คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวประชาสัมพันธ์

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้ทรงร่วมพิธีเปิดและทรงร่วมการประชุมเชิงวิชาการ ในหัวข้อ “สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ บุคคลสำคัญของโลก

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ร่วมพิธีเปิดและทรงร่วมการประชุมเชิงวิชาการ ในหัวข้อ “สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ บุคคลสำคัญของโลก และศาสตราจารย์ ยอร์ช เซเดส์” ณ ศูนย์ค้นคว้าและวิจัย สถาบันภาษาและอารยธรรมตะวันออกแห่งชาติ กรุงปารีส

ในการนี้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล สมาชิกวุฒิสภา ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ บุคคลสำคัญของโลก และความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์”

อนึ่ง นักการทูต นักประวัติศาสตร์โบราณคดี ครูอาจารย์ นักศึกษา และชาวฝรั่งเศส เป็นจำนวนมาก ผู้เข้าร่วมการประชุมเชิงวิชาการในครั้งนี้ ต่างมีความตื้นตันใจ มีความซาบซึ้งในคำกล่าวสุนทรพจน์ของ ม.ล.ปนัดดา ที่ทำให้ตระหนักทราบได้ว่าราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์อันดีงามมาช้านาน และพระบรมวงศานุวงศ์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันเปี่ยมล้นต่อชาวฝรั่งเศส ความเป็นกัลยาณมิตรระหว่างสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย กับศาสตราจารย์ ยอร์ช เซเดส์ นักวิชาการชาวฝรั่งเศส ถือเป็นกรณีศึกษาที่ประชาชนทั้งสองประเทศไม่สามารถลืมเลือนได้

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบถุงพระราชทานให้แก่ประชาชนผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่ อ.สามพราน

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบถุงพระราชทานให้แก่ประชาชนผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่จังหวัดนครปฐม

วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยพสกนิกรผู้ได้รับผลกระทบจากอัคคีภัย ในพื้นที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ประจำจังหวัด นำถุงพระราชทานของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มามอบให้แก่ราษฎรผู้ประสบอัคคีภัย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบ ในพื้นชุมชนริมน้ำ.หมู่ที่ 8 ตำบลสามพราน อำเภอสามพราน

ณ ศูนย์พักพิงผู้ประสบอัคคีภัยเทศบาลเมืองสามพราน (โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านสามพราน) อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม โดยมี นายกเหล่ากาชาดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมพิธี นายนพดล คำนึงเนตร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครปฐม ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการฝ่ายบรรเทาทุกข์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ประจำจังหวัด กล่าวว่า จังหวัดนครปฐม ได้เกิดสถานการณ์อัคคีภัยเมื่อวันที่.14 พฤษภาคม.2567 เวลาประมาณ.14.30 น. เป็นชุมชน ริมน้ำ หมู่ที่ 8 ตำบลสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จำนวน 24 หลัง บ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งหลัง จำนวน 11 หลัง และได้รับความเสียหายบางส่วน จำนวน 13 หลัง จึงได้ขอรับความอนุเคราะห์ถุงพระราชทานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำไปมอบแก่ราษฎรผู้ประสบอัคคีภัย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากอัคคีภัยในครั้งนี้ โอกาสนี้

นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นางศุภวรรณ จันทร์ดิษฐวงษ์ นางวรณัน สวนทอง นางศิริลักษณ์ พึ่งเนียม นางกัญจนา สร้อยอินทรากุล รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ได้มอบถุงยังชีพ พร้อมมอบเงินให้แก่ผู้ประสบอัคคีภัย บ้านเสียหายทั้งหลัง (เป็นเจ้าของ) จำนวน 7 ราย ๆ ละ 10,000 บาท บ้านเสียหายบางส่วน จำนวน 4 ราย ๆ ละ 5,000 บาท และบ้านเช่าเสียหาย จำนวน 13 ราย ๆ ละ 3,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 129,000 บาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ และบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น นอกจากนี้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนรปฐม ได้มอบเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน รายละ 3,000 บาท พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และผู้นำท้องถิ่น ร่วมให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้ประสบอัคคีภัยในครั้งนี้

สำหรับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ก่อตั้งเป็นมูลนิธิขึ้น เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนผู้ได้รับความทุกข์ยากเดือดร้อนจากเหตุสาธารณภัยต่างๆ อย่างทันท่วงที ตลอดจนสงเคราะห์ด้านการศึกษาด้วยการมอบทุนการศึกษาแก่เด็กกำพร้าที่ครอบครัวประสบสาธารณภัย และเด็กที่เรียนดีในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ได้ยึดถือพระราชดำริมาปฏิบัติเป็นเวลา 58 ปี ดังพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้ทรงวางรากฐานการดำเนินงานของมูลนิธิไว้ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธานอย่างแน่วแน่ ที่จะสืบสาน รักษา ต่อยอด ในการดำเนินงานของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ทรงห่วงใยผู้ประสบสาธารณภัย และทรงรับสั่งให้นำการช่วยเหลือ ส่งกลับประชาชนผู้ประสบสาธารณภัยอย่างรวดเร็วและทั่วถึง


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

จิบกาแฟชิวๆ ชมนกบินที่ “ชอนตะวัน คาเฟ่ Chorntawan Cafe”

ข่าวเด็ดเก็บมาเล่าทริปนี้ขอแนะนำ “ชอนตะวัน คาเฟ่” Chorntawan Cafe ร้านกาแฟแสนชิว จิบกาแฟไปเพลินๆ นั่งชม นั่งเล่นกับนกแสนสวยแบบสบายๆ

  ผู้สื่อข่าวสายชิวได้เดินทางไปที่ “ชอนตะวัน คาเฟ่” Chorntawan Cafe เพื่อพูดคุยกับเจ้าของถึงการเปิดคาเฟ่แห่งนี้ พร้อมพาไปชมนกบินโชว์ ของกลุ่ม รวมกันเฉพาะกิจ นกบินอิสระ

วัชรภัสร์ ดอกคำ หรือ ก๊อต  เจ้าของร้าน’ชอนตะวันคาเฟ่

    วัชรภัสร์ ดอกคำ หรือ ก๊อต อายุ 25ปี เจ้าของร้านชอนตะวันคาเฟ่ เล่าว่า ร้านตั้งอยู่ที่ 198 หมู่ 4 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.นครปฐม มีแนวคิดที่จะเปิดร้าน คือ ส่วนตัวที่บ้านมีธุรกิจอยู่แล้ว อยากหาแพชชั่นใหม่ๆ ให้กับตัวเอง ถ้าไปสานงานต่อในครอบครัวก็จะได้บริหารไม่เต็มที่ และไม่ได้ทำอะไรแปลกใหม่ตามแนวคิดของตัวเอง เลยอยากหาอะไรที่มันท้าทายในตัวเอง

จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดร้านชอนตะวันคาเฟ่ บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ เปิดกิจการมาตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม 67
เป็นคาเฟ่สไตล์มินิมอล โทนสีขาว มีมุม ถ่ายรูปหลากหลายมุม โดยเฉพาะสาวๆ คนไหนที่รักการถ่ายรูปไม่ควรพลาด เหมาะสำหรับ พาครอบครัวมาพักผ่อน นั่งรับลมยามเย็น ชมพระอาทิตตกดิน สำหรับร้านยังสามารถพาน้องหมาน้องแมวมาได้อีกด้วย

โดยที่ร้านมีจำหน่ายทั้งเครื่องดื่มและอาหาร จุดเด่นของร้านคือ เบเกอรี่ โฮมเมด และมีอาหารเสริมขึ้นมา ส่วนกาแฟเป็นกาแฟที่คัดสรร มาอย่างดีพื่อไว้คอยบริการลูกค้า
ในส่วนของเมนูที่ทุกคนมาแล้วต้องสั่งคือกาแฟ ในทุกๆ เมนูเลย จุดเด่นของกาแฟที่นี่คือความหอม ละมุน ในส่วนของเค้กก็ทุกรสชาติเหมือนกัน ทำสดใหม่ลูกค้ามาแต่ละครั้งจะได้ชิมเค้ก แบบใหม่หมุนเวียนไปเรี่อยๆไม่ซ้ำแน่นอน

หลังจากที่เปิดมาได้ซักระยะลูกค้าตอบรับดี โดยวิธีปากต่อปาก ทำให้มีลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาไม่ขาดสาย ทางคาเฟ่ กำลังเตรียมสถานที่ ให้แพะแคระมินิปิ๊กมี่ ไว้ให้ลูกค้าได้ถ่ายรูปแล้วในส่วนของสัตว์อื่นๆ ก็จะทยอยเพิ่มขึ้นมา

ที่ร้านจะเป็นร้านขนาดกลาง เน้นบรรยากาศธรรมชาติ สงบร่มรื่น อาหารอร่อย ร้าน ชอนตะวันคาเฟ่-Chorntawan Cafe” เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10:00 – 20:00 น.

จิรัฎฐ์ บัณฑูรธนานันท์  ตัวแทนของกลุ่มนกบินอิสระ

     จิรัฎฐ์ บัณฑูรธนานันท์ 44 ปี ตัวแทนของกลุ่ม รวมกันเฉพาะกิจ นกบินอิสระ กล่าวว่า ได้นำนกมาบิน เกือบ 40 ตัว มาบินโชว์ที่คาเฟ่ พร้อมเล่าว่า กลุ่มของเราเป็นกลุ่มนกบินอิสระที่เราเลี้ยงโดยไม่กักขัง สามารถปล่อยเขาไปบินและเรียกเค้ากลับมาได้ เป็นการรวมกลุ่มคนที่มีไลฟ์สไตล์กันใช้ชีวิตใกล้เคียงกัน วันนี้ได้มาบินที่นี่เพราะที่นี่เป็นคาเฟ่เปิดใหม่ สถานที่สวยงามมาก

ส่วนนกที่นำมาบินในวันนี้เป็นนกแก้วมาคอร์ มีหลายสายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์ บลูแอนด์โกมาคอล ,กรีนวิงค์ มาคอว์ ,สกาเล็ต ส่วนนกเล็กก็จะเป็น ซันคอนัวร์ นกฮันท์มาคอร์ การเลี้ยงนกก็เหมือนเราเลี้ยงสุนัขเลี้ยงแมว การเลี้ยงสัตว์ทำให้จิตใจเราดี ใจเย็น และได้ทำกิจกรรมกับครอบครัว การที่เริ่มเลี้ยงนกเรารู้สึกทึ่ง ที่เห็นคนอื่นเลี้ยงแล้วสามารถปล่อยให้นกบินและนกบินกลับมานั่นคือจุดเริ่มต้นการเลี้ยงนก และทำให้ได้เพื่อนเพิ่มโดยปริยาย เริ่มจากอายุ 20-55 ปี ถึงอายุต่างแต่ทุกคนเป็นเพื่อนกัน เพื่อนต่างวัย วันนี้รู้สึกประทับใจมากสถานที่สวยบรรยากาศดี และกลับนำนกมาที่นี่แน่นอน สามารถติดตามได้ที่เพจ “รวมกันเฉพาะกิจ นกบินอิสระ” ว่าในแต่ละสัปดาห์ เราจะไปบินนกโชว์กันที่ไหน

กาญจนบุรี พบแลนด์มาร์คใหม่”น้ำตกที่ไม่ใช่น้ำตก”

  อากาศร้อนจนสุดจะทนไหว  นักท่องเทื่ยวต้องหาแหล่งเทื่ยวใหม่ดับร้อนพบ “น้ำตกที่ไม่ใช่น้ำตก” แลนด์มาร์คแห่งใหม่ อ.ท่ามะกา

นักท่องเทื่ยว ทนแรงจากโซเชียลไม่ไหวเดินทางมุ่งหน้ามาไปยังที่หมู่ 2 ตำบลพงตึก อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งที่นี่ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดังและฮิตมากในขณะนี้ ซึ่งเมื่อใครมาก็จะถ่ายภาพถ่ายคลิปแชร์ลงในโลกออนไลน์ในสื่อต่างๆ จึงทำให้เกิดการแชร์ต่อๆกันไปอย่างรวดเร็ว ประกอบกับในช่วงนี้สภาพอากาศร้อนเกิน 40 องศา บางวันพุ่งไปเกือบ 50 องศา ทนร้อนไม่ไหวต่างต้องหาจุดคลายร้อนกันไป

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ลักษณะจะคล้ายกับน้ำตกทั่วๆไปที่เกิดตามธรรมชาติ แต่น้ำตกที่นี่นั้นไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ แต่เกิดจากการขุดช่องน้ำจากคลองชลประทาน เพื่อระบายลงสู่แม่น้ำแม่กลอง จึงทำให้การเดินทางของน้ำสายนี้ที่วิ่งมาจากคลองชลประทานลงมานั้นเป็นทางลาดชันจึงทำให้ปลายสายก่อนจะลงแม่น้ำนั้นมีความแรงจึงเกิดคล้ายเหมือนน้ำตกทั่วๆไป

สถานที่ท่องเที่ยวตรงจุดนี้ชาวเน็ตเรียกกันว่าน้ำตกวัดปากบาง เพราะอยู่ใกล้กับวัดปากบางโดยห่างจากวัดราว 200 ม. จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวน้ำตกนั้นจอดที่สนามที่วัดได้เลย สถานที่นี้เดิมทีมีแค่ชาวบ้านระแวกนี้เท่านั้นที่รู้ว่าเป็นเส้นทางน้ำไหล จากคลองลงสู่แม่น้ำแม่กลอง ก็ไม่ได้มีใครสนใจอะไรเพราะเมื่อก่อนทางเข้าก็จะเป็นป่ารกปกคลุมไปด้วยต้นไม้จำนวนมาก มีก็แค่ชาวบ้านแถวนั้นที่ลงมาหาปลาบ้าง ตกปลาบ้าง จนเริ่มมีช่องทางที่จะเดินลงไปถึงข้างด้านล่างของแม่น้ำ พอเริ่มมีช่องทางที่ใหญ่ขึ้น ก็เริ่มมีชาวบ้านลงไปเล่นน้ำกันก็มีถ่ายรูปลงในโซเชียลในสื่อต่างๆ แต่ก็ยังไม่ได้คนเยอะอะไรมากมาย จนมาถึงปีนี้ที่มีฤดูร้อนที่อากาศร้อนมาก จึงทำให้คนนั้นเสาะหาที่เล่นน้ำใหม่ๆ ที่เที่ยวที่พักผ่อนหย่อนใจ จึงทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวเริ่มที่จะเข้ามาเที่ยวกันเรื่อยๆ และหลังจากที่เที่ยวก็ได้เก็บภาพเก็บคลิปลงในสื่อต่างๆ

อุโบสถมหาอุด เป็นอุโบสถเก่าแก่อายุหลายร้อยปี

จึงทำให้ทุกวันนี้น้ำตกวัดปากบางเป็นที่ที่หนึ่งที่ใครก็อยากจะมาเที่ยวมาเล่นน้ำ แล้วตอนนี้ไม่ได้มีแค่นักท่องเที่ยวที่เป็นคนในจ.กาญจนบุรีไปแล้ว ที่มาเที่ยวยังมีจังหวัดข้างเคียง เช่นสุพรรณบุรี นครปฐม ราชบุรี ก็แวะเวียนเข้ามาเที่ยวที่น้ำตกนี้กันอย่างคึกคัก จนทำให้เดี๋ยวนี้มีร้านค้ามากมายนับสิบๆร้าน แล้วทุกร้านบอกว่าขายดีมาก ชาวบ้านในหมู่บ้านต่างดีใจที่มีคนเข้ามาเที่ยวกันเยอะมากทำให้เกิดรายได้ในชุมชน ในวันหยุดช่วงเสาร์และวันอาทิตย์ นักท่องเที่ยวจะมากันตั้งแต่ 7.00 น. ยาวไปจนถึง 17:00 น. ก็จะเริ่มถยอยกลับกันเรื่อยๆ ใครที่กลัวว่าลูกว่ายน้ำไม่เป็นไม่แข็งนั้น จุดนั้นก็มีให้เช่าเสื้อชูชีพ ค่าเช่าก็ชุดละ 20 บาท ใครที่ไม่ได้เตรียมที่นั่งมาก็มีเสื่อไว้ให้บริการในราคา 20 บาทเช่นกัน

ซึ่งในตอนนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลพงตึก โดยมี ร.ต.อ. อธิพัฒน์ อนันท์พรหมมา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพงษ์ตึก ได้เข้ามาดูแลในเรื่องต่างๆเพื่อจะอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวกันอย่างมากมาย และจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดียิ่งขึ้นกว่านี้ เพราะที่นี่ถื่อว่าสวยมากๆที่จะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้คนทั่วประเทศได้รู้จัก เพราะทัศนียภาพโดยรวมนั้นสวย มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น มีหาดทรายให้นั่งกว้างขวาง บวกกับตัวน้ำตกที่สวยมากและน้ำไม่ลึก จึงเหมาะแก่การผลักดันให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต่อไป ส่วนใครที่อยากไหว้พระก่อนที่จะมาเล่นน้ำตกหรือขากลับก็แวะไหว้พระขอพร ก็ที่วัดปากบางได้เลย เพราะที่วัดนี้มีโบสถ์มหาอุด เป็นโบสถ์เก่าแก่หลายร้อยปี ด้านในมีหลวงพ่อพระพุทธศรีมงคลประดิษฐานอยู่ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เคารพนับถือของชาวบ้านในละแวกนี้เป็นอย่างมาก

ภาพ-ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์

สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย  จัดอบรมโครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงิน

สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย – นครปฐม จัดอบรมโครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงิน ให้แก่สมาชิกผู้ที่มีความสนใจด้านการสร้างวินัยและการวางแผนทางการเงิน เพื่อรณรงค์ให้เกิดกระแสการสร้างวินัยทางการเงินให้เกิดขึ้นในสังคมทุกระดับ เพื่อเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมทางการเงิน

นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

ที่โรงแรมไมด้า แกรนด์ ทวารวดี นครปฐม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยนครปฐม  ได้จัดอบรมโครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงิน ให้แก่สมาชิกผู้ที่มีความสนใจด้านการสร้างวินัย และการวางแผนทางการเงิน โดยมีนางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดโครงการ พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้ที่เข้ารับการอบรม และคุณฐิตินันท์ วัธนเวคิน ประธานฝ่ายรณรงค์สร้างวินัยการเงิน สหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครปฐม ร่วมโครงการอบรมในครั้งนี้

นางสาวณัฏฐ์ปภาณ จันทร์ละมูล นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย – นครปฐม

นางสาวณัฏฐ์ปภาณ จันทร์ละมูล นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย – นครปฐม กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดโครงการครั้งนี้ว่า จาสภาพปัญหาเศรษฐกิจหลังช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งอยู่ในห้วงของการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั่วทั้งโลก วินัยทางการเงิน การวิเคราะห์สถานการณ์ตลาด และการบริหารทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดเป็นทักษะสำคัญที่จำเป็นในการดำรงชีวิตสำหรับคนทุกคนจึงนำมาสู่การจัดโครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงินในครั้งนี้ เพื่อรณรงค์ให้เกิดกระแสการสร้างวินัยทางการเงินให้เกิดขึ้นในสังคมทุกระดับ ตลอดจนเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรมทางการเงิน รวมถึงเพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีทักษะในการบริหารจัดการการเงินของตนเองอย่างมีวินัย โดยกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยผู้ที่มีความสนใจด้านการสร้างวินัยและการวางแผนทางการเงิน รวมจำนวน 60 คน


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

งานดีปีละครั้ง! งานประกวดพระหลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ นครชัยศรี

  เมื่อวันที่ 26 เมษายน 67 ที่วัดกลางบางพระ หลวงพ่อสมหวัง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นายเทิดศักดิ์ นัดสูงวงศ์ ไวยาวัจกรวัดกลางบางพระ เปิดเผยว่า คณะศิษย์หลวงพ่อพุฒ อดีตเจ้าอาวาสวัดกลางบางพระ ขอเชิญร่วมงาน “นิทรรศการงานประกวดพระบูชา พระเครื่อง และเหรียญคณาจารย์ พระครูสุนทรวุฒิคุณ(หลวงพ่อพุฒ สุนฺทโร)

ในวันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน 2567 (จัดงานวันเดียว) โดยมีจุดประสงค์ในการจัดงาน ดังนี้ 1.เพื่ออนุรักษ์ วัตถุมงคล พระครูสุนทรวุฒิคุณ(หลวงพ่อพุฒ สุนฺทโร) และเผยแผ่ให้อนุชน คนรุ่นหลังได้ศึกษา 2.และยังมอบเงินหลังจากหักค่าใช้จ่ายในการจัดงาน ให้กับมูลนิธิหลวงพ่อสมหวังวัดกลางบางพระ เพทาอสนับสนุนกิจกรรม “11 โครงการงานสาธารณสงเคราะห์ วัดกลางบางพระ” ให้นำไปช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุสาธารณภัย ต่อไป

ทั้งนี้นิทรรศการงานประกวดพระบูชา พระเครื่อง และเหรียญคณาจารย์ พระครูสุนทรวุฒิคุณ (หลวงพ่อพุฒ สุนฺทโร) จัดพร้อมงาน ไหว้พระปิดทองกราบขอพรหลวงพ่อสมหวัง โดยจะจัดประกวดพระในวันสุดท้าย (28 เมษายน) ปีละครั้ง ทั้งมีสถานที่รองรับในการตั้งแผงพระในวันที่ 28 เมษายน 67 ค่าใช้จ่ายทำบุญกับทางวัดตามกำลังศรัทธาตั้งแต่เวลา 8.00 – 20.00 น.

เจ้าหน้าที่ป่าไม้-ตร.ปทส.ฝ่ายปกครอง ล่าระทึก 3 มอดไม้ วิ่งหนีชีวิตสุดท้ายรอดเพราะน้องหมา ยึดของกลางเพียบ

เจ้าหน้าที่ป่าไม้-ตร.ปทส.ฝ่ายปกครอง ล่าระทึก 3 มอดไม้ วิ่งหนีสุดชีวิตสุดท้ายรอดเพราะน้องหมา ยึดของกลางเพียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.00 น.ของวันที่ 23 เม.ย.67 นายไพโรจน์ เขียวแก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.7(บ้องตี้) อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบขบวนการลักลอบทำไม้บนเขากลางป่าท้องที่บ้านทุ่งฉาง หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค หลังรับแจ้งจึงรายงานให้นายประทีป เหิมพยัคฆ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ทราบ จากนั้นเร่งประสาน เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.7(บ้องตี้)เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาญจนบุรี รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ปทส.เจ้าหน้าที่ ตร.ชป.ศปทส.ภาค 7 เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 1404 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ไทรโยค โดยนายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค นำกำลังเดินทางไปตรวจสอบตามพิกัดที่ได้รับแจ้ง แต่เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นป่าและภูเขาที่สูงชัน เจ้าหน้าที่จึงต้องออกปฏิบัติหน้าที่ด้วยการเดินเท้าขึ้นไปบนภูเขาด้วยความระมัดระวัง

จนกระทั่งเวลา 17.30 น.เจ้าหน้าที่พบร่อยรอยของรถยนต์สภาพใหม่ขับขึ้นไปตามแนวเขาที่อยู่ท้ายเหมืองแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงแกะรอยตามไป ระหว่างเส้นทางเจ้าหน้าที่พบต้นไม้ขนาดเล็กสภาพใหม่ถูกดันล้มคาตอ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้เสียงเครื่องยนต์คล้ายเสียงของเครื่องสูบน้ำดังมาจากบนยอดเขา เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังเข้าตรวจสอบ จนกระทั่งไปถึงพบชาย 3 คน กำลังร่วมกันใช้เลื่อนโซ่ยนต์ดัดแปลงที่ใช้เครื่องปั่นไฟเป็นเครื่องต้นกำลังแปรรูปไม้อยู่

เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวพร้อมส่งสัญญาณให้ทุกคนหยุด แต่เมื่อชายทั้ง 3 คนเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้พยายามวิ่งหลบหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อเป็นการขู่แต่ชายทั้ง 3 คนก็ไม่สนใจ ระหว่างเจ้าหน้าที่พยายามวิ่งติดตามก็มาถูกสุนัขที่ชายทั้ง 3 คนนำมาด้วยวิ่งไล่กัด จึงเป็นสาเหตุทำให้ชายทั้ง 3 คนสามารถวิ่งหลบหนีการจับกุมไปได้

จากการตรวจสอบโดยรอบ พบ 1.ไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 21 แผ่น ปริมาตร 3.886 ลบ.ม. 2.รถจี๊ปป่า 6 ล้อ ติดตั้งรอกพร้อมสลิง จำนวน 1 คัน 3.เครื่องกำเนิดไฟฟ้า ขนาด 7 แรงม้า จำนวน 1 เครื่อง 4.เลื่อยโซ่ยนต์ไฟฟ้าดัดแปลงเลื่อยหินเจียร์ไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง 5.เลื่อยโซ่ยนต์พร้อมบาร์ ยาว 22 นิ้ว 6.ตู้เชื่อมไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง พร้อมสายไฟยาว 10 เมตร 7.ขวานเหล็ก จำนวน 1 ด้าม 8.อาวุธปืนลูกซองยาว ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก 9.กระสุนปืนลูกซองขนาดเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด 10.อาวุธปืนยาวขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก 11.อาวุธปืนยาวไม่ทราบยี่ห้อ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก และ 12.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเอาไว้เป็นของกลาง โดยจุดเกิดเหตุอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย”

แต่เนื่องจากเวลาดังกล่าวค่ำมืดแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายของกลางที่เป็นไม้ขนาดใหญ่รวมทั้งรถจิ๊ปและเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำมากลงมาได้ เพราะเป็นเส้นทางที่ลาดชันสองทางเดินเป็นป่าและหุบเหวลึก เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังเฝ้าของกลางเอาไว้ตลอดทั้งคืน

จนกระทั่งเวลา 10.00 น.ของวันที่ 24 เม.ย.นายไพโรจน์ เขียวแก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.7(บ้องตี้) พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบเพื่อหาสิ่งผิดกฎหมายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ผลปรากฏพบตอไม้ประดูความโตขนาด 200 เซนติเมตร และ 300 เซนติเมตร สภาพใหม่อยู่กลางหุบเขาลึกลงไปประมาณ 100 เมตร โดยมีร่องรอยการชักลากต้นไม้ขึ้นมาแปรรูปอยู่บนยอดเขาบริเวณที่ตรวจพบของกลางข้างต้น โดยเบื้องต้นไม้ของกลางที่ตรวจยึดเอาไว้ได้มีมูลค่าประมาณ 272,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการดวงตราตีประทับเอาไว้หมดแล้ว

ล่าสุดวันนี้ 25 เม.ย.67 คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันเคลื่อนย้ายของกลางทั้งหมดไปเก็บรักษาเอาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.7(บ้องตี้)เป็นที่เรียบร้อย จากนั้นจึงจดทำบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนในการติดตามตัวผู้กระทำผิดกฎหมายมาดำเนินคดีต่อไป

ชมคลิป.https://drive.google.com/file/d/1bNbo–dJ9Wd2OFsoVBkXx5er0mqvBJbP/view?usp=drivesdk

ขอขอบคุณ ภาพ-ข่าว ปรีชา ไหลวารินทร์ กาญจนบุรี,เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.7 (บ้องตี้) อ.ไทรโยค

สมาชิกวุฒิสภา เปิดโครงการค่ายเยาวชนสู่สากล  แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางภาษาและวัฒนธรรม ระหว่างนักศึกษาของไทยและนักศึกษาจากนานาชาติ

สมาชิกวุฒิสภา เปิดโครงการค่ายเยาวชนสู่สากล (International Youth Camp) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางภาษาและวัฒนธรรม ระหว่างนักศึกษาของไทยและนักศึกษาจากนานาชาติ ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ จังหวัดนครปฐม

หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล สมาชิกวุฒิสภา

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ห้องประชุม อาคารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล สมาชิกวุฒิสภา, รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์, รองประธานคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา เป็นประธานเปิดโครงการค่ายเยาวชนสู่สากล (International Youth Camp)

โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร. อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ผู้บริหาร คณาจารย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้สำหรับค่ายเยาวชนสู่สากล (International Youth Camp) กองกลาง งานวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 - 30 เมษายน 2567 เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางภาษาและวัฒนธรรม และความหลากหลายทางชนชาติ ก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายความร่วมมือต่างๆ ร่วมกันต่อไปในอนาคต ระหว่างนักศึกษาของไทยและนักศึกษาจากนานาชาติ ที่ส่งผลต่อการสร้างการเปลี่ยนแปลง ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ นักศึกษาได้ความรู้และโอกาส ในการพัฒนาทักษะทางวิชาชีพ พัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถของตนเอง

  เพื่อสามารถแข่งขัน และสามารถเป็นผู้ประกอบการในระดับสากลได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังได้เรียนรู้ วัฒนธรรมของนานาประเทศอีกด้วย โอกาสนี้ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อพิเศษเรื่อง "ความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทยที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์" โดยมีเยาวชนจากประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศเกาหลี ประเทศเวียดนาม ประเทศอินเดีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประเทศมาเลเซีย ประเทศเยอรมนี ประเทศไทย และไต้หวัน รวมทั้งสิ้น จำนวน 60 คน


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

สมาชิกวุฒิสภา เปิดโครงการค่ายเยาวชนสู่สากล  แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางภาษาและวัฒนธรรม ระหว่างนักศึกษาของไทยและนักศึกษาจากนานาชาติ

สมาชิกวุฒิสภา เปิดโครงการค่ายเยาวชนสู่สากล (International Youth Camp) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางภาษาและวัฒนธรรม ระหว่างนักศึกษาของไทยและนักศึกษาจากนานาชาติ ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ จังหวัดนครปฐม

หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล สมาชิกวุฒิสภา

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ห้องประชุม อาคารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล สมาชิกวุฒิสภา, รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์, รองประธานคณะกรรมาธิการการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา เป็นประธานเปิดโครงการค่ายเยาวชนสู่สากล (International Youth Camp)

โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร. อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ผู้บริหาร คณาจารย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้สำหรับค่ายเยาวชนสู่สากล (International Youth Camp) กองกลาง งานวิเทศสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 - 30 เมษายน 2567 เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางภาษาและวัฒนธรรม และความหลากหลายทางชนชาติ ก่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายความร่วมมือต่างๆ ร่วมกันต่อไปในอนาคต ระหว่างนักศึกษาของไทยและนักศึกษาจากนานาชาติ ที่ส่งผลต่อการสร้างการเปลี่ยนแปลง ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ นักศึกษาได้ความรู้และโอกาส ในการพัฒนาทักษะทางวิชาชีพ พัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถของตนเอง

  เพื่อสามารถแข่งขัน และสามารถเป็นผู้ประกอบการในระดับสากลได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังได้เรียนรู้ วัฒนธรรมของนานาประเทศอีกด้วย โอกาสนี้ หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อพิเศษเรื่อง "ความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทยที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์" โดยมีเยาวชนจากประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย สาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศเกาหลี ประเทศเวียดนาม ประเทศอินเดีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประเทศมาเลเซีย ประเทศเยอรมนี ประเทศไทย และไต้หวัน รวมทั้งสิ้น จำนวน 60 คน


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

นายกฯ อบต. หนองดินแดง รุดเยี่ยมสองยายวัย 85 ปี อุบัติเหตุหกล้ม

นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองดินแดง เป็นตัวแทน สส.ฟิล์ม นำอาหารเยี่ยมสองยายวัย 85 ปี บาดเจ็บจากอุบัติเหตุหกล้ม

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567  นายวสุกฤต กิตติญาณปัญญา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองดินแดง อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พร้อมคณะได้นำข้าวสาร นม และยาสามัญประจำบ้าน จากนายศุภโชค ศรีสุขจร (สส.ฟิล์ม) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา มาให้คุณยายซกเกียง พุทชิวิวรณ์ อายุ 85 ปี และคุณยายซกงิ้ม พุทชิวิวรณ์ อายุ 84 ปี สองพี่น้องที่อยู่กันลำพัง

   สืบเนื่องจาก นายวสุกฤต หรือนายกเซ้งได้รับแจ้งจากนักพัฒนาชุมชน ว่ามีผู้สูงอายุสองท่านล้ม และมีบาดแผลมารับการรักษาที่ รพ.สต.หนองดินแดง จึงได้ถือโอกาสมาเยี่ยมคุณยายซกเกียงและคุณยายซกงิ้ม อีกทั้งยังนำอาหารและความปรารถนาดี จาก ส.ส.ฟิล์ม นายศุภโชค ศรีสุขจร มาฝากทั้งสองเพื่อบรรเทาทุกข์ และเป็นการให้กำลังใจ เราคนรักหนองดินแดง ยามทุกข์ต้องช่วยเหลือกัน

ขอบคุณ ภาพ-ข่าว ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ

ผู้ช่วยเลขาฯ กรรมการ ป.ป.ช. ภาค 7 ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติ การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประจำปี 2567

ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 7 ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น (21) การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

นายสุพจน์ ศรีงามเมือง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 7

วันที่ 23 เมษายน 2567 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดนครปฐม นายสุพจน์ ศรีงามเมือง ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 7 เป็นประธานเปิดการประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น (21) การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ได้แก่ สำนักงานจังหวัดนครปฐม สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดนครปฐม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม สำนักงาน ป.ป.ท. เขต 7 และสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม

รวมถึงผู้แทนหน่วยงานจากส่วนกลาง ได้แก่ สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงาน ป.ป.ช. ร่วมนำเสนอข้อมูลความก้าวหน้าผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต ใน 3 ส่วน ทั้งในส่วนที่ได้ดำเนินการผ่านโครงการ/กิจกรรม ที่ใช้งบประมาณตามแผนงานบูรณาการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ โครงการ/กิจกรรมที่ใช้งบประมาณตามแผนงานยุทธศาสตร์ของหน่วยงาน และในส่วนการดำเนินงานที่ไม่ได้ใช้งบประมาณ รวมทั้งการขับเคลื่อนการดำเนินการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยกลไกคณะกรรมการผลักดันการดำเนินงาน ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ จังหวัดนครปฐม


  ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. กำกับดูแลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระดับพื้นที่ 8 จังหวัด ของภาค 7 ประกอบกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีในการเป็นหน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่ 21 การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ดำเนินการขับเคลื่อนแผนแม่บทมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2563 – 2565) และระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) ที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำหรับหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และภาคเอกชน ในการแปลงแนวทางตามแผนแม่บทไปสู่การปฏิบัติ


  โดยแผนปฏิบัติการด้านการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) ได้ให้ความสำคัญ และดำเนินการภายใต้หลักการและแนวทางตามมติคณะรัฐมนตรี มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ และได้ถ่ายทอดเป้าหมาย และตัวชี้วัดตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่ 21การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ โดยได้วิเคราะห์ทบทวนสถานการณ์การทุจริตผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ตลอดจนงานวิจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง นำมากำหนดแนวทางการดำเนินงาน ลักษณะโครงการ กิจกรรมสำคัญ ที่สามารถส่งผลต่อการบรรลุค่าเป้าหมายในแต่ละตัวชี้วัด เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยกฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือหอพระพุทธมหาสิริพีรยพัฒน์ ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยกฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือหอพระพุทธมหาสิริพีรยพัฒน์ ณ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จังหวัดนครปฐม

วันที่ 19 เมษายน 2567 เวลา 09.59 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงยกฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือหอพระพุทธมหาสิริพีรยพัฒน์ ณ สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครปฐม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน และผู้แทนนักศึกษา เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ

จากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธนวราชบพิตร ในการนี้ ดร.บุญเกียรติ โชควัฒนา ประธานกรรมการบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล ทูลเกล้าฯ ถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย ศาสตราจารย์ นายแพทย์ บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดงานฯ

โอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จออกจากพลับพลาพิธี ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมที่กำพูฉัตร ทรงถือสายสูตรยกฉัตรขึ้นประดิษฐานเหนือหอพระพุทธมหาสิริพีรยพัฒน์ จากนั้นทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายหอพระพุทธมหาสิริพีรยพัฒน์ หลังจากนั้น เสด็จเข้าพลับพลาพิธี ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ พระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้มีอุปการคุณสนับสนุนการดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติ 65 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2563 จำนวน 100 ราย

มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ดำเนินโครงการเฉลิมพระเกียรติ 65 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2 เมษายน 2563 ประกอบด้วยการจัดสร้างพระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณ หอพระพุทธมหาสิริพีรยพัฒน์ ซึ่งได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ประดิษฐานอักษรพระนามาภิไธย “สธ” ที่ฐานผ้าทิพย์ และหอพระ เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2563 โดยมี มูลนิธิมหาวิทยาลัยมหิดล ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และมูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา ร่วมเฉลิมพระเกียรติ

พระพุทธมหิดลมงคลปัญญาญาณ มีความหมายว่า “พระพุทธรูปที่นำมาซึ่งปัญญาหยั่งรู้อันกระจ่างแจ้งและเป็นมงคลแห่ง มหาวิทยาลัยมหิดล” มีขนาดความสูง 98 นิ้ว หน้าตักกว้าง 65 นิ้ว ปิดผิวด้วยทองคำและอัญมณี ซึ่งนำต้นแบบพุทธลักษณะจาก “พระพุทธมหาลาภ” ที่มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2535 นำมาปรับแต่งให้มีพุทธลักษณะให้มีความงดงามและอ่อนช้อยมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มฐานบัวและผ้าทิพย์

สำหรับหอพระพุทธมหาสิริพีรยพัฒน์ เป็นอาคารทรงมณฑปศิลปะไทยประยุกต์ผสมผสานสถาปัตยกรรมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีทรงเรือนยอดประยุกต์จากศิลปะพม่า เสาและบัวหัวเสาเป็นศิลปะเขมร กรอบประตูทางเข้า เป็นศิลปะจีน ฐานระเบียงมีลวดลาย ดอกไม้ของมาเลเซีย หัวเสาราวบันไดเป็นศิลปะชวา ฉากหลังตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมซุ้ม เรือนแก้วลายพันธุ์พฤกษาและสัตว์หิมพานต์ที่เป็นมงคล แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ ด้านนอกมณฑป มีลานประทักษิณ กว้าง 2 เมตร และด้านหลังออกแบบเป็นทางลาดสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ ชั้นล่างสุดเป็นทางเดินปูด้วยหินเทียม ออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมตามแนว “พุทธอุทยาน”


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

อบจ.นครปฐม จัดพิธีรดน้ำขอพร นายก อบจ.นครปฐม

อบจ.นครปฐม จัดพิธีรดน้ำขอพร นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก อบจ.นครปฐม และ นางวิลาสินี สะสมทรัพย์ ภริยา เนื่องในประเพณีวันสงกรานต์ ประจำปี 2567 โดยมี สมาชิกสภา อบจ., เจ้าหน้าที่ อบจ. และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดนครปฐม ได้ทยอยกันสรงน้ำพระพุทธรูปและร่วมรดน้ำขอพร จำนวนมาก

นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ส.ส.โหน่ง น้องชายคนรอง
นายปองพล สะสมทรัพย์ หรือเสี่ยหนุ่ม น้องชายคนเล็ก

  ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม จัดกิจกรรมประเพณีรดน้ำดำหัว เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 ให้นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ หรือนายกหนึ่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม และนางวิลาสินี สะสมทรัพย์ ภริยา โดยมีข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น นายกอบต. นายกเทศมนตรี ผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ครู และประชาชน เข้าร่วมรดน้ำดำหัวนายกอบจ.และภริยาจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ส.ส.โหน่ง น้องชายคนรอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นครปฐม เขต3 พรรคชาติไทยพัฒนา นายปองพล สะสมทรัพย์ หรือเสี่ยหนุ่ม น้องชายคนเล็ก มาร่วมในการรดน้ำดำหัว พี่ชายพร้อมกัน โดยเมื่อส.ส.โหน่งมาถึง พี่ชายรู้สึกดีใจ และที่งสองโผเข้าสวมกอดกัน ด้วยความรัก ซึ่งสามคนพี่น้อง เป็นลูกชายของนายไชยา สะสมทรัพย์  อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ สส.นครปฐมหลายสมัยในอดีต

ในงานพิธีรดน้ำดำหัว เทศกาลสงกรานต์ครั้งนี้ได้มี ข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น นายกอบต. นายกเทศมนตรี ผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ครู และประชาชน รวมถึงนายศุภโชค ศรีสุขขจร สส.เขต 1 พรรคชาติไทยพัฒนา ได้มาร่วมงานครั้งนี้ด้วย.

อบจ.นครปฐม จัดพิธีรดน้ำขอพร นายก อบจ.นครปฐม

อบจ.นครปฐม จัดพิธีรดน้ำขอพร นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก อบจ.นครปฐม และ นางวิลาสินี สะสมทรัพย์ ภริยา เนื่องในประเพณีวันสงกรานต์ ประจำปี 2567 โดยมี สมาชิกสภา อบจ., เจ้าหน้าที่ อบจ. และหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดนครปฐม ได้ทยอยกันสรงน้ำพระพุทธรูปและร่วมรดน้ำขอพร จำนวนมาก

นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ส.ส.โหน่ง น้องชายคนรอง
นายปองพล สะสมทรัพย์ หรือเสี่ยหนุ่ม น้องชายคนเล็ก

  ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม จัดกิจกรรมประเพณีรดน้ำดำหัว เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 ให้นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ หรือนายกหนึ่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม และนางวิลาสินี สะสมทรัพย์ ภริยา โดยมีข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น นายกอบต. นายกเทศมนตรี ผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ครู และประชาชน เข้าร่วมรดน้ำดำหัวนายกอบจ.และภริยาจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ส.ส.โหน่ง น้องชายคนรอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นครปฐม เขต3 พรรคชาติไทยพัฒนา นายปองพล สะสมทรัพย์ หรือเสี่ยหนุ่ม น้องชายคนเล็ก มาร่วมในการรดน้ำดำหัว พี่ชายพร้อมกัน โดยเมื่อส.ส.โหน่งมาถึง พี่ชายรู้สึกดีใจ และที่งสองโผเข้าสวมกอดกัน ด้วยความรัก ซึ่งสามคนพี่น้อง เป็นลูกชายของนายไชยา สะสมทรัพย์  อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ สส.นครปฐมหลายสมัยในอดีต

ในงานพิธีรดน้ำดำหัว เทศกาลสงกรานต์ครั้งนี้ได้มี ข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น นายกอบต. นายกเทศมนตรี ผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ครู และประชาชน รวมถึงนายศุภโชค ศรีสุขขจร สส.เขต 1 พรรคชาติไทยพัฒนา ได้มาร่วมงานครั้งนี้ด้วย.

เซ็นทรัล นครปฐม. จับมือ 16 ร้านอาหารชั้นนำ เปิดโปรเจคต์พิเศษ ตอกย้ำ “เมืองแห่งครัวโลก”

เซ็นทรัล นครปฐม เปิดโปรเจคต์พิเศษ ตอกย้ำ “เมืองแห่งครัวโลก” จับมือ 16 ร้านอาหารชั้นนำ ได้แก่ Bar B Q Plaza, Saemaeul, Salad Factory, Sukishi Korean Charcoal Grill, ลาวญวน, แหลมเจริญซีฟู้ด, KOI Thé, ชาตรามือ, MK Restaurants, Shabushi, Gaga, Zen, Sizzler, Oishi Ramen พร้อมด้วยร้านดังท้องถิ่นอย่าง เสน่ห์จันทน์ และ ย้อยหย่อย Café รังสรรค์ “ปฐมบทใหม่ของความอร่อย” ชู 4 วัตถุดิบท้องถิ่นของดีของขึ้นชื่อนครปฐม  ส้มโอ หมู มะพร้าวน้ำหอม กุ้งแม่น้ำ สร้างสรรค์เป็นจานอร่อยครบรส ทั้งคาว-หวาน ไทย-อินเตอร์พร้อมแล้วที่ให้ทุกคนได้ลิ้มลองเฉพาะสาขาเซ็นทรัล นครปฐม เท่านั้น

เริ่มจาก “ส้มโอ” ความหวานฉ่ำที่เลื่องชื่อ ผลไม้ที่อยู่คู่คำขวัญนครปฐม ถูกนำมาสร้างสรรค์เป็นอาหารคาวสุดแซ่บอย่าง “ยำส้มโอ” ที่แต่ละร้านก็จะมีสูตรเฉพาะตัว เริ่มที่ ย้อยหย่อย café ไอศครีมยำส้มโอโบราณ ไอศกรีมซอร์เบต์ส้มโอราดด้วยน้ำยำน้ำพริกเผาและผงปลาแห้งโบราณ เสิร์ฟพร้อมเนื้อส้มโอ “ยำส้มโอSizzler” ใช้ส้มโอพันธุ์ขาวน้ำผึ้ง คลุกเคล้าสารพัดเครื่อง อร่อยครบรสตักได้ไม่จำกัด เฉพาะซิซซ์เล่อร์สลัดบาร์ สาขาเซ็นทรัลนครปฐมเท่านั้น วันนี้ถึง 30 มิ.ย. 67 ยำส้มโอลาวญวน ความลงตัวของน้ำยำจากน้ำปลาร้า 2 สูตร เข้ากับส้มโอพันธุ์ขาวน้ำผึ้งหวานอมเปรี้ยว โรยด้วยถั่วลิสง และกุ้งแห้ง จำหน่ายถึง 30 เม.ย 67 ยำส้มโอกุ้งสด แหลมเจริญ ซีฟู้ด อร่อยสดชื่นกับเมนูยำรสจัดจ้านจากส้มโอขาวน้ำผึ้ง ปรุงด้วยเครื่องยำ และกุ้งสดเคล็ดลับความอร่อยโรยปลาข้าวสารกรอบ GAGA so Pomelo ชาเขียวมะลิ ส้มโอ ร๊อกซอลท์มูส และเม็ดน้ำผึ้ง จำหน่ายถึง 30 เม.ย. 2567

  “มะพร้าวน้ำหอม” ผลไม้คลายร้อนที่มีแหล่งปลูกใหญ่อยู่ที่นครปฐม KOI the’ จึงได้ครีเอท 2 เมนูให้สดชื่นท้าลมร้อน ในซีรีส์ Call Me CoCo ได้แก่ “CoCo Black Tea” และ “CoCo Milk Tea” ‘ชานมและเนื้อมะพร้าวน้ำหอมสามพราน’ เต็มคำ รสชาติความอร่อยลงตัวแบบใหม่ เฉพาะร้านโคอิ เตะ สาขาเซ็นทรัลนครปฐม ทางด้าน MK RESTAURANTSเสนอ พาร์เฟ่ต์ข้าวหลามมะพร้าวน้ำหอมไอศกรีมกะทิมะพร้าวน้ำหอม และข้าวหลามหวานมันสูตรโบราณ ราดซอสกะทิ พร้อมท็อปปิ้งอัลมอนด์สไลซ์ มะพร้าวอ่อน และซอสกะทิเติมความอร่อย จำหน่ายถึงวันที่ 5 พ.ค. 67ร้านอาหารญี่ปุ่นอย่าง Zen ก็คัดมะพร้าวน้ำหอมสามพรานเสิร์ฟในเมนู มะพร้าวสมูทตี้ และ น้ำมะพร้าวสด ที่มีกลิ่นหอมคล้ายใบเตยมาช่วยคลายร้อนในซัมเมอร์นี้ จำหน่ายถึง 31 พ.ค. 67 หอมรัญจวนสไตล์ไทยที่ ชาตรามือรังสรรค์ ชาไทยวิปกะทิมะพร้าวน้ำหอม ท็อปปิ้งวิปครีมกะทิจากมะพร้าวน้ำหอมผสานความเข้มข้นของชาไทยสูตรต้นตำรับ จำหน่ายเฉพาะร้านชาตรามือ สาขาเซ็นทรัล นครปฐม เท่านั้น

“กุ้งแม่น้ำ” เนื้อเด้ง มันเยิ้มๆ ที่ Sukishi Korean Charcoal Grill ได้ปรุง 3 เมนูกุ้งแม่น้ำเนื้อแน่น ได้แก่ กุ้งแม่น้ำย่างอบเกลือสไตล์เกาหลี, กุ้งแม่น้ำย่างซอสสไตล์เกาหลีและ กุ้งแม่น้ำอบชีสการ์ลิค วัตถุดิบส่งตรงจากกลุ่มเกษตรกรนครปฐม ในราคา 499 บาททุกรายการ จำหน่ายเฉพาะสาขานครปฐมจำหน่ายถึงวันที่ 30 เมษายน 2567

    นอกจากนี้ ร้านเสน่ห์จันทน์ ก็มีให้เลือกอย่างจุใจถึง 3 เมนู ได้แก่ ข้าวคลุกเสือป่า, แหนมเนืองนครปฐม และ ชีสทาร์ตส้มโอ ทางด้านSalad Factory นำหมูและส้มโอมาครีเอท 3เมนูได้ฟีลแบบไทยในสไตล์ฟิวชั่น ได้แก่ พล่าส้มโอสมุนไพรปลาแซลมอนคิริมิย่าง, สลัดแรพอกไก่ย่าง/กุ้ง และ สเต๊กซี่โครงหมูย่างนครปฐม

    “หมู” วัตถุดิบที่ชาวนครปฐมต่างมองว่าไม่ใช่เรื่องหมูๆ ร้านดังอย่าง SAEMAEUL(แซมาอึล) จึงนำเนื้อหมูพันธุ์ดีของนครปฐมมาสร้างสรรค์เป็นเมนูสไตล์เกาหลีชื่อดัง แชยุก พกกึม หรือ หมูผัดซอสเผ็ด และ ซุปกิมจิหมู 7 นาที เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย BAR B Q PLAZA ยำหมูสามชั้นทอดน้ำปลาร้า คัดสรรหมูพันธุ์ดีนครปฐม เลือกส่วนสามชั้นนำมาทอดจนกรอบนอกนุ่มใน แซ่บนัวด้วยน้ำยำปลาร้าเข้มข้นของ GON, Oishi Ramen สูดเส้นเหนียวนุ่มในชาม อาโกะ ดาชิ คาคุนิ ราเมน หมูสามชั้นเนื้อนุ่มชิ้นใหญ่ ในซุปปลาแห้ง “อาโกะดาชิ” Shabushi หมูสไลซ์ หมูส่วนสันคอที่มีเนื้อติดไขมันปานกลาง พร้อมด้วย หมูนุ่ม ที่ปรุงรสมาอย่างตั้งใจ อร่อยยิ่งขึ้นเมื่อทานคู่กับน้ำจิ้มสุกี้ชาบูชิ

      ปักหมุดไว้ แล้วมาอร่อยล้ำไม่ซ้ำใคร กับปฐมบทใหม่ของความอร่อยด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นของดีนครปฐม และรสชาติใหม่ของความสุขสุดว้าวทุกเมนู ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม

      สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด “ห้องสมุดพร้อมปัญญา” เรือนจำกลางนครปฐม

      สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด “ห้องสมุดพร้อมปัญญา” เรือนจำกลางนครปฐม

      วันที่ 16 เมษายน 2567 เวลา 13.29 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิด “ห้องสมุดพร้อมปัญญา” เรือนจำกลางนครปฐม โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงนครปฐม ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่ง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครปฐม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม รองปลัดกระทรวงยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม และผู้อำนวยการสถาบันกักกันนครปฐม เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ

      ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานเข็มที่ระลึกแก่ผู้บริหารและผู้มีอุปการคุณสนับสนุนการดำเนินงาน “ห้องสมุดพร้อมปัญญา” พร้อมทอดพระเนตรการแสดงชุดระบำไดโนเสาร์และลำตัด จากนั้น ทรงเปิดแพรคลุมป้าย “ห้องสมุดพร้อมปัญญา” ซึ่งเป็นห้องสมุดลำดับที่ 31 พร้อมทอดพระเนตรการดำเนินงาน “ห้องสมุดพร้อมปัญญา” เรือนจำกลางนครปฐม ซึ่งเป็นโครงการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานให้ เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้และพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ในเรือนจำทั่วประเทศ ได้รู้หนังสือ อ่านออก เขียนได้ และรักการอ่าน ทำให้ผู้ต้องขังเกิดความคิดและปัญญาที่ดี นอกจากเป็นการพัฒนาคนที่มีคุณภาพกลับคืนสู่สังคมแล้ว ยังมีมูลน่าเชื่อว่าผู้มีการศึกษาสูง จะช่วยลดการกระทำความผิดลงได้ และไม่กระทำผิดซ้ำ โดยมีสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ฯ เข้ามาสนับสนุนการดำเนินงาน

      สำหรับห้องสมุดแห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ในรูปแบบห้องสมุดเชิงสร้างสรรค์ หรือ Creative Library เป็นการออกแบบแนวคิดห้องสมุดเชิงสร้างสรรค์ โดยผู้ต้องขังร่วมกันพัฒนา และออกแบบห้องสมุด ตั้งแต่วัสดุอุปกรณ์ของห้องสมุด เช่น ชั้นหนังสือ ที่แสดงหนังสือ โต๊ะ เก้าอี้ โดยการฉลุลาย การเชื่อมเหล็ก และการวาดภาพผ่านลายเส้น ภายในห้องสมุดประกอบด้วยมุมความรู้ต่าง ๆ เช่น มุมซ่อมหนังสือด้วยการเย็บกี่, มุม มสธ., มุมหนังสือทั่วไป, มุมหนังสือพระราชนิพนธ์, มุมเฉลิมพระเกียรติ และห้องอ่านหนังสือเสียง ซึ่งพบว่านิตยสารและวารสาร National Geographic และ The Secret มียอดการยืมสูงสุด โอกาสนี้ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ถวายของที่ระลึก แล้วพระราชทานถุงพระราชทานแก่ผู้แทนผู้ต้องขังชาย-หญิง

      จากนั้น ทอดพระเนตรกิจกรรมและนิทรรศการฝึกวิชาชีพผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นภาคีเครือข่ายของเรือนจำกลางนครปฐม มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้ามาร่วมสนับสนุนภารกิจ ด้านการพัฒนาพฤตินิสัย การฝึกทักษะอาชีพที่มีความหลากหลาย เช่น การสาธิตการออกแบบลายผ้า การตัดเย็บ และการทอผ้าแบบครบวงจร การสาธิตการทำอาหารไทย และกระทงจากผ้าประดิษฐ์ โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ เข้ามาช่วยสอนการออกแบบลวดลายกระทง เช่น ลายรังแตน และลายเล็บมือนาง การสาธิตการทำเบเกอรี และอาหารนานาชาติ ประกอบด้วยการสอนทำคุกกี้ โดยโรงเรียนจิตรลดาวิชาชีพ สถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา สูตรเบเกอรี โดยเรือนจำกลางนครปฐม และฟูดสไตลิสต์ สุทธิพงษ์ สุริยะ หรืออาจารย์ขาบ จากพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต จังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยเชฟแบรด ที่มาช่วยสอนการทำเบเกอรีและการออกแบบอาหารต่าง ๆ ให้ดูทันสมัย ผลงานการฝึกอาชีพเปเปอร์มาเช ด้วยการนำกระดาษเหลือใช้มาปั้นเป็นตุ๊กตารูปสัตว์ต่าง ๆ

      นอกจากนี้ มีผลงานการเรียนรู้การฝึกวิชาชีพช่างเชื่อม จากวิทยาลัยสารพัดช่างนครปฐม การสาธิตการฝึกอบรมและทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาช่างเชื่อมอาร์กโลหะด้วยมือ มีผู้ต้องขังเข้าอบรม 496 คน, นิทรรศการฝึกวิชาชีพช่างไม้และการแกะสลัก, นิทรรศการฝึกอาชีพศิลปะบำบัดด้วยการวาดภาพ, ผลงานการฝึกอาชีพ การถักเชือกมาคราเม ซึ่งเป็นการถักจากเชือกในรูปแบบต่าง ๆ เช่น กระเป๋า ตุ๊กตา ผ้าคลุมโต๊ะ การถักโครเชต์ตุ๊กตา ซึ่งผู้ต้องขังมีพื้นฐานการถักโครเชต์มาก่อน จากนั้นมาแกะแบบแล้วถักเป็นตุ๊กตารูปต่าง ๆ ตามจินตนาการ ผลงานจากการฝึกวิชาชีพด้านการเพาะพันธุ์ปลาสวยงามและการประดิษฐ์หินเทียมจากเศษวัสดุเหลือใช้ นิทรรศการฝึกวิชาชีพศิลปะบำบัดด้วยการปั้นพระ การออกแบบทรงผมชายและหญิง สำหรับผลงานของผู้ต้องขังจะนำไปจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ผู้ต้องขัง นำไปใช้เป็นทุนสะสมหลังพ้นโทษ ซึ่งผู้ต้องขังมีโอกาสเรียนรู้วิชาชีพผ่านระบบออนไลน์ เมื่อเรียนจบสามารถรับวุฒิบัตรวิชาชีพ จากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานผ่านระบบออนไลน์

      ทั้งนี้ เรือนจำกลางนครปฐม มีอำนาจการควบคุมผู้ต้องขังที่กำหนดโทษจำคุกตั้งแต่ 15 ปี ถึงตลอดชีวิต ปัจจุบันมีผู้ต้องขังอยู่ในความควบคุม จำนวน 4,015 คน แบ่งออกเป็นผู้ต้องขังชาย จำนวน 3,610 คน และผู้ต้องขังหญิง จำนวน 405 คน


      สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

      นครปฐม เตรียมจัดโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ

      จังหวัดนครปฐม ประชุมเตรียมความพร้อม จัดโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

      นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

      วันที่ 17 เมษายน 2567 ที่ห้องประชุม CCTV ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครปฐม นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานประชุมหารือการดำเนินโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จังหวัดนครปฐม

        โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ทั้งนี้กระทรวงมหาดไทย ได้ขอให้จังหวัดดำเนินโครงการ และประชาสัมพันธ์เชิญชวนกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เด็กเยาวชนไทยที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือมีอายุ 12-19 ปี เข้าร่วมโครงการสามเณรภาคฤดูร้อน ณ วัดที่จังหวัดกำหนด ซึ่งขณะนี้ มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการ จำนวน 102 คน

      สำหรับจังหวัดนครปฐม กำหนดจัดโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ระหว่างวันที่ 20 เมษายน – 6 พฤษภาคม 2567 ณ วัดสำโรง ตำบลวัดสำโรง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งมีกำหนดการดังนี้

      • วันที่ 18 เมษายน 2567 กิจกรรมจิตอาสา และประชาชน จะร่วมกันทำความสะอาด จัดเตรียมสถานที่ ณ วัดสำโรง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
      • วันที่ 20 เมษายน 2567 ปฐมนิเทศ – ซ้อมขานนาค
      • วันที่ 21 เมษายน 2567 เวลา 15.00 น. พิธีปลงผม ณ ศาลาอเนกประสงค์วัดสำโรง อ.นครชัยศรี
      • วันที่ 22 เมษายน 2567 เวลา 09.00 น. พิธีมอบผ้าไตร และเวลา 13.00 น.บรรพชาสามเณร ณ ศาลาอเนกประสงค์วัดสำโรง อ.นครชัยศรี
      • วันที่ 23 เมษายน 2567 เวลา 08.30 น. พิธีทำบุญตักบาตร ณ ศาลาอเนกประสงค์วัดสำโรง อ.นครชัยศรี
      • วันที่ 24 เมษายน – 5 พฤษภาคม 2567 ศึกษาและปฏิบัติธรรมระหว่างบรรพชา
      • วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 น. พิธีลาสิกขา

      ขอเชิญประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมงาน โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ตามวันและเวลาดังกล่าว สำหรับผู้ประสงค์จะร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา ได้ ณ สำนักงานคลังจังหวัดนครปฐม ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครปฐม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือวัดสำโรง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน -6 พฤษภาคม 2567 ดังนี้
      ผ้าไตรจีวรสามเณร ชุดละ 1,000 บาท
      ภัตตาหารเช้า วันละ 5,000 บาท
      ภัตตาหารเพล วันละ 8,000 บาท
      น้ำปานะ วันละ 2,000 บาท
      ทั้งนี้ ท่านสามารถรวบรวมเงินและทำบุญในนามส่วนราชการ/หน่วยงานได้ และออกใบอนุโมทนาบัตรของวัดสำโรง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ คุณขวัญใจ เหลืองดอกไม้ นักวิชาการคลัง ชำนาญการพิเศษ สนง.คลังจังหวัดนครปฐม โทร. 062-5632995


      สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

      หลวงพี่น้ำฝน นำศิษยานุศิษย์ ดูพื้นที่เกาะสมุย เตรียมก่อสร้างวัด- หลวงพ่อพารวย แลนด์มาร์คใหม่บนเกาะพะลวย อ. เกาะสมุย

      ศิษยานุศิษย์และนักธุรกิจ นิมนต์หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เดินทางสำรวจพื้นที่สำหรับการก่อสร้าง หลวงพ่อพารวย และจัดตั้ง วัดพารวยเทวาราม บนพื้นที่ เกาะพะลวย ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยตั้งเป้าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในชุมชนและเป็นที่สักการะสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งเป็นเกาะอนุรักษ์พลังงานหรือ Green Island กรีน ไอ-แล็นด แห่งเดียวในประเทศไทย ที่กำลังได้รับความสนใจในการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

      วันนี้ 15 เมษายน 67 พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม เผยว่าคณะศิษยานุศิษย์และกลุ่มนักธุรกิจ นำโดยคุณวสันต์ คงสมนาม ได้เข้าขอคำปรึกษาและนิมนต์ให้ไปดูสถานที่ในการก่อสร้างวัดและพระใหญ่ บริเวณจุดชมวิวอีโค่ หินผาตั้ง ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะพะลวย หมู่ที่6 ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติเป็นอันดับต้นๆ พื้นที่หมู่เกาะต่างๆ ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี

      หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า ในการเข้าสำรวจพื้นที่ดังกล่าวพบว่าจุดชมวิวอีโค่ หินผ้าตั้ง เป็นจุดที่มีความเหมาะสมในการก่อสร้างพระใหญ่ ซึ่งได้มีให้ชื่อว่า “หลวงพ่อพารวย” โดยจะมีการจัดตั้งวัดพารวยเทวาราม ไปพร้อมกัน ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้เป็นพระที่คู่บ้านคู่เมือง บนเกาะพะลวย เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเกาะพะลวย โดยเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงโดยเรือเฟอร์รี่ หรือเรือโดยสารจากทั้งฝั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือจากเกาะสมุย ก่อนเรือจะเทียบท่าจะสามารถมองเห็นความงดงามของ หลวงพ่อพารวย ซึ่งกำลังกำหนดขนาดว่าเป็นพระพุทธเมตตาปางประทานพร ขนาดความสูง 15-20 เมตร เมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงก็จะสามารถกราบขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลได้ และทราบว่าเกาะดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นกรีนไอแลนด์ เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวสายอนุรักษ์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาชมความงดงามโดยเฉพาะการได้ชมนกเงือก ซึ่งชาวบ้านได้ช่วยกันอนุรักษ์ให้อยู่กับชุมชนเป็นเอกลักษณ์ที่เป็นรูปแบบชุมชนที่เหมาะสำหรับคนที่รักสงบและต้องการมาอยู่ใกล้กับธรรมชาติอย่างแท้จริง

      สำหรับ เกาะพะลวย เป็นเกาะที่เป็นเกาะหินปูนเกือบทั้งเกาะ ซึ่งมีการถูกกัดกร่อนจนทำให้มีหน้าผารูปร่างหน้าตาแปลกๆหลายแห่ง และเป็นเกาะแห่งเดียวในประเทศที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์พลังงาน โดยเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ทุกครัวเรือน ส่วนชื่อที่มาของเกาะพะลวย มาจากหลายแนวคิดคือ เกาะพะลวยมียอดเขาแหลม 3 ยอด มีลักษณะคล้ายพลวยน้ำ บ้างก็บอกว่าเห็นควันไฟพลวยพุ่งขึ้นมาจากยอดเขา บางคนก็เชื่อว่าเกิดจากพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์สามารถทำมาหากินได้อย่างสะดวกเลยมีชื่อว่าเกาะมารวย และเพี้ยนมาเป็นเกาะพะลวย แนวคิดสุดท้ายคือ เชื่อว่ามีพระธุดงค์ มาจากสวนโมกข์ได้เดินทางมาพร้อมกับชาวบ้านโดยตั้งชื่อเกาะแห่งนี้ไว้ 2 ชื่อ ชื่อแรกคือเกาะพะลวย และอีกชื่อคือ เกาะพุทธรักษาธรรมคุ้มครอง

      สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในเกาะพะลวย 1. ถ้ำสามบ่อ 2. อ่าวสองพี่น้อง (พื้นที่ดำน้ำชมปะการัง) 3. อ่าวเทียน จะมีทะเลแหวก ต่อไปยังเกาะหัวค่างทัก และ 4. อ่าวสน 5. อ่าว 1 – 4 จุดชมวิว 360 องศา อี มีจุดชมวิว 360 องศา ชมวิวได้รอบทิศ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่กำลังได้รับการจับจากนักท่องเที่ยว เนื่องจากอยู่ไม่ห่างจากหมู่เกาะอ่างทอง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ติดกันอีกหลายแห่งด้วย

      หนึ่งปีมีครั้งเดียว ถวายผ้าห่มพระใหญ่ “หลวงพ่อสมหวัง” วัดกลางบางพระ

      มวลชนแห่ร่วมงานบุญใหญ่หนึ่งปีมีครั้งเดียว พิธีถวายผ้าห่มพระใหญ่”หลวงพ่อสมหวัง ” วัดกลางบางพระ

         ที่วัดกลางบางพระ ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้มีพิธีถวายผ้าห่ม พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หรือ”หลวงพ่อสมหวัง ตามที่ผู้เคารพศรัทธารู้จักกันดี

      หลวงพ่อสมหวัง เป็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่บริเวณลานกลางวัด ของวัดกลางบางพระ ต.บางพระ อ.นครชัยศรี ตามคำล่ำลือว่าท่านศักดิ์สิทธิ์มาก ขออะไรท่านให้มากน้อยตามวาสนา บุญกรรมของผู้นั้น ด้วยในอดีตสมัย หลวงพ่อพุฒ อดีตเจ้าอาวาส ได้กล่าวไว้กับชาวบ้านว่า มีญาติโยมมากมายต่างมาขอพรพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ใหญ่ และบนให้สิ่งนั้นสัมฤทธิ์ สำเร็จ สมหวัง แล้วจะนำลำโพงมาประดิษฐ์ ประดับที่เสากลางวัด เรื่อยมาจนเข้าสู่พระครูศรีสุตากร เจ้าอาวาสวัดกลางบางพระ รูปปัจจุบันจึงได้ขนานนามพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ใหญ่ นี้ว่า “ หลวงพ่อสมหวัง” ตามความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ที่ให้ลูกหลาน สมหวังในเรื่อง ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ และเพื่อเป็นมงคลนามแด่ พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่นี้ และเพื่อเป็นมงคลนามแก่พุทธศาสนิกชนที่มากราบไหว้ ขอพร คิดอะไรไม่ออก ก็ขอให้สมหวัง ไว้ก่อน

        ปัจจุบันจะมีพุทธศาสนิกชน ขาวไทย ชาวไทยเชื้อสายจีน ชาวเมียนมาและชาวต่างชาติอื่นๆ บินข้ามน้ำ ข้ามทะเลมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อสมหวังกันจำนวนมาก

        และในทุกวันที่ 15 เมษายน 2567 ที่จะถึงนี้ของทุกปี พระครูศรีสุตากร เจ้าอาวาสวัดกลางบางพระ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม คณะสงฆ์ไวยาวัจกร และศิษยานุศิษย์ พร้อมประชาชนใกล้เคียง จะมาร่วมพิธีห่มผ้าหลวงพ่อสมหวัง ที่เป็นผ้าขนาดใหญ่ความยาวประมาณ 72 เมตร (องค์หลวงพ่อสูง 32เมตร)

      โดยพิธีจะเริ่มในช่วงเวลา 14.00 น.จะมีริ้วขบวนแห่ของชุมชน นำผ้าห่มหลวงพ่อแห่ไปรอบวัด แล้วขึ้นห่มองค์หลวงพ่อสมหวัง  พิธีห่มผ้าจะจัดขึ้นปีละครั้งเท่านั้นเรียกได้ว่าบุญใหญ่ 1ปี มีครั้งเดียว คนที่มาร่วมงาน ถือว่าการได้ห่มผ้าพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ (ปางปราบมาร) จะได้บุญ 108 ประการ จะสุขสมหวังทุกประการ ตามมงคลนาม”หลวงพ่อสมหวัง” อย่าลืมวันจันทร์ ที่15 เมษายน 2567 เวลา 14.00 น. มาร่วมพิธีแห่ผ้าห่มหลวงพ่อสมหวังกัน จะได้โชคดีปีมังกรทองถ้วนหน้ากัน

      ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ ภาพ-ข่าว

      หนึ่งปี มีครั้งเดียว ถวายผ้าห่มพระใหญ่ “หลวงพ่อสมหวัง” วัดกลางบางพระ

      มวลชนแห่ร่วมงานบุญใหญ่หนึ่งปีมีครั้งเดียว พิธีถวายผ้าห่มพระใหญ่”หลวงพ่อสมหวัง ” วัดกลางบางพระ

         ที่วัดกลางบางพระ ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้มีพิธีถวายผ้าห่ม พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หรือ”หลวงพ่อสมหวัง ตามที่ผู้เคารพศรัทธารู้จักกันดี

        ปัจจุบันจะมีพุทธศาสนิกชน ขาวไทย ชาวไทยเชื้อสายจีน ชาวเมียนมาและชาวต่างชาติอื่นๆ บินข้ามน้ำ ข้ามทะเลมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อสมหวังกันจำนวนมาก

        และในทุกวันที่ 15 เมษายน 2567 ที่จะถึงนี้ของทุกปี พระครูศรีสุตากร เจ้าอาวาสวัดกลางบางพระ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม คณะสงฆ์ไวยาวัจกร และศิษยานุศิษย์ พร้อมประชาชนใกล้เคียง จะมาร่วมพิธีห่มผ้าหลวงพ่อสมหวัง ที่เป็นผ้าขนาดใหญ่ความยาวประมาณ 72 เมตร (องค์หลวงพ่อสูง 32เมตร)

      หลวงพ่อสมหวัง เป็นพระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่บริเวณลานกลางวัด ของวัดกลางบางพระ ต.บางพระ อ.นครชัยศรี ตามคำล่ำลือว่าท่านศักดิ์สิทธิ์มาก ขออะไรท่านให้มากน้อยตามวาสนา บุญกรรมของผู้นั้น ด้วยในอดีตสมัย หลวงพ่อพุฒ อดีตเจ้าอาวาส ได้กล่าวไว้กับชาวบ้านว่า มีญาติโยมมากมายต่างมาขอพรพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ใหญ่ และบนให้สิ่งนั้นสัมฤทธิ์ สำเร็จ สมหวัง แล้วจะนำลำโพงมาประดิษฐ์ ประดับที่เสากลางวัด เรื่อยมาจนเข้าสู่พระครูศรีสุตากร เจ้าอาวาสวัดกลางบางพระ รูปปัจจุบันจึงได้ขนานนามพระพุทธรูปปางมารวิชัย องค์ใหญ่ นี้ว่า “ หลวงพ่อสมหวัง” ตามความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ที่ให้ลูกหลาน สมหวังในเรื่อง ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ และเพื่อเป็นมงคลนามแด่ พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่นี้ และเพื่อเป็นมงคลนามแก่พุทธศาสนิกชนที่มากราบไหว้ ขอพร คิดอะไรไม่ออก ก็ขอให้สมหวัง ไว้ก่อน

      โดยพิธีจะเริ่มในช่วงเวลา 14.00 น.จะมีริ้วขบวนแห่ของชุมชน นำผ้าห่มหลวงพ่อแห่ไปรอบวัด แล้วขึ้นห่มองค์หลวงพ่อสมหวัง  พิธีห่มผ้าจะจัดขึ้นปีละครั้งเท่านั้นเรียกได้ว่าบุญใหญ่ 1ปี มีครั้งเดียว คนที่มาร่วมงาน ถือว่าการได้ห่มผ้าพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ (ปางปราบมาร) จะได้บุญ 108 ประการ จะสุขสมหวังทุกประการ ตามมงคลนาม”หลวงพ่อสมหวัง” อย่าลืมวันจันทร์ ที่15 เมษายน 2567 เวลา 14.00 น. มาร่วมพิธีแห่ผ้าห่มหลวงพ่อสมหวังกัน จะได้โชคดีปีมังกรทองถ้วนหน้ากัน

      ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ ภาพ-ข่าว

      สร้าง “น้าเปี๊ยก” กุมารทองไม้ในตำนานของ”หลวงพ่อกวย”รุ่นแรก

      ต้อม สำนักจันทร์  เซียนพระเครื่องสายตรงหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม  จัดสร้าง “เปี๊ยก” กุมารทองในกุฏิหลวงพ่อกวย”รุ่นแรก

         ต้อม สำนักจันทร์ ได้กล่าวว่า เปี๊ยก เป็นกุมารทองที่หลวงพ่อกวย เลี้ยงตัวเดียว ซึ่งอยู่ในกุฏิหลวงพ่อตลอด จนถึงหลวงพ่อมรณภาพ   “เปี๊ยก” เป็นกุมารทองที่แกะจากไม้ ฐานเป็นไม้เก่า สูงรวมฐาน 9 นิ้ว หลวงพ่อกวยท่านเลี้ยงไว้ในกุฏิตลอดเวลา หลังจากหลวงพ่อมรณภาพแล้วในปี 2522 ก็ตกทอดมาสู่หลวงตารูปหนึ่งในวัดบ้านแค ซึ่งเป็นศิษย์รุ่นๆ หมอเฉลียว อาจารย์ทรง(ปู่ทรง รอดเล็ก)และพ่อแก่หล่อน มีทั้งกุมารทอง เข็มสัก เอกสารบันทึกลายมือคาถาต่างๆ ที่หลวงพ่อมักกล่าววลีว่า”รักยิ่งกว่ากุมารในกุฏิเสียอีก ”นั่นก็แสดงว่าท่านรักกุมารของท่านมาก

           ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของ “เปี๊ยก กุมารทองในกุฏิหลวงพ่อกวย” ที่มีผู้คนต่างได้ยินเสียงเล่าลือ จึงมีผู้เดินทางมาจากทั่วสารทิศ เป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง เพื่อมาเซ่นไหว้ ขอพร ต่างและได้สิ่งที่ตนปรารถนา สำเร็จในสิ่งที่หวัง “เปี๊ยก กุมารทองในกุฏิพ่อกวย” จึงสั่งสมบารมีมากพอ  จึงเป็นเวลาอันเหมาะสมที่จะมีการจัดสร้างวัตถุมงคลในรูปแบบกุมารทอง “เปี๊ยก กุมารทองในกุฎิหลวงพ่อกวย” มีทั้งขนาด พกพา 1 นิ้ว และ ขนาดบูชา 8.8 นิ้ว รวมถึงขนาดใหญ่เท่าคนจริง สูง 2 เมตร

        ในส่วนของพิธีปลุกเสก “เปี๊ยก กุมารทองในกุฏิหลวงพ่อกวย”  ปลุกเสก 7 พิธี 7วาระ พิธีเสาร์5 และมหาฤกษ์ กระทิงวันกระทิงเดือนกระทิงปี นานทีจะมีสักครั้ง
      ในช่วงเช้าวันอังคารที่ 9 เมษายน 2567 ได้รับความเมตตาจาก เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมมฺธโช) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม  วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร  เมตตาอธิฐานจิต  และจารบนแผ่นยันต์ ลง นะมะอะอุ  แก้ววิเชียร เสริมโชคลาภ การงาน มหาเสน่ห์ขั้นสูง แคล้วคลาด คุ้งครอง ป้องกัน ลงยันต์ บนแผ่นยันต์ ทอง เงิน นาค เพื่อเป็นชนวนหล่อหลอม “เปี๊ยก กุมารทองกุฎิหลวงพ่อกวย”

        ในช่วงค่ำวันที่ 9 เมษายน 2567 มีพิธีปลุกเสกเดี่ยวเป็นปฐมฤกษ์ (เป็นเคล็ดว่าเกิดตามนามพระอาจารย์ประสูติ) โดย พระอาจารย์ประสูติ วัดถ้ำพระพุทธโกษีย์ (วัดในเตา) ซึ่ง พระอาจารย์ประสูติ ได้กล่าวว่า ฉันทำให้แล้วนะเป็นตัวหมดแล้ว ตั้งอาการ 32 มีฤทธิ์หมดทุกตัว แล้วชื่อเปี๊ยก เนี่ยเขาดังนะ เป็นตัวตลกในหนังตลุง อาจารย์ณรงค์ ตลุงบัณฑิต ศิลปินแห่งชาติ “เปี๊ยกนี่ดัง ฉันทำให้อย่างดี”

        ในช่วงค่ำวันที่ 10 เมษายน 2567  ที่ ซุ้มจอมขมังเวทย์ เทวสถานบ่อทอง   ได้นิมนต์ พระเกจิคณาจารย์ 4 รูป นั่งปรกเจริญจิต ปลุกเสก  ชนวนมวลสาร   “เปี๊ยก กุมารทองในกุฏิหลวงพ่อกวย”
      1.พระครูปลัดสุวัฒนพรหมวิหารคุณ วัดทรงเสวย จังหวัดชัยนาท ได้ลงอักขระบนแผ่นยันต์ชนวนด้วย ลงอิกะวิติ หัวใจพระพุทธเจ้า  ลงหัวใจกุมารทอง ลงนโมพุทธายะ พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ลงพุฒซ้อน ตำรับสายวัดสุทัศฯ
      2.พระอาจารย์แจ้  วัดน้อมประชาสรรค์ จังหวัดอยุธยา  ได้ลงอักขระบนแผ่นยันต์ชนวน ด้วย ลงเมตตามหาลาภ  ลงมหานิยม  ดลจิตดลใจคน  ลงทรัพย์สินเงินทอง  ลงยันต์ครูพระอาจารย์แจ้
      3.หลวงพ่อนพวรรณ คุณสาโร วัดเสนานิมิต จังหวัดอยุธยา  เมตตาอธิฐานจิตปลุกเสก
      4.พระครูโกวิชัยกิจ วัดหัวเด่น จังหวัดชัยนาท เมตตาอธิฐานจิตปลุกเสก และคณาจารย์ฆราวาส  ซุ้มจอมขมังเวทย์ ร่วมพิธี

         วันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน 2567  คณาจารย์ฆราวาส ซุ้มจอมขมังเวทย์  ร่วมกันเสกเดินธาตุกุมาร วันศุกร์ที่12 เมษายน2567  มีพิธี สวดโซฮา ชุบกุมาร วันเสาร์ที่13 เมษายน2567  พิธีเสาร์ห้า  ปีมะโรงที่ 5 วันที่ 5 ขึ้น 5 ค่ำ (มหากระทิง เดือน/ปี/วัน) วันจันทร์ที่15 เมษายน2567  ฉลองสมโภชพญาวัน

         วันที่ 10-11-12 พฤษภาคม 2567   พิธีฉลองสมโภช หลวงปู่ทวดโพธิ์ลังกาแหลมแค  อ.พานทอง จ.ชลบุรี วัดในอุปถัมภ์ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย วัดไตรมิตรฯ) และมีพระเกจิคณาจารย์ทั่วประเทศ ร่วมปลุกเสก ทั้งหมด 500 รูป/คน โดยครั้งนี้ ต้อม สำนักจันทร์และทีมงาน ต้องการให้ทุกท่านได้สิ่งที่ดีที่สุด “กุมารทองเปี๊ยก” เป็น 1 ในกุมารแห่งสยาม ฉะนั้นแล้วการสร้างครั้งนี้ พิธีเข้มขลัง ยิ่งใหญ่ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน สมกับเป็นกุมารทองในกุฏิหลวงพ่อกวย…
          โดยก่อนการ เริ่มพิธีปลุกเสก มีศิลปินดารา  มาร่วมกันอย่างคับคั่ง แทคภรัณยู  โก๊ะตี๋  น้าป๋อง กพลทองพลับ ถั่วแระเชิญยิ้ม ร่วมในพิธีปลุกเสกเปี๊ยกกุมารทองในกุฏิหลวงพ่อกวยในครั้งนี้ด้วย รวมทั้งภายในงาน มีกิจกรรม มากมาย รถแห่และศิลปิน แจกทุนการศึกษาเด็กนักเรียน 50 คน กิจกรรมบ้านลมสร้างความสุข ให้เด็กๆ พร้อมมีอาหาร น้ำดื่มแจกฟรีตลอดพิธี

         ผู้สนใจสั่งจองบูชา “น้าเปี๊ยก กุมารทองในกุฏิพ่อกวย”
      ติดต่อทางเพจ facebook หลวงพ่อกวยพระเครื่องมาตรฐานสากล 
      โทร 097-2159265 นพ   062-6650956 แป้ง QR ช่องทางไลน์แอด

      เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม เลี้ยงอาหารผู้สูงอายุ เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2567



      เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม จัดเลี้ยงอาหารผู้สูงอายุ เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2567 เพื่อรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักถึงคุณค่าความสำคัญของผู้สูงอายุและสถาบันครอบครัว

      นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม

      วันที่ 5 เมษายน 2567 ที่สถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่นอุปถัมภ์) สังกัดสำนักปลัดฯ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นางศุภวรรณ จันทร์ดิษฐวงษ์ นางศิริลักษณ์ พึ่งเนียม รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัด คณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด ร่วมเลี้ยงอาหารผู้สูงอายุ เนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2567 รวมทั้งจัดกิจกรรมรดน้ำขอพร พร้อมมอบของที่ระลึก สิ่งของเครื่องใช้จำเป็นให้กับผู้สูงอายุ จำนวน 50 คน

         นางสาวใกล้รุ่ง กองแก้ว หัวหน้าฝ่ายสวัสดิการสังคม เป็นผู้ดูแลสถานสงเคราะห์ฯ กล่าวว่า สถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่นอุปถัมภ์) เกิดขึ้นโดยพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งมีพระราชดำริกับพระอุดมประชานาถ (หลวงพ่อเปิ่น) เจ้าอาวาสวัดบางพระให้จัดสร้างสถานสงเคราะห์คนชราขึ้นที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม พระอุดมประชานาถ (หลวงพ่อเปิ่น)สภากาชาดไทย เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันสนองพระราชดำริจัดสร้างสถานสงเคราะห์คนชราขึ้นที่ตำบลวัดสำโรง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม บนเนื้อที่สาธารณะประโยชน์ จำนวน 24 ไร่ 3 งาน 97 ตารางวา และได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 26 ธันวาคม 2539

      โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานนามแก่สถานสงเคราะห์ฯ พร้อมเสด็จพระราชดำเนินทางเปิดสถานสงเคราะห์ฯ วันที่ 24 มกราคม 2542 โดยปัจจุบันสถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราช (หลวงพ่อเปิ่นอุปถัมภ์) เปิดดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 22 ปี และอยู่ในการกำกับดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ปัจจุบันมีผู้สูงอายุอยู่ในการดูแล ทั้งสิ้น จำนวน 50 คน (เป็นหญิงล้วน)

      สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

      ตำรวจภูธร จ.นครปฐม ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ลดอุบัติเหตุทางถนน และส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567

      ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม บูรณาการหน่วยงานทุกภาคส่วน ร่วมปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม ลดอุบัติเหตุทางถนน และส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567

      พลตำรวจโท ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

        เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 ที่บริเวณลานจอดรถหน้าพระศิลาขาว องค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม พลตำรวจโท ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ 2567 โดยมีผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ผู้แทนฝ่ายทหาร หัวหน้าหน่วยงาน เข้าร่วมพิธี ด้วยในปีนี้รัฐบาลได้จัดงานมหาสงกรานต์ World Songkran Festival เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีการจัดงานเทศกาลดังกล่าวทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 1 ถึง 21 เมษายน 2567ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน คาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมาก เดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ อีกทั้งในหลายพื้นที่ได้มีการจัดงานรื้นเริง จัดงานวันสงกรานต์สรงน้ำพระตามประเพณี มีประชาชนไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

      สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มอบหมายหน่วยปฏิบัติทั่วประเทศ ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในช้วงวันที่ 1 ถึง 10 เมษายน 2567 มีเป้าหมายจับกุมความผิดเกี่ยวกับการพนัน ยาเสพติด อาวุธปีนเครื่องกระสุนปีน และวัตถุระเบิด รวมทั้งบุคคลตามหมายจับและความผิดทางอาญาอื่นๆ โดยบูรณาการกำลังทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ประกอบด้วยกำลังพลในสังกัดตำรวจฎธรจังหวัดนครปฐม ตำรวจทางหลวงตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง และอาสาสมัคร ร่วมพิธีปล่อยแถวระดมกวาดล้างในครั้งนี้ รวมทั้งสิ้น 550 นาย


      สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

      เซ็นทรัลพัฒนา(ศาลายา) ส่งมอบทางลอดกลับรถ ด้วยงบ 112ล้านบาทให้กรมทางหลวง

      ซ็นทรัลพัฒนา (ศาลายา) ส่งมอบทางลอดกลับรถ ด้วยงบ 112 ล้านบาทให้กรมทางหลวง เป็นสาธารณประโยชน์

        เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา และ นางสาวรุจิเรศ นีรปัทมะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานรัฐกิจสัมพันธ์และสรรหาที่ดิน บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ได้ทำพิธีส่งมอบทางลอดกลับรถให้เป็นสาธารณประโยชน์ โดยมี นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง นายศุภโชค มีอำพล ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 13 กรุงเทพ ร่วมด้วยเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้อง และคณะผู้บริหารเซ็นทรัลพัฒนา


        บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและชุมชน มอบเงินสนับสนุนกว่า 112 ล้านบาท ให้กับกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เพื่อดำเนินก่อสร้างทางลอดกลับรถบนถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338) เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ประชาชน บรรเทาปัญหาการจราจรหนาแน่น และเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับปริมาณจราจรที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

        ซึ่งโครงการ “ก่อสร้างทางลอดกลับรถเซ็นทรัล ศาลายา” ดำเนินการก่อสร้างโดย สำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวง มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรหนาแน่นและติดขัดในปัจจุบัน เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2565 และแล้วเสร็จในปี 2566 ปัจจุบันได้เปิดใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
      สำหรับ “ทางลอดกลับรถ ถนนบรมราชชนนี” แห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338) ที่ กม.22+059 บริเวณปากทางถนนราษฎร์พัฒนา หรือซอยทรงคนอง 2 (ทางเข้าวัดดอนหวายและวัดไร่ขิง) พื้นที่ ต.ทรงคนอง อ.สามพราน จ.นครปฐม มีรูปแบบการก่อสร้างทางลอด (Underpass) ขนาด 2 ช่องจราจร (ไป-กลับ) แบ่งทิศทางการจราจรด้วยเกาะสีตีเส้น ช่องจราจรกว้าง 9.95 เมตร ระยะทาง 156 เมตร จำนวน 1 แห่ง และก่อสร้างสะพานคอนกรีตอัดแรง ความกว้างรวม 48 เมตร และความยาว 12 เมตร ตามแนวถนนบรมราชชนนี พร้อมงานติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย

        ปัจจุบันโครงการก่อสร้างทางลอดเซ็นทรัล ศาลายา แล้วเสร็จ ได้ทำการเปิดบริการให้แก่ประชาชนใช้ในการสัญจร เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งทางลอดฯ แห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศาลายา ประมาณ 500 เมตร ช่วยให้ประชาชนสามารถใช้เป็นเส้นทางเข้า – ออก ในการเดินทางสัญจรได้สะดวกปลอดภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้บริเวณโดยรอบมีความความคล่องตัวและสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นทางเลือกในการกลับรถ สำหรับรถเล็กที่มีความสูงไม่เกิน 2.50 เมตร ประชาชนสามารถใช้ทางลอดกลับรถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ หรือกลับรถไปสู่ จังหวัดนครปฐม และจังหวัดใกล้เคียง เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนและชุมชนอย่างยั่งยืน


        เซ็นทรัลพัฒนา ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all ในฐานะ ‘Place Maker’ นักพัฒนาพื้นที่แห่งอนาคต สร้างสรรค์สิ่งที่ดีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนไทยและประเทศไทย โดยให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่ที่มีคุณภาพ เพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชนในทุกมิติ รวมทั้งสร้างสรรค์สิ่งที่ดีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนไทยและประเทศไทย

      วิภาวี เกษรบุญนาค,สนง.ปชส.นครปฐม ภาพ /ข่าว

      เซ็นทรัลพัฒนา(ศาลายา) ส่งมอบทางลอดกลับรถ ด้วยงบ 112ล้านบาทให้กรมทางหลวง

      ซ็นทรัลพัฒนา (ศาลายา) ส่งมอบทางลอดกลับรถ ด้วยงบ 112 ล้านบาทให้กรมทางหลวง เป็นสาธารณประโยชน์

        เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา และ นางสาวรุจิเรศ นีรปัทมะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานรัฐกิจสัมพันธ์และสรรหาที่ดิน บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา ได้ทำพิธีส่งมอบทางลอดกลับรถให้เป็นสาธารณประโยชน์ โดยมี นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง นายศุภโชค มีอำพล ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 13 กรุงเทพ ร่วมด้วยเจ้าหน้าที่ส่วนเกี่ยวข้อง และคณะผู้บริหารเซ็นทรัลพัฒนา


        บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและชุมชน มอบเงินสนับสนุนกว่า 112 ล้านบาท ให้กับกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เพื่อดำเนินก่อสร้างทางลอดกลับรถบนถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338) เพื่ออำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้แก่ประชาชน บรรเทาปัญหาการจราจรหนาแน่น และเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับปริมาณจราจรที่เพิ่มขึ้นในอนาคต

        ซึ่งโครงการ “ก่อสร้างทางลอดกลับรถเซ็นทรัล ศาลายา” ดำเนินการก่อสร้างโดย สำนักก่อสร้างสะพาน กรมทางหลวง มีวัตถุประสงค์เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรหนาแน่นและติดขัดในปัจจุบัน เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปี 2565 และแล้วเสร็จในปี 2566 ปัจจุบันได้เปิดใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
      สำหรับ “ทางลอดกลับรถ ถนนบรมราชชนนี” แห่งนี้ ตั้งอยู่บนถนนบรมราชชนนี (ทางหลวงหมายเลข 338) ที่ กม.22+059 บริเวณปากทางถนนราษฎร์พัฒนา หรือซอยทรงคนอง 2 (ทางเข้าวัดดอนหวายและวัดไร่ขิง) พื้นที่ ต.ทรงคนอง อ.สามพราน จ.นครปฐม มีรูปแบบการก่อสร้างทางลอด (Underpass) ขนาด 2 ช่องจราจร (ไป-กลับ) แบ่งทิศทางการจราจรด้วยเกาะสีตีเส้น ช่องจราจรกว้าง 9.95 เมตร ระยะทาง 156 เมตร จำนวน 1 แห่ง และก่อสร้างสะพานคอนกรีตอัดแรง ความกว้างรวม 48 เมตร และความยาว 12 เมตร ตามแนวถนนบรมราชชนนี พร้อมงานติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย

        ปัจจุบันโครงการก่อสร้างทางลอดเซ็นทรัล ศาลายา แล้วเสร็จ ได้ทำการเปิดบริการให้แก่ประชาชนใช้ในการสัญจร เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งทางลอดฯ แห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศาลายา ประมาณ 500 เมตร ช่วยให้ประชาชนสามารถใช้เป็นเส้นทางเข้า – ออก ในการเดินทางสัญจรได้สะดวกปลอดภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุ ทำให้บริเวณโดยรอบมีความความคล่องตัวและสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นทางเลือกในการกลับรถ สำหรับรถเล็กที่มีความสูงไม่เกิน 2.50 เมตร ประชาชนสามารถใช้ทางลอดกลับรถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ หรือกลับรถไปสู่ จังหวัดนครปฐม และจังหวัดใกล้เคียง เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนและชุมชนอย่างยั่งยืน


        เซ็นทรัลพัฒนา ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ Imagining better futures for all ในฐานะ ‘Place Maker’ นักพัฒนาพื้นที่แห่งอนาคต สร้างสรรค์สิ่งที่ดีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนไทยและประเทศไทย โดยให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่ที่มีคุณภาพ เพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชนในทุกมิติ รวมทั้งสร้างสรรค์สิ่งที่ดีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนไทยและประเทศไทย

      วิภาวี เกษรบุญนาค /ข่าว

      มทร.จัดนิทรรศการ เลอ-วิลาส (Le Vilas By Poh-Chang Academy of Arts, RMUTR) “เสน่ห์ความงามที่ปลุกเร้าให้หลงใหล”

      มทร.รัตนโกสินทร์ วิทยาลัยเพาะช่าง จัดนิทรรศการ เลอ-วิลาส (Le Vilas By Poh-Chang Academy of Arts, RMUTR) “เสน่ห์ความงามที่ปลุกเร้าให้หลงใหล”

      ในวันพุธที่ 3 เมษายน 2567 มทร.รัตนโกสินทร์ นำโดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี ร่วมพิธีเปิด และกล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดนิทรรศการ เลอ-วิลาส (Le Vilas By Poh-Chang Academy of Arts, RMUTR) “เสน่ห์ความงามที่ปลุกเร้าให้หลงใหล” จัดขึ้นโดย มทร.รัตนโกสินทร์ วิทยาลัยเพาะช่าง ร่วมกับมูลนิธิเอสซีจี

      ซึ่งได้รับเกียรติจาก แพทย์หญิงเพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานในพิธีเปิด และร่วมรับชม การแสดงโขน โดยนักศึกษาวิทยาลัยเพาะช่าง ซึ่งการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการทำนุบำรุงศิลปะการแสดงชั้นสูงของไทย “โขน” ที่แสดงออกถึงศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า และมีประวัติความเป็นมายาวนานนับร้อยปี ช่างส่วนใหญ่จะได้รับการฝึกฝน และถ่ายทอดมาจากสกุลช่างในแต่ละสกุลสืบต่อมา จวบจนปัจจุบัน

      อีกทั้งเป็นการมุ่งเน้นสร้างเสริมในเรื่องของ creative economy ตามนโยบายหลักของมหาวิทยาลัยอีกด้วย ทั้งนี้ ภายในงานได้รวบรวมผลงานหัตถศิลป์ ทั้งศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน คณาจารย์ และครูศิลป์แห่งแผ่นดิน มาจัดแสดงและเผยแพร่ผลงานหัวโขนผ่านนิทรรศการ อันสุดวิจิตรบรรจง อีกทั้งกิจกรรม workshop มากมาย ไม่มีค่าใช้จ่าย จากวิทยาลัยเพาะช่าง ณ ห้อง New Gen Space : Space for All Generation ชั้น 3 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) ระหว่างวันที่ 2 – 28 เมษายน 2567 เวลา 10.00-20.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)

      วิภาวี เกษรบุญนาค ภาพ /ข่าว

      รมต.พม.เปิดงานปั่นประวัติศาสตร์ “เมืองเจดีย์ใหญ่มอเตอร์เวย์”

      รมต.พม.เปิดงานปั่นประวัติศาสตร์ “เมืองเจดีย์ใหญ่มอเตอร์เวย์” รวมนักปั่นกว่า3,000คน

      นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

      เมื่อเวลา 07.15 น.ที่ 31 มีนาคม ที่ด่านเก็บเงินฝั่งตะวันตก ทางหลวงหมายเลข 321 จังหวัดนครปฐม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานปล่อยนักกีฬา การแข่งขันจักรยาน “เมืองเจดีย์ใหญ่ มอเตอร์เวย์ครั้งที่ 1” บนทางหลวงพิเศษสาย อ.บางใหญ่-กาญจนบุรี (สายM81) ช่วงด่านเก็บเงินฝั่งตะวันตก ทางหลวงหมายเลข 321(มาลัยแมน) นครปฐม ถึงด่านเก็บเงินทางหลวงหมายเลข 324 อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ไปกลับรวมระยะทาง 100 กม.

      นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม


      โดยมี นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม กล่าวรายงานว่าในนามของคณะกรรมการจัดงาน สมาคมจักรยานจังหวัดนครปฐมร่วมกับ สมาคมกีฬาจักรยานปทุมธานี และนักปั่นจักรยาน ที่มาร่วมกันปั่นจักรยาน ทั้ง 3 รายการ(สาย เอ 100 กิโลเมตร สายบี 50 กิโลเมตร และ วีไอพี 24 กิโลเมตร )รวมกว่า 3,000 คัน/คน มาร่วม

      กิจกรรมปั่นจักรยาน ตามโครงการ “เมืองเจดีย์ใหญ่ มอเตอร์เวย์ครั้งที่ 1”
      ในวันนี้ ซึ่งโครงการ “เมืองเจดีย์ใหญ่ มอเตอร์เวย์ครั้งที่ 1” เพื่อหวังว่า
      กิจกรรมนี้จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงให้กับนักกีฬา และ
      ยังช่วยประชาสัมพันธ์ สถานที่ท่องเที่ยว ในจังหวัดนครปฐม ให้เป็นที่รู้จักกันมากยิ่งขึ้น

      นายสหพันธ์ ปฐมวัฒนานุรักษ์ นายกสมาคมจักรยานนครปฐม กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์วงการจักรยาน ปั่นบนมอเตอร์เวย์ และมีสมาชิกมาร่วมกว่า 3,000 คน และขอบคุณนักปั่นทุกคนที่มาร่วม ขอให้ทุกคนมีพลานามัยที่แข็งแรง ตามวัตถุประสงค์

      ลักษณะเส้นทางบนทางหลวงพิเศษสาย อ.บางใหญ่-กาญจนบุรี (สายM 81)ช่วงด่านเก็บเงินฝั่งตะวันตก ทางหลวงหมายเลข 321(มาลัยแมน) นครปฐม ถึงด่านเก็บเงินทางหลวงหมายเลข 324 อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ไปกลับรวมระยะทาง 100 กม.เป็นเส้นทางที่สวยมากบรรยากาศดี มีลมบางช่วงที่เป็นอุปสรรคต่อนักปั่น ไร้ปัญหาการรบกวนเรื่องจากเป็นสนามปิด ใช้มอเตอร์เวย์ M 81 ที่ยังไม่เปิดทำการสร้างประวัติศาสตร์ให้แก่นักปั่น

      ด้านนายสมชาย หนึ่งในนักปั่น กล่าวว่า มาจากนนท
      บุรี มากันหลายคัน บางคนมาพัก บางคนมาช่วงดึก มาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้กับนครปฐม และตนเอง เพราะว่าการได้ปั่นบนมอเตอร์เวย์ไม่ใช่เรื่องง่าย และเมื่อนครปฐมจัด ก็รีบจอง และมาร่วมที่สำคัญปลอดภัย

      ขอขอบคุณ ภาพ-ข่าว ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ

      เปิดยิ่งใหญ่! ‘เซ็นทรัล นครปฐม’  แลนด์มาร์กแห่งใหม่นครปฐม

      เปิดแล้วยิ่งใหญ่! ‘เซ็นทรัล นครปฐม’  แลนด์มาร์ก
      แห่งใหม่นครปฐม ถนนทุกสายมุ่งสู่ห้าง ทามกลางการจราจรหนาแน่น และอากาศร้อน


      ็ นครปฐม – บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ ของไทย สร้างปรากฏการณ์
      ครั้งยิ่งใหญ่ เปิด “เซ็นทรัล นครปฐม” โครงการมิกซ์ยูสแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางนครปฐม ที่พร้อมเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตแห่งใหม่ที่ยกระดับและเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ชาวนครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียง ภายใต้แนวคิด “ปฐมบทใหม่ของความสุข” บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ พื้นที่อาคารรวม
      (GBA)133,000 ตารางเมตร ครบครันด้วย ศูนย์การค้า, โรงแรม, คอนโดมิเนียม Escent, บ้านเดี่ยว Baan
      Nirati, Urban Park 4 ไร่ ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชั่น โดยเป็นศูนย์การค้าลำดับที่ 42 ของเซ็นทรัลพัฒนา
      ภายใต้วิสัยทัศน์เดินหน้าแผนพัฒนาโครงการ สร้างย่าน สร้างเมืองหลัก-เมืองรอง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวทั่วประเทศ

        นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า “ในฐานะ Place Maker เรามุ่งมั่นที่จะเติมเต็มศักยภาพของเมืองไปอีกขั้น
         โดย “เซ็นทรัล นครปฐม” จะเป็นแลนด์มาร์ก “ปฐมบทใหม่ของความสุข” เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและครบครันที่สุด พร้อมทั้งเชื่อมไปสู่ภาคตะวันตกของประเทศ เราตั้งใจสร้างสรรค์ให้ เซ็นทรัล นครปฐม เป็นมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ที่เติมเต็มการใช้ชีวิตของทุกคนได้อย่างเต็มรูปแบบ

        เพื่อช่วยผลักดันเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้คน เสริมศักยภาพจังหวัด ในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงภาคกลางและภาคตะวันตก รองรับเมกะโปรเจ็คของภาครัฐในอนาคต ร่วมมือกับผู้ประกอบการท้องถิ่น ส่วนราชการ ร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ช่วยสร้างงานและกระจายรายได้ในจังหวัด พร้อมสร้างสรรค์ให้โครงการเซ็นทรัล นครปฐม เป็นพื้นที่บอกเล่า “ปฐมบท” แห่งวัฒนธรรม และศิลปะอันงดงามและยาวนาน เชิดชูอัตลักษณ์อันทรงคุณค่าของเมือง ซึ่งจะช่วยสร้างเสน่ห์ด้านการท่องเที่ยวครบทุกมิติ ทั้งสนับสนุนเทศกาลงานเมือง และเปิดพื้นที่ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ด้านเกษตร สร้างความเติบโตของชุมชนไปด้วยกันอย่างยั่งยืน”

      ขอบคุณภาพ-ข่าว Pr.เซ็นทรัล

      มทร.รัตนโกสินทร์ ศาลายา เลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชน

      มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตศาลายา จัดเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชน

      ในวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2567 มทร.รัตนโกสินทร์ วิทยาเขตศาลายา  โดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี มอบหมายให้ รศ.ดร.อาคีรา ราชเวียง รองอธิการบดี กล่าวต้อนรับ และเปิดโครงการขอบคุณสื่อมวลชน มทร.รัตนโกสินทร์ 2567

        โดยจัดขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้การสนับสนุนข่าวสารของทางมหาวิทยาลัย ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอันเป็นการประชาสัมพันธ์เชิงรุก และเป็นการประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัย ให้เป็นที่รู้จักแก่นักศึกษาและบุคคลทั่วไปให้เข้าใจถึงบทบาทต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นอันดี ต่อมหาวิทยาลัย

        สำหรับในช่วงบ่ายได้พาสื่อมวลชนเข้าศึกษาดูงานด้านการประชาสัมพันธ์ และด้านการบริการวิชาการ ณ มทร.รัตนโกสินทร์ วิทยาลัยเพาะช่าง โดยมี ผศ.สุรัฐ บุญทรง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเพาะช่าง ให้การต้อนรับ

      มทร.รัตนโกสินทร์ ศาลายา เลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชน

      มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตศาลายา จัดเลี้ยงขอบคุณสื่อมวลชน

      ในวันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม 2567 มทร.รัตนโกสินทร์ วิทยาเขตศาลายา  โดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี มอบหมายให้ รศ.ดร.อาคีรา ราชเวียง รองอธิการบดี กล่าวต้อนรับ และเปิดโครงการขอบคุณสื่อมวลชน มทร.รัตนโกสินทร์ 2567

        โดยจัดขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้การสนับสนุนข่าวสารของทางมหาวิทยาลัย ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอันเป็นการประชาสัมพันธ์เชิงรุก และเป็นการประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัย ให้เป็นที่รู้จักแก่นักศึกษาและบุคคลทั่วไปให้เข้าใจถึงบทบาทต่าง ๆ อย่างทั่วถึง ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นอันดี ต่อมหาวิทยาลัย

        สำหรับในช่วงบ่ายได้พาสื่อมวลชนเข้าศึกษาดูงานด้านการประชาสัมพันธ์ และด้านการบริการวิชาการ ณ มทร.รัตนโกสินทร์ วิทยาลัยเพาะช่าง โดยมี ผศ.สุรัฐ บุญทรง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเพาะช่าง ให้การต้อนรับ

      นายก อบจ.นครปฐม เปิดงาน”นมัสการองค์พระประโทนเจดีย์ฯ “โบราณสถานสถานเก่าแก่นับพันปี

      นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดงาน”นมัสการองค์พระประโทนเจดีย์ฯ “โบราณสถานสถานเก่าแก่นับพันปี

      นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม

      วันที่ 22 มีนาคม 2567 ที่วัดพระประโทนเจดีย์ วรวิหาร ต.พระประโทน อ.เมือง จ.นครปฐม นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ประธานเปิดงานนมัสการองค์วัดพระประโทนเจดีย์ ประจำปี 2567 ร่วมด้วย ดร.ณัฎฐิกา ลิ้มเฉลิม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 นายภัทรชัย ตั้งเจริญกร นายกเทศมนตรีตำบลธรรมศาลา พร้อมผู้นำชุมชน และผู้มีเกียรติร่วมพิธีเปิดฯ

      พระศรีธีรวงศ์ เจ้าคณะอำเภอดอนตูม เจ้าอาวาสวัดพระประโทนเจดีย์ วรวิหาร

         พระศรีธีรวงศ์ เจ้าคณะอำเภอดอนตูม เจ้าอาวาสวัดพระประโทนเจดีย์ วรวิหาร เปิดเผยว่า ในการจัดงานนมัสการองค์วัดพระประโทนเจดีย์ ประจำปี 2567 ครั้งนี้ สืบเนื่องจากองค์พระประโทนเจดีย์ เป็นโบราณสถานที่มีอายุยาวนานนับพันปี มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครปฐม ซึ่งควรค่าแก่การยกย่องเชิดชูบูชา และการกราบไหว้ ดังนั้น ทางวัดและคณะกรรมการต้องการเผยแพร่เกียรติศัพท์ เกียรติคุณแห่งองค์พระประโทนเจดีย์ ให้เป็นที่รู้จักและแพร่หลายยิ่งขึ้น หลังจากที่เว้นว่างห่างหายจากการจัดงานมานานนับหลายทศวรรษ

      ทั้งนี้ โดยงานจะเริ่มตั้งแต่ 22-28 มีนาคม 2567 รวม 7วัน 7 คืน เพื่อเป็นพุทธบูชา สังฆบูชา รวบรวมจตุปัจจัยนำไปปฎิสังขรณ์ถาวรวัตถุภายในวัดต่อไป

          วีรวิชญ์ โรจนอัครพงศ์ ภาพ/ข่าว

      ผู้ว่าฯ นครปฐม และผู้บริหารบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล อัญเชิญตราตั้งพระราชทาน“พระครุฑพ่าห์” ขึ้นประดิษฐานที่ห้างเซ็นทรัลนครปฐม

      ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และคณะผู้บริหารบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล อัญเชิญตราตั้งพระราชทาน“พระครุฑพ่าห์” ขึ้นประดิษฐานที่ห้างเซ็นทรัลนครปฐม สาขาใหม่ล่าสุดลำดับที่ 28.



      วันที่ 21 มีนาคม 2567 ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย คุณรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด  กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เป็นประธานในพิธีบวงสรวงและอัญเชิญตราตั้งพระราชทาน “พระครุฑพ่าห์” ของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาใหม่ล่าสุดลำดับที่ 28 ขึ้นประดิษฐานที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลนครปฐม เพื่อความเป็นสิริมงคล

        โดยมี นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม พันโท สินธพ แก้วพิจิตร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐม เขต 2 นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ตลอดจนนายอำเภอเมืองนครปฐม รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7  ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัด ผกก.สภ.เมืองนครปฐม รองนายกเทศมนตรีจังหวัดนครปฐม จัดหางาน จังหวัดนครปฐม ประชาสัมพันธ์จังหวัด หอการค้าจังหวัด พาณิชย์จังหวัด ประธานสภาอุตสาหกรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครปฐม เขต 6 สวัสดิการแรงงาน จังหวัดนครปฐม ผู้แทนภาครัฐ เอกชน พร้อมทีมผู้บริหารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สื่อมวลชน และพนักงาน ให้เกียรติเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง


              คุณรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.48 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ห้างเซ็นทรัลอัญเชิญตราตั้งพระราชทาน “พระครุฑพ่าห์” ซึ่งเป็นตราประจำแผ่นดินขึ้นประดับหน้าอาคาร เพื่อสะท้อนความเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีหลักฐานมั่นคง ประกอบกิจการด้วยความซื่อสัตย์สุจริตตลอดมา

      โดยในวันที่ 26 ต.ค.49 ได้มีการจัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญตราตั้งพระครุฑพ่าห์ ขึ้นประดิษฐานหน้าอาคารห้างเซ็นทรัลชิดลมเป็นแห่งแรก ก่อนจะอัญเชิญประดับหน้าอาคารห้างเซ็นทรัลทุกสาขาทั่วประเทศต่อไป โดยห้างเซ็นทรัลนครปฐมนับเป็นสาขาล่าสุดที่ได้อัญเชิญตราตั้งพระราชทาน “พระครุฑพ่าห์” ขึ้นเป็นสิริมงคลและเป็นขวัญกำลังใจแก่คณะผู้บริหาร และพนักงานของห้างฯ สืบไป”


        ปัจจุบัน ห้างเซ็นทรัลเปิดให้บริการในประเทศไทยรวมทั้งหมด 28 สาขา ซึ่ง “ห้างเซ็นทรัลนครปฐม” ถือเป็นห้างสาขาล่าสุดและเป็นสาขาที่ 2 ในจังหวัดนครปฐม ในฐานะเดสติเนชันการช้อปแห่งใหม่ของประตูแห่งภาคตะวันตกที่พร้อมเปิดปฐมบทใหม่ของความสุขแห่งการช้อปบนพื้นที่กว่า 14,000 ตร.ม. ในงบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท ที่มุ่งเติมเต็มและมอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สมบูรณ์แบบ ทั้งดีไซน์การออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากอัตลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัดอย่าง ‘องค์พระปฐมเจดีย์’ ครบครัน ทุกความต้องการกับจักรวาลสินค้าทั้งความงาม แฟชั่น สินค้าแม่และเด็ก และสินค้าตกแต่งบ้าน ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

               
      สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

      30 มีนานี้เปิดยิ่งใหญ่ ‘เซ็นทรัล นครปฐม’ แลนด์มาร์กด้านการค้าที่ ยิ่งใหญ่ที่สุดในนครปฐม ด้วยงบ 8,200 ล้าน

      เซ็นทรัล นครปฐม’ ปฐมบทใหม่ของความสุขทุกมิติ แลนด์มาร์ก ยิ่งใหญ่ที่สุดในนครปฐม ยกระดับเมืองศักยภาพประตูสู่ภาคตะวันตก กำหนดเปิด 30 มีนาคมนี้แน่นอน

      ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด

        ที่โรงแรมไมด้านครปฐม ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้เป็นประธานแถลงข่าวเรื่องกำหนดการเปิดห้าง “เซ็นทรัล นครปฐม”  ว่านครปฐม เป็นจังหวัดที่พร้อมด้วยศักยภาพด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เป็นเมืองเศรษฐกิจ ที่ GPP เติบโตขึ้นทุกปี และเป็นอันดับ 3 ของภาคกลาง เป็นจังหวัดที่รองรับการขยายตัวของประชากรจากกรุงเทพฯ รวมถึงมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง เมกะโปรเจกต์ภาครัฐหลายโครงการ อย่างรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อน (จากนครปฐมสู่ใจกลางกรุงเทพฯ)มอเตอร์เวย์ 2 สาย ได้แก่ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี และ ชลบุรี-สระบุรี-นครปฐม พร้อมด้วย ระเบียงเศรษฐกิจภาคกลาง-ตะวันตก ด้านการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม

      ซึ่งนครปฐม เป็น “ประตูเศรษฐกิจสู่ภาคตะวันตก” ที่รองรับกำลังซื้อจากคนนครปฐม และขยาย New Catchment ไปยัง ราชบุรี และ กาญจนบุรี นอกจากนี้ นครปฐม ยังเป็นเมืองแห่งศิลปะ และวัฒนธรรมที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของไทย เป็นศูนย์กลางความเจริญตั้งแต่สมัยทวาราวดี มีมรดกทางวัฒนธรรม เสน่ห์ของเมืองเก่า และ “อู่อารยธรรม” ที่รุ่งเรือง ด้วยแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง พระปฐมเจดีย์ เป็น เมืองมหาวิทยาลัย เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง จึงเป็นแหล่งศูนย์รวมของคนรุ่นใหม่ เมืองแห่งการท่องเที่ยว ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงในช่วงสุดสัปดาห์ มีสถานที่ท่องเที่ยวครบทุกสไตล์ ทั้งไหว้พระทำบุญ ชื่นชมธรรมชาติหรือสถานที่ประวัติศาสตร์

        จึงเป็นประเด็นหนึ่งที่เครือกลุ่มเซ็นทรัล ได้มาลงทุนด้วยงบลงมหาศาล 8200 ล้าน บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ครบครันด้วย ศูนย์การค้า, ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, คอนโด, บ้านเดี่ยว และครั้งแรกกับ “Multi-Generation Space” 4 ไร่ใจกลางโครงการ ให้ทุกคนในครอบครัวใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพร่วมกัน

      และบุกเบิกเมืองศักยภาพ สู่การเป็น “ประตูสู่ภาคตะวันตก” ยกระดับการใช้ชีวิตให้คนนครปฐม และจังหวัดใกล้เคียง ราชบุรี-กาญจนบุรี รองรับโครงการภาครัฐ สร้างงาน-อาชีพ กระจายรายได้ชุมชน

      และผนึกกลุ่มเซ็นทรัล อาทิ ห้างเซ็นทรัล เปิดปฐมบทใหม่ของความสุขแห่งการช้อปปิ้ง ด้วยดีไซน์การออกแบบที่สะท้อนอัตลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัด รวมทั้งทัพแบรนด์ดังระดับโลกกว่า 500 แบรนด์ชั้นนำและบริการที่ดีที่สุด พร้อมดึงแบรนด์โลคอลสร้างการเติบโตภาคธุรกิจร่วมกัน

      รวมทั้งการนำเสนออัตลักษณ์จังหวัด ขับเคลื่อนเมืองเศรษฐกิจ ศิลปะ ดนตรี อาหาร จับมือCommunity ร่วม Co-Creation เติมเต็มนครปฐมให้สมบูรณ์ผ่านงานศิลปะและอีเวนต์

      ชมคลิป.https://youtu.be/DIWqAn3VaNM?si=E7CH5WAOg73uEE5_

      โดยในวันที่ 30 มี.ค.นี้ จะมีการฉลองเปิดสุดยิ่งใหญ่ ท่านจะได้พบกลับดาราคู่ขวัญชื่อดัง ณเดชน์-ญาญ่า เปิดฟลอร์ความสนุกร่วมSwing Dance ทำลายสถิติ Asia Book of Records

      30 มีนานี้เปิดยิ่งใหญ่ ‘เซ็นทรัล นครปฐม’ แลนด์มาร์กด้านการค้าที่ ยิ่งใหญ่ที่สุดในนครปฐม

      เซ็นทรัล นครปฐม’ ปฐมบทใหม่ของความสุขทุกมิติ แลนด์มาร์ก ยิ่งใหญ่ที่สุดในนครปฐม ยกระดับเมืองศักยภาพประตูสู่ภาคตะวันตก กำหนดเปิด 30 มีนาคมนี้แน่นอน

      ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด

        ที่โรงแรมไมด้านครปฐม ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้เป็นประธานแถลงข่าวเรื่องกำหนดการเปิดห้าง “เซ็นทรัล นครปฐม”  ว่านครปฐม เป็นจังหวัดที่พร้อมด้วยศักยภาพด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เป็นเมืองเศรษฐกิจ ที่ GPP เติบโตขึ้นทุกปี และเป็นอันดับ 3 ของภาคกลาง เป็นจังหวัดที่รองรับการขยายตัวของประชากรจากกรุงเทพฯ รวมถึงมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง เมกะโปรเจกต์ภาครัฐหลายโครงการ อย่างรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อน (จากนครปฐมสู่ใจกลางกรุงเทพฯ)มอเตอร์เวย์ 2 สาย ได้แก่ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี และ ชลบุรี-สระบุรี-นครปฐม พร้อมด้วย ระเบียงเศรษฐกิจภาคกลาง-ตะวันตก ด้านการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม

      ซึ่งนครปฐม เป็น “ประตูเศรษฐกิจสู่ภาคตะวันตก” ที่รองรับกำลังซื้อจากคนนครปฐม และขยาย New Catchment ไปยัง ราชบุรี และ กาญจนบุรี นอกจากนี้ นครปฐม ยังเป็นเมืองแห่งศิลปะ และวัฒนธรรมที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของไทย เป็นศูนย์กลางความเจริญตั้งแต่สมัยทวาราวดี มีมรดกทางวัฒนธรรม เสน่ห์ของเมืองเก่า และ “อู่อารยธรรม” ที่รุ่งเรือง ด้วยแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง พระปฐมเจดีย์ เป็น เมืองมหาวิทยาลัย เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง จึงเป็นแหล่งศูนย์รวมของคนรุ่นใหม่ เมืองแห่งการท่องเที่ยว ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงในช่วงสุดสัปดาห์ มีสถานที่ท่องเที่ยวครบทุกสไตล์ ทั้งไหว้พระทำบุญ ชื่นชมธรรมชาติหรือสถานที่ประวัติศาสตร์

        จึงเป็นประเด็นหนึ่งที่เครือกลุ่มเซ็นทรัล ได้มาลงทุนด้วยงบลงมหาศาล 8200 ล้าน บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ครบครันด้วย ศูนย์การค้า, ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, คอนโด, บ้านเดี่ยว และครั้งแรกกับ “Multi-Generation Space” 4 ไร่ใจกลางโครงการ ให้ทุกคนในครอบครัวใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพร่วมกัน

      และบุกเบิกเมืองศักยภาพ สู่การเป็น “ประตูสู่ภาคตะวันตก” ยกระดับการใช้ชีวิตให้คนนครปฐม และจังหวัดใกล้เคียง ราชบุรี-กาญจนบุรี รองรับโครงการภาครัฐ สร้างงาน-อาชีพ กระจายรายได้ชุมชน

      และผนึกกลุ่มเซ็นทรัล อาทิ ห้างเซ็นทรัล เปิดปฐมบทใหม่ของความสุขแห่งการช้อปปิ้ง ด้วยดีไซน์การออกแบบที่สะท้อนอัตลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัด รวมทั้งทัพแบรนด์ดังระดับโลกกว่า 500 แบรนด์ชั้นนำและบริการที่ดีที่สุด พร้อมดึงแบรนด์โลคอลสร้างการเติบโตภาคธุรกิจร่วมกัน

      รวมทั้งการนำเสนออัตลักษณ์จังหวัด ขับเคลื่อนเมืองเศรษฐกิจ ศิลปะ ดนตรี อาหาร จับมือCommunity ร่วม Co-Creation เติมเต็มนครปฐมให้สมบูรณ์ผ่านงานศิลปะและอีเวนต์

      โดยในวันที่ 30 มี.ค.นี้ จะมีการฉลองเปิดสุดยิ่งใหญ่ ท่านจะได้พบกลับดาราคู่ขวัญชื่อดัง ณเดชน์-ญาญ่า เปิดฟลอร์ความสนุกร่วมSwing Dance ทำลายสถิติ Asia Book of Records

      30 มีนานี้เปิดยิ่งใหญ่ ‘เซ็นทรัล นครปฐม’ แลนด์มาร์กด้านการค้าที่ ยิ่งใหญ่ที่สุดในนครปฐม

      เซ็นทรัล นครปฐม’ ปฐมบทใหม่ของความสุขทุกมิติ แลนด์มาร์ก ยิ่งใหญ่ที่สุดในนครปฐม ยกระดับเมืองศักยภาพประตูสู่ภาคตะวันตก กำหนดเปิด 30 มีนาคมนี้แน่นอน

      ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด

        ที่โรงแรมไมด้านครปฐม ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้เป็นประธานแถลงข่าวเรื่องกำหนดการเปิดห้าง “เซ็นทรัล นครปฐม”  ว่านครปฐม เป็นจังหวัดที่พร้อมด้วยศักยภาพด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เป็นเมืองเศรษฐกิจ ที่ GPP เติบโตขึ้นทุกปี และเป็นอันดับ 3 ของภาคกลาง เป็นจังหวัดที่รองรับการขยายตัวของประชากรจากกรุงเทพฯ รวมถึงมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง เมกะโปรเจกต์ภาครัฐหลายโครงการ อย่างรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดงอ่อน (จากนครปฐมสู่ใจกลางกรุงเทพฯ)มอเตอร์เวย์ 2 สาย ได้แก่ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี และ ชลบุรี-สระบุรี-นครปฐม พร้อมด้วย ระเบียงเศรษฐกิจภาคกลาง-ตะวันตก ด้านการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม

      ซึ่งนครปฐม เป็น “ประตูเศรษฐกิจสู่ภาคตะวันตก” ที่รองรับกำลังซื้อจากคนนครปฐม และขยาย New Catchment ไปยัง ราชบุรี และ กาญจนบุรี นอกจากนี้ นครปฐม ยังเป็นเมืองแห่งศิลปะ และวัฒนธรรมที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของไทย เป็นศูนย์กลางความเจริญตั้งแต่สมัยทวาราวดี มีมรดกทางวัฒนธรรม เสน่ห์ของเมืองเก่า และ “อู่อารยธรรม” ที่รุ่งเรือง ด้วยแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง พระปฐมเจดีย์ เป็น เมืองมหาวิทยาลัย เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง จึงเป็นแหล่งศูนย์รวมของคนรุ่นใหม่ เมืองแห่งการท่องเที่ยว ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงในช่วงสุดสัปดาห์ มีสถานที่ท่องเที่ยวครบทุกสไตล์ ทั้งไหว้พระทำบุญ ชื่นชมธรรมชาติหรือสถานที่ประวัติศาสตร์

        จึงเป็นประเด็นหนึ่งที่เครือกลุ่มเซ็นทรัล ได้มาลงทุนด้วยงบลงมหาศาล 8200 ล้าน บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ครบครันด้วย ศูนย์การค้า, ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, คอนโด, บ้านเดี่ยว และครั้งแรกกับ “Multi-Generation Space” 4 ไร่ใจกลางโครงการ ให้ทุกคนในครอบครัวใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพร่วมกัน

      และบุกเบิกเมืองศักยภาพ สู่การเป็น “ประตูสู่ภาคตะวันตก” ยกระดับการใช้ชีวิตให้คนนครปฐม และจังหวัดใกล้เคียง ราชบุรี-กาญจนบุรี รองรับโครงการภาครัฐ สร้างงาน-อาชีพ กระจายรายได้ชุมชน

      และผนึกกลุ่มเซ็นทรัล อาทิ ห้างเซ็นทรัล เปิดปฐมบทใหม่ของความสุขแห่งการช้อปปิ้ง ด้วยดีไซน์การออกแบบที่สะท้อนอัตลักษณ์อันโดดเด่นของจังหวัด รวมทั้งทัพแบรนด์ดังระดับโลกกว่า 500 แบรนด์ชั้นนำและบริการที่ดีที่สุด พร้อมดึงแบรนด์โลคอลสร้างการเติบโตภาคธุรกิจร่วมกัน

      รวมทั้งการนำเสนออัตลักษณ์จังหวัด ขับเคลื่อนเมืองเศรษฐกิจ ศิลปะ ดนตรี อาหาร จับมือCommunity ร่วม Co-Creation เติมเต็มนครปฐมให้สมบูรณ์ผ่านงานศิลปะและอีเวนต์

      โดยในวันที่ 30 มี.ค.นี้ จะมีการฉลองเปิดสุดยิ่งใหญ่ ท่านจะได้พบกลับดาราคู่ขวัญชื่อดัง ณเดชน์-ญาญ่า เปิดฟลอร์ความสนุกร่วมSwing Dance ทำลายสถิติ Asia Book of Records

      มทร.รัตนโกสินทร์ เข้าชมโครงการค่าย TF-SCALE 2024 ณ  สาธารณรัฐสิงคโปร์

      มทร.รัตนโกสินทร์ ประชุมหารือโครงการค่าย Temasek Foundation Specialists’ Community Action & Leadership Exchange Program 2024 (TF-SCALE 2024) ณ Nanyang Polytechnic สาธารณรัฐสิงคโปร์

      ในวันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2567 มทร.รัตนโกสินทร์ นำโดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี มอบหมาย รศ.ดร.อาคีรา ราชเวียง รองอธิการบดี พร้อมด้วย ดร.ธัญนันท์ วรเศรษฐพงษ์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองกลาง เข้าเยี่ยมชมและหารือโครงการค่าย Temasek Foundation Specialists’ Community Action & Leadership Exchange Program 2024 (TF-SCALE 2024) ช่วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 3 – 16 มีนาคม 2567 ณ Nanyang Polytechnic สาธารณรัฐสิงคโปร์

        ซึ่งระหว่างโครงการดำเนินการ นักศึกษาได้นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ต่อไป ผ่านทางกิจกรรมรูปแบบใหม่ ๆ กิจกรรมต่าง ๆ ภายในโครงการนี้ต่างออกแบบมาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ การประดิษฐ์สิ่งใหม่ ๆ และทักษะความเป็นผู้นำ

        ทั้งนี้ Mr.Chai Kurk Heng, Director/ Student Care & Guidance Nanyang Polytechnic International และทีมผู้บริหารให้การต้อนรับ อีกทั้งหารือความร่วมมือระหว่าง 2 สถาบันหลังจากการทำ MOU ร่วมกัน เพื่อแลกเปลี่ยนทางด้านวิชาการตอบสนองนโยบายมุ่งสู่สากลต่อไป

      มทร.รัตนโกสินทร์ เข้าชมโครงการค่าย TF-SCALE 2024 ณ  สาธารณรัฐสิงคโปร์

      มทร.รัตนโกสินทร์ ประชุมหารือโครงการค่าย Temasek Foundation Specialists’ Community Action & Leadership Exchange Program 2024 (TF-SCALE 2024) ณ Nanyang Polytechnic สาธารณรัฐสิงคโปร์

      ในวันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2567 มทร.รัตนโกสินทร์ นำโดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี มอบหมาย รศ.ดร.อาคีรา ราชเวียง รองอธิการบดี พร้อมด้วย ดร.ธัญนันท์ วรเศรษฐพงษ์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการกองกลาง เข้าเยี่ยมชมและหารือโครงการค่าย Temasek Foundation Specialists’ Community Action & Leadership Exchange Program 2024 (TF-SCALE 2024) ช่วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 3 – 16 มีนาคม 2567 ณ Nanyang Polytechnic สาธารณรัฐสิงคโปร์

        ซึ่งระหว่างโครงการดำเนินการ นักศึกษาได้นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ต่อไป ผ่านทางกิจกรรมรูปแบบใหม่ ๆ กิจกรรมต่าง ๆ ภายในโครงการนี้ต่างออกแบบมาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ การประดิษฐ์สิ่งใหม่ ๆ และทักษะความเป็นผู้นำ

        ทั้งนี้ Mr.Chai Kurk Heng, Director/ Student Care & Guidance Nanyang Polytechnic International และทีมผู้บริหารให้การต้อนรับ อีกทั้งหารือความร่วมมือระหว่าง 2 สถาบันหลังจากการทำ MOU ร่วมกัน เพื่อแลกเปลี่ยนทางด้านวิชาการตอบสนองนโยบายมุ่งสู่สากลต่อไป

      จังหวัดนครปฐม จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน“ผ้าลายสิริวชิราภรณ์”

      จังหวัดนครปฐม จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” เพื่อต่อยอดผสมผสานมุมมองด้านแฟชั่นที่ร่วมสมัย ตลอดจนอนุรักษ์ ฟื้นฟู ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาผ้าไทยและงานหัตถกรรม ให้ดำรงอยู่ยั่งยืนตลอดไป

      วันที่ 13 มีนาคม 2567 ที่ห้องประชุมสนามจันทร์ ชั้น 5 (ส่วนต่อขยาย) ศาลากลางจังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ถวายความเคารพ เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ และกล่าวสำนึกในพระกรุณาธิคุณ เบื้องหน้าพระรูป สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ที่ทรงพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” แก่ช่างทอผ้าทุกกลุ่ม ทุกเทคนิค เยาวชน คนรุ่นใหม่และประชาชนคนไทยทุกคน โดยมี นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ในฐานะประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด พร้อมด้วยนายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนสถาบันการศึกษา กลุ่มทอผ้า และกลุ่มงานหัตถกรรม เข้าร่วมพิธีในครั้งนี้


      นับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดโครงการ Silk Festival 2023 สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พระราชทานเครื่องหมายรับรองสินค้าแฟชั่นและหัตถกรรมพระราชทาน “Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน” แก่ช่างทอผ้า ช่างหัตถกรรม ผู้ผลิต และผู้ประกอบการที่สร้างสรรค์ผืนผ้าและหัตถกรรม ด้วยขั้นตอนที่เป็นมิตร ต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยต่อผู้สร้างสรรค์และผู้สวมใส่ ซึ่งเป็นการรับรองคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐานสากล


      และเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนภาคใต้ ณ แหล่งสมาคมนายทหารสัญญาบัตร กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พระราชทานแบบลายผ้า “ผ้าลายชบาปัตตานี” เพื่อเป็นของขวัญแก่ช่างทอผ้า ช่างหัตถกรรม ผู้ผลิต ผู้ประกอบการชาวจังหวัดปัตตานี เพื่อสร้างอัตลักษณ์ สืบสานและต่อยอดภูมิปัญญาและงานหัตถศิลป์พื้นถิ่น ให้ดำรงคงอยู่คู่แผ่นดินไทย


      และวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการผ้าไทยและงานหัตถกรรมชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ หอประชุมไพรพะยอม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการผ้าทอแบบโบราณ ณ บ้านคำปุน ตำบลคำน้ำแซบ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พระราชทานแบบลายผ้า “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” ซึ่งเป็นลายที่ได้ทรงศึกษาค้นคว้าลวดลายผืนผ้าจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ และทรงนำมาออกแบบลายพระราชทานเนื่องในปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ 72 พรรษา โดยพระราชทานแบบตั้งต้นไว้ 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทผ้ากาบบัวประเภทผ้ายก, จก, ขิด, แพรวา, ประเภทผ้ามัดหมี่ และประเภทผ้าบาติก ซึ่งสามารถนำลายพระราชทานหลัก ทั้ง 4 ประเภทนี้ ไปถักทอผสมผสานกับลวดลายภูมิปัญญาพื้นถิ่นตามความคิดสร้างสรรค์ ต่อไป


      สำหรับจังหวัดนครปฐม ได้ดำเนินการขับเคลื่อนและขยายผลโครงการตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ไปยังกลุ่มทอผ้า กลุ่มงานหัตถกรรม ต่าง ๆ เช่น งานเซรามิค งานเบญจรงค์ และงานหัตถกรรมอื่น ๆ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคง ยังผลให้ช่างทอผ้า ช่างหัตถกรรม ผู้ผลิต ผู้ประกอบการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อเหล่าปวงชนชาวไทย โดยน้อมนำแนวพระดำริในการเพิ่มคุณค่า และมูลค่าผลิตภัณฑ์ผ้าไทยให้สามารถก้าวสู่ระดับสากล เพื่อวิถีชุมชนที่ยั่งยืน อันเป็นพลังที่จะสืบสานความเป็นไทย และสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป


      สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพข่าว

      สโมสรโรตารี มอบเครื่องมือแพทย์ มูลค่า 3,165,500 ให้โรงพยาบาลสามพราน  จังหวัดนครปฐม

      สโมสรโรตารีมอบเครื่องมือแพทย์ มูลค่า 3,165,500 บาท และจัดอบรมให้ความรู้

      เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 ที่ห้องประชุมชั้น4อาคารบริการโรงพยาบาลสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
        สโมสรโรตารีสมุทรปราการ สโมสรโรทาแรคท์ชุมชนสนามจันทร์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม สโมสรโรตารีจากประเทศเกาหลี ร่วมมอบเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลสามพราน มูลค่า 3,165,500 บาท และจัดอบรมให้ความรู้แก่ อาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) และบุคลากรในเครือข่าย


        โดยการนำของ นายวิชัย มณีวัชรเกียรติ อดีตผู้ว่าการภาค3330 นางสาวพิชยา ขวัญนิพนธ์ นายกสโมสรโรตารีสมุทรปราการ Mr. Du Hyun Yun นายกสโมสรโรตารีดองดูชอน ประเทศเกาหลี นายรุ่งวิทย์ เติมพิทยาเวช ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม น.ส.กมลลักษณ์ พัฒนธีรนันท์ นายกสโมสรโรทาแรคท์ชุมชนสนามจันทร์และคณะสมาชิกสโมสรโรตารี


      โดยมี นพ.ทินกร ชื่นชม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน กล่าวต้อนรับ ร่วมด้วย บุคลากรเครือข่ายโรงพยาบาลสามพราน อาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.)และบุคลากรเครือข่ายโรงพยาบาลสามพรานเข้าร่วมอบรมมะเร็งลำไส้ใหญ่เครือข่ายโรงพยาบาลสามพรานประจำปี 2567 จำนวน 100 คน


        โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ยังเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทยและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการป้องกันและการค้นพบโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในระยะเริ่มต้น สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลสามพรานสามารถให้บริการรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยวิธีการผ่าตัดจากศัลยแพทย์ จำนวน 3 คน มาตั้งแต่เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2564 ทำให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอสามพรานได้รับการรักษาใกล้บ้าน สามารถลดความแออัดและลดอัตราการรอคอยการรักษาที่โรงพยาบาลสามพรานลงได้

         สโมสรโรตารีสมุทรปราการ สโมสรโรทาแรคท์ชุมชนสนามจันทร์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครปฐม สโมสรโรตารีประเทศเกาหลี และโรงพยาบาลสามพราน จึงได้ร่วมกันจัดโครงการเพิ่มศักยภาพการป้องกันและบำบัดมะเร็งลำไส้ใหญ่เครือข่ายโรงพยาบาลสามพรานประจำปี 2567 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการป้องกัน เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต จึงดำเนินการคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ในประชาชนที่มีอายุ 50-70 ปี โดยการคัดกรองเบื้องต้นด้วยวิธีการตรวจหาเม็ดเลือดแดงแฝงในอุจจาระ (Fecal Immunochemical Test : FIT) และในกรณีที่ผลการตรวจ Positive จะส่งตรวจยืนยันด้วยวิธีการส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่(Colonoscopy) กับศัลยแพทย์ในโรงพยาบาลสามพรานต่อไป

      ขอบคุณภาพข่าว พัชรี เกษมบุญนาค รพ.สามพราน

      อบจ.นครปฐม ปิดมอเตอร์เวย์จัด King Of Motorway Nakhonpathom M81 รวมนักปั่นกว่า3,000 เข้าร่วมสร้างประวัติศาสตร์

      อบจ.นครปฐม ปิดมอเตอร์เวย์จัด King Of Motorway Nakhonpathom M81 รวมนักปั่นกว่า 3,000 เข้าร่วมสร้างประวัติศาสตร์

      นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม

        เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นายสหพันธ์ ปฐมวัฒนานุรักษ์ นายกสมาคมจักรยานนครปฐม นายคิว อรุโณรส นายกสมาคมกีฬาจักรยานปทุมธานี ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานปั่นจักรยานใจเกินร้อยมอเตอร์เวย์ M81 บางใหญ่ – กาญจนบุรี รายการเมืองเจดีย์ใหญ่ มอเตอร์เวย์ ครั้งที่1
      รุ่นระยะทาง 100 กม. รุ่นระยะทาง 50 กม. รุ่นวีไอพี 24 กม. และ Team time trial ในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2567 นี้

        นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ กล่าวว่า การจัดงานปั่นจักรยานใจเกินร้อยมอเตอร์เวย์ M81 บางใหญ่ – กาญจนบุรี ครั้งถือว่าเป็นสนามประวัติศาสตร์ของนักปั่น ที่จะได้ขึ้นมาใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ M81 บางใหญ่-กาญจนบุรี

      ในส่วนของจังหวัดนครปฐม-กาญจนบุรี ซึ่งเป็นตอนที่ถนนสายนี้สร้างเสร็จแล้ว และกรมทางหลวง ได้อนุญาตให้ใช้บนทางหลวงพิเศษ สาย อ.บางใหญ่-กาญจนบุรี (สายM81) ช่วงด่านเก็บเงินฝั่งตะวันตก ทางหลวงหมายเลข 321 (ถนนมาลัยแมน) นครปฐม ถึงด่านเก็บเงินทางหลวงหมายเลข 324 อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ไปกลับรวมระยะทาง 100 กม. ในการแข่งขันแบบปิด นอกจากการแข่งขันปั่นจักรยาน และยังเป็นการประชาสัมพันธ์จังหวัดด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจะมีนักปั่นกว่า 3,000 คน/คัน มาร่วม และขณะนี้ทราบว่าที่พัก โรงแรมส่วนใหญ่เต็มหมดแล้ว และเรื่องของอาหารการกิน ร้านค้าจะได้รับอานิสงส์ไปด้วย และฝากถึงพี่น้องชาวนครปฐม ร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับแขกผู้มาเยือน นักปั่นด้วยรอยยิ้ม และช่วยกันรักษาความสะอาด และขณะนี้ที่พัก โรงแรม 15 แห่งใกล้สนามแข่งถูกจองเต็มหมดแล้ว

      ด้านนายสหพันธ์ ปฐมวัฒนานุรักษ์ กล่าวว่า สมาคมจักรยานนครปฐมร่วมกับสมาคมกีฬาจักรยานปทุมธานีได้จัดทำโครงการเมืองเจดีย์ใหญ่มอเตอร์เวย์ครั้งที่หนึ่ง จัดขึ้นเพื่อรณรงค์ชักชวนให้ประชาชนเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงโดยการปั่นจักรยานส่งเสริมการท่องเที่ยวตอนนี้มุ่งหวังที่จะกระตุ้นเตือนทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนให้หันมาให้ความสนใจมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ที่แข็งแรงและมีสุขภาพที่ดีลดความเสี่ยงการเกิดโรคในกลุ่ม NCDs โดยเป้าหมายปั่น 3000 คนมาร่วมบันทึกประวัติศาสตร์การแข่งขันจักรยานแบบปิดบนถนนมอเตอร์เวย์ สาย บางใหญ่-กาญจนบุรี (M81) นี้ เพราะเมื่อถนนสายนี้สร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ และเปิดให้ใช้ รถจักรยานจะไม่สามารถเข้าไปปั่นได้อย่าเด็ดขาด

      ด้านนายคิว อรุโณรส กล่าวว่า สมาคมกีฬาจักรยานปทุมธานี ได้ร่วมจัดกิจกรรมนี้ขึ้นเพื่อสร้างประวัติศาสตร์วงการจักรยาน ที่จะได้ทำการแข่งขันแบบปิดบนทางหลวงพิเศษ ซึ่งมีไม่บ่อยหนัก ในประเทศไทย และการแข่งขันนี้จะมีการเก็บบันทึกสถิติ time trial และเป็นเกียรติประวัติแก่นักปั่นทุกคนที่สมัครเข้าทำการแข่งขัน ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิน 3,000 คน/คัน จากนักปั่นทั่วประเทศ

      วางศิลาฤกษ์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม แลนด์มาร์คใหม่ใหญ่สุดในนครปฐม

      “เซ็นทรัลพัฒนา” จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ “ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม”
      มิกซ์ยูสแลนด์มาร์คใหม่ในนครปฐม พร้อมเปิดให้บริการ 30 มีนาคม 2567


         คณุวัลยา จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนาจำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย
      ผู้บริหารระดับสูง คุณมุกดา จิราธิวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล กรรมการ บริษัท เซ็นทรัลหัวหินบีชรีสอร์ท
      จำกัด และ คุณรัตนา จิราธิวัฒน์ นรพัลลภ กรรมการ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด

         ได้ร่วมกันจัดพิธีวางศิลาฤกษ์ “ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม” โครงการมิกซ์ยูสแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางนครปฐม ศูนย์กลางการใช้ชีวิตแห่งใหม่ ประกอบด้วย ศูนย์การค้า, โรงแรม, คอนโด, บ้านจัดสรร และ Urban Park ใหญ่ 4 ไร่

      ตอบโจทย์ Multi-Generation ด้วยดีไซน์ลำสมัยสะท้อนความภูมิใจของไอคอนนิกแลนด์มาร์ค อัตลักษณ์ของนครปฐมได้อย่างมีเสน่ห์ พร้อมการผสมผสานวิถีชีวิตของชุมชนริมน้ำไว้อย่างสวยงาม

         โดยมีคุณอิศเรศ จิราธิวัฒน์, คุณจุฑาธรรม จิราธิวัฒน์, คุณอครินทร์ ภูรีสิทธิ์ คุณวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์และ คุณรุจิเรศ นีรปัทมะร่วมพิธี ณ โครงการเซ็นทรัล นครปฐม เซ็นทรัล นครปฐม เป็นศูนย์การค้าลำดับที่ 42 ของเซ็นทรัลพัฒนา ปฐมบทใหม่ของความสุขบนทำเลศักยภาพ ที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของชาวนครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียง ด้วยไลฟ์สไตล์ 500 แบรนด์ ทุกหมวดหมู่ที่ตอบทุกความต้องการของนักช้อปทุกเจนเนอเรชั่น รวม
      ความสุข ถูกใจสายแฟชั่น สายบิวตี้ สายกิน สายหวาน สายแกดเจ็ต-ไอที สายฟิต สายบันเทิง และทุกคนในครอบครัว พร้อมด้วยธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล

        อาทิ Central Department Store, Tops,
      Power Buy, B2S, Supersports, OfficeMate และ Auto1 พร้อมให้ทุกคนมาเปิดประสบการณ์
      ใหม่แห่งการช้อป กิน เที่ยว ไว้ในที่เดียว พร้อมเปิดในวันที่ 30 มีนาคม 2567

      สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

      แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
      คุณอั้มมี่ โทร. 081-928-7702 Email: hatatthep@centralpattana.co.th

      คุณมีมี่ โทร.082-426-3914 Email: maninasreen@centralpattana.co.th

      วางศิลาฤกษ์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม แลนด์มาร์คใหม่ใหญ่สุดในนครปฐม

      “เซ็นทรัลพัฒนา” จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ “ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม”
      มิกซ์ยูสแลนด์มาร์คใหม่ในนครปฐม พร้อมเปิดให้บริการ 30 มีนาคม 2567


         คณุวัลยา จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนาจำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย
      ผู้บริหารระดับสูง คุณมุกดา จิราธิวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล กรรมการ บริษัท เซ็นทรัลหัวหินบีชรีสอร์ท
      จำกัด และ คุณรัตนา จิราธิวัฒน์ นรพัลลภ กรรมการ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด

         ได้ร่วมกันจัดพิธีวางศิลาฤกษ์ “ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม” โครงการมิกซ์ยูสแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางนครปฐม ศูนย์กลางการใช้ชีวิตแห่งใหม่ ประกอบด้วย ศูนย์การค้า, โรงแรม, คอนโด, บ้านจัดสรร และ Urban Park ใหญ่ 4 ไร่

      ตอบโจทย์ Multi-Generation ด้วยดีไซน์ลำสมัยสะท้อนความภูมิใจของไอคอนนิกแลนด์มาร์ค อัตลักษณ์ของนครปฐมได้อย่างมีเสน่ห์ พร้อมการผสมผสานวิถีชีวิตของชุมชนริมน้ำไว้อย่างสวยงาม

         โดยมีคุณอิศเรศ จิราธิวัฒน์, คุณจุฑาธรรม จิราธิวัฒน์, คุณอครินทร์ ภูรีสิทธิ์ คุณวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์และ คุณรุจิเรศ นีรปัทมะร่วมพิธี ณ โครงการเซ็นทรัล นครปฐม เซ็นทรัล นครปฐม เป็นศูนย์การค้าลำดับที่ 42 ของเซ็นทรัลพัฒนา ปฐมบทใหม่ของความสุขบนทำเลศักยภาพ ที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของชาวนครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียง ด้วยไลฟ์สไตล์ 500 แบรนด์ ทุกหมวดหมู่ที่ตอบทุกความต้องการของนักช้อปทุกเจนเนอเรชั่น รวม
      ความสุข ถูกใจสายแฟชั่น สายบิวตี้ สายกิน สายหวาน สายแกดเจ็ต-ไอที สายฟิต สายบันเทิง และทุกคนในครอบครัว พร้อมด้วยธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล

        อาทิ Central Department Store, Tops,
      Power Buy, B2S, Supersports, OfficeMate และ Auto1 พร้อมให้ทุกคนมาเปิดประสบการณ์
      ใหม่แห่งการช้อป กิน เที่ยว ไว้ในที่เดียว พร้อมเปิดในวันที่ 30 มีนาคม 2567

      สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

      แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
      คุณอั้มมี่ โทร. 081-928-7702 Email: hatatthep@centralpattana.co.th

      คุณมีมี่ โทร.082-426-3914 Email: maninasreen@centralpattana.co.th

      วางศิลาฤกษ์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม แลนด์มาร์กใหม่ใหญ่สุดในนครปฐม

      “เซ็นทรัลพัฒนา” จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ “ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม”
      มิกซ์ยูสแลนด์มาร์กใหม่ในนครปฐม พร้อมเปิดให้บริการ 30 มีนาคม 2567


         คณุวัลยา จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนาจำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย
      ผู้บริหารระดับสูง คุณมุกดา จิราธิวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล กรรมการ บริษัท เซ็นทรัลหัวหินบีชรีสอร์ท
      จำกัด และ คุณรัตนา จิราธิวัฒน์ นรพัลลภ กรรมการ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด

         ได้ร่วมกันจัดพิธีวางศิลาฤกษ์ “ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม” โครงการมิกซ์ยูสแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางนครปฐม ศูนย์กลางการใช้ชีวิตแห่งใหม่ ประกอบด้วย ศูนย์การค้า, โรงแรม, คอนโด, บ้านจัดสรร และ Urban Park ใหญ่ 4 ไร่

      ตอบโจทย์ Multi-Generation ด้วยดีไซน์ลำสมัยสะท้อนความภูมิใจของไอคอนนิกแลนด์มาร์ก อัตลักษณ์ของนครปฐมได้อย่างมีเสน่ห์ พร้อมการผสมผสานวิถีชีวิตของชุมชนริมน้ำไว้อย่างสวยงาม

         โดยมีคุณอิศเรศ จิราธิวัฒน์, คุณจุฑาธรรม จิราธิวัฒน์, คุณอครินทร์ ภูรีสิทธิ์ คุณวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์และ คุณรุจิเรศ นีรปัทมะร่วมพิธี ณ โครงการเซ็นทรัล นครปฐม เซ็นทรัล นครปฐม เป็นศูนย์การค้าลำดับที่ 42 ของเซ็นทรัลพัฒนา ปฐมบทใหม่ของความสุขบนทำเลศักยภาพ ที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของชาวนครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียง ด้วยไลฟ์สไตล์ 500 แบรนด์ ทุกหมวดหมู่ที่ตอบทุกความต้องการของนักช้อปทุกเจนเนอเรชั่น รวม
      ความสุข ถูกใจสายแฟชั่น สายบิวตี้ สายกิน สายหวาน สายแกดเจ็ต-ไอที สายฟิต สายบันเทิง และทุกคนในครอบครัว พร้อมด้วยธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล

        อาทิ Central Department Store, Tops,
      Power Buy, B2S, Supersports, OfficeMate และ Auto1 พร้อมให้ทุกคนมาเปิดประสบการณ์
      ใหม่แห่งการช้อป กิน เที่ยว ไว้ในที่เดียว พร้อมเปิดในวันที่ 30 มีนาคม 2567

      สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

      แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
      คุณอั้มมี่ โทร. 081-928-7702 Email: hatatthep@centralpattana.co.th

      คุณมีมี่ โทร.082-426-3914 Email: maninasreen@centralpattana.co.th

      วางศิลาฤกษ์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม แลนด์มาร์กใหม่ใหญ่สุดในนครปฐม

      “เซ็นทรัลพัฒนา” จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ “ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม”
      มิกซ์ยูสแลนด์มาร์กใหม่ในนครปฐม พร้อมเปิดให้บริการ 30 มีนาคม 2567


         คณุวัลยา จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนาจำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย
      ผู้บริหารระดับสูง คุณมุกดา จิราธิวัฒน์ เอื้อวัฒนะสกุล กรรมการ บริษัท เซ็นทรัลหัวหินบีชรีสอร์ท
      จำกัด และ คุณรัตนา จิราธิวัฒน์ นรพัลลภ กรรมการ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด

         ได้ร่วมกันจัดพิธีวางศิลาฤกษ์ “ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม” โครงการมิกซ์ยูสแลนด์มาร์กใหม่ใจกลางนครปฐม ศูนย์กลางการใช้ชีวิตแห่งใหม่ ประกอบด้วย ศูนย์การค้า, โรงแรม, คอนโด, บ้านจัดสรร และ Urban Park ใหญ่ 4 ไร่

      ตอบโจทย์ Multi-Generation ด้วยดีไซน์ลำสมัยสะท้อนความภูมิใจของไอคอนนิกแลนด์มาร์ก อัตลักษณ์ของนครปฐมได้อย่างมีเสน่ห์ พร้อมการผสมผสานวิถีชีวิตของชุมชนริมน้ำไว้อย่างสวยงาม

         โดยมีคุณอิศเรศ จิราธิวัฒน์, คุณจุฑาธรรม จิราธิวัฒน์, คุณอครินทร์ ภูรีสิทธิ์ คุณวุฒิเกียรติ เตชะมงคลาภิวัฒน์และ คุณรุจิเรศ นีรปัทมะร่วมพิธี ณ โครงการเซ็นทรัล นครปฐม เซ็นทรัล นครปฐม เป็นศูนย์การค้าลำดับที่ 42 ของเซ็นทรัลพัฒนา ปฐมบทใหม่ของความสุขบนทำเลศักยภาพ ที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของชาวนครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียง ด้วยไลฟ์สไตล์ 500 แบรนด์ ทุกหมวดหมู่ที่ตอบทุกความต้องการของนักช้อปทุกเจนเนอเรชั่น รวม
      ความสุข ถูกใจสายแฟชั่น สายบิวตี้ สายกิน สายหวาน สายแกดเจ็ต-ไอที สายฟิต สายบันเทิง และทุกคนในครอบครัว พร้อมด้วยธุรกิจในกลุ่มเซ็นทรัล

        อาทิ Central Department Store, Tops,
      Power Buy, B2S, Supersports, OfficeMate และ Auto1 พร้อมให้ทุกคนมาเปิดประสบการณ์
      ใหม่แห่งการช้อป กิน เที่ยว ไว้ในที่เดียว พร้อมเปิดในวันที่ 30 มีนาคม 2567

      สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

      แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
      คุณอั้มมี่ โทร. 081-928-7702 Email: hatatthep@centralpattana.co.th

      คุณมีมี่ โทร.082-426-3914 Email: maninasreen@centralpattana.co.th

      สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.นครปฐม จัดสัมมนาเครือข่าย “สื่อสร้างสรรค์ สร้างการรับรู้ ร่วมพัฒนาจังหวัดนครปฐม”

      จังหวัดนครปฐม โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม จัดสัมมนาเครือข่าย “สื่อสร้างสรรค์ สร้างการรับรู้ ร่วมพัฒนาจังหวัดนครปฐม เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนร่วมแสดงความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และการติดต่อประสานงานต่อไป

      นางสาวอโรชา  นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
      นางพัชรี  เรือนอินทร์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม

        เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 ที่ห้องศรีสง่า โรงแรมริเวอร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา  นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดการสัมมนาเครือข่าย “สื่อสร้างสรรค์ สร้างการรับรู้ ร่วมพัฒนาจังหวัดนครปฐม”

      โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ และเครือข่ายสื่อมวลชนในจังหวัดนครปฐม  จำนวน 100 คน เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้
      นางพัชรี  เรือนอินทร์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า การสัมมนา ประกอบด้วยการบรรยายพิเศษ “สื่อมวลชนสร้างสรรค์ ร่วมกันพัฒนาจังหวัดนครปฐม”

      โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม (นางสาวอโรชา  นันทมนตรี) การบรรยายให้ความรู้ก้าวทันโลกออนไลน์ “จริงหรือมั่ว ตรวจสอบให้ชัวร์ ก่อนแชร์” โดยทีม 1212 ETDA : สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เวที “หน่วยงานแจ้งข่าว สื่อมวลชนกระจายข่าว” โดยหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดนครปฐม แจ้งการดำเนินงานเป็นเรื่องที่ประชาชนอยากรู้ ควรรู้และต้องรู้ เพื่อขอความร่วมมือสื่อมวลชนนำไปเผยแพร่สู่ประชาชนต่อไป 

      ชมคลิป.https://drive.google.com/file/d/1S-O52GfJcMlaiX-6BuxLUwZXWV8AUmVM/view?usp=drivesdk


      สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

      Key 8 news รายงาน
      ข่าวเด็ดนครปฐมนิวส์ สนับสนุน

      สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.นครปฐม จัดสัมมนาเครือข่าย “สื่อสร้างสรรค์ สร้างการรับรู้ ร่วมพัฒนาจังหวัดนครปฐม”

      จังหวัดนครปฐม โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม จัดสัมมนาเครือข่าย “สื่อสร้างสรรค์ สร้างการรับรู้ ร่วมพัฒนาจังหวัดนครปฐม เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนร่วมแสดงความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และการติดต่อประสานงานต่อไป

      นางสาวอโรชา  นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
      นางพัชรี  เรือนอินทร์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม

        เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 ที่ห้องศรีสง่า โรงแรมริเวอร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา  นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดการสัมมนาเครือข่าย “สื่อสร้างสรรค์ สร้างการรับรู้ ร่วมพัฒนาจังหวัดนครปฐม”

      โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ และเครือข่ายสื่อมวลชนในจังหวัดนครปฐม  จำนวน 100 คน เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้
      นางพัชรี  เรือนอินทร์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า การสัมมนา ประกอบด้วยการบรรยายพิเศษ “สื่อมวลชนสร้างสรรค์ ร่วมกันพัฒนาจังหวัดนครปฐม”

      โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม (นางสาวอโรชา  นันทมนตรี) การบรรยายให้ความรู้ก้าวทันโลกออนไลน์ “จริงหรือมั่ว ตรวจสอบให้ชัวร์ ก่อนแชร์” โดยทีม 1212 ETDA : สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เวที “หน่วยงานแจ้งข่าว สื่อมวลชนกระจายข่าว” โดยหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดนครปฐม แจ้งการดำเนินงานเป็นเรื่องที่ประชาชนอยากรู้ ควรรู้และต้องรู้ เพื่อขอความร่วมมือสื่อมวลชนนำไปเผยแพร่สู่ประชาชนต่อไป 

      ชมคลิป.https://drive.google.com/file/d/1S-O52GfJcMlaiX-6BuxLUwZXWV8AUmVM/view?usp=drivesdk


      สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

      Key 8 news รายงาน
      ข่าวเด็ดนครปฐมนิวส์ สนับสนุน

      สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.นครปฐม จัดสัมมนาเครือข่าย “สื่อสร้างสรรค์ สร้างการรับรู้ ร่วมพัฒนาจังหวัดนครปฐม”

      จังหวัดนครปฐม โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม จัดสัมมนาเครือข่าย “สื่อสร้างสรรค์ สร้างการรับรู้ ร่วมพัฒนาจังหวัดนครปฐม เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนร่วมแสดงความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และการติดต่อประสานงานต่อไป

      นางสาวอโรชา  นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
      นางพัชรี  เรือนอินทร์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม

        เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 ที่ห้องศรีสง่า โรงแรมริเวอร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา  นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดการสัมมนาเครือข่าย “สื่อสร้างสรรค์ สร้างการรับรู้ ร่วมพัฒนาจังหวัดนครปฐม”

      โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ และเครือข่ายสื่อมวลชนในจังหวัดนครปฐม  จำนวน 100 คน เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้
      นางพัชรี  เรือนอินทร์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า การสัมมนา ประกอบด้วยการบรรยายพิเศษ “สื่อมวลชนสร้างสรรค์ ร่วมกันพัฒนาจังหวัดนครปฐม”

      โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม (นางสาวอโรชา  นันทมนตรี) การบรรยายให้ความรู้ก้าวทันโลกออนไลน์ “จริงหรือมั่ว ตรวจสอบให้ชัวร์ ก่อนแชร์” โดยทีม 1212 ETDA : สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เวที “หน่วยงานแจ้งข่าว สื่อมวลชนกระจายข่าว” โดยหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดนครปฐม แจ้งการดำเนินงานเป็นเรื่องที่ประชาชนอยากรู้ ควรรู้และต้องรู้ เพื่อขอความร่วมมือสื่อมวลชนนำไปเผยแพร่สู่ประชาชนต่อไป 

      ชมคลิป.https://drive.google.com/file/d/1S-O52GfJcMlaiX-6BuxLUwZXWV8AUmVM/view?usp=drivesdk


      สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

      Key 8 news รายงาน
      ข่าวเด็ดนครปฐมนิวส์ สนับสนุน

      สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.นครปฐม จัดสัมมนาเครือข่าย “สื่อสร้างสรรค์ สร้างการรับรู้ ร่วมพัฒนาจังหวัดนครปฐม”

      จังหวัดนครปฐม โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม จัดสัมมนาเครือข่าย “สื่อสร้างสรรค์ สร้างการรับรู้ ร่วมพัฒนาจังหวัดนครปฐม เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนร่วมแสดงความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และการติดต่อประสานงานต่อไป

        เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 ที่ห้องศรีสง่า โรงแรมริเวอร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา  นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดการสัมมนาเครือข่าย “สื่อสร้างสรรค์ สร้างการรับรู้ ร่วมพัฒนาจังหวัดนครปฐม”

      โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ และเครือข่ายสื่อมวลชนในจังหวัดนครปฐม  จำนวน 100 คน เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้
      นางพัชรี  เรือนอินทร์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า การสัมมนา ประกอบด้วยการบรรยายพิเศษ “สื่อมวลชนสร้างสรรค์ ร่วมกันพัฒนาจังหวัดนครปฐม”

      โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม (นางสาวอโรชา  นันทมนตรี) การบรรยายให้ความรู้ก้าวทันโลกออนไลน์ “จริงหรือมั่ว ตรวจสอบให้ชัวร์ ก่อนแชร์” โดยทีม 1212 ETDA : สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เวที “หน่วยงานแจ้งข่าว สื่อมวลชนกระจายข่าว” โดยหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดนครปฐม แจ้งการดำเนินงานเป็นเรื่องที่ประชาชนอยากรู้ ควรรู้และต้องรู้ เพื่อขอความร่วมมือสื่อมวลชนนำไปเผยแพร่สู่ประชาชนต่อไป 


      สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

      Key 8 news รายงาน
      ข่าวเด็ดนครปฐมนิวส์ สนับสนุน

      นครปฐม เปิดเทศกาลชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่งที่กำแพงแสน

      รองผู้ว่าฯ นครปฐม เปิดเทศกาลชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่งที่กำแพงแสน ที่ถนนวัฒนาเสถียรสวัสดิ์ หน้าโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม

      นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

        นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดงานเทศกาลชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่งที่กำแพงแสน โดยมี ศาสตราจารย์ เกียรติคุณ วัฒนา เสถียรสวัสดิ์ นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด พร้อมด้วย รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัด นายอำเภอกำแพงแสน ประชาสัมพันธ์จังหวัดท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และแขกผู้เกียรติ ร่วมชมบรรยากาศดอกชมพูพันธุ์ทิพย์บานสะพรั่งในครั้งนี้ โดย ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า การจัดงานเทศกาลชมพู พันธุ์ ทิพย์บานสะพรั่งที่ กำแพงแสน มีวัตถุประสงค์เพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย การเผยแพร่ความงามทางธรรมชาติของแนวต้นชมพูพันธุ์ทิพย์

      มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียน “รุกข มรดกแผ่นดิน” โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม
      ประจำปี 2562 การปลูกต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ในพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม เป็นแนวความคิดของท่านศาสตราจารย์ เกียรติคุณ วัฒนาเสถียรสวัสดิ์ เมื่อปีพุทธศักราช 2520 ขณะท่านดำรงตำแหน่งรองอธิการบดีวิทยาเขตกำแพงแสนท่านแรก มีนโยบายปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อเป็นแนวกันลมและเพื่อความร่มรื่นเป็นร่มเงาในอนาคตจึงได้กำหนดปลูกสองฟากถนน เริ่มต้นจากประตูชลประทานผ่านหน้าโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จนถึงประตูฝั่งจันทรุเบกษา ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดยท่านได้รับมอบเมล็ดพันธุ์มาจากท่น ศาสตราจารย์ ระพี สาคริฏ อธิการบดีในขณะนั้นที่ท่านได้นำเมล็ดพันธุ์มาจากประเทศสิงคโปร์

      ปัจจุบันวิทยาเขตกำแพงแสนปลูกต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ไว้ ทั้งหมด 1,258 ต้น

        โดยปลูกสองข้างทางถนนสายวัฒนาเสถียรสวัสดิ์ (ถนนสาย 1) จำนวน 580 ต้น พื้นที่สวน
      100 ปี จำนวน 77 ต้น สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จำนวน 12 ต้น สระพระพิรุณ จำนวน ๙98 ต้น พื้นที่ด้านหน้าสวนปรง จำนวน 90 ต้น พื้นที่บริเวณบ่อ 6 จำนวน 165 ต้น และ บริเวณข้างถนนดินขอบบ่อ 6 ถึงบริเวณที่พักอาศัยข้าราชการ จำนวน 236 ต้น
      สำหรับในปีพุทธศักราช 2567มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ได้คาดการณ์การบานของชมพูพันธุ์ทิพย์ ไว้ 3 ระยะ ประกอบด้วย
      ระยะที่ 1 บานประปราย ระหว่างวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2567
      ระยะที่ 2 บานสะพรั่ง ระหว่างวันที่ 4 – 10 มีนาคม 2567
      ระยะที่ 3 จะแจ้งให้ทราบภายหลัง (เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ส่งผลต่อปัจจัยการบานของดอก)

        สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ_ข่าว

      Key8 news.ราบงาน

      สนับสนุนโดย.

      นครปฐม. มอบโล่รางวัลเกียรติคุณ หมู่บ้านอยู่เย็นประจำปี 2566 ระดับจังหวัด

      นครปฐม. มอบโล่รางวัลเกียรติคุณ ให้แก่หมู่บ้านที่ได้รับรางวัลโครงการคัดเลือกหมู่บ้านเข้มแข็งตามแนวทาง “แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” (หมู่บ้านอยู่เย็น) ประจำปี 2566 ระดับจังหวัด

      เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ห้องประชุมพิมานปฐม ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานมอบโล่รางวัลเกียรติคุณ ของปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้แก่หมู่บ้านที่ได้รับรางวัลโครงการคัดเลือกหมู่บ้านเข้มแข็งตามแนวทาง “แผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง” (หมู่บ้านอยู่เย็น) ประจำปี 2566 ระดับจังหวัด

         โดยนายพัฒนพงษ์ สร้อยอินทรากุล ปลัดจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า กรมการปกครองได้แจ้งจังหวัดดำเนินโครงการคัดเลือกหมู่บ้านเข้มแข็งตามแนวทางแผ่นดินธรรม แผ่นดินทอง (หมู่บ้านอยู่เย็น) ประจำปี 2566 ขึ้น เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจและให้รางวัลแก่หมู่บ้านที่คณะกรรมการหมู่บ้าน (กม.) / คณะกรรมการกลางหมู่บ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (อพป.) ที่มีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์สามารถเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติงานให้แก่หมู่บ้านอื่น ๆ และสาธารณะชนรับทราบอย่างแพร่หลาย โดยดำเนินการคัดเลือกหมู่บ้านในระดับตำบล ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด ระดับเขต และระดับภาค ตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนการดำเนินการที่กำหนด
      โดยในระดับจังหวัด จังหวัดนครปฐม ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจประเมินผลงานและตัดสิน ประจำปี พ.ศ. 2566 ซึ่งได้ทำการตรวจผลการคัดเลือกในระดับจังหวัด เรียบร้อยแล้ว ผลการคัดเลือก มีดังนี้

      รางวัลชนะเลิศ 
      บ้านยางพัฒนา หมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งกระพังโหม อำเภอกำแพงแสน
      รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1
      บ้านอ้อมใหญ่ หมู่ที่ 4 ตำบลอ้อมใหญ่ อำเภอสามพราน
      สำหรับหมู่บ้านที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับจังหวัดนครปฐม ได้ทำการแข่งขันชนะเลิศในระดับเขตตรวจราชการกรมการปกครองที่ 2 และแข่งขันได้รับรางวัลชนะเลิศระดับภาคกลาง ซึ่งจะเข้ารับรางวัลถ้วยเกียรติยศพระราชทานของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
      ในวันคณะกรรมการหมู่บ้าน ณ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ต่อไป 

      ……………………………………
      สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

      กรมการปกครอง ร่วมกับ DSI จับกุมขบวนการเพจ Facebook โฆษณาหลอกลวงรับทำบัตรประจำตัวประชาชน

      กรมการปกครอง ร่วมกับ DSI จับกุมขบวนการเพจ Facebook โฆษณาหลอกลวงรับทำบัตรประจำตัวประชาชน

      วันที่ 22 พ.ย. 2566 เวลา 09.30 น. พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยนายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ร่วมกันแถลงผลการดำเนินคดีขบวนการเพจ Facebook โฆษณาหลอกลวงรับทำบัตรประจำตัวประชาชน สืบเนื่องจากกระทรวงมหาดไทย ได้รับข้อร้องเรียนจากประชาชน กรณีมีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ทั้งเพจ Facebook และแอปพลิเคชัน LINE หลอกลวงประชาชน ว่าสามารถทำบัตรประจำตัวประชาชนให้กับบุคคลต่างด้าว บุคคลไม่มีสัญชาติ หรือบุคคลที่ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนได้ ซึ่งมีผู้ถูกหลอกลวงสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก

      กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นพบว่ามีมูลในการกระทำความผิด จากนั้นจึงบูรณาการร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อทำการสืบสวนจากเส้นทางการเงินของบัญชีผู้รับโอนเงินจากผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวง ซึ่งมีลักษณะเป็นบัญชีม้าเรื่อยไปเป็นทอดๆ

      โดยเริ่มจากบัญชีของผู้กระทำความผิดที่อยู่ในพื้นที่ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ จากนั้นมีการโอนไปยังบัญชีของผู้กระทำความผิดในพื้นที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และมีการโอนต่อไปอีกยังบัญชีที่คาดว่าเป็นตัวการและมีการกดเงินจากตู้ ATM ในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งบัญชีดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงได้รับกรณีนี้ไว้เป็นคดีพิเศษที่ 98/2566

      และเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2566 ตั้งแต่เวลาประมาณ 15.30 น. กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำโดย นายเขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ พร้อมด้วยกรมการปกครอง นำโดย ดร.รัฐวิช จิตสุจริตวงศ์ นายอำเภอศรีรัตนะ รักษาการในตำแหน่ง ผอ.ส่วนการสอบสวนคดีอาญา สำนักการสอบสวนและนิติการ ได้บูรณาการร่วมกันโดยแบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด ย้อนรอยนำหมายจับและหมายค้น เข้าจับกุมตัวการและผู้สนับสนุนการกระทำความผิด รวมทั้งตรวจค้นรวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่องกัน จำนวน 3 พื้นที่ ได้แก่ 1. พื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จับกุมผู้กระทำความผิด จำนวน 1 คน 2. พื้นที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จับกุมผู้กระทำความผิด จำนวน 1 คน 3. พื้นที่ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ จับกุมผู้กระทำความผิด จำนวน 1 คน ซึ่งผู้กระทำความผิดทั้งหมดเชื่อว่า มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันเป็นขบวนการ

      โดยนายสมชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการปกครองในฐานะผู้ที่มีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน พร้อมทั้ง มีหน้าที่ดูแลระบบการทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชนของประเทศ การกระทำดังกล่าว นอกจากจะเป็นการสร้างความเดือนร้อนรังแกประชาชนแล้ว ยังเป็นการทำลายความเชื่อมั่นในระบบการทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชนของประเทศอีกด้วย ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนได้โปรดอย่าได้หลงเชื่อบุคคลใด ว่าสามารถจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนในระบบออนไลน์หรือทางโซเชียลมิเดียได้ เพราะการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนนั้น มีขั้นตอนตามกฎหมายที่กำหนดไว้แน่ชัด โดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์ กรมการปกครองไม่มีนโยบายในการรับทำบัตรประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์และไม่มีการเรียกเก็บเงินใดทั้งสิ้น

      โดยประชาชนที่ตกเป็นเสียหายหรือถูกหลอกลวงจากเครือข่ายในลักษณะดังกล่าวนี้ สามารถติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด/อำเภอทุกแห่ง หรือ Call Center โทร. 1567 เพื่อจักได้ประสานความช่วยเหลือและการดำเนินคดีกับกรมสอบสวนคดีพิเศษต่อไป หรือหากประชาชนมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการทะเบียนราษฎรและบัตรประจำตัวประชาชน สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สำนักทะเบียนอำเภอหรือสำนักทะเบียนท้องถิ่นทุกแห่งใกล้บ้าน หรือ Call Center โทร. 1548

      ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยความสำเร็จ “แบบบ้านประหยัดพลังงาน” ภายใต้ “โครงการสินเชื่ออยู่เย็น เป็นสุข”

      ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เผยความสำเร็จ “แบบบ้านประหยัดพลังงาน” ภายใต้ “โครงการสินเชื่ออยู่เย็น เป็นสุข” โชว์ 10 ผลงานสร้างสรรค์ ยกระดับการอยู่อาศัย บ้านยุคใหม่ “อยู่สบาย” และ “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” จากการประกวดเพื่อคว้ารางวัล มูลค่ามากกว่า 1 ล้านบาท พร้อมให้ดาวน์โหลดแบบบ้าน ฟรี!!! ขับเคลื่อนเป้าหมาย “ทำให้คนไทยมีบ้าน” และร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกที่ยั่งยืนต่อไป

      นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานการตลาด ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า
      เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวันสถาปนาครบรอบ 70 ปี ธอส. และประกาศความสำเร็จของการประกวดแบบบ้านประหยัดพลังงาน ภายใต้ “โครงการสินเชื่ออยู่เย็น เป็นสุข” ธอส. จึงได้จัดงาน “Roadshow ประชาสัมพันธ์การดาวน์โหลดแบบบ้านประหยัดพลังงาน โครงการสินเชื่ออยู่เย็น เป็นสุข”

      โดยงานจัดขึ้นที่ลานน้ำพุ ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เวสเกต ระหว่างวันที่ 23-24 กันยายน 2566 หลังจากการประกวดแบบบ้านประหยัดพลังงานดังกล่าว ได้รับความสนใจจากนิสิต นักศึกษา บุคคลทั่วไป และคณะบุคคลที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปนิกทั่วประเทศ ร่วมส่งผลงานการออกแบบบ้านที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และประหยัดพลังงาน ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2566 มากกว่า 265 ผลงาน ก่อนประกาศผล 10 ผลงานของผู้ได้รับรางวัลในการตัดสินรอบสุดท้ายในวันที่ 12 พฤษภาคม 2566 ซึ่งแบบบ้านที่ชนะเลิศ ได้ผ่านการตัดสิน


      โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสภาวิศวกร สภาสถาปนิก สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ สถาบันอาคารเขียวไทย และผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปัตยกรรม โดยแบบบ้านที่ชนะการประกวดได้รับเงินรางวัลมูลค่ารวมมากกว่า 1 ล้านบาท และประกาศเกียรติคุณรับรองผ่านการประเมินเกณฑ์ประสิทธิภาพพลังงานในโครงการบ้านเบอร์ 5 ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ประชาชนสามารถดาวน์โหลด
      แบบบ้านประหยัดพลังงานไปใช้ได้ ฟรี!!! ผ่านทาง http://www.ghbank.co.th เพื่อนำไปปลูกสร้างได้จริง โดยธนาคารพร้อมสนับสนุนสินเชื่อเพื่อปลูกสร้าง อัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อเป็นทางเลือกและสนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยประหยัดพลังงานเป็นของตนเอง

      สำหรับแบบบ้านที่ชนะการประกวดในรางวัลแบบบ้านขนาดเล็ก ได้แก่ “บ้านโอบกอด” ที่มีจุดเด่นของการออกแบบอาคารให้มีความสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม การใช้ทิศทางของลมและแสงแดดให้ความใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม, บ้าน “EVERYHOME” ที่ชนะใจกรรมการตัดสินด้วยแนวคิด Flexible ความยืดหยุ่นที่พร้อมตอบรับผู้ใช้งานคนไทย “ทุกคน” ให้ได้มีบ้านอยู่เย็นเป็นสุขใน “ทุกที่”, “บ้านเล็กในเมืองใหญ่” ที่ออกแบบบ้านประหยัดพลังงานสำหรับพื้นที่แคบในเมือง , “บ้าน ชาน เอิ้น” ที่นำภูมิปัญญาของคนอีสานมาออกแบบบ้านให้มีพื้นที่ตรงกลาง หรือใต้ถุนบ้านสำหรับทำกิจกรรมของครอบครัว และ “บ้านกินลม” ที่ออกแบบบ้านโปร่งโล่ง ลมและแสงเข้าสู่ตัวบ้านได้ง่าย มีใต้ถุนที่อากาศถ่ายเทสะดวก ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง

      ด้านแบบบ้านที่ชนะการประกวดในรางวัลแบบบ้านขนาดใหญ่ ได้แก่ บ้าน “Well Being House” โดยออกแบบบ้านให้คนทั้งครอบครัวได้อยู่ด้วยกัน ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีสุขภาวะที่ดี และประหยัดพลังงาน, “บ้านระเบียงเคียงดิน” ที่เน้นการหาวัสดุที่หาได้ง่ายในชนบท ช่วยประหยัดค่าก่อสร้างบ้าน “GREENHAUS” ที่ออกแบบบ้านที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกแง่มุม, “บ้านเรือนกลางสวน” โดยใช้นวัตกรรมใหม่ ๆ เป็นเครื่องมือในการออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน Active Design และ บ้าน “SBYE HOUSE” ที่มีแนวคิดการออกแบบจากสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น และใกล้ชิดธรรมชาติผสมผสานอย่างลงตัว

      ชมคลิป.https://youtu.be/SdGsDENB3Cs?si=cksPtpSEhhL6sTJr

      ผบช.ภ.7 บรรจุพระยอดธงบนยอดเสาธง อาคารใหม่ ภาค 7

      ผบช.ภ.7 บรรจุพระยอดธงบนยอดเสาธง อาคารใหม่ ภาค 7

      พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7

      วันที่ 5 กันยายน 2566 ที่ทำการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ใหม่) ถนนขวาพระ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 (ผบช.ภ.7) ประธานฝ่ายฆราวาส และ พระครูพิพิธเจติยาภิบาล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิ หาร เจ้าอาวาสวัดปรมัยยิกาวาส วรวิหาร ประธานฝ่ายสงฆ์ เป็นประธานในพิธีบรรจุพระยอดธงและสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนหัวบัวยอดเสาธง หน้าที่ทำการตำรวจภูธรภาค7(ใหม่) โดยมี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รองผบก.ภ.จว.นครปฐม ร่วมพิธีด้วย

      พิธีการเริ่มด้วย พ.ต.อ.วีระศักดิ์ ทองสาริ อนุศาสนาจารย์ ตร. นำประกอบการฯ โดยมี พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ปรีดา อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7 พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.นรเศรษฐ์ สุวรรณนิกขะ ผบก.กค.ภ.7 ผู้กำกับการตำรวจภูธร สภ.ในสังกัดภูธรจังหวัดนครปฐม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี

      ทั้งนี้วันที่ 7 กันยายน พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่ทำการ ตำรวจภูธรภาค 7 จะทำพิธีเปิดอาคารที่ทำการตำรวจภูธรภาค7(ใหม่) ต่อไป

      ราชบุรี. ตลาดศรีเมืองมอบทุนนักเรียน 108 ทุน

      สำนักงานตลาดศรีเมืองราชบุรี มอบทุนการศึกษาประจำปี 2566 แก่บุตรพนักงาน และเจ้าหน้าที่


      ที่สำนักงานตลาดศรีเมือง นางวีณา ศรีสรรพางค์ รองประธานกรรมการบริหารตลาดศรีเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นประธานมอบทุนการศึกษาแก่บุตรพนักงานตลาดศรีเมือง ประจำปี 2566 ณ ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานศรีเมือง

      สำหรับการมอบทุนดังกล่าวเป็นความประสงค์ของคุณนภินทร – คุณวีณา ศรีสรรพางค์ ประธานกรรมการบริหารตลาดศรีเมือง และครอบครัว ที่ต้องการสร้างขวัญกำลังใจ ลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่พนักงาน รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนการศึกษาแก่บุตรพนักงาน จำนวน 108 ทุน โดยแบ่งเป็นระดับชั้นอนุบาลถึงระดับปริญญาตรี เป็นเงินทั้งสิ้น 176,500 บาท

      ขอบคุณภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

      นครปฐม.ไร่ขิงจัด บาสเกตบอลการกุศล ในรายการ “RAIKHING SPORT GAMES 2023”

      โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยาจัด บาสเกตบอลการกุศล ในรายการ “RAIKHING SPORT GAMES 2023

      ที่โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา อ.สามพราน จ.นครปฐม ได้มีการแถลงข่าวการจัดการแข่งขันบาสเกตบอลการกุศล ในรายการ“ไร่ขิง สปอร์ตเกมส์ 2023” โดยจะมีการแข่งขันระหว่างวันที่ 23 กันยายน ถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2566 และรอบชิงชนะเลิศระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม 2566 ณ โดมอเนกประสงค์ โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา อ.สามพราน จ.นครปฐม


      โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างโอกาสให้เยาวชน และบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งประชาชนทั่วไปได้รับประโยชน์จากการจัดกิจกรรมในด้านการกีฬา และเพื่อให้คณะครู ผู้ปกครอง และเครือข่ายศิษย์เก่าอนันต์ฯ-ไร่ขิงวิทยา รวมถึงบุคคลทั่วไปมีส่วนร่วมในการจัดหาทุนสนับสนุนสำหรับกิจกรรมทางการศึกษาของโรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยาต่อไป




      ซึ่งภายในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 22 ตุลาคม 2566 จะมีกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมาย อาทิ การแข่งขันชู้ตบาส 3 แต้ม การแข่งขันดังก์ การแข่งขันบาสเกตบอลรอบพิเศษ ระหว่างผู้บริหารโรงเรียนและสมาคมผู้ปกครอง ครู และศิษย์เก่าอนันต์ฯ-ไร่ขิงวิทยา แข่งขันกับ นักกีฬาบาสเกตบอล All Star ทีมนักแสดงและศิลปิน โชว์สตรีทแดนซ์ และมินิคอนเสิร์ตภายในงานอีกด้วย

      เปิดยิ่งใหญ่กีฬาสีลูกพระพันปี รร.ราชินีนครปฐม

      เปิดยิ่งใหญ่กีฬาสีลูกพระพันปี โรงเรียนราชินีบูรณะนครปฐม

      เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 ที่โรงเรียนราชินีบูรณะ อ.เมือง จ.นครปฐม นายกองตรี เอกพันธุ์ คุปตวัช อดีตนายกเทศมนตรีนครนครปฐม กรรมการสถานศึกษาโรงเรียนราชินีบูรณะ ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬาภายใน(กีฬาสี)ครู นักเรียนโรงเรียนราชินีบูรณะ “ราชาวดีเกม” ประจำปีการศึกษา2566 มีว่าที่ร้อยตรีมนต์เมืองใต้ รอดอยู่ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชินีบูรณะ รายงานว่าการแข่งขันกีฬาภานใน “ราชาวดีเกม” นี้เกิดจากความร่วมมือของกลุ่มการเรียนรู้สุขศึกษาและพละศึกษา ร่วมกับกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน คณะครู คณะกรรมการสถานศึกษา และนักเรียน ระหว่างวันที่ 24-25 สิงหาคม 2566

      เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน ได้พัฒนาร่างกายจิตใจ อารมณ์ และสังคมฝึกการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี ผ่านการเล่นกีฬา และอยากส่งเสริมให้นักเรียนได้แสดงความสามารถและรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ห่างไกลยาเสพติด และเพื่อส่งเสริมความรัก สามัคคี ผู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย มีน้ำใจเป็นนักกีฬา

      โรงเรียนราชินีบูรณะ เป็นสถานศึกษาหญิงล้วน ลูกพระพันปี แต่ลูกของเราสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้ทั้งที่เป็นงานของผู้ชาย ด้วยความสามารถและความร่วมมือร่วมใจกัน ทำให้กิจกรรมนี้สำเร็จ สมบูรณ์แบบ ทั้ง 4สี เป็นที่เชิดหน้าชูตาว่านี่คือลูกพระพันปี” ว่าที่ร้อยตรีมนต์เมืองใต้ กล่าว

      นายกองตรี เอกพันธุ์ คุปตวัช กล่าวว่า กีฬาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเราได้ผ่านอะไรๆมาทั้งเหนื่อย อดทน จนได้ชัยชนะ ล้วนมาจากความสามัคคีทั้งสิ้น ขอขอบคุณที่น้องๆร่วมมือกัน ทำให้งานวันนี้สำเร็จ สมบูรณ์ และยินดีที่ได้มาเป็นประธานเปิดงาน “ราชาวดีเกม 2566” ทั้งนี้ได้มอบทุนสนับสนุนให้กับทีมสีทั้ง 4ทีม เพื่อขวัญใจสืบไป ขอให้ทุกคนรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย

      อนึ่งโรงเรียนราชินีบูรณะ แห่งนี้ก่อตั้งครั้งแรกใน พ.ศ. 2457 เดิมใช้ชื่อโรงเรียนว่า “สตรีวิทยา” ปี 2460 โรงเรียนได้ถูกเพลิงไหม้ จึงได้ย้ายสถานศึกษามาอยู่ที่เรือนพักกองเสือป่า ในภายหลัง เจ้าพระยาศรีวิไชยชนินทร (ชม สุนทราชุน) ผู้เป็นข้าหลวงเทศาภิบาลผู้สำเร็จราชการมณฑลนครชัยศรี ได้ให้คุณหญิงทองอยู่ สุนทราชุน ผู้เป็นภรรยา เข้ารับพระราชทานทรัพย์ พร้อมที่ดินจากสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถพระพันปีหลวง มาสร้างโรงเรียนรวมถึงอาคารเรียนตามแปลน ของกระทรวงธรรมการในสมัยนั้น และจัดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2462 โดยสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถพระพันปีหลวง โปรดเกล้าฯ ให้พระวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร เสด็จแทนพระองค์ และพระราชทานนามโรงเรียนแห่งนี้ว่า “โรงเรียนราชินีบูรณะ” นับแต่นั้นเป็นต้นมา

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

      ตลาดศรีเมืองราชบุรี มอบเสบียงอาหารให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้

      ตลาดศรีเมืองมอบเสบียงอาหารให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชีในการเดินลาดตระเวนรักษาป่าไม้และสัตว์ป่า

      นายชุมพล แก้วเกตุ และนางวีณา ศรีสรรพางค์



      วันที่ 4 ส.ค.66 ที่ตลาดศรีเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี นางวีณา ศรีสรรพางค์ รองประธานกรรมการบริหารตลาดกลางผัก และผลไม้ (ตลาดศรีเมือง ) อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้มอบเงินสดจำนวน 5,000 บาท พร้อมเครื่องอุปโภค บริโภค พืชผัก ผลไม้

      ประกอบด้วย โลชั่นกันยุงแบบซองจำนวน 960 ซอง โลชั่นกันยุงแบบขวด 180 ขวด ข้าวสาร 2 กระสอบ น้ำดื่ม 120 ขวด ปลากระป๋อง 100 กระป๋องบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 180 ซอง ไข่เค็ม 300 ฟอง น้ำพริก 120 กระปุก และผักสด รวมเป็นเงิน 20,925 บาท ให้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี เพื่อเป็นเสบียงอาหาร ของกิน ของใช้ สำหรับหน่วยพิทักษ์ป่า เพื่อนำไปสนับสนุนการปฏิบัติงานในการออกเดินลาดตระเวนดูแลรักษาป่าไม้ และสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชีจังหวัดราชบุรี โดยมีนายชุมพล แก้วเกตุ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชีจังหวัดราชบุรี เป็นผู้รับมอบ ที่สำนักงานตลาดศรีเมือง จ.ราชบุรี


      ขอบคุณภาพข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

      เปิดแล้วงาน “มหกรรมเกษตรและกล้วยไม้นครปฐม 66”

      จังหวัดนครปฐมเปิดงาน “มหกรรมเกษตรและกล้วยไม้นครปฐม 66” เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตร และสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภค ภายใต้ตราสัญลักษณ์รับรอง “นครปฐมการันตี”

      นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

      วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ที่โครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา ตำบลบ่อพลับ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมเปิดงาน “มหกรรมเกษตรและกล้วยไม้นครปฐม 66” โดยจังหวัดนครปฐม ร่วมกับ สำนักงานเกษตรจังหวัด หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร ชมรม และเครือข่ายเกษตรกร กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม ถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2566 ภายใต้โครงการพัฒนานครปฐมให้เป็นเมืองอัจฉริยะ ที่มีอัตลักษณ์ด้านแปรรูปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี รองรับการท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรม เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตร และผลิตภัณฑ์เกษตร รวมถึงกล้วยไม้ ไม้ดอกและไม้ประดับ ให้สาธารณชนได้รู้จักอย่างแพร่หลาย อีกทั้งเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าเกษตรคุณภาพ ยกระดับการท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรมของจังหวัด ตลอดจนแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการตลาดและเชื่อมโยงการค้าในอนาคต

      นางสาวธนนันท์ ศรีสุวะ เกษตรจังหวัดนครปฐม

      นางสาวธนนันท์ ศรีสุวะ เกษตรจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า จังหวัดนครปฐมมีพื้นที่การเกษตร จำนวน 637,488 ไร่ เกษตรกร จำนวน 49,963 คน ส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญในอาชีพการเกษตรที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ ทางจังหวัดได้มีการสนับสนุนส่งเสริมให้เกษตรกร ผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรให้มีมาตรฐานปลอดภัย สร้างมูลค่าภาคการเกษตร เสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรอย่างเป็นระบบ และการเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตร จึงได้จัดทำระบบการรับรองคุณภาพสินค้า เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรผู้ผลิตสินค้าเกษตร เกิดการพัฒนาการผลิตเข้าสู่มาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ และสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภค ภายใต้ตราสัญลักษณ์รับรอง “นครปฐมการันตี”

      สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจำหน่ายสินค้าเกษตรปลอดภัย สินค้าเกษตรแปรรูป สินค้าประมง สินค้าปศุสัตว์ ของดีจังหวัดนครปฐม ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี มีการรับรอง “นครปฐมการันตี” กว่า 170 ร้านค้า อีกทั้งการประกวดกล้วยไม้ ได้แก่ กล้วยไม้ต้นในกระถาง 12 ประเภท กล้วยไม้ตัดดอก 3 ประเภท กล้วยไม้หมู่ 3 ประเภท ตลอดจนการประกวดไม้ดอกไม้ประดับ 4 ประเภท การจัดสวนกล้วยไม้เลียนแบบธรรมชาติ การจัดสวนไม้ประดับ ประกวดผลไม้ 8 ประเภท การแข่งขันทักษะทางการเกษตร 3 วัย รวมทั้งสิ้น 184 รายการ นอกจากนี้ยังมีการจัดอบรมอาชีพทางการเกษตร จำนวน 10 หลักสูตร การแสดงดนตรีจากสถาบันการศึกษาต่างๆ การแสดงของชมรม TO BE NUMBER ONE และการจัดนิทรรศการสินค้าเกษตร ทั้ง 7 อำเภอ ที่ผ่านการรับรองภายใต้ตราสัญลักษณ์ “นครปฐมการันตี” อีกด้วย

      ทั้งนี้ ประชาชนและนักท่องเที่ยว สามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ภายในงานมหกรรมเกษตรและกล้วยไม้นครปฐม 66 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2566 ระหว่างเวลา 15.00 น. – 21.00 น. ณ โครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา ตำบลบ่อพลับ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม


      ขอขอบคุณ สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

      งานมหกรรมเกษตร และกล้วยไม้นครปฐม 66

      นายกองเอกพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

      นายกองเอกพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้เป็นประธานร่วมประชุมโดยมีสำนักงานเกษตรจังหวัด ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร ชมรม และเครือข่ายเกษตรกรในจังหวัดนครปฐม กำหนดที่จะจัดงานมหกรรมเกษตรและกล้วยไม้นครปฐม 66 ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 15.00 น. – 21.00 น. ณ อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา ตำบลบ่อพลับ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยภายในงานจะประกอบไปด้วยการจัดแสดงกล้วยไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ พืชผล พืชผัก อย่างสวยงามตระการตา พร้อมจุด Check In ถ่ายภาพ อีกทั้งมีการประกวดกล้วยไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ จัดสวนพืชผัก ผลไม้ กิจกรรมฝึกอบรมระยะสั้น ได้แก่ การทำขนมเค้กส้มโอ ชาส้มโอ เครื่องดื่มจากมะพร้าว ขนมจากมะพร้าว การเพาะต้นอ่อนทานตะวัน ผักบุ้ง ถั่วงอก ถั่วลันเตา การปลูกผักสลัดในดิน การทำสลัดผัก กิมจิ ผักดอง การร้อยมาลัยกล้วยไม้ จัดดอกไม้สด จัดกระเช้า จัดสวนถาด กิจกรรมส่งเสริมการขาย และการเชื่อมโยงธุรกิจกลุ่มจากผู้ประกอบการรุ่นใหม่

      นอกจากนี้ยังมีการแสดงของชมรม To Be Number One จังหวัดนครปฐม การแข่งขันกีฬาอีสปอร์ต (ROV) และการแสดงดนตรีพร้อม Influencer ที่มีชื่อเสียงการแสดงดนตรีของผู้ที่บกพร่องทางการได้ยิน ตลอดจนการจำหน่ายสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรนาทีทองในราคาพิเศษ ร้านอาหารฟู้ดทรัค สามารถเลือกซื้อ เลือกกิน เลือกช้อป ทุกสรรพสิ่งในราคาย่อมเยา และการจัดนิทรรศการแสดงผลผลิตทางการเกษตรของอำเภอต่างๆ ทั้ง 7 อำเภอ ที่ผ่านการรับรองในนาม “นครปฐมการันตี” อีกด้วย

      สำหรับในวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดนครปฐม ได้จัดพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยมีส่วนราชการ ประชาชนชาวนครปฐม และนักท่องเที่ยว เข้าร่วมพิธี ณ อาคารปฐมสัมมาคาร อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป


      สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

      สองมหาวิทยาลัย ร่วมเป็นเจ้าภาพงานวันสหกิจศึกษาบูรณาการกับการทำงาน (CWIE DAY) ครั้งที่ 13

      มทร.รัตนโกสินทร์ ร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และมหาวิทยาลัยสยาม ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดพิธีเปิดงานวันสหกิจศึกษาบูรณาการกับการทำงาน (CWIE DAY) ครั้งที่ 13 CWIE พัฒนากำลังคนสมรรถนะสูง เชื่อมโยง BCG สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี พ.ศ.2566

      วันที่ 6 มิถุนายน 2566 ที่หอประชุมบัวสวรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา จังหวัดนครปฐม นายสัมพันธ์ เย็นสำราญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดงานวันสหกิจศึกษาบูรณาการกับการทำงาน (CWIE DAY) ครั้งที่ 13 CWIE พัฒนากำลังคนสมรรถนะสูง เชื่อมโยง BCG สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี พ.ศ.2566

         โดยมีนายชยชัย แสงอินทร์  รองผู้ว่าจังหวัดนครปฐม , ดร.พรชัย มงคลวนิช อธิการบดี มหาวิทยาลัยสยาม และประธานเครือข่าย CWIE ภาคกลางตอนล่าง และรศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี กล่าวต้อนรับ อีกทั้ง ดร.กิตวิชัย ไชยพรศิริ นายอำเภอพุทธมณฑล คณาจารย์ นักศึกษาร่วมเป็นเกียรติในพิธี

        ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ปอว.) กล่าวว่า  มทร.รัตนโกสินทร์ ร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และมหาวิทยาลัยสยาม ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดพิธีเปิดงานวันสหกิจศึกษาบูรณาการกับการทำงาน (CWIE DAY) ครั้งที่ 13 CWIE พัฒนากำลังคนสมรรถนะสูง เชื่อมโยง BCG สู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี พ.ศ.2566 ซึ่งได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอ้าน นายกสมาคมสหกิจศึกษาไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ความท้าทายและโอกาสของสหกิจศึกษาและการศึกษาเชิงบูรณาการกับการทำงานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG” Challenges and Opportunities for CWIE to Drive BCG Economy” แก่ผู้เข้าร่วมงาน



         ซึ่งทางมหาวิทยาลัย มีความมุ่งมั่นในการผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติ และมีหลักสูตรเฉพาะทางด้านสหกิจศึกษา ร่วมกับสถานประกอบการโดยการส่งนักศึกษาเข้าเรียนรู้ประสบการณ์การทำงานก่อนที่จะสำเร็จการศึกษาจริง จัดให้มีการบูรณาการการศึกษาให้ร่วมกับการทำงานที่มากขึ้น โดยมุ่งพัฒนากำลังคนเพื่อตอบสนองการพัฒนาประเทศ ให้นักศึกษาฝึกประสบการณ์ทำงานร่วมกับด้านเอกชนและจะต้องนำองค์ความรู้ที่ได้รับ มาต่อยอดตามความหลากหลายในด้านต่าง ๆ ของประเทศอีกด้วย ทั้งนี้งานวันสหกิจศึกษาบูรณาการกับการทำงาน (CWIE DAY) ครั้งที่ 13 ประจำปี พ.ศ. 2566 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 -7 มิถุนายน 2566 ณ มทร.รัตนโกสินทร์ ศาลายา จ.นครปฐม

      ชมคลิป https://drive.google.com/file/d/1LRTuTdYPJNGNieUoz1RqdXRxQmspSHLH/view?usp=drivesdk

      ขอบคุณ สนง.ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

      รองนายก อบจ. นครปฐม พร้อมคณะร่วมกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2566

      รองนายก อบจ. พร้อมด้วย สมาชิกสภาฯ หัวหน้าส่วนราชการ และพนักงาน อบจ.นครปฐม ได้ร่วมกิจกรรมวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2566

      เมื่อวันศุกร์ที่ 2 มิถุนายน 2566 นายรัฐการ พรรณพัฒน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย สมาชิกสภาจังหวัดทุกเขต และหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมพนักงาน องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม

      ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2566 ณ สถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่นอุปถัมภ์) เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียว ให้มีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้นและเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อนอีกทางหนึ่ง

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

      คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้จำหน่ายชุดสังฆทานฯ

      เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม เพื่อให้คำแนะนำจัดทำสลากสินค้าถูกต้องตามกฎหมาย

      วันที่ 1 มิถุนายน 2566 นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วย นายพัสกร ทัพมงคล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก ร่วมกับจังหวัดนครปฐม คณะทำงานตรวจสอบฉลากสินค้าที่ควบคุมฉลาก ได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายชุดสังฆทานและชุดไทยธรรม ที่บริษัท มาลัยรัก จำกัด ตำบลกระทุ่มล้ม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

      เพื่อตรวจสอบแนะนำให้ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมจัดทำฉลากสินค้าประเภทชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด อันเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับข้อที่ถูกต้อง และเพียงพอต่อการตัดสินใจซื้อชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมไปถวายภิกษุสงฆ์ เพื่อทำบุญเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล ตลอดจนเป็นการเฝ้าระวังการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค ประกอบกับช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่จะมาถึงนี้ คือวันวิสาขบูชา ซึ่งจะมีประชาชนผู้มีจิตศรัทธา มีกุศลเจตนาในการทำบุญ จะซื้อสินค้าชุดสังฆทานหรือชุดไทยธรรมนำไปถวายภิกษุสงฆ์เพื่อทำบุญเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัว


      ทั้งนี้ หากร้านค้าขายชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่การแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีเป็นผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
      จากการลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจ ในวันนี้ พบว่า ผู้ประกอบธุรกิจได้ดำเนินการจัดทำฉลากชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมถูกต้องครบถ้วนตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก ฉบับที่ 23 (พ.ศ. 2550)เรื่อง ให้ชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก ทั้งนี้ ในส่วนภูมิภาค สคบ.จังหวัดทุกจังหวัด จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายชุดสังฆทานและชุดไทยธรรมในแต่ละพื้นที่ของจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อกำชับให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัดด้วย

      ชมคลิป https://drive.google.com/file/d/1ASWIx2wvMHtxFEbaqnCc3AvFV4B8lLC4/view?usp=drivesdk

      สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม /ข่าว

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

      เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม ร่วมกับภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 4 จังหวัดราชบุรี จัดโครงการรับบริจาคโลหิต เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระสังฆราช ฯ

      เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม ร่วมกับภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 4 จังหวัดราชบุรี จัดโครงการรับบริจาคโลหิต เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

      วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ที่ห้องประชุม ชั้น 2 สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม/ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายพัฒนพงษ์ สร้อยอินทรากุล ปลัดจังหวัดนครปฐม/เลขานุการเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม นางวรณัน สวนทอง นางกัญจนา สร้อยอินทรากุล รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม และคณะกรรมการ/สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ร่วมกิจกรรมและให้กำลังใจผู้ที่มาบริจาคโลหิต โดยมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ทหาร ตำรวจ และภาคเอกชน เดินทางมาบริจาคโลหิต ดวงตาและอวัยวะเป็นจำนวนมาก


      ซึ่งจังหวัดนครปฐม เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม ร่วมกับภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 4 จังหวัดราชบุรี จัดโครงการรับบริจาคโลหิต เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก อีกทั้งช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในยามที่โลหิตขาดแคลน


              ทั้งนี้ เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม ได้มอบชุดของขวัญ และกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม นำผัดขี้เมามาร่วมมอบให้กับผู้ที่มาบริจาคโลหิตทุกราย อีกด้วย ซึ่งมีผู้มาลงทะเบียน จำนวน 238 ราย ผ่านการคัดกรองร่วมบริจาคโลหิต จำนวน 182 ราย / 182 ยูนิต ดวงตา 1 ราย และอวัยวะ 1 ราย

      ชมคลิป https://drive.google.com/file/d/1dPz58IPAVwbutKGPc-C5BqO1mEGUSQAf/view?usp=drivesdk


      สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม /ข่าว

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

      โครงการอร่อยเด็ด 7 อำเภอ เฟ้นหาเมนูสุดอร่อยประจำจังหวัดนครปฐม

      โครงการอร่อยเด็ด 7 อำเภอ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดเมนูอร่อยเด็ดประจำจังหวัดนครปฐม รอบชิงชนะเลิศ เพื่อเฟ้นหาสุดยอดเมนูอร่อยเด็ดประจำจังหวัดนครปฐม ให้เป็นที่รู้จักแก่นักกอล์ฟชาวไทยและต่างชาติ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัล รวมทั้งสิ้น 1,000,000 บาท

      นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
      นายไชยยศ สะสมทรัพย์ ผู้บริหารนิกันติ กอล์ฟ คลับ
      นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด



               วันที่ 27 พฤษภาคม 2566 ที่นิกันติ กอล์ฟคลับ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม  เป็นประธานการแข่งขันโครงการอร่อยเด็ด 7 อำเภอ รอบชิงชนะเลิศ โดยมีนายไชยยศ สะสมทรัพย์ ผู้บริหารนิกันติ กอล์ฟ คลับ นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด พร้อมด้วยคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ นำโดย หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล (เชฟป้อม) นักออกแบบอาหารและนักโภชนาการ นางสาวปิยะดา ปุณณกิติเกษม เจ้าของเพจ PP Gallery อินฟลูเอนเซอร์ด้านอาหารชื่อดัง และ ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานราชบุรี ร่วมเป็นเกียรติและตัดสินการแข่งขันในครั้งนี้

      นางสาววริสรา สะสมทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด นิกันติ กอล์ฟ คลับ จังหวัดนครปฐม


                นางสาววริสรา สะสมทรัพย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด นิกันติ กอล์ฟ คลับ จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า นิกันติ กอล์ฟ คลับ พร้อมด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม และ ททท. สำนักงานราชบุรี ซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงการการท่องเที่ยว และกีฬากอล์ฟในจังหวัดนครปฐม ได้ริเริ่มโครงการนำร่อง “อร่อยเด็ด 7 อำเภอ” ในการเฟ้นหาสุดยอดเมนูอร่อยเด็ดจาก 7 อำเภอ ในจังหวัดนครปฐม  เพื่อลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,000,000 บาท และโอกาสในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับนิกันติ กอล์ฟ คลับ ในการเผยแพร่วัฒนธรรมการทำอาหาร และยกระดับผลิตภัณฑ์การเกษตรของแต่ละอำเภอให้แก่นักกอล์ฟชาวไทย และชาวต่างชาติให้เป็นที่รู้จัก และเป็นที่นิยมมากขึ้น นอกจากนี้บางสูตรอาหารที่ได้รับเลือกเป็นพิเศษจะถูกนำไปพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติมเพื่อผลักดันครัวไทยสู่ครัวโลก ซึ่งทำการแข่งขันรอบคัดเลือกไปเมื่อวันที่ 29-30 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา จนได้ผู้ชนะเลิศในแต่ละอำเภอ ได้รับเงินรางวัล จำนวน50,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 30,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 20,000 บาท
                

      ทั้งนี้ จากการแข่งขันรอบคัดเลือกที่ผ่านมา มีผู้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ทั้งหมด 7 ทีม ได้แก่
      1. ทีมกิน’กับ (Kin’Kabb) จากอำเภอเมืองนครปฐม
      2. ทีมครัวหลังบ้าน จากอำเภอนครชัยศรี
      3. ทีมกระจาบทอง จากอำเภอพุทธมณฑล
      4. ทีมปกครองจินดา (ทีมสตรีตำบลคลองจินดา) จากอำเภอสามพราน
      5. ทีมปืน เอก แอนด์ ปัน จากอำเภอกำแพงแสน
      6. ทีมบางภาษี จากอำเภอบางเลน
      7. ทีมบ้านนาปู จากอำเภอดอนตูม
                สำหรับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้ ได้นำเป็ดเชอร์รี่มาเป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหาร ซึ่งผลการแข่งขัน ทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ “ ทีมกินกับ”  จาก อ.เมืองนครปฐม ในเมนูสำรับเป็ดจำแลงกาย ได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศและประกาศนียบัตร
                รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ “ทีมครัวหลังบ้าน” จาก อ.นครชียศรี    เมนูเป็ดพาเต๊ะ (เป็ดสะเต๊ะ) ได้รับโล่เกียรติยศและประกาศนียบัตร
                รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ “ทีมปืนเอกแอนด์ปัน” จาก อ.กำแพงแสน เมนูเป็ดรมควัน ซอสองุ่นกล้วยไม้ดำ (Smoked Duck with Black Orchid Grape Sauce) ได้รับโล่เกียรติยศและประกาศนียบัตร
               โดยเมนูอาหารจากผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ, รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง และรางวัลรองชนะเลิศอันดับสองจากการแข่งขันรอบคัดเลือก และรอบชิงชนะเลิศรวม 28 เมนูนี้ จะถูกนำมาเสิร์ฟที่ห้องอาหารขันธ์ของนิกันติ กอล์ฟ คลับ เพื่อให้นักกอล์ฟจากทั่วทุกมุมโลกได้มีโอกาสรับประทาน


              นางสาววริสรา  สะสมทรัพย์  กรรมการผู้จัดการ นิกันติ กอล์ฟ คลับ  กล่าวทิ้งท้ายว่า การแข่งขันเฟ้นหาสุดยอดเมนูอร่อยเด็ดในครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากขาดความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานราชบุรี ผู้ดูแลโครงการการท่องเที่ยว และกีฬากอล์ฟในจังหวัดนครปฐม, ภาครัฐ และภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการ ตลอดไปจนถึงผู้เข้าแข่งขันทุกทีมในรอบคัดเลือก และรอบชิงชนะเลิศจากทั้ง 7 อำเภอ ที่ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการริเริ่ม และผลักดันวัฒนธรรมอาหาร วัตถุดิบ และพืชผลทางการเกษตรของชาวจังหวัดนครปฐม ก่อให้เกิดประโยชน์ตั้งแต่ระดับครัวเรือน ไปจนถึงระดับประเทศในอนาคต ทั้งนี้ นิกันติ กอล์ฟ คลับ จะนำประสบการณ์จากการจัดโครงการริเริ่มนำร่องในครั้งนี้ ไปพัฒนาในการจัดโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเช่นนี้ต่อไปในอนาคต

      ชมคลิปคลิก https://drive.google.com/file/d/1yGuB2xlNF8JhZ1_cPf5g4q9MCj2arXiP/view?usp=drivesdk

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

      เชิญชมงาน “มหกรรมเกษตร และกล้วยไม้ นครปฐม 66” 27 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2566

      นครปฐมเชิญชมงาน “มหกรรมเกษตร และกล้วยไม้ นครปฐม 66” 27 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2566 ณ อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา จังหวัดนครปฐม


      เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดนครปฐม นายกองเอกพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงสาธารณสุข

      เพื่อระดมแนวคิดในการจัดงานแสดงสินค้าเกษตรปลอดภัย สินค้าแปรรูปและไม้ดอกไม้ประดับ ในงาน“มหกรรมเกษตร และกล้วยไม้ นครปฐม 66”ให้มีความน่าสนใจ แสดงอัตลักษณ์โดดเด่นของจังหวัดนครปฐม ด้านการเกษตรปลอดภัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีการแปรรูปอาหารที่หลากหลาย ครบครันทั้งชม ชิมและช้อป รวมทั้งการแสดงศิลปวัฒนธรรมของชนชาติพันธุ์ต่างๆในจังหวัด การแสดงความสามารถของนักเรียน นักศึกษา และยังมีกิจกรรมที่เตรียมไว้เพื่อสร้างแรงจูงใจเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากจังหวัดต่างๆ ให้มาเที่ยวชมงาน จึงขอความร่วมมือประชาชนชาวจังหวัดนครปฐม ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับผู้มาเยือนงาน “มหกรรมเกษตร และกล้วยไม้ นครปฐม 66” ระหว่างวันที่ 27 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2566 ณ อุทยานการอาชีพชัยพัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม.

      อบจ.นครปฐม สนับสนุนครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ เขตพื้นที่การศึกษานครปฐม

      อบจ.นครปฐม สนับสนุนครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ เขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เพื่อให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างทั่วถึง

      นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม


       
        เมื่อวันอังคารที่ 23 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.00 น. ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการอุดหนุนครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ ระหว่าง อบจ.นครปฐม โดยมีนายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก อบจ.นครปฐม กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต 1, เขต 2, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม และศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 1 จังหวัดนครปฐม 

      สำหรับโครงการนี้เพื่อเป็นการร่วมมือกันระหว่าง อบจ.นครปฐม และสถานศึกษา ในการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และนักเรียนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างทั่วถึง

      ขจร วัตรอก KEY8 NEWS รายงาน

      นครปฐม จัดคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 48   และพระปฐมเจดีย์เกมส์การแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ 38

      นครปฐม จัดคัดเลือกตัวแทนกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 48   และพระปฐมเจดีย์เกมส์การแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติครั้งที่ 38 การแข่งขันในแนวคิด”ที่สุดของการแข่งขัน ที่สุดแห่งมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของระดับภาค”


              นครปฐมเกมส์ การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 48 รอบคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาระดับภาค 2 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-30 มิถุนายน 2566  ณ จังหวัดนครปฐม และพระปฐมเจดีย์เกมส์ “การแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 38” รอบคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาระดับภาค 2 ระหว่างวันที่ 10-15 มิถุนายน 2566

      โดยมีการจัดทัพนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกว่า 5,000 คน กับโปรแกรมการแข่งขัน 39 ชนิดกีฬา ในสนามกีฬามาตรฐานสากล ได้แก่ ศูนย์กีฬาในเขตอำเภอเมืองนครปฐม อำเภอสามพราน อำเภอนครชัยศรี อำเภอกำแพงแสน อำเภอพุทธมณฑล
      เชิญร่วมส่งใจเชียร์นักกีฬาทั้ง 14 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี อ่างทอง ชัยนาท นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา  ราชบุรี สระบุรี ลพบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี และจังหวัดนครปฐม ในนครปฐมเกมส์ วันที่ 20-30 มิถุนายน 2566 และและพระปฐมเจดีย์เกมส์ “การแข่งขันกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 38” ระหว่างวันที่ 10-15 มิถุนายน 2566
      ………………………………..

      นครปฐม อบรมปลุกจิตสำนึกเจ้าหน้าที่รัฐตามหลักธรรมาภิบาล

      นครปฐม อบรมปลุกจิตสำนึกเจ้าหน้าที่รัฐตามหลักธรรมาภิบาลภายใต้หลักสูตรเสริมสร้างธรรมาภิบาล ต่อต้านการทุจริตประจำปี 2566

      นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

      วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลกระตีบ อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดโครงการอบรมปลุกจิตสำนึกเจ้าหน้าที่รัฐตามหลักธรรมาภิบาล ภายใต้หลักสูตรเสริมสร้างธรรมาภิบาล ต่อต้านการทุจริตประจำปี 2566 โดยมี ผู้บัญชาการโรงเรียนการบิน นายอำเภอกำแพงแสน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารสถานศึกษา ส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ ร่วมโครงการในครั้งนี้


      นายเสริม มีผิวหอม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกระตีบ กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนตำบลกระตีบ ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนา และเสริมสร้างจิตสำนึกให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัด เป็นข้าราชการที่มีเกียรติ ศักดิ์ศรี เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึงการมีคุณธรรม จริยธรรม อันจะส่งผลให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ทางราชการ ประชาชน และผู้รับบริการ รวมทั้งสร้างจิตสำนึกเรื่องคุณธรรมจริยธรรมในการทำงานอันจะนำไปสู่การทำงานที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ และความสำเร็จขององค์กรอย่างยั่งยืน จึงได้จัดอบรมให้ความรู้แก่ผู้บริหาร สมาชิกสภา ข้าราชการ และพนักงานจ้าง โดยมีวิทยากรจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 7 และสำนักงานอัยการพิเศษ มาบรรยายให้ความรู้ในครั้งนี้


      ขอบคุณภาพ-ข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS รายงาน

      สสจ.นฐ. ขอเชิญร่วมงานวันรณรงค์งดสูบบุหรี่โลก ปี 2566

      สสจ.นฐ. ขอเชิญร่วมงานวันรณรงค์งดสูบบุหรี่โลก ปี 2566 “กิจกรรมบุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษ เสพติด อันตราย และรวมพลังคนนครปฐม ต้านบุหรี่ไฟฟ้า

      ชมการแสดงดนตรีเปิดหมวก ศิลปะสร้างสรรค์เพื่อชุมชนปลอดบุหรี่จากเด็กและเยาวชนริมคลองวัดพระงาม

      วันที่ 27 พฤษภาคม 2566 เวลา 16.30 – 20.30 น. ณ ตลาดนัดถนนคนเดินชุมชนริมคลองวัดพระงาม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

      นายกฟลุ๊คนำคุณแม่ฉอ้อน และครอบครัวคุปตวัชบริจาคเงิน 2 โรงพยาบาล 1,000,000 บาท

      นายกฟลุ๊คและคุณแม่ฉอ้อน นำครอบครัวคุปตวัช
      บริจาคเงิน 2 โรงพยาบาล 1,000,000 บาท

      เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ที่โรงพยาบาลนครปฐม นางฉอ้อน คุปตวัช รองประธานกรรมการ เครืออรพรรณ กรรมการผู้จัดการโรงแรมเวล จ.นครปฐม นายเอกพันธุ์ คุปตวัช อดีตนายกเทศมนตรีนครนครปฐม และกรรมการบริหารเครืออรพรรณ ได้มอบเงินจำนวน 500,000 บาท เพื่อให้โรงพยาบาลนครปฐม นำไปจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ โดยมีนายแพทย์สุรชัย โชคครรตชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม เป็นผู้รับมอบเงินดังกล่าว เพื่อนำไปจัดซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นการช่วยต่อลมหายใจ และช่วยชีวิตผู้คนตามเจตนารมณ์ และยังได้มอบให้กับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว(องค์การมหาชน) อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร อีก 500,000 บาท โดยมีนายแพทย์พรเทพ พงศ์ทวิกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว เป็นผู้รับมอบเพื่อเป็นการต่อยอดบุญ อันยิ่งใหญ่ และนำไปพัฒนาโรงพยาบาลต่อไป

      นายเอกพันธุ์ คุปตวัช อดีตนายกเทศมนตรีนครนครปฐม (นายกฟลุ๊ค) กล่าวว่า นอกจากมอบเงิน 500,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาลนครปฐมแล้ว ยังมอบให้โรงพยาบาลบ้านแพ้ว(องค์การมหาชน) อ.บ้านแพ้ว อีก 500,000 บาทรวม 2 โรงพยาบาล 1,000,000 บาท เพราะเชื่อเสมอว่าเรา ยิ่งให้ เราก็จะยิ่งได้ อย่างน้อยเราได้ช่วยคนอื่นอีกมากมายที่มาใช้บริการทางการแพทย์โรงพยาบาลทั้งสองแห่ง ได้เห็นคนป่วยได้รับการดูแลรักษาสุขภาพ โดยที่เราไม่หวังผลตอบแทนใดๆ นี้คือสิ่งที่แม่ฉอ้อน สอนสั่งมาตลอด ทุกปีเมื่อครบวันคล้ายวันเกิด 25 พฤษภาคม ก็ปฎิบัติแบบนี้เสมอมา ตามปนิธานให้ปีละ 1ล้าน เพื่อเสริมดวงวันเกิด

      ผมขอเติมต่อบุญให้ทุกท่านเข้าถึงการรักษาที่โรงพยาบาลผมพร้อมคุณแม่ฉอ้อนและครอบครัวคุปตวัช มีโอกาสมอบเงินบริจาคกับโรงพยาบาลบ้านแพ้วและโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม โดยทั้ง2 ที่มีท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ มารับมอบ เป็นความตั้งใจของคุณแม่ฉอ้อน ที่ได้บอกเสมอเมื่อครอบครัวของเราทำงานมีโอกาสต้องตอบแทนและแบ่งปันสร้างโอกาสดีๆ ให้กับนครปฐมบ้านของเรา โดยโรงพยาบาลฯ จะนำไปซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อบริการพี่น้องประชาชนให้เข้าถึงการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ” ครับ

      พิธีมิสซาศพก๋งเล็กผ้าขาวม้าวัดนักบุญเปโตร นครปฐม

      พิธีมิสซาศพก๋งเล็กผ้าขาวม้า
      วัดนักบุญเปโตร นครปฐม



      เมื่อวันที่ 22พ.ค. 66 ที่วัดนักบุญเปโตร อ.สามพราน จ.นครปฐมได้มีพิธี มิสซาศพ อันตน อรรถพล วณิชยาพันธุ์ (ก๋งเล็กผ้าขาวม้า) อายุ 91 ปี ซึ่งเป็นบิดาของ นาย สมเกียรติ วณิชยาพันธุ์ ที่จากไปด้วยโรคชรา
      นายสมเกียรติ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตั้งแต่ตนจำความได้ เตี่ยผ้าขาวม้าไม่เคยขาดจากเอวของเตี่ยเลย ท่านบอกเสมอว่าผ้าขาวม้าใช้ประโยชน์ได้อย่าง เอนกประสงค์ แม้เราเป็นคนไทยเชื้อสายจีนโพนทะเลก็จริงๆ แต่ชอบคาดเอวด้วยผัาขาวม้าแบบไทยๆ

      ในพิธีมิสซาศพในวันนี้ได้รับความเมตตา จากบาทหลวง บัณฑิต ประจงกิจ ซึ่งเป็นคุณพ่อ เจ้าวัดนักบุญเปโตร พร้อมคณะร่วมประกอบพิธี มิสซาโดยมี ผู้บริหารท้องถิ่น นักปกครอง ญาติมิตรร่วม พิธีมิสซาไว้อาลัย แบบอบอุ่นก่อนนำศพ ก๋งเล็กผ้าขาวม้า ไปบรรจุ ณ สุสานวัดนักบุญเปโตร อ.สามพราน จ. นครปฐม

      สถาบันพระปกเกล้า เปิดอบรมหลักสูตรระยะสั้นเสริมศักยภาพบุคลากร อปท.

      สถาบันพระปกเกล้า โดยวิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่นขอเชิญชวนบุคลากร อปท.เข้ารับการอบรมหลักสูตรระยะสั้นเพื่อส่งเสริมศักยภาพบุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

      โดยมีหลักสูตรที่จะติดอาวุธและพัฒนาเครื่องมือสำหรับ
      การทำงานท้องถิ่นให้มัประสิทธิภาพและบรรลุผลสำเร็จ

      ทุกหลักสูตรมีระยะเวลาการอบรมหลักสูตรละ 3 วัน ท่านที่สนใจสามารถสมัครได้หลายหลักสูตร เพราะเวลาเรียนไม่ตรงกันหลักสูตรละ 5,900 บาทเท่านั้น สำเร็จการอบรมในแต่ละหลักสูตรฯ รับใบรับรอง จากสถาบันพระปกเกล้า พร้อมเอกสารมากมาย

      1. หลักสูตรถอดรหัสแผนพัฒนาท้องถิ่น :
      2. หลักสูตรปิดจุดเปลี่ยนการเงินการคลังท้องถิ่น :
      3. หลักสูตรรู้แล้วรอดว่าด้วยคดีเกี่ยวกับการปกครองท้องถิ่น:
      4. หลักสูตรสารพันปัญหาท้องถิ่นกับหน่วยกำกับดูแล:
      5. หลักสูตร co-creation เทคนิคการสร้างสรรค์พื้นที่สมัยใหม่สำหรับท้องถิ่น:

      สมัครได้ตั้งแต่บัดนี้-15 มิ.ย.66 คลิกลิงก์👇
      https://kpi.ac.th/news/news/data/1772

      ติดต่อสอบถาม
      วิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า
      ชนาธิป  โรจน์สิรวรพัฒน์
      โทร. 02-141-9568
      ระพีพรรณ  ทิวสระแก้ว
      โทร. 02-141-9570

      มหาวิทยาลัยรังสิตทำโครงการ “การสร้างสรรค์สื่ออย่างมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาชุมชน”

      สาขาวิชามัลติมีเดีย วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ร่วมกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จัดทำโครงการ “การสร้างสรรค์สื่ออย่างมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาชุมชน”

      เมื่อวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.00 น.ได้มีโครงการจัดเวทีส่งมอบสื่อสร้างสรรค์ให้กับ 7 ชุมชน
      ณ โรงภาพยนตร์ วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
      โดยผลสัมฤทธิ์ของโครงการดังกล่าวจะทำให้นักศึกษาเกิดการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ในการออกแบบและสร้างสรรค์สื่อโดยผู้ใช้สื่อมีส่วนร่วมในการออกแบบ ทำให้สื่อที่สร้างสรรค์ตอบสนองปัญหาและความต้องการในการทำงานขับเคลื่อนการคุ้มครองผู้บริโภคอย่างเป็นรูปธรรม

      นครปฐม รองผู้ว่าฯ นำประชาชนถวายผ้าห่มองค์พระปฐมเจดีย์ เนื่องในวันสงกรานต์

      นครปฐม รองผู้ว่าฯนำประชาชนถวายผ้าห่มองค์พระปฐมเจดีย์ เนื่องในวันสงกรานต์

      เวลา14.00น.วันที่16 เมษายน ที่โถงรับรองลาน หน้าวิหารพระร่วงโรจนฤทธิ์ฯ นายกองเอกพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานถวายผ้าห่มองค์พระปฐมเจดีย์ที่ความยาวทั้งสิ้น 270 เมตร
      โดยมีพระเทพมหาเจติยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค14 รองเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร รับถวายผ้าห่มองค์พระปฐมเจดีย์ จากรองผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำขึ้นไปห่มรอบองค์พระปฐมเจดีย์ ช่วงปล้องไฉนเหนือฐานสี่เหลี่ยมด้านบน ซึ่งพิธีการห่มผ้าองค์พระปฐมเจดีย์นี้เป็นการถวายพุทธบูชา จะมีเพียง 2 วาระคือ 1.งานเทศกาลสงกรานต์ประจำปี และงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ เท่านั้น

      สำหรับบรรยากาศการเล่นสงกรานต์ของ จ.นครปฐม ที่บริเวณเวทีกลางด้านถนนต้นสน (หรือที่นักท่องเทื่ยวเรียกกันว่าถนนข้าวหมูแดง) ที่ทางเทศบาลนครนครปฐม ปิดถนนจัดให้มีการเล่นสาดน้ำตลอดเส้นทางระหว่างองค์พระปฐมเจดีย์ ด้านทิศตะวันตกไปจรดหน้าพระราชวังสนามจันทร์ ระยะทาง 1,200 เมตร นายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครนครปฐม พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้ร่วมกันเปิดกิจกรรมเล่นสาดน้ำมหาสงกรานต์ ถนนสายวัฒนธรรมนครปฐม หรือ ถนนข้าวหมูแดงดังกล่าวด้วย กิจกรรมของการเล่นน้ำสงกรานต์จะจบลงในเวลา 18.00 น.

      ราชินีบูรณะ จ.นครปฐม คว้า 4 เหรียญทองชนะเลิศระดับชาติ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ปีการศึกษา 2565

      โรงเรียนราชินีบูรณะ จ.นครปฐม คว้า 4 เหรียญทองชนะเลิศระดับชาติ งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ปีการศึกษา2565 สูงสุดเป็นอันดับ 1โรงเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดนครปฐม

      ปิดฉากลงเรียบร้อยแล้วสำหรับการแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ระดับชาติ ภาคกลางและภาคตะวันออก ปีการศึกษา2565 โดยจังหวัดราชบุรีเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 25-27มกราคม 2565ที่ผ่านมา ซึ่งโรงเรียนราชินีบูรณะ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม มีนักเรียนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันระดับเขตพื้นที่การศึกษา และได้เป็นตัวแทนเข้าแข่งขันในระดับชาติ จำนวนทั้งสิ้น 48 รายการ
      สำหรับผลการแข่งขันปรากฏว่านักเรียนโรงเรียนราชินีบูรณะได้รับรางวัลเหรียญรางวัลจำนวน 31 รายการ โดยเป็นรางวัลเหรียญทองชนะเลิศจำนวน 4 รายการ ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดนครปฐม จากการแข่งขันการแกะสลักผลไม้ ม.1-ม.3 การแข่งขันการแกะสลักผลไม้ ม.4-ม.6 การแข่งขันจิตรกรรมเทคนิคผสม Mix Media ม.4-ม.6 และการแข่งขันคีตะมวยไทย ม.1-ม.6 นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลระดับเหรียญเงินจำนวน 10รายการ และเหรียญทองแดง 4รายการ

      ว่าที่ร้อยตรีมนต์เมืองใต้  รอดอยู่ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชินีบูรณะ ประธานเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการมัธยมศึกษาจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า “รู้สึกยินดีและภูมิใจกับลูกๆ ราชินีบูรณะที่ได้สร้างชื่อเสียงให้แก่โรงเรียนและจังหวัดนครปฐม สำหรับความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้ต้องขอขอบคุณคณะครูที่ช่วยกันกันฝึกซ้อมนักเรียน และที่ขาดไม่ได้คือต้องขอขอบคุณผู้ปกครองนักเรียนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริมนักเรียนให้ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยดีเสมอมา”


      สำหรับการจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ได้จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2455 กระทั่งเมื่อปี 2562 ได้งดเว้นการจัดงานไปเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 และในปีการศึกษา 2565ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยมีนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาจากภูมิภาคภาคกลางและภาคตะวันออกเข้าร่วมการแข่งขันรวม 27 จังหวัด

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      พาณิชย์ออนทัวร์ นครปฐม ลดราคาหมู 150 ไข่แผงละ 90

      พาณิชย์ออนทัวร์ จังหวัดนครปฐม จัดลดราคา หมู 150 ไข่แผงละ 90

      เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ศาลาโดม ด้านทิศเหนือองค์พระปฐมเจดีย์ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร นายสมเกียรติ พูลสุขเสริม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดโครงการ พาณิชย์ลดราคา ออนทัวร์ทั่วไทย มาเปิดให้บริการสินค้าราคาประหยัดให้แก่พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครปฐม มีนายพงศ์สุธี สุขศิริ พาณิชย์จังหวัดนครปฐม รายงานว่ากระทรวงพาณิชย์ได้รับสนับสนุนเงินงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ.2566 เพื่อดำเนินโครงการพาณิชย์ลดราคาออนทัวร์ทั่วไทย เพื่อกระตุ้นการค้าภายในประเทศ การลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนจากสถานการณ์ปัจจุบันและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให่แก่ผู้ประกอบการ เกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ให้แก่คนนครปฐม 3ครั้งๆ ละ 3 วัน

      โดยครั้งแรกจัดที่องค์พระปฐมเจดีย์ระหว่าง 3-5 กุมภาพันธ์ ครั้งที่ 2 ตลาดกิเลน พุทธมณฑล 20-12 กุมภาพันธ์ และครั้ลงที่ 3 วัดไร่ขิง 17-19 กุมภาพันธ์นี้

      โดยเป็นการออกร้านจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ (หมูสด 150/กก. ไก่สด 60/กก. ไข่สด 90/แผง น้ำมันพืชปาล์ม 45/ขวด น้ำตาลทราย 18/กก. ข้าวสารเจ้า 90/5กก. ข้าวสารหอม 110/5กก. และสินค้าโชว์ห่วยลดราคาตั้งแต่ 5-20% เป็นต้น

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม สยบข่าวลือ ไม่ได้ไล่ศูนย์รักษาโรคและเจาะเลือด รพ.นครปฐม พ้นวัด

      พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน

      เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวจ.นครปฐม ได้รับแจ้งว่ามีกระแสข่าวลือจากชาวบ้านและพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนครปฐม พูดร่ำลือเกี่ยวกับเรื่องพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน ไล่พื้นที่ที่ทางโรงพยาบาลนครปฐมมาเปิดอำนวยความสะดวก ให้กับประชาชนและคนไข้ได้ตรวจเจาะเลือดรักษาที่ตั้งอยู่ภายในวัดไผ่ล้อม ทำให้ชาวบ้านต่างไม่พอใจและพูดกันปากต่อปากจนทำให้ทางวัดและทางโรงพยาบาลได้รับความเสียหาย จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังวัดไผ่ล้อม อ.เมืองนครปฐม พบว่าเหตุการณ์ยังคงเป็นปกติ มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลปฏิบัติการดังเดิม

      นายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม


      โดยเฉพาะวันนี้ นายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม ลงเยี่ยมคลินิกเบาหวาน ความดันโลหิตสูงวัดไผ่ล้อม เตรียมความพร้อม เปิดบริการ คลินิกโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูงแบบครบวงจร วัดไผ่ล้อม ในวันที่ 1 มีนาคม 2566 เพื่อให้ประชาชนในเขตเทศบาลนครนครปฐม มารับบริการ ตรวจรักษา โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง แบบบูรณาการ โดยทีมแพทย์ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญ จากโรงพยาบาลนครปฐม เพื่อให้ประชาชนเข้ารับบริการได้สะดวก รวดเร็ว มาตรฐานเดียวกับการไปรับบริการที่โรงพยาบาลนครปฐม โดยได้รับความเมตตา จาก พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน ในการขยายบริการ คลินิกเบาหวานความดันโลหิตสูงแบบบูรณาการในครั้งนี้อย่างเต็มที่ ประชาชนมารับบริการได้ในวันราชการ จันทร์ถึงศุกร์ตั้งแต่เวลา 8.30 ถึง 16.30 น.สำหรับบริการเจาะเลือดสามารถมารับบริการได้ตามนัด ตามเวลาเดิม

      พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า ทางวัด และโรงพยาบาลได้มีการช่วยเหลือประชาชนมายาวนานกว่า 5 ปีแล้ว รวมถึงอาคารสถานที่ เจ้าหน้าที่วัด เด็กวัด ก็เข้ามาช่วยเหลือกัน รวมถึงอำนวยความสะดวกด้านที่จอดรถ โรงพยาบาลนครปฐมเปิดศูนย์รักษาเบาหวาน ความดัน หัวใจ โรคไต และเจาะเลือด ตั้งใจในช่วงโควิดหนักที่ผ่านมาแล้ว เพราะโรงพยาบาลไม่สามารถที่จะให้บริการและเจาะเลือดได้ จึงมาใช้สถานที่ของวัดไผ่ล้อม ต่อ 1 วันมีผู้เข้ารับการเจาะเลือดไม่ต่ำกว่า 400 คน

      ซึ่งขณะนี้ ได้มีกระแสข่าวลือแพร่สะพัดออกไปว่า หลวงพี่น้ำฝนจะปิดศูนย์บริการและทางวัดไผ่ล้อมจะไม่ให้ใช้สถานที่ หรือพยายามจะย้ายการดูแลรักษานี้ออกพ้นจากวัดไป หลวงพี่น้ำฝนได้เผยว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงเพราะวัดได้มีการสงเคราะห์อยู่แล้ว เมื่อโรงพยาบาลมาขอความอนุเคราะห์กับวัด อาตมาทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ เจ้าหน้าที่เด็กวัดไม่ได้มีการรับเงินเดือนใดๆ ทั้งหมดทำด้วยจิตอาสาในการช่วยโรงพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลเห็นว่าทางวัดมีการบริการที่เริ่มแออัดมากขึ้น จึงจะขยายไปที่อุทยานชัยพัฒนา ต้องขึ้นอยู่ว่าทางโรงพยาบาลจะมีการบริหาร จัดการอย่างไร อาตมาไม่สามารถไปก้าวก่ายได้ โรงพยาบาลจะจัดสรรว่า คนไข้ส่วนใดจะไปรักษาที่จุดใด วัดไผ่ล้อมก็ยังให้การอนุเคราะห์เหมือนเดิม แต่เป็นนโยบายของโรงพยาบาลที่ต้องการขยายพื้นที่ออกไปเพื่อลดการแออัดเท่านั้น

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ มทร.รัตนโกสินทร์เปิดโครงการประกวดนวัตกรรมการบริหารการศึกษาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพนักบริหารการศึกษาในยุคดิจิทัล

      โครงการประกวดนวัตกรรมการบริหารการศึกษาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพนักบริหารการศึกษาในยุคดิจิทัล “Education management innovation contest to promote the development of education administrators’ in the digital era” วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ มทร.รัตนโกสินทร์

      ในวันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2566 มทร.รัตนโกสินทร์ นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี กล่าวต้อนรับศาสตราจารย์ ดร.สัมพันธ์ ฤทธิเดช เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ประธานในพิธีเปิดโครงการประกวดนวัตกรรมการบริหารการศึกษาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพนักบริหารการศึกษาในยุคดิจิทัล “Education management innovation contest to promote the development of education administrators’ in the digital era” วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ มทร.รัตนโกสินทร์

      โดยมีผู้ร่วมโครงการเป็นนักศึกษาหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตและหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขานวัตกรรมการบริหารการศึกษา ของวิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ณ ห้องประชุมบัวสวรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา

      วิภาวี เกษรบุญนาค ภาพ-ข่าว

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน

      มทร.รัตนโกสินทร์ ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48

      มทร.รัตนโกสินทร์ ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48

      วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา มทร.รัตนโกสินทร์ นำโดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี ร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 48 “ดอกจานบ้านเชียงเกมส์” Spirit of the Games : ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่คือน้ำใจนักกีฬา

      โดยมี ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานเปิดพิธี ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (ในเมือง) มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี

      วิภาวี เกษรบุญนาค /ภาพ ข่าว

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      มทร.รัตนโกสินทร์ ร่วมพิธีเปิดโครงการ Lions Clubs International Youth Camp and Exchange

      มทร.รัตนโกสินทร์ ร่วมพิธีเปิดโครงการ Lions Clubs International Youth Camp and Exchange

      เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา  มทร.รัตนโกสินทร์ นำโดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี พร้อมด้วย รศ.ดร.อาคีรา ราชเวียง รองอธิการบดี นางสาวกนกรัตน์ โพธิ์ศรี รองอธิการบดี ดร.ณัฐพงศ์ โชติกเสถียร ผู้อำนวยการวิทยาลัยผู้ประกอบการสร้างสรรค์นานาชาติรัตนโกสินทร์ อ.กฤตพร วงศ์ถาวร ผู้อำนวยการศูนย์ภาษาและวิเทศสัมพันธ์ และนางสาวณัณทนัณณ์ ชูราศรี ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์ เข้าร่วมพิธีเปิดโครงการ Lions Clubs International Youth Camp and Exchange ณ มทร.สุวรรณภูมิ ศูนย์พระนครศรีอยุธยา หันตรา จ.พระนครศรีอยุธยา

      ทั้งนี้ อธิการบดี ได้กล่าวขอบคุณ Mr.Soren Ole Bich Rasmussen ผู้ก่อตั้ง Lions Clubs International Youth Camp and Exchange Denmark ขอบคุณ Mr.Jens Henriksen และ Lions Clubs International Denmark ที่มอบโควตาโครงการ Lions Clubs International Youth Camp and Exchange ให้กับนักศึกษา เป็นประจำทุกปี และในปี 2566 จำนวน 4 ทุน ซึ่งโครงการ Lions Clubs International Youth Camp and Exchange

      เป็นโครงการที่นักศึกษาจะได้พัฒนาความรู้ และทักษะในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สร้างเสริมความรู้ความสามารถในการนำเสนอความเป็นไทย ทั้งในด้านศิลปวัฒนธรรมและประเพณีไทยต่อนานาชาติ รวมทั้งยังเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัย และประเทศไทย ในการนำเสนอผลงานแสดงความเป็นไทย และเผยแพร่ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยอีกด้วย


      วิภาวี เกษรบุญนาค ภาพ/ข่าว

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      นครปฐม รพ.สามพราน เปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องเชื้อดื้อยาและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา

      นครปฐม. โรงพยาบาลสามพราน เปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องเชื้อดื้อยาและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา


      วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2566 ที่ โรงพยาบาลสามพราน (วัดไร่ขิง) ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม
      นายแพทย์ทินกร ชื่นชม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องเชื้อดื้อยาและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา โดยมีนายแพทย์ชัยวัฒน์ อิสสวาณิชย์ หัวหน้างานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ พร้อมด้วย นางพัชรี เกษรบุญนาค รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน น.ส.วาสนา คำเช่ง หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสามพราน ที่เข้าร่วมโครงการฯ


      ซึ่งโครงการเชิงปฏิบัติการเรื่องเชื้อดื้อยาและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา พุทธศักราช 2566 มี วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ สถานการณ์เชื้อดื้อยา และการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาในโรงพยาบาล อันนำไปสู่การสร้างมาตรฐาน/คุณภาพงานภายในหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในวันนี้ จะมี 2 กิจกรรมหลัก คือ การให้ความรู้ และการฝึกทักษะรวมไปถึงดูสถานที่ที่ให้บริการดูแลผู้ป่วยจริง เพื่อให้คำแนะนำการจัดการที่ถูกต้อง


      ด้านนายแพทย์ทินกร ชื่นชม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสามพราน รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ได้กล่าวว่า สำหรับเรื่องการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องเชื้อดื้อยาและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก ถ้าเจ้าหน้าที่ขาดความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องเชื้อดื้อยาและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาที่ถูกต้อง อันจะส่งผลกระทบให้มีอัตราป่วยและอัตราตายของผู้ป่วยเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้นเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ เรื่องเชื้อดื้อยาและการควบคุมการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา ที่นำไปสู่การสร้างมาตรฐาน คุณภาพงานภายในหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพ และลดอัตราการแพร่กระจายเชื้อดื้อยา อัตราป่วย และอัตราตายในโรงพยาบาลต่อไปอีกด้วย


      วิภาวี เกษรบุญนาค ภาพ /ข่าว

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      มทร.รัตนโกสินทร์ สถาปนาครบรอบ 18 ปี

        มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีรัตนโกสินทร์ สถาปนาครบรอบ 18 ปี

      วันพุธที่ 18 มกราคม 2566 ที มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีรัตนโกสินทร์ โดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร อาจารย์ และเจ้าหน้าที่ ประกอบพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำมหาวิทยาลัย จากนั้นเป็นพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุปทาน และพิธีถวายราชสดุดีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9)

      ทั้งนี้ อธิการบดี ได้มอบโล่เชิดชูเกียรติให้กับผู้ทำคุณประโยชน์แก่มหาวิทยาลัย และมอบประกาศนียบัตรแก่บุคลากรดีเด่นอีกด้วย ณ หอประชุมบัวสวรรค์ (1,500 ที่นั่ง) มทร.รัตนโกสินทร์

      ภาพ-ข่าว วิภาวี เกษรบุญนาค นครปฐม

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      นครปฐม.จัดกิจกรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2566

      จังหวัดนครปฐม จัดกิจกรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2566 พร้อมแจกของขวัญ อาหาร และเครื่องดื่ม แก่เด็กๆ โดยมีผู้ปกครองพาบุตรหลานมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

      นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

      วันที่ 14 มกราคม 2566 ที่บริเวณสนามกีฬาพระราชวังสนามจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 พร้อมอ่านสารจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยในปีนี้ได้มอบคำขวัญวันเด็กแห่งชาติไว้ว่า “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” ซึ่งกิจกรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติในปีนี้ ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีการจัดนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ การให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม การแจกของขวัญ ของรางวัล การแสดงกลางแจ้งของหน่วยงานต่างๆ และการแสดงบนเวทีของเด็กนักเรียน ซึ่งมีพ่อแม่ ผู้ปกครอง ได้พาลูกหลานมาร่วมกิจกรรมต่างๆ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติที่พระราชวังสนามจันทร์เป็นจำนวนมาก

      นายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครนครปฐม


      ด้าน นายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครนครปฐม กล่าวว่า เทศบาลนครนครปฐม ได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก และเยาวชน ซึ่งจะต้องเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ

      และสังคมให้เจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า และมั่นคงต่อไป จึงได้จัดให้มีกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมให้เด็กตระหนักถึงคุณค่า บทบาท และความสำคัญของตนเอง อีกทั้งเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก ให้การคุ้มครอง เลี้ยงดู อบรมสั่งสอนและสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนเป็นพิเศษ ตลอดจนปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก

      ขอบคุณ.สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      นครปฐม. ภาคโรตารี 3330 และสโมสรโรตารีสนามจันทร์ จัดอบรมการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR)

      นครปฐม. ภาคโรตารี 3330 และสโมสรโรตารีสนามจันทร์ จัดอบรมการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR)

      อดีตผู้ว่าการภาค3330 คุณวิชัย มณีวัชรเกียรติ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิโรตารี ภาค 3330


      เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565 ที่ห้องกิ่งทอง โรงแรมเวล อ.เมือง จ.นครปฐม
      อดีตผู้ว่าการภาค3330 คุณวิชัย มณีวัชรเกียรติ ประธานคณะกรรมการมูลนิธิโรตารี ภาค 3330 เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (CPR) จัดโดย ภาคโรตารี 3330 และสโมสรโรตารีสนามจันทร์

      นายกอัมพวัน สุวัฒนานันท์ นายกสโมสรโรตารีสนามจันทร์

      โดยมี นายกอัมพวัน สุวัฒนานันท์ นายกสโมสรโรตารีสนามจันทร์ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ พร้อมด้วย คณะวิทยากรจากชมรมผู้ฝึกสอนการช่วยฟื้นคืนชีพฉุกเฉิน สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และผู้เข้าอบรมจากสโมสรโรตารีสนามจันทร์และประชาชนเข้าร่วมอบรม ซึ่งสโมสรโรตารีสนามจันทร์ร่วมกับภาค 3330 จัดทำโครงการฝึกอบรมการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน หรือเรียกว่า ซีพีอาร์

      โดยเป็นหลักสูตรที่ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้และทำความเข้าใจหลักการและวิธีการ ตลอดจนฝึกปฏิบัติการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการช่วยฟื้นคืนชีพได้อย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิต การช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้นก่อนที่ผู้ปวยจะถึงมือแพทย์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า คนที่เรารัก คนรอบข้าง คนใกล้ตัว หรือแม้กระทั่งตัวเราเองจะไม่ตกอยู่ในภาวะฉุกเฉินหลังจากที่สโมสรได้ประชาสัมพันธ์โครงการผ่านสื่อต่างๆ ไป ได้มีผู้สนใจเข้าร่วมอบรมจำนวนจำกัด 32 ท่าน


      การเสียชีวิตอย่างกะทันหันส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายนอกโรงพยาบาล จากสถิติพบว่า ในบรรดาผู้หมดสตินอกโรงพยาบาลมีเพียง20% เท่านั้น ที่ได้รับการช่วยชีวิตโดยคนที่อยู่ใกล้ๆ ทั้งๆที่หากได้รับการช่วยชีวิตทันที จะเพิ่มความสำเร็จของการฟื้นคืนชีพได้ถึง1เท่าตัว และว่ามาตรฐานใหม่นี้เป็นมาตรฐานที่ทั่วโลกปฏิบัติร่วมกัน เพื่อใช้ช่วยชีวิตคนในเวลาฉุกเฉิน เป็นการช่วยฟื้นคืนชีพด้วยมือเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีตัวอย่างจากทั่วโลก ที่คนหมดสติแล้ว ได้รับการกดลงที่หน้าอกเพื่อช่วยบีบเลือดที่หัวใจออกไปเลี้ยงร่างกายแล้ว ทำให้สามารถฟื้นคืนชีวิตกลับมาได้อย่างปกติ


      การสอนการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) สามารถช่วยชีวิตผู้หมดสติที่เสียชีวิตกะทันหัน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจ นอกจากนี้ยัง
      ช่วยชีวิตผู้ที่จมน้ำ ถูกไฟฟ้าดูด ขาดอากาศหายใจ หรือได้รับยาเกินขนาด เป็นการต่อชีวิตของผู้ป่วย เพื่อรอให้ผู้ป่วยได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ต่อไป จึงจำเป็นต้องเรียนรู้และหาวิธีการป้องกันเพื่อลดความสูญเสียค่าใช้จ่าย และบุคลากรให้กับองค์กรที่ได้รับผิดชอบอยู่ “การปฐมพยาบาลเบื้องตันและการช่วยฟื้นคืนชีพ ( FIRST AID & CPR )” จึงเป็นหลักสูตรที่ผู้เข้าอบรมสามารถเรียนรู้และความเข้าใจในหลักการและวิธีการ ตลอดจนการฝึกปฏิบัติการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการช่วยฟื้นคืนชีพได้ป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิต ร่วมถึงการลดค่าใช้จ่ายทางด้านการรักษาพยาบาลอีกด้วย
      โดยวัตถุประสงค์ของหลักสูตร

      1. มีความรู้ความเข้าใจ และสามารถประเมินผู้บาดเจ็บที่ต้องทำ CPR และใช้เครื่อง AED
      2. สามารถทำการ CPR และใช้เครื่อง AED ผู้บาดเจ็บได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
      3. สามารถขอความช่วยเหลือจากระบบบริการฉุกเฉินทางการแพทย์ และส่งต่อผู้บาดเจ็บได้

      ซึ่งผู้ที่ผ่านการอบรมในครั้งจะได้รับใบประกาศเกียรติคุณในการช่วยเหลือปฐมพยาบาลผู้ป่วยเบื้องตันได้อย่างถูกต้อง สามารถนำไปช่วยชีวิตบุคคลบุคคลใกล้ตัว คนรอบข้าง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไป

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      วัดไผ่ล้อม นครปฐม เจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนาถวายพระพรชัยมงคล  แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงหายจากพระอาการประชวร

      วัดไผ่ล้อม นครปฐม เจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนาถวายพระพรชัยมงคล  แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงหายจากพระอาการประชวร

      พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม 


      วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2565 ที่ วิหารพระพุทธเมตตาประธานพร วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม
      พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม  เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนาถวายพระพรชัยมงคล  แด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงหายจากพระอาการประชวร พร้อมคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อม

      โดยมีนายแพทย์วิโรจน์ รัตนอมรสกุล
      นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส เปิดกรวยสักการะ หน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ซึ่งวัดไผ่ล้อมได้ร่วมกับ สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม โรงพยาบาลนครปฐม และศาลจังหวัดนครปฐม  ศาลแขวนนครปฐม   ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครปฐม  สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค7  สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครปฐม และสถานศึกษา  ร่วมกันจัดพิธี

      โดยมีคณะผู้บริหารสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม คณะผู้บริหารสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค7   คณะผู้บริหารโรงพยาบาลนครปฐม คณะผู้บริหารการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดนครปฐม   คณะอาจารย์ นักศึกษา จาก วิทยาลัยอาชีวะศึกษานครปฐม  คณะครู นักเรียน โรงเรียนวัดไผ่ล้อม พูลประชาอุปถัมภ์  คณะครู นักเรียน โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร  รวมทั้งพสกนิกร และคณะศิษย์วัดไผ่ล้อม  ร่วมในพิธีจำนวนมาก

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      อบจ.นครปฐม นำ ส.อบจ.ข้าราชการ สวดมนต์และเจริญจิตตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

      องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นำ ส.อบจ.ข้าราชการ สวดมนต์และเจริญจิตตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

      เมื่อ เวลา 17.04 น.วันที่ 19 ธันวาคม  ที่พระอุโบสถ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระเทพมหาเจติยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค14 รองเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร พร้อมคณะสงฆ์วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร เจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

      โดยมีนายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นางสุภาพร สะสมทรัพย์ (มารดา) นางวิลาสินี สะสมทรัพย์ (ภรรยา) นายวีรวิชญ์ สะสมทรัพย์ นายฐิรวิชญ์ สะสมทรัพย์ (ลูกชาย) โดยนายธนพันธ์ โชคดำรงสุข ประธานสภาอบจ. พร้อมสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม และน.ส.ปทุมมาศ กมลเวช รองปลัดอบจ.รักษาราชการแทน.ปลัดอบจ.นำข้าราชการ กว่า100 คน ร่วมสวดมนต์ เจริญจิตตภาวนา ถวายพระพรชัยมงคลฯ ด้วย

      ทั้งนี้คณะสงฆ์วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร เจริญพระพุทธมนต์ และเจริญจิตตภาวนา ด้วยอานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย และเดชานุภาพแห่งพระกุศลผลบุญที่ทรงบำเพ็ญมา ส่งผลให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ปราศจากโรคาพาธ หายจากอาการพระประชวรโดยเร็วพลัน

      ขจร วัตรเอก KEY 8 NEWS▪︎PRESS 191222

      รร.ราชินีบูรณะ นครปฐม ฉลองรางวัลสถานศึกษาพระราชทาน

      รร.ราชินีบูรณะ นครปฐม ฉลองรางวัลสถานศึกษาพระราชทาน และพิธีเทศน์มหาชาติ13กัณฑ์

      เมื่อเวลา 09.40 น.วันที่ 15 ธันวาคม ที่โรงเรียนราชินีบูรณะ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานฉลองรางวัลสถานศึกษาพระราชทาน เฉลิมการกุศลเทศน์มหาชาติ เทิดพระบาทจอมราชทศมินทร์ มีว่าที่ร้อยตรี มนต์เมืองใต้ รอดอยู่ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชินีบูรณะ รายงาน ว่าโรงเรียนราชินีบูรณะได้รับคัดเลือกจากกระทรวงศึกษาธิการ เป็นสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ระดับมัธยมศึกษาขนาดใหญ่ ประจำปีการศึกษา 2564 (รางวัลระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ประเภทโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดใหญ่ ระดับยอดเยี่ยม) ซึ่งโรงเรียนราชินีบูรณะได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากคณะครู นักเรียน ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาสถานศึกษา และชุมชน จึงทำให้มีวันนี้

      นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ กล่าวว่าในนามของจังหวัดนครปฐม ขอแสดงความยินดี กับโรงเรียนราชินีบูรณะ ที่ได้รับรางวัล”สถานศึกษาพระราชทาน” นับเป็นสิ่งที่น่าปลาบปลื้มยินดีเป็นอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นรางวัลแห่งความหวัง เป็นแรงบันดาลใจแห่งเกียรติยศและศักดิ์ศรี เป็นความภาคภูมิใจอันสูงสุดของชาวราชินีบูรณะและพี่น้องชาวจังหวัดนครปฐม นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่โรงเรียนราชินีบูรณะ ได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้ได้รับรางวัล “สถานศึกษาพระราชทาน
      ระดับมัธยมศึกษาขนาดใหญ่” การที่สถานศึกษาได้รับรางวัล “สถานศึกษารางวัลพระราชทาน” ถึง 3 ครั้ง รวมถึงรางวัลนักเรียนพระราชทาน 3 ปีต่อเนื่อง รางวัลโล่ทองคำระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และรางวัลเกียรติยศอื่น ๆ บ่งบอกถึง ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา มีความสามัคคีมุ่งมั่น ร่วมแรงร่วมใจกัน มุ่งพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยยึดถือเด็กนักเรียนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาทุกมิติเกิดผลสัมฤทธิ์เป็นที่ประจักษ์อันประกอบไปด้วยผู้บริหาร คณะครู บุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สมาคมผู้ปกครอง ครู และศิษย์เก่าราชินีบูรณะ และนักเรียนโรงเรียนราชินีบูรณะ เป็นปัจจัยในการกำหนดทิศทาง วิสัยทัศน์ การบริหารจัดการ การพัฒนาการเรียนการสอน พัฒนานักเรียนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประสบความสำเร็จในชีวิตและยังมีส่วนในการอบรมให้นักเรียนเป็นคนดีคนเก่ง ถือว่าเป็นสถานศึกษาที่มีการบริหารจัดการ การเรียนการสอนที่ดี มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาเยาวชนอย่างต่อเนื่อง
      ขอบคุณผู้บริหาร คณะครู ผู้ปกครอง ที่มีส่วนผลักตัน ส่งเสริม ทั้งด้านการเรียนการสอน การอบรมสั่งสอนให้เยาวชนของชาติ มีความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม ปฏิบัติตนเป็นคนดี
      ของสังคม มีวินัยในตนเอง พร้อมที่ จะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า
      อย่างมั่นคงในอนาคต

      ว่าที่ร้อยตรี มนต์เมืองใต้ รอดอยู่ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชินีบูรณะกล่าวอีกว่า สมาคมผู้ปกครอง ครู และศิษย์เก่าราชินีบูรณะ ร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนราชินีบูรณะ และเครือข่ายผู้ปกครอง ได้เห็นชอบให้จัดกิจกรรมเทศน์มหาชาติ 13กัณฑ์ ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ยึดมั่นตามหลักคำสอนของศาสนา และเพื่อหารายได้สมทบกองทุนพัฒนาการศึกษา โรงเรียนราชินีบูรณะ โดยนิมนต์พระพรหมเวที ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนางสุภาพร สะสมทรัพย์ มารดานายพาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ส.ส.นครปฐม เขต2 พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS 151222

      MG.ราชบุรี เปิดตัวรถไฟฟ้าคันใหม่ เป็นทางเลือกของการใช้พลังงานสะอาด

      MG.ราชบุรี เปิดตัวรถไฟฟ้าคันใหม่
      เป็นทางเลือกของการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น ด้านในตัวรถมีสิ่งอำนวยความสะดวก และปลอดภัย รูปตัวรถออกแนวสปอร์ต

      นายศักดิ์ชัย พิศาลผล ผู้บริหาร บริษัท MG ก้องกังวาล จำกัด ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี

      นายศักดิ์ชัย พิศาลผล ผู้บริหาร บริษัท MG ก้องกังวาล จำกัด ต.อ่างทอง อ.เมือง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ในประเทศไทยมีการตื่นตัวรถไฟฟ้าสูงมาก ตอนนี้รถไฟฟ้าจากประเทศจีนหลายยี่ห้อได้เข้ามาในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว โดย บริษัทแรกที่นำเข้ามาคือ บริษัท MG และ บริษัท เจ็ทวอ มอเตอร์ ซึ่งการจองรถไฟฟ้าในประเทศไทย ทุกยี่ห้อมากกว่า 10,000 คัน ตอนนี้ถือว่าผู้บริโภคให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เป็นพลังงานสะอาด ประหยัดมาก ค่าที่ชาร์ตไฟจะถูกกว่าน้ำมันหลายเท่าตัว อย่างตอนนี้งานมอเตอร์โชว์ที่เมืองทองทุกยี่ห้อได้นำรถไฟฟ้ามาจัดแสดง และมีหลายยี่ห้อที่จำหน่ายและส่งมอบภายในสิ้นปีนี้ ยอมรับว่าช่วงนี้กระแสรถไฟฟ้ามาแรงมาก ทาง MG ก้องกังวาล ได้มียอดจองมากกว่า 30 คัน ตอนนี้ได้ทยอยส่งมอบมาต่อเนื่อง


      การเปิดตัวรถ MG ในประเทศไทยใช้ชื่อ MG 4 แต่ในประเทศจีนจะใช้ MG มู่หลาน ในการเปิดราคาซึ่งทำให้ประชาชนในประเทศไทยตกใจเพราะราคาถูกมาก รวมส่วนลดที่รัฐบาลสนับสนุนแล้ว ถ้าตัวท็อป อยู่ที่ราคาประมาณ 960,000 กว่าบาท ถ้าเป็นตัวรองท็อป ราคาถูกกว่ากันประมาณ 100,000 บาท หรือ อยู่ประมาณ 860,000 กว่าบาท พลังงานสามารถวิ่งได้กว่า 400 กิโลเมตร ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภคที่จะหันมาใช้พลังงานสะอาด ปัจจุบันต้องยอมรับว่ารถที่มีพลังแรกคือ รถที่ใช้เครื่องยนต์ปกติ ต่อมาเป็นรถยนต์ที่เป็นไฮบริด และรถที่วิ่งน้ำมันได้ และสามารถชาร์ตไฟได้ และรถอีวีที่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน จึงน่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ประชาชนน่าจะมาให้ความสนใจมากขึ้น


      สำหรับรถ MG ถือเป็นครั้งแรกของการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ กับขุมพลังการขับขี่จากระบบขับเคลื่อนล้อหลังในรถยนต์ EV ที่มาพร้อมนวัตกรรม NEBULAPURE ELECTRIC PLATFORM สู่การเกิดมาเพื่อเป็นต้นแบบมาตรฐานใหม่ให้กับรถ EV เป็นการผสานที่สร้างสรรค์ ผสานไปกับความล้ำสมัยให้มีความปลอดภัย ก้าวเข้าสู่นิยามใหม่ของการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ให้คุณไปได้เร็ว และแรงกว่าที่เคย เพราะเราเชื่อว่าทุกคนเกิดมาเพื่อเป็นไอคอนของบางสิ่ง NEW MG4 ELECTRIC ICON


      สำหรับการออกแบบตัวรถใหม่ให้อารมณ์พรีเมียมสปอร์ต แบบ AVANT –GARDE INDUCTIVE DESIGN ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS ไฟท้าย LED หลังคาแบบ 2 –TONE พร้อมสปอยเลอร์หลัง แบบ TWIN ARROW WING ด้านในตัวรถถูกออกแบบอย่างสวยงาม มีอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย หน้าจอ TOUCHSCREEN ขนาดใหญ่ 10.25นิ้ว พื้นที่วางของ จุดของได้เยอะถึง 2 ระดับ มีช่องเชื่อมต่อ USB TYPEC และ A AREA จุของได้เยอะถึง 2 ระดับ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยใช้งานได้เต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น ด้วยเบาะด้านหลังปรับพับได้ พร้อมช่องใส่สมาร์ทโฟนหลังเบาะนั่งคู่หน้า สามารถปรับความลึกได้ 2 ระดับ มีความโดดเด่นอย่างลงตัวทุกองค์ประกอบ เพื่อให้ดูโปร่ง เรียบง่ายแต่เน้นอารมณ์ความเป็นสปอร์ตพร้อมคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยสูงสุด
      สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่โชว์รูมรถ MG ก้องกังวาล ริมถนนเพชรเกษม ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรีได้


      ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

      ขจร วัตรเอก KEY 8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      ม.ราชภัฏ จอมบึง จ.ราชบุรี นำนักศึกษาเรียนรู้การทำว่าวจุฬา ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมาแต่สมัยกรุงสุโขทัย รอการสืบทอดแลของเล่นโบราณให้คงอยู่คู่แผ่นดิน


      มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี นำนักศึกษาเรียนรู้การทำว่าวจุฬา ที่ อ.วัดเพลง เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมาแต่สมัยกรุงสุโขทัย รอการสืบทอดและอนุรักษ์ของเล่นโบราณให้คงอยู่คู่แผ่นดิน


      ดร.รัชนิดา รอดอิ้ว อาจารย์ ชญาดา อาสนสุวรรณ อาจารย์สาขาวิชานิเทศศาสตร์ และนวัตกรรมสื่อ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงและนางฐิรัตทียา สุภาชัย ประชาสัมพันธ์จังหวัดราชบุรี ได้นำนักศึกษาชั้นปีที่ 2 จากสาขาวิชานิเทศศาสตร์และนวัตกรรมสื่อ มาศึกษาเรียนรู้และฝึกการถ่ายภาพทำข่าว การทำว่าวจุฬาไทย ของนายปรีชา สุคนธมาน อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 5 ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี


      ว่าวจุฬาเป็นว่าวไทย ที่มีการละเล่นมาแต่สมัยโบราณ ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา รัตนโกสินทร์ มาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะรัชกาลในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 ทรงโปรดปรานการเล่นว่าวไทยโบราณมาก มีการละเล่นว่าวจุฬา และว่าวปักเป้า ชิงถ้วยพระราชทานในสมัยนั้น โดยให้พลโท พระยาสโมสรสรรพการ (ทัด ศิริสัมพันธ์ ) เป็นนายสนาม นักเล่นว่าวนิยมนำว่าวมาแข่งขัน จึงเป็นกีฬาที่สนุกสนาน เมื่อถึงฤดูแข่งขันว่าวจะมีประชาชนไปชมกันทุกเพศทุกวัย ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานพวงมาลัย โดยทรงสวมให้เพื่อเป็นเกียรติ
      สำหรับว่าวจุฬาจะได้รับพระราชทานผ้าแพรปัก พระปรภิไธย ย่อ จปร. ติดที่ตัวว่าว ผ้าแพร 3 สี คือ สีทอง สีชมพู และสีทับทิม ส่วนว่าวปักเป้าได้รับดอกจันทน์ 3 สี ในระหว่างแข่งขันด้วย มีแตรวงและพิณพาทย์ บรรเลงเพลงต่างๆทำให้สนุกสนานครึกครื้น


      แต่ปัจจุบันการทำว่าว เล่นว่าวลดน้อยลง เพราะผู้เชียวชาญการทำได้ล้มหายตายจากกันไป แต่ก็ยังมีผู้สืบทอดกันมา อย่างอาจารย์ปรีชา สุคนธมาน ยังมีการสืบทอดการทำว่าวจุฬาไทยมานานกว่า 50 ปีแล้ว เพื่อเป็นการสืบสานศิลปะแขนงนี้ จึงได้นำน้อง ๆ นักศึกษาชั้นปีที่ 2 จากสาขาวิชานิเทศศาสตร์และนวัตกรรมสื่อ มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง ไปเลือกไม้ไผ่สีสุก ซึ่งเป็นไม้ที่มีความเหมาะสมคงทนในการทำว่าว เนื่องจากเนื้อไม้มีน้ำหนักเบา เหนียว ยืดหยุ่นสูง ไม่หักง่าย

      โดยจะต้องเลือกไม้ที่อยู่บริเวณกลางกอไผ่ จะมีแสงแดดส่องได้ทั่วลำ อายุในการใช้อยู่ประมาณ 3-5 ปี จึงตัดลงมาทำว่าวจุฬาได้รูปทรงดี นำมาตัดเป็นท่อนผ่าออกมาเป็นซีก เหลาให้เรียวยาวตามสัดส่วน โดยหากเป็นว่าวจุฬาจะประกอบด้วยไม้ 5 อัน ไม้อันกลางเรียกว่า “อก” เหลาหัวท้ายให้ปลายเรียว ไม้อีก 2 อัน ผูกขนาบตัวปลายให้จรดกันเป็นปีก และไม้อีก 2 อัน เป็นขาว่าว เรียกว่า “ขากบ” จากนั้นนำโครงว่าวมาขึงด้าย เป็นตารางตลอดตัวว่าวเรียกว่า “ผูกสัก” แล้วใช้กระดาษทากาวแล้วปิดทับลงบนโครง โดยวิธีการทำอาจจะดูว่าทำง่าย ๆ แต่ความเป็นจริงแล้ว การทำว่าวถือเป็นภูมิปัญญาที่จะต้องใช้ความอดทน มีสมาธิ เพราะเป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียด หากทำแล้วไม่ได้สัดส่วนอาจจะทำให้ว่าวไม่สามารถลอยตัวขึ้นบนฟ้าได้เลย หรือ อาจลอยตัวขึ้นได้ แต่การทรงตัวไม่ค่อยดี เอียงซ้าย เอียงขวา หรือ หมุนควงดิ่งลงพื้นดินได้ โดยช่างแต่ละคนจะมีเทคนิคและเคล็ดลับการทำว่าวที่แตกต่างกันไป

      ส่วนการทำว่าวจุฬาแต่ละตัวใช้เวลาค่อนข้างนานประมาณ 3-7 วัน อยู่ที่ความชำนาญและความประณีต ทั้งการติดดอกลายไทยประยุกต์เป็นรูปต่าง ๆ ตั้งแต่ 5-7 ชั้น และยังพัฒนาเรื่องรูปทรงการขึ้น การส่าย ต้องสวย ต้องเสียงดัง และต้องสูง ทรงตัวดี ส่วนราคาจำหน่ายมีหลายขนาดตั้งแต่ 1 – 4 ศอก เช่น ว่าวจุฬา 1 ศอก หรือ ขนาด 50 เซนติเมตร ขายราคา 750 บาท ขึ้นไป แล้วแต่ละขนาดราคาจะไม่เท่ากัน


      นายปรีชา สุคนธมาน หรือ ลุงชาจุฬาไทย ผู้อนุรักษ์ว่าวจุฬาโบราณ กล่าวว่า อยากให้ว่าวไทยมีการอนุรักษ์สืบสานต่อไปจนถึงชั่วลูกหลาน เพราะว่าว่าวไทยตอนนี้กำลังจะหมดไปแล้ว จึงคิดว่าอยากทำให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ก่อนที่ชีวิตยังมีอยู่ อยากให้มีการส่งเสริมเรื่องมีบุคลากรมาสืบสานต่อ อยากให้มีการส่งเสริมเรื่องผู้ที่จะสืบสานหรือ เรื่องงบประมาณต่างๆมาช่วย เพราะการทำจะมีค่าใช้จ่ายเรื่องหาไม้ กระดาษ อุปกรณ์ในการทำว่าว อยากให้เด็กได้กลับมามีว่าวไทยวิ่งเล่นกันอีกเหมือนเดิมสมัยที่ตนเองเคยเป็นเด็กได้วิ่งเล่นว่าวไทยในสมัยก่อนกลับคืนมา ปัจจุบันนี้เด็ก ๆ จะยึดติดเล่นอยู่แต่โทรศัพท์มือถือ เกม ยาเสพติด จึงอยากทำให้เด็กหันมาสนใจการเล่นว่าวไทยอีกครั้ง อีกทั้งยังได้ประโยชน์คือ เด็กยังได้ออกกำลังกายมีสุขภาพที่แข็งแรง ช่วงหน้าเล่นว่าวที่กำลังจะมาถึงนี้ อยากให้ผู้ที่สนใจได้จัดกิจกรรมว่าวไทยกันให้มากขึ้น ทั้งว่าวจุฬา ว่าวปักเป้า ว่าวสาย ว่าวภาพต่างๆ อยากให้มองอย่างลึกซึ้งถึงประโยชน์ของการเล่นว่าว ซึ่งขณะนี้ได้รับการติดต่อจากสถานที่ต่างๆ เช่น บ้านไร่ในฝัน อ.เมืองราชบุรี ให้นำว่าวจุฬาไปแสดงโชว์ในงานวันเด็กแห่งชาติที่กำลังจะมาถึงในต้นเดือนมกราคมนี้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หันมาช่วยกันส่งเสริมและสนับสนุนภูมิปัญญาว่าวไทยโบราณได้ดำรงคงอยู่ไปชั่วลูกหลานจะได้ไม่สูญหายไปจากแผ่นดิน
      สำหรับที่นี่ยินดีสอนการทำว่าวจุฬาฟรี ทางเฟซบุ๊ก ชา จุฬาไทย หรือ ติดต่อเบอร์ 081-4979219


      ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

      ขจร วัตรเอก KEY 8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      สาวราชบุรีเปิดร้าน “หลงรักกัญ” ขายกัญชากลางเมืองโอ่งราชบุรี อย่างถูกกฎหมาย


      สาวราชบุรีเปิดตัวร้าน “ หลงรักกัญ ” ขายกัญชากลางเมืองโอ่งราชบุรี อย่างถูกกฎหมาย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง มีสาวหนุ่มให้ความสนใจเมนูเครื่องดื่ม และขนม ที่ร้านมีไอเดียสร้างสรรค์ หวังเอาใจลูกค้าหลังโควิดคลี่คลาย

      นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี มาร่วมพิธีเปิดแชมเปญแสดงความยินดี


      เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา นางสาวอภิรดา พงษ์ประภัทร พร้อมเพื่อน ๆ ร่วมเปิดร้าน “ หลงรักกัญ ” ขายกัญชา ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง เขตเทศบาลเมืองราชบุรี โดยมีนายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี มาร่วมพิธีเปิดแชมเปญแสดงความยินดี มีการนำเมนูเครื่องดื่มจากกัญชา ที่ปลูกเลี้ยงอย่างดีแบบออแกนิกส์มาปรุงเป็นเมนูต่าง ๆ เช่น เมนูขนมมาให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ชิมกัน พร้อมยังได้เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงและดนตรีที่มาขับกล่อมให้นักท่องเที่ยวได้มีความสุข

      นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี


      นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี เปิดเผยว่า หลังมีการปลดล็อกกัญชาไปเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา สำหรับผู้ที่มาจะบริโภคกัญชาจะต้องมีอายุมากกว่า 20 ปี บริบูรณ์ เป็นคนที่ห้ามตั้งครรภ์ ซึ่งกัญชาในสถานศึกษาก็ยังถือว่าผิดกฎหมายอยู่ ถ้าหากมีการจำหน่ายกัญชาในสถานที่ เช่นที่ร้าน “ หลงรักกัญ ” ซึ่งมีการได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข โดยสาธารณสุขจังหวัดราชบุรีเป็นผู้ที่ออกใบสำหรับจำหน่ายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กัญชาได้ ถือว่าเป็นร้านแห่งแรกในจังหวัดราชบุรีและแห่งแรกในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงอยากจะบริโภคกัญชาที่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้มาบริโภคอุดหนุนได้ที่ร้าน “ หลงรักกัญ ” ได้


      สำหรับบรรยากาศของร้านถูกออกแบบตกแต่งเป็นห้องกระจก อยู่ใกล้กับสะพานธนรัชต์ ที่มีระเบิดสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จมอยู่ใต้น้ำ โดยขนาบคู่ไปกับสะพานขึงรถไฟแห่งแรกของประเทศไทย ริมแม่น้ำแม่กลอง ที่ได้มีการก่อสร้างแล้วเสร็จและเตรียมเปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการในช่วงปีหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้ ถือเป็นสะพานขึงที่สวยงาม และเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของ จ.ราชบุรี และของประเทศไทย ทำให้ร้าน “หลงรักกัญ” ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดสะพาน ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมานั่งรับประทานอาหาร และเครื่องดื่มเมนูน้องใหม่ โดยเฉพาะช่วงเย็นวันศุกร์ – อาทิตย์ จะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะมีการเปิดตลาดโคยกี๊ริมแม่น้ำแม่กลอง มีการจำหน่ายอาหาร สินค้า ผลิตภัณฑ์ของดี ของอร่อยมาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ เลือกชิม เลือกช้อป ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายริมแม่น้ำช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งร้านจะเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. สนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ร้าน “ หลงรักกัญ ” เบอร์ 081-0146444


      ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

      ขจร วัตรเอก KET 8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      เทศบาลเมืองบางคูวัด  อ.เมืองปทุมธานี เปิดลงทะเบียนผู้สูงอายุ (รายใหม่) ประจำปีงบประมาณ  2567

        นายวีระ  กล่ำสนอง  นายกเทศมนตรีเมืองบางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี เปิดลงทะเบียนผู้สูงอายุ (รายใหม่) ปีงบประมาณ  2567


        นายวีระ  กล่ำสนอง  นายกเทศมนตรีเมืองบางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี  เปิดเผยว่า ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 กำหนดให้ผู้สูงอายุแสดงความจำนงขึ้นทะเบียนเพื่อขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุประจำปีงบประมาณ  2567 ต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปในปีงบประมาณ 2567  โดยเป็นผู้ที่เกิดก่อน 2 กันยายน 2507 (ในกรณีไม่ปรากฏวันที่ เดือนเกิด ให้ถือว่าบุคคลผู้นั้นเกิดในวันที่ 1 มกราคม ของปีนั้นๆ) และยังไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการ หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้แก่  ผู้รับเงินบำนาญหรือเบี้ยหวัด  บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน


      นายกเทศมนตรีเมืองบางคูวัด กล่าวอีกว่า สำหรับผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ผู้ที่ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทนรายได้ประจำหรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจำยกเว้นผู้พิการและผู้ป่วยเอดส์ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพของ อปท.
      นายวีระ  กล่าวต่อว่า ผู้สูงอายุที่ต้องการแสดงความจำนงขึ้นทะเบียน เพื่อขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ  ประจำปีงบประมาณ 2567 ยื่นคำร้องขอขึ้นทะเบียนได้ที่  สำนักงานเทศบาลเมืองบางคูวัด  ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน  2565 และ เดือนมกราคม ถึงเดือนกันยายน 2566 (ในวัน เวลา ราชการ) พร้อมทั้งให้นำบัตรประชาชนหรือบัตรที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายของผู้ขอ ลงทะเบียนพร้อมสำเนา 1 ชุด ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา 1 ชุด สมุดบัญชีเงินฝาก ธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ สาขาใดก็ได้พร้อมสำเนา 1 ชุดเพื่อเป็นหลักฐานในการลงทะเบียนผู้สูงอายุ หากท่านมีข้อสงสัย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองบางคูวัด หมายเลขโทรศัพท์ 02-1570845-50 ต่อ 104 ในวันและเวลาราชการ

      ภาพ-ข่าว.ประพฤติ อรรฆธน

      ขจร วัตรเอก KEY 8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      เทศบาลนครนครปฐม ร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทย จัดงานประเพณีลอยกระทง ภายใต้ชื่องาน “คืนเพ็ญงามอร่าม สายน้ำประวัติศาสตร์ร้อยปี คลองเจดีย์บูชา”

      เทศบาลนครนครปฐม ร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทย จัดงานประเพณีลอยกระทง ภายใต้ชื่องาน “คืนเพ็ญงามอร่าม สายน้ำประวัติศาสตร์ร้อยปี คลองเจดีย์บูชา”

      วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ที่บริเวณคลองเจดีย์บูชา หน้าวัดพระงาม พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้เป็นประธานเปิดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2565 โดยมี นายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครนครปฐม ร่วมกับ สำนักงานจัดประโยชน์และรักษาองค์พระปฐมเจดีย์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 8 พฤศจิกายน 2565 ภายใต้ชื่องาน “คืนเพ็ญงามอร่าม สายน้ำประวัติศาสตร์ร้อยปี คลองเจดีย์บูชา” เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและขอขมาพระแม่คงคา อีกทั้งสืบสานศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามให้อยู่คู่สังคมไทย ตลอดจนส่งเสริมให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ในการจัดงานประเพณีลอยกระทง และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครปฐม อีกด้วย

      โอกาสนี้ พระเทพมหาเจติยาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม รองเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร แสดงพระธรรมเทศนา เนื่องในวันลอยกระทง จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายกเทศมนตรีนครนครปฐม ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติ ร่วมลอยกระทง โดยมีประชาชนร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

      สำหรับกิจกรรมภายในงานคืนเพ็ญงามอร่าม สายน้ำประวัติศาสตร์ร้อยปี คลองเจดีย์บูชา ประกอบด้วย ขบวนแห่กระทง การแสดงเพลงเรือ การแสดงมหรสพ กิจกรรมวาดภาพเหมือน ตลาดย้อนยุค การแสดงทางวัฒนธรรม การเต้นประกอบดนตรีผู้สูงอายุ การประกวดหนูน้อยนพมาศ การแสดงกระทงและโคมแขวนสวยงาม การแสดงดนตรีไทย ลูกทุ่ง สตริง คลาสสิก และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      ผู้ว่าฯ จันทบุรี ร่วมงานแต่งนักกีฬาซูโม่ อันดับ2 ของโลก

      ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ร่วมงานแต่งนักกีฬาซูโม่ทีมชาติไทย ที่เคยติดอันดับ2 ของโลก

      ที่เซ็ลทรัล ฮอลล์ จ.จันทบุรี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้เดินทางมาเป็นเป็นประธานจัดงาน มงคลสมรส ระหว่าง นางสาววิภารัตน์ วิทูธีรศานต์ (เตย) บุตรตรีของ นายภานุ (กำนันต้น) และนางรุ่งรัตน์ (เจ๊ต๋อย) วิทูธีรศานต์ เจ้าของลานกางเต้นท์กำนันต้น เขาคิชกูฎ อ.เขาคิชกูฏ จ.จันทบุรี กับนายจิรวัฒน์  เกรียงพิริยกุล(อาร์ม) บุตร นายสวัสดิ์ (บอสแก่น)  เขตน์คงกับ
      และนางศิริพร (อาจารย์พร)
      โคตะมา


        โดยเจ้าสาวงานนี้เป็นบุตรตรีคนเดียวของนายภานุ และนางรุ่งรัตน์ มีดีกรีเป็นนักกีฬาทีมชาติซูโม่อันดับ 2 ของโลก จากรายการ women sumo wolrd championship 2017

        นายภานุหรือกำนันต้นเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนและภรรยาดีใจและมีความสุขมากที่ได้ร่วมกับบิดา มารดา ฝ่ายเจ้าบ่าว ร่วมกันจัดงาน มงคลสมรสให้ลูกสาวคนเดียวของตน งานมงคลสมรสในครั้งนี้ตนต้องขอขอบคุณ งท่านมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ที่ได้ให้เกียรติมาเป็นประธาน
      พร้อมทั้ง ผศ.ไวกูณฑ์ ทองอร่าม อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
      และผู้มีเกียรติ พร้อมญาติผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อนๆ

      ที่เดินทางมาจากสถานที่ต่างๆ หลายท่าน ตนได้สั่งอาหารโต๊ะจีนซื่อดังจาก จ.นครปฐม คือ“ยุทธพงษ์โภชนา” ซึ่งเป็นโต๊ะจีนแนวหน้าจังหวัดนครปฐมมาเลี้ยงรับรอง แขกผู้มีเกียรติ  จำนวน 150 โต๊ะ เต็มพื้นที่ของสถานที่จัดงาน ตนทั้งสองต้องขอขอบคุณ ผู้ใหญ่ และญาติมิตรทุกท่าน ที่ให้เกียรติมาร่วมฉลองงาน มงคลสมรสของบุตรี ตนหากมีสิ่งผิดพลาดประการใดตนทั้งสองกราบขออภัย มา  ณ ที่นี้ด้วย

      ภาพ-ข่าว ประพฤติ อรรฆธน


      ขจร วัตรเอก NEWS▪︎PRESS รายงาน

      นครปฐม.วัดทัพหลวง จัดพิธีตักบาตรเทโวโรหณะ และทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2565 

      วัดทัพหลวง นครปฐม จัดพิธีตักบาตรเทโวโรหณะ และทอดกฐินสามัคคี ประจำปี 2565

       
        เมื่อวันที่ 11 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ที่บริเวณวัดทัพหลวง อ.เมือง จ. นครปฐม ได้มีพุทธสนิกชนกว่าสองพันคนร่วมตักบาตร เวโวโรหณะ และร่วมทอดผ้ากระฐินสามัคคี ในงานนี้ได้มีชาวเขาเผ่า ลั๊ว ที่ได้มาทำงาน ในเขต จ. นครปฐม มาร่วมด้วยเป็นที่น่าสังเกตว่า ชาวเขาเผ่าลั๊ว แม้จะอยู่ต่างถิ่น ก็ยังแต่งกายและนำเครื่องดนตรีประจำเผ่าอาทิกลองซึ่งมีความยาวกว่า 2 เมตร มาร่วมแห่พุ่มกฐินอีกด้วย ทามกลางสายฝนที่โปรยลงมาอย่างหนัก  แต่ด้วยความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ทุกคนยังคงสู้ฝนจนเสร็จพิธี


      พระครูวิจิตรสรคุณ  เจ้าอาวาสวัดทัพหลวง กล่าวว่า กฐินสามัคคีที่ทำการทอดในวันนี้ ได้มีสำนักงาน เอ ไอ เอ และ บริษัท FCG GROUP จำกัด จ.นครปฐม โดย นายธีรัตน์ อรรฆธน นางฐาปนีย์ เทียนทอง นายวิญญู เฉลิมทอง นางจารุวรรณ อริยานนท์ เป็นประธานดำเนินการในครั้งนี้ นอกจากนี้ได้มี องค์การบริหารส่วนตำบลทัพหลวง  กำนันผู้ใหญ่บ้าน และพุทธศาสนิกชน จากสถานที่ต่างๆมาร่วมพิธีทอดผ้าพระกฐินในครั้งนี้อย่างเนืองแน่น  และขอบคุณ อาสาสมัครทุกคนที่มาช่วยอำนวยการจราจร เป็นที่เรียบร้อย  อาตมาขอบคุณประชาชนที่นำอาหารหารมาเปิดเป็นโรงทาน จำนวนกว่า 50 ร้าน เพื่อแจกจ่าย ให้ผู้ที่มาร่วมบุญทอดผ้ากฐินสามัคคีได้รับประทานอย่างทั่วถึง สำหรับยอดเงินจากการทอดผ้าพระกฐินในปี 2565 นี้ ได้เงินจำนวนทั้งสิ้น 2,000,058 บาท
      (สองล้านห้าสิบแปดบาทถ้วน) อาตมาจะได้นำไปบูรณปฎิสังขรวัด ในส่วนที่ชำรุดทรุดโทรม ให้คงทนถาวรสืบไป เพื่อเป็นประโยชน์ของพุทธศานิกชน ทุกท่าน ขอความสุข ความเจริญรุ่งเรืองในธรรมบังเกิด
      แก่ ทุกๆท่านที่มาร่วมกุศลในครั้งนี้โดยทั่วกันเทอญ
      ท่านพระครูวิจิตรสรคุณ เจ้าอาวาสวัดทัพหลวง กล่าวในที่สุด

      ทางด้านนายธีรัตน์ และนายวิญญู ร่วมกันเปิดเผยว่า การที่ตนทั้งสองและครอบครัว ได้รับเป็นประธานในการทอดพระกฐินในครั้งนี้ไม่ต้องการ แสวงหาเกียรติยศ ชื่อเสียง แต่ทำด้วยความตั้งใจเพื่อ สืบทอดเจตนารมณ์ วัฒนธรรม ประเพณีให้อยู่กับ อนุชนรุ่น หลัง  เป็นการบำรุงพุทธศาสนา ให้ยั่งยืน และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ ใจบุญใจกุศลทุกท่าน ได้มาร่วมบุญกุศล ร่วมทอดผ้าพระกฐินสามัคคีในครั้งนี้ ตนทั้งสอง ขอบคุณประธานดำเนินงานรวมถึงประชาชนทุกท่านที่มาร่วม ทอดผ้าพระกฐินสามัคคีในวันนี้ หากเราสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจ กันทุกท่านเช่นงานนี้ ความสำเร็จจึงเกิดขึ้นเช่นภาพที่ปรากฏเบื้องหน้านี้ นายธีรัตน์กล่าวในที่สุด

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม สร้างห้องรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วย จากเรือนจำกลางนครปฐม ที่แรกที่เดียวใน ‘โรงพยาบาลนครปฐม’

      หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม สร้างห้องรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วย ผู้ต้องขัง เรือนจำกลางนครปฐม ถือว่าเป็นที่แรกที่เดียวในโรงพยาบาลนครปฐม และเป็นแห่งแรกในประเทศไทย

      หลวงพี่น้ำฝน กล่าว่าการทำครั้งนี้ ถ้าทำเพื่อตัวเองก็อยู่แค่สิ้นลม แต่ถ้าทำเพื่อสังคมแม้สิ้นลมก็ยังอยู่ การสร้างห้องรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วย ผู้ต้องขัง สำหรับเรือนจำกลางนครปฐม ในครั้งนี้เป็นการสร้างในโรงพยาบาลนครปฐม เป็นที่แรก ที่เดียว ในประเทศไทย อาตมาคิดว่าใครไม่ทำ หลวงพี่น้ำฝนทำเอง อาจเป็นแบบอย่างให้จังหวัดอื่นๆ ก็ได้ ถือว่าเป็นเรื่องดี ๆ สำหรับผู้ต้องขัง.

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      อบจ.นครปฐม เปิดโรงอาหารเจ ส่งเสริม ปชช.กินผัก ลดเนื้อสัตว์ทุกชนิด

      องค์การบริการส่วนจังหวัดนครปฐม เปิดโรงอาหารเจ ส่งเสริมประชาชนกินผัก ลดเนื้อสัตว์ทุกชนิดช่วงเทศกาลถือศิลกินเจ 24 ก.ย. ถึง 4 ต.ค. 65

      นายกหนึ่ง และภรรยา ช่วยทำครัวด้วยตัวเอง

      วันที่ 26 กันยายน 2565 ที่โรงครัวชั่วคราว ในบริเวณองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม นางวราภรณ์ เจริญศิริโชติ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครปฐม ได้ร่วมเป็นจิตอาสาปรุงอาหารกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม โดยมีนายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ (นายกหนึ่ง) นายกอบจ.นครปฐม นางสุภาภรณ์ สะสมทรัพย์ (คุณแม่นายกหนึ่ง) และนางวิลาสินี สะสมทรัพย์ (ภรรยานายกหนึ่ง) พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ อบจ.นครปฐม ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานจ้าง อบจ.นครปฐม และจิตอาสาฯ

      ได้ร่วมกันในการเตรียมอาหารคาว หวาน สำหรับบริการให้แก่พี่น้อง ประชาชน ชาวไทยเชื้อสายจีน และบุคคลทั่วไปที่อยู่ในระหว่างเทศกาลถือศีลกินเจ ประจำปี2565 ระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 4 ตุลาคม 2565 โดยให้บริการอาหารเจแบบอาหารกล่อง มื้อกลางวัน ทุกวัน (ตั้งแต่เวลา 11.30 – 13.00) โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ บริเวณหน้าสำนักงาน อบจ.นครปฐม

      นางสุภาภรณ์ สะสมทรัพย์ แม่ครัวจิตอาสา ซึ่งเป็นคุณแม่ของนายกหนึ่งแจ้งว่าสำหรับเมนูอาหารเจวันนี้ (26 กันยายน 2565 ) เป็นผัดกระเพรา ผัดขิง ถั่วเขียวต้มน้ำตาล คุณแม่บอกว่าเทศกาลถือศีลกินเจ ของชาวจีน เป็นการกินเพื่อรักษาสุขภาพ การกินที่ปราศจากเนื้อสัตว์ทุกชนิดของร่างกาย เป็นการดีต่อสุขภาพ และยังเป็นการช่วยลดการฆ่าสัตว์ ได้ช่วงหนึ่งด้วย เป็นการได้ทำบุญ และโปรดสัตว์ อีกทาง

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS รายงาน

      สนับสนุนข้อมูล ภาพ-ข่าว

      ผบช.ภ.7 รับมอบข้าวสารจากวัดเล่งเน่ยยี่ เพื่อมอบต่อข้าราชการตำรวจในสังกัด

      ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 รับมอบข้าวสารจาก วัดเล่งเน่ยยี่ เพื่อมอบต่อข้าราชการตำรวจในสังกัด

      วันที่ 8 กันยายน ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 7 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ปรีดา  อิ่มเจริญ ผบก.ศฝร.ภ.7 พ.ต.อ.สายฟ้า  จิราวรรธนสกุล รอง ผบก.อก.ภ.7
      พ.ต.อ.ปรัชญา  ทองน้ำวน รอง ผบก.อก.ภ.7 พ.ต.อ.หญิง ดวงใจ  พานิชอัตรา รอง ผบก.อก.ภ.7

      ได้รับมอบข้าวสาร ถุงๆละ 5 กก. จำนวน 300 ถุง น้ำหนักรวม 1,500 กก. จากนายสกุล นาคธรรมาภรณ์  ผู้แทนพระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่ 1) เจ้าอาวาสวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่งเน่ยยี่ 2) รักษาการเจ้าอาวาสวัดทิพยวารีวิหาร (วัดกัมโล่วยี่)เลขานุการเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย ปลัดขวาจีนนิกาย เพื่อนำไปแจกจ่าย ให้กับข้าราชการตำรวจ สังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ครอบครัว และพนักงาน ลูกจ้าง ตำรวจภูธรภาค7 เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS 080922

      ศิษย์เก่า ร.ร.วัดดอนยายหอม ชวนเพื่อน จัดโครงการเลี้ยงอาหารกลางวัน “พี่เลี้ยงน้อง”

      ศิษย์เก่าโรงเรียนวัดดอนยายหอม อ.เมือง จ.นครปฐม ชวนเพื่อนพี่น้อง จัดโครงการเลี้ยงอาหารกลางวัน “พี่เลี้ยงน้อง”

      เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 ที่โรงเรียนวัดดอนยายหอม  อ.เมือง จ.นครปฐม
      นายเกียรติศักดิ์ กุลสืบ ในนามศิษย์เก่า โรงเรียนวัดดอนยายหอม ในรวมตัวชวนพรรคพวกเพื่อนฝูง จัดโครงการอาหารกลางวัน “พี่เลี้ยงน้อง”
      โดยนำอาหารไปเลี้ยงเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล -ป.1ถึง ป.6 จำนวน 467 คน รวมถึงครูและผู้บริหาร,ครูฝึกสอน,นักการภารโรงอีก  35 คน
       

      นายเกียรติศักดิ์ กุลสืบ กล่าวว่าสำหรับค่าอาหารที่นำมาในวันนี้ไดัรับความสนับสนุนจากพี่ๆ น้องๆ ที่มาร่วมงาน และทางบ้านด้วย เราร่วมด้วยช่วยกัน พร้อมความเมตตาจาก พระครูปฐมวราจารย์ หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม และพระมหาสุดใจนำของที่ระลึกแจก คณะศิษย์ญานุศิษย์ งานครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้อย่างดี ก็เพราะความสามัคคี พี่ๆ น้องๆ เด็กๆ ในตำบลดอนยายหอมของเรา ที่เป็นศิษย์เก่า ร.ร.นี้ ขอขอบพระคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกๆ ท่านมาก สำหรับอาหารที่นำมาเลี้ยงดูแลเด็กอย่างดี เช่นร้านข้าวหมูแดง อึ้งทงฮะ ตลาดท่ารถบางเลน ,ร้านข้าวหมูบิน ตลาดนครปฐม ,ไอศครีมไผ่ทอง สาขาสามพราน รวมยอดเงินทั้งสิ้นที่ใช้จ่ายในงานนี้กว่า 35,000 บาท 

      สุดท้ายขอขอบพระคุณทุกท่านและขออวยพรให้อย่าเจ็บอย่าจนจงมีแด่ทุกท่านครับ

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS 010922

      ผบช.ภาค 7 เป็นประธานการประชุมแผนถวายความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจร งานพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ม.ราชภัฏ นครปฐม

      พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
      ผบช.ภ.7

      พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เป็นประธานการประชุม
      “แถลงแผนถวายความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจร ตามหมายกำหนดการ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จพระดำเนินแทนพระองค์ ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏ เขตภาคกลาง และ กทม. ประจำปีการศึกษา 2560-2562 ณ หอประชุมสิริวรปัญญา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ถ.มาลัยแมน อ.เมืองนครปฐม จว.นครปฐม ระหว่างวันที่ 1-13 ก.ย. 65 รวม 13 วัน”

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS▪︎PRESS 300822

      มูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา มอบเงิน 69.9 ล้านบาท สมทบทุนจัดสร้างศูนย์ผ่าตัดตา โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว

      โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) รับมอบเงินบริจาคสมทบทุนจัดสร้างศูนย์ผ่าตัดตาโรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว โดยความอนุเคราะห์ของมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา มูลค่า 69,900,000 บาท

      วันที่ 17 ส.ค. 2565 โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) ได้มีพิธีรับมอบเงินบริจาคสมทบทุนจัดสร้างศูนย์ผ่าตัดตา โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว โดยความอนุเคราะห์ของมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา มูลค่า 69,900,000 บาท โดยมี นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) พร้อมคณะผู้บริหาร แพทย์ พยาบาล กลุ่มจิตอาสาสร้างสุข โรงพยาบาลบ้านแพ้วฯ รวมถึงผู้แทนมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา โดยนายสมคิด รุจิปกรณ์ กรรมการและเลขาธิการฯ และนายวุฒิพงค์ ชาครัตพงศ์ รองประธานกรรมการมูลนิธิ พร้อมคณะ เข้าร่วมพิธี ณ ห้องประชุมเทพกาญจนา ชั้น 10 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) จ.สมุทรสาคร

      นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า ทีมงานมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ได้เข้ามาช่วยบริจาคและสนับสนุนกิจกรรมของโรงพยาบาลมาตลอด ทั้งการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหัวใจ และสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องมือทางการแพทย์ในช่วงวิกฤติโควิด-19 และมีโอกาสได้พบและตรวจสุขภาพตาให้คุณสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา จึงได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นรวมถึงฝันของเจ้าหน้าที่และทีมจักษุแพทย์ที่อยากจะช่วยคนไข้โรคตาจำนวนมาก ให้ได้พบแสงสว่างอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานทางมูลนิธิฯ ได้ตัดสินใจสนับสนุนการสร้างศูนย์ผ่าตัดตา โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว จำนวน 69.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินก้อนใหญ่ที่สุดที่โรงพยาบาลบ้านแพ้วฯ เคยได้รับ

      โดยทางมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา เป็นองค์กรสาธารณกุศล ดำเนินงานช่วยเหลือสังคม โดยมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการพัฒนา เพื่อคน เพื่อสังคม เพื่อโลกที่ยั่งยืน ได้มีความสนใจและติดตามการทำงานของโรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) จึงพบว่าโรงพยาบาลมีศักยภาพในการช่วยเหลือประชาชน รวมถึงมองเห็นความตั้งใจของทีมแพทย์และพยาบาล ความพร้อมของบุคลากรเชี่ยวชาญพิเศษทางด้านจักษุ มีแผนชัดเจนในการขยายโอกาส อีกทั้งมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เดินทางออกไปดูแลรักษาประชาชนในสถานที่ต่าง ๆ ทางมูลนิธิฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการมอบโอกาสให้กับประชาชนได้เข้าถึงการรักษา เพื่อเพิ่มโอกาสในการมองเห็นจึงสนับสนุนเงินเพื่อสร้างศูนย์ผ่าตัดตา โรงพยาบาลจักษุแห่งนี้

      ทั้งนี้ โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จในเฟสที่ 1 โดยเปิดให้บริการเมื่อ 1 พ.ค. 2564 และเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลในเฟสที่ 2 เมื่อเดือน ก.ค. 2565 ในส่วนที่เป็นหัวใจหลักของโรงพยาบาล คือ “ศูนย์ผ่าตัดตา” มูลค่า 89 ล้านบาท แต่ยังขาดงบประมาณการก่อสร้าง และจากพลังศรัทธาการร่วมสร้างโอกาสในการมองเห็นนี้ ทำให้การก่อสร้างจะแล้วเสร็จในเดือน มี.ค. 2566 ประกอบด้วยห้องผ่าตัดตามาตรฐานสูงจำนวน 9 ห้อง จากเดิมมีเพียง 2 ห้อง ต่อจักษุแพทย์ 14 คน สามารถผ่าตัดตาได้มากกว่า 16,000 รายต่อปี ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้จะทำให้โรงพยาบาลจักษุบ้านแพ้ว สามารถเพิ่มศักยภาพการผ่าตัดตา ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่มีคุณภาพและเพียงพอกับจำนวนผู้ป่วยที่รอคอยการผ่าตัดรักษา อีกทั้งสามารถดูแลผู้ป่วยที่ส่งต่อจาก 8 จังหวัดในเขตบริการสุขภาพที่ 5 ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งช่วยลดภาระการส่งต่อผู้ป่วยไปรักษายังโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ได้อีกด้วย

      ขอขอบคุณ ภาพ-ข่าว ณัฐวุติ เอกจิโรภาส สมุทรสาคร

      ขจร วัตรเอก KEY8 NEWS-PRESS รายงาน