกันลดปัญหามลพิษ


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ข่าว

KET8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

นราธิวาส ผู้กำกับ สภ.ศรีสาคร มอบหลวงปู่ทวด รุ่นปลอดโรคปลอดภัย ให้กับตำรวจและทหารพรานชายแดนใต้

24 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
ที่สถานีตำรวจภูธร ศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส
พ.ต.อ.ฉลอง รัตนภักดี ผกก.สภ.ศรีสาคร และ พ.ต.ต.วิมล ด้วงนิล สว.(สอบสวน) ได้ร่วมกันแจกพระเครื่องหลวงปู่ทวด รุ่นปลอดโรค ปลอดภัย 917 ให้กับตำรวจและทหารพราชายแดนใต้

พ.ต.อ ฉลอง กล่าวว่าตนและคณะขอขอบคุณ นพ.สวรรค์ กาญจนะ ผอ.รพ.เบตง จังหวัดยะลา พร้อมทีมมานะโอกาสนี้ด้วยพระเครื่องนี้ตนจะนำไปมอบให้เจ้าหน้าทหารพรานที่ 49 ตามเจตนารมย์ ของผู้มอบต่อไป

ภาพ-ข่าว ประพฤติ อรรฆธน

KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมคณะนายตำรวจ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เข้านมัสการ หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม


ที่วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม


พร้อม พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม
พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ได้
เข้ากราบนมัสการ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม และกราบขอพร พระพุทธเมตตาประทานพร พร้อมกราบขอพรสรีระสังขารหลวงพ่อพูล อัตตรักโข หลังจากย้ายมารับตำแหน่งใหม่ เพื่อความเป็นสิริมงคล ในการปฎิบัติหน้าที่ ผู้พิทักษ์สันติราษฎ์ ต่อไป

KEY8 NEWS▪︎PRESS 181221

วัดไผ่ล้อม นครปฐม จัดพิธีขอขมากรรม ลด ละ เลิก สิ่งไม่ดี ในปีที่ผ่านมา

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม กล่าวเจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน เมื่อเข้าสู่เดือนธันวาคม ก็นับว่าเป็นช่วงสิ้นปีพอดี เป็นเดือนที่อากาศดีกว่าเดือนใด ๆ แม้เดือนธันวาคมปีนี้ เราทุกคนจะเสียว ๆ กับ “โอไมครอน” โควิดสายพันธุ์ใหม่จากแดนแอฟริกา ที่หมอว่าติดง่ายยิ่งกว่าเดลตา แต่ข่าวดีก็คือ อาการไม่รุนแรงเท่าเดลตา และในประเทศไทยเราก็เร่งฉีดวัคซีนกันขนานใหญ่ จนตอนนี้เมืองไทยนั้นมีวัคซีนสารพัดยี่ห้อ แทบทุกชนิด อย่างไรก็ตาม วัคซีนนี้ไม่ได้กันติด เพราะมันต้องติดก่อน วัคซีนจึงทำงาน แต่วัคซีนนี้กันตาย อาการรุนแรงจะน้อยลง ซึ่งในระยะยาวนั้นมันก็จะทำให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น เหมือนโรคไข้หวัดทั่วไปไปในที่สุด อันนี้คือความเป็นไปได้ในทางวิชาการ แต่กว่าจะถึงวันนั้น เราก็คงต้องอดทนฝ่าฟันกันต่ออีก เพราะโรคมันก็ขยันกลายพันธุ์จริง ๆ

แต่อย่างน้อย การได้วัคซีนก็เสมือนว่าเราติดเชื้อ เมื่อติดแล้วก็มีภูมิคุ้มกัน เมื่อเชื้อมาอีก อาการรุนแรงก็จะลดลงไป ก่อนที่โลกจะตัดขาดจากกันเพราะโรคระบาด อาตมาไปประเทศอินเดีย ไปพุทธคยาอยู่เรื่อย ๆ พอโควิดมาระบาดหนักในอินเดียอาตมาก็ใจหาย เพราะข่าวออกว่าผู้คนล้มตายมากเหลือเกิน ล้มตายขนาดว่าไม่มีที่ให้ฝัง ให้เผา ถึงฝังน้ำก็เซาะหลุม แต่พอตอนนี้คนเป็นกันมาก พอหายก็เหมือนได้วัคซีนตามธรรมชาติ ตอนนี้อินเดียมีผู้ติดเชื้อน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรอันมหาศาล สวนทางกับยุโรปที่ทะยานเอา ๆ อาตมาเลยคิดว่า นี่แหละ วัคซีนสำคัญตรงนี้ ต้องทำให้เกิดการ “ติดเชื้อทิพย์” ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่ว่าวันหนึ่งจะเกิดภูมิคุ้มกันทั้งประเทศ แล้วเราก็จะกลับไปใช้ชีวิตที่สบายกว่านี้ ไม่อยากเรียกว่าปกติ เพราะมันไม่ปกติอีกต่อไปแล้ว โควิดนี่มันเปลี่ยนชีวิตเราไปมาก จนเกิดความปกติใหม่

​กลับมาที่เรื่องสิ้นปี ช่วงสิ้นปีนี้ฝรั่งเขาถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการทบทวนสิ่งที่เคยเกิดขึ้นเพื่อให้อภัย และลืมเรื่องบาดหมางที่ผ่านมา เราจะเริ่มต้นกันใหม่ในปีใหม่ คนฝรั่งเวลาปีใหม่เขาไม่ได้ร้องเพลงสวัสดีปีใหม่แล้วนะ เขาร้องเพลงสามัคคีชุมนุม เอ๊ะ สามัคคีชุมนุมมีในเมืองฝรั่งด้วยหรือ คำตอบคือ ใช่ ต้นฉบับของสามัคคีชุมนุมคือ Auld Lang Syne เป็นเพลงที่แปลแล้วมีเนื้อหาถึงการระลึกความหลัง การมีน้ำใจไมตรีต่อกัน ต่อมาคนไทยนำมาแปลงเป็นสามัคคีชุมนุม ร้องกันในทุกค่ายลูกเสือถึงทุกวันนี้ ฉะนั้นแล้ว เนื่องในวาระสิ้นปี เราก็ควรจะระลึกนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดปี และมองไปข้างหน้าว่าเราจะทำอะไรต่อไป

​พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ให้ความสำคัญกับเรื่องกรรม คือ การกระทำ ว่าเป็นเหตุของสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ความโชคดี โชคร้าย สุข ทุกข์ วาสนา อับโชค ล้วนมาจากกรรมของตนที่เคยทำมาทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นอดีตชาติ หรือในชาติปัจจุบันที่เห็นผลทันตา หลักธรรมเรื่องกรรมมีมาคู่อารยธรรมอินเดียนมนาน แต่ศาสนาพุทธเน้นย้ำเสมอว่า กรรมเกิดได้ด้วยการกระทำของตน และตนจะต้องได้รับผลกรรม เราเป็นทายาทของกรรมโดยแท้ เมื่อเราทำกรรมไม่ดีไว้ ก็ย่อมได้รับผลไม่ดีด้วย ดังธรรมบทที่ว่า

​“หว่านพืชเช่นใด ได้ผลเช่นนั้น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว”

​กรรมนั้นให้ผลต่างกันไป นักปราชญ์จำแนกได้มากมายหลายชนิด แบ่งด้วยเกณฑ์หลายเกณฑ์ แต่กฎแห่งกรรมนั้นซับซ้อนยิ่งนัก เกินกว่าที่จะหยั่งรู้ด้วยความคิดสติปัญญา หรือ อจินไตย อำนาจกรรมทำให้เป็นไปตามผลแห่งกรรมนั้น ๆ หากบุคคลมีกรรมร่วมกันมาก็ต้องมาประสบพบพานกัน ณ ช่วงเวลาหนึ่ง ต้องมาเผชิญวิบากกรรมร่วมกัน สุขด้วยกัน ซวยด้วยกัน ก็อย่างโควิดระบาด เกิดปัญหาต่าง ๆ มากมาย จะว่าไปก็คงเป็นกรรมร่วมกันอย่างหนึ่งของผู้คน ที่ต้องมาประสบกับสถานการณ์อะไรที่เหมือนกัน แต่เราจะพบว่าแม้เป็นวิบากกรรมอย่างเดียวกัน แต่ว่าผลที่ปรากฏแก่แต่ละคนนั้นต่างกัน อันนี้ก็ขึ้นกับกรรมอื่น ๆ ที่เข้ามาประกอบ และที่สำคัญที่สุดคือกรรมที่ทำเอง

​กรรมที่ให้ผลแก่เราในเวลานี้ มีทั้งกรรมที่ทำในชาตินี้ หรือทำในชาติก่อน ๆ มา ซึ่งเราย่อมจำไม่ได้แน่ และไม่อยู่ในวิสัยที่จะนึกคิดเอาได้ ทว่าเจ้ากรรมนายเวรเขาไม่หายไป เขายังคงตามมาได้ เพราะจิตนั่นมันเกิดดับเป็นกระแสธารนานมานับอเนกชาติ พาเราเวียนว่ายตายเกิดเป็นอะไรต่อมิอะไรไม่รู้กี่อย่าง และผลกรรมจะสิ้นไปก็เมื่อเราได้รับผลกรรมนั้น หรืออีกทางหนึ่งคือการอโหสิกรรม ให้เจ้ากรรมนายเวรไม่จองเวรจองกรรมอะไรอีก

​แต่กรรมยิ่งกว่ากรรมก็คือ ทำกรรมไม่ดีแล้วไม่สำนึก ไม่รู้ตัวว่านี่คือกรรมไม่ดี เพราะนั่นหมายความว่าเราก็ไม่รู้ว่าเรากำลังเพิ่มปริมาณเจ้ากรรมนายเวรตามมาอีกเป็นขบวน เจ้ากรรมนายเวรเขาจองคิวนาน คิวยาวถึงชาติหน้าเลยก็มี ชาตินี้ก็เยอะ สุดท้ายชีวิตอับจนตกต่ำ หาทางออกไม่เจอ มัวเมาในมิจฉาทิฐิเพิ่มขึ้นอีก ทำกรรมไม่ดีเพิ่มขึ้นอีก แต่ไม่รู้สึกเนื้อไม่รู้สึกตัวว่านี่เป็นกรรมไม่ดีของตน คนแบบนี้เรียกว่ากรรมหนาเป็นดินพอกหางหมู

​ทางที่ดีที่สุดคือการรู้สำนึกตน ใคร่ครวญว่าที่ผ่านมาเราทำไม่ดีไว้กับใครบ้าง หรือระลึกถึงเจ้ากรรมนายเวรที่ตามติดเรามานับอเนกชาติ ขอขมากรรมนั้นเสีย

​การขอขมากรรมไม่ใช่การแก้กรรม แต่เป็นการตั้งสติระลึกถึงการกระทำของตนเองที่ผ่านมา ว่ามีสิ่งใดบ้างที่เป็นสิ่งไม่ดี ผิดครรลองคลองธรรม และขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวรนั้นเสีย เพื่อที่ต่อไปจะได้ไม่กระทำอีก เพราะกรรมไม่ดีนั้นมันมักพอกพูนทำให้เราไหลไปยังทางอบายได้อย่างรวดเร็ว ตั้งสติระลึกนึกถึงสิ่งนั้น ยอมรับในความผิดของตนเองที่ผ่านมา ปีหนึ่งควรได้กระทำสักครั้ง เป็นการชำระจิตใจ ปลดปล่อยความขัดข้องในใจที่อาจมี บางคนมีกรรมไม่ดีใหญ่หลวงแต่ไม่อาจให้โลกรู้ได้ ก็ขอให้ใช้โอกาสนี้กับตนเองกับเจ้ากรรมนายเวรของตน เราจะรู้ว่านี่คือสิ่งที่เราจะต้องไม่ทำอีก เป็นสิ่งที่ผิด และเราจะเริ่มต้นใหม่ด้วยสิ่งที่ดีกว่า ถือเป็นการตั้งสติใหม่ นำทางไปสู่ความดีงามในชีวิตข้างหน้า

ในวันสิ้นปี วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม 2564 วัดไผ่ล้อมจัดสวดมนต์ข้ามปี ขอขมากรรม ฉลองความสุข “เคาท์ดาวน์ รับพรปีใหม่” ร่ำรวย โชคดี มีเงินทอง เหลือกินเหลือใช้ ณ วัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม เริ่มเวลา 19.09 น. ประกอบพิธีขอขมากรรม ถอนคำสาบาน ถอนคำสาปแช่ง ลด ละสิ่งไม่ดีทั้งปวง ใช้โอกาสสิ้นปี สะสางความเศร้าหมองในใจ เริ่มต้นปีใหม่ด้วยสัตยาธิษฐานว่าเราจะกระทำกรรมดี ลด ละ เลิก สิ่งไม่ดีทั้งปวง ผู้เข้าร่วมพิธีไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น และจะได้ปฏิทินเป็นของที่ระลึกอีกด้วย จึงขอเจริญพรประชาสัมพันธ์มาในตอนท้ายความนี้ ขอเจริญพร

KEY8 NEWS▪︎PRESS

เชียงราย. ผนึกกำลัง จัดงานวันดินโลก ร่วมพลิกฟื้นผืนดิน

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2564 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ ผศ.พิเชษฐ โสวิทยสกุล ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมกิจกรรมเนื่องใน “วันดินโลก World Soil Day” ณ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติศาสตร์พระราชา
ดอยอินทรีย์เชียงราย และศูนย์เรียนรู้ โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน CLM ดอยอินทรีย์ ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

ในการนี้ นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มอบหมายให้นางสาวนิภา ทองก้อน ผู้อำนวยการสำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย

สำหรับกิจกรรมเนื่องใน “วันดินโลก” ในครั้งนี้ เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติจังหวัดเชียงราย ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงราย นำโดยนางอำไพ บัวระดก ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดเชียงราย จัดขึ้น โดยมี ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร นายกสมาคมดินโลกและผู้ก่อตั้งมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ เป็นประธานในพิธี

ในการนี้​ นายภาสกร บุญ​ญ​ลัก​ษ​ม์ ผู้​ว่าราชการ​จังหวัด​เชียงราย​ มอบหมาย​ให้นายรัชพงศ์​ ศิริมี รักษาราชการแทนนายอำเภอเมือง​เชียงราย​ กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ​ และผู้เข้าร่วม​งาน

นายอำนาจ เจิมแหล่ ผู้อำนวยการศูนย์กสิกรรมธรรมชาติศาสตร์พระราชา
ดอยอินทรีย์เชียงราย กล่าวรายงานที่มาและวัตถุประสงค์การจัดงาน ว่า “การจัดงานครั้งนี้ มีที่มาจากการที่พระวีรยุทธ์ อภิวีโร (ครูบาจ๊อก) ประธานเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติภาคเหนือ เจ้าอาวาสวัดป่าดงช้างแก้ว อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าเยี่ยมชมแปลง โคก หนอง นา พัฒนาชุมชน CLM 15 ไร่ ดอยอินทรีย์ ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย เห็นว่าพื้นที่แห่งนี้ มีความเหมาะสม มีศักยภาพ สามารถจัดงานสำคัญเนื่องใน “วันดินโลก” เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของปวงชนชาวไทย ทรงเป็นผู้พลิกฟื้นปฐพี คือ ทรงบุกเบิกและสร้างสรรค์แนวคิด ในการจัดการทรัพยากรดิน ให้คนได้เห็นคุณค่า และใช้ดินอย่างเหมาะสม เกิดประโยชน์สูงสุด และมีโครงการต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกับดิน ที่ทรงค้นคว้า คิด ทดลอง อย่างมีพระราชอุตสาหะ ทุ่มเท ตรากตรำพระวรกาย แก้ปัญหาต่างๆ ด้วยปรารถนาเดียว คือ การได้เห็นราษฎรของพระองค์ได้อยู่ดี มีความสุข บนแผ่นดินผืนนี้ เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติภาคเหนือ จึงได้กำหนดจัดงาน “วันดินโลก” ขึ้น

ในโอกาส​นี้ ได้มีพิธีส่งมอบ-รับมอบ แปลงพื้นที่ต้นแบบ​การพัฒนา​คุณภาพ​ชีวิต​ ระดับ​ตำบล CLM ขนาด 15 ไร่ โดยมีผู้บังคับหน่วยพัฒนาการ​เคลื่อนที่ 35 สำนักงาน​พัฒนา​ภาค 3 หน่วยบัญชาการทหาร​พัฒนา​ กองบัญชาการ​กองทัพไทย ส่งมอบให้กรมการ​พัฒนา​ชุมชน​ เป็น​ผู้ส่งมอบ โดยมีนางสาวนิภา ทองก้อน ผู้อำนว​ยการ​สำนักเสริมสร้าง​ความ​เข้มแข็ง​ชุมชน​ เป็น​ผู้รับมอบ และแขกผู้มีเกียรติ​ร่วมเป็นสักขีพยาน​

หลังจากนั้น ผู้เข้าร่วม​งานได้ร่วมกันทำกิจกรรม​เอามื้อสามัคคี​ ได้แก่ การปลูกป่า 3 อย่า​ง ประโยชน์​ 4 อย่าง การห่มดิน แห้งชาม น้ำชาม และการปลูก​หญ้าแฝก

ภาคบ่าย เป็น​การจัดเวทีเสวนา หัวข้อ​ “พลิกฟื้นป่าด้วยศาสตร์​พระราชา โดยมีผู้ร่วมเวทีเสวนา​ ดังนี้
1) พระวีรยุทธ์ อภิวีโร (ครูบาจ๊อก) ประธานเครื่อข่ายกสิกรรมธรรมชาติภาคเหนือ
2) พระอาจารย์วิบูลย์ ธัมมตโช ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์
3) ผศ.พิเชฐ โสวิทยสกุล ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย
4) รศ. วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย
5) ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร นายกสมาคมดินโลกและผู้ก่อตั้งมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ
6) นางสัณหจุฑา จิราธิวัฒน์ ประธานและผู้ก่อตั้งมูลนิธิรักษ์ดิน รักษ์น้ำ
7) นายโจน จันได ผู้บุกเบิกสร้างบ้านดิน
8) นายธีระ วงษ์เจริญ ประธานเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ
ดำเนินรายการเสวนา​ โดย นางสาว​ชาลิสา กาปัญญา พัฒนา​การ​อำ​เภอ​เมือง​เชียงราย​

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงราย ได้น้อมนำพระราชดำริแนวทางการขับเคลื่อนการใช้ที่ดิน การพัฒนาดิน การบริหารจัดการน้ำ การจัดการด้านเกษตร และอาชีพของเกษตรกรให้มีความมั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน มีการขับเคลื่อนในพื้นที่ตามโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ทั้งในระดับตำบล (CLM) และระดับครัวเรือน (HLM) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 จนถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ดำเนินการตามโครงการดังกล่าว จำนวน 233 แห่ง เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมาย คือ ครัวเรือนสามารถดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข สร้างความมั่งคงทางด้านอาหาร มีอาชีพ สร้างรายได้ ท่ามกลางวิกฤตโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ตำรวจภาค 7 แถลงข่าวจับมือวางเพลิง โกดังน้ำมัน ‘ ประภากรออยล์ ‘ อ้อมใหญ่

วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ที่สถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วย นายรัฐศาสร์ ชิดชู รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรโพธิ์แก้ว นายอำเภอสามพราน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมแถลงผลการจับกุมนางสาวสิราสินี หรือแอน ศรียา อายุ 38 ปี ชาวอำเภอสามพราน หลังจากก่อเหตุวางเพลิงโกดังเก็บน้ำมันหล่อลื่น ของบริษัท ประภากรออยล์ จำกัด ในพื้นที่ตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งนางสาวสิราสินี เป็นพนักงานของบริษัทแห่งนี้ ส่งผลให้น้ำมันหล่อลื่นที่อยู่ภายในโกดังนับ 100,000 ลิตร มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันบริหารเหตุการณ์ฉุกเฉิน ระดมรถดับเพลิง 40 คัน จนสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้


พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ นางสาวสิราสินี ตำแหน่งหัวหน้าคลังสินค้า ได้ให้การว่าก่อนเหตุได้พบชาย 2 คน เข้ามาก่อเหตุและได้หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามสืบสวนตามพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ประกอบกับนางสาวสิราสินีมีพิรุธในการให้ปากคำจึงได้สอบสวนเชิงลึกจนสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ โดยใช้ไฟแช๊คจุดกระดาษแล้ววางไว้ในกล่องกระดาษบรรจุน้ำมันหล่อลื่นจำนวน 2 จุด จนเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว ไม่ได้มีคนร้าย 2 คนตามที่ให้การครั้งแรกแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานทั้งหมดรวบรวมเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งโทษมีสูงสุดประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต โดยเจ้าตัวสารภาพว่ารู้สึกโกรธที่ถูกนายจ้างตำหนิจึงได้ก่อเหตุดังกล่าว


ด้านนายรัฐศาสตร์ ชิดชู รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า จากการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ลงมาดูพื้นที่ด้วยตนเอง และในวันนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย ในส่วนของบริษัท ประภากรออยล์ จำกัด ทางจังหวัดได้สั่งระงับใบอนุญาตตั้งแต่วันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าการจัดเก็บน้ำมันประเภท 3 ได้มีการข้ออนุญาตถูกต้องหรือไม่
ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ได้มอบหมายให้ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศูนย์ดำรงธรรม สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 5 สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อสำรวจความเสียหายและดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลจากอัคคีภัยในครั้งนี้ ซึ่งมีประมาณ 50 ครัวเรือน โดยทางผู้ประกอบการได้ตั้งจุดรับเรื่องร้องทุกข์ของประชาชน และพร้อมเยียวยาทุกครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ในครั้งนี้


ข้อมูล สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม

KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

กลุ่มนักดนตรีนครปฐม ร่วมกันจัดงาน ” คิดถึงพ่อ สืบสานต่อเพลงพราะราชนิพนธ์ “

กลุ่มนักดนตรีอาชีพ และกลุ่ม แสง สี เสียง พร้อมนักดนตรีกลางคืน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม บทเพลงเพื่อรำลึกถึงพ่อ (ในหลวง รัชกาลที่ ๙ )

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก กลุ่มนักดนตรีอาชีพ และสมัครเล่นของ จ.นครปฐม ว่าในวันที่ ๕ ธ.ค. ๒๕๖๔ นี้ ได้มีการร่วมแรงร่วมใจของกลุ่มนักดนตรีจังหวัดนครปฐม รวมถึงกลุ่มอาชีพคนบันเทิง แสง สี เสียง และนักดนตรีกลางคืน ที่ต้องการแสดงออกถึงความจงรักภักดี และแสดงถึงพระอัจริยะภาพทางด้านดนตรี ของในหลวงรัชกาลที่ ๙

โดยจะจัดการแสดงบนเวทีขนาดเล็ก ที่บริเวณ ซอยกลางต้นมะขาม ตรงข้ามประตูหน้าพระร่วงโรจนฤทธ์ฯ ซึ่งงานนี้นักดนตรีจะบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์เป็นหลัก.

นายสุรพล เมติเจียม ในนามกลุ่มตัวแทนนักดนตรี และเป็นผู้ประสานงานจัดสถานที่ พร้อมอุปกรณ์การแสดง กล่าว่า นักดนตรีอาชีพเหล่านี้ ได้หยุดการแสดงไปนาน เพราะได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อ Covid-19 และทาง ศบค. ได้มีคำสั่งหยุดเล่นมาเป็นเวลานาน แต่ก็ยังมีจิตอาสาที่จะจัดกิจกรรมครั้งนี้

งานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนโดย หอการค้าจังหวัดนครปฐม วัฒนะธรรมจังหวัดนครปฐม เทศบาลนครนครปฐม สถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม

จึงขอเรียนเชิญ พี่น้องชาวจังหวัดนครปฐม เข้าร่วมรับชมรับฟังบทเพลงเพื่อพ่อ ในวันอาทิตย์ที่ ๕ ธ.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา ๑๗.๐๐ น. น. ณ.บริเวณตลาดซอยกลาง (ต้นมะขาม) ตรงข้ามประตูด้านหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ฯ

KEY8 NEWS•PRESS 261121

หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ‘จัดพิธีอาบน้ำคืนเดือนเพ็ญ’ ในวันลอยกระทง


พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้เป็นองค์ประธานในพิธีบวงสรวงพระพรหมประกาศิต หนึ่งเดียวในโลก และอาบน้ำคืนเดือนเพ็ญ ในวันลอยกระทง โดยมีคณะพระสงฆ์วัดไผ่ล้อมร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อน้อมสักการะ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ในการสืบสานพิธีโบราณ อาบน้ำมนต์คืนวันเพ็ญ ตำรับหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
โดยมีคณะศิษย์ร่วมกันจุดธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธ์ เทพยดา พร้อมจุดเทียนโอ่งน้ำมนต์ ซึ่งในวันนี้ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 เป็นวันลอยกระทง เป็นวันที่แหล่งน้ำทุกแห่ง จะมีประชาชนพากันไปวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ลำคลองและตามที่มีท่าน้ำ หรือไปตามริมแม่น้ำ เพื่อลอยกระทงบูชา ขอขมาพระแม่คงคา ตามขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมที่สืบสานกันมาตั้งแต่โบราณกาล

ซึ่งวันเพ็ญเดือน 12 ในแต่ละปีจะเป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงสว่างไสว สวยงาม จึงมีการขอพรในการทำสิ่งใดๆ ให้เกิดเป็นมงคลแก่ชีวิต สำเร็จในสิ่งที่ได้ภาวนาขอพร

ซึ่งวันนี้วัดไผ่ล้อมได้จัดให้มีพิธีมหามงคลตามตำรับหลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม บูรพาจารยย์ผู้เข้มขลังและมีเมตตา ตั้งแต่เวลา 21.00น. จนถึงเวลา 24.00 น. โดยหลังจากพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เสร็จแล้ว พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นผู้ตักน้ำพระพุทธมนต์ที่คณะสงฆ์ได้สวดมนต์พิธีอันศักดิ์สิทธิ์ อาบให้แก่คณะศิษย์และผู้ร่วมในพิธี ซึ่งเปรียบเสมือนน้ำทิพย์มหามงคลมาอาบน้ำชำระร่างกาย ชำระสนิมที่เกาะติดในใจ ล้างสิ่งไม่ดีให้ออกไป และให้ต่อจากนี้ไปจงมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองในบวรพุทธศาสนา เจริญในหน้าที่การงาน ค้าขายดี มีกำไร ร่ำรวยเงินทอง


  ในส่วนของพระพรหมประกาศิต ที่นำมามาประดิษฐานที่ศาลหน้าศาลาหลวงพ่อพูล มีขนาดเท่าคนจริง มีพุทธศิลป์ที่งดงามโดยประทับอยู่บนฐานบัวเหนือพญาหงส์ที่ลอยอยู่เหลือก้อนเมฆ ซึ่งไม่เคยปรากฏการสร้างพุทธศิลป์ในรูปแบบนี้มาก่อน ก่อนหน้าได้ประดิษฐานในพื้นที่ตั้งกุฎิหลวงพ่อพูล ก่อนจะย้ายมาที่วิหารพระพุทธเมตตาประทานพร กระทั่งมีการบูรณะศาลาหลวงพ่อพูลแล้วเสร็จจึงได้มีการจัดสร้างและมีพิธีตั้งศาลพระพรหมประกาศิต ก่อนจะมีพิธีบวงสรวง ด้วยเครื่องเซ่นสังเวย และมีนางรำมารำถวาย พระพรหมประกาศิต เพื่อเป็นการแสดงสักการะ อีกด้วย

KEY8 NEWS•PRESS 211121

ผอ.กองสาธารณสุขท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ร่วมการประชุมกับคณะกรรมธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา

ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เข้าร่วมการประชุมร่วมกับคณะกรรมธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา


วันนี้ (17 พฤศจิกายน 2564) เวลา 13.30 น. นายกิตติพงษ์ เกิดฤทธิ์ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมร่วมกับคณะกรรมธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และขั้นตอนการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด

ความพร้อมของหน่วยงานผู้รับโอน หน่วยบริการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ความก้าวหน้าในสายวิชาชีพ สิทธิสวัสดิการ รวมทั้งมาตรการทางกฎหมาย ตลอดจนปัญหาอุปสรรค แนวทางการแก้ไขปัญหาและประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรม Cisco Webex Meetings ณ ห้องประชุมกลุ่มประสานการตรวจราชการ อาคาร 4 ชั้น 3 กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

KEY8 NEWS•PRESS 181121

วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม จัดพิธีบูชาครู หลวงพ่อพูล 109 ปี ชาตกาล

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ที่บริเวณวิหารหลวงพ่อพูล อัตตรักโข วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม จัดพิธีบูชาครู หลวงพ่อพูล 109 ปี ชาตกาล วิหารหลวงพ่อพูลหลังใหม่ ซึ่งวันนี้ถือฤกษ์มงคล วันที่11เดือนพฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อพูล อัตตรักโข โดยทางด้าน พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในนามคณะศิษย์ เป็นประธานจัดพิธี ได้นิมนต์ พระสงฆ์ จำนวน109รูป

จากวัดในจังหวัดนครปฐม สวดเจริญพระพุทธมนต์ หน้าประติมากรรมหลวงพ่อพูลอุ้มโลงแก้ว นั่งบนหนุมาน ขนาดความสูง 5 เมตร หน้าตัก 3 เมตร ซึ่งเป็นพุทธศิลป์ หนึ่งในเดียวในโลก ที่มีความงดงามตระการตา ภายวิหารสีเหลืองทองอร่ามตา พร้อมด้วยคณะศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีอย่างเป็นระเบียบตามมาตรการเว้นระยะห่างในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยหลังคณะพระสงฆ์ทั้ง109รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์

เสร็จแล้วได้มีพิธีบวงสรวงแสดงความกตัญญูบูชาบรมครู บูรพาจารย์ เทพยาดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สถิตย์อยู่ที่วัดไผ่ล้อมแห่งนี้


พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้กล่าวว่า การจัดพิธีทำบุญบูชาครู หลวงพ่อพูล 109 ปี ชาตกาล เป็นการน้อมรำลึกถึงครูบาอาจารย์ เนื่องจากวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อพูล ซึ่งหากท่านอยู่จนถึงวันนี้จะมีอายุ 109 ปี ซึ่งวิหารหลวงพ่อพูลซึ่งเสร็จล่าสุด โดยเป็นสถานที่เดิมที่ตั้งกุฎิของท่าน โดยสิ่งที่หลวงพ่อพูลทิ้งไว้ให้คือ มรดกธรรม คือคำสั่งสอนและวิชาต่างๆ ที่ได้มอบไว้ให้กับลูกศิษย์ และปีนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องแปลกที่ สังขารของท่าน ได้ประกายสีออกเป็นสีทองทั้งร่าง ซึ่งตั้งแต่ท่านมรณะภาพที่สังขารเริ่มเปลี่ยนสีเรื่อยมาจนถึงวันนี้เป็นทองอร่าม
“อาตมาจัดสร้างวิหารและประติมากรรม หนึ่งเดียวในโลกขึ้นมาเพราะเน้นหลักคำว่ากตัญญูรู้คุณ หลวงพ่อพูลท่านได้มอบหมายให้อาตมา มาพัฒนาวัดไผ่ล้อมต่อจากท่าน ซึ่งตลอดระยะเวลา 30 ปี อาตมาก็สานต่อเจตนารมด้วยความตั้งใจ หากเปรียบประติมากรรมที่ตั้งอยู่ในวิหาร หลวงพ่อพูลท่านนั่งอุ้มโลงตัวเอง โดยทับอยู่ที่หนุมาน ซึ่งหนุมานเปรียบคืออาตมาที่เน้นความกตัญญูรู้คุณ ซึ่งหลวงพ่อพูล ท่านบอกอาตมาว่าจะละสังขารในวันวิสาขบูชา อาตมาไม่เคยเชื่อกระทั่งถึงวันที่ท่านละสังขารก็เป็นจริง และมาพบปาฎิหาริย์เมื่อสังขารท่านไม่เน่าเปื่อย นี่คือความศักดิ์สิทธิที่อาตประสบกับตัวเอง”


ส่วนเลขเด็ดของหลวงพ่อพูล คือ เกิดวันที่ 11 เดือน 11 ปี พ.ศ. 2455 ละสังขาร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ.2548 เวลา 14.55 น. ขณะนั้นมีอายุ 93 ปี และถากหากท่านไม่ระสังขารวันนี้จะมีอายุครบ 109 ปีเต็ม ในส่วนของเลขธูป ที่จุดในพิธีได้ปรากฏเลข 930 อีกด้วย

ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน ปลื้ม OTOP ศรีสะเกษ คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1

ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน ปลื้ม OTOPศรีสะเกษ คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เหรียญเงิน ประเภทผ้าเทคนิคสร้างสรรค์ จากการประกวดผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ สู่ต้นแบบการพัฒนา “ผ้าทอเบญจศรี” ผ้าอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564
เวลา 14.00 – 16.00 น. นางทรงลักษณ์ วรภัย ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน นายจักรพงศ์ การีชุม ลงพื้นติดตามความก้าวหน้าฯ การสนองพระปณิธาน สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ด้วย “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” พระราชทาน ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าไหมบ้านน้อยนาเจริญ ตำบลสำโรงปราสาท อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมี นายชัยยงค์ ผ่องใส ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นางสาวธนพร ขจิตเวทย์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน พัฒนาการอำเภอปรางค์กู่ นักวิชาการพัฒนาชุมชนจังหวัด/อำเภอ และสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าไหมบ้านน้อยนาเจริญ ร่วมให้การต้อนรับ นางทรงลักษณ์ วรภัย ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน ได้กล่าวถึงพระเมตตาของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่มีต่อกรมการพัฒนาชุมชนและกลุ่มผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ OTOP ที่ได้พระราชทาน “ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” เพื่อจุดประกายให้ช่างทอผ้า ได้สืบสาน รักษา ต่อยอด ภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า และเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง ประชาชนมีรายได้ จากการขายสินค้าชุมชน/สินค้า OTOP และสามารถพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน

นายชัยยงค์ ผ่องใส ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าไหมบ้านน้อยนาเจริญ ตำบลสำโรงปราสาท อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ได้มีการสืบสาน รักษา ต่อยอด ภูมิปัญญาการทอผ้าท้องถิ่น และมีการประยุกต์ลวดลาย สีสันให้ทันสมัย เป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะสีที่ใช้ย้อมเส้นไหมเป็นสีจากธรรมชาติ ทำให้ผ้าไหมของกลุ่มวิสาหกิจบ้านน้อยนาเจริญมีสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

และได้มีการสนองพระปณิธาน สมเด็จเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ด้วย “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” พระราชทาน โดยสมาชิกในกลุ่มฯ ได้นำลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ มาประยุกต์กับภูมิปัญญาการทอผ้าดั้งเดิม ทำให้มีความสวยงามโดดเด่น มีเอกลักษณ์ ซึ่งสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ ภาครัฐและเอกชน ได้ขับเคลื่อนผ้าอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ จากเดิมมีการทอผ้าลายลูกแก้วย้อมจากผลมะเกลือ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาการย้อมดั้งเดิมของชาวอีสานใต้ ได้ผ้าสีดำขลับ มีข้อจำกัดคือไม่หลากหลายในการใช้สวมใส่ เนื่องจากเป็นสีดำ และเป็นผ้าหน้าแคบ ไม่สะดวกต่อการแปรรูปเป็นเสื้อผ้า จึงได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็น การขับเคลื่อนผ้าอัตลักษณ์จังหวัดศรีสะเกษ และให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัดศรีสะเกษ : ยกระดับสินค้าการเกษตร การค้า และการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐานและแข่งขันได้ ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษ ได้กำหนดให้วาระผ้าทอมือ “ธานีผ้าศรี…แส่ว” เป็น 1 ใน 10 ของวาระจังหวัด ที่จะขับเคลื่อนในปี 2564 จัดตั้ง คอนเซปต์/MOTTO เพื่อง่ายต่อสื่อสาร สร้างความเข้าใจ สร้างกระแสการรับรู้ ได้แก่ “ศรีสะเกษธานี ผ้าศรี …แส่ว” ภายใต้แบรนด์ “ผ้าทอเบญจศรี” ทำให้เกิดการบูรณาการทำงานและการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนรวมถึงภาคประชาชน และนำมาต่อยอดให้เกิดอาชีพ เกิดสินค้า OTOP สร้างรายได้ให้ชุมชน นายชัยยงค์ ผ่องใส ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีการประชาสัมพันธ์และคัดเลือกผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” เข้าประกวดระดับประเทศโดยกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ซึ่งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าไหมบ้านน้อยนาเจริญ ได้ผ่านการคัดเลือกและได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เหรียญเงิน ประเภทผ้าเทคนิคสร้างสรรค์ ของนางวนิดา ระยับศรี ในการนี้ นางทรงลักษณ์ วรภัย ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน ได้กล่าวชื่นชมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าไหมบ้านน้อยนาเจริญ ที่ได้มีการสืบสาน รักษา ต่อยอด ภูมิปัญญาการทอผ้าท้องถิ่น สมดังพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และเผยแพร่ผ้าไทย อันเป็นศิลปะอันล้ำค่าของชาติให้ดำรงคงอยู่เป็นความภาคภูมิใจของคนไทย และให้ชาวโลกได้ชื่นชม

KEY8 NEWS•PRESS 091121

อบจ.นครปฐม มอบถุงยังชีพ 8,000 ถุง ให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย 3 อำเภอ

อบจ.นครปฐม มอบถุงยังชีพ 8,000 ถุง ให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย 3 อำเภอ

   เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยสมาชิกสภา และเจ้าหน้าที่ในองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ได้ช่วยกันเตรียมจัดส่งถุงยังชีพ จำนวน 8,000 ถุง ส่งไปช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยใน 3 อำเภอ คืออำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี และอำเภอสามพราน

โดยมีสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม จะนำถุงยังชีพส่งต่อไปที่อำเภอเพื่อนำส่งมอบต่อไปตามตำบล คืออำเภอนครชัยศรีมี 18 ตำบล อำเภอสามพรานมี 14 ตำบล และอำเภอบางเลนมี 15 ตำบล โดยถุงยังชีพทั้ง 8,000 ชุดนี้ ทาง สจ.จะไปร่วมแจกให้ถึงมือชาวบ้านด้วยตัวเอง

นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์
นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม

นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ กล่าวว่า อำเภอบางเลน อ.นครชัยศรี และอำเภอสามพราน เป็น 3 อำเภอที่มีพื้นที่เลียบแม่น้ำท่าจีน หรือแม่น้ำนครชัยศรี ฤดูฝน หรือหน้าน้ำ สามอำเภอนี้จะได้นับผลกระทบจากอุทกภัยก่อน อย่างเช่น อำเภอบางเลน เป็นพื้นที่รับน้ำจากสุพรรณบุรี และเป็นพื้นที่ต่ำ ขณะที่อำเภอสามพรานเป็นพื้นที่ติดทะเล  ที่ได้รับผลกระทบจากธรรมชาติของน้ำทะเลหนุน อำเภอนครชัยศรี เป็นพื้นที่แอ่งกะทะ เมื่อมีการระบายน้ำจากจังหวัดข้างเคียงมา นครปฐมจะได้รับผลกระทบก่อนเสมอ และเป็นอำเภอที่น่าสงสาร แต่โชคดีที่ประชากรมีความเข้มแข็ง และมีประสบการณ์ เรื่องของน้ำ และผมเชื่อว่าเราจะผ่านวิกฤตินี้ไปได้ด้วยกัน

KEY8 NEWS•PRESS 081121

พช.อุบลฯ ผนึกกำลัง “บวร” ตรวจพื้นที่’โคก หนอง นา’

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2564 นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบหมายให้ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี โดย นางสาววิจิตร หลงชิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน พร้อมด้วย นักวิชาการพัฒนาชุมชนและเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดฯ ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าการขุดปรับพื้นที่ โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” จังหวัดอุบลราชธานี ขยายผลสู่ความยั่งยืน กิจกรรมพัฒนาพื้นที่ครัวเรือนต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิต (Household Lab Model for quality of life : HLM) ระดับครัวเรือน ณ บ้านโนนมะเขือ หมู่ที่ 5 ตำบลกาบิน อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี

ในการนี้ ได้รับความเมตตาจาก พระพิพัฒน์วชิโรภาส ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้อำนวยการศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ป่าดงใหญ่วังอ้อ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี พระครูสุภกิจมงคล เจ้าอาวาสวัดโนนมะเขือ และเจ้าคณะตำบลกาบิน อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี พระนักพัฒนาของจังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้ร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมการพัฒนาชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่มาโดยตลอด ตามหลัก “บวร” หรือบ้าน วัด ราชการ รวมไปถึง นายสิน โจระสา ผู้แทนพัฒนาการอำเภอกุดข้าวปุ้น หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารและนายช่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ (นพต.) และชาวบ้านโนนมะเขือ ร่วมสนับสนุนการดำเนินงาน ทั้งนี้ได้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด

สืบเนื่องจากการที่ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอกุดข้าวปุ้น และองค์การบริหารส่วนตำบลกาบิน ได้ร่วมการประชุมประชาคมชาวบ้านโนนมะเขือ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2564 ในการขอใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์ ดอนป่าติ้ว บ้านโนนมะเขือ หมู่ที่ 5 ตำบลกาบิน อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี เนื้อที่ 20 ไร่ 2 งาน 13 ตารางวา เพื่อเข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา พช.” จำนวน 3 ไร่ จังหวัดอุบลราชธานี โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี จึงประสานงานตามขั้นตอน จนได้รับการจัดสรรจากกรมการพัฒนาชุมชน งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 แผนงานพื้นฐานด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ผลผลิตเสริมสร้างขีดความสามารถของชุมชนในการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อการพัฒนาชุมชน งบประมาณ 493,700 บาท (สี่แสนเก้าหมื่นสามพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่การปฏิบัติ ในรูปแบบ โคก หนอง นา โมเดล รวมถึงพัฒนาพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบ “โคก หนอง นา พช.” ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระดับครัวเรือน ตลอดจนฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนผ่านการสร้างงานสร้างรายได้ ให้แก่เกษตรกร แรงงานและบัณฑิตจบใหม่ กลุ่มแรงงานที่อพยพกลับท้องถิ่นและชุมชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี นั้น มีพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 4,044 แปลง นับว่ามากที่สุดในประเทศไทย จนได้รับการขนานนามว่า “อาณาจักรโคกหนองนา พช.” การตรวจติดตามการดำเนินโครงการฯ ในครั้งนี้ จึงถือเป็นการขยาย “อาณาจักร โคก หนอง นา พช.” ด้วยนั่นเอง

สำหรับการตรวจติดตามการขุดปรับพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการตรวจกิจกรรมตามโครงการฯ ที่ได้รับงบประมาณจัดสรร เป็นงบลงทุน ได้แก่ 1)รายการสิ่งก่อสร้าง ปรับรูปแบบแปลงที่ดิน (ขุด ปรับแต่ง ทำคลองไส้ไก่ โคก หนอง นา หลุมขนมครก ปรับปรุงพัฒนาสภาพแวดล้อมพื้นที่) ปริมาตรดินขุด 10,380 ลูกบาศก์เมตร 2)ป้ายโครงการ จำนวน 1 ป้าย 3)ป้ายฐานการเรียนรู้ จำนวน 4 ป้าย และงบดำเนินงาน รายการค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อวัสดุ อุปกรณ์ พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ สถานที่ดำเนินการ เป็นพื้นที่สาธารณประโยชน์ บ้านโนนมะเขือ หมู่ที่ 5 ตำบลกาบิน อำเภอกุดข้าวปุ้น จังหวัดอุบลราชธานี มีเนื้อที่ขนาด 20 ไร่ ระยะเวลาดำเนินการขุดปรับพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 14 พฤศจิกายน 2564 รวม 45 วัน ซึ่งผลการดำเนินงานผู้รับจ้าง ได้ดำเนินการขุดปรับพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

โอกาสนี้ นางสาววิจิตร หลงชิน ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์การพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี ได้เปิดเผยว่า “โครงการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงประยุกต์สู่การปฏิบัติในรูปแบบ โคก หนอง นา พช. พัฒนาพื้นที่เรียนรู้ชุมชนต้นแบบ “โคก หนอง นา พช.” ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระดับครัวเรือน ฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนผ่านการสร้างงานสร้างรายได้ ให้แก่เกษตรกร แรงงานและบัณฑิตจบใหม่ กลุ่มแรงงาน ที่อพยพกลับท้องถิ่นและชุมชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องชาวบ้านโนนมะเขือ ทุกคน ที่ได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาต่อยอดศูนย์เรียนรู้ เพื่อช่วยส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นพื้นที่ต้นแบบในการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับชุมชน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้ รวมถึงเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการพื้นที่และการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปรับปรุงระบบนิเวศให้มีความสมดุลทางธรรมชาติอย่างยั่งยืน ตามหลักกสิกรรมธรรมชาติ และแนวของกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ในการบูรณาการความร่วมมือร่วมกันเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาล”

ขณะที่ พระพิพัฒน์วชิโรภาส ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้อำนวยการศูนย์พุทธธรรมสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ป่าดงใหญ่วังอ้อ ซึ่งได้เมตตาจุดประกายการขับเคลื่อนและออกแบบพื้นที่ พร้อมตั้งชื่อแปลงว่า “โคก หนอง นา ดอนป่าติ้ว โมเดล” ให้เป็นคลังยาและอาหารของชุมชน และเป็นศูนย์เรียนรู้ที่น่าสนใจ อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี นอกจากนั้น ยังกล่าวอำนวยอวยพรและให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “พื้นที่ดอนป่าติ้ว แห่งนี้ สามารถใช้เป็นศูนย์เรียนรู้ “โคก หนอง นา” การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ เป็นตัวอย่างให้กับครอบครัว ชุมชน ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คือความพอกิน พอใช้ พออยู่ พอร่มเย็น เป็นความมั่นคงขั้นพื้นฐาน และจักขยายเป็นความมั่นคงขั้นก้าวหน้า คือบุญ ทาน เก็บขาย เป็นความร่วมมือของ “บวร” บ้าน วัด โรงเรียน ราชการ และที่สำคัญ คือจิตวิญญาณในการเข้าถึงศาสตร์พระราชา และธรรมะขององค์สมเด็จ พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า อาทิ ความสันโดษ ความอดทน ความเพียร ความสามัคคี ความมีน้ำใจ ความซื่อสัตย์ สุจริต จิตอาสา เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ต่อไปข้างหน้าชุมชนจะมีคลังยาและอาหารไว้กิน ไว้ใช้ ไว้แบ่งปัน ขอเจริญพรและขอบคุณทุกท่าน โดยเฉพาะกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอกุดข้าวปุ้น และองค์การบริหารส่วนตำบลกาบิน ที่ได้ร่วมสนับสนุนและประสานการดำเนินงาน ในการขุดปรับพื้นที่ในครั้งนี้จนสำเร็จไปด้วยดี เพื่อให้เกิดศูนย์เรียนรู้ในการสร้างความมั่นคงทางอาหารและทางรอดให้แก่ชุมชนในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และในระยะยาวอย่างยั่งยืนต่อไป”

KEY8 NEWS•PRESS 081121

นายกฯ เสรินทร์ นำทีมลอกคลองจระเข้น้อย แก้ปัญหาน้ำรอระบาย


  นายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครนครปฐม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ดูการลอกวัชพืชและผักตบชวา เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำหากมีฝนตกลงมาปริมาณมาก อันเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม  บริเวณซอย7 คลองจระเข้น้อย

นายกฯ เสรินทร์ กล่าวว่าคลองจระเข้น้อย ซึ่งเป็นคลองหลักของการระบายน้ำ ที่เชื่อมต่อจากคลองเจดีย์บูชา ซึ่งคลองเจดีย์บูชาจะได้รับน้ำจากต้วตลาดนครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียง ในกรณีฝนตกหนักจะเกิดปัญหาน้ำระบายไม่ท้น เป็นสาเหตุทำให้น้ำท่วมหลายจุดในตัวเมืองนครปฐม การลอกคลองหลักๆ ที่เชื่อมต่อกับคลองเจดีย์บูชา จะเป็นการแก้ปัญหาน้ำรอระบายได้เร็วขึ้น.

KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

ร.ร.ราชินีฯ นครปฐม ฉีด Pfizer นักเรียนกว่า2,600 ราย พร้อมรับเปิดเรียน

โรงเรียนราชินีฯ นครปฐม ฉีด Pfizer นักเรียนกว่า2,600 ราย พร้อมรับเปิดเรียน

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ที่โรงเรียนราชินีบูรณะ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ว่าที่ร้อยตรีมนต์เมืองใต้ รอดอยู่ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชินีบูรณะ ประธานเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการมัธยมศึกษาจังหวัดนครปฐม

  เปิดเผยว่า โรงเรียนราชินีบูรณะร่วมกับโรงพยาบาลนครปฐม มาเปิดนับบริการฉีดวัคซีน Pfizer (เข็มแรก)ให้แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 (ม.ต้น) จำนวน 1,323 ราย ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (ม.ปลาย) จำนวน 1,327 ราย ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดเรียน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา2564 ในสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (Covid-19)

   ว่าที่ร้อยตรี มนต์เมืองใต้ รอดอยู่ กล่าวว่า โรงเรียนราชินีบูรณะ จะทำการเปิดเรียน On-site ในระดับม.ปลาย ก่อนในวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายนนี้ โดย นักเรียน ม.ปลาย ของเราได้รับวัคซีนครบ2 เข็มในวันนี้ และในส่วนของ ม.ต้นจะทำการเปิดเรียน On siteในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ เช่นกัน

  ผู้ปกครองท่านหนึ่ง กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมการบริหารจัดการของทางโรงเรียนราชินีบูรณะในเรื่องการบริการรับวัคซีนในนักเรียน ดีมาก รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก เข้าใจง่ายในการให้ข้อมูลแก่นักเรียน และผู้ปกครอง เนื่องจากการรับวัคซีนในเด็กระดับ ม.ต้น ผู้ปกครองบางรายก็ยังกลัวเอฟเฟค กับลูก แต่ทางโรงเรียนให้คำแนะนำดีมาก และขอฝากถึงผู้ปกครองนักเรียนทั่วไปที่ยังไม่มั่นใจ ในวัคซีนขอให้เปิดใจรับ เพื่อลูกหลานจะได้มีภูมิคุ้มกันที่ดี

KEY8 NEWS•PRESS รายงาน

พระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ฯ เป็นประธานประกอบพิธี ถวายสักการะหลวงพ่อพระร่วงโรจนฤทธิ์ ที่มีอายุครบ ๑๐๖ ปี

พระพรหมเวที เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร ประธานประกอบพิธีถวายสักการะหลวงพ่อพระร่วงโรจนฤทธิ์ ที่มีอายุครบครบ ๑๐๖ ปี และพระบรมราชสรีรางคาร ในหลวงรัชกาลที่ ๖ ที่บรรจุอยู่ใต้ฐานหลวงพ่อพระร่วงโรจนฤทธิ์


  ในพิธีดังกล่าวนี้ ดร.สุดารัตน์ พงศ์อัมพรไกวัล วัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม และนายสุรเชน จันทร์คูณ หัวหน้าสำนักงานจัดประโยชน์และรักษาองค์พระปฐมเจดีย์พร้อมลูกศิษย์และประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงบางส่วน ได้มาร่วมพิธีด้วย เพราะปีนี้ทางองค์พระปฐมเจดีย์ได้งดจัดงานพิธีใหญ่ เพราะเกรงว่าจะเกิดการแพร่เชื้อของโควิด-19

   พระร่วงโรจน์ฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรโมภาส มหาวชิราวุธราชบูชนิยบพิตร์ หรือพระร่วงโรจนฤทธิ์ และหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลวงพ่อพระร่วง” เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ศิลปสุโขทัย สูง 7.42 เมตร (ราว 12 ศอก 4 นิ้ว – จากพระบาทถึงพระเกศ) เนื้อสำริด ลงรักปิดทอง และที่สำคัญ ใต้ฐานบรรจุพระสรีรางคารพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6

ขอบคุณภาพจากเรื่องเล่าชาวสยาม


   พระร่วงโรจนฤทธิ์ เป็นพระพุทธรูปปางห้ามญาติ ที่ได้รับพระราชทานจากพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6   และได้อัญเชิญมาเมื่อเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2457 โดยที่จำเป็นต้องแยกชิ้นมาทางรถไฟและมาประกอบเข้าด้วยกันที่จังหวัดนครปฐมแล้วเสร็จเป็นองค์สมบูรณ์ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2458 ประดิษฐานอยู่ภายในวิหารด้านทิศเหนือขององค์พระปฐมเจดีย์

ข้อมูล.สนง.วัฒนธรรม จ.นครปฐม

KEY8 NEWS•PRESS รายงาน

ผอ.กองสาธารณสุขท้องถิ่น ร่วมประชุมการดำเนินการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติฯ และ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล ณ อบจ.พิษณุโลก

ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขท้องถิ่น ร่วมประชุมการซักซ้อมความเข้าใจแนวทางการดำเนินการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินีและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ณ ห้องประชุมสุพรรณกัลยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก


เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 นายกิตติพงษ์ เกิดฤทธิ์ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขท้องถิ่น เข้าร่วมการประชุมการซักซ้อมความเข้าใจแนวทางการดำเนินการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินีและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ณ ห้องประชุมสุพรรณกัลยา องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก เพื่อเป็นการซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการถ่ายโอนสถานีอนามัย ฯ / โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก

KEY8 NEWS•PRESS

องค์พระปฐมเจดีย์ฯ งดจัดงานวัดเกิดพระร่วงฯ

องค์พระปฐมเจดีย์ฯ งดจัดงานวัดเกิดพระร่วงฯ เกรงคัตเตอร์โควิด แนะไหว้กลางแจ้งที่บ้านได้

   วันที่ 1 พฤศจิกายน ที่องค์พระปฐมเจดีย์ นายสุรเชน จันทร์คูณ หัวหน้าสำนักงานจัดประโยชน์และรักษาองค์พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครปฐม เปิดเผยว่าวันที่ 2 พฤศจิกายน ซึ่งตรงกับงานวันเกิดหลวงพ่อพระร่วงโรจนฤทธิ์ฯ ประจำปี 2564 นี้ ทางวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร งดจัดกิจกรรม ไหว้ไข่ต้มแดง เหมือนทุกปีที่ผ่านมา

เนื่องจากการที่ประชาชน และพุทธสานิกชนมารวมตัวกันจำนวนมากๆ เกรงว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 ทางวัดพระปฐมเจดีย์ฯ จึงของดการจัดพิธีการในปีนี้ซึ่งครบรอบ 106 ปี ที่พระร่วงโรจนฤทธิ์มาประดิษฐาน ณ วิหารเหนือขององค์พระปฐมเจดีย์ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2458

   นายสุรเชน จันทร์คูณ กล่าวว่า สำนักงานจัดประโยชน์และรักษาองค์พระปฐมเจดีย์ ยังคงเปิดให้ประชาชนเข้ากราบไหว้หลวงพ่อพระร่วงฯ และนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ องค์พระปฐมเจดีย์ เป็นปกติ ใครจะนำสิ่งของเครื่องไหว้มา กราบไหว้ได้เหมือนปกติ ต่างคนต่างมา แต่ต้องปฎิบัติตามระเบียบของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข  สวมแมส และวัดอุณหภูมิตามจุดที่กำหนด อย่างเคร่งครัด หรือสามารถตั้งเครื่องบูชาถวาย มีดอกไม้ดาวเรือง ไข่ต้มแดง ปลาร้า ผลไม้ หรือตามแต่ศรัทธา หรือตามที่เคยบ่นบานไว้ ก็สามารถจัดไหว้กลางแจ้งที่บ้านก็ได้ เมื่อได้เวลาก็นำสิ่งของเหล่านั่นทานเพื่อเป็นสิริมงคลต่อไป

KEY8 NEWS•PRESS

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯเป็นประธานทอดกฐินสามัคคี ณ วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ที่วิหารพระพุทธเมตตาประทานพร วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นายอนุชา สะสมทรัพย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นประธานในพิธีถวายผ้ากฐินสามัคคี

โดยนายอภินันท์ เผือกผ่อง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และศิลปินดารา รวมถึงประชาชนร่วมในพิธีงานบุญประจำ 2564 ซึ่งมีการกำหนดให้มีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมเป็นประธานฝ่ายสงฆ์

โดยนายอนุชา สะสมทรัพย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้นำเข้ากราบพระประธานในพระอุโบสถก่อนจะเข้ามาจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย

ณ วิหารพระพุทธเมตตาประธานพร และเป็นประธานนำกล่าวคำถวายผ้ากฐิน จากนั้นถวายเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรมและกรวดน้ำรับพร ซึ่งจากนั้นคณะประชาชาลูกศิษย์ลูกหาได้ร่วมกันถวายผ้ากฐินแด่คณะสงฆ์ เป็นการสิ้นสุดพิธีการ โดยปีนี้ มียอดกฐินสามัคคี รวม 3,140,959 บาท

KEY8 NEWS•PRESS 311021

นครปฐม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานผ้าพระกฐินถวายพระสงฆ์จำพรรษา วัดเสนหา พระอารามหลวง.

วันที่ 31 ตุลาคม 2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าพระกฐิน ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำไปถวายพระสงฆ์จำพรรษาถ้วนไตรมาส ณ วัดเสนหา พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

โดยมีนายอนุชา สะสมทรัพย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พระเถรานุเถระ นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ในกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าร่วมพิธี


จากนั้น นายอนุชา สะสมทรัพย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวนำถวายผ้าพระกฐินแด่พระสงฆ์จำพรรษาถ้วนไตรมาส โดยยอดรวมกฐินพระราชทานในครั้งนี้ จำนวน 2,133,459 บาท เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในศาสนกิจทำนุบำรุงวัดและเป็นการดูแลสืบทอดพระพุทธศาสนาให้สืบต่อไป

ข้อมูล สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม

KEY8 NEWS•PRESS รายงาน

PEA กำหนดแจกถุงยังชีพ 1 พ.ย.นี้ ช่วย 3 จังหวัด นครปฐม สุพรรณ กาญจนฯ ที่ประสบภัยนัำท่วม

กฟก.๓ ร่วมกับ ชมรมผู้จัดการ กฟก.3 คณะแม่บ้านและครอบครัว กฟก.3 กำหนดจัดกิจกรรม PEA
สนับสนุนถุงยังชีพเพื่อประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ กฟก.๓ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือ
ผู้ประสบอุทกภัยจากสถานการณ์อิทธิพลของพายุ “คมปาซุ” พัดผ่านภาคกลางเป็นผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน
หลายพื้นที่ ดังนั้น กฟก.3 ก จึงกำหนดจัดกิจกรรมฯ ในพื้นที่รับผิดชอบพร้อมเพรียงกันทั้ง 7 แห่ง ในวันจันทร์ที่ 1
พ.ย.2564 เวลา ๑๐.๐๐ น. ดังนี้
๑. กฟอ.นครชัยศรี พื้นที่ วัดสำโรง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
๒. กฟอ.บางเลน พื้นที่ วัดศิลามูล ต.หินมูล อ.บางเลน จ.นครปฐม
๓. กฟจ.สุพรรณบุรี พื้นที่ ม.๕ ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
๔. กฟส.อ.บางปลาม้า พื้นที่ ม.๓, ม.๔ ต.องครักษ์ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
๕. กฟย.ต.สวนแตง พื้นที่ ต.ศาลาขาว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
๖. กฟส..อ.สองพี่น้อง พื้นที่ ม.๓ ต.บ้านบางตะเคียน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
๗. กฟอ.บ่อพลอย พื้นที่ ม.๙ บ้านหนองบุพระ ต.ช่องด่าน อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี

://www.facebook.com/510742958970104/videos/1552312218435549/

KEY8 NEWS▪︎PRESS

แม่น้ำ’ท่าจีน’ ล้นท่วม อ.นครชัยศรี

น้ำในแม่น้ำท่าจีนที่จังหวัดนครปฐมยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเอ่อล้นท่วมบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี ตลอดจนพื้นที่การเกษตร ชาวบ้านเร่งช่วยกันลงแขกเกี่ยวข้าวใส่เรือ ก่อนที่น้ำจะท่วมมิดนาข้าว

ล่าสุดวันที่ 25 ตุลาคม 2564 รายงาน สถานการณ์การอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครปฐม จากปริมาณน้ำในแม่น้ำท่าจีนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเอ่อล้นท่วมบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี ประมาณ 30 เซนติเมตร เนื่องจากที่ว่าการอำเภอตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน โดยยังคงเปิดให้บริการประชาชนตามปกติ พร้อมทั้งเร่งสูบน้ำและวางกระสอบทรายเสริมแนวคันกั้นน้ำเพิ่มเติม ขณะที่ชาวบ้านหมู่ 2 ตำบลแหลมบัว อำเภอนครชัยศรี ได้เร่งช่วยกันลงแขกเกี่ยวข้าวใส่เรือ ก่อนที่จะได้รับความเสียหายจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น

นายสมหมาย โพธิ์ทองนาค ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ตำบลแหลมบัว อำเภอนครชัยศรี ซึ่งเป็นเจ้าของนาข้าวแห่งนี้ กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม ทำให้พื้นที่นาข้าวของชาวบ้านได้รับความเสียหาย ตนเองและชาวบ้าน จึงได้ร่วมกันลงแรงเก็บเกี่ยวผลผลิตและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน

จนกระทั่งในวันนี้ ชาวบ้านได้มาร่วมกันช่วยเก็บเกี่ยวผลผลิตของตนเอง ซึ่งมีประมาณ 20 ไร่ ขณะนี้เก็บเกี่ยวไปแล้วประมาณ 4 ไร่ โดยไม่หวังว่าจะเก็บเกี่ยวได้ทั้งหมด เนื่องจากระดับน้ำที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น นับเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เกิดน้ำท่วมพื้นที่นาข้าวของตนเองและชาวบ้าน ส่วนข้าวที่เก็บเกี่ยวมาแล้วจะต้องนำไปตากให้แห้ง ก่อนนำไปจำหน่ายให้กับโรงสีต่อไป

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำในแม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำนอกแนวคันกั้นน้ำ ในพื้นที่อำเภอบางเลน นครชัยศรี และสามพราน รวม 44 ตำบล 303 หมู่บ้าน 6,916 ครัวเรือน มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วน 3,200 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับผลกระทบ 21,233 คน และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 4,000 ไร่ ซึ่งในขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม- ภาพ/ข่าว

KEY8 NEWS•PRESS รายงาน

นายกฯ อบจ.นครปฐม ยกทีมลงพื้น อ.บางเลน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก อบจ.นครปฐม พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ เจ้าหน้าที่ อบจ. นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พื้นที่ อ.บางเลน


โดยการลงพื้นที่ครั้งนี้ อบจ.นครปฐม ได้ให้การสนับสนุน เครื่องจักรกล (รถแบคโฮ) เพื่อใช้ในการขุดลอกผักตบชวา และสนับสนุนเรือไฟเบอร์กลาส จำนวน 5 ลำ ในพื้นที่ตำบลบางระกำ และสนับสนุนเรือไฟเบอร์กลาสให้เขตพื้นที่ในตำบลหินมูล และตำบลบางหลวง ตำบลละ 10 ลำ พร้อมสนับสนุนกระสอบทรายให้แก่หน่วยงานที่ร้องขอมา

นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ หรือ”นายกหนึ่ง” นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม แจ้งว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้ ทาง อบจ.ได้ส่งเครื่องจักรและเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อำเภอบางเลน เพื่อทำคันดินกั้นน้ำแม่น้ำท่าจีนล้นเข้าสู่เส้นทางสัญจรหลัก และพื้นที่การเกษตร อุตสาหกรรม ของอำเภอบางเลน พร้อมจัดเตรียมส้วมสุขาลอยน้ำ และเรือไฟเบอร์กลาส เข้าไปสนับสนุน ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

รายงานข่าวว่าในส่วนอำเภอบางเลน มีครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 10 ตำบล รวม 428 ครัวเรือน ซึ่งก่อนหน้าทาง ปภ.ได้แจ้งล่วงหน้าแล้วว่า ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนจะล้นตลิ่งตั้งแต่ วันที่ 20-30 ต.ต.นี้ ซึ่งก็เป็นไปตามคาด และปริมาณน้ำอาจจะขึ้นสูงอีก

KEY8 NEWS•PRESS รายงาน

วัดไผ่ล้อมฯ สืบสานประเพณี’ตักบาตรเทโว’

วัดไผ่ล้อม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม
พุทธศาสนิกชน ร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณี วันออกพรรษาพร้อมใจกันร่วมพิธีตักบาตรเทโวโรหณะ ข้าวสารอาหารแห้ง

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะพระภิกษุสงฆ์ และสามเณร ออกรับบิณฑบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง จากพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก และมีนายสมชาติ นายเงี๊ยบ สาลีพัฒนา ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ เป็นประธานฝ่ายฆารวาส

ซึ่งในพิธี พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้นำคณะสงฆ์ สวดเจริญพระพุทธมนต์ บูชาพระรัตนตรัยในพระอุโบสถ จากนั้นเดินลงจากพระอุโบสถ เพื่อรับบิณฑบาตร ที่มีญาติโยม พุทธศาสนิกชน ตั้งโต๊ะเพื่อใส่บาตร ข้าวสาร อาหาร แห้ง และปัจจัย เพื่อเป็นการร่วมบุญวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยวัดไผ่ล้อมได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และปีนี้มีการจัดโต๊ะที่แยกเว้นระยะห่างกัน ละมีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อให้ลูกศิษย์ได้ร่วมกันอนุโมทนาและรับพรที่บ้านได้โดยไม่ต้องมาที่วัด เพื่อสืบสานวัฒนธรรมประเพณีของชาวพุทธที่สืบสานต่อกันมาอย่างยาวนานอีกด้วย

KEY8 NEWS•PRESS 221021

จิตอาสาศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 ยกหน่วยทำความสะอาดวัดไผ่ล้อม

จิตอาสาศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 ยกหน่วยทำความสะอาดวัดไผ่ล้อม

เมื่อวันที่ 20 ต.ค.64 ที่ผ่านมา พล.ต.ต. วิสิทธิ์ ศิริสหวัฒน์ ผบก.ศพฐ.7 ได้จัดโครงการกิจกรรมจิตอาสา “เพื่อบำเพ็ญสาธารณประโยชน์” โดยนำเจ้าหน้าในหน่วงานร่วมกันทำความสะอาดรอบๆ บริเวณวัดไผ่ล้อม

  โดยโครงการจิตอาสานี้ทางหน่วยได้ทำเป็นประจำของทุกๆ เดือนที่วัดไผ่ล้อมอยู่แล้ว
  ทางหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาส ก็ขออนุโมทนาบุญ ที่ทุกท่านทำความดีด้วยหัวใจ ขอให้มีแต่ความสุขความเจริญ มีแต่ความโชคดี โชคดี โชคดี ด้วยเทอญ เจริญพร

KEY8 NEWS•PRESS 211021

นครปฐม.น้ำล้นท่าจีนท่วม อ.บางเลน

  น้ำในแม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นเข้าท่วมตลาดเก่าเทศบาลตำบลบางเลน อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ทหารนำกำลังวางกระสอบทรายป้องกันตลาด
และพื้นที่ชุมชน

  นายอนุชา ใจช่วงโชติ นายอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายกเทศมนตรีตำบลบางเลน และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบระดับน้ำที่กำลังท่วมเข้าชุมชนตลาดเก่าเทศบาลตำบลบางเลน หลังจากน้ำในแม่น้ำท่าจีนเอ่อล้น ไหลเข้าท่วมพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร นอกจากนี้ น้ำยังไหลไปตามท่อระบายน้ำ ทำให้โรงพยาบสาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบางเลน ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน และบ้านเรือนประชาชนในชุมชนตลาดเก่าถูกน้ำท่วมหลายหลัง ทางเทศบาลได้เร่งระบายน้ำ วางกระสอบทราย โดยได้รับความร่วมมือจากกำลังทหารจากโรงเรียนการบินกำแพงแสน 30 นาย มาช่วยตักกระสอบทราย วางแนวคันกั้นน้ำ

   นายอนุชา ใจช่วงโชติ นายอำเภอบางเลน กล่าวว่า จาก 2 วันที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนได้เพิ่มสูงขึ้น จากข้อมูลของกรมชลประทาน วันที่ 19-20 ตุลาคม ปริมาณอาจจะขึ้นสูงอีก 50 เซนติเมตร หากไม่มีฝนร่วมเข้ามาปริมาณน้ำก็คงไม่มาก ส่วนสถานการณ์น้ำทั่วไป องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เตรียมตัวตั้งรับเอาไว้แล้ว

จากประสบการณ์ทุกๆ ปี ที่ผ่านมา ส่วนไหนที่อพยพได้จะอพยพ ส่วนไหนดูแลได้จะดูแล ในเรื่องถุงยังชีพและสวัสดิภาพต่างๆ พร้อมกลุ่มเปราะบาง และป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ได้เตรียมนำเรือเข้ามาช่วยเหลือช่วยชาวบ้านออกมาจากบ้านในที่น้ำท่วม อีกทั้งสำนักงานสาธารณสุข จะเข้ามาช่วยดูแล ด้านยารักษาโรค ดูแลผู้ป่วยผู้ติดเตียง ถ้าหากน้ำท่วมเป็นเวลานาน เกรงชาวบ้านจะเกิดความเครียด จึงให้ อสม.มาดูแลให้คำแนะนำการปรับตัว ทั้งนี้หน่วยงาราชการไม่ได้ทิ้งประชาชน จะช่วยกันอย่างเต็มที่ ซึ่งหากมีน้ำทะเลหนุนลงมาจะประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านยกของเตรียมไว้ก่อน คาดว่าสถานการร์ภายในสิ้นเดือนคงจะดีขึ้น


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ข่าว

KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

นครปฐม.ผู้ว่าฯ ยกทีมตรวจ ATK พนักงาน ร้านค้า ห้างเซ็นทรัลศาลายา

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติ ในการดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด–19 แบบ ATK (Antigen Test Kit) ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ศาลายา

วันที่18 ต.ค.64 ที่ผ่านมา นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นายพัฒนพงษ์ สร้อยอินทรากุล นายอำเภอสามพราน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติ ในการดำเนินการตรวจหาเชื้อโควิด–19 แบบ ATK (Antigen Test Kit) ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ศาลายา โดยมีนางสาวมยุรี กาญจนมัจฉา ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ศาลายา เป็นผู้ให้ข้อมูลในการปฏิบัติ

สำหรับการตรวจเชิงรุกในครั้งนี้เป็นการดำเนินการให้กับพนักงานเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการร้านค้าลูกจ้างที่ปฏิบัติงานในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา ซึ่งจะดำเนินการระหว่างวันที่ 18 – 19 ตุลาคม 2564

โดยจะทำการตรวจวันละ 1,000 ราย เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่มาเข้ารับการบริการ ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้ไปให้กำลังเจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ ศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ โดยเปิดให้บริการที่ ชั้น 2 โซนแฟชันพลัส เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา วันจันทร์-วันศุกร์ 11.00-18.00น. วันเสาร์-วันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00-18.00น. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า ศาลายา

ข้อมูล สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.นครปฐม

KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

โจรตัดโซ่ งัดเข้าร้านอาหารดังช่วงน้ำท่วมขโมยเหล้านอก

โจรตัดโซ่ งัดเข้าร้านอาหารดังช่วงน้ำท่วม ขโมยสุราต่างประเทศ พร้อมตัดกล้องวงจรปิดไปด้วย รวมมูลค่านับแสน


นายอู๋ (สงวนนามสกุล) เจ้าของร้าน แจ้งว่าเมื่อคืนวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ฝนตกน้ำท่วมตลอดทั้งคืน ได้มีคนร้ายเข้าไปตัดโซ่กุญแจงัดเข้าไปในร้าน” ร้านอิ่มนาน” (ข้างผับวันทรูทรี)  ถนนยิงเป้า อ.เมืองนครปฐม
ได้ถูกโจรนักงัดแงะ ขโมยของในร้านไปหลายรายการเช่น เหล้านอก จอนห์นี่วอคเกอร์หลายขนาด รีเจนซี่ทั้งแบนและกลม เบียร์ลีโอ เบียร์ช้าง เงินเหรียญที่อยู่ลิ้นชักโต๊ะคอมพิวเตอร์ แถมได้ต้ดกล้องวงจรปิดไปด้วยหวังทำลายหลักฐาน รวมมูลค่าประมาณแสนกว่าบาท  เหมือนเป็นการซ้ำเติมกันช่วงน้ำท่วมนี้ เตือนร้านอื่นๆ ด้วยนะครับ ระวังกันหน่อย.

ใครมีเบาะแส หรือภาพจากกล้องหน้ารถแจ้งมาได้ครับ 081-9444795 อู๋ (เจ้าของร้าน) มีรางวัลให้ครับ.

KEY8 NEWS•PRESS รายงาน

นครปฐม รายงานสถานการณ์ โควิด -19 ประจำวันที่ 18 ต.ค.64

รายงานจาก สนง.สาธารณสุข จ.นครปฐม วันที่ 18 ตุลาคม 2564
ผู้ป่วยรายใหม่ 65 ราย
ผู้ป่วยสะสม 34,084 รายสัญชาติไทย 60 ราย
ต่างชาติ 5 ราย
เสียชีวิตสะสม 595 ( +1) ราย

ลำดับผู้ป่วยรายอำเภอ
1️⃣อำเภอเมือง 16 ราย
2️⃣อำเภอสามพราน 13 ราย
3️⃣อำเภอดอนตูม 12 ราย
4️⃣อำเภอกำแพงแสน7 ราย
5️⃣ อำเภอพุทธมณฑล6 ราย
6️⃣ อำเภอนครชัยศรี 4 ราย
7️⃣อำเภอบางเลน 2 ราย
⭕นอกจังหวัด 5 ราย
⭕เรือนจำป่วยใหม่ 0 ราย

ข้อมูล.ข่าวสารสาธารณสุขนครปฐม

KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

นครปฐมจมน้ำ หลังจากฝนเททั้งคืนทั่วพื้นที่

ฝนเททั้งคืน นครปฐมจมน้ำทั้งจุดเดิม และเพิ่มจุดใหม่กระจายทั่วพื้นที่

เมื่อคืนวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา จังหวัดนครปฐม มีฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ปริมาณน้ำในแม่น้ำท่าจีน หรือแม่น้ำนครชัยศรีมีระดับน้ำสูงขึ้น ทำให้น่ำเอ่อล้นเข้าพื้นที่การเกษตร ปศุสัตว์ และบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำ อ.บางเลน อ.นครชัยศรี อ.สามพราน

ส่วนในพื้นที่เขตเทศบาลนครนครปฐม อ.เมืองนครปฐม มีน้ำสะสมบนผิวจราจรถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าห้างโลตัส สาขานครปฐมมีน้ำท่วมสูงรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ และถนนหลักในเขตชุมชน รอบองค์พระปฐมเจดีย์ หมูบ้านจัดสรรตามชุมชนเก่าหลายแห่ง เนื่องจากระดับน้ำในคลองเจดีย์บูชา ช่วงกลางสูงเกือบล้น และตอนปลายของคลองเจดีย์บูชา(ซอย7)หลังโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย น้ำได้เอ่อล้นคลองออกมาสู่ถนนทั้งสองข้าง

ในส่วนของถนนรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งเป็นพื้นที่กลางเมือง น้ำท่วมรอการระบายหลายเส้นทาง อาทิ ถนนขวาพระ ถนนหลังพระ ถนนราชวิถี ถนนราชวิถีตัดสระบัว ถนนทหารบก ถนน25มกรา ถนนข้างวัง บางส่วน

ขณะที่หน่วยงานรับผิดชอบกำลังดำเนินการผลักดันน้ำ เพื่อเร่งการระบายน้ำให้เร็วที่สุด ลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

ขอบคุณข้อมูล ทวีพล 8 success ภาพข่าวจาก fb.ทุกท่าน

KET8 NEWS•PRESS รายงาน

นครปฐม..ฝนถล่มหนัก ต้นจามจุรียักษ์ 100 ปี โค่นขวางคลองเจดีย์บูชา

จากเมื่อคืนวันที่ 17 ตุลาคม 64 ที่เกิดฝนตกอย่างหนักตลอดทั้งคืนในพื้นที่เมืองนครปฐม จนเป็นสาเหตุให้ต้นจามจุรีขนาดใหญ่ อายุกว่า100ปี ริมคลองเจดีย์บูชาได้โค่นล้มลงมาขวางคลองเจดีย์บูชา

เกิดเหตุบริเวณระหว่างซอย 1 กับซอย 2 ต้นจามจุรีได้ล้มลงขวางกลางคลอง จนปลายยอดได้ฟาดไปถึงฝั่งตรงข้าม โชคดีไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ แต่ต้นจามจุรีดังกล่าวที่มีขาดวงรอบกว่า 3คนโอบ ที่ได้ล้มลงก็ขวางทางน้ำในคลองเจดีย์บูชา ทำให้กระแสน้ำไหลไม่สะดวกอาจเป็นเหตุให้น้ำระบายได้ช้า และกัดเซาะตลิ่งใต้พื้นดินทำให้อาจถนนทรุดตัวลง

นางสมจิต สงวนนามสกุล แม่ค้าขายของอยู่ริมคลองเจดีย์บูชาห่างจากต้นจามจุรีไปประมาณ 10 เมตร บอกว่า ได้ยินเสียงต้นไม้ลั่นแล้วค่อยๆ เอียงล้มลงกลางคลองลำต้นและปลายฟาดกับเหล็กดังมาก และที่โคนและรากได้งัดปูนฟุตบาท และผิวจราจรที่เป็นคอนกรีตเสียหาย

นางหม่วย อายุ 65 ปี ที่บ้านอยู่ใกล้ต้นจามจุรีกล่าวว่า ต้นไม้ต้นนี้อายุ 100 กว่าปี คาดว่าปลูกขึ้นตั้งแต่ขุดคลองเจดีย์บูชา เมื่อก่อนจะเห็นตามแนวคลองเจดีย์บูชา ตี้งแต่วังปฐมนคร(เทศบาลเมืองนครปฐมหลังเก่า) หรือซอย 1ถึงซอย 7 แต่ปัจจุบันเหลือไม่กี่ต้น ต้นนี้น่าจะเกิดจากที่ฝนตกหนักทั้งคืน ทำให้ดินชุ่มน้ำ และน้ำในคลองสูงขึ้นกว่าปกติ

สนับสนุนข้อมูล 8 SUCCESS COFFEE

KWY8 NEWS•PRESS รายงาน

นครปฐมจมน้ำ หลังจากฝนเททั้งคืนทั่วพื้นที่

ฝนเททั้งคืน นครปฐมจมน้ำทั้งจุดเดิม และเพิ่มจุดใหม่กระจายทั่วพื้นที่

เมื่อคืนวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา จังหวัดนครปฐม มีฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ปริมาณน้ำในแม่น้ำท่าจีน หรือแม่น้ำนครชัยศรีมีระดับน้ำสูงขึ้น ทำให้น่ำเอ่อล้นเข้าพื้นที่การเกษตร ปศุสัตว์ และบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำ อ.บางเลน อ.นครชัยศรี อ.สามพราน

ส่วนในพื้นที่เขตเทศบาลนครนครปฐม อ.เมืองนครปฐม มีน้ำสะสมบนผิวจราจรถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าห้างโลตัส สาขานครปฐมมีน้ำท่วมสูงรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ และถนนหลักในเขตชุมชน รอบองค์พระปฐมเจดีย์ หมูบ้านจัดสรรตามชุมชนเก่าหลายแห่ง เนื่องจากระดับน้ำในคลองเจดีย์บูชา ช่วงกลางสูงเกือบล้น และตอนปลายของคลองเจดีย์บูชา(ซอย7)หลังโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย น้ำได้เอ่อล้นคลองออกมาสู่ถนนทั้งสองข้าง

ในส่วนของถนนรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ซึ่งเป็นพื้นที่กลางเมือง น้ำท่วมรอการระบายหลายเส้นทาง อาทิ ถนนขวาพระ ถนนหลังพระ ถนนราชวิถี ถนนราชวิถีตัดสระบัว ถนนทหารบก ถนน25มกรา ถนนข้างวัง บางส่วน

ขณะที่หน่วยงานรับผิดชอบกำลังดำเนินการผลักดันน้ำ เพื่อเร่งการระบายน้ำให้เร็วที่สุด ลดปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

ขอบคุณข้อมูล ทวีพล 8 success ภาพข่าวจาก fb.ทุกท่าน

KET8 NEWS•PRESS รายงาน

สถิติผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของนครปฐม ยังอยู่ในหลักสิบ

รายงายจากทีม สสจ.นครปฐม พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันที่ 17 ตุลาคม 2564
พบผู้ป่วยรายใหม่ 73 ราย
ผู้ป่วยสะสม 34,019 ราย สัญชาติ
ไทย 72 ราย ต่างชาติ 1 ราย
เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 594 ราย

ลำดับผู้ป่วยรายอำเภอ
1️⃣อำเภอกำแพงแสน30 ราย
2️⃣อำเภอเมือง15 ราย
3️⃣อำเภอนครชัยศรี11 ราย
4️⃣อำเภอบ่งเลน 5 ราย
5️⃣ อำเภอพุทธมณฑล5 ราย
6️⃣ อำเภอดอนตูม4 ราย
7️⃣อำเภอสามพราน 2 ราย
⭕นอกจังหวัด 1 ราย
⭕เรือนจำป่วยใหม่ 0 ราย

ข้อมูลข่าวสารสาธารณสุขนครปฐม

KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

แฟนเพลงสุดอาลัย’อ๊อด คีรีบูรณ์’ นักร้องดังยุค 80 เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งสมอง

เปิดประวัติ ‘อ๊อด คีรีบูน’ จากบอยแบนด์ยุคบุกเบิก สู่เจ้าของโรงเรียนสอนดนตรี
เผยประวัติ อ๊อด คีรีบูน นักร้องชื่อดังยุค 80 เริ่มต้นจากบอยแบนด์ยุคบุกเบิก จนกลายมาเป็นเจ้าของโรงเรียนสอนดนตรี

กลายเป็นข่าวเศร้าของวงการเพลง เมื่อช่วง 22.15 น.ของวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา อ๊อด คีรีบูน นักร้องชื่อดังยุค 80 ได้เสียชีวิตไปจากอาการป่วยมะเร็งสมอง โดย ชมพู ฟรุตตี้ ศิลปินยุคเดียวกันจะโพสต์เฟซบุ๊กอาลัยถึงเพื่อนรัก ทำให้เราได้ทราบข่าวเศร้ากันเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา…

สำหรับ “อ๊อด คีรีบูน” หรือชื่อจริงคือ “รณชัย ถมยาปริวัฒน์” นั้น เป็นนักร้อง นักดนตรี นักแสดงและนักแต่งเพลงชาวไทย อดีตนักร้องนำและหัวหน้า วงคีรีบูน แนวสตริงคอมโบ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 มีบทเพลงที่มีชื่อเสียงคือ “รอวันฉันรักเธอ” โดยมีผลงานในนามวงจำนวน 6 ชุด จบปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ในช่วงที่อยู่กับวง “คีรีบูน” อ๊อดได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในกลุ่มนักร้องชายหญิง ที่ร้องเพลงคู่แนวลูกกรุง ในชุด รวมดาว, พบดาว และ นพเก้า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 โดยส่วนใหญ่ร้องคู่กับ อัจฉพรรณี หาญณรงค์ หรือ “โอ ปุยฝ้าย” จนได้ออกอัลบั้มเต็มคู่กัน 1 ชุด

อ๊อด คีรีบูน มีอัลบั้มเดี่ยวออกมาอีกนับสิบชุด ภายหลังการยุบวง และเคยมีผลงานแสดงภาพยนตร์โดยเป็นพระเอกเพียงเรื่องเดียว คือ ความรักของคุณฉุย ในปี พ.ศ. 2532 คู่กับ รัชนก พูนผลิน

ปัจจุบัน อ๊อด คีรีบูน เป็นเจ้าของโรงเรียนสอนดนตรีเพื่อการเรียนรู้ “คีรีบูน จีเนียส มิวสิก” และมีบุตรสาว 1 คน คือ น้องเอิ๊ก ส่วนผลงานในช่วงหลัง เจ้าตัวได้ไปออกรายการ The Mask Singer หน้ากากนักร้อง ซีซันที่ 4 แข่งใน Group C ฉายา หน้ากากมะพร้าว ร้องเพลง ชาวนากับงูเห่า แพ้ หน้ากากพ่อมด นอกจากนี้เมื่อปี 62 อ๊อด ได้ร่วมแสดงในละครชุดเรื่อง Fleet of Time กาลครั้งหนึ่ง รักของเรา ทางช่อง จีเอ็มเอ็ม 25 โดยรับบทเป็น พ่อของวิน

ขอบคุณข้อมูล เดลินิวส์ออนไลน์

KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

วัดไผ่ล้อมฯ นครปฐม ขอเชิญร่วมบุญใหญ่ กฐินสามมัคคี 31 ต.ค.64 นี้

วัดไผ่ล้อมฯ นครปฐม ขอเชิญร่วมบุญใหญ่กฐินสามัคคี ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ณ วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ในวันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม 2564 เวลา 10.00 น.

สอบถามได้ที่: 061-782-6456 , 085-415-6464, 087-415-6564
Line@ : @watpailom  

KEY8 NEWS▪︎PRESS

เสี่ยสุคนธ์ เหยื่อมือปืน ซุ่มยิง ยื่นใบสมัครลงชิงนายก’โคกพระเจดีย์’ นครชัยศรี

เสี่ยสุคนธ์ เหยื่อมือปืน ซุ่มยิง ยื่นใบสมัครลงชิงนายก”โคกพระเจดีย์” ไม่หวั่นอิทธิพล สังกัด’กลุ่มชาวบ้าน’ ค่ายบ้านใหญ่นครปฐม

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลโคกพระเจดีย์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นายสุคนธ์ ศรีสำราญ หรือเสี่ยคนธ์ เจ้าของสนามฟุตบอล  Triple S football club เลขที่ 3234 ตำบลโคกพระเจดีย์ และธุรกิจจำหน่าย หิน ทราย และถมดิน  เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)โคกพระเจดีย์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ลำดับที่ 3 ในนามหัวหน้ากลุ่มชาวบ้านตำบลโคกพระเจดีย์ ทั้งที่บริเวณลำคอยังต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันการเคลื่อนไหว เนื่องจากแพทย์ยังต้องการให้ผู้ป่วยได้พักฟื้น และรักษาอาการภายใน เป็นเวลา 3 เดือนจึงจะเอาอุปกรณ์ดังกล่าวออกได้  โดยมีนายเทวิญ นวลมณี ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลโคกพระเจดีย์  ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบลโคกพระเจดีย์ และเจ้าหน้าที่ดำเนินการรับสมัครฯเป็นที่เรียบร้อย

จากนั้นนายสุคนธ์ ศรีสำราญ ได้ลงมาทักทายประชาชนชาวตำบลโคกพระเจดีย์ ที่มามอบดอกไม้ให้กำลังใจ แล้วเข้าโผกอด

    นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกอองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ในนามกลุ่มชาวบ้าน ที่ให้การสนับสนุนให้ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกพระเจดีย์ โดยใช้ในนามกลุ่มชาวบ้านตำบลโคกพระเจดีย์ อ.นครชัยศรี

   นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ ให้กล่าวว่า มาให้กำลังใจนายสุคนธ์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกพระเจดีย์ ตนเองในนามกลุ่มชาวบ้านโคกพระเจดีย์

ส่วนเรื่องคดีที่นายสุคนธ์ โดนมือปืนซุ่มยิงได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ที่สนามฟุตบอล  Triple S ก็ขอให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเร่งติดตามคดีจับคนร้ายมาลงโทษ  เนื่องจากนายสุคนธ์ ยืนยันว่าไม่มีเรื่องอื่น นอกจากเรื่องการเมืองท้องถิ่น มี่กำลังฟอร์มทีมลงสมัครเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกพระเจดีย์  และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโคกพระเจดีย์ 6 คน ในนามกลุ่มชาวบ้านโคกพระเจดีย์ 

    ด้านนายสุคนธ์ ศรีสำราญ กล่าวว่า ขณะนี้อาการบาดเจ็บดีขึ้นมากตามลำดับ แผลหายดีแล้ว แต่หมอให้พักฟื้น 3 เดือนด้วยการใส่อุปกรณ์ป้องกันการเคลื่อนตัวบริเวณลำคอถึงหน้าผากศีรษะ ซึ่งถามว่าจะเป็นอุปสรรคในการหาเสียงไหม ก็ต้องยอมรับว่าเป็นอุปสรรคมาก แต่เชื่อว่าประชาชนชาวตำบลโคกพระเจดีย์ ที่เชื่อมั่นในตัวผมจะเลือกผมเข้าไปบริหารท้องถิ่น เพราะผมตั้งใจเข้ามาบริหาร และพัฒนาตำบลโคกพระเจดีย์ ให้เจริญยิ่งขึ้น ส่วนที่เลือกใช้ชื่อทีมว่า “กลุ่มช่วบ้านโคกพระเจดีย์” นั้นเพราะผมศรัทธาผู้ใหญ่ของกลุ่มชาวบ้าน ศรัทธาบ้านใหญ่นครปฐม และเชื่อว่าประชาชนก็ศรัทธาผู้ใหญ่ของบ้านใหญ่นครปฐม และศรัทธากลุ่มชาวบ้าน เหมือนผมเช่นกัน

ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลโคกพระเจดีย์ ได้เปิดรับสมัครนายก และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลโคกพระเจดีย์ ตั้งแต่วันที่ 11-15 ตุลาคม โดยมีนายกประชา ฟุ้งขจร มาสมัครนายกอบต.โคกพระเจดีย์ คนแรก และนายสมศักดิ์ สังข์แก้ว มาสมัครนายกอบต.โคกพระเจดีย์ รายที่ 2 และนายสุคนธ์ ศรีสำราญ มาสมัครนายกอบต.โคกพระเจดีย์ รายที่ 3

รายงานข่าวแจ้งว่า แนวทางการสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนลอบยิงนายสุคนธ์ ศรีสำราญ เมื่อเวลา 20 40 น.วันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมานั้น ทางตำรวจพอจะรู้ตัวแต่ด้วยพยานหลักฐานนั้นน้อยมาก ส่วนสาเหตุตัดลงมาสั่นสุดเหลือประเด็นเดียว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้เกรงว่าจะทำให้รูปคดีเสีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บ้านใหญ่นครปฐม ประกาศกร้าว หากตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้าย และผู้บงการในคดีนี้ได้ บ้านใหญ นครปฐมำมอบเงิน 1ล้านบาทให้ เพราะทางผู้ใหญ่ในบ้านใหญ่นครปฐม อยากรู้เหมือนกันว่า สาเหตุใดที่ต้องมา ทำร้ายร่างกายกันแบบนี้ ลอบยิงกันแบบนี้มันรุนแรงมากบนเส้นทางการเมืองยุคนี้ต้องไม่มีการเมืองแบบนี้แล้ว ต้องเล่นการเมืองแบบสร้างสรรค์

KEY8 NEWS•PRESS รายงาน

ศบค.แจ้งลดเคอร์ฟิว ‘5ทุ่ม-ตี3’ ร้านสะดวกซื้อ-ห้าง-โรงหนัง เปิดได้ถึง4ทุ่ม ‘ผับ-บาร์’ รอก่อน.

ศบค.เคาะลดเวลาเคอร์ฟิว 5 ทุ่ม-ตี 3 ปรับลดพื้นที่สีแดงเข้ม ร้านสะดวกซื้อ-ห้าง-โรงหนัง เปิดได้ถึง 4 ทุ่ม ยังไม่เปิดผับ-บาร์

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน สรุปว่าที่ประชุม ศบค. เห็นชอบปรับจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จาก 29 จังหวัด เป็น 23 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครศรีธรรมราช นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา ระยอง ราชบุรี สงขลา สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสระบุรี

ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) จาก 37 จังหวัด เป็น 30 จังหวัด ประกอบด้วย กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครสวรรค์ นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี มหาสารคาม ระนอง ลพบุรี ศรีสะเกษ สตูล สระแก้ว สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อ่างทอง อุดรธานี อุบลราชธานี และเพชรบูรณ์

ขณะที่พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จาก 11 จังหวัด เป็น 24 จังหวัด ประกอบด้วย กระบี่ กำแพงเพชร นครพนม น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ด ลำปาง ลำพูน เลย สกลนคร สุโขทัย หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี และอำนาจเจริญ

นอกจากนี้ ศบค. เห็นชอบการปรับเงื่อนไขมาตรการสำหรับกิจการและกิจกรรมในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หลายประเด็นอาทิ

(1) การห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) จากเดิมเวลา 22.00-04.00 น. ของใหม่ปรับเป็น 23.00-03.00 น. อย่างน้อย 15 วัน เริ่ม 16 ต.ค.
(2) ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด หรือตลาดนัด เดิมเปิดดำเนินการได้จนถึงเวลา 21.00 น. (จำหน่ายเฉพาะเครื่องอุปโภคบริโภค) ปรับเป็นเปิดดำเนินการได้ถึงเวลา 22.00 น. จำหน่ายได้ทุกประเภทสินค้า
(3) กิจการอื่นๆ ที่เปิดทำการ โดยกำหนดเวลา เช่น ธุรกิจโรงภาพยนตร์หรือฉายภาพยนตร์ ร้านอาหารโรงละคร โรงมหรสพ (ลิเก งิ้ว ลำตัด หรือการแสดงพื้นบ้านอื่นๆ) สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้า เวลาเดิมเปิดได้ถึงเวลา 21.00 น. ปรับเป็นเปิดดำเนินการตามปกติ แต่ไม่เกินเวลา 22.00 น.
(4) สถานดูแลผู้สูงอายุ เดิมให้รับเฉพาะที่อยู่ประจำไม่เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับ ปรับเป็นให้เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับได้
(5) การขนส่งสาธารณะทุกประเภท เดิมความจุ 75% ของยานพาหนะ ปรับเป็นเพิ่มความจุตามความสามารถของยานพาหนะ โดยให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแล
(6) ศูนย์แสดงสินค้าศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ในลักษณะเดียวกัน ในห้างสรรพสินค้าและโรงแรม เปิดบริการจัดประชุมและจัดงานตามประเพณีนิยมได้แต่จำกัดจำนวนคนไม่เกิน 500 คน เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 เมตร จัดเลี้ยงอาหารแบบแยกชุด กำหนดเวลาประชุมไม่เกินช่วงละ 2 ชั่วโมง
(7) สำหรับ สถานบันเทิง ผับบาร์และคาราโอเกะ ยังไม่เปิดบริการ แต่ให้ผู้ประกอบการเตรียมการปรับปรุงสภาพแวดล้อม และระบบระบายอากาศตามมาตรฐานรวมถึงให้บุคลากรได้รับวัคซีนครบทุกคน และปรับมาตรการใหม่ให้เสร็จภายในวันที่ 31 ต.ค.

ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์

KEY8 NEWS•PRESS รายงาน

วัดไผ่ล้อมฯ นครปฐม จัดพิธีเปลี่ยนผ้าครอง และย้ายสังขาร ลพ.พูล สู่ศาลาหลังใหม่.

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 64 ที่วิหารพระพุทธเมตตาประทานพร วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เป็นประธานในการจัดพิธีเปลี่ยนผ้าครอง ย้ายสังขาร หลวงพ่อพูล เข้าสู่ศาลาหลวงพ่อพูลหลังใหม่ ที่งดงามด้วยกระเบื้องโมเสคสีทองอร่ามทั่วทั้งศาลา เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดนครปฐม

โดยเป็นพิธีการเปิดศาลาหลวงพ่อพูล อย่างเป็นทางการหลังก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยมีเพียงคณะสงฆ์ ศิษยานุศิษย์ที่ใกล้ชิด รวมถึงเจ้าหน้าที่ของวัดไผ่ล้อมเข้าร่วมในพิธี ด้วยมาตราการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยผู้ร่วมพิธีนั้นได้ผ่านการฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน2เข็ม มาแล้วทุกคน

ศาลาหลวงพ่อพูลหลังใหม่แห่งนี้ภายใน จะประดิษฐาน ด้วยรูปเหมือน หลวงพ่อพูล นั่งบนหนุมาน อุ้มโลงแก้วหีบทอง บรรจุสังขารของท่านเองที่ไม่เน่าเปื่อยเป็นเวลากว่า 16 ปี หน้าตักกว้าง 3 เมตร สูง 5 เมตร องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ประติมากรรมอันวิจิตร หนึ่งเดียว ที่ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้รังสรรค์จัดสร้าง กตัญญุตาต่อ อาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา อบรมสั่งสอนศิษย์ ให้ปฎิบัติในหลักพระพุทธศาสนา เพื่อรำลึกถึงคุณ งามความดีที่ท่านได้สร้างไว้ คุณูปการ พร้อมเปิดให้ศิษยานุศิษย์ ประชาชนเข้ากราบไหว้ขอพร รวมทั้งยังมี เนสเซอรี่กุมารทองสมบัติวัดไผ่ล้อม กุมารคู่บุญบารมีของหลวงพ่อพูล ตั้งอยู่ข้างรูปเหมือน หลวงพ่อพูล นั่งบนหนุมาน อุ้มโลงแก้วหีบทอง ทางด้าน พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน)

เจ้าอาวาวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า ในการจัดพิธีการเปลี่ยนผ้าครอง สังขารหลวงพ่อพูล และการเคลื่อนย้ายสังขาร จากวิหารหลวงพ่อพระพุทธประทานพร ไปตั้งในศาลาหลวงพ่อพูลในครั้งนี้ ได้มีการวางแผนมานาน ซึ่งที่ตั้งของศาลาหลวงพ่อพูลที่ได้นำสังขารท่านไปประดิษฐานตรงจุดเดิมที่เคยเป็นที่ตั้งของกุฏิของหลวงพ่อพูล ท่านเอง ในการออกแบบอาตมาก็ได้ทำตามนิมิตที่เป็นภาพ คือการที่มีรูปหล่อหลวงพ่อพูลที่สร้างขึ้นมาเป็นงานที่ละเอียดมีความเหมือนกับท่านยังคงมีชีวิต และนั่งอยู่บนหนุมาน ถือว่าหนุมานเป็นตัวแทนของความกตัญญู ก็เปรียบเสมือนอาตมาที่ตลอดระยะเวลาที่หลวงพ่อพูลท่านยังมีชีวิติอยู่ อาตมาก็ได้มีการสนองงานของหลวงพ่อพูลในวัดไผ่ล้อมด้วยความตั้งใจมาโดยตลอดและแม้หลวงพ่อพูลท่านได้ละสังขารแล้ว 16 ปี อาตมาก็ยังคงสานต่อภารกิจในวัดไผ่ล้อมอย่างต่อเนื่องเสมอมา ส่วนโลงกระจกที่รูปหล่อท่านอุ้มไว้เป็นการที่แสดงให้เห็นถึงบารมีของท่านที่สังขารไม่มีการเน่าเปื่อย และเนื้อผิวก็ยังคงออกเป็นสีทองอร่ามมากขึ้นทุกปี โดยยังมีเส้นผมที่งอกออกมาด้วย จึงได้ตั้งใจนำมาประดิษฐาน เพื่อให้ประชาชนได้มาเห็นถึงบารมีของหลวงพ่อพูลที่ท่านเป็นครูบาอาจารย์ที่สร้างแต่ความดีมาตลอดการครองชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ และเปิดให้ประชาชนได้เข้ามากราบไหว้ขอพร เพื่อเป็นมงคลชีวิตตลอดไป

KEY8 NEWS•PRESS 141021

สิ้นหลวงพ่อฉลวย แห่งวัดหนองบัว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ศิษย์แห่ไว้อาลัย

เมื่อเวลา10.00น.วันที่ 13 ต.ค. 64 ที่โรงพยาบาลบ้านแพ้ว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าได้มีพิธีเคลื่อนสรีระ หลวงพ่อฉลวย อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองบัว ต.หนองบัว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร จากโรงพยาบาล ไปยังวัดหนองบัว ซึ่งคณะสงฆ์วัดหนองบัว กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ศิษยานุศิษย์ได้จัดเตรียมจัดสถานที่บำเพ็ญกุศลที่ศาลาการเปรียญวัดหนองบัวไว้แล้ว

ต่อมาคณะสงฆ์นำโดย พระเทพสาครมุนี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร ทำพิธีสรงน้ำสรีระ รวมทั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนตามลำดับ และในเวลา 16.00น.มีพิธีน้ำหลวงอาบสรีระ โดยนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครเป็นประธาน และกำหนดสวดพระอภิธรรมเวลา 17.00น. ทุกคืนเป็นเวลา 30วันแล้วเก็บรักษาสรีระไว้

พระครูสาครสิริฑัต (ฉลวย นิยโต) เกิดวันที่ 15 เมษายน 2471 และมรณภาพวันที่ 12 ตุลาคม 64 ด้วยโรคชรา ณ โรงพยาบาลบ้านแพ้ว รวมสิริอายุ 93ปี ท่านเป็นบุตรของนายเป๋ นางซิม เปาทุย ณ บ้าน ต.หนองบัว เมื่ออายุ 21ปี ได้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ มีพระปลัดโฉม (พระครูสุนทรธรรมวาที)วัดธรรมจริยาภิรมย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์รอดเป็นพระกรรมวาจาจารย์ วันที่ 10 เมษายน 2503 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองบัว วันที่ 5 ธันวาคม 2516 ได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์ เป็นพระครูสาครสิริฑัต วันที่ 9 พฤษภาคม 2519 ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ วันที่ 10 เมษายน 2547 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอบ้านแพ้ว วันที่ 10 เมษายน 2552 ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบ้านแพ้ว ท่านยังเป็นพระนักพัฒนา และอนุรักษ์ธรรมชาติ
วัดหนองบัวมีอุโบสถเป็นไม้มหาอุต เก่าแก่อายุนับ 100 ปี และมีพระพุทธรูปนับพันองค์ มีวิหารหลวงพ่อแดงเก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นับถือของชาวสวนจำนวนมาก ยังเป็นแล่งท่องเที่ยวของอำเภอบ้านแพ้วอีกด้วย

ขอขอบคุณ.วิวัฒนชัย ผู้สื่อข่าว จ.สมุทรสาคร ภาพ/ข่าว

KEY8 NEWS•PRESS รายงาน

`กรมการปกครอง’แจ้งทุกจว.ยกเลิกใช้สำเนาบัตรปชช.-ทะเบียนบ้าน

‘กรมการปกครอง’ ร่อนหนังสือด่วนที่สุด สั่งทุก จว.ยกเลิกเรียกสำเนาบัตรประชาชน-ทะเบียนบ้าน ลดภาระประชาชนติดต่อราชการ

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. มีรายงานว่า นายสมยศ พุ่มน้อย ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ลงชื่อในหนังสือคำสั่งด่วนที่สุด ประกาศกรมการปกครอง เรื่อง ยกเลิกการเรียกสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า ด้วยมติคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบาย Thaland 4.0 เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 63 มีมติให้ยกเลิกการใช้สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านเพื่อรองรับการเป็นรัฐบาลดิจิทัล ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 61 เห็นชอบมาตรการอำนวยความสะดวกและลดภาระของประชาชน (การไม่เรียกสำเนาเอกสารที่ทางราชการออกให้จากประชาชน)”

ขอขอบคุณข้อมูล เดลินิวส์ออนไลน์

KEY8 NEWS•PRESS รายงาน

ป้องกันแล้ว:วัดไผ่ล้อมฯ นครปฐม บริจาคเครื่องผลิตออกซิเจนรอบ 2 เพิ่ม 50 เครื่อง

เนื้อหานี้มีการป้องกันด้วยรหัสผ่าน โปรดใส่รหัสผ่านด้านล่างเพื่อดูมัน

วัดไผ่ล้อมฯ นครปฐม บริจาคเครื่องผลิตออกซิเจนรอบ 2 เพิ่ม 50 เครื่องรวม 150 เครื่อง

วัดไผ่ล้อมฯ นครปฐม บริจาคเครื่องผลิตออกซิเจนรอบ 2 เพิ่ม 50 รวม 150 เครื่อง

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 64 นายสมชาติ(นายเงี๊ยบ)สาลีพัฒนา ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ ได้ร่วมบุญกับพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม และคณะศิษย์ ร่วมกันมอบเครื่องผลิตออกซิเจน ให้กับโรงพยาบาลบ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมมอบให้โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี

เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ผมและหลวงพ่อน้ำฝน ขอให้อนิจสงส์ผลบุญครั้งนี้ให้ทุกๆท่าน มีสุขภาพแข็งแรง ปลอดโรค ปลอดภัย ตลอดไปด้วยเทอญ

Key8 News▪︎Press 131021

วัดไร่ขิง พระอารามหลวง นครปฐม อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และหลวงพ่อวัดไร่ขิงจำลอง ขึ้นประดิษฐาน ณ พระบรมธาตุเจดีย์พระอุบาลีมหามงคล

เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2564 ที่ศาลาอเนกประสงค์ วัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม วัดไตรมิตรวิทยาราม ประธานฝ่ายสงฆ์ นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และหลวงพ่อวัดไร่ขิงจำลอง ขึ้นประดิษฐาน ณ พระบรมธาตุเจดีย์พระอุบาลีมหามงคล และพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปหลวงพ่อวัดไร่ขิงจำลอง หน้าตัก 32 นิ้ว

เนื่องในวาระ 99 ปี ชาตกาล พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินฺทปญฺญมหาเถร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 โดยมีนางโกโลนเน อัปปุหามิลาเค จมินทะ อิโนกา โกโลเน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ประจำประเทศไทย และคู่สมรส พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเหล่ากาชาดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ศิลปินนักร้อง และประชาชน ร่วมพิธี ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

พระบรมธาตุเจดีย์พระอุบาลีมหามงคล จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่ได้รับประทานจากสมเด็จพระสังราช แห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา เมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งเพื่อรำลึกถึงพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินฺทปญฺญมหาเถร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 เนื่องในโอกาสครบ 100 ปี ชาตกาล ในวันที่ 8 ตุลาคม 2565 โดยพระเทพศาสนาภิบาล เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง พระอารามหลวง เป็นประธานการจัดสร้าง ออกแบบโดย ดร.วนิดา พึ่งสุนทร ศิลปินแห่งชาติ สถาบันศิลปะสถาปัตยกรรมไทยเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยศิลปากร มีรูปแบบการก่อสร้าง ประกอบด้วย องค์พระบรมธาตุเจดีย์ องค์ประธาน 1 องค์ และองค์พระบรมธาตุเจดีย์ องค์บริวาร 9 องค์ แต่ละองค์มีพระพุทธรูปปางต่างๆ ประดิษฐานอยู่เบื้องหน้า

สำหรับพิธีในครั้งนี้ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ประกอบพิธีเบิกเนตร หลวงพ่อวัดไร่ขิงจำลอง และอัญเชิญขึ้นประดิษฐาน ณ ซุ้มประจำทิศ พระบรมธาตุเจดีย์พระอุบาลีมหามงคล จากนั้น นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ขึ้นประดิษฐาน ณ พระบรมธาตุเจดีย์พระอุบาลีมหามงคล ชั้นที่ 2 หลังจากนั้น สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี พร้อมศรัทธาสาธุชน ร่วมพิธีเททองหล่อ พระพุทธรูปหลวงพ่อวัดไร่ขิงจำลอง หน้าตัก 32 นิ้ว ประดิษฐานภายในพระบรมธาตุเจดีย์พระอุบาลีมหามงคล ให้ประชาชนที่เดินทางมาวัดไร่ขิง พระอารามหลวง ได้สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล

ขอบคุณข้อมูล สนง.ปชส.นครปฐม

KEY8 NEES•PRESS


ปลัดกระทรวงมหาดไทยมอบถุงยังชีพประทานของสมเด็จพระสังฆราชฯ พื้นที่ จ.พิจิตร

     วันนี้ 9 ต.ค.64 เวลา 10:00 น. ที่วัดวังจิก ต.วังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พระครูสมุห์วัชระ ภทฺทธมฺโม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม วรวิหาร มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดพิจิตร โดยมี นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยประจำจังหวัดพิจิตร หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทยประจำจังหวัดพิจิตร นายอำเภอทุกอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับ

     โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดกรวยถวายสักการะหน้าพระรูป เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และอัญเชิญถุงยังชีพประทานพร้อมพระรูป มอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย รวมจำนวน 100 ชุด และถุงยังชีพของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 651 ชุด

     นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  ทรงมีความห่วงใยพสกนิกรชาวไทยที่กำลังประสบอุทกภัย และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทานและมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ ประชาชนจิตอาสา  ให้ความช่วยเหลือประชาชน  และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา โปรดให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนร่วมกับภาครัฐมาโดยตลอด

     นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในวันนี้ ผมมีความตั้งใจมาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวตำบลวังจิก โดยได้รับพระเมตตาจาก สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งทรงมีความห่วงใยพระภิกษุสงฆ์และพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ ทรงประทานเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 100 ชุด มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และได้รับการสนับสนุนถุงยังชีพจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพิ่มเติมอีกจำนวน 651 ชุด ซึ่งถือเป็นสิ่งที่พวกเราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีพขณะกำลังประสบอุทกภัยได้ เป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงว่า คนไทยด้วยกันไม่ทิ้งกัน มีอะไรเดือดร้อนก็มาช่วยกัน นอกจากนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการและติดตามพร้อมเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงาน เร่งเข้าให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน และลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ประสบสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง และต้องขอขอบคุณ ข้าราชการในพื้นที่ทุกหน่วยงาน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. อปพร. และทุกภาคส่วน ที่ในขณะนี้ แม้ว่าบ้านของหลาย ๆ คนกำลังประสบปัญหาน้ำท่วมเช่นกัน แต่ก็ยังคงทำหน้าที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้วยความตั้งใจอย่างเต็มกำลังความสามารถ

     นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และกรมอุตุนิยมวิทยาก็ได้มีประกาศแจ้งเตือนว่าประเทศของเรายังมีพายุฝนที่จ่อเข้าประเทศไทย ทั้ง “ไลออนร็อก” และพายุลูกอื่น ๆ ที่ใยช่วงเวลาเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน คนไทยเรียกกันว่า “ปลายฝนต้นหนาว” จึงขอให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกท่านอย่าได้ประมาท ช่วยกันติดตามข่าวพยากรณ์อากาศ ฟังข้อมูลข่าวสารจากภาครัฐ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผ่านทางหอกระจายข่าว ทีวี และเตรียมพร้อมยกข้าวของเครื่องใช้ที่จะต้องเก็บไว้ในที่สูง และขณะเดียวกันต้องดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บที่จะมากับน้ำท่วมและภัยจากอุบัติเหตุ เช่น ดื่มเหล้าจนเมาแล้ววูบจมน้ำ โรคไข้หวัด อุจจาระร่วง โรคผิวหนัง ไฟฟ้าช็อตเนื่องจากน้ำท่วมถึงบริเวณปลั๊กไฟ เป็นต้น ต้องระมัดระวังความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และรักษาสุขอนามัย สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และช่วยกันรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้เพื่อนบ้านในชุมชน อย่าประมาท ต้องป้องกันไว้ก่อน  และหากต้องการขอรับความช่วยเหลือจากสถานการณ์อุทกภัย ติดต่อสายด่วนนิรภัย 1784 หากเจ็บไข้ได้ป่วยกระทันหันหรือเจอคนประสบอุบัติเหตุ โทร. 1669  และหากมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ ถูกทวงหนี้ไม่เป็นไปตามกฎหมาย โทร. 1567 ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อเจ้าหน้าที่เข้าให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ขอให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดให้สมความปรารถนา รอดปลอดภัยจากภัยน้ำท่วมโดยเร็ววัน และต้องระลึกเสมอว่า “เราคนไทยไม่ทิ้งกัน เราคนไทยจะช่วยเหลือกัน เราคนไทยจะดูแลซึ่งกันและกัน” ตลอดไป

     นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2564 จังหวัดพิจิตรได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและพายุดีเปรสชั่น “เตี้ยนหมู่” ประกอบกับน้ำในแม่น้ำยมเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและท่วมขังในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอ 71 ตำบล 482 หมู่บ้าน ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชน พื้นที่การเกษตร และสิ่งสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ โดยในส่วนของอำเภอโพธิ์ประทับช้าง มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย จำนวน 3 ตำบล 21 หมู่บ้าน 1,242 ครัวเรือน แบ่งเป็น ตำบลโพธิ์ประทับช้าง จำนวน 50 หลังคาเรือน จำนวน 860 หลังคาเรือน และตำบลไผ่ท่าโพ จำนวน 332 หลังคาเรือน

     จากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะ ลงเรือของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ออกเยี่ยมเยียนให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้แก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยและไม่สามารถออกจากบ้านพักอาศัยได้ตามแนวแม่น้ำยม ตำบลวังจิก อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร

ขอบคุณข้อมูล.กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ /2564
วันที่ 9 ต.ค. 2564

KEY8 NEWS•PRESS รายงาน

ชาวนครปฐมฉีดวัคซีนเกิน 70% แล้ว


รายงานจากศูนย์วัคซีนโควิด-19 นครปฐม
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2564
สถานการณ์วัคซีนโควิด-19
สรุปยอด ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2564

  • ฉีดวัคซีนใหม่ 7.015 โดส
  • ฉีดวัคซีนสะสม1,142,903โดส
  • คิดเป็นผู้ได้รับวัคซีนสะสม 71.26% ของประชากรเป้าหมายที่ต้องการรับวัคซีน 965,093คน
    (ข้อมูลรวมการฉีดวัคซีนกลุ่มต่างๆ ภายนอกจังหวัดนครปฐม เข็ม1 จำนวน 202,483 คน )
    แยกตามกลุ่มเป้าหมายหลัก
  • ผู้มีโรคประจำตัว 91.02%
  • ผู้สูงอายุ79.50%
  • หญิงตั้งครรภ์ 25.88%
  • นักเรียน 12-17ปี 5.45%

ขอขอบคุณ.ข้อมูลจาก ข่าวสาร สสจ.นครปฐม

KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม เชิญร่วมพิธีใหญ่ ย้ายสังขารหลวงพ่อพูล เข้าศาลาหลังใหม่

วัดไผ่ล้อม นครปฐม เชิญสาธุชนร่วมพิธียิ่งใหญ่พิธีเปลี่ยนผ้าครอง และย้ายสังขาร พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล เข้าสู่ศาลาหลวงพ่อพูลหลังใหม่

ในวันอังคารที่ 12 ตุลาคม 2564 นี้
เริมพิธีเริ่มเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ณ วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม

สอบถามได้ที่: 061-782-6456 , 085-415-6464, 087-415-6564
Line@ : @watpailom

KEY8 NEWS•PRESS 061021 PAILOM