คลังเก็บหมวดหมู่: ข่าวภูมิภาค

ราชบุรี – 47 ศิลปินดังรวมพลัง ส่งเสริมเยาวชนเรียนรู้งานศิลปะ ในโครงการ “The Dragon of ColoRs”

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 ที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมหลวงยกระบัตร เมืองราชบุรี ริมแม่น้ำแม่กลอง เทศบาลเมืองราชบุรีจัดโครงการกิจกรรมพัฒนาศักยภาพเด็ก เยาวชน และประชาชน ประจำปีงบประมาณ 2569 ระหว่างวันที่ 1–3 ธันวาคม ส่งเสริมให้เยาวชนได้เรียนรู้ทักษะศิลปะ ผ่านเวทีอบรมเชิงปฏิบัติการ “Ratchaburi Art Exhibition – The Dragon of ColoRs” พร้อมจัดแสดงผลงานศิลปะจากเหล่าศิลปินระดับประเทศกว่า 47 คน รวมกว่า 100 ชิ้น โดยจะเปิดให้ชมยาวถึงกลางเดือนมกราคม 2569

พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี กล่าวเปิดงาน โดยมีนางกรรณิการ์ พูลสวัสดิ์ รองปลัดเทศบาลเมืองราชบุรี และนางสาวสุทธิดา เอี่ยมสำอางค์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษาเทศบาลเมืองราชบุรี ร่วมดำเนินงาน กิจกรรมมุ่งสร้างพื้นที่เรียนรู้ทักษะใหม่ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และสร้างความมั่นใจให้แก่เด็กและเยาวชน ผ่านการสร้างสรรค์งานศิลปะและประดิษฐ์ ตลอดจนเปิดพื้นที่ให้แสดงความคิดและความสามารถ อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชนและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

ไฮไลท์สำคัญ ของงานครั้งนี้ คือการสาธิตวาดภาพเกรยองจากปลายแท่งถ่าน โดย อาจารย์บัญญัติ พวงทอง หรือ “อ.อู๊ด อัมพวา” ที่วาดภาพเหมือนของนายกเทศมนตรีเมืองราชบุรีบนเวที ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีแต่ได้ผลงานที่โดดเด่นทั้งอารมณ์และมิติ โดยได้มอบภาพดังกล่าวให้เป็นที่ระลึกด้วย

ภายในงาน นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรีได้เดินชมนิทรรศการผลงานของศิลปินระดับประเทศกว่า 47 คน พร้อมผลงานของนักเรียนจากโรงเรียนต่าง ๆ ในจังหวัดราชบุรี โดยมีทั้งภาพโอ่งมังกรเมืองราชบุรี ภาพสีสันแดนมังกร ภาพทิวทัศน์ ภาพบุคคลสำคัญ รวมถึงภาพจากฝีมือนักเรียน ซึ่งบางชิ้นมีมูลค่าตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท

นายศักดิ์ชัย พิศาลผล กล่าวว่า ราชบุรีเป็น “เมืองอาร์ต” ที่มีศิลปินมากมาย เทศบาลจึงร่วมกับกลุ่มศิลปินพื้นที่ราชบุรีและจังหวัดใกล้เคียง นำผลงานจัดแสดงที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดหลังเก่า เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เทคนิคต่าง ๆ โดยมีนักเรียนกว่า 360 คนเข้าร่วม เชื่อว่าจะช่วยสร้างพื้นฐานและพัฒนาทักษะด้านศิลปะให้แข็งแรงยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เทศบาลเตรียมนำผลงานศิลปะไปจัดแสดงเพิ่มเติมบริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา ริมแม่น้ำแม่กลอง พร้อมจัดประมูลผลงานบางส่วน รายได้ครึ่งหนึ่งมอบให้เพื่อสนับสนุนการศึกษาของเทศบาลเมืองราชบุรี

นิทรรศการศิลปะครั้งนี้จะเปิดให้ชมยาวต่อเนื่องถึง กลางเดือนมกราคม 2569 เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้สัมผัสเสน่ห์งานศิลป์ของราชบุรีอย่างใกล้ชิด

ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย / ราชบุรี

ชมคลิป.https://www.facebook.com/share/v/1BZtjKT5jk/

ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศาลายา ฉลองเปิดไฟต้นคริสต์มาส อัตลักษณ์ “Salaya Melody of Orchid”

นครปฐม พร้อมรับเทศกาลแห่งความสุข !! ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศาลายา ฉลองเปิดไฟต้นคริสต์มาส อัตลักษณ์ “Salaya Melody of Orchid” ต้นแรกของไทย พร้อมจัดงาน The Sense of Orchid 2025 ชมความอลังการประติมากรรมดอกกล้วยไม้นับแสนดอก

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 เวลา 18.30 น. ณ ลานกิจกรรมหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลศาลายา จังหวัดนครปฐม ศูนย์การค้าเซ็น ทรัล ศาลายา ร่วมกับ แอร์ออร์คิดส์ และพันธมิตรชั้นนำ ตอกย้ำศักยภาพจังหวัดนครปฐม ในฐานะแหล่งปลูกกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เนรมิต “ต้นคริสต์มาสอัตลักษณ์ท้องถิ่น ต้นแรกในประเทศไทยสัญลักษณ์แห่งความงามและความภาคภูมิใจของจังหวัดนคร ปฐม ที่ร้อยเรียงจากดอกกล้วยไม้ 6 สาย พันธุ์ ในชื่อ Salaya Melody of orchid ความสูงกว่า 15 เมตร ประดับด้วยสัญลักษณ์นกยูงประจำพระองค์ เพื่อสืบสานพระปณิธานและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระ นางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์การอนุรกษ์กล้วยไม้ไทย พร้อมกันนี้ยังได้จัดงาน The Sense of Orchid 2025″ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ชมความงดงามของประติมากรรมดอกกล้วยไม้อลังการนับแสนดอก

  ภายในงานเปิดไฟต้นคริสต์มาสได้รับเกียรติจาก นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนคร ปฐม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย คุณพิมพ์ภัทรา จันทร์หรัญ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศาลายา , คุณนั้นทพร เทพเท วิน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด GBKK บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) , คุณจุไรรัตน์ ชัยทวีทรัพย์ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานราช บุรี , คุณธนนันท์ ศรีสุวะ เกษตรจังหวัดนครปฐม คุณรัฐชญา วัฒนกุล รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม คุณสมพงษ์ ทวีสุข นายกสมาคมผู้ปลูกกล้วยไม้ไทย จังหวัดนครปฐม พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตจาก ATLAS ณ ลานกิจกรรมหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลศาลายา

“ต้นคริสต์มาสอัตลักษณ์ Salaya Melody of Orchid” สร้างสรรคขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากกล้วยไม้ 6 สายพันธุ์หลักที่นิยมปลูกในจังหวัดนครปฐม เช่น สกุลหวาย, แคทลียา, แวนด้า, ฟาแลนนอปชิส, สกุลช้าง และ ม็อคคาร่าโดยเฉพาะ แคทลียาควีนสิริกิตต์ (Cattleya Queen Sirikit) เป็นไฮไลต์สำคัญในการจัดสร้าง เพื่อสื่อถึงพระเมตตาและความงามที่พระองค์ทรงหล่อเลี้ยงไว้ในแผ่นดิน ซึ่งตำบลศาลายา จังหวัดนครปฐม ถือเป็นพื้นที่ปลูกกล้วยไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีมูลค่าการส่งออกสูงถึงประมาณ 1,253 ล้านบาทต่อปีนอกจากความวิจิตรของต้นคริสต์มาส ซึ่งเป็น 1 ใน 9 ต้นคริสต์มาสอัตลักษณ์ท้องถิ่นในโครงการสร้างสรรค์ทั่วประเทศแล้ว ภายในงานยังจัดแสดงนิทรรศการหาชมยาก “6 กล้วยไม้สายพันธุ์พระราชทานนาม ราช วงศ์จักรี” อาทิชมพูนครินทณ์, รักตสิริน, ม่วงราชกุมารี, โสมสวลี, ควีนสิริกิตต์ และช้างสีน้ำเงิน เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมสัมผัสความงดงามและศึกษาเรื่องราวของ “บทเพลงแห่งกล้วยไม้ ถวายแด่พระแม่แห่งแผ่นดิน” ทั้งนี้ งาน The Sense of Orchid 2025 เกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน ทั้งจังหวัดนครปฐม, ททท. สำนัก งานราชบุรี, สำนักงานเกษตรจังหวัด, สมาคมผู้ประกอบการสวนกล้วยไม้ไทย, แอร์ออร์คิดส์ และหอการค้าจังหวัดนครปฐม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวท้องถิ่นในช่วงไฮซีชั่น

งานแสดงนิทรรศการกล้วยไม้สายพันธุ์พระราชทานนามฯ จัดแสดงระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2568และ “ต้นคริสต์มาสกล้วยไม้ Salaya Melody of Orchid” จัดแสดงตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568- 5 มกราคม 2569 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศาลายา


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

ผู้ว่าฯ นครปฐมนำประชาชนจิตอาสาบรรจุสิ่งของจำเป็นกว่า 2 พันชุด ช่วยผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้

จังหวัดนครปฐมร่วมกับคณะสงฆ์ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร หน่วยงานภาคีเครือข่าย ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวนครปฐมรวมใจส่งมอบถุงยังชีพ จำนวน 2,210 ชุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยรุนแรง ในพื้นที่ภาคใต้

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ที่ศาลากองอำนวยการองค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นำคณะกรรมการสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด พี่น้องประชาชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ มหาวิทยาลัยคริสเตียน เจ้าหน้าที่ทหารกรมการสัตว์ทหารบก ตำรวจภูธรเมืองนครปฐม และจิตอาสา ร่วมกันบรรจุสิ่งของจำเป็น อาทิ และน้ำดื่ม ยาสามัญ อาหารแห้ง อาหารสัตว์ ผ้าอนามัย นม ผ้าห่ม และอื่นๆมากมาย

ซึ่งจังหวัดนครปฐมร่วมกับคณะสงฆ์ วัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร หน่วยงานภาคีเครือข่าย ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวนครปฐมรวมใจส่งมอบถุงยังชีพ จำนวน 2,210 ชุด ขึ้นรถบรรทุกธารน้ำใจชาวนครปฐม จำนวน 4 คัน ออกเดินทางวันที่ 27 พ.ย. 68 ปลายทาง 2 จุด ได้แก่ วัดน้ำน้อยนอก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำนวน 1,250 ชุด และวัดควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล จำนวน 960 ชุด

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ในวันนี้มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน จิตอาสา และประชาชนชาวนครปฐม มาช่วยจัดสิ่งของที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือพี่น้องในพื้นที่ภาคใต้ที่ประสบปัญหาอุทกภัยในหลายพื้นที่ ชาวนครปฐมขอส่งความห่วงใยโดยการส่งมอบสิ่งของจำเป็น ขอให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปให้ได้ และขอให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

เซ็นทรัลพัฒนา เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ ที่เซ็นทรัล หาดใหญ่

เซ็นทรัลพัฒนา เปิด ‘ศูนย์อำนวยการภัยพิบัติน้ำท่วม ไทยรวมใจที่เซ็นทรัล’ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ ที่เซ็นทรัล หาดใหญ่

หาดใหญ่ — เซ็นทรัลพัฒนา เปิดศูนย์อำนวยการภัยพิบัติน้ำท่วมไทยรวมใจที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล หาดใหญ่ เพื่อเป็นศูนย์กลางประสานงานและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยดำเนินงานร่วมกับหลายภาคส่วนอย่างเป็นระบบ พร้อมเปิดสายด่วนให้ประชาชนติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ 074-801-555

ศูนย์ดังกล่าวมุ่งสนับสนุนงานช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ๆ ประกอบด้วย

■ ศูนย์ประสานงาน Hotline

รับ-ส่งข้อมูลเหตุการณ์น้ำท่วม และประสานความช่วยเหลือจากหน่วยงานในพื้นที่อย่างรวดเร็ว

■ Relief Transit Hub

จุดเปลี่ยนถ่ายสิ่งของบริจาค พร้อมขนย้ายไปยังศูนย์พักพิงและพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือ

■ โรงครัวกลาง

จัดทำอาหารและน้ำดื่มแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยและทีมปฏิบัติการ

■ จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือสัตว์

Little Paws Adoption Center ดูแลสัตว์เลี้ยงที่ถูกทอดทิ้งหรือพลัดหลงจากเหตุการณ์น้ำท่วม เพื่อให้ปลอดภัยและได้รับการดูแลเบื้องต้น

■ จุดบริการรับฝากรถยนต์

รองรับรถยนต์กว่า 800 คัน เพื่อช่วยลดความเสียหายจากระดับน้ำนอกพื้นที่จอด

■ เปิดพื้นที่จำหน่ายสินค้าจำเป็น

บริเวณชั้น G และชั้น 1 เซ็นทรัล หาดใหญ่ เช่น ศูนย์ปฐมพยาบาล, ร้ายยา, ร้านเวชภัณฑ์, ร้านเบเกอรี่, ร้านอาหาร และสินค้าราคาประหยัด


จุดรับบริจาค “ไทยรวมใจที่เซ็นทรัล” เปิดทั่วประเทศ

เซ็นทรัลพัฒนาเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคสิ่งของจำเป็นได้ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทุกสาขา อาทิ

  • ข้าวสาร
  • อาหารแห้ง
  • น้ำดื่ม
  • อาหารสำหรับเด็ก
  • ยารักษาโรค และของใช้จำเป็น

โดยทีมงานเซ็นทรัล ร่วมกับมูลนิธิและเครือข่ายอาสาสมัคร ได้สนับสนุนการลำเลียงและกระจายสิ่งของไปยังพื้นที่หาดใหญ่และพื้นที่ประสบภัยรอบข้างอย่างเร่งด่วน

ทั้งนี้ ภาพบรรยากาศการรับบริจาคและการจัดส่งสิ่งของช่วยเหลือ ได้สะท้อนพลังของประชาชนและภาคเอกชนในการร่วมฝ่าวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Centre 02-021-9999 หรือดูข้อมูลผ่าน Facebook ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลในพื้นที่ต่าง ๆ


นครปฐม — เปิดบริการทันตกรรมแก่ผู้ต้องขัง ตามโครงการ “ราชทัณฑ์ปันสุข”

นครปฐมเปิดบริการทันตกรรมแก่ผู้ต้องขัง ตามโครงการ “ราชทัณฑ์ปันสุข” เทิดพระเกียรติ 125 ปี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น. — เรือนจำกลางนครปฐม

นายแพทย์วิโรจน์ รัตนอมรสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม

นายแพทย์วิโรจน์ รัตนอมรสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เป็นประธานในพิธีเปิดการให้บริการทันตกรรมแก่กลุ่มผู้ต้องขัง โดยหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาส 125 ปี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ภายใต้โครงการพระราชดำริ “ราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติศาสน์ กษัตริย์” ซึ่งจัดให้มีการให้บริการระหว่างวันที่ 26–28 พฤศจิกายน 2568 ณ เรือนจำกลางนครปฐม

การดำเนินงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม เรือนจำกลางนครปฐม และทันตบุคลากรจิตอาสาจากหน่วยบริการสาธารณสุขทั้งภายในและภายนอกจังหวัดนครปฐม

างมนิธี ต่อเศวตพงศ์ ทันตแพทย์เชี่ยวชาญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม

นางมนิธี ต่อเศวตพงศ์ ทันตแพทย์เชี่ยวชาญ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม รายงานการดำเนินงานของโครงการ โดยมีนายจักร ลิ่มบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม ร่วมให้การต้อนรับและมอบเกียรติบัตรแก่ผู้สนับสนุนการดำเนินงาน

นายจักร ลิ่มบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม

ผลการให้บริการในวันแรก (26 พ.ย. 2568) มีผู้ต้องขังรับบริการทั้งสิ้น 465 ราย แยกเป็น

  • ถอนฟัน 192 คน
  • ผ่าฟันคุด 11 คน
  • อุดฟัน 110 คน
  • ขูดหินปูน 152 คน

การจัดให้บริการทันตกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยบรรเทาปัญหาสุขภาพช่องปากของผู้ต้องขังแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหน่วยงานสาธารณสุขและราชทัณฑ์ ตลอดจนสะท้อนเจตนารมณ์ในการถวายการบริการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมตามโครงการพระราชดำริ

สถานที่จัดงาน: เรือนจำกลางนครปฐม
ระยะเวลา: 26–28 พฤศจิกายน 2568
หน่วยงานหลักผู้ร่วมจัด: คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม, เรือนจำกลางนครปฐม, ทันตบุคลากรจิตอาสา

นครปฐมจัดประชุมสร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์ ยกระดับการสื่อสารยุคดิจิทัล


นครปฐมจัดประชุมสร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์ ยกระดับการสื่อสารยุคดิจิทัล ปี 2569

นางบุญรัตน์ กองทอง ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 – จังหวัดนครปฐมจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การสร้างและพัฒนาเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดนครปฐม” ณ ห้องประชุมชาลีมงคลอาสน์ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครปฐม โดยมี นางบุญรัตน์ กองทอง ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดการประชุม พร้อมประกาศเดินหน้าพัฒนาเครือข่ายประชาสัมพันธ์ของจังหวัดให้เข้มแข็งและสอดรับกับยุคดิจิทัล

การประชุมช่วงเช้ามุ่งชี้แจงแนวทางดำเนินงานประชาสัมพันธ์ประจำปี 2569 รวมถึงแนวคิดการเสริมศักยภาพเครือข่ายประชาสัมพันธ์ภาครัฐ เพื่อยกระดับการสื่อสารให้เข้าถึงประชาชนได้รวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ช่วงบ่ายเป็นการเปิดเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ระหว่างเครือข่ายจากทุกอำเภอ โดยร่วมกันเสนอแนวทางพัฒนากลไกการสื่อสารของจังหวัดให้ทันต่อสถานการณ์ข่าวสารในปัจจุบัน พร้อมทั้งสร้างช่องทางประสานงานที่คล่องตัวขึ้นในอนาคต

กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของจังหวัดนครปฐมในการพัฒนาระบบประชาสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับเทรนด์สื่อยุคใหม่ และสร้างเครือข่ายที่แข็งแรงรองรับการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน

ติดตามข่าวพื้นที่นครปฐมได้ที่ ข่าวเด็ด News – Key8 News สถานีข่าวภูมิภาคตะวันตก


นครปฐม – รัฐบาลจัดพิธีถวายพระราชกุศล เนื่องในวาระครบ 100 ปี วันคล้ายวันสวรรคต ร.6 และครบ 100 ปี วันประสูติ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ

  รัฐบาลจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์–ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล เนื่องในวาระครบ 100 ปี วันคล้ายวันสวรรคต ร.6 และครบ 100 ปี วันประสูติ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ

วันที่ 24 พ.ย. 68 เวลา 07.30 น. ที่วัดพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม รัฐบาลได้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 100 รูป ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้า เนื่องในวาระครบ 100 ปี วันคล้ายวันสวรรคต 25 พฤศจิกายน 2567 และถวายพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี กรมพระนครปฐมบรมขัตติยานี มหาธีรราชธิดา เนื่องในโอกาสวันประสูติครบ 100 ปี 24 พฤศจิกายน 2568

พิธีดังกล่าวมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน โดยมีหน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรี ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคส่วนต่าง ๆ รวมถึงประชาชนจิตอาสาและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยและเปี่ยมด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

พิธีเจริญพระพุทธมนต์และตักบาตรพระสงฆ์ 100 รูป

ภายในพิธี พระสงฆ์สมณศักดิ์จำนวน 10 รูป นำประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ประกอบด้วย

  • สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชบพิธ
  • สมเด็จพระมหารัชมุนี วัดไตรมิตร
  • พระพรหมวัชรวิมลมุนี วิ. วัดมหาธาตุชูราชรังสฤษฎิ์
  • พระพรหมวชิรรังษี วัดบวรนิเวศ
  • พระธรรมวชิรเจติยาจารย์ วัดพระปฐมเจดีย์
  • พระธรรมวชิรปาโมกข์ วัดเทพศิรินทร์
  • พระธรรมวชิรจินดาภรณ์ วัดราชบพิธ
  • พระราชวชิรสุตาภรณ์ วัดบางช้างเหนือ
  • พระสิริวชิรเวที วัดสิริวัฒนาราม
  • พระวินัยโกศล วัดเสน่หา

จากนั้น พระราชาคณะและคณะสงฆ์รวม 100 รูป รับบิณฑบาตจากผู้ร่วมพิธีเป็นอันสมบูรณ์

ผู้บริหารระดับสูงร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

โอกาสนี้ ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมในพิธี อาทิ

  • นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
  • นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย
  • นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน
  • นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
  • นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมการปกครอง
  • นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
  • นายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง
  • นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
  • นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
    พร้อมหัวหน้าส่วนราชการจากทุกภาคส่วน

รัฐบาลกำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติทั้งเดือน พ.ย. 2568

สำหรับกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติที่รัฐบาลจัดตามที่ได้รับพระบรมราชานุญาต ประกอบด้วย

  1. พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล
  2. พิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ ร.6 และวางพุ่มดอกไม้ถวายสักการะเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ
  3. การตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์และพระรูป เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความจงรักภักดี
  4. กิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ระหว่างวันที่ 1 – 30 พฤศจิกายน 2568

ตลอดกิจกรรมเป็นไปด้วยความสง่างามสมพระเกียรติ เพื่อแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

ราชบุรี – อุบัติเหตุเรือหางยาวชนกันกลางคลองดำเนินสะดวก ด.ช.วัย 9 ขวบจมน้ำดับ

ราชบุรี – เกิดอุบัติเหตุเรือหางยาวชนกันกลางคลองดำเนินสะดวก ส่งผลให้เด็กชายวัย 9 ขวบจมน้ำเสียชีวิต ขณะที่มีผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง

เมื่อเวลา 19.10 น. วันที่ 23 พ.ย. 2568 พ.ต.ท.สายฝน หลักเพชร สว.สอบสวน สภ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุเรือหางยาวชนกันบริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อหลักเมือง โรงเจท่งเฮงตั๊ว หมู่ 6 ต.ศรีสุราษฎร์ อ.ดำเนินสะดวก มีผู้บาดเจ็บและสูญหาย จึงรายงานให้ พ.ต.ท.มานพ น้ำประสานไทย รรท.ผกก.สภ.ดำเนินสะดวก พร้อมประสานมูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรีเข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบเรือยนต์หางยาวขนาด 4 วา ของ นายสุรินทร์ แซ่ฉั่ว อายุ 48 ปี ชาวตำบลท่านัด จมน้ำอยู่ใกล้กับเรือหางยาวขนาด 3 วา ของ นายมนัส สายสิทธิ์ อายุ 56 ปี ชาวตำบลท่านัด ซึ่งจมน้ำเช่นกัน หลังชนประสานงาอย่างแรง

อุบัติเหตุครั้งนี้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ได้แก่

  • นายมนัส สายสิทธิ์
  • เด็กหญิงเอ อายุ 16 ปี
  • เด็กชายไอซ์ อายุ 16 ปี

ส่วน ด.ช.สิทธิ อายุ 9 ขวบ สูญหาย มูลนิธิรวมใจการกุศลได้ระดมกำลังค้นหาในเบื้องต้นแต่ไม่พบ จึงจัดชุดประดาน้ำจาก อ.บ้านโป่ง เข้าค้นหา ใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนพบร่างเด็กชายจมอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสุรินทร์กำลังขับเรือพาครอบครัวกลับจากคลองดอนลาวหลังไปชมการแข่งขันเรือ ขณะเดียวกัน นายมนัสกำลังลากเรือที่เสียไปส่งบ้าน ก่อนออกไปรับญาติที่คอยอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เมื่อทั้งสองลำแล่นสวนทางกัน ต่างฝ่ายต่างหักหลบ แต่กลับเบี่ยงไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้ชนอย่างจังและจมลงทั้งคู่

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดำเนินสะดวก เตรียมสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมตรวจสอบหลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้ต่อไป

ภาพ-ข่าว พันธุ์ จรรยา แก้วนุ้ย ราชบุรี

ราชบุรี – สมาคมกีฬาจังหวัดเตรียมจัดศึกมวยไทย “RATCHABURI SUPER FIGHT 2025” อย่างยิ่งใหญ่ ชิงถ้วยอดีตรองนายกรัฐมนตรี

ราชบุรี – สมาคมกีฬาจังหวัดราชบุรี ผนึกกำลังภาคีเครือข่าย เตรียมจัดศึกมวยไทยสุดยิ่งใหญ่ “RATCHABURI SUPER FIGHT 2025” ชิงถ้วยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โดยมี “มนัส บุญจำนงค์” ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกชาวราชบุรี ร่วมแถลงข่าวเพื่อสร้างสีสัน พร้อมผลักดันกีฬามวยไทยและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่
การแข่งขันจะมีขึ้นวันที่ 13 ธันวาคม 2568 ณ สนามวัดศิริเจริญเนินหม้อ (วัดโคกหม้อ) อ.เมือง จ.ราชบุรี


นายสินาด รุ่งจรูญ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดราชบุรี

🔶 แถลงข่าวคึกคัก – หนุนเยาวชนรักกีฬามวยไทย

(23 พ.ย. 68) ณ ห้องประชุมชั้น 4 สำนักงานเทศบาลตำบลหลักเมือง นายสินาด รุ่งจรูญ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดราชบุรี นำทีมแถลงข่าวร่วมกับ

  • นายนพพล ภู่แย้ม ผู้สนับสนุนงบประมาณ
  • นายมาโนช ร่มโพรีย์
  • นายธนุวัต ลี้สุทธิพรชัย
  • นายธนทัตต์ ดาวเงิน

พร้อมด้วย “มนัส บุญจำนงค์” อดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิก ลูกหลานชาวราชบุรีที่กลับมาร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนในบ้านเกิด

นายสินาด ระบุว่า ศึกครั้งนี้ถือเป็นเวทีใหญ่ของชาวราชบุรีอีกครั้ง โดยเทศบาลหลักเมืองซึ่งเป็นเมืองกีฬา พร้อมเดินหน้าประชาสัมพันธ์เต็มรูปแบบ หวังให้เยาวชนนักมวยได้มีเวทีแสดงศักยภาพ และอาจก้าวขึ้นเป็นตัวแทนทีมชาติในอนาคต

นอกจากนี้ในวันงานยังมีการจำหน่ายสินค้าในชุมชน คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคัก และสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่


🔶 สนับสนุนบ้านเกิด – ดึงกิจกรรมสร้างพลังเยาวชน

ด้านนายนพพล ภู่แย้ม ผู้สนับสนุนงบประมาณ กล่าวว่า ต้องการสนับสนุนกิจกรรมบ้านเกิด พร้อมผลักดันให้เยาวชนหันมาสนใจกีฬามวยไทยมากขึ้น โดยมองว่าราชบุรียังไม่เคยมีการจัดไฟต์ใหญ่ระดับนี้มานาน หากมีงบประมาณและความร่วมมือเพียงพอ จะสามารถจัดได้อย่างยิ่งใหญ่และต่อเนื่อง

นายนพพลเชื่อว่า การแข่งขันครั้งนี้จะช่วยดึงประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาในจังหวัด เป็นแรงเสริมเศรษฐกิจ และส่งเสริมภาพลักษณ์เมืองกีฬาให้เด่นชัดยิ่งขึ้น


🔶 ผลักดันมรดกวัฒนธรรม “แม่ไม้มวยไทย”

มนัส บุญจำนงค์ กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ได้กลับมาร่วมงานในบ้านเกิด และหวังว่าการแข่งขันครั้งนี้จะช่วยเผยแพร่ศิลปะแม่ไม้มวยไทยให้คงอยู่ เป็นที่รู้จักทั้งชาวไทยและต่างชาติ พร้อมเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนหันมาใส่ใจในกีฬามวยไทยมากขึ้น



ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย รายงาน จ.ราชบุรี

ราชบุรี – เจ้าหน้าที่ป่าไม้บุกตรวจยึดอาวุธปืน–ซากสัตว์ป่าสงวนและสัตว์คุ้มครองจำนวนมาก

จังหวัดราชบุรี.เจ้าหน้าที่สนธิกำลังบุกตรวจยึดอาวุธปืน–ซากสัตว์ป่าสงวนและสัตว์คุ้มครองจำนวนมาก ในพื้นที่บ้านพุสำโรง อ.ปากท่อ

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน จ.ราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากท่อ และเจ้าหน้าที่สายตรวจสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง สนธิกำลังเข้าตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายป่าไม้และสัตว์ป่าในพื้นที่บ้านพุสำโรง ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี

นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี เปิดเผยว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การอำนวยการของนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และนายราชันย์ บัวตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3

คณะเจ้าหน้าที่จาก 4 หน่วยงานรวมถึงผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ได้เข้าตรวจสอบบ้านเป้าหมายซึ่งเป็นบ้านพักชั้นเดียว สภาพทรุดโทรม พบชายอายุประมาณ 38 ปี แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่และยินยอมให้ตรวจค้น ภายในบ้านพบของกลางจำนวนมาก อาทิ

  • หัวเลียงผาสดและเนื้อเลียงผาในถุงบรรจุภายในตู้เย็น
  • หนังแมวดาว
  • อุ้งตีนตะกวด
  • ขาเก้ง
  • เต่าเหลืองและเต่าหก
  • งูจงอาง
  • หนังเก้ง 2 ผืน
  • อาวุธปืนลูกซอง 2 กระบอก
  • กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 4 นัด
  • ลำกล้องปืนไทยประดิษฐ์ 2 ชิ้น
  • มีดพก 6 เล่ม

จากการสอบถามทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นของชายชื่อ “นายคาน” อายุ 54 ปี ไม่ทราบนามสกุล พักอาศัยเพียงลำพังและมีพฤติกรรมดื่มสุราและล่าสัตว์เป็นประจำ ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อให้นายคานมาชี้แจง แต่ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่า นายคาน เข้าข่ายความผิดหลายข้อหา ได้แก่

  • ล่าสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครอง (มาตรา 12 ประกอบมาตรา 89 วรรคสอง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562)
  • มีซากสัตว์ป่าสงวนหรือคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต (มาตรา 17 ประกอบมาตรา 92)
  • มีและใช้อาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต (ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7 และ 8)

เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจยึดซากสัตว์ป่าสงวน–คุ้มครอง รวมถึงอาวุธและอุปกรณ์ทั้งหมด พร้อมจัดทำบันทึกตรวจยึด ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.ปากท่อ ดำเนินการติดตามตัวนายคานมารับโทษตามกฎหมายต่อไป

ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

นครปฐม.จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาปรับภูมิทัศน์ เตรียมพื้นที่พิธีเจริญพระพุทธมนต์และตักบาตรถวายพระราชกุศล

จ.นครปฐมจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาปรับภูมิทัศน์ เตรียมพื้นที่พิธีเจริญพระพุทธมนต์และตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวาระครบรอบ 100 ปี วันสวรรคต ร.6 และ 100 ปี วันประสูติ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ที่บริเวณถนนหน้าพระ องค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานนำข้าราชการ จิตอาสาพระราชทาน จิตอาสาภาคประชาชน และจิตอาสา 904 ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา ปรับภูมิทัศน์ ในพื้นที่เส้นทางสำคัญ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลแด่

  • พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เนื่องในวาระครบ 100 ปี วันคล้ายวันสวรรคต วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568
  • สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี วันคล้ายวันประสูติ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568

การดำเนินกิจกรรมเริ่มตั้งแต่บริเวณแยกโพธิ์ทอง ไปจนถึงศูนย์อาหาร Meet & EAT อำเภอเมืองนครปฐม โดยจิตอาสาได้ร่วมกันทำความสะอาด เก็บขยะ ตัดแต่งต้นไม้และพุ่มไม้ รวมถึงปรับภูมิทัศน์โดยรอบ เพื่อให้พื้นที่มีความเรียบร้อย สมพระเกียรติ และพร้อมรองรับประชาชนที่จะเข้าร่วมพิธีสำคัญในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568


กำหนดพิธีใหญ่ 24 พฤศจิกายน 2568 ณ หน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ องค์พระปฐมเจดีย์

จังหวัดนครปฐมมีกำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ รัชกาลที่ 6 และถวายพระกุศลแด่สมเด็จฯ เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ ในวัน จันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ที่บริเวณหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ องค์พระปฐมเจดีย์ โดยคาดว่าจะมี คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ประธานศาลฎีกา ประธานรัฐสภา คณะองค์มนตรี ปลัดกรุงเทพมหานคร หัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง และผู้เกี่ยวข้อง เดินทางมาร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง


กิจกรรมจิตอาสาพัฒนาอีก 4 แห่งทั่วจังหวัด

นอกจากกิจกรรมบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์แล้ว จังหวัดนครปฐมยังได้จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาอีก 4 จุด ได้แก่

  1. ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลศาลายา อำเภอสามพราน
    – นำโดย นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
  2. ศาลาอเนกประสงค์วัดใหม่ปิ่นเกลียว อำเภอเมืองนครปฐม
    – นำโดย นายปรีชา ดิลกพรเมธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
  3. สวนสาธารณะทางแยกต่างระดับนครชัยศรี อำเภอนครชัยศรี
    – นำโดย นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม
  4. หน้าที่ว่าการอำเภอพุทธมณฑล
    – นำโดย นายสมาวิษฎ์ สุพรรณไพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

ทุกจุดมีข้าราชการ จิตอาสาพระราชทาน จิตอาสาภาคประชาชน และจิตอาสา 904 ร่วมแรงร่วมใจในการทำความสะอาดและปรับปรุงภูมิทัศน์ เพื่อความพร้อมและความสง่างามของจังหวัดในการจัดพิธีครั้งประวัติศาสตร์นี้

ชมคลิป.https://drive.google.com/file/d/1ZkHYidJIttIwT_PkSz7odo_p_DMU9iGF/view?usp=sharing


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

ราชบุรี – เชิญชมนิทรรศการศิลปะ Art Exhibition Ratchaburi สุดยิ่งใหญ่ รวมศิลปินดังทั่วประเทศกว่า 40 ชีวิต

    เทศบาลเมืองราชบุรีเดินหน้าจัดงานใหญ่ “Art Exhibition Ratchaburi” ระหว่างวันที่ 1 – 3 ธันวาคม 2568 ระดมศิลปินวาดภาพชื่อดังระดับประเทศกว่า 40 ท่าน นำผลงานและองค์ความรู้ด้านศิลปะมาถ่ายทอดแก่ประชาชน ที่ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี อดีตจวนผู้ว่าฯ หลังเก่า ริมแม่น้ำแม่กลอง พร้อมกิจกรรมต่อเนื่องให้ชมถึง 15 มกราคม 2569

เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้รักงานศิลปะทั้งด้าน จิตรกรรม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ จิตรกรรมไทย และสื่อผสม เตรียมรอชมงานศิลปะคุณภาพระดับประเทศได้เลย โดยเทศบาลเมืองราชบุรี นำโดย นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี ได้ร่วมกับกลุ่มศิลปินสีน้ำ สีน้ำมัน และสีอะคริลิก ที่ผ่านเวทีประกวดระดับโลก มาจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนและประชาชนทั่วไป

การจัดนิทรรศการครั้งนี้ ใช้ชื่อ Art Exhibition Ratchaburi โดยคณะศิลปินได้ประชุมหารือร่วมกับเทศบาลเมืองราชบุรี นำโดยนายศักดิ์ชัย พิศาลผล ร่วมด้วย นางกรรนิการ์ พูลสวัสดิ์ รองปลัดฯ, นางอังคปภา ฤทธิ์สกุล หัวหน้าสำนักปลัด, นายชานุรัตน์ ชัยรัตนเวโรจน์ ผอ.ส่วนบริหารการศึกษา, จ.อ.วีรยุทธ บุญมา ผอ.กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ จนได้ข้อสรุปกำหนดวันจัดงานอย่างเป็นทางการ

สำหรับคณะศิลปินที่มาร่วมสร้างสีสันและให้ความรู้ อาทิ
อ.บัญญัติ พวงทอง (อู๊ด อัมพวา), อ.อุดม นิลรัตน์สุวรรณ, อ.ประนอม ใช่อ่อน, อ.จินดา อมรรัตนวงศ์, อ.สุรินทร์ สหวิศิษฏ์, อ.สมประสงค์ เพิ่มสุวรรณ, ผศ.กฤตย์ เวียงอำพล, ผศ.ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์, อ.อ้อวินิจ จิตตนา, ผศ.ดร.นพดล เนตรดี, ดร.สมบูรณ์ คำมามูล, อ.ณรงค์ เพิ่มขรัวจำ, ผอ.มงคล ไชยวงศ์, อ.แววจักร นุกูล, อ.กมล คิญชกวัฒน์, อ.วิสูตร ศรีนุกูล, อ.เอกราช ชมจูมจัง, อ.สุภัทรา จิระมะกร, จ.สุภัทรา ทรัพย์สงเคราะห์, อ.อังคณา ทองเกษม, อ.วีรยุทธ มาสอาด, อ.ปิยะ สุขเจกพะเนาว์, อ.นงลักษณ์ สิทธิสินพาณิช, อ.กรินทร์ มีอยู่, อ.พินิตย์ พันธประวัติ, อ.ธันยธรณ์ พูลเทกอง, อ.วิราวรรณณ์ ชาญประเสริฐกิจ, อ.ธชย สุวรรณมาลี, อ.สริตา ใจห้าว, อ.ประดับ เต็มดี, อ.โรจน์วิวัชร อมรรัตนวงศ์, อ.สมชาย แย้มรัศมี, อ.ธานินทร์ ชื่นใจ, อ.ฉลองชัย จิตร์เริงฤดี, อ.วุฒิชัย แก้วกอง, คุณวีรศิลป์ เอี่ยมสำอางค์, อ.อุดร สีหะวงษ์, อ.ภัทราวุธ นิยมญาติ, อ.จฬรรณ์ ถาวรนุกูลพงศ์, อ.จิรายุ ยุกตะนันทน์, อ.ปราโมทย์ เต็มดี, อ.ศิริวรรณ สุขขี, อ.บุญเลิศ เจริญวงศากิจ, อ.จิโรภาส ชุติมาศ, อ.เลิศชาย สินเสริฐ พร้อมศิลปินอีกหลายท่าน

ในวันที่ 1 ธ.ค. 68 ซึ่งเป็นวันเปิดงาน จะมี

ช่วงเช้า: ชมนิทรรศการศิลปะ Art Exhibition Ratchaburi และร่วมเรียนรู้เทคนิคการวาดภาพจากเหล่าศิลปิน

ช่วงบ่าย: ศิลปินวาดภาพสด พร้อมจัดเวทีแสดงผลงานบริเวณ โอ่งมังกรพ่นน้ำ หน้าหอนาฬิกา เขื่อนรัฐประชาพัฒนา ริมแม่น้ำแม่กลอง พร้อมการประมูลภาพสวย ๆ เพื่อนำรายได้สมทบโรงพยาบาลช่วยเหลือผู้ป่วย

งานนี้ถือเป็นกิจกรรมดี ๆ สำหรับเยาวชนและผู้สนใจด้านศิลปะ ที่จะได้เรียนรู้ทั้งทักษะ เทคนิค และแรงบันดาลใจจากศิลปินตัวจริงระดับประเทศ สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 68 – 15 ม.ค. 69 ที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี

  ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่นครปฐม ตรวจประตูระบายน้ำแม่น้ำท่าจีน เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม

รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่นครปฐม ตรวจโครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำท่าจีน เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม พร้อมมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัย

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.30 น. ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นำคณะลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำแม่น้ำท่าจีน เชื่อมคลองสูบ หมู่ 2 ใกล้โรงพยาบาลห้วยพลู อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม พร้อมมอบถุงยังชีพจำนวน 250 ชุด ให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ มีผู้ร่วมให้การต้อนรับอย่างคับคั่ง ทั้งรัฐมนตรี ผู้บริหารระดับสูง และหน่วยงานราชการ อาทิ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายนิรันดร์ มูลธิดา อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และนายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนจำนวนมาก

เร่งสร้างประตูระบายน้ำ – แก้ปัญหาท่วมซ้ำซาก
ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลห้วยพลู รวมถึงตำบลวัดละมุด บางพระ บางแก้วฟ้า และโรงพยาบาลห้วยพลู ได้รับผลกระทบจากน้ำแม่น้ำท่าจีนที่เพิ่มสูงจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้บ้านเรือน โรงพยาบาล และพื้นที่เกษตรเสียหาย เนื่องจากไม่มีอาคารควบคุมน้ำรองรับ

โครงการประตูระบายน้ำฯ ที่กำลังก่อสร้างเมื่อแล้วเสร็จ จะสามารถ บริหารจัดการน้ำได้มีประสิทธิภาพขึ้น ลดความเสียหายจากน้ำท่วม และช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกว่า 890 ไร่ ครอบครัวกว่า 200 ครัวเรือน

รองนายกฯ สั่งเร่งรัดงบ – ชี้เป็นปัญหาเร่งด่วน
ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อตรวจสอบปัญหาน้ำในแม่น้ำท่าจีน ที่ส่งผลกระทบต่อ 2 จังหวัดหลักตั้งแต่สุพรรณบุรีถึงนครปฐม โดยชี้ว่าแม่น้ำท่าจีนหลายช่วงถึงเวลา ต้องขุดลอกครั้งใหญ่ ซึ่งมีนวัตกรรมใหม่ที่เคยใช้ในสมุทรสาคร ใช้เวลาดำเนินการเพียง 1 เดือน

สำหรับโครงการประตูระบายน้ำห้วยพลู เดิมจัดสรรงบประมาณไว้ปี พ.ศ. 2571 แต่เนื่องจากประชาชนเดือดร้อนหนัก จึงได้สั่งการให้เร่งของบเหลือจ่ายปี 2569 มาใช้เพื่อให้สามารถเริ่มงานได้ทันที คาดว่าแบบก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายใน เดือนธันวาคม 2568

พร้อมกันนี้ยังหารือถึงปัญหาลำน้ำสาขาที่ตื้นเขิน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมเจ้าท่า โดยมีการบูรณาการร่วมกับกรมชลประทาน กระทรวงคมนาคม และกองทัพไทย เพื่อเร่งขุดลอกทั้งแม่น้ำสายหลักและสาขาให้สามารถระบายน้ำได้ทั่วถึง

ตรวจจุดก่อสร้างเขื่อนพระน้อย – มอบถุงยังชีพอีก 350 ชุด
ต่อจากนั้น รองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจโครงการประตูระบายน้ำคลองพระน้อย ตำบลวัดละมุด อำเภอนครชัยศรี พร้อมมอบถุงยังชีพเพิ่มอีก 350 ชุด ให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมซ้ำซาก เนื่องจากไม่มีอาคารควบคุมน้ำรองรับ

พื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดรับน้ำจากหลายตำบล ก่อนระบายลงคลองท่าเรือ–บางพระ ทำให้ชุมชนกว่า 110 ครัวเรือน และพื้นที่เกษตร 545 ไร่ได้รับผลกระทบทุกปี

ย้ำดำเนินการเร็วที่สุด – เพื่อประชาช
รองนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งรัดโครงการทั้งสองแห่งให้แล้วเสร็จตามแผน เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม–น้ำแล้งให้ประชาชนชาวนครปฐมสามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำได้เร็วที่สุด

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

ราชบุรี – เปิดงานประเพณีปีนเขาเข้าถ้ำ จัดกิจกรรมน้อมรำลึกสมเด็จพระพันปีหลวง

พิธีเปิดงานประเพณีปีนเขาเข้าถ้ำ จัดกิจกรรมน้อมรำลึกสมเด็จพระพันปีหลวง คึกคักนักท่องเที่ยวร่วมงานแน่น

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 68   คณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง (คสม.) อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ได้จัดพิธีเปิดงาน ประเพณีปีนเขาเข้าถ้ำจอมพล ครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 13–22 พฤศจิกายน 2568 ณ ถนนโดยรอบมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงานอย่างคึกคัก

พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก นายชิตสกลธ์ รังษีเสริมสุข รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ผศ.อรรถพล อุสายพันธ์ รักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง, นายเรืองชัย เนตรปฐมพร ประธาน คสม., นายสมบูรณ์ วิชัยบุญ ประธานคณะกรรมการจัดงาน, ดร.อภิวัฒน์ วังวิวัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และรองประธานคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยฯ รวมถึงคณะผู้บริหาร คณาจารย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

ภายในงานมีการจัดแสดง ภาพพระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่เคยเสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดราชบุรี โดยเฉพาะเหตุการณ์สำคัญเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2499 ที่ทั้งสองพระองค์เคยเสด็จประพาสต้นยัง ถ้ำจอมพล ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ “ภ.ป.ร. มิย. 99” บนผาหินด้วยพระองค์เอง พร้อมทอดพระเนตรความงดงามภายในถ้ำ และทรงประทับเสวยพระกระยาหารบริเวณ “ผาวิจิตร” รวมถึงทรงปลูกต้นไม้ไว้เป็นที่ระลึก

จากนั้นผู้ร่วมงานได้พร้อมใจกัน ยืนสงบนิ่ง 93 วินาที เพื่อน้อมถวายความอาลัยสมเด็จพระพันปีหลวง และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย

เมื่อเสร็จสิ้นพิธีถวายความอาลัย ได้มีพิธีลั่นฆ้องชัยเปิดงานอย่างเป็นทางการ พร้อมการแสดงศิลปวัฒนธรรมที่หลากหลาย อาทิ

การแสดง นาฏศิลป์ มวยไทยโบราณ โดยวิทยาลัยมวยไทยศึกษาและการแพทย์แผนไทย

การแสดงชุด “นาฏยราชบุรินทร์ เทิดไท้สยามมินทร์จักรีวงศ์”

การแสดง หนังใหญ่ จากสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มรภ.หมู่บ้านจอมบึง

ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดจัดขึ้นเพื่อระดมทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และมีความประพฤติดี อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจในชุมชน และกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่จอมบึง

ทั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 200,000 บาท เพื่อใช้ในการจัดงานครั้งนี้ด้วย

สำหรับพื้นที่จัดงานยังมีการออกบูธจำหน่ายสินค้า อาหารท้องถิ่น ผลไม้ เสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์ชุมชนจำนวนมาก บางร้านเข้าร่วมโครงการ “คนละครึ่ง” ทำให้ประชาชนให้ความสนใจมาเที่ยวงานอย่างต่อเนื่อง คาดว่าบรรยากาศจะคึกคักตลอดช่วงจัดงาน จนถึงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568


ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ราชบุรี – แถลงข่าว “อปท.โอ่งมังกรเกมส์ 2025”

จังหวัดราชบุรีจัดแถลงข่าวและประชุมจับสลากแบ่งสายการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 40 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 รอบคัดเลือกระดับภาคกลาง ภายใต้ชื่อการแข่งขัน “โอ่งมังกรเกมส์ 2025”

โดยมี นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี, นายธนศักดิ์ มาคะสิระ นายกเทศมนตรีตำบลวัดเพลง ประธานสันนิบาตเทศบาลภาคกลาง และ พ.ต.ท. ณัฏฐ์ ชูแก้ว รองผู้กำกับจราจร สภ.เมืองราชบุรี เข้าร่วมแถลงข่าวอย่างพร้อมเพรียง

ภายในงานมี นางสาวกุลวลี นพอมรบดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ผู้นำชุมชน ตัวแทนนักกีฬา สื่อมวลชน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างคับคั่ง โดยผู้เข้าร่วมงานได้ร่วมยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 93 วินาที เพื่อแสดงความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากนั้นเป็นการแสดงชุด “ราชบุรีอัญมณีตะวันตก” และเปิดตัวมาสคอตประจำการแข่งขัน “น้องมังกรฟ้า” และ “น้องมังกรไฟ” ที่สื่อถึงเอกลักษณ์ของจังหวัดราชบุรี

สำหรับการแข่งขัน “โอ่งมังกรเกมส์ 2025” จังหวัดราชบุรีโดยเทศบาลเมืองราชบุรีได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 40 รอบคัดเลือกระดับภาคกลาง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน – 6 ธันวาคม 2568 โดยมีการแข่งขันทั้งหมด 16 ชนิดกีฬา ได้แก่ ฟุตบอล, ฟุตซอล, เซปักตะกร้อ, แบดมินตัน, เปตอง, วอลเลย์บอลชายหาด, วอลเลย์บอลในร่ม, กรีฑา, เทเบิลเทนนิส, ว่ายน้ำ, หมากล้อม, เทคบอล, อีสปอร์ต, หมากรุกไทย, หมากฮอสไทย และจักรยานขาไถ

การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศมีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ สร้างความรัก ความสามัคคี มีระเบียบวินัย และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลจากยาเสพติด อีกทั้งยังเป็นเวทีพัฒนาศักยภาพทางกีฬาและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างท้องถิ่น

นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี

ด้าน นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี ในฐานะเจ้าภาพ กล่าวว่า เทศบาลเมืองราชบุรีได้เตรียมความพร้อมทุกด้านเพื่อให้การแข่งขันครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเชิญชวนทุกคณะนักกีฬาและผู้ติดตามได้ใช้โอกาสนี้ท่องเที่ยวสัมผัสเสน่ห์ของจังหวัดราชบุรี ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรีเขื่อนรัฐประชาพัฒนาโอ่งมังกรพ่นน้ำตลาดเก่าโค๊ยกี้ ริมน้ำแม่กลองอุทยานหินเขางู ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ รวมถึงจุดชมวิว ภูผาแรด แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม

นายศักดิ์ชัยกล่าวทิ้งท้ายว่า “ราชบุรีพร้อมต้อนรับทุกคนด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพ หวังว่าทุกคนจะได้รับทั้งความสนุกและความประทับใจกลับไปจากโอ่งมังกรเกมส์ 2025 ครั้งนี้อย่างแน่นอน”

ภาพข่าวจังหวัดราชบุรี / พันธุ์–จรรยา แก้วนุ้ย

ผบช.ภ.7 แถลงจับใหญ่! กวาดล้างเครือข่ายบัญชีม้า–เว็บพนัน–ทุนเทาเวียดนาม

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แถลงจับใหญ่! กวาดล้างเครือข่ายบัญชีม้า–เว็บพนัน–ทุนเทาเวียดนาม ยึดของกลางอื้อ กว่า 500 คดีใน 7 วัน

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ที่ห้องประชุมชั้น 4 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (อ.เมือง จ.นครปฐม)
พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจภูธรภาค 7 (ศปอส.ภ.7)
พร้อมด้วย นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม, พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม
ร่วมแถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในพื้นที่ภาค 7 ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2568 รวมระยะเวลา 7 วัน
โดยสามารถจับกุมได้ 561 คดีทั่วพื้นที่ 8 จังหวัดภาค 7 ครอบคลุมทั้งเครือข่ายบัญชีม้า เว็บพนันออนไลน์ ทุนเทา และฉ้อโกงออนไลน์


🔹 ทลายเครือข่าย “ซุ้มอรัญ” – ซื้อขายบัญชีม้า

ตำรวจภูธรสามพราน จับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางรถยนต์ 1 คัน สมุดบัญชี 4 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว เพื่อให้มีการซื้อขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”
รวมทั้งจับกุมผู้ต้องหาทุนเทาเวียดนาม 3 คน ฐาน “รับและเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต”
และคดีฉ้อโกงออนไลน์อีก 1 ราย พร้อมของกลางเงินสด 358,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร และโทรศัพท์มือถือ


🔹 สมุทรสาคร ทลายคอกม้าต่างด้าว – ยึดสมุดบัญชีกว่า 70 เล่ม

กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.สมุทรสาคร บุกจับผู้ต้องหา 2 คน ฐาน

  1. เป็นธุระจัดหาโฆษณาให้เช่าหรือยืมบัญชีธนาคารเพื่อใช้ในการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี
  2. มียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
    ของกลางประกอบด้วย ยาบ้า 64 เม็ด สมุดบัญชีธนาคาร 73 เล่ม บัตร ATM 136 ใบ และโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง

🔹 กองสืบสวน ภ.7 ปราบเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ “Wink333” และ “Lavabet555”

กก.สส.ภ.7 จับกุมผู้ต้องหา 7 คน จากเว็บ “Wink333”
และ 3 คน จากเว็บ “Lavabet555” ในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบเงินหมุนเวียนกว่า 637 ล้านบาท
ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือโฆษณา ชักชวนให้ผู้อื่นเข้าพนันออนไลน์โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันฟอกเงิน”
ยึดของกลางคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก สมุดบัญชี บัตร ATM และโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก


🔹 War Room PCT สกัดทันควัน – ยับยั้งผู้เสียหาย 3 ราย สูญเงินรวมกว่า 3 ล้านบาท

  • สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ผู้เสียหายถูกหลอกซื้อ iPhone 17 จากเพจ “พี่พิมพ์ แม่ค้าออนไลน์ 100 ล้าน”
    เสียหาย 196,913 บาท เจ้าหน้าที่ประสานทันก่อนโอนเพิ่มอีก 80,000 บาท
  • สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผู้เสียหายถูกเพจ “อาจารย์เอจักรพรรดิ” หลอกให้โอนเงินค่าดำเนินการรับรางวัล
    เสียหาย 20,372 บาท
  • สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผู้เสียหายลงทุนในสินค้าแบรนด์ “Orbix” สูญเงินกว่า 2.9 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ประสานอายัดเงินคืนได้ 500,000 บาท

ผู้เสียหายทั้ง 3 รายกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เข้าช่วยเหลือและยับยั้งการโอนเงินได้ทันเวลา


🔹 ผลปฏิบัติรวม 7 วัน – 561 คดีทั่วภาค 7

พล.ต.ท.พิสิฐ เปิดเผยว่า การปฏิบัติดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายเร่งด่วนของ นายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
โดยตำรวจภูธรภาค 7 ระดมกวาดล้างในทุกมิติ สามารถดำเนินการได้รวม 561 คดี แบ่งเป็น

  1. คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่สำคัญ 4 คดี
  2. คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 14 ประเภท รวม 195 คดี
  3. ซิมผี–บัญชีม้า ตาม พ.ร.ก.มาตรการฯ 38 คดี
  4. โครงการ Money Cash Back 28 คดี
  5. เป้าหมายจาก War Room ใหม่ 2 คดี
  6. คดีทางเทคโนโลยีอื่น ๆ 294 คดี

โดยมี พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.กานต์ ธรรมเกษม ผบก.สส.ภ.7,
พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม และ พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร
ร่วมระดมกำลังดำเนินการตามเป้าหมาย 7 ด้าน ทั้งการสืบสวนขยายผลคดีสำคัญ, ปราบบัญชีม้า–ซิมผี, สกัดคนไทยร่วมขบวนการสแกมเมอร์
และติดตามทรัพย์คืนผู้เสียหาย

“เราจะเดินหน้ากวาดล้างอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ภาค 7 ได้รับความปลอดภัยจากภัยไซเบอร์ทุกรูปแบบ”
พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7 กล่าวยืนยัน

ภาพ-ข่าว ทวีพล นครปฐม

ราชบุรี – จัดกิจกรรมย้อมผ้าสีดำสวมใส่ถวายความอาลัยสมเด็จพระพันปีหลวง

สำนักงานศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดราชบุรี จัดกิจกรรมเปิดสอนวิชาชีพ “หลักสูตรการย้อมผ้าด้วยสีสังเคราะห์” และการทำริบบิ้นสีดำ เพื่อร่วมรำลึกและถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมเป็นการช่วยลดรายจ่ายให้ประชาชนในช่วงการเสด็จสวรรคต

นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ที่บริเวณลานอัธยาศัย ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดราชบุรี นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรมการสอนวิชาชีพ “หลักสูตรการย้อมผ้าด้วยสีสังเคราะห์” และการเรียนทำริบบิ้นสีดำ เพื่อร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีหลวง

นายพุทธพงษ์ พุทธจันทรา นายอำเภอเมืองราชบุรี

   โดยมี นายพุทธพงษ์ พุทธจันทรา นายอำเภอเมืองราชบุรี, นางปาริชาติ แพรสถิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ฯ ตลอดจนตัวแทนนักศึกษาและประชาชนจาก 22 ตำบลในพื้นที่อำเภอเมืองราชบุรี เข้าร่วมกิจกรรมอย่างพร้อมเพรียง
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักศึกษาได้แสดงออกถึงความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งส่งเสริมการเรียนรู้ด้านอาชีพ การย้อมผ้าสีดำ และการทำริบบิ้น

   ซึ่งผู้เข้าร่วมสามารถนำความรู้ไปต่อยอดสร้างประโยชน์ รวมถึงร่วมกันทำริบบิ้นสีดำเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยกิจกรรมอบรมจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3–7 พฤศจิกายน 2568
ทั้งนี้ การจัดอบรมลักษณะดังกล่าว เคยจัดขึ้นแล้วในช่วงการสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก

   นางสาวกุลวลี นพอมรบดี กล่าวเพิ่มเติมว่า หน่วยงานศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ฯ เป็นองค์กรที่ทำงานอย่างเข้มแข็งและมีความร่วมมือในระดับพื้นที่เป็นอย่างดี โดยแต่ละตำบลจะมีกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มสตรี และกลุ่มแม่บ้านเข้ามามีส่วนร่วม ถือเป็น “เครือข่ายพลังมด” ที่ช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมในชุมชนได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เช่นเดียวกับช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่หน่วยงานนี้ได้ช่วยกันผลิตหน้ากากอนามัย ซึ่งขณะนั้นขาดแคลนอย่างหนัก “กิจกรรมครั้งนี้เป็นอีกโครงการที่ดีมาก และหวังว่าคุณครูและนักศึกษาจะนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอด สร้างคุณประโยชน์แก่สังคมและชุมชนในอนาคต”

ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย / ข่าวภูมิภาคจังหวัดราชบุรี

นครปฐม. จัดกิจกรรมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ 2568 “เฉลิมพระเกียรติ”

จ.นครปฐม จัดกิจกรรมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ 2568 “แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่นป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ”

นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เวลา นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดกิจกรรมออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ 2568“แสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่นป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ” ที่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน นักกีฬา และประชาชนร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในการป้องกันดูแล และรักษาอย่างถูกต้องแก่ประชาชนทั่วไป

นายแพทย์วิโรจน์ รัตนอมรสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม

โดย นายแพทย์วิโรจน์ รัตนอมรสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ประเทศไทย พบผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 1,880 คน ต่อประชากรจำนวนหนึ่งแสนคน หรือร้อยละ 2 เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งในเพศหญิง และอันดับสามในเพศชาย นอกจากนี้ โรคนี้ยังทำให้เกิดความพิการสูง พบว่าผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง 100 คน ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจะเสียชีวิตร้อยละ 5 และพิการสูงถึง ร้อยละ 70 ซึ่งนอกจากความพิการทางกายแล้วยังมีผลทำให้ความจำเสื่อมในภายหลังอีกด้วย จะเห็นว่าโรคหลอดเลือดสมองเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย ถ้าประชาชนขาดความรู้การป้องกันและรักษาอย่างถูกวิธีโรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ร้อยละ 90 ถ้าสามารถปรับฤติกรรมเลี่ยงความเสี่ยงได้ จากรายงานข้างต้นจะเห็นว่าโรคหลอดเลือดสมองเป็นอีกโรคหนึ่งที่ทำลายคุณภาพชีวิตของประชากร

ชมคลิป.https://drive.google.com/file/d/1WvQeGHQXQrErCe6ZSxsbryQGndjNoKZf/view?usp=sharing

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

นครปฐม เปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และนิทรรศการให้ความรู้โรคหลอดเลือดสมอง

จ.นครปฐม เปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และนิทรรศการให้ความรู้โรคหลอดเลือดสมอง โครงการ เดิน วิ่ง ปั่นป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครปฐม

นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

วันที่ 30 ตุลาคม 2568 เวลา 17.00 น. ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม นายยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และนิทรรศการให้ความรู้โรคหลอดเลือดสมอง โครงการ เดิน วิ่ง ปั่นป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครปฐม โดยมี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมงานในครั้งนี้

การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และนิทรรศการความรู้โรคหลอดเลือดสมอง โครงการแสงนำใจไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่นป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 11 เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครปฐม เป็นการเผยแพร่ให้ประชาชนที่เข้าร่วมชมนิทรรศการ ได้น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา ทรงมีแก่พสกนิกรชาวไทย และได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์จัดตั้งโครงการต่างๆ เพื่อส่งเสริมสุขภาพของราษฎรในถิ่นทุรกันดารให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ ทรงพระราชทานรถต้นแบบรักษาอัมพาตเคลื่อนที่ แก่คณะแพทยศาสตรศิริราชพยาบาล ตลอดจนทรงพระราชทานอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ

พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของประชาชนชาวไทยในการรักษาสุขภาพ การออกกำลังกาย ประชาชนชาวไทยทุกคนจึงควรนำแบบอย่างของพระองค์มาปรับพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ด้วยการออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ลดความเครียด งดสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ตลอดจนมีความรู้สัญญาณเตือน ของโรคหลอดเลือดสมอง การส่งต่อ และการรักษาอย่างถูกวิธีจะสามารถป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ได้ถึงร้อยละ 90 ซึ่งจะช่วยลดภาระของปัญหาโรค ไม่ติดต่อเรื้อรังทำให้มีสุขภาพดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ต่อไป

จังหวัดนครปฐม ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ขอเชิญชวนประชาชนทุกท่านร่วมชมกิจกรรมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และนิทรรศการโรคหลอดเลือดสมอง ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพฟรี รวมถึงการตรวจ วัดความดันโลหิต ชั่งน้ำหนัก และวัดระดับน้ำตาลในเลือด ในวันที่ 30 – 31 ตุลาคม 2568 เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ บริเวณลาน โซน F ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม และร่วมออกกำลังกาย ในวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เวลา 06.00 น. ณ บริเวณสระพระพิรุณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน เพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตและความพิการถาวรในประเทศไทย

ชมคลิป. https://drive.google.com/file/d/1Jk-Pl7tnheDnjnmTCgwkWOTpJx8pMiT7/view?usp=drivesdk


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

อบจ.นครปฐม มอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบอุทกภัย อ.นครชัยศรี–อ.บางเลน กว่า 5,000 ชุด

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม พร้อมภริยามอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบอุทกภัย อ.นครชัยศรี–อ.บางเลน กว่า 5,000 ชุด

วันที่ 28 ตุลาคม ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม


นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยนางวิลาสินี สะสมทรัพย์ ภริยานายก อบจ.นครปฐม สมาชิกสภา อบจ.นครปฐม หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการในสังกัด ร่วมมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้นำชุมชนและผู้นำท้องที่ในพื้นที่ประสบอุทกภัยในเขตอำเภอนครชัยศรีและอำเภอบางเลน เพื่อนำไปแจกจ่ายต่อให้ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่

ในการนี้ นายอนุชา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรม พร้อมกล่าวแสดงความห่วงใยและให้กำลังใจแก่พี่น้องประชาชนทั้งสองอำเภอที่ประสบความเดือดร้อนจากน้ำท่วม

นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก อบจ.นครปฐม กล่าวว่า จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอบางเลนจำนวน 11 ตำบล และอำเภอนครชัยศรีจำนวน 21 ตำบล ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบ อบจ.นครปฐมจึงได้จัดเตรียมถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ภายใต้ขอบข่ายอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนจังหวัด

สำหรับการมอบถุงยังชีพในครั้งนี้ อำเภอบางเลนได้รับจำนวนทั้งสิ้น 2,570 ชุด และอำเภอนครชัยศรีได้รับจำนวน 2,772 ชุด รวมกว่า 5,300 ชุด เพื่อส่งต่อให้ถึงมือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมโดยเร็วที่สุด

นายก อบจ.นครปฐม กล่าวเพิ่มเติมว่า อบจ.จะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมให้การสนับสนุนทุกหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติในเร็ววัน.

ภาพ-ข่าว ทวีพล นครปฐม

อบจ.นครปฐม เปิดโครงการด้านการท่องเที่ยว “นครปฐมมีดี มากกว่าแค่ทางผ่าน”

อบจ.นครปฐม จัดโครงการประชาสัมพันธ์ ด้านการท่องเที่ยวเพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวตามวิถีชุมชน และแหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัดนครปฐม

นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม

วันที่ 8 ตุลาคม 2568 ที่ลานกิจกรรมชั้น G เซ็นทรัลนครปฐม นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ดร.พาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐม นายปรีชา ดิลกพรเมธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ร่วมเปิดโครงการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว เพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวตามวิถีชุมชนและแหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัดนครปฐม

นายปรีชา ดิลกพรเมธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ได้มีแนวคิดในการจัดโครงการส่งเสริมสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดนครปฐม โดยมีเส้นทางท่องเที่ยว 7 เส้นทาง 7 อำเภอในจังหวัดนครปฐม ทั้งนี้การท่องเที่ยวไม่ได้มุ่งเน้นแต่วัดวาอารามเท่านั้น แต่เป็นการท่องเที่ยวแบบผสมผสานทั้งวัด คาเฟ่ ตลาดชุมชน รวมถึงร้านอาหารที่มีชื่อเสียงประจำอำเภอ โดยการท่องเที่ยวมุ่งเน้นให้ประชาชนจากจังหวัดอื่นๆ ได้มาเห็นสิ่งที่จังหวัดนครปฐมมี ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่านครปฐมเป็นจังหวัดใกล้กรุงเทพมหานคร เป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบทางอาหารที่ใหญ่ที่สุดก็ว่าได้ มีทั้งปลา กุ้ง หมู และผักผลไม้ที่ถูกส่งไปร้านอาหารใหญ่ๆในกรุงเทพฯหลายแห่ง

อบจ.นครปฐม ได้พยายามนำจุดด้อยมาเป็นจุดเด่นของจังหวัด สำหรับการเดินทางจากกรุงเทพฯ มานครปฐม ไม่ถึง 1 ชั่วโมง แต่สิ่งที่เราจะได้คือบรรยากาศในอีกรูปแบบที่หาไม่ได้ในกรุงเทพฯแน่นอน จะได้พบกับการท่องเที่ยวที่หลากหลายรูปแบบในแต่ละอำเภอ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรมประเพณี วิถีชุมชน ตลาดน้ำ ชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำท่าจีน การเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งศาสนสถานที่สำคัญๆ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นต้นทุนทางสังคมที่ทรงคุณค่าและควรแก่การนำมาประชาสัมพันธ์ส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยเฉพาะที่สำคัญที่สุด จังหวัดนครปฐมมีคาเฟ่บรรยากาศดีให้ได้ใช้เวลาปล่อยใจกันในวันหยุดมากกว่า 400 แห่ง

สำหรับการท่องเที่ยว องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ได้จัดเตรียมรถมินิบัสปรับอากาศ จำนวน 2 คัน มีคนขับที่ชำนาญอย่างดี รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐมคอยดูแลและให้บริการทุกท่านตลอดเส้นทางอีกด้วย

นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม กล่าวต่ออีกว่า การท่องเที่ยวของเราไม่ได้เน้นเฉพาะผู้สูงอายุ หากแต่ทั้งครอบครัวสามารถมาเพลิดเพลินร่วมกันกับทริปของเราได้ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวในแต่ละทริปมีความหลากหลาย ทั้งศิลปะอันสวยงาม วัดวาอาราม ตลาดชุมชนให้เลือกซื้อสินค้าและวัตถุดิบราคาดีมีคุณภาพ และยังได้เช็คอิน ถ่ายรูปสวยๆตามคาเฟ่ต่างๆ จึงอยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกจังหวัดในประเทศไทย หากมีโอกาสอยากให้ลองมาเที่ยวจังหวัดนครปฐม และเข้ามาร่วมโครงการท่องเที่ยวขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม แล้วท่านจะพบว่า “นครปฐมมีดีมากกว่าแค่ทางผ่าน นครปฐมมีดีกว่าที่ทุกคนคิด”

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

ราชบุรีจัดท่องเที่ยว OTOP และกิจกรรม Woww ของดีราชบุรี

ราชบุรีจัดงานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และสินค้าชุมชนท่องเที่ยว OTOP กิจกรรม ” Woww…ของดีราชบุรี “

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 68 นางสาววริษฐา สงวนเสริมศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้มาเป็นประธานเปิดงานจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และสินค้าชุมชมชนท่องเที่ยว OTOP จังหวัดราชบุรี ครั้งที่ 2 กิจกรรม ” Woww…..ของดีราชบุรี “

    ที่ห้างสรรสินค้าเซ็นทรัลนครปฐม บริเวณลานสวนส้มโอ ซึ่งจังหวัดราชบุรี โดย สนง.พัฒนาชุมชนจังหวัดราชบุรีจัดขึ้น ตามโครงการส่งเสริมและขยายช่องทางการตลาด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มช่องทางเศรษฐกิจของจังหวัดราชบุรี จึงดำเนินการจัดกิจกรรมการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP และสินค้าชุมชนท่องเที่ยว OTOP จังหวัดราชบุรีขึ้น

   เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ เพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และชุมชน ส่งเสริมการจำหน่ายสินค้า เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า ขยายตลาดสินค้าทั้งในจังหวัดราชบุรีและต่างจังหวัด
  

โดยภายในงานมีทั้งของกิน ของใช้ งานหัตถกรรม และสินค้าแปรรูปสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น มีการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP สินค้าชุมชน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน รวมกว่า 50 บูธ การจัดสาธิตการผลิตสินค้าจากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และชุมชน การแสดงภูมิปัญญาท้องถิ่น เอกลักษณ์วัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งนี้งานจะมีไปจนถึงวันที่ 16 กันยายน 2568 บริเวณลานสวนส้มโอ เซ็นทรัลนครปฐม จ.นครปฐม

  ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

นครปฐม. ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2568

จังหวัดนครปฐม จัดพิธีปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 2 แสนตัว เนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2568 เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน

นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

วันที่ 9 กันยายน 2568 ที่ท่าน้ำวัดแหลมมะเกลือ อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เนื่องในวันประมงแห่งชาติ ประจำปี 2568 โดยมี นายอำเภอดอนตูม หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน ครูและนักเรียนร่วมพิธี

เรือเอกวิรัตน์ อาจคงหาญ ประมงจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2549 กำหนดให้วันที่ 21 กันยายนของทุกปี เป็นวันประมงแห่งชาติ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรสัตว์น้ำ ตลอดจนการมีส่วนร่วม ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน โดยขอความร่วมมือจากชาวประมงและประชาชนงดจับสัตว์น้ำทุกชนิด ในวันที่ 21 กันยายนของทุกปี

สำหรับกิจกรรมปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเนื่องในวันประมงแห่งชาติในครั้งนี้ ได้มีการปล่อยปลาตะเพียนขาวจำนวน 100,000 ตัว และพันธุ์ปลาสร้อยขาว 100,000 ตัว โดยได้รับการสนับสนุนพันธุ์สัตว์น้ำ จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดสุพรรณบุรี


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม-เซ็นทรัลนครปฐม- ออกหน่วยรับบริจาคโลหิต ฯเตรียมช่วยผู้ป่วยจากสถานการณ์ชายแดน

นครปฐม – เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ผนึกกำลังเซ็นทรัลนครปฐม-ภาคบริการโลหิตแห่งชาติฯ ออกหน่วยรับบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ สำรองคลัง เตรียมช่วยผู้ป่วยจากสถานการณ์ชายแดน

วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.30 น. สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ร่วมกับ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม และภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 4 จังหวัดราชบุรี ออกหน่วยรับบริจาคโลหิต ดวงตา และอวัยวะ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม ชั้น 1 โซนหน้าร้าน SE–ED Book อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เพื่อสำรองโลหิตคงคลัง เตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้ป่วยในกรณีฉุกเฉิน โดยเฉพาะจากสถานการณ์ความไม่สงบที่มีการใช้อาวุธในพื้นที่ชายแดน

ในการนี้ได้รับเกียรติจาก นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดกิจกรรม พร้อมด้วย นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม นายปรีชา ดิลกพรเมธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นางวันวิสาข์ ดิลกพรเมธี นางศิริลักษณ์ พึ่งเนียม รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม นางกัญจนา สร้อยอินทรากุล ผู้ช่วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม คณะกรรมการเหล่ากาชาดฯ และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง

กิจกรรมในครั้งนี้ ยังได้มีการมอบของที่ระลึก ได้แก่ ผ้าขนหนูและขนมปัง ให้แก่ผู้ที่มาร่วมบริจาคดวงตาและอวัยวะ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการร่วมแบ่งปันเพื่อเพื่อนมนุษย์ โดยผลการออกหน่วยครั้งนี้ มีผู้ร่วมบริจาคโลหิต จำนวนทั้งสิ้น 129 ยูนิต บริจาคดวงตา 29 ราย บริจาคอวัยวะ 29 ราย และบริจาคร่างกายเพื่อการศึกษา 10 ราย

ทั้งนี้ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐมได้ขอบคุณประชาชนชาวนครปฐมทุกท่านที่ร่วมกันสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ด้วยการ “ให้” ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เพื่อชีวิตของเพื่อนมนุษย์ในยามยาก

ภาพ-ข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม

ราชบุรี – มอบเงินสิ่งของบรรเทาทุกข์ผู้ประสบปัญหาชายแดน

นายกเทศบาลตำบลหลักเมือง และทีมงานฯ มอบเงินและสิ่งของบรรเทาทุกข์ผู้ประสบปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา

วันที่ 25 ก.ค. 68  นายกสอง สินาด รุ่งจรูญ นายกเทศมนตรีเทศบาลหลักเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี พร้อมสมาชิกสภาฯ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำบลพงสวาย และ ทีมงานเสริมสร้างหลักเมือง ได้รวมพลังกันเพื่อเป็นตัวแทนมอบสิ่งของ และเงินสนับสนุนจำนวน 15,000 บาท ให้แก่พี่น้องผู้ปฏิบัติหน้าที่และผู้ประสบปัญหาที่เกิดจากการสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

  ทั้งนี้เงินจำนวนนี้ได้มาจาก นายกเทศบาลตำบลหลักเมืองและกองทุนรวมน้ำใจ เติมฝัน ปันสุข และสิ่งของมาบริจาคจากชาวบ้านในเขตพื้นที่
การสนับสนุนในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ รวมถึงช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เจ้าหน้าที่และประชาชนที่คอยดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน โดยสิ่งของและเงินจำนวนดังกล่าว จะถูกส่งมอบผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสนับสนุนภารกิจป้องกันประเทศ

    นายกสอง สินาด รุ่งจรูญ กล่าวว่า พวกเราชาวหลักเมือง ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลพี่น้องของเราที่ชายแดน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ หวังว่าการสนับสนุนเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ จะช่วยแบ่งเบาภาระและเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานต่อไป พร้อมเน้นย้ำถึงเจตนารมณ์ ชีวิตที่เหลือเพื่อหลักเมือง และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของคนในพื้นที่

    การดำเนินการในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใยและความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ ทั้งจาก เทศบาลตำบลหลักเมือง ทีมงานเสริมสร้างหลักเมือง ตลอดจนชาว ตำบลพงสวาย และ ตำบลโคกหม้อ ในการสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนเพื่อความมั่นคงและอธิปไตยของชาติ ดังวลีที่ว่า ” ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด “

พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ราชบุรี – เทศบาลหลักเมืองชวนทำดีเพื่อสังคม บริจาคขยะรีไซเคิลสมทบกองทุน “หลักเมืองรวมน้ำใจ เติมฝัน ปันสุข”

เทศบาลหลักเมืองชวนทำดีเพื่อสังคม บริจาคขยะรีไซเคิลสมทบกองทุน “หลักเมืองรวมน้ำใจ เติมฝัน ปันสุข”


วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ที่เทศบาลตำบลหลักเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เดินหน้าสานต่อโครงการ “ลดโลกร้อน ดีต่อเรา ดีต่อโลก” อย่างต่อเนื่อง โดยเปิดโอกาสให้นักเรียนและประชาชนในพื้นที่ร่วมบริจาคขยะรีไซเคิล เพื่อนำรายได้จากการจำหน่ายเข้าสมทบ “กองทุนหลักเมืองรวมน้ำใจ เติมฝัน ปันสุข” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในชุมชน

นายสินาด รุ่งจรูญ นายกเทศมนตรีตำบลหลักเมือง

     นายสินาด รุ่งจรูญ นายกเทศมนตรีตำบลหลักเมือง พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล และนางลัลดา ศรีสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายบริหารการศึกษา รักษาการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลตำบลหลักเมือง ร่วมรณรงค์เชิญชวนเด็กนักเรียนและผู้ปกครองนำขยะรีไซเคิลประเภทต่าง ๆ เช่น ขวดน้ำดื่ม ขวดพลาสติก กระดาษใช้แล้ว และสิ่งของเหลือใช้ มาร่วมบริจาคในช่วงเช้าขณะเดินทางมาโรงเรียน

   กิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเยาวชน แต่ยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการทำความดีเพื่อสังคม โดยรายได้จากขยะรีไซเคิลจะนำไปใช้ในกองทุนฯ เพื่อจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภค อุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงสนับสนุนบริการ “Care You” อาสาเพื่อนไปหาหมอสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ผู้พิการ และผู้ยากไร้ในพื้นที่

นายสินาด กล่าวว่า “โครงการนี้ไม่เพียงช่วยลดปริมาณขยะและรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสในการช่วยเหลือและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนให้ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม”

เทศบาลตำบลหลักเมืองขอเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคขยะรีไซเคิลได้ที่จุดรับบริจาคของเทศบาล เพื่อร่วมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันและความยั่งยืนอย่างยั่งยืน

นักเรียนที่นำขยะรีไซเคิลมาร่วมบริจาค จะได้รับการชั่งน้ำหนักเพื่อสะสมเป็นแต้มสะสมที่สามารถปันผลเป็นเงินในแต่ละภาคเรียน พร้อมรับคะแนนจิตพิสัยเพิ่มเติม ถือเป็นการส่งเสริมคุณธรรมควบคู่กับการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมและจิตอาสา

ภาพข่าว: พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย / ราชบุรี

PDPC บุกนครปฐม ดึงผู้นำชุมชนร่วมสกัดภัยไซเบอร์

PDPC บุกนครปฐม ดึงผู้นำชุมชนร่วมสกัดภัยไซเบอร์ สร้างเกราะข้อมูลส่วนบุคคลให้คนไทย

  เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC เปิดกิจกรรม “PDPC สร้างความรู้สู่ชุมชน” ที่จังหวัดนครปฐม ดึงภาคีเครือข่ายและผู้นำชุมชนร่วมขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “เกราะคุ้มกันภัยไซเบอร์” เสริมสร้างความตระหนักรู้เรื่องสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคล มุ่งเป้าสู่เป้าหมาย “ข้อมูลรั่วไหลเป็นศูนย์”

โดยมี พ.ต.อ. สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ลงพื้นที่พร้อมคณะผู้บริหารสคส. เพื่อร่วมงาน ณ จังหวัดนครปฐม ซึ่งถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทางเศรษฐกิจของภาคกลาง มีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ปี 2566 สูงถึง 365,987 ล้านบาท และรายได้เฉลี่ยต่อหัว 297,901 บาท ขับเคลื่อนหลักด้วยภาคอุตสาหกรรมและบริการสุขภาพ การศึกษา การค้าปลีก

ภายในงาน ได้รับเกียรติจาก นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวเปิดงาน และ นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการกำกับสำนักงานฯ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ และ นางสาววีรินทร์ อรวัฒนพันธุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร บรรยายเรื่องสิทธิข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมแจกชุดความรู้ “PDPC รู้แล้วรอด”

พ.ต.อ. สุรพงศ์ กล่าวย้ำว่า PDPC ให้ความสำคัญกับการกระจายองค์ความรู้เรื่องกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) สู่ชุมชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลส่วนบุคคลมีความเปราะบาง และการละเมิดอาจส่งผลกระทบทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ ดังนั้น ผู้นำชุมชนจึงเป็นกำลังสำคัญในการป้องกันภัยไซเบอร์

กิจกรรมครั้งนี้เน้นการสร้างพลัง “รู้เท่าทัน รู้สิทธิ รู้วิธีรับมือภัยไซเบอร์” ผ่านการมีส่วนร่วมของผู้นำท้องถิ่น กลุ่มอาสาสมัคร และประชาชนทั่วไป โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความเข้าใจและภูมิคุ้มกันของประชาชนในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ทั้งนี้ PDPC ยังเปิดบูธให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ PDPA และการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมแจกชุดกระเป๋า “PDPC รู้แล้วรอด” ซึ่งออกแบบให้เข้าใจง่าย ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสาร ความรู้ และกิจกรรมของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้ทางเว็บไซต์ http://www.pdpc.or.th หรือทาง Facebook Fanpage: PDPC Thailand

#ข่าวเด็ด_News
#กลุ่มข่าวเด็ดนครปฐมนิวส์
#Key8_News
#มาตุภูมิNews
#กลุ่มฅนข่าวนครปฐม

โรงไฟฟ้าหินกอง ราชบุรี ซ้อมแผนรับมือเหตุวางระเบิด

โรงไฟฟ้าหินกอง จ.ราชบุรี ซ้อมแผนรับมือเหตุวางระเบิด บูรณาการร่วมหน่วยงานภาครัฐ

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 นายทำเนียบ นวลแสง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หินกองเพาเวอร์ จำกัด (โรงไฟฟ้าหินกอง) อ.เมือง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้จัดการซ้อมแผนฉุกเฉินการเก็บกู้วัตถุระเบิดแบบบูรณาการ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเสริมสร้างความพร้อมด้านความปลอดภัยและการตอบสนองเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินภายในพื้นที่โรงไฟฟ้า

การซ้อมแผนดังกล่าวมีการจำลองสถานการณ์เสมือนจริง โดยสมมุติให้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดภายในพื้นที่โรงไฟฟ้า พร้อมทั้งทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ฝึกปฏิบัติจริงทั้งการเข้าควบคุมสถานการณ์ การอพยพบุคลากร และการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

การฝึกซ้อมครั้งนี้มีหน่วยงานเข้าร่วมหลายฝ่าย อาทิ พ.ท.รชต มัญชุสุนทรกุล ผู้บังคับกองพันพัฒนา 1 กองพลพัฒนาที่ 1, พ.ต.อ.วิสิฐศักดิ์ วิพัฒนมงคล ผู้กำกับกลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191, พ.ต.ท.กิตติวัฒน์ พินิจ สารวัตร กก.สส.ภ.จว.ราชบุรี รวมถึงเจ้าหน้าที่จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.), ตำรวจสายตรวจตำบลหินกอง, เทศบาลตำบลหินกอง และโรงพยาบาลกรุงเทพเมืองราช

นายชนะ เรืองตระกูล ผู้อำนวยการโครงการเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าหินกอง กล่าวเพิ่มเติมว่า การซ้อมแผนในครั้งนี้ช่วยให้เจ้าหน้าที่ของโรงไฟฟ้าเข้าใจบทบาทหน้าที่เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน และเสริมสร้างความมั่นใจในการทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ บริษัท หินกองเพาเวอร์ จำกัด ยังคงให้ความสำคัญกับมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับสถานการณ์ต่าง ๆ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับชุมชนโดยรอบ

รายงานข่าว: พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จัด “มหัศจรรย์ล้านนา” ที่นครปฐม

กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จัดกิจกรรม Road Show ส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยว “มหัศจรรย์ล้านนา” ที่นครปฐม

วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 — ที่ลานส้มโอ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม จังหวัดนครปฐม กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนา Soft Power เพื่อเป็นต้นทุนในการพัฒนาต่อยอดการท่องเที่ยวมูลค่าสูง โดยมี นางเกศกนก เดชมา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดงานอย่างเป็นทางการ

กิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22–25 พฤษภาคม 2568 โดยมี ดร.อภิชา ไชยพรชลิดา นายอำเภอเมืองนครปฐม กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจากจังหวัดในกลุ่มภาคเหนือตอนบน 1 ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และแม่ฮ่องสอน ตลอดจนเจ้าหน้าที่จากสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก

ว่าที่ร้อยตรี รังสรรค์ จอมนวล นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรม Road Show ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวภาคเหนือผ่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยใช้พลัง Soft Power ในท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต ภูมิปัญญา และผลิตภัณฑ์ชุมชน มายกระดับการท่องเที่ยวสู่กลุ่มมูลค่าสูง

งานนี้จัดขึ้นภายใต้ชื่อ “มหัศจรรย์ล้านนา เสน่ห์งามตาสานศิลป์ สัมผัสวิถีถิ่นภาคเหนือตอนบน 1” ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 หลังจากจัดครั้งแรกเมื่อวันที่ 1–4 พฤษภาคม 2568 ณ เซ็นทรัล หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การออกร้านจำหน่ายสินค้าเด่นจากภาคเหนือกว่า 40 ร้านค้า,การแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนาและดนตรีร่วมสมัย
แฟชั่นโชว์ผ้าพื้นเมือง,นิทรรศการและกิจกรรมสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม

   กิจกรรมในครั้งนี้นอกจากจะสร้างการรับรู้และภาพลักษณ์การท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 แล้ว ยังเป็นโอกาสในการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก สนับสนุนผู้ประกอบการในพื้นที่ให้เข้าถึงตลาดใหม่ และสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของภูมิภาคอย่างแท้จริง

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม / ภาพ-ข่าว

สมาคมสตรีนักธุรกิจฯ นครปฐม จูงมือนางสาวไทยปี 68 เปิดงาน “เยี่ยมชุมชน ยลวิถีเกษตรอินทรีย์”

นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจฯ นครปฐม จูงมือนางสาวไทยปี 68 เปิดงาน “เยี่ยมชุมชน ยลวิถีเกษตรอินทรีย์” หวังชูท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่บ้านหัวอ่าว


นครปฐม – เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 นางสาวณัฏฐ์ปภาณ จันทร์ละมูล ประธานบริษัทประชารัฐรักสามัคคี (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด และนายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย-นครปฐม พร้อมด้วยคุณชริยา มีใจดี นำทีมนางสาวเบญจพร สรเกตุ หรือ “น้องไข่มุก” นางสาวไทยนครปฐม ปี 2568 ร่วมเปิดกิจกรรม “เยี่ยมชุมชน ยลวิถีเกษตรอินทรีย์ เที่ยวแบบสุขภาพดีที่นี่ บ้านหัวอ่าว” ณ ตลาดในสวน หมู่ 5 ตำบลบางช้าง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน โดยเน้นการเรียนรู้เชิงปฏิบัติจริง (D-HOPE) เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่นักท่องเที่ยว พร้อมเตรียมความพร้อมก่อนการเข้าร่วมกิจกรรมประกวดระดับประเทศ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้

พิธีเปิดได้รับเกียรติจากนางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานในพิธี โดยกิจกรรมครั้งนี้จัดโดยอำเภอสามพราน เพื่อส่งเสริมการสร้างโปรแกรมการเรียนรู้และการท่องเที่ยวโดยชุมชน พร้อมประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และผู้ประกอบการท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง

งาน “เยี่ยมชุมชน ยลวิถีเกษตรอินทรีย์ เที่ยวแบบสุขภาพดีที่นี่ บ้านหัวอ่าว” จัดขึ้นทั้งหมด 3 วัน ได้แก่วันที่ 10, 17 และ 24 พฤษภาคม 2568 ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมให้ร่วมลงมือทำจริงจากผู้ประกอบการชุมชน (CHAMP) ทั้ง 10 ราย อาทิ

การทำไม้กวาดก้านมะพร้าว,ขนมบ้าบิ่นโบราณโดยยายสม,บัวลอยหอมหวาน,เที่ยวสวนเดินบนน้ำ,ข้าวเกรียบอ่อน,ปลูกผักในสวน,ยาดมสมุนไพรใบฝรั่ง,ไข่เค็มสมุนไพร,น้ำฝรั่งคั้นสด 100%,เมี่ยงคำห่อความสุข

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวคาดว่าจะสร้างประโยชน์โดยตรงแก่หมู่บ้าน OTOP นวัตวิถี ผู้ผลิตสินค้า OTOP รวมถึงบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สร้างรายได้ และเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวชุมชนให้เข้มแข็งและยั่งยืน

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม
ภาพ/ข่าว

วัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม จัดส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม กิจกรรม 1 อำเภอ 1 ลานสร้างสรรค์

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม จัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม กิจกรรม 1 อำเภอ 1 ลานสร้างสรรค์ เพื่อเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ในท้องถิ่นให้เป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งจัดแสดงผลงาน และจำหน่ายสินค้าและบริการทางวัฒนธรรม

นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

            วันที่ 12 เมษายน 2568 ที่บริเวณตลาดสุขใจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเยี่ยมชมโครงการและร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม กิจกรรม 1 อำเภอ 1 ลานสร้างสรรค์ จังหวัดนครปฐม โดยมีนายปรีชา ดิลกพรเมธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยรองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม รวมกิจกรรมในครั้งนี้

           ซึ่งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม จัดขึ้นเพื่อเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ในท้องถิ่นให้เป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งจัดแสดงผลงาน และจำหน่ายสินค้าและบริการทางวัฒนธรรม สร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลปวัฒนธรรมที่แสดงถึงความเป็น อัตลักษณ์ของชุมชนและท้องถิ่น ให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชน รวมถึงเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในการสร้างสรรค์งานวัฒนธรรม เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
     
           

โอกาสนี้ นางฐิติรัตน์ เรืองสังข์ วัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยนางวาสนา กลิ่นพยอม นำเยี่ยมชมกิจกรรม ประกอบด้วย 1. การสาธิตและแสดงผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย 2.การแสดงทางวัฒนธรรม (ดนตรี) 3. การจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย อาหารพื้นบ้าน (อาหารคาว อาหารหวาน  อาหารว่าง)

   โครงการดังกล่าว ได้กำหนดจัดขึ้นใน 2 อำเภอ 1) อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม จำนวน 4 วัน ในวันที่ 19, 20, 26, 27 เมษายน 2568 ณ บริเวณถนนคนเดินชุมชนริมคลองวัดพระงาม ทวารวดีศรีนครปฐม อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เดือนละ 1 ครั้ง ในเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน และ 2) อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จำนวน 3 วัน ในวันที่ 12, 13 และ 19 เมษายน 2568 ณ บริเวณตลาดสุขใจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม และเดือนละ 1 ครั้ง ในเดือนพฤษภาคม และมิถุนายน กิจกรรมประกอบด้วย 1. การสาธิตและแสดงผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย 2.การแสดงทางวัฒนธรรม (ดนตรี) 3. การจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย อาหารพื้นบ้าน (อาหารคาว อาหารหวาน  อาหารว่าง)


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

ฉลองใหญ่ “เซ็นทรัล นครปฐม” ครบรอบ 1 ปี ตั้งแต่ 30 มี.ค. – 30 เม.ย. 68

ฉลองใหญ่ “เซ็นทรัล นครปฐม” ครบรอบ 1 ปี ปฐมบทของความสุข! พบเทศกาลงานเฉลิมฉลอง จัดเต็มความสนุก ช้อปคุ้มตลอดเดือน ตั้งแต่ 30 มี.ค. – 30 เม.ย. 68

  บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้นำเบอร์หนึ่งอสังหาริมทรัพย์ไทยเพื่อความยั่งยืน ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม จัดฉลองครบรอบ 1 ปีสุดยิ่งใหญ่ ในงาน Central Nakhon Pathom 1st Anniversaryภายใต้คอนเซปต์ “เทศกาลงานเฉลิมฉลองปฐมบทของความสุข” เตรียมพบกับความบันเทิงสุดยิ่งใหญ่ สัมผัสประสบการณ์แห่งความสนุกและความคุ้มค่า จัดเต็มไฮไลต์กิจกรรมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ตลอดทั้งเดือนตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม – 30 เมษายน 2568

สายบันเทิงห้ามพลาด! ศิลปินแน่น สนุกกันทั้งเดือนกับคอนเสิร์ตสุดมันส์

  • วันที่ 30 มี.ค. 68 Meet & Greet นักแสดงดังจากละคร “คุณพี่เจ้าขา ดิฉันเป็นห่านมิใช่หงส์” พบกับ 6 นักแสดง นำโดย โบว์-เมลดา สุศรี, ภณ ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์, ป๊อป-ธัชทร ทรัพย์อนันต์,จีน่า-อภัสสรา สนแสบ, โบ๊ท-ธารา ทิพา, เรนเดียร์-ปฤสยา เจริญเนติศาสตร์ ชวนเปิดฟลอร์เต้น Swing Dance
  • พร้อมปิดท้ายสนุกกับคอนเสิร์ตจากวง ATLAS บอยแบนด์ T-POP สุดฮอต
  • 4EVE เกิร์ลกรุ๊ปสุดฮอต (31 มี.ค. 68)
  • ZEAL สนุกกับซัมเมอร์ในงาน Summer Street Food (12 เม.ย. 68)
  • สงกรานต์วันไหลมหาบันเทิง มันส์สุดเหวี่ยงไปกับ BANK PREETI, KLEAR และ LOMOSONIC (18-20 เม.ย. 68)
  • ปิดท้ายความสนุกกับ “May Day Concert” พบกับ ป๊อป ปองกูล (1 พ.ค. 68)

สายครอบครัวและแฟนคลับ Snoopy ต้องมา!

  • Charlie Brown Cafe & Snoopy Mini Exhibition พบกับคาเฟ่สุดคิ้วท์ อิ่มอร่อยกับเมนูสุดพิเศษ และสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟ วันที่ 4-16 เม.ย. 68
  • Meet & Greet ตัวละครสุดน่ารัก Snoopy, Charlie Brown และ Lucy วันที่ 6-7 เม.ย. 68
  • Balloon Festival 2025 เทศกาลบอลลูนน่ารักแบบอลังการแห่งภาคกลางฝั่งตะวันตก 4-7เม.ย. 68

สายช้อปต้องจัด! โปรแรง ลุ้นรางวัลใหญ่ ระหว่างวันที่ 29 มี.ค. – 30 เม.ย. 68

  • ช้อปครบทุก 1,000.- ลุ้นรับ รถยนต์ EV รุ่น LUMIN L และบัตรชมภาพยนตร์ Major Cineplex
  • ช้อปครบ 8,000.- รับสิทธิ์แลกซื้อ PoonSuk Suitcase ราคาพิเศษ
  • ช้อปครบ 10,000.- รับฟรี พวงกุญแจ PoonSuk Limited Edition
  • ช้อปครบ 20,000.- รับ บัตรกำนัลแทนเงินสดมูลค่า 500.-เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาสนุก ช้อป คุ้ม ฉลอง 1 ปี เซ็นทรัล นครปฐม ไปด้วยกัน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่https://www.facebook.com/CentralNakhonPathom

เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาสนุก ช้อป คุ้ม ฉลอง 1 ปี เซ็นทรัล นครปฐม ไปด้วยกัน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่https://www.facebook.com/CentralNakhonPathom

ติดตามความเคลื่อนไหวเซ็นทรัลพัฒนาคลิก

CentralNakhonPathom #เซ็นทรัลนครปฐม #CentralPattana #เซ็นทรัลพัฒนา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)

นราวดี เรืองพระยา ( อร ) โทร. 082 – 333 – 4152 Email: runaravadee@centralpattana.co.th

รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วม อบจ.นครปฐม จัดกิจกรรมจิตอาสาเลี้ยงอาหารคนชราเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ

รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม จัดกิจกรรมจิตอาสาเลี้ยงอาหารคนชรา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

วันที่ 27 มีนาคม 2568  ที่สถานสงเคราะห์คนชรานครปฐม ต.สนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม นายศิริพันธ์ ศรีกงพลี รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นประธานเปิดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามที่กรมส่งเสริมการปกครองถิ่นได้น้อมนำแนวทางจิตอาสาพระราชทาน “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” มาจัดจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เพื่อส่งสริมให้ข้าราขการ ประชาชนทุกหมู่เหล่า มีจิตสาธารณะรู้จักการแบ่งปัน เกิดความสำนึกในการทำประโยชน์แก่สังคม

   นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นางสาวปทุมมาศ กมลเวช รองปลัดอบจ.รักษาการปลัดอบจ. สมาชิกสภาอบจ. และข้าราขการในสังกัด ผู้นำท้องถิ่น ได้เข้าร่วมกิจกรรม เลี้ยงอาหารผู้สูงอายุ และมอบเครื่องใช้ แก่ผู้สูงอายุ 60 ท่าน(ชาย41 หญิง19) ที่พักอยู่ที่สถานสงเคราะห์คนชรานครปฐมแห่งนี้ และกิจกรรมปลูกต้นไม้ ปรับแต่งทัศนียภาพในสถานสงเคราะห์คนชรานครปฐม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม กล่าวว่าสถานสงเคราะห์คนชรานครปฐม ได้เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2530 โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เป็นผู้ดูแล มีเนื้อที่จำนวน 13 ไร่ ต่อมาได้ถ่ายโอนภารกิจให้องค์การบริหารส่วนจังหวัคนครปฐม เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2556 ซึ่งได้ดูแลให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 22ปี

  คุณสมบัติของผู้รับการสงเคราะห์ ดังเป็นชายหรือหญิง สัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 60 ปี ขึ้นไป ไม่เป็นผู้ต้องหา กระทำผิดอาญา และอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล
ไม่เป็นโรคเรื้อรัง หรือโรคติดต่อร้ายแรง ไม่พิการ ทุพพลภาพ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ สามารถช่วยเหลือตนเองได้ดีในกิจวัตรประจำวัน ฐานะยากจนไม่มีที่อยู่อาศัย ขาดผู้อุปการะหรือผู้ให้ความช่วยเหลือ และไม่สามารถอยู่กับครอบครัวได้อย่างปกติสุข และสมัครใจเข้ารับการสงคราะห์ อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรสาคร และสมุทรปราการ
ปัจจุบันมีผู้สูงอายุในการดูแลของสถานสงเคราะห์คนชรานครปฐมทั้งสิ้น 60 ท่าน เป็นชาย 41 ท่าน และเป็นหญิง 19 ท่าน

ภาพ-ข่าว ทวีพล นครปฐม

สมุทรสาครจัดงานแสดงภาพถ่าย “สมุทรสาครประทับใจ ไม่รู้ลืม (Samutsakhon Unforgettable)”

สมุทรสาครจัดงานแสดงภาพถ่าย “สมุทรสาครประทับใจ ไม่รู้ลืม (Samutsakhon Unforgettable)”

   เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 26 มีนาคม 2568 ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ภายในณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล มหาชัย อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีเปิดงานแสดงภาพถ่าย “สมุทรสาครประทับใจ ไม่รู้ลืม (Samutsakhon Unforgettable)” โดยมีนายสกล ศักดิ์กำจร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร นางจุไรรัตน์ ชัยทวีทรัพย์
รอง ผอ.ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม หัวหน้าส่วนราชการ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ผู้แทนหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร นายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรสาคร ช่างภาพ สื่อมวลชน เจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร และประชาชน เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก


    จังหวัดสมุทรสาคร ได้จัดงานแสดงภาพถ่าย ในหัวข้อ “สมุทรสาคร ประทับใจ ไม่รู้ลืม” (Samut Sakhon Unforgettable) จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-30 มีนาคม 2568 โดยภายในงานมีการแสดงภาพผ่านมุมมองของช่างภาพมืออาชีพ ที่ถ่ายภาพจังหวัดสมุทรสาครในมุมมองใหม่ที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตชาวประมง วัดวาอารามที่งดงาม ภาพนกนางนวลกับสะพานแดงที่เป็นจะเช็คอินขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสาคร ศิลปะ วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของสมุทรสาคร ไม่ว่าจะเป็นทัศนียภาพของแม่น้ำท่าจีน และชุมชนชาวประมง
นอกจากนี้ ยังกิจกรรมพิเศษและการเสวนาจากช่างภาพมืออาชีพที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์และเทคนิคการถ่ายภาพ

  โดยวันที่ 27 มี.ค.68 เวลา 16.00 น. พบกับการเล่าภาพเก่าในอดีต โดยคุณชนินทร์ อินทร์พิทักษ์ เพจ กระทุ่มแบนโฟโต้, 29 มี.ค.68 เวลา 13.00 น. พบกับ อาจารย์ผู้คร่ำหวอดในวงการถ่ายภาพนานกว่า 40 ปี อาจารย์ สงคราม โพธิ์วิไล, 30 มี.ค.68 เวลา 14.00 น. พบกับอดีตบรรณาธิการนิตยสาร อสท. ผู้เชี่ยวชาญเรื่องวิถีวัฒนธรรมของอาเซียน

คลิปสัมภาษณ์.นายสกล ศักดิ์กำจร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสมุทรสาคร.https://drive.google.com/file/d/1FdXqTyYlbUGuj-6xvO6Ih1VyZF8EVzTN/view?usp=drivesdk

คลิปสัมภาษณ์.นางจุไรรัตน์ ชัยทวีทรัพย์
รอง ผอ.ททท.สำนักงานสมุทรสงคราม.https://drive.google.com/file/d/1FdBlI-kI1EQ4GurOg7Kf9ViLUAbUkb9x/view?usp=drivesdk

   ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ศักยภาพศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตชุมชนที่มีอัตลักษณ์โดดเด่น และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสมทรสาคร เพื่อให้จังหวัดสมุทรสาครเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลให้จังหวัดสมุทรสาครมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น งานนี้อย่าพลาดโอกาสที่จะได้มาร่วมเดินชมภาพถ่ายและเก็บความประทับใจไม่รู้ลืมกับจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งงานนี้ฯ เข้าชมฟรีตลอดงาน

ทีมหมอข่าว มหาชัย ภาพ-ข่าว

จังหวัดนครปฐม ลงนามการจัดตั้งศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา

จังหวัดนครปฐม ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา

วันที่ 25 มีนาคม 2568 ที่บริเวณลานกิจกรรม ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา ตำบลบางเตย อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ โดยจังหวัดนครปฐม ร่วมกับ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา ส่วนราชการและหน่วยงานในจังหวัด อีก 8 หน่วยงาน ได้แก่ ตำรวจภูธรจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรม สำนักงานขนส่ง สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สำนักงานจัดหางาน สำนักงานประกันสังคม อำเภอสามพราน และการประปาส่วนภูมิภาค สาขาอ้อมน้อย

    เพื่อส่งเสริมและพัฒนากระบวนการให้บริการของภาครัฐในจังหวัดนครปฐม ตามเจตนารมณ์แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และตามนโยบายรัฐบาลในการยกระดับสมรรถนะของหน่วยงานของรัฐให้มีประสิทธิภาพ สามารถให้บริการเชิงรุก มีศูนย์บริการสาธารณะแบบครบวงจรที่ครอบคลุมการให้บริการหลากหลาย อีกทั้งเพื่อเพื่อให้ประชาชนในจังหวัดนครปฐมและพื้นที่ใกล้เคียงได้รับบริการที่ดีจากภาครัฐด้วยบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน สะดวก รวดเร็ว และทั่วถึงในคราวเดียว เป็นการลดภาระของประชาชนในการเดินทางไปรับบริการจากภาครัฐ ตลอดจนเพิ่มช่องทางของการบริการและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเดินทางมาใช้บริการหลังเวลาเลิกงานหรือในวันหยุดราชการ ผ่านระบบศูนย์บริการร่วม ณ จุดเดียว หรือ One Stop Service โดยมีเป้าหมายให้เป็นจังหวัดต้นแบบที่สามารถ “ให้บริการฉับไว จุดเดียวจบ ครบทุกเรื่อง” เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนรองรับระบบราชการ 4.0 และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประเทศไปสู่ความ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”

ทั้งนี้ ศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จจังหวัดนครปฐม เปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ณ บริเวณ ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ศาลายา ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 18.00 น. ยกเว้นสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงงานจังหวัดนครปฐม เปิดให้บริการเฉพาะวันราชการปกติ


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม - ข่าว

ประธานองคมนตรี เป็นประธานเปิดศาลเจ้า’พระหยกขาว’ แห่งแรก – แห่งเดียว ในสมุทรสาคร

พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานเปิดศาลเจ้าพระหยกขาว แห่งแรก – แห่งเดียว ในสมุทรสาคร

  เมื่อเวลา 10.30 น. ของวันที่ 19 มีนาคม 2568 พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองค์มนตรี เป็นประธาน เปิดศาลเจ้าพระหยกขาว พร้อมด้วย นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ประธานร่วม,ดร.แสงชัย โสตถีวรกุล นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาจังหวัดสมุทรสาคร ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา,นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย – จีน,ผู้แทนองค์กรชาวจีน,ผู้แทนหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน และแขกผู้มีเกียรติ เข้าร่วมงานจำนวนมาก ที่ศาลเจ้าพระหยกขาว ม.3 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร

ดร.แสงชัย โสตถีวรกุล นายกสมาคมส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาจังหวัดสมุทรสาคร ประธานการจัดงานฯ กล่าวว่า สำหรับศาลเจ้าพระหยกขาวนั้น ภายในเป็นที่ประดิษฐานเทพเจ้าซึ่งทำจากหยกขาวทั้งหมด นับเป็นศาลเจ้าแห่งแรกและแห่งเดียวในจังหวัดสมุทรสาคร โดยใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 5 ปี 2 เดือน ซึ่งได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2563 จนถึงปัจจุบัน บนเนื้อที่ ขนาด 3 ไร่ ตั้งอยู่ติดกับโรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จังหวัดสมุทรสาคร สร้างขึ้นเพื่อส่งเสริม สนับสนุนด้านการศึกษา สาธารณกุศล พร้อมทั้งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยเชื้อสายจีน และเพื่อความเป็นสิริมงคลของพี่น้องประชาชนที่มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งได้มาอาศัยอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร และพระบารมีแห่งพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์จนสามารถก่อร่างสร้างตัว และประสบความสำเร็จ มีความเจริญรุ่งเรืองทางธุรกิจการค้าอยู่ในจังหวัดสมุทรสาครและในประเทศไทยตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้เมื่อ 20 ปีที่แล้วตนเองและคณะกรรมการสมาคมส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาจังหวัดสมุทรสาคร ได้ริเริ่มก่อตั้งโรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษา จนสำเร็จมีชื่อเสียงและได้จัดงานฉลองครบรอบ 20 ปี ไปเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2567 ด้วยเหตุผลที่โรงเรียนสามชัยวิเทศศึกษาเป็นโรงเรียนที่ก่อตั้งโดยสมาคม ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของ ดังนั้นการที่จะให้โรงเรียนดำรงอยู่ได้อย่างถาวร จึงควรมีผู้สนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลหรือหน่วยงานที่เป็นสาธารณกุศล ด้วยเหตุผลดังกล่าว ความคิดริเริ่มก่อสร้างศาลเจ้าจึงเกิดขึ้น

   โดยภายในศาลเจ้าพระหยกขาว เป็นที่ประดิษฐาน องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม(หยกขาวแกะสลัก) ขนาดความสูง 3.2 เมตร เป็นองค์ประธาน และ องค์ไต้ฮงกงโจวซือ(หยกขาวแกะสลัก) น้ำหนัก 50 ตัน สูง 4.2 เมตร นับเป็นองค์ไต้ฮงกงหยกขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และด้วยเหตุที่กล่าวมานี้ จึงเป็นที่มาของชื่อ “ศาลเจ้าพระหยกขาว” ซึ่งการก่อสร้างศาลเจ้าพระหยกขาว ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง จากผู้มีจิตศรัทธาทั้งสิ้น ส่วนองค์พระหยกขาวภายในศาลเจ้าอีก 19 องค์ ได้รับมอบจากนายอุทิศ ชัยลือกิจ ศาลเจ้าพระหยกขาว ถือเป็นสถาปัตยกรรมจีน ที่มีความงดงามอย่างยิ่งด้วยภาพฝาผนัง รวมถึงบริเวณหรือองค์ประกอบต่างๆ ของศาลเจ้าทุกส่วน ล้วนมีความหมาย มีความเป็นมา ที่น่าศึกษาเรียนรู้ และจดจำ จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งวัฒนธรรมที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร ให้ประชาชนในจังหวัดสมุทรสาคร ในท้องถิ่นอื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาสักการะ ตลอดจนเป็นแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสาครต่อไป

นายสมพงษ์ จิรพรพงษ์ กรรมการศาลเจ้าพระหยกขาว

ชมคลิป.นายสมพงษ์ จิรพรพงษ์ กรรมการศาลเจ้าพระหยกขาว จังหวัดสมุทรสาคร กล่าวถึงที่มาของศาลเจ้า
https://drive.google.com/file/d/1D3-aCxmktAcxIrbr7yIauNh2-UQx6fH5/view?usp=drivesdk

ขอขอบคุณภาพข่าว ทีมหมอข่าว มหาชัย

งานกาชาดจังหวัดสมุทรสาคร ปี 68 จัดใหญ่ จัดหนัก ลุ้นรถ ลุ้นทอง ลุ้นมือถือ

งานของดีและงานกาชาดจังหวัดสมุทรสาคร ประจำปี 2568 จัดใหญ่ จัดหนัก ลุ้นรถ ลุ้นทอง ลุ้น I PHONE 16


เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 เวลา 16.30 น. ที่บริเวณลานสาครบุรี ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในงานของดีและงานกาชาดจังหวัดสมุทรสาคร ประจำปี 2568 โดยมีพระราชวัชรสาครคณี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าอาวาสวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีนางภิช์ตรา ชาญศิลป์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรสาคร ปลัดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และสมาชิกกาชาดจังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลในการดำเนินงานงานของดีและงานกาชาดจังหวัดสมุทรสาคร

จากนั้น เวลา 17.30 น. นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดงานของดีและงานกาชาดจังหวัดสมุทรสาคร ประจำปี 2568 ที่บริเวณเวทีกลางหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสาคร โดยการจัดงานในครั้งเป็นความร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในจังหวัดสมุทรสาครร่วมกันจัดขึ้น

ซึ่งจะมีตั้งแต่วันที่ 21  จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 รวม 10 วัน โดยภายในงานมีกิจกรรมหารายได้ให้กับสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร โดยการจําหน่ายสลากกาชาดการกุศลเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร ใบละ 100 บาท ซึ่งรถยนต์ TOYOTA Yaris Cross จำนวน 1 รางวัล, รถจักรยานยนต์ Honda Wave 110i จำนวน 5 รางวัล, ทองคำแท่ง น้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 8 รางวัล, ตู้เย็น 2 ประตู ขนาด 8.2 คิว จำนวน 5 รางวัล, พัดลม ขนาด 18 นิ้ว จำนวน 30 รางวัล และรางวัลเลขท้าย 3 ตัว เป็นหม้อหุงข้าว ขนาด 2.2 ลิตร จำนวน 50 รางวัล รวม 99 รางวัล ซึ่งจะจับออกสลากการกุศลเหล่ากาชาดในวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลา 18.00 น. ณ บริเวณเวทีกลางหน้าอำเภอเมืองสมุทรสาคร

หลังจากนั้น เวลา 18.00 น. นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีเปิด “ร้านมัจฉากาชาด” ประจำปี 2568 ที่บริเวณลานหน้าอาคารนิวนามทอง สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร โดยรางวัลสลากการกุศลพิเศษ ใบละ 300 บาท จะลุ้นรางวัลโทรศัพท์ I PHONE 16 วันละ 2 เครื่อง, รางวัลสลากการกุศลพิเศษใบละ 100 บาท ลุ้นสร้อยคอทองคำ นำหนัก 1 สลึง รวม 10 รางวัล, และกิจกรรมมัจฉาพาโชค ตักไข่ ใบละ 20 บาท ลุ้นรับรางวัลมากมาย อาทิ รถจักรยานไฟฟ้า ตู้เย็น เครื่องชงกาแฟ หม้อหุงข้าว เตารีด smart tv ขนาด 43 นิ้ว เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดจำหน่ายของดีจาก 3 อำเภอในจังหวัดสมุทรสาคร สินค้าโอทอป ผลไม้จากชาวสวน สินค้าธงฟ้า ไข่ราคาประหยัด ของกินของใช้ กว่า 100 ร้านค้า ทั้งนี้ การจัดงานของดีและงานกาชาดจังหวัดสมุทรสาคร มีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้เข้าสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อใช้ในการดำเนินงานด้านการสงเคราะห์, กิจการสาธารณประโยชน์ และสนับสนุนงานสาธารณกุศล อีกด้วย

   ภาพ-ข่าว ทีมหมอข่าว สมุทสาคร

กรมการปกครองชุด”ปฏิบัติการสิงห์ดับแสง” จับผับเถื่อนนครปฐม เปิดเกินเวลา-มั่วยา

กรมการปกครองสนองนโยบาย “จัดระเบียบสังคม” และ“ 5A 2025 : อำเภอปลอดภัย” มท.1 อธิบดีกรมการปกครอง นำทัพ เปิด “ปฏิบัติการสิงห์ดับแสง”  นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษบุกจับผับเถื่อน ” ร้าน Neon (นีออน)” อ.สามพราน จ.นครปฐม ลอบเปิดให้บริการ ไร้ใบอนุญาต ขายเหล้าเกินเวลา นักเที่ยวยังนั่งดื่มเต็มร้าน มีแสดงดนตรี เต้นกันสนุกสนาน ยาเสพติดเกลื่อน ผงะ!! ฉี่ม่วงอื้อ มากถึง 81 คน !! เตรียมชง ผู้ว่าฯ นครปฐม สั่งปิด 5 ปี

ชมคลิป.https://youtu.be/veeK4pj-FuU?si=Ex1jH6bNH35ZHPnq

วันที่ 23 มี.ค. 2568 เวลา 03.00 น. นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ และนายอิสรา เจริญชาศรี ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เข้าจับกุมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมาย ไร้ใบอนุญาตสถานบริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา และปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในสถานประกอบการ

  ปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมผับเถื่อนในย่านสามพราน นครปฐม สืบเนื่องจากประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ว่ามีสถานบริการ มีการปล่อยให้ใช้ยาเสพติด และเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ให้บริการถึง 03.45 น. อยากให้หน่วยงานรัฐเข้าตรวจสอบจับกุม

  พนักงานฝ่ายปกครองเข้าสืบสวนข้อเท็จจริงพบว่ามีการกระทำผิดจริงตามข้อร้องเรียน กระทั่งเวลา 03.00 น. วันที่ 23 มี.ค. 2568 ได้เปิดปฏิบัติการจู่โจมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมายทันที เมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับ พบเป็นห้องทึบ เปิดเพลงแนวปาร์ตี้ มีแสง สี เสียง เต็มระบบ โดยจะมีดีเจผลัดเปลี่ยนกันให้บริการตลอดคืน พบนักเที่ยวจำนวน 212 คน กำลังมั่วสุมดื่มกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เต้นตามจังหวะเสียงดนตรีอย่างเมามัน ทั้งยังสูบบุหรี่พ่นควันคละคลุ้ง พนักงานฝ่ายปกครองจึงสั่งให้ปิดเพลงและเปิดไฟให้แสงสว่าง ภายในผับได้เกิดความโกลาหล นักเที่ยวหลายคนต่างโยนยาเสพติดทิ้งออกจากตัว และพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าร้านและหลังร้าน แต่ชุดจับกุมได้ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ พนักงานฝ่ายปกครองได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ

  จากการเข้าตรวจสอบ ว่า ร้าน” Neon (นีออน)” พบว่าเป็นสถานประกอบการที่เปิดทำการค้าในลักษณะเป็นสถานบริการ มีการขายอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการแสดงดนตรี และให้นักเที่ยว ดื่มกิน เต้นรำ แต่จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการแต่อย่างใด

  ที่สำคัญสถานบริการแห่งนี้มีการปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในร้าน ซึ่งตรวจสอบพบยาเสพติดตกกระจายเกลื่อนพื้น มีลักษณะเป็นผงสีขาว ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นยาคีตามีนและยาบ้า โดยพบฉี่ม่วงในนักเที่ยวจำนวน 81 คน แบ่งเป็นผู้ชาย จำนวน 49 คน ผู้หญิงจำนวน 32 คน

   พนักงานฝ่ายปกครอง จึงได้จับกุมตัวเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด ดังนี้
(1) ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต
(2) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย
(3) สุราผิดกฎหมาย ว่าด้วยกฎหมายศุลกากรจากพฤติการณ์ดังกล่าวข้างต้น จึงถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ซึ่งมีการปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดภายในร้าน มีการขายสุราในเวลาห้ามขาย จึงเป็นเหตุให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจในการสั่งปิดสถานบริการแห่งนี้เป็นเวลา 5 ปี

  ในส่วนของนักเที่ยวที่มีปัสสาวะสีม่วง ฝ่ายปกครองอำเภอสามพรานจะดำเนินกระบวนการตามกฎหมายต่อไป

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า ในวันนี้พบว่าสถานบันเทิง “ร้าน Neon (นีออน)” มีกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยชัดแจ้ง ทั้งการไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา ปล่อยปละละเลย ให้มีการขายและเสพยาเสพติดภายในร้าน ถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดแจ้ง จากนี้จะได้สั่งการให้อำเภอสามพราน รายงานเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม มีคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้ 5 ปี ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ต่อไป

  อธิบดีกรมการปกครองยังได้กล่าวต่อไปว่า การจับกุมในวันนี้เป็นไปตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีนโยบายในการจัดระเบียบสังคมด้านความมั่นคง การแก้ไขปัญหายาเสพติด และการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เพื่อสร้างสังคมให้สงบสุข บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ปลอดยาเสพติด ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิต ทั้งยังเป็นการขับเคลื่อนนโยบายกรมการปกครอง 5A 2025 อำเภอปลอดภัย ซึ่งการจับกุมในวันนี้ นอกจากเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนตามข้อร้องเรียนของประชาชนผ่านศูนย์ดำรงธรรมแล้ว ยังเป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาดของยาเสพติด ลด Demand Supply เพื่อป้องกันไม่ให้สถานบริการเป็นสถานที่กระจายยาเสพติดไปสู่นักเที่ยวด้วยอีกทางหนึ่งด้วย และหากประชาชนมีเบาะแสการกระทำผิดกฎหมาย หรือได้รับความเดือดร้อนสามารถแจ้งต่อ ผู้ใหญ่บ้าน หรือ กำนัน หรือแจ้งต่อปลัดอำเภอ นายอำเภอท้องที่ ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไขให้แจ้งมายังศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย สายด่วน 1567

ขอขอบคุณ ภาพ-ข่าว สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.นครปฐม

สส.ฟิล์ม นครปฐม ร่วมเปิดงานนมัสการปิดทอง”หลวงพ่อสัมฤทธิ์” วัดจินดาราม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

สส.ฟิล์ม ร่วมเปิดงานนมัสการปิดทองขอพร”หลวงพ่อสัมฤทธิ์ ” วัดจินดาราม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

   เมื่อวันอังคารที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2568 เวลา 13.00 . ที่วัดจินดาราม อ.สามพราน จ.นครปฐม นายศุภโชค ศรีสุขจร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครปฐม ได้เดินทางมาเป็นประธานฝ่ายฆาราวาสในพิธีเปิดงานนมัสการปิดทองขอพร หลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดจินดาราม ต.ตลาดจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม

    โดยมีพระธรรมวชิรานุวัตร เจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาส วัดไร่ขิง พระอารามหลวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และได้รับเกียรติจาก ว่าที่ร้อยโทอรรถชล ทรัพย์ทวี นายอำเภอสามพราน ร่วมในพิธีเปิดครั้งนี้ด้วย พร้อมนายขวัญใจ เขียวอ่อน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตลาดจินดา พร้อมด้วยผู้บริหารสมาชิกสภา อบต.ตลาดจินดา หัวหน้าส่วนราชการ และ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ตำบลตลาดจินดา ตลอดจนผู้มีจิตศรัทธา พ่อค้าประชาชน ร่วมพิธีในพิธีเปิดอย่างพร้อมเพรียง

   ซึ่งงานนมัสการปิดทองขอพรหลวงพ่อสัมฤทธิ์ วัดจินดาราม อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จะมีระหว่างวันที่ 11-15 มีนาคม พ.ศ.2568 นี้

  วัดจินดารามสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2445 ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระยาสุนทรบุรีศรีพิชัยสงครามรามภักดีพิริยะพาหะ(อี้ กรรณสูต) ได้ซื้อที่ดินถวายเพื่อสร้างวัด ตามแผนที่โบราณได้ออกสำรวจเมื่อ พ.ศ.2456 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เรียกชื่อวัดนี้ว่า วัดจินดา

และได้สำรวจอีกครั้งเมื่อ พ.ศ. 2468 เรียกว่า วัดใหม่ตลาดจินดา วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2445 ปัจจุบันมี “พระครูจินดากิจจานุรักษ์ (ทวี ครุธมฺโม) ” เป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 10.

วัดมีปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ "หลวงพ่อสัมฤทธิ์"เป็นพระประธานในอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางสุโขทัย ที่รัชกาลที่ 6 ได้พระราชทานผ่านพระยาสุนทรบุรีศรีพิชัยสงครามรามภักดีพิริยะพาหะ นำมาถวายวัดจินดารามเมื่อ พ.ศ.2443 รวมเวลาที่มาประดิษฐานอยู่ที่วัดจินดารามแห่งนี้เป็นเวลา 125 ปี ทางวัดจะมีการจัดงานปิดทองประจำปีขึ้นช่วงเดือนมีนาคม เป็นประจำทุกปี

ผู้ว่าฯ นครปฐม เปิดประชุมสภา อบจ.นครปฐม ฝาก 5 นโยบายบริหารท้องถิ่น

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ครั้งแรก ฝาก 5 นโยบายบริหารท้องถิ่น

นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม   นายจิระวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายก อบจ.นครปฐม

   เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ครั้งแรก เพื่อเลือกประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม

   มีนางสาวปทุมมาศ กมลเวช รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม รักษาการปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม เป็นเลขานุการสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม โดยผมการประชุมสภาคัดเลือก ได้นายเอกภพ แพรอัตถ์ เป็นประธานสภาฯ นายสมยศ สุขตะโก เป็นรองประธานสภาคนที่1 และนายถิรเดช ชัชวาลกิจกุล เป็นรองประธานสภา คนที่2

นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวหลังเปิดสภา ว่าขอฝากสภาแห่งนี้ไว้ที่เกี่ยวกับการบริหารท้องถิ่น ยึดโยงนโยบายของมท.1 ที่ ให้นโยบายไว้ 5 นโยบายหลักคือ

1 การจัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล  2.การปราบปรามและป้องกันยาเสพติด  3. การสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน  4. การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน และ  5. น้ำดื่มสะอาดบริการประชาชน ซึ่งเชื่อว่าสมาชิกในสภาแห่งนี้ คงให้ความสำคัญใน 5 นโยบายหลักนี้

ขอขอบคุณ ภาพ -ข่าว ทวีพลนครปฐม

รมช.มหาดไทย เปิดงาน เวทีร่วมคิด ร่วมสร้าง สานพลังสตรี 4 ภาค

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดงาน เวทีร่วมคิด ร่วมสร้าง สานพลังสตรี 4 ภาค รุ่นที่ 3 (ภาคกลาง) มุ่งเสริมสร้างศักยภาพสตรี พัฒนาทักษะอาชีพ สร้างแหล่งรายได้ที่มั่นคง

นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.4)

    ที่หอประชุม อาคารสิริวรปัญญา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.4) เป็นประธานเปิดโครงการเวทีร่วมคิด ร่วมสร้าง สานพลังสตรี 4 ภาค เดินหน้าขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี สู่ความยั่งยืน มีนายไพโรจน์ โสภาพร รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวรายงานพร้อมสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ภาคกลาง 25 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร กว่า 500 คน เข้าร่วมงาน

    นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึงบทบาทของสตรีในทุกมิติของสังคม โดยชี้ว่าประเทศไทยมี ซีอีโอหญิงมากเป็นอันดับสามของโลก และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดปัจจุบันก็มีผู้หญิงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เป็นการสะท้อนถึงการให้ความสำคัญในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ไม่ว่าเพศใด ถ้ามีความรู้ ความสามารถก็จะนำพาให้ประเทศเจริญรุ่งเรื่องได้

  โดยรัฐบาลมีแผนจะยกระดับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีด้วยเทคโนโลยี เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจและการพัฒนาทักษะอาชีพ เพื่อให้สตรีมีความเข้มแข็ง สามารถสร้างแหล่งรายได้ที่มั่นคง และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชุมชน โดยทำงานร่วมกับคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และกรมการพัฒนาชุมชน ในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เพื่อให้กองทุนฯ เป็นแหล่งเงินทุนที่สร้างโอกาส สร้างอาชีพ สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตของสตรี และสร้างความมั่นคงให้ชุมชนได้อย่างยั่งยืนที่แท้จริง

    ทั้งนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการความรู้ด้านการบริหารจัดการกองทุน รวมถึงร่วมพูดคุยกับกลุ่มอาชีพ สมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีภาคกลางที่มาร่วมออกบูธจัดแสดงผลิตภัณฑ์ อาทิ กลุ่มขยายกิจการถั่วปั่นนมสด, กลุ่มหัตถกรรมชุมชนบ้านดอนรวกเล็ก,กลุ่มอาชีพผักปลอดภัย-ผัก สลัด, กลุ่มผลิตขนมเปี๊ยะกุหลาบ, กลุ่มจักสานผักตบชวา เป็นต้น

ขอบคุณ ภาพ-ข่าว ทวีพล นครปฐม

“โรงไฟฟ้าหินกอง บริษัทหินกองเพาเวอร์ จำกัด มอบโดรนตรวจการณ์ไฟป่า”

บริษัทหินกองเพาเวอร์ จำกัด(โรงไฟฟ้าหินกองราชบุรี) มอบโดรนตรวจการณ์ไฟป่า”

  นายทำเนียบ นวลแสง รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน และนายก้องเกียรติ อินทเจียด รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท หินกองเพาเวอร์ จำกัด ได้ร่วมกันมอบโดรนสำหรับใช้เป็นเครื่องมือตรวจการณ์และระบุตำแหน่งไฟป่า ป้องกันการบุกรุก ทำลายพื้นที่ป่าไม้ และแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

  โดยมีพันเอกชุติภัทร วรรณทอง ผู้บังคับการกรมพัฒนาที่ 1 เป็นผู้รับมอบ ณ กรมพัฒนาที่ 1 ค่ายศรีสุริยวงศ์ ตำบลดอนตะโก อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี

ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  เพื่อให้บริการวิชาการแก่เกษตรกร ชุมชน

จังหวัดนครปฐมจัดกิจกรรมโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อให้บริการวิชาการแก่เกษตรกร ชุมชน ให้สามารถดำเนินกิจการได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง

วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ที่โรงเรียนบ้านหลวงวิทยา ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ประจำปีงบประมาณ 2568 ครั้งที่ 2 โดยมีนายอำเภอดอตูม หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ และประชาชน เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้บริการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรแก่เกษตรกรได้อย่างรวดเร็วทั่วถึงสอดคล้องกับความต้องการของเกษตรกร

   ซึ่งมีการบูรณาการความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกรให้สามารถประกอบอาชีพเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยเป็นการปฏิบัติงานเชิงรุกที่ทำให้เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายได้รับบริการทางการเกษตร เช่น การวิเคราะห์ดิน การวินิจฉัยโรคพืช โรคสัตว์ โรคสัตว์น้ำ รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอบรมความรู้การเกษตรเสริมเพิ่มเติมควบคู่กันไปด้วย


   สำหรับกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การให้บริการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ จำนวน 12 คลินิก ได้แก่ คลินิกดิน คลินิกพืช คลินิกข้าว คลินิกปศุสัตว์ คลินิกประมง คลินิกบัญชี คลินิกสหกรณ์ คลินิกส่งเสริมการเกษตร คลินิกเกษตรและสหกรณ์ คลินิกกฎหมาย คลินิกชลประทาน คลินิกสุขภาพ พร้อมทั้งการให้บริการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จังหวัดนครปฐม (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ร้านค้าธงฟ้าจากพาณิชย์จังหวัดนครปฐม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตกำแพงแสน) สำนักงานคลัง คปภ. สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนครปฐม และสภาเกษตรกรจังหวัดนครปฐม โดยมีเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน เปิด “เทศกาลชมพูพันธุ์ทิพย์” ปี 2568

  เปิดแล้วเทศกาลชมพูพันธุ์ทิพย์ ประจำปี 2568 ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาถ่ายภาพบรรยากาศและชมความงาม เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 13 – 20 กุมภาพันธ์ 2568 นี้

นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

  วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ บริเวณถนนวัฒนา เสถียรสวัสดิ์ หน้าโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน) นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธาน เปิดงาน “เทศกาลชมพูพันธุ์ทิพย์” ประจำปี 2568  โดย ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวต้อนรับและรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน  ตลอดจนผู้บริหารและแขกผู้มีเกียรติ ร่วมตัดริบบิ้นเปิดงานเป็นจำนวนมาก
          

ดร.ดำรงค์ ศรีพระราม รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

   การจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย การเผยแพร่ความงามทางธรรมชาติของแนวต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งใด้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “รุกขมรดกของแผ่นดิน” โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ประจำปี 2562 การปลูกต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ในพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

  เป็นแนวความคิดของท่าน ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.วัฒนา เสถียรสวัสดิ์ เมื่อปีพุทธศักราช 2520 ขณะที่ตำรงตำแหน่งรองอธิการบตีวิทยาเขตกำเเพงแสนคนแรก มึนโยบายปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อเป็นแนวกันลม และเพื่อความร่มรื่น ร่มเงาในอนาคต จึงได้เลือกปลูกต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ในสองฟากถนนเริ่มต้นจากประตูชลประทานผ่านหน้าโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

   จนถึงประตูฝั่งถนนจันทรุเบกษา ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดยท่านได้รับมอบเมล็ดพันธุ์มาจากท่าน ศาสตราจารย์ ระพี สาคริก อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในขณะนั้น ซึ่งได้นำเมล็ดพันธุ์มาจากประเทศสิงคโปร์ ปัจจุบันมีต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ทั้งหมด 1,258 ต้น โดยปลูกสองข้างทางถนนสายวัฒนา เสถียรสวัสดิ์ (ถนนสาย 1) จำนวน 580 ต้น พื้นที่สวน 100 ปี จำนวน 77 ต้น สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จำนวน 12 ต้น สระพระพิรุณ จำนวน 98 ต้น พื้นที่ด้านหน้าสวนปรง จำนวน 90 ต้น พื้นที่บริเวณบ่อ 6 จำนวน 165 ต้น และบริเวณข้างถนนดินขอบบ่อ 6 ถึงบริเวณที่พักบุคลากร จำนวน 236 ต้น

สำหรับ”เทศกาลชมพูพันธุ์ ประจำปี 2568” ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ได้ตั้งแต่วันที่ 13 – 20 กุมภาพันธ์ 2568 นี้

ชมคลิป.https://drive.google.com/file/d/1lg32QNk1FYp6O8DDmoQPtm9pGdm6fCm6/view?usp=drivesdk

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

ไฟไหม้โรงงานผลิตเทียนไขราชบุรี วอด 4 อาคาร เจ็บ 2 ราย

จังหวัดราชบุรี เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตเทียนไข ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง วอด 4 อาคาร บาดเจ็บ 2 ราย ผู้ว่าฯ เจ้ากรมทหาร นายก อบจ.รุดวางแผนดับไฟที่เกิดเหตุ


เมื่อคืนวันที่ 12 ก.พ. 68  ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 20.00 น. นางสาวฐิติลักษณ์ คำพา ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พร้อมด้วย พลโท สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมการทหารช่าง พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผกก.สภ.เมืองราชบุรี ได้ระดมรถดับเพลิงกว่า 50 คันทั้งในพื้นที่ จ.ราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียงเข้าช่วยเหลือทำการฉีดน้ำ ขณะเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตเทียนไขชื่อ สหสากลมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ตั้งอยู่ หมู่ที่ 7 ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี

   ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้อาคารที่เก็บวัตถุดิบสำหรับหล่อเทียน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องระดมรถดับเพลิง แต่เนื่องจากเปลวเทียนนั้นพอถูกกระแสน้ำทำให้เปลวไฟยิ่งลุก จึงประสานขอโฟมจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี กรมการทหารช่าง และในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ให้มาช่วยกันระดมฉีดโฟมเพื่อดับไฟ แต่ได้พยายามอยู่นานเพราะไฟได้ลุกลามไปไหม้อาคารที่อยู่ใกล้กันซึ่งมีทั้งหมด 4 อาคาร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมฉีดน้ำไปยังตัวอาคารที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อไม่ให้เปลวไฟลุกลามไป

   จากการสอบถามนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ซึ่งเข้าไปช่วยดูแลในเรื่องของการดับไฟในครั้งนี้บอกว่า ไฟได้ไหม้ลุกลามไปทั้งหมดแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ต้องพยายามที่จะดับไฟเพื่อไม่ให้ลุกลามไปมากกว่านี้ โดยต้องรถโฟมซึ่งทาง อบจ.ก็ได้ส่งรถโฟมเข้ามาช่วยแล้วและในท้องที่อื่น ๆ อีก ซึ่งคาดว่าน่าจะช่วยได้ ส่วนไฟที่ลุกลามไหม้เร็วนั้นเนื่องจากทางเจ้าของโรงงานบอกว่าเพิ่งจะนำวัตถุดิบเข้ามาทำให้การใช้น้ำดับนั้นค่อนข้างยาก

   ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้มีคนงานที่ทำงานในโรงงานให้ข้อมูลว่า ช่วงเย็นหลังเลิกงานอาคารที่เกิดเหตุนั้นจะปิดและไม่มีคนงานทำงาน คาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ประกอบกับในพื้นที่ใกล้เคียงกับอาคารแรกที่เป็นต้นเพลิงนั้นกำลังมีการก่อสร้างอาคารเพิ่ม ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีการต่อไฟฟ้าหรือใช้กระแสไฟในการทำงานหรือไม่ ทั้งนี้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้อีกครั้ง

    สำหรับโรงงานผลิตเทียนไขแห่งนี้เคยเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่มาแล้วเมื่อประมาณหลายปีก่อน ซึ่งการดับเพลิงนั้นก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำให้ไฟลุกไหม้อาคารที่เก็บเทียนไขเสียหายไปหลายอาคาร และครั้งนี้ก็มาเหตุอีก ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้นยังประเมินไม่ได้ ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยนำส่งโรงพยาบาลราชบุรี ซึ่งได้รับบาดเจ็บขณะกำลังทำการฉีดน้ำแล้วพลาดเดินตกหลุมที่ขุดไว้เตรียมตั้งเสาตอม่อที่จะสร้างอาคารเพิ่มและอีกรายเป็นลม

    ขณะเดียวกันนางสาวฐิติลักษณ์ คำพา ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ร่วมกันส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์ และได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เข้าไปดับเพลิงนั้นให้ถอนกำลังออกมาก่อน เนื่องจากมีการตรวจพบสารเคมี ซึ่งคาดว่าจะเป็นอันตรายอยู่ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้ในการหล่อเทียนไขด้วย แต่ให้ใช้รถไร้คนขับเข้าไปทำการดับไฟแทน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น
ส่วนสถานการณ์ของไฟที่ไหม้ในอาคารทั้ง 4 อาคารของโรงงานนั้น ก็ยังคงมีเปลวไฟลุกโชนขึ้นมาบางช่วง เจ้าหน้าที่ได้ส่งรถไร้คนขับเข้าไปทำการฉีดโฟม รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ที่ด้านนอกรั้วโรงงานเพื่อไม่ให้ไฟลุกลามออกมาและลุกลามไปติดอาคารอีกฝั่งที่อยู่ตรงข้ามซึ่งมีแนวถนนเป็นตัวกั้นกลาง ล่าสุดได้ควบคุมเพลิงอยู่ในวงจำกัดแล้วและจะหลังเพลิงสงบจะส่งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลังฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุอีกครั้ง ส่วนค่าเสียหายนั้นยังประเมินค่าไม่ได้

ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี – เพจตาเป้ ราชบุรี

ประเพณีตักบาตรข้าวหลามวันมาฆบูชา ตำนานชุมชนเตาเผาข้าวหลามหน้าวัดพระงาม นครปฐม

ประเพณีตักบาตรข้าวหลามวันมาฆบูชา ตำนานชุมชนเตาเผาข้าวหลามหน้าวัดพระงาม นครปฐม ถือเป็นการสืบสานวัฒนธรรม และสนับสนุน สร้างรายได้ รักษาคุณภาพมาตรฐานข้าวหลามชุมชน

  เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ที่วัดพระงาม พระอารามหลวง ต.นครปฐม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร  ส.ส.นครปฐม เขต2 พรรครวมไทยสร้างชาติ นายสมโชค พงษ์ขวัญ รองนายกเทศมนตรีนครนครปฐม เป็นประธานนำประชาชน พุทธศาสนิกชน ตักบาตรข้าวหลามสืบสานวัฒนธรรมชาวชุมชนเผาข้าวหลาม หน้าวัดพระงาม เนื่องในวันมาฆบูชา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา มีประชาชน พุทธศาสนิกชนกว่า 300 คนเข้าร่วมในการตักบาตรข้าวหลาม วันมาฆบูชาอย่างมีความสุข

   โดยกิจกรรมตักบาตรข้าวหลาม สืบสานวัฒนธรรมวัดพระงาม พระอารามหลวง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 เป็นการร่วมมือกันระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน ชุมชน ซึ่งจะจัดขึ้นในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเท่านั้น ( วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา) โดยพระสงฆ์จำพรรษากาลวัดพระงาม พระอารามหลวง เท่านั้น

   นายสมพงษ์ มุดา หรือเปื๊ยก จากชุมชน”ถนนคนเดินทวารวดี” คณะกรรมการริเริ่มประเพณีตักบาตรข้าวหลาม กล่าวว่า ข้าวหลามที่นำมาจำหน่ายในกิจกรรมนี้ เป็นข้าวหลามจากเตาเผาข้าวหลามชุมชนพระงามทั้งสิ้น ซึ่งเป็นการสืบสานวัฒนธรรม และเป็นการสนับสนุน สร้างรายได้ รักษาคุณภาพมาตรฐานข้าวหลามชุมชนแห่งนี้ให้ยั่งยืน จากรุ่นสู่รุ่นด้วย

องคมนตรี ตรวจเยี่ยมโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่จังหวัดนครปฐม

องคมนตรี ตรวจเยี่ยมโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ที่จังหวัดนครปฐม

พลเอกไพบูลย์  คุ้มฉายา องคมนตรี

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 พลเอกไพบูลย์  คุ้มฉายา องคมนตรี รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปตรวจเยี่ยมศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านอุเบกขา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม โดยมีนางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครปฐม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ

  ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านอุเบกขา เป็นศูนย์ฝึกเฉพาะ ด้านการบำบัดพิเศษ รับเด็กและเยาวชนที่ไม่สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ จากพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง ปัจจุบัน มีผู้อยู่ในความดูแล 18 คน มีพยาบาลวิชาชีพ 2 คน และนักจิตวิทยา 3 คน มีโรงพยาบาลพุทธมณฑล เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ได้รับพระราชทานเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าสำหรับใช้รักษาเบื้องต้น มีการประเมินตามสภาวะสุขภาพแบบองค์รวม, คัดกรองจำแนกการใช้ยาเสพติด แก้ไขบำบัดฟื้นฟูรายบุคคล ปัจจุบัน มีเด็กและเยาวชนจิตเวช ในความดูแล 5 คน และมีกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพกาย-ใจ เช่น ศิลปะ (ช่างสิบหมู่), คหกรรม และดนตรี

   ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนสิรินธร อำเภอพุทธมณฑล เป็นศูนย์เฉพาะทางด้านวิชาชีพ รับเยาวชนที่มีความประพฤติดี สนใจเข้ารับการฝึกวิชาชีพจากศูนย์ฯ ทั่วประเทศ และเยาวชนที่ศาลเยาวชนและครอบครัว มีคําพิพากษาให้เข้ารับการฝึก ปัจจุบัน มีผู้อยู่ในความดูแล 61 คน มีพยาบาลวิชาชีพ และนักจิตวิทยา 3 คน ได้รับพระราชทานเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้า โดยมีโรงพยาบาลพุทธมณฑล ตรวจรักษาโรคเบื้องต้น ผ่านระบบ Telemedicine และด้านจิตเวชผ่านระบบเทคโนโลยีสื่อสารทางไกล ร่วมกับสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ โดยติดตามผลการรักษาทุกเดือน มีเด็กและเยาวชนจิตเวช 3 คน ให้การศึกษาทั้งสายสามัญ และการศึกษาทางเลือก จากศูนย์การเรียนเซนต์ยอห์นบอสโกอุปถัมภ์ วิทยาลัยการอาชีพพุทธมณฑล และวิทยาลัยเทคโนโลยีชื่นชมไทย-เยอรมัน สระบุรี, การฝึกวิชาชีพระยะสั้น จากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 16 นครปฐม 9 หลักสูตร รวมถึงสถาบันต่าง ๆ อาทิ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ฝึกให้มีทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน, เครือข่าย ส่วนบริษัท มโนราห์อุตสาหกรรมอาหาร จํากัด ฝึกขับรถโฟล์คลิฟท์ และเครือข่าย บริษัท สยามทรอลี่โปรเกรสชัน จํากัด ร่วมกับวิทยาลัยเทคโนโลยีชื่นชมไทย-เยอรมัน สระบุรี ฝึกรถขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก พร้อมรับเข้าทํางาน

   ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านมุทิตา อำเภอพุทธมณฑล เป็นศูนย์เฉพาะ ด้านการพัฒนาเด็ก รับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ในกรุงเทพมหานคร หรือ เยาวชนอายุต่ำกว่า 17 ปี จากศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา เมื่ออายุ 18 ปีบริบูรณ์ จะส่งไปฝึกอบรมต่อที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา ปัจจุบัน มีผู้อยู่ในความดูแล 53 คน ส่วนใหญ่คือฐานความผิดต่อชีวิตและร่างกาย มีพยาบาลวิชาชีพ 1 คน และนักจิตวิทยา 2 คน มีโรงพยาบาลพุทธมณฑล เป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ตรวจคัดกรองวัณโรคปอด, ประเมินการปฏิบัติต่อเด็กและเยาวชนตามมาตรฐานองค์การสหประชาชาติ, ตรวจรักษาผ่านระบบ Telemedicine, ด้านจิตเวชผ่านระบบเทคโนโลยีสื่อสารทางไกล ร่วมกับสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ มีการอบรมเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และการฟื้นคืนชีพ ปัจจุบัน มีเด็กและเยาวชนจิตเวช 6 คน มีการฝึกวิชาชีพช่างยนต์, ช่างเชื่อม, วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร และฝึกจิตใจด้วยศาสนบำบัด

จากนั้น เดินทางไปยังโรงพยาบาลพุทธมณฑล โดยได้เชิญพระราชกระแสความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่แพทย์ พยาบาล และบุคลากรเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ โรงพยาบาลพุทธมณฑล มีขนาด 30 เตียง เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายที่ดูแลศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนทั้ง 3 แห่ง รวมทั้งประชาชนในอำเภอพุทธมณฑล มี “ห้องปันสุข” แยกจากผู้ป่วยทั่วไป ปัจจุบัน ไม่มีผู้เข้ารับการรักษา

ต่อจากนั้น เดินทางไปตรวจเยี่ยมโครงการราชทัณฑ์ปันสุขทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ณ เรือนจำกลางนครปฐม พร้อมเปิด “มหกรรมเรือนจำ มหกรรมสุขภาพกายและจิตห่างไกลโรคไม่ติดต่อ” เพื่อให้ผู้ต้องขังปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน และความดันโลหิต อาทิ ส่งเสริมการออกกำลังกาย สร้างความรู้ด้านโภชนาการ เรือนจำกลางนครปฐม ควบคุมผู้ต้องขังกำหนดโทษตลอดชีวิต มีผู้ต้องขังชาย-หญิง 4,113 ราย ได้รับพระราชทานครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 22 รายการ และอุปกรณ์พระราชทานในการฝึกอบรมผู้ต้องขัง ที่เข้าร่วมโครงการอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ หรือ อสรจ. มีพยาบาลวิชาชีพ 7 คน, นักจิตบำบัด 1 คน และ อสรจ. 166 คน มีโรงพยาบาลนครปฐม ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแม่ข่าย ส่วนผู้ต้องขังหญิง ได้รับคัดกรองมะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก พบผู้ต้องขังป่วยจิตเวช 156 ราย มีการขึ้นทะเบียนสิทธิหลักประกันสุขภาพกับโรงพยาบาลแม่ข่าย รวมถึงขึ้นทะเบียนคนพิการ, ผู้สูงอายุ และลูกผู้ต้องขัง ส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคและฟื้นฟูสมรรถภาพพื้นฐานตามกลุ่มวัย ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังหญิงตั้งครรภ์ 2 คน และมีเด็กติดผู้ต้องขัง 6 คน

หลังจากนั้น เดินทางไปยังโรงพยาบาลนครปฐม ขนาด 860 เตียง เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำกลางจังหวัดนครปฐม มีบริการตรวจรักษาด้วยระบบ Telemedicine ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึงการรักษา สามารถรับการวินิจฉัยและตรวจรักษา ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช่น โรคทั่วไป จิตเวช และเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ทำให้ผู้ต้องขังได้รับการรักษาทันท่วงที มี “หอผู้ป่วยราชทัณฑ์ปันสุข” สำหรับผู้ต้องขังป่วย เพื่อพิทักษ์สิทธิ์ผู้ป่วยและความปลอดภัย ปัจจุบันไม่มีผู้ต้องขังนอนพักรักษา


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม-ข่าว

เกษตรกรชาว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ปลูกมะเขือเทศอินทรีย์ 3 เดือนรับเงินแสน

   เกษตรกรชาว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี สร้างโรงเรือนปลูกมะเขือเทศสายพันธุ์เกษตรศาสตร์ 154 ใช้เวลาเก็บผลผลิตนานถึง 3 เดือน รายได้เป็นแสนบาท ทั้งยังช่วยลดต้นทุนไม่การใช้ยาฆ่าแมลง และสารเคมี ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ

   “ข่าวเด็ดเก็บมาเล่า” วันนี้จะพาไปดูเทคนิคการปลูกพืชผัก ผลไม้ปลอดสาร แนวเกษตรอินทรีย์ ที่สวนโชคสมบูรณ์ ตั้งอยู่เลขที่ 55/1 หมู่ 8 ต.นางแก้ว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

นายโชคดี ตั้งจิตร์ อดีตหัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร

  นายโชคดี ตั้งจิตร์ อดีตหัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร สำนักงานเกษตรจังหวัดราชบุรี เล่าให้ฟังว่าหลังจากเกษียณอายุราชการออกมา ก็ใช้ที่ดินของตัวเองที่มีอยู่ปรับปรุงพัฒนาปลูกพืชผัก ผลไม้ เลี้ยงสัตว์ตามความรู้ในสมัยที่เคยทำงาน โดยการปลูกมะเขือเทศกินผลสดเป็นหนึ่งในพืชผักที่ทดลองปลูกปีแรกระบบปิดในโรงเรือนขนาด  8 × 20 เมตร ใช้งบก่อสร้างประมาณ 1 แสนบาท ปลูกมะเขือเทศได้ประมาณ 300 ต้น ลักษณะการปลูกยกพื้นดินสูง ปลูกแบบเรียงแถว 2 ต้นคู่ห่างกันประมาณ 50 คูณ 50 ซม. ใช้ระบบน้ำหยด ระยะการเก็บได้ผลผลิตยาวนานประมาณ 3 เดือน

   และที่สำคัญระบบปิดแบบโรงเรือนมีข้อดีคือ ไม่มีแมลงศัตรูพืชรบกวน ไม่ต้องใช้สารเคมีใด ๆ ในการฉีดพ่น ทำให้มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค จึงทำให้การปลูกของที่นี่เป็นที่ต้องการของกลุ่มคนที่รักสุขภาพมาก มีออเดอร์การสั่ง การขายดีกว่าพืชผักชนิดอื่น ๆ

   นายโชคดี ตั้งจิตร เจ้าของสวนโชคสมบูรณ์ เล่าว่าระบบการผลิตมะเขือเทศ พันธุ์ 154 ปลูกด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ มีระบบโรงเรือนปิดไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีแต่อย่างใด ที่สวนได้รับรองมาตรฐานออแกนิกส์ไทยแลนด์ จึงมั่นใจว่าปลอดภัยจากสารเคมีและปุ๋ยเคมีร้อยเปอร์เซ็นต์ สามารถเก็บรับประทานมั่นใจว่าปลอดภัย แม้แต่ระบบการปรับปรุงดินจะใช้ปุ๋ยหมัก และปุ๋ยคอกหมักลงไปก่อน ส่วนระบบการป้องกันแมลงไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมี เพราะมีมุ้งตาข่ายของโรงเรือนช่วยป้องกัน ผลผลิตที่ออกมาจึงสวยงามมีความดกและปลอดภัย อายุระยะการปลูกประมาณ 6 เดือน

     ตอนนี้เริ่มเก็บเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สามารถเก็บได้ไปถึงเดือนเมษายน ส่วนสายพันธุ์ 154 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จะมีความเด่นคือ เป็นพันธุ์ที่มีลูกดก ลูกสวยสีแดง เนื้อหนา เหมาะในการแปรรูปเพราะเนื้อเยอะ รสชาติอร่อย ที่สำคัญคือความปลอดภัย ลูกค้าอยากรับประทานเพื่อสุขภาพ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายอยู่ในมะเขือเทศมาก
   โดยช่วงนี้จะเก็บไปขายอยู่ที่งานเกษตรแฟร์ที่บางเขน ลูกค้าตอบรับดีมาก เพราะเชื่อมั่นในความปลอดภัย ที่นี่ยังเป็นเครือข่ายของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ของคณะศึกษาศาสตร์พัฒนศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน และเป็นเครือข่ายศูนย์เรียนรู้ตามแนวในโครงการพระราชดำริเขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จ.ราชบุรีด้วย อนาคตคาดว่าน่าจะนำมาแปรรูปเพิ่มมูลค่าด้วย และจะนำขายที่โรงพยาบาลราชบุรี หน้าโครงการเขาชะงุ้ม และเปิดขายที่หน้าฟาร์มด้วย

  และที่สวนยังเป็นศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ และยังเป็นเครือข่ายขยายผลโครงการศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์เพื่อพัฒนาความยั่งยืนในศตวรรษที่ 21 ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ปัจจุบันมีสมาชิกรวมกว่า 10 ราย มีกลุ่มเครือข่ายต่างๆที่ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันด้วย มีเป้าหมายหลักคือ ต้องการให้ช่วยกันลดการใช้สารเคมี ให้หันมาใช้ระบบเกษตรอินทรีย์ ที่ตลาดมีความต้องการสูงแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะกลับไปใช้สารเคมีอีกเลย มีความปลอดภัยต่อตัวคนใช้ และปลอดภัยต่อผู้บริโภคอีกด้วย ส่วนการปลูกแบบระบบโรงเรือน บางครั้งอาจจะมีแมลงเล็ดลอดบินเข้าไปบ้างเล็กน้อย ก็จะใช้เชื้อบิวเวอร์เรีย ป้องกันกำจัด มีแมลงของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร สนับสนุน ตัวห้ำ ตัวเบียน เข้ามาจัดการแมลงศัตรูเพื่อให้เกษตรกรไม่หันกลับไปใช้สารเคมีอีก ถือว่าเป็นการดูแลเกษตรกรได้เป็นอย่างดี กรณีเจอหนอนตัวเล็กๆ ก็จะใช้เชื้อบีที กำจัดได้ ยังมีไส้เดือนฝอยสายพันธุ์ไทย ซึ่งมีลักษณะเป็นวุ้นนำมาละลายในน้ำนำไปฉีดจัดการกับตัวแมลงในโรงเรือนได้ เป็นสิ่งมีชีวิตจัดการกับสิ่งมีชีวิต ไม่ทำอันตรายกับมนุษย์ จึงมีความปลอดภัย

   สำหรับสวนโชคสมบูรณ์ยังมีการปลูกพืชผัก ผลไม้หลากหลายชนิดแล้ว ยังมีการเลี้ยงไก่อารมณ์ดี โดยใช้แหนแดงไมโครฟิลล่าเป็นพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตร เป็นอาหารที่ช่วยลดต้นทุนการเลี้ยงส่วนหนึ่งในการใช้อาหารเพื่อให้ไก่ได้กิน ไก่จะออกไข่มีคุณภาพดี สีสวยสด นอกจากนี้ยังมีการปลูกผักสลัดสายพันธุ์ต่างๆไว้จำหน่ายอีกด้วย ผู้สนใจอยากมาเที่ยวชมศึกษาดูงาน เลือกซื้อผลผลิตการเกษตรอินทรีย์สามารถเข้าไปที่เฟสบุ๊กชื่อ โชคดี ตั้งจิตร สอบถามเส้นทางได้ที่ นายโชคดี ตั้งจิตร สวนโชคสมบูรณ์ เบอร์ 089-9133014

ขอบคุณภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

“ข่าวเด็ดเก็บมาเล่า” รายงาน

นครปฐม. จัดกิจกรรม “สายใยศิลป์ ร่วมสร้างถิ่นนครปฐม”

จังหวัดนครปฐม จัดกิจกรรม “สายใยศิลป์ ร่วมสร้างถิ่นนครปฐม”

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม มอบหมายให้ นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดกิจกรรม “สายใยศิลป์ ร่วมสร้างถิ่นนครปฐม” ณ ศาลากองอำนวยการ องค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดยสถาบันพระปกเกล้า ได้จัดการศึกษาหลักสูตรผู้นำยุคใหม่ในระบอบประชาธิปไตย รุ่นที่ 14 (ปนป.14) ซึ่งผู้เข้ารับการศึกษา “กลุ่มเสือ” ได้เลือกพื้นที่จังหวัดนครปฐม เพื่อทำกิจกรรม/โครงงาน

โดยในวันนี้ได้จัด “อบรมเชิงปฏิบัติการศิลปะเพื่อเยาวชน”โดยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนศิลปะและวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ภายใต้แนวคิดหลัก “พลเมืองเปลี่ยนเมือง” โดยมีสถาบันการศึกษา โรงเรียน และมหาวิทยาลัย ในจังหวัดนครปฐมเข้าร่วมฯ ดังนี้ โรงเรียนวัดพระปฐมเจดีย์, โรงเรียนเทศบาล 1 วัดพระงาม, โรงเรียนวัดไผ่หูช้าง, โรงเรียนวัดหนองเสือ, โรงเรียนวัดหนองดินแดง,โรงเรียนสว่างวิทยา รวมถึงอาจารย์และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และกลุ่มปฐมเพลย์กราวน์ จำนวนกว่า 350 คน เข้าร่วมกิจกรรมฯ


   นอกจากนี้ยังมีการจัดเวทีเสวนา “พลังศิลป์ พลังชุมชน สู่ความยั่งยืน” เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิด แรงบันดาลใจ และประสบการณ์ผ่านการใช้ศิลปะที่มีส่วนช่วยพัฒนาชุมชน การฟื้นฟูอัตลักษณ์ท้องถิ่น การสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคส่วนต่างๆ จุดประกายแรงบันดาลใจและสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็ง นำไปสู่การพัฒนาที่ต่อเนื่องและยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม

โครงการส่งเสริมปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง “กิจกรรม ผักปลอดสาร ปลูกกินได้ ปลูกขายดี”

เทศบาลตำบลนครชัยศรี จัดโครงการส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง “กิจกรรม ผักปลอดสาร ปลูกกินได้ ปลูกขายดี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568

  วันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.00 น. เทศบาลตำบลนครชัยศรี นำโดยนายขจรเดช นพคุณชัยกิจ นายกเทศมนตรีตำบลนครชัยศรี พร้อมคณะผู้บริหาร ประธานสภา รองประธานสภา สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่เทศบาล ร่วมด้วยผู้นำชุมชน จัดโครงการส่งเสริมการดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง “กิจกรรม ผักปลอดสาร ปลูกกินได้ ปลูกขายดี” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568

   ณ โรงเจย่งเฮงตั๊ว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนในเขตเทศบาลตำบลนครชัยศรีได้รับความรู้ความเข้าใจในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และสามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต รวมถึงได้รับความรู้ในการปลูกผักในพื้นที่น้อย เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน ตลอดจนสามารถนำไปต่อยอดสร้างรายได้เสริมต่อไป

   ทั้งนี้ ได้รับเกียรติจากคุณกมล เซี่ยงฉิน และคณะวิทยากรจากโครงการอุทยานการอาชีพชัยพัฒนา มาให้ความรู้เรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและการปลูกผักปลอดสารพิษในพื้นที่จำกัดในครั้งนี้

ผบช.ภาค 7 สั่งขยายผลผู้ร่วมขบวนการขน 169 แรงงานเถื่อนซุกรถพ่วง 22 ล้อ

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 สั่งขยายผลผู้ร่วมขบวนการขน 169 แรงงานเถื่อนซุกพ่วง 22 ล้อ ดำเนินคดี พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจเส้นทางการเงินผู้ต้องหาลอบนำเงินออกนอกประเทศ 2.9 ล้านบาท 

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต. อัษฎาวุธ ปันยารชุน ผบ.พล.ร.9 พล.ต.ต.พรชัย ชะลอเดช รรท.ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ พ.อ. พรรณศักย์ เพรียวพานิช ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ ผบ.ร.29 พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ รอง ผบ.ร.29 พ.ต.อ.บัญชา ศรีรุจิเมธากร รรท.ผกก.สภ.ทองผาภูมิ, พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า), พ.ต.ท.ธีรพร วิจิตรบรรณการ รอง ผกก.สส.สภ.ทองผาภูมิ ร่วมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดร่วมกันเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด ในเขตพื้นที่รับผิดชอบตามแนวชายแดน โดยเฉพาะตามทางหลวงสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ-สังขละบุรี

ชมคลิป.https://drive.google.com/file/d/1-RZ_OeuWCPZ9BB6IoK3v1299utbcz_4P/view?usp=sharing

โดยช่วงเช้าวันนี้ 31 ม.ค.68 เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจสอบรถพ่วง 22 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ตัวแม่หมายเลขทะเบียน 83-5900 กาญจนบุรี ตัวลูกทะเบียน 86-5075 นครปฐม พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาอยู่ภายในพ่วงตัวแม่และพ่วงตัวลูก จำนวน 169 ราย เป็นชาย 102 ราย หญิง 67 ราย เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวนายชินกร หรือ นนท์ คนขับ อายุ 30 ปี ขาว ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี และนายเข็ม ชาว อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เอาไว้ ก่อนที่จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมรถพ่วงของกลางไปที่ สภ.ทองผาภูมิ ช่วงการจับกุมเป็นจังหวะที่ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 เดินทางมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิพอดี จึงเดินทางไปสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาด้วยตนเอง

พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7

โดย พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 เปิดเผยภายหลังว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ อ.ทองผาภูมิสืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมามาจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ด้วยการใช้เส้นทางถนนทางหลวงหมายเลข 323 สังขละบุรี-ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่จึงสนธิกำลังกันออกหาข่าว โดยเฉพาะต่างชาติชาวจีน อาจจะเป็นพวกแก๊งคอเซ็นต์เตอร์ ให้ตรวจสอบเข้ามาแล้วไปที่ใด พักที่ใด ขอให้ ตม.ช่วยสอดส่องให้ชัดเจน

ขณะที่ร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ พบรถบรรทุก 10 ล้อลากพ่วงมาด้วย ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งขับมาจากทางด้าน อ.สังขละบุรี มุ่งหน้าตัว อ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อมาถึงด่านเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น จากการตรวจค้นผลรากฎพบจำนวนแรงงานข้างต้นซุกซ่อนตัวอยู่ภายในรถพ่วงทั้งตัวแม่และตัวลูก โดยมีแสลนปิดบังสายตาเจ้าหน้าที่เอาไว้ หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาที่เป็นชาวไทย พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานในการขยายผลจับกุมตัวกลุ่มผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีด้วยเช่นกัน

ขอเรียนเพิ่มเติมว่าหลายวันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ได้ร่วมกันจับกุมผู้กระทำความผิดในหลายคดี ซึ่งคดีที่น่าสนใจคือคดีการจับกุมผู้ต้องหาที่กำลังลักลอบนำเงินสดออกนอกประเทศมากถึง จำนวน 2.9 ล้านบาท รวมถึงคดีการจับกุมหญิงสาวชาวเมียนมาได้พร้อมอุปกรณ์สื่อสารประเภทโทรศัพท์มือถือจำ รวมทั้งเครื่องนับเงินเป็นจำนวนมาก

โดยเมื่อวันที่ 30 ม.ค.68 ที่ผ่านมาผมได้เดินทางมามาที่ สภ.ทองผาภูมิ ในการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการขยายผลว่าเส้นทางการเงินเกี่ยวเนื่องกับขบวนการกระทำผิดกฎหมายและการฟอกเงินในประการใดบ้าง

เบื้องต้นจากการที่เรายึดเงินได้จำนวน 2.9 ล้านบาท ที่ชายแดนอำเภอสังขละบุรีนั้น ถือว่าเป็นเงินผ่านบัญชีของผู้ต้องหาที่สูงมาก ขณะนี้ผมได้สั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาและจะใช้ พรบ.ในการยึดทรัพย์ ด้วยการนำเจ้าหน้าที่ ตร.ภาค 7 รวมถึงเจ้าหน้าที่ ปปง.เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย

ด้านนายชินกร หรือ นนท์ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนขับรถพ่วงขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่ถูกจับกุมตัว เมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมาตนได้ขนแรงงานมาแล้วครั้งหนึ่งด้วยการใช้รถพ่วง 22 ล้อคันเดียวกัน โดจะขนแรงงานในช่วงเวลาระหว่าง 01.00-02.00 น.แต่ครั้งนี้ตนได้เลือกขนในช่วงเช้า เนื่องจากมีทีมงานคอยสังเกตการณ์ตามด่านต่างๆให้ เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่ผลัดเวรยาม ก็จะฉวยโอกาสในช่วงเวลาดังกล่าวขับรถผ่านด่าน โดนตนกับเพื่อนที่มาด้วยกันจะได้ค่าจ้างคนละ 6,000 บาท โดยแรงงานทั้งหมดตนจะนำไปส่งในพื้นที่เขต อ.เมืองกาญจนบุรี จากนั้นจะมีคนมารับช่วงต่อแล้วนำกลุ่มแรงงานไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นใน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ระหว่างเดินทางก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน

ส่วนนายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ กล่าวว่า จากการสอบถามนายชินกร ผู้ต้องหาที่นำพาคนลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเบื้องต้นให้การว่าตนและนายเข็ม รับผู้ลักลอบเข้าเมืองฯ มาจากอำเภอสังขะบุรี ใช้เส้นทางถนนหมายเลข 323 สังขละบุรี-กาญจนบุรี มุ่งหน้าตรงไปอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อไปส่งผู้ลักลอบเข้าเมืองฯ ปลายทางคือบริเวณอำเภอเมืองกาญจนบุรี จากนั้นจะมีรถมารับผู้ลักลอบเข้าเมืองฯ ไปส่งต่อยังจังหวัดชั้นในอีกทอดหนึ่ง ผู้ต้องหาทั้งสองได้รับค่าจ้างในการนำไปส่งคนละ 6,000 บาท
       
หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีในข้อกล่าวหากระทำความผิดฐาน “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น ด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมายพ้นจากการจับกุม” ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้ง 169 คน ถูกดำเนินคดีในข้อกล่าวหา กระทำความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์

สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5  ยังปกคลุมพื้นที่ราชบุรี งดกิจกรรมกลางแจ้ง

สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5  ยังปกคลุมพื้นที่ราชบุรี
ผู้ว่าฯ ห่วงเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหา ขอให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง

    สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่จ.ราชบุรี. วันนี้วัดค่าฝุ่นได้เป็นสีแดงมีผลกระทบต่อสุขภาพมาเป็นวันที่ 2  โดยวัดได้ 80.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยสังเกตุจากภาพมุมสูงบนยอดเขาแก่นจันทน์ สถานที่ประดิษฐานของพระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ หรือ พระสี่มุมเมือง สามารถบันทึกภาพมุมสูงได้รอบทิศทาง เต็มไปด้วยฝุ่นละอองปกคลุมทั่วทุกพื้นที่จนเห็นเป็นหมอกเต็มพื้นที่.

    นอกจากนี้ยังมีรายงานจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทราบว่าเกิดไฟไหม้ป่าในพื้นที่อำเภอปากท่อ เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่าน บริเวณหมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 6 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ ส่งผลให้พื้นที่ป่าไม้เสียหายไปกว่า 100 ไร่ ไฟได้ลุกลามขึ้นบริเวณยอดเขา ล่าสุดเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกัน รักษาป่าที่ รบ. 3 ราชบุรี และฝ่ายปกครอง ชาวบ้าน อาสาสมัคร ได้ลงพื้นที่ช่วยกันดับไฟป่า และสามารถควบคุมดับไฟป่าได้เรียบร้อยแล้ว

นางสาวฐิติลักษณ์ คำพา ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี

ชมคลิป.https://drive.google.com/file/d/1tzpJXtKs2S6GmjJBWUbDRISw1YmZdjmE/view?usp=sharing

    นางสาวฐิติลักษณ์ คำพา ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า สถานการณ์ PM2.5 ในพื้นที่ราชบุรีค่อนข้างน่าเป็นห่วง คือ ค่าสูงมากกว่า 75 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน จึงอยากแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ว่าขอให้งดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือ ออกนอกบ้าน ขอให้ใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันกัน กรณีที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพขอให้ไปพบแพทย์ตรวจรักษา
ส่วนเรื่องมาตรการต่างๆนั้น ทางจังหวัดได้ดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อดำเนินการอย่างเคร่งครัด เช่น การกวดขันรถควันดำ การตรวจสอบคุณภาพของโรงงานอุตสาหกรรม หรือ ปัญหาหลักของการเผาป่าในพื้นที่เกษตร ซึ่งได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว ขอฝากประชาชนว่า หากพบการเผาป่า มีเหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่ไหน ขอให้รีบแจ้งส่ายด่วน 1784

นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี

    ขณะที่ นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี นำทีมงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยรถบรรทุกน้ำและชุดอุปกรณ์ดับเพลิงควบคุมระยะไกล ลงพื้นที่ฉีดพ่นละอองน้ำบริเวณวัดเขาวัง พระอารามหลวง โดยมีนายวรวัฒน์ น้อยโสภา และนายชาคริสณ์ กรปัญญากุล เลขานุการนายก อบจ. ร่วมปฏิบัติงานในครั้งนี้ พร้อมทั้งได้รับความร่วมมือจากพระมหาศุภวัฒน์ สุภัทโธ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเขาวัง พระอารามหลวง

  นายก อบจ.ราชบุรี เปิดเผยว่า การดำเนินการฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ อบจ.ราชบุรี ได้วางแผนประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อควบคุมการปล่อยฝุ่นละอองจากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ พร้อมขยายการดำเนินงานฉีดพ่นละอองน้ำให้ครอบคลุมทุกอำเภอในจังหวัด เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในระยะยาว

ชมคลิป.https://drive.google.com/file/d/11N2lMLCtMFngtLuy2f_JrpjCYjZlxcXf/view?usp=sharing

ขอขอบคุณภาพ-ข่าว พันธุ์ -จรรยา แก้วนุ้ย ราชบุรี

ประธานวุฒิสภาให้การรับรองประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย สะท้อนสัมพันธ์ 2 ชาติแน่นแฟ้น

สุดชื่นมื่น ประธานวุฒิสภาให้การรับรองประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย สะท้อนสัมพันธ์ 2 ชาติแน่นแฟ้น

ณ ห้องรับรองพิเศษ 204 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) วันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ให้การรับรอง ตัน ศรี ดาโต๊ะ โจฮารี บิน อับดุล (H.E. Tan Sri Dato’ (Dr.) Johari bin Abdul) ประธานสภาผู้แทนราษฎรประเทศมาเลเซีย ในโอกาสเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐสภาไทย โดยมี พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง นายนิรัตน์ อยู่ภักดี ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ร้อยตำรวจเอกฉลอง ทองนะ สมาชิกวุฒิสภา นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภาและนางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา ร่วมให้การรับรอง

ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับมาเลเซียที่ใกล้ชิดและผูกพันกันมาอย่างยาวนาน และปีนี้ครบรอบ 68 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ในด้านนิติบัญญัติรัฐสภาไทยและรัฐสภามาเลเซียได้แลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ โดยล่าสุดประธานรัฐสภาไทยได้นำคณะเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายน 2567 นอกจากนี้ รัฐสภาทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ผ่านกลไกกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภา อีกทั้งขอแสดงความยินดีที่ประเทศมาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน และสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA)
ในปีนี้

ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย กล่าวขอบคุณที่ประธานวุฒิสภาให้การต้อนรับในครั้งนี้ โดยปีนี้ประเทศมาเลเซียเป็นประธานอาเซียน มุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคอาเซียนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเชื่อมั่นว่าจะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในทุกมิติ อาทิ การเมือง เศรษฐกิจ สันติภาพ รวมไปถึงความสัมพันธ์ด้านนิติบัญญัติให้ดียิ่งขึ้น

จากนั้น ประธานวุฒิสภาเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซียและคณะ ณ ห้องรับรองพิเศษ 203 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา (ฝั่งวุฒิสภา) โดยมีสมาชิกวุฒิสภาจากจังหวัดทางภาคใต้ของไทย ได้แก่ พันตำรวจโท สุริยา บาราสัน นายสามารถ รังสรรค์ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล พันตำรวจเอก กอบ อัจนากิตติ นายยะโก๊ป หีมละ นายนิฟาริด ระเด่นอาหมัด ร้อยตำรวจเอก ฉลอง ทองนะ และนางปัณณิตา สท้านไตรภพ เลขาธิการวุฒิสภา เข้าร่วมงานเลี้ยงดังกล่าวด้วย.

สนง.ศึกษาธิการ จ.นครปฐม จัดงานวันครู ครั้งที่ 69 พ.ศ. 2568

สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม จัดงานวันครู ครั้งที่ 69 พ.ศ. 2568 เพื่อระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่ประกอบคุณงามความดีและทำคุณประโยชน์ต่อวงการศึกษาให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน

  วันที่ 16 มกราคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่ศาลาอเนกประสงค์วัดไร่ขิง พระอารามหลวง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเนื่องในงานวันครู ครั้งที่ 69 พ.ศ. 2568 ภายใต้คำขวัญ “เรียนดี มีความสุข” ครูไทยร่วมใจ ปฏิวัติการศึกษา สร้างเด็กฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ โดยสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ร่วมกับ หน่วยงานทางการศึกษา สถานศึกษา สำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา เพื่อระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ อีกทั้งส่งเสริมยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่ประกอบคุณงามความดี ทำคุณประโยชน์ต่อวงการศึกษาให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนและเป็นแบบอย่างให้เยาวชนรุ่นหลังได้ยึดถือปฏิบัติตาม

    นางทองเจือ เอี่ยมธนานุรักษ์ รองศึกษาธิการจังหวัด รักษาการศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า วันครูได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2500 สืบเนื่องมาจากการประกาศพระราชบัญญัติครูในราชกิจจานุเบกษาเมื่อปี พ.ศ. 2488 ซึ่งระบุให้มีสภาในกระทรวงศึกษาธิการเรียกว่า “คุรุสภา” มีสถานะเป็นนิติบุคคล และให้ครูทุกคนเป็นสมาชิกคุรุสภา โดยมีหน้าที่ในเรื่องของสถาบันวิชาชีพครู ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ให้ความเห็นในเรื่องนโยบายการศึกษาและวิชาการศึกษาทั่วไปแก่กระทรวงศึกษาธิการ อีกทั้งจัดสวัสดิการให้แก่ครูและครอบครัว ได้รับความช่วยเหลือตามสมควร ตลอดจนส่งเสริม
ความสามัคคีของครู ต่อมาในปี 2499 ที่ประชุมสามัญคุรุสภาประจำปี จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า ครูมีบุญคุณเป็นผู้ให้แสงสว่างในชีวิตของเราทั้งหลาย “วันครู” ควรมีสักวันหนึ่งสำหรับให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้แสดงความเคารพสักการะต่อบรรดาครูผู้มีพระคุณ


   สำหรับการจัดกิจกรรมงานวันครูในครั้งนี้ ได้แก่ พิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 69 รูป พิธีระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ พิธีคารวะครูอาวุโส การอ่านสารจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องในวันครู ครั้งที่ 69 พ.ศ. 2568 พร้อมคำขวัญ “ครูจุดประกายความฝัน ผลักดันให้กล้าคิด สร้างโอกาสในชีวิตให้เด็กไทย” นอกจากนี้ได้มีพิธีมอบเกียรติบัตร รางวัล แก่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กิจกรรมการแข่งขันกีฬาวันครู และกิจกรรมคุรุสัมพันธ์วันครู เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2568 ณ โรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ อีกด้วย

     สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

วันเด็กแห่งชาติ จ.นครปฐม ผู้ปกครองพาบุตรหลานมาร่วมงานกันสนุกสนาน

จ.นครปฐม จัดกิจกรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2568 พร้อมแจกของขวัญ อาหาร และเครื่องดื่ม แก่เด็กๆ โดยมีผู้ปกครองพาบุตรหลานมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

     วันที่ 11 มกราคม 2568 ที่บริเวณสนามกีฬาพระราชวังสนามจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 พร้อมอ่านสารจาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยในปีนี้ได้มอบคำขวัญวันเด็กแห่งชาติไว้ว่า  “ ทุกโอกาสคือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง ” เพื่อส่งเสริมให้เด็กตระหนักถึงคุณค่า บทบาท และความสำคัญของตนเอง รวมถึงเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก การให้การคุ้มครอง เลี้ยงดู การอบรมสั่งสอน และสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กเยาวชนเป็นพิเศษ และปลูกฝังให้เด็ก เยาวชน ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้เป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน  โดยมีนายปรีชา ดิลกพรเมธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยรองนายกเหล่ากาชาดจังหวัด คณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาด หัวหน้าส่วนราชการ ร่วมแจกของรางวัล อาหาร ขนม และเครื่องดื่มให้กับเด็กๆ ในครั้งนี้ 

นายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครนครปฐม

    นายเสรินทร์ แก้วพิจิตร นายกเทศมนตรีนครนครปฐม กล่าวว่า เทศบาลนครนครปฐม ได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็ก และเยาวชน ซึ่งจะต้องเติบโตเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ และสังคมให้เจริญรุ่งเรือง ก้าวหน้า และมั่นคง โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน โดยมีการจัดนิทรรศการของหน่วยงานต่างๆ การให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม การแจกของขวัญ ของรางวัล การแสดงความสามารถของสุนัขสงคราม การแสดงของเด็กนักเรียน ซึ่งมีพ่อแม่ ผู้ปกครองได้พาลูกหลานมาร่วมกิจกรรมต่างๆ เนื่องในวันเด็กแห่งชาติเป็นจำนวนมา


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

อบจ.ราชบุรีเปิดงาน light & sound “เขาช่องพราน ชมค้างคาวร้อยล้าน”

อบจ.ราชบุรี เปิดแล้วอย่างยิ่งใหญ่งานเที่ยวงานเขาช่องพราน ชมค้างคาวร้อยล้าน และการแสดงแสงเสียงตำนานราชบุรี ปีที่ 3 อย่างเป็นทางการ

นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี

   เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวขององค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี กิจกรรม ” เขาช่องพราน ราชบุรีเรืองงาม โพธารามใต้ร่มพระบารมี LIGHT&SOUND” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมีนายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เขต 3 กล่าวต้อนรับ มีนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจังหวัดราชบุรี นายธนวัชร นิติกาญจนา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี สมาชิกสภาจังหวัดราชบุรี นางกาญจน์กุระ ฮัยสคาเนน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด นางฐิรัตทียา สุภาชัย ประชาสัมพันธ์จังหวัด นางสมพิศ หลวงแจ่ม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด นางทศมนพร พุทธจันทา พัฒนาการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ ประชาชน ร่วมพิธีดังกล่าว

   การจัดงานในครั้งนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ได้ประกอบพิธีบวงสรวง และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนเปิดงานอย่างเป็นทางการ ซึ่งทางจังหวัดได้เห็นถึงความสำคัญของแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนเพื่อให้มีขีดความสามารถในด้านการท่องเที่ยวและสร้างรายได้และมุ่งไปสู่การเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว โดยวัดเขาช่องพรานเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญระดับประเทศ ที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาชมค้างคาว นับล้านตัวบินออกจากถ้ำในยามพลบค่ำ เพื่อออกหากินยามค่ำคืน จะบินกลับมาอีกทีก็ใกล้สว่างของอีกวัน นับเป็นภาพที่หาดูได้ยากที่ค้างคาวบินออกจากถ้ำเป็นสายยาว เพราะจะปรากฏขึ้นในช่วงเวลาไม่เกิด 1 ชั่วโมงเท่านั้น

    ทั้งนี้เพื่อการท่องเที่ยวและรายได้ในชุมชน องค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี จึงร่วมกับส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่จัดโครงการขึ้นภายใต้ชื่องาน “ เขาช่องพราน ราชบุรีเรืองงาม โพธารามใต้ร่มพระบารมี LIGHT&SOUND ” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 12 มกราคม 2568 บริเวณลานวันเขาช่องพราน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี

    ภายในงานมีกิจกรรม ประกอบด้วยการแสดงละครประกอบแสงสีเสียง เรื่อง ” ราชบุรีเรืองงาม โพธารามใต้ร่มพระบารมี LIGHT&SOUND” ผสมผสาน 3 D MAPPING นำแสดงโดย นักแสดงจากช่อง 7 สี ฟิวส์ กิติกร เจด้า ศรัญย่า บิว ณัฐพล, ต่าย เชิญยิ้ม และยังมีกิจกรรมนั่งรถรางท่องเที่ยวชมบรรยากาศจำลองของดีเมืองโพธาราม ร่วมสนับสนุนสินค้าชุมชน และ การออกร้านจำหน่ายอาหารพื้นบ้าน สินค้าท้องถิ่นมากมาย นั่งรถรางชมไฟแสงสีบริเวณงาน มีทุกวันตั้งแต่วันที่ 10 – 12 มกราคม 2568 ที่บริเวณเขาช่องพราน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ชมฟรีตลอดงาน

    ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

นครปฐม จัดโครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ

จังหวัดนครปฐม จัดโครงการร้อยใจไทย สืบสานราชธรรม ทั้งแผ่นดิน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

วันที่ 10 มกราคม 2568 เวลา 07.00 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีตักบาตรและบรรยายธรรม “โครงการร้อยใจไทยสืบสานราชธรรมทั้งแผ่นดิน” ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ณ ลานหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ องค์พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม โดยได้รับเมตตาจากพระเดชพระคุณพระราชวัชรสุทธิวงศ์ (เจ้าคุณอารยวังโส) เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) ในพระราชูปถัมภ์ฯ เป็นประธานสงฆ์และบรรยายธรรมบูชาคุณพระรัตนตรัยและประกาศราชธรรม โดยมี นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นายสันติธร ยิ้มละมัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นางดวงกมล ยิ้มละมัย นางจิรวรรณ เพ็ญพาส นางกัญญา จุนถิระพงศ์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ร่วมในพิธี พร้อมด้วย นางสาวอโรชา นันทมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยนายยงยุทธ สวนทอง นายปรีชา ดิลกพรเมธี และนายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ ภาคส่วนต่าง ๆ และพุทธศาสนิกชน ร่วมในกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

    โอกาสนี้ พระราชวัชรสุทธิวงศ์ กล่าวสัมโมทนียกถา ความตอนหนึ่งว่า ความศักดิ์สิทธิ์ของการปกครองเกิดขึ้นจากความจริงใจทั้งหลายของคนที่เคารพธรรม ด้วยแรงปรารถนาอยากให้บ้านเมืองมีความสงบสุข ผู้ประพฤติธรรม ผู้ปกครองแผ่นดินทั้งหลายต้องเคารพธรรม ต้องมีธรรม สร้างธรรมให้ประชาชน พรั่งพร้อมไพบูลย์ด้วยคุณธรรมและความดี ทั้งนี้ ด้วยบทบาทและหน้าที่ต้องใช้ธรรมะเป็นเครื่องกล่อมเกลาจิตใจให้เป็นผู้มีคำว่า “ให้” ประเทศชาติก็จะพ้นวิกฤตการณ์ได้ โดยการให้นั้น ต้องให้สิ่งที่ควรให้ ให้สิ่งที่ให้ได้ สิ่งที่มีประโยชน์กับผู้รับ เพื่อเขาจะได้กลับมาเป็นผู้มีศีลเช่นเดียวกับผู้ให้ รู้สิ่งที่ควรสงเคราะห์ รู้สิ่งที่ไม่ควรสงเคราะห์ เมื่อมีการให้ที่ถูกต้อง ก็จะสร้างความมีศีลขึ้นมา เรียกว่า “ให้ที่มีอารยธรรม” และท้ายที่สุดการระงับยับยั้งกิเลสก็จะเกิดขึ้น “การยับยั้งชั่งใจเป็นเรื่องใหญ่มาก ต้องควบคุมตนเองได้ ไม่หวั่นไหวต่อโลกธรรม ประพฤติปฏิบัติชอบ ซื่อตรงต่อธรรม ผู้นำและผู้ปกครองต้องมีตบะ ควบคุมความโกรธได้ ควบคุมความเกลียดได้ หากเกิดความโกรธเกลียดขึ้นกับใครก็แล้วแต่ เมื่อใครเห็นใครพบก็จะเกลียดเราเช่นกัน ต้องควบคุมกล่อมเกลาจิตใจตลอดเวลา ให้เมตตา ให้ความรักต่อเพื่อนทั้งหลายอย่างเสมอกัน ด้วยการแผ่เมตตา ต้องมีสัมปชัญญะเสมอ สิ่งที่ต้องมีและรักษาไว้ คือ ความดี สิ่งที่ต้องละทิ้ง คือ ความชั่ว และต้องยึดหลักความเพียรชอบอยู่เสมอ โดยไม่เสียศีลไม่ผิดธรรม ต้องไม่ผิดกฎหมาย ต้องไม่ผิดกฎของสังคมและกฎของธรรม ถ้ายึดธรรมไว้ อดทนอดกลั้น รับได้ทุกเรื่อง หาทางบริหารจัดการให้ได้โดยไม่ทำบาปไม่ทำผิด และไม่เบียดเบียนใคร ก็จะเป็นผู้นำและผู้ปกครองผู้มีราชธรรม ดังพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนคนไทยทั้งปวง จึงเป็นที่มาของโครงการร้อยใจไทยสืบสานราชธรรมทั้งแผ่นดิน”

   นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้รับทราบดำริในพระเดชพระคุณพระราชวัชรสุทธิวงศ์ (เจ้าคุณอารยวังโส) จึงร่วมกันขับเคลื่อนโครงการ “ร้อยใจไทยสืบสานราชธรรม” ซึ่งเป็นโครงการที่ขยายผลมาจากโครงการ “ร้อยใจธรรม ร้อยอำเภอ สืบสานราชธรรม” สู่ระดับจังหวัด ซึ่งจัดขึ้นเพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการเผยแผ่ราชธรรมที่นักปกครองและประชาชนควรเรียนรู้และถือปฏิบัติ อันจะเป็นการปลูกฝัง เสริมสร้างอุดมการณ์ให้แก่นักปกครอง องค์กรเอกชน ประชาชนทั่วไป รวมถึงคณะกรรมการและสมาชิกของสมาคมแม่บ้านมหาดไทยได้มีหลักการและวิธีการตามแนวทางราชธรรม โดยกำหนดเป้าหมายโครงการฯ ในระยะที่ 1 จำนวน 15 จังหวัด ซึ่งจังหวัดนครปฐม เป็นหนึ่งในจังหวัดนำร่องที่ได้จัดกิจกรรมขึ้น ด้วยความมุ่งหมายในการร่วมทำความดีเฉลิมพระเกียรติ รวมทั้งเป็นการสร้างสรรค์จังหวัดนครปฐมให้เป็นเมืองแห่งความรุ่งโรจน์ เป็นอู่อารยธรรมสำคัญที่มีประวัติความเป็นมายาวนานและพระพุทธศาสนาสืบไป


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ-ข่าว

กมธ.ทหารฯ วุฒิสภา ถกเข้มปมเกาะกูด พื้นที่อ้างสิทธิไทย-กัมพูชา จ่อลงพื้นที่ จ.ตราดดับชนวนปัญหาที่ทับซ้อน

กมธ.ทหารฯ วุฒิสภา ถกเข้มปมเกาะกูด พื้นที่อ้างสิทธิไทย-กัมพูชา จ่อลงพื้นที่ จ.ตราดดับชนวนปัญหาที่ทับซ้อน 30 ม.ค.-1 ก.พ.นี้ แนะทัพเรือตีปิ๊บความจำเป็นซื้อเรือฟรีเกต

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ครั้งที่ 1/2568 วันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีพล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกมธ.ฯ เป็นประธานการประชุม ที่ห้องประชุม กมธ.CA330 ชั้น 3 อาคารรัฐสภา ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณาการดำเนินงานของอนุกมธ.ฯ หลักๆ คือ อนุกมธ.กิจการทหารด้านไซเบอร์ เทคโนโลยี อาวุธยุทโธปกรณ์ และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยมีการรับทราบข้อมูลแนวคิดการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ

พร้อมเชิญผู้แทนกองทัพเรือเข้าให้ข้อมูล ซึ่งการหารือทางกองทัพเรือมีความเห็นสอดคล้องกันในการส่งเสริมการผลิตในประเทศเป็นอันดับแรก ซึ่งรวมถึงการจัดหาเรือฟรีเกต ด้วยเหตุนี้ที่ประชุมให้ข้อสังเกตว่าควรต้องสร้างการรับรู้สู่สาธารณะถึงความจำเป็นต้องมีเรือฟรีเกตรวมถึงผลประโยชน์ที่ประเทศชาติและประชาชนจะได้รับ ทั้งนี้ทางกอนุกมธ.ฯมีกำหนดเข้าหารือกับ ผบ.ทร.เรื่องการส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศด้วย

รวมทั้งยังได้พิจารณาผลดำเนินงานอนุกมธ.กิจการทหารด้านความมั่นคงแบบองค์รวมกรณีการศึกษาเรื่องพื้นที่อ้างสิทธิระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชาบริเวณทางทะเลเกาะกูด ซึ่งมีการยกร่างรายงานเบื้องต้นเสร็จแล้วและจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อให้ข้อสังเกตเพิ่มเติม รวมทั้งจะเดินทางไปศึกษาดูงานเกาะกูด จ.ตราด ระหว่างวันที่ 30 ม.ค.-1 ก.พ.นี้ ในประเด็นพื้นที่ทับซ้อนและการออกเอกสารสิทธิที่ดินบนเกาะกูด ก่อนจัดทำรายงานฉบับสมบูรณ์เสนอต่อที่ประชุมต่อไป ทั้งนี้ทางกมธ.ฯ กำหนดการประชุมหารือครั้งต่อไปวันที่ 16 ม.ค.นี้.

วุฒิสภาฉลุย ผ่านร่าง ก.ม.ตั้งศาลภาษีอากรฯ ชี้เป็นเรื่องใหม่ของไทย อำนวยความสะดวก ปชช.

วุฒิสภาฉลุย ผ่านร่าง ก.ม.ตั้งศาลภาษีอากรฯ ชี้เป็นเรื่องใหม่ของไทย อำนวยความสะดวกต่อประชาชน

   ในการประชุมวุฒิสภา วันที่ 6 มกราคม 2568 ได้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว โดยที่ประชุมวุฒิสภารับไว้พิจารณาและลงมติด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 172 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง พร้อมทั้งแต่งตั้งกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณา จำนวน 21 คน และกำหนดแปรญัตติภายใน 7 วัน

สำหรับรายชื่อ กมธ.วิสามัญฯทั้ง 21 คน ประกอบด้วย สัดส่วน ครม. 4 คน ได้แก่ นายมานพ จรัสจรรยาวงศ์ นายเผ่าพันธ์ ชอบน้ำตาล นายพรภัทร์ ตันติกุลานันท์ นายวรกร โอภาสนันท์ , สัดส่วนวุฒิสภา 17 คน ได้แก่ พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ นส.ชญาน์นันท์ ติยะตระการชัย นส.ตวงคุณ ทรงธรรมวัฒน์ นายศุภโชค ศาลากิจ นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นางสุมิตรา จารุกำเนิดกนก นายนิรุตติ สุทธินนท์ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายสืบศักดิ์ แววแก้ว นายวร หินดี นายนิพนธ์ เอกวานิช นายชินโชติ แสงสังข์ นายสมทบ ถีระพันธ์ นายเศก จุลเกษร นส.เข็มรัตน์ สุรเมธีมาณพ นายฤชุ แก้วลาย

ทั้งนี้สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….เนื่องจากปัจจุบันศาลภาษีอากรมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีภาษีอากรที่ไม่รวมถึงคดีอาญา ซึ่งต้องอาศัยผู้พิพากษาที่มีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยภาษีอากรเช่นกัน ดังนั้นเพื่อให้ศาลภาษีอากรมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาที่เกี่ยวกับภาษีอากรบางฐานความผิดด้วยและยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้มีอรรถคดี ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทย

นครปฐม เปิดงานมหาธีรราชเจ้ารำลึก มหกรรมวัฒนธรรม ครั้งที่ 21 ประจำปี 2568

จังหวัดนครปฐม เปิดงานมหาธีรราชเจ้ารำลึก มหกรรมวัฒนธรรม ครั้งที่ 21 ประจำปี 2568 เพื่อเทิดพระเกียรติยศและเผยแพร่พระเกียรติคุณ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า


  วันที่ 26 ธันวาคม 2567 ที่บริเวณลานหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ฯ องค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้นำท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนจากทั้ง 7 อำเภอ ร่วมเปิดงานมหาธีรราชเจ้ารำลึก มหกรรมวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม ครั้งที่ 20 ประจำปี 2567

     โดยจังหวัดนครปฐม ร่วมกับ สภาวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม โดยการสนับสนุนจากวัดพระปฐมเจดีย์ ราชวรมหาวิหาร และเทศบาลนครนครปฐม ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2568 ณ บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ เพื่อเทิดพระเกียรติยศและเผยแพร่พระเกียรติคุณ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า อีกทั้งเพื่อให้ประชาชนที่มาเที่ยวงานได้สักการะองค์พระปฐมเจดีย์ ตลอดจนเป็นเวทีและโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชีวิตวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ซึ่งจะก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจ และการยอมรับนับถือซึ่งกันและกัน เสริมสร้างค่านิยม จิตสำนึก และรักษาสืบทอดศิลปวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ สืบสานคุณค่าวัฒนธรรมเพื่อให้เป็นพื้นฐานการดำเนินวิถีชีวิตที่มีความสุขในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดนครปฐม และได้จัดเป็นงานประจำปีของจังหวัดนครปฐมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

     สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย  พิธีบวงสรวงถวายราชสักการะ พิธีสงฆ์ถวายราชกุศล ขบวนทางวัฒนธรรม กลุ่มชาติพันธุ์ในจังหวัดนครปฐม นิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และเรือนรำลึก  การแสดงทางวัฒนธรรมของนักเรียน การแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน การแสดงดนตรีร่วมสมัย การประกวดแต่งกลอนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 การประกวดร้องเพลงไทยลูกทุ่ง การแข่งขันตะกร้อลอดบ่วง กิจกรรมสาธิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในจังหวัดนครปฐม โดยเปิดให้ชมฟรีตลอดงาน ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึง 21.00 น. ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 3 มกราคม 2568 ณ บริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

พิธีวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา ฯ

จังหวัดนครปฐมประกอบพิธีวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ที่พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นำข้าราชการ ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารและสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มพลังมวลชน ตลอดจนนักเรียนนักศึกษา ประกอบพิธีวางพวงมาลาสักการะเนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรชายาในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งตรงกับวันที่ 30 พฤศจิกายน ของทุกปี เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมประกาศเกียรติคุณ แสดงความจงรักภักดีและแสดงความกตัญญูกตเวทิตาคุณ รำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงแผ่เมตตาบารมีมายังพสกนิกรชาวอำเภอกำแพงแสนเป็นอเนกอนันต์ยิ่ง

  สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีทรงพระอิสริยยศ พระบรมราชินีในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ต่อมาภายหลังพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ออกพระนามว่าสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีพระวรราชชายา พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เมื่อปีพุทธศักราช 2518 ทรงมีพระจริยวัตรที่สำคัญด้านต่างๆ ประกอบด้วย ด้านการศึกษา ศิลปะ วัฒนธรรม ด้านการพยาบาล ด้านการทหาร และด้านการเสือป่า ในส่วนด้านคุณูปการแก่ชาวอำเภอกำแพงแสน เมื่อปี พ.ศ. 2483 ทรงพระราชทานที่ดิน จำนวน 21 ไร่ และพระตำหนักราชฤดีไม้สักทองให้เป็นโรงเรียนบ้างยาง ตำบลทุ่งกระพังโหม

ต่อมากระทรวงมหาดไทยได้ย้ายที่ว่าการอำเภอจากตำบลสามแก้วมาตั้ง ณ ที่ดินซึ่งพระราชทานนี้ และได้ใช้พระตำหนักเป็นที่ทำการชั่วคราว และเมื่อสร้างที่ว่าการอำเภอเสร็จ ได้คืนพระตำหนักให้โรงเรียนบ้านยางได้ใช้เป็นสถานศึกษาเล่าเรียนของกุลบุตร กุลธิดาชาวอำเภอกำแพงแสน

ภายหลังโรงเรียนบ้านยางได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียน ได้ตั้งชื่อโรงเรียนนี้ว่า โรงเรียนอินทรศักดิ์ศึกษาลัย เพื่อเทิดพระเกียรติคุณของพระองค์ท่าน สำหรับที่ดินพระราชทานปัจจุบันที่ดินราชพัสดุ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกรมการปกครอง นอกจากเป็นที่ตั้งของโรงเรียนแล้ว ยังได้ใช้เป็นที่ตั้งของส่วนราชการต่างๆ ซึ่งยังคงใช้ประโยชน์ในการบริการแก่ประชาชนที่มาติดต่อราชการ ตามพระราชประสงค์ของพระองค์อย่างต่อเนื่อง โอกาสเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ได้มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่มีผลการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ในเขตพื้นที่อำเภอกำแพงแสนอีกด้วย

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม/ข่าว

ม.เกษตร เชิญร่วมงาน National Rice Field Day 2024 จัดแสดงพันธุ์ข้าว 102 สายพันธุ์

มหาวิทยาลัยเกษตร กำแพงแสน เชิญชวนร่วมงาน National Rice Field Day 2024 จัดแสดงพันธุ์ข้าว 102 สายพันธุ์ เชิญเที่ยวชิมข้าวชมข้าว ร่วมสัมผัสความหลากหลาย และเสน่ห์แห่งข้าวไทย

นายสุมน ห้อยมาลา นักวิชาการเกษตร ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว

เมื่อเวลา 11.30น.วันที่ 29 พ.ย.67 นายสุมน ห้อยมาลา นักวิชาการเกษตร ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว เปิดเผยว่า ทางศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กรมการข้าว ภาคีเครือข่ายศูนย์กลางความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และการวิจัยข้าวแห่งประเทศไทย (hub of rice) ร่วมงาน National Rice Field Day 2024 ในครั้งนี้

จัดขึ้นภายในงานเกษตรกำแพงแสน ที่ ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสนจ.นครปฐม ที่จัดขึ้นในวันที่ 1-10 ธ.ค.67
ภายในงานนอกจากนำเสนอศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ที่พัฒนาร่วมกับพันธมิตรในภาคส่วนต่างๆ แล้ว ยังมุ่งเน้นการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมเพื่อนำไปสู่
การเกษตร แบบ BCG โมเดล เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจตลอดห่วงโซ่การผลิตข้าว ความมั่นคงทางอาหารและรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนผู้ร่วมงานจะได้ร่วมรับประทานข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์

นายสุมน กล่าวเพิ่มเติมว่า วัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อแสดงศักยภาพสายพันธุ์ข้าวดีเด่นที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการปรับปรุงพันธุ์พืชแบบ
แม่นยำ ในภาคสนามแปลงนาเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการปรับปรุงพันธุ์พืชที่สำคัญทางเศรษฐกิจและพืชมูลค่าสูง ด้วยความก้าวหน้าทางจีโนมิกส์และการให้บริการเชิงวิชาการจีโนมิกส์สำหรับการปรับปรุงพันธุ์ โดยเน้นพืชที่สำคัญทางเศรษฐกิจและพืชมูลค่าสูง เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยีการปรับปรุงพันธุ์ข้าวแบบแม่นยำ สายพันธุ์ข้าวใหม่ที่มีคุณสมบัติ ดีเด่น ที่เกิดจากผลงานวิจัยให้กับนักวิชาการจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และ เกษตรกร

ให้มีความสามารถนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีดังกล่าวไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว เพิ่มรายได้และ ลดต้นทุนการผลิต เพื่อนำเสนอการบริการประเมินลักษณะ biotic & abiotic stress สำหรับการปรับปรุงพันธุ์ข้าว
โดยนำเสนอวิธีการประเมินลักษณะต้านทานโรคและแมลง ทนร้อน ทนน้ำท่วม เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ซึ่งเป็นตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน โดยมุ่งเน้นให้เกิดการสร้างความร่วมมือทั้งเชิงสาธารณประโยชน์และเชิงพาณิชย์

ในส่วนของการปลูกข้าวบนพื้นที่ 4 ไร่ ได้รวบรวมพันธุ์ข้าวจำนวน 102 สายพันธุ์ จะเห็นหลากหลายสายพันธุ์ที่จัดแสดง อย่างเช่นข้าวสรรพสี ซึ่งช่วงนี้อากาศเย็นสีจะสวยจัดจ้าน
โดยปลูกเป็นสัญลักษณ์เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SustainableDevelopment Goals: SDGs) เป็นชุดเป้าหมายการพัฒนาระดับโลกหลังปี 2015 ที่ได้รับการรับรองจาก 193 ประเทศสมาชิกขององค์การสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 25
กันยายน ค.ศ. 2015 ครอบคลุมช่วงระยะเวลาที่ต้องบรรลุภายใน 15 ปี ได้เป็นทิศทางการพัฒนาที่ทุกประเทศที่ต้อง
ดำเนินการร่วมกันมาตั้งแต่ปีค.ศ. 2016 ไปจนถึงปี ค.ศ.
2030

โดยเอกสารที่ประเทศสมาชิกทั้งหมดลงนามรับรอง
เป็นพันระสัญญานั้นเรียกว่า “Transforming Our
World: the 2030 Agenda for Sustainable
Development” หรือ “วาระการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030”
ฉะนั้นในบางโอกาส SDGS อาจถูกกล่าวถึงผ่านชื่ออื่นได้
ทั้ง Agenda 2030 หรือ Global Goals
เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
มีทั้งหมด 17 เป้าหมาย (Goals)
จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนที่เข้าร่วมงานเกษตรกำแพงแสนแวะมาร่วมชม ชิม ข้าว และถ่ายภาพแปลงนาข้าวดังกล่าว

สพป.เขต1 จัดกิจกรรมดำวันแม่ เกี่ยววันพ่อ สานต่อเศรษฐกิจพอเพียง

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 นำเด็กนักเรียนกกว่า 1,200 คน ร่วมสืบสานวิถีชาวนาไทย เรียนรู้การทำนาตั้งแต่ปักดำจนถึงเก็บเกี่ยว พร้อมฝึกทักษะการแปรรูปผ่าน 7 ฐานการเรียนรู้

  วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ที่ศูนย์ศรีเกษตรโภคทรัพย์ ก่อตั้งโดยหลวงปู่แผ้ว วัดรางหมัน ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ดร.ณัฎฐิกา ลิ้มเฉลิม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 นำคณะครู อาจารย์ และนักเรียนกว่า 1,200 คน จาก 43 โรงเรียน ร่วมโครงการดำวันแม่ เกี่ยววันพ่อ สานต่อเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมเก็บเกี่ยวข้าวในผืนนา 25 ไร่ ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ดำวันแม่ เกี่ยววันพ่อ” ที่เริ่มต้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ด้วยพิธีบวงสรวงและดำนา จนมาถึงวันเก็บเกี่ยวที่สร้างรอยยิ้มและความภาคภูมิใจให้กับทุกคน


นอกจากนักเรียนจะได้เกี่ยวข้าวแล้ว ยังเรียนรู้ผ่าน 7 ฐานการเรียนรู้ ตั้งแต่การฟาดข้าว สีข้าว ฝัดข้าว แปรรูปเป็นข้าวกล้องและโจ๊ก ไปจนถึงการเรียนรู้เกษตรผสมผสาน และการฟื้นฟูดินด้วยปอเทือง บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงนวดข้าว สีข้าว และเพลง “เกี่ยวความพอดี” ที่เด็กๆ ร่วมกันขับร้องในครั้งนี้


สำหรับ ศูนย์ศรีเกษตรโภคทรัพย์เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณค่าต่อการศึกษา เป็นพื้นที่สาธิตการทำเกษตรแบบผสมผสานตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เปิดโอกาสให้นักเรียนและประชาชนทั่วไปเข้ามาเรียนรู้และฝึกปฏิบัติจริง


ดร.ณัฎฐิกา กล่าวกับนักเรียนว่า เราจะต้องใช้ประโยชน์และร่วมสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ พร้อมเน้นย้ำว่าการเรียนรู้วิถีเกษตรพอเพียงจะช่วยปลูกฝังค่านิยมที่ดีงามให้กับเยาวชน และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในอนาคต

ชมคลิป.นครปฐม// สพป.เขต1 จัดกิจกรรมดำวันแม่ เกี่ยววันพ่อ สานต่อเศรษฐกิจพอเพียง https://drive.google.com/file/d/1lwN56Xvk0gvR10Jzx76ES9M0hkLfEBpq/view?usp=drive_link

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

เซ็นทรัลศาลายา นครปฐม เปิดงาน Christmas Tree Light Up Celebration 2025

รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดงาน
Christmas Tree Light Up Celebration 2025 เซ็นทรัลศาลายา

   วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567  ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศาลายา ริมถนนบรมราชชนนี อ.สามพราน จ.นครปฐม นางสาวอโรขา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดงาน Christmas Tree Light Up Celebration 2025 ต้อนรับการกลับมาของงานฉลองเทศกาลแห่งความสุขที่เซ็นทรัล ศาลายา ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของการต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง กับต้นคริสต์มาส Outdoor ที่สูง และยิ่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครปฐม สูงกว่า 15 เมตร

    เพื่อตอกย้ำการเป็นแลนด์มาร์คแห่งการเฉลิมฉลองเทศการแห่งความสุขที่ดีที่สุดในใจของชาวนครปฐม ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2567- 5 มกราคม 2568 ซึ่งได้ถูกออกแบบขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ The world’s Great Celebration 2025 พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตสุดพิเศษจาก T-Pop วง Proxie ที่มาร่วมสร้างปรากฎการณ์ความสนุกระดับโลก

นางสาวพิมพ์ภัทรา จันทร์หิรัญ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศาลายา รายงานว่าเหล่าพันธมิตร และศิลปินชื่อดังวง Proxie ที่มาร่วมสัมผัสบรรยากาศแสนอบอุ่นและสีสันอันน่าประทับใจที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศาลายา และเพื่อร่วมฉลองส่งท้ายปี ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศาลายา

  ให้คุณช้อปปิ้งสนุกกับกิจกรรมส่งเสริมการขายมากมายในแคมเปญ ฉลองความสุข ช้อปสนุกระดับโลก ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ต่อที่ 1 : LUCKY DRAW กิน – ช้อปครบทุก 1,000.- รับ 1 สิทธิ์ลุ้นทริปเที่ยวหมู่บ้านซานต้าครอสประเทศฟินแลนด์ ชมปรากฏการณ์ Midnight Sun 5 วัน 3 คืน จำนวน 2 ท่าน จำนวน 6 รางวัล มูลค่ารางวัลละ 340,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,040,000 บาท (สองล้านสี่หมื่นบาทถ้วน) ต่อที่ 2 : กิน – ช้อปครบ 2,000.- รับ 1 สิทธิ์แลกซื้อ The Magical Santa & Friends หมอนตุ๊กตาสุดคิวต์ 1 ชิ้น ราคาพิเศษ 350.- (ปกติ 1,250.-) The Magical Color Changing Cup แก้วน้ำเปลี่ยนสีได้เมื่อโดนความเย็น 1 ชิ้น ราคาพิเศษ 350.- (ปกติ 1,050.-) ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2567 – 5 ม.ค. 2568

ม.ล.ปนัดดาฯ มอบประกาศเกียรติคุณและโล่เชิดชูเกียรติคนดีของสังคม  “ปูชนียบุคคล” บุคคลแห่งชาติ 2567” ครั้งที่ 4

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล เป็นประธานมอบ ประกาศเกียรติคุณและโล่เชิดชูเกียรติคนดีของสังคม  “ปูชนียบุคคล” บุคคลแห่งชาติ 2567” ครั้งที่ 4

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม

  วันที่ 24  พฤศจิกายน  2567 ที่ห้องเตมียเวส ตึกบัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กรรมาธิการวิสามัญผู้ทรงคุณวุฒิการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา,  ประธานพิพิธภัณฑ์วังวรดิศและหอสมุดสมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นประธานมอบประกาศเกียรติคุณและโล่เชิดชูเกียรติคนดีของสังคม รางวัล “ปูชนียบุคคล บุคคลแห่งชาติ” 2567 ครั้งที่ 4

   โดย นายหมวดตรี ดร.สันติ พิมพ์ใจใส ผู้อำนวยการโครงการตอบแทนคุณแผ่นดินยกย่องเชิดชูเกียรติ คนดีของสังคม ครั้งที่ 4 กล่าวว่า สมาคมเพื่อการศึกษาทางไกล ได้จัดพิธีมอบประกาศเกียรติคุณและโล่เชิดชูเกียรติคนดีของสังคม  “ปูชนียบุคคล” บุคคลแห่งชาติ” 2567 ครั้งที่ 4 ขึ้นเพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ บุคลากรในสมาคมเพื่อการศึกษาทางไกล รวมทั้งยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับบุคลากรหน่วยงานของรัฐและเอกชน ที่เสียสละอุทิศตนเพื่อสังคมและประเทศชาติ ตลอดจนยกย่องเชิดชูเกียรติแก่นักศึกษาและเยาวชน ผู้ที่ประพฤติตนเป็นคนดีและเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม

    โดยมี พลเอก ชนาธิป บุนนาค, พลอากาศเอก เสนาะ พรรณพิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ,พลตรี ดร ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม, ศาสตราจารย์ ดร. เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ประธานสถาบันการสร้างชาติ  ประธานและผู้ก่อตั้งกองทุนเวลาเพื่อสังคม,  อาจารย์ อรรณนพ ชัยวุฒิ คณบดีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนอร์ทเชียงใหม่, นายคมกฤช อภิชัยสรพันธุ์ ผู้อำนวยสถาบันการศึกษาทางไกล กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนผู้บริหารสมาคม ผู้บริหารสถานศึกษา และนักเรียนเข้ารับรางวัลในครั้งนี้

สมาคมเพื่อการศึกษาทางไกลก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2561 เพื่อช่วยเหลือนักศึกษาที่เข้าไม่ถึงระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือบุคคลที่หลุดระบบออกกลางคันที่ไม่สามารถเรียนในระบบปกติได้ สมาคมเพื่อการศึกษาทางไกลจึงได้รับเด็กกลุ่มนี้เข้ามาอยู่ในการดูแลโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น


   ทั้งนี้ สมาคมเพื่อการศึกษาทางไกลไม่สามารถที่จะทำงานได้เพียงหน่วยงานเดียว จึงได้ขอความร่วมมือไปยังภาคีเครือข่ายอาทิ เช่น สถาบันการศึกษาทางไกล สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ศูนย์การเรียนพัลลัส อธีน่า โรงเรียนสามพรานวิทยา องค์การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(ภาคพลเมือง) สมาพันธ์การศึกษาทางเลือกแห่งประเทศไทย สมาคมศรัทธาธรรมาภิบาลจังหวัดชลบุรี และบุคคลมากมายที่ร่วมด้วยช่วยกันในการผลักดันให้ผู้ที่หลุดระบบทางการศึกษาที่ไม่สามารถเรียนในระบบการศึกษาปกติได้ โดยได้รับความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาทางไกล สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ รับนักศึกษากลุ่มนี้เข้าไปศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาทางไกล โดยสถาบันการศึกษาทางไกล เป็นหน่วยงานของรัฐสังกัด สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ จึงทำให้ไม่มีค่าใช้จ่ายใดใดทั้งสิ้น และเมื่อนักศึกษาจบการศึกษาภาคบังคับหรือมัธยมศึกษาตอนปลาย จะมีสถานศึกษาหลายแห่งเข้ามารับช่วงต่อในระดับอุดมศึกษา โดยเข้าโครงการต่างๆ อาทิ เช่น โครงการกู้ยืมเรียนเพื่อการศึกษา โครงการกู้ยืมเรียนเพื่อการศึกษาผูกขาดจากรายได้ในอนาคต และมีทุนการศึกษาต่างๆ มากมายสำหรับนักศึกษาที่มีผลการเรียนดี นักศึกษายากไร้ขาดแคนทุนทรัพย์ หรือนักศึกษาผู้มีความสามารถทางด้านกีฬา ทำให้มีผู้ประสบความสำเร็จจำนวนมาก โดยผ่านสมาคมเพื่อการศึกษาทางไกล ในการช่วยเหลือผู้เรียนจนจบการศึกษาไปแล้วจำนวนมาก


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

กาญจนบุรี – นทท.เดินรับลมหนาวแน่นหลังเปิดสะพานลูกบวบ ข้างสะพานมอญ

กาญจนบุรี – นทท.แน่นหลังเปิดสะพานลูกบวบ!! นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเดินเที่ยวชมรับลมหนาวบนสะพานมอญ และสะพานลูกบวบ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

วันนี้ 24 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการท่องเที่ยว ที่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ในช่วงเริ่มต้นฤดูหนาว ปรากฏว่ามีนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ เดินทางมาท่องเที่ยวสำคัญอากาศหนาวเย็น ที่ อำเภอสังขละบุรี กันอย่างล้นหลาม โดยอุณหภูมิในช่วงเช้าที่ อำเภอสังขละบุรี อยู่ที่ประมาณ 20 – 22 องศา มีหมอกลงบาง ๆ พร้อมอากาศที่เย็นสบาย

โดยกิจกรรมยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่ อำเภอสังขละบุรี ย่อมหนีไม่พ้น การเดินเที่ยวชมความสวยงามของสะพานไม้อุตตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญ ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย โดยนักท่องเที่ยวสามารถรับชมทิวทัศน์ที่สวยงามเหนือแม่น้ำซองกาเลียได้แบบ 360 องศาและรับลมที่พัดเย็นสบายได้อย่างเต็มที่ ขณะที่สะพานลูกบวบซึ่งเป็นจุดสถานที่เช็คอินแห่งใหม่ที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวสังขละบุรี วัดวังก์วิเวการาม ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ประชาชนในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับฤดูการท่องเที่ยว 2567 เป็นอีก1สถานที่ที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมาเดินเล่นรับลมหนาวและถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

โดยมีเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง มอญและพม่า ที่แต่งกายด้วยชุดประจำชาติ มาคอยบริการปะแป้ง ขายดอกไม้ บริการถ่ายรูปให้นกท่องเที่ยวและถ่ายรูปร่วมกับนักท่องเที่ยวบนสะพานมอญ

ส่วนกิจกรรมที่ทุกคนที่มาเที่ยวที่นี่ต้องทำคือการตักบาตรพระสงฆ์ บริเวณชุมชนชาวมอญบ้านวังกะซึ่งนักท่องเที่ยว จะแต่งกายด้วยชุด ประจำชาติของชาวไทยเชื้อสายมอญใน อ.สังขละบุรี มานั่งรอใส่บาตรพระสงฆ์ จากวัดวังก์วิเวการาม ที่มารับบิณฑบาตในช่วงเช้า รวมทั้งการชิมอาหารพื้นเมืองและการเดินเลือกซื้อสินค้าของฝากติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้านหรือเพื่อนสนิท ส่งผลให้บรรยากาศการค้าขายกลับมาคึกคักรับฤดูการท่องเที่ยว โดยช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวแห่เดินทางมาเที่ยวสังขละบุรีเฉลี่ยวันละกว่า 1,000 คน และเพิ่มเป็นวันละ 3-4,000 คนในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์

โดยในช่วงฤดูหนาวนี้ เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยว จากทั่วประเทศให้ความนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวที่อำเภอสังขละบุรีกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีสภาพอากาศที่เย็นสบาย ไม่หนาวจนเกินไป อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมา ให้ได้สัมผัสกัน ทำให้บรรดาผู้ประกอบการค้า ที่พัก และร้านอาหาร ได้รับผลดีจากการท่องเที่ยวที่คึกคักนี้ไปด้วย.

  ชมคลิป.  https://drive.google.com/file/d/1ghhiA8lP9HJ5SLBDcmYem9hF4eB-PkZx/view?usp=sharing

   ภาพ-ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์

ททท. กาญจนบุรี จับมือพันธมิตรขยายผลท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำด้วยกระดานยืนพาย (SUP board) สู่ลุ่มน้ำแม่กลอง

ททท.กาญจนบุรี จับมือพันธมิตรขยายผลท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำด้วยกระดานยืนพาย (SUP board) สู่ลุ่มน้ำแม่กลอง

กระดานยืนพาย (Stand Up Paddle Board : SUP) เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาที่ใกล้ชิดธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กาญจนบุรี ได้ผลักดันและขับเคลื่อนให้จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจุดหมายปลายทางของการทำกิจกรรมซัพบอร์ดเรื่อยมาตั้งแต่ปลายปี 2564 โดยมีการแข่งขันในแม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำแควใหญ่ มากกว่า 7 รายการ รวมถึงรายการ The Route 97 ที่มีระยะทางพายถึง 97 กิโลเมตร นับว่ายาวสุดในเอเชีย

นางสาวสรียา บุญมาก ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานกาญจนบุรี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า กระแสนิยมเล่นกระดานยืนพายยังคงความนิยมอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในกลุ่ม Gen-Y ที่ชอบความสนุกสนานแบบใหม่ ๆ และให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในปีนี้ ททท. สำนักงานกาญจนบุรี สำนักงานราชบุรี สำนักงานสมุทรสงคราม จึงได้ร่วมกับผู้ประกอบการกีฬากระดานยืนพายทั้ง 3 จังหวัด และเครือข่ายพันธมิตร จัดงาน “SUP ลุ่มแม่กลอง” ขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเชื่อมโยงพื้นที่จังหวัดในลุ่มน้ำแม่กลอง ขับเคลื่อนประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการพายซัพบอร์ด สร้างเศรษฐกิจและความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการซัพบอร์ด รวถึงกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น โดยกำหนดจัดขึ้นใน 3 จังหวัด 3 สนาม ดังนี้

สนามที่ 1 กาญจนบุรี : เสาร์ที่ 21 ธันวาคม 2567 ณ ลานริมน้ำแควใหญ่ (Paddle more Thailand Office)
สนามที่ 2 ราชบุรี : เสาร์ที่ 25 มกราคม 2568 ณ Unique77 บ้านโป่ง
สนามที่ 3 สมุทรสงคราม : เสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ณ วัดปากน้ำ

การจัดงาน “SUP ลุ่มแม่กลอง” ครั้งนี้ หวังเปิดโอกาสผู้สนใจทุกเพศทุกวัยได้รับความสนุกสนานและประสบการณ์แห่งมิตรภาพกับเพื่อนใหม่ ๆ ในบรรยากาศแบบแคมปิ้งริมแม่น้ำ โดยแบ่งกิจกรรมเป็นการแข่งขันชิงเงินรางวัลสำหรับมืออาชีพ จำนวน 2 รายการ คือ ประเภท Technical ระยะ 2 กม. และ ประเภท Sprint ระยะ 200 ม. การพายเพลิดเพลินไม่แข่ง (SUP For Fun) สำหรับมือใหม่และมือโปร ระยะ 3.5 กม. จากลานริมน้ำแควใหญ่ (Paddle more Thailand Office) ผ่านวัดญวน วัดเหนือ ถึงบริเวณสกายวอล์ค การประกวด SUP Pets ผู้พายพาน้องตูบน้องเหมียวมาพายเล่นด้วยกัน การประกวด SUP Fancy ผู้พายแต่งกายสร้างสรรค์สวยงาม กิจกรรมเรียนรู้การพายกับครูฝึกซึ่งเป็นนักกีฬาทีมชาติ (SUP Clinic)

เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมกิจกรรมตั้งแต่บัดนี้ (จำนวนจำกัด) เหมาพาย 3 สนาม สุดคุ้ม – Early Bird เพียง 1,200 บาท เหมายพาย 3 สนาม – พิเศษ 1,600 บาท และพาย 1 สนาม 599 บาท

นางสาวสรียา กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 100 ท่านแรก จะได้รับเหรียญที่ระลึกออกแบบเป็นพิเศษ สะสมครบ 3 สนาม สามารถนำมาประกอบกันเป็นเหรียญที่ทรงคุณค่าเป็นอย่างมาก จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้สนใจร่วมกิจกรรม “SUP ลุ่มแม่กลอง” ติดต่อสอบถามและสมัครได้ที่เพจ : SUP LUM MAE KLONG

ภาพ-ข่าว.ภูมิภาคกาญจนบุรี ปรีชา ไหลวารินทร์

ราชบุรี – จัดใหญ่เทศกาล เล่นว่าว กินข้าวนำกัน ครั้งที่ 1

มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรมอำเภอโพธารามและภาคีเครือข่ายจัดงาน เทศกาล “ เล่นว่าว กินข้าวนำกัน ” ครั้งที่ 1 สืบสานวัฒนธรรมลาวเวียง ค้นภูมิปัญญาทุนทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ท้องถิ่นชุมชนบ้านเลือก ภายใต้สนับสนุน ทุนวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาพื้นที่ (บพท.) ขับเคลื่อนทุนทางวัฒนธรรมตามโจทย์การพัฒนาเชิงพื้นที่


  นางสาววราพรรณ ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงานเทศกาล “ เล่นว่าว กินข้าวนำกัน ” ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 19 – 20 พฤศจิกายน 2567 โดย ผศ.ณฐพรภัทร์ อินทร์ศิริพงษ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงกล่าวรายงานวัตถุประสงค์ ของการจัดงาน พระครูวิทิตพัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เขต 3 นายไชยันต์ ลิ้มมะ กำนันตำบลบ้านเลือก นายกิตติพล พรพิทักษ์พงศ์ สจ.เขต อ.โพธาราม พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และเครือข่ายลาวเวียงร่วมในพิธี และ นายวิเชษฐ์ ภู่ทอง รองนายกเทศมนตรีตำบลบ้านเลือก รักษาการนายกเทศมนตรีตำบลบ้านเลือกกล่าวต้อนรับผู้มาร่วมงาน

ด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงร่วมกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรม อำเภอโพธาราม เทศบาลตำบลบ้านเลือก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2 สภาวัฒนธรรมอำเภอโพธาราม และภาคีเครือข่าย ภายใต้การสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยวิทยสถาน รัชภูมิ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อนทุนทางวัฒนธรรมและเกิดการพัฒนาเชิงพื้นที่ ดำเนินการจัดงานเทศกาลเล่นว่าว กินข้าวนำกัน ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัย “เทศกาลว่าว โพธาราม วิถีว่าวไทย การขับเคลื่อนวัฒนธรรมเพื่อการฟื้นฟูอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมและภูมิปัญญาพื้นถิ่น โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อการพลิกฟื้นคุณค่าทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น รวมถึงสืบสานและอนุรักษ์ทุนทางวัฒนธรรมที่โดดเด่นของชาวลาวเวียงตำบลบ้านเลือก อำเภอโพธาราม การละเล่นพื้นบ้านอย่างการเล่นว่าวที่เริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลา ให้กลับมามีชีวิตชีวา ผ่านเส้นสายลายเสียงของการจัดงานเทศกาลโดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรมได้สนับสนุนงบประมาณ สำหรับจัดนิทรรศการด้านวัฒนธรรม รวมถึงวัดพระศรีอารย์ที่ได้ให้ความอนุเคราะห์สถานที่จัดงานในครั้งนี้งานเทศกาลเล่นว่าว กินข้าวนำกันครั้งนี้


ภายในงานได้มีการมอบวุฒิบัตรยกย่องปราชญ์ชุมชนผู้สืบสานอนุรักษ์ภูมิปัญญาชุมชน และมอบประกาศนียบัตรให้กับผู้นำชุมชน เครือข่ายผู้ร่วมงาน และมอบรางวัลการแข่งขันว่าวชิงแดน รางวัลประกวดว่าวสร้างสรรค์ การแสดงพื้นถิ่นพหุวัฒนธรรมลางเวียงตอน ลาวเวียงบนแผ่นดินสยาม และไฮไล้ของการจัดงานครั้งนี้ทางชมรมว่าววัดพระศรีอารย์ และเครือข่ายว่าวได้จัดทำว่าวจุฬา 9 ศอก เป็นว่าวจุฬาไทยโบราณใหญ่ที่สุดในประเทศ และใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมติดลายดอกเบญจรงค์ 5 สี บนตัวว่าวกว่า 10,000 หมื่นดอกอย่างสวยงามที่นำมาโชว์ภายในงานครั้งนี้


และภายในงานมีขบวนแห่เครือข่ายวัฒนธรรมลาวเวียงกว่า 300 คนการแสดง และแข่งขันเล่นว่าว โดยเฉพาะการแข่งว่าวชิงแดนที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน การแสดงรำจากกลุ่มนางรำของตำบลบ้านเลือกและเครือข่ายที่ร่วมกันฟ้อนรำตามวิถีลาวเวียง และกิจกรรมภายในงานมีการแข่งขันนวัตกรรมจากกระดาษว่าว การแข่งขันว่าวชิงแดน การประกวดว่าวสวยงาม นิทรรศการว่าว 3 ชาติพันธุ์ นิทรรศการ วิถีวัฒนธรรมลาวเวียง อาหารพื้นบ้านของลาวเวียงและไทยพื้นถิ่น ผลิตภัณฑ์สินค้าหลากหลายของชุมชน โครงงานอาชีพของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต ส่วนวันที่ 2 จะเป็นการละเล่นกีฬาพื้นบ้านลาวเวียงเชื่อมความสัมพันธ์ ร่วมกินข้าวชมการแสดงหมอลำแม่นิยม และหมอลำสุพรรณบุรี และการแสดงรำจากปราชญ์ชมขมขนผู้อนุรักษ์ท้องถิ่น และปิดท้ายด้วย การประกวดหนุ่ม-สาวลาวเวียงที่สะท้อนถึงวิถีอันดีงามของชาวลาวเวียงผ่านลูกหลาน
สำหรับบรรยากาศภายในงานสร้างความชื่นมื่นเป็นอย่างมาก มีว่าวจุฬา 9 ศอกใหญ่ที่สุดในประเทศโชว์กลางงาน ประชาชนชาวลาวเวียงแต่งกายได้ผ้าพื้นถิ่นตามเอกลักษณ์สวนงาม ได้มาร่วมกิจกรรมทานอาหารพื้นถิ่นชาวลาวเวียงร่วมกัน เด็ก ๆ ได้การเล่นว่าว วิ่งว่าว กิจกรรมประกวดว่าวความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมจากกระดาษว่าว ประกวดว่าวสวนงาม การเล่นว่าวชิงแดนจุฬา ปักเป้า กิจกรรมดีไอวาย สร้างความสนุกสนานเป็นอย่างมาก

ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

กาชาดนครปฐม หมุนวงล้อออกรางวัลสลากบำรุงกาชาดการกุศล ประจำปี พ.ศ. 2567 ประกาศคนโชคดีชิงรางวัลใหญ่ รถยนต์ Fortuner

กาชาด จังหวัดนครปฐม หมุนวงล้อออกรางวัลสลากบำรุงกาชาดการกุศล ประจำปี พ.ศ. 2567 ประกาศคนโชคดีชิงรางวัลใหญ่ รถยนต์ Fortuner



วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2567 เวลา 19.00 น. ณ ร้านกาชาด องค์พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานพิธีเปิดงานหมุนวงล้อเพื่อออกรางวัลสลากบำรุงกาชาดการกุศล ประจำปี พ.ศ. 2567 ซึ่งได้กำหนดจัดกิจกรรมการออกร้านมัจฉากาชาดในงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 12-20 พฤศจิกายน  2567 โดยมี  นายยงยุทธ สวนทอง นายปรีชา ดิลกพรเมธี นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ปลัดจังหวัดนครปฐม หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดนครปฐม คณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม และประชาชนร่วมพิธีและเป็นสักขีพยานในครั้งนี้


      ซึ่งจังหวัดนครปฐม ร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ได้จัดให้มีการออกร้านเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ภายในงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ประจำปี 2567  และจัดให้มีการจำหน่ายสลากบำรุงกาชาดการกุศล ประจำปี  2567  จำนวน 5,000 เล่ม รวม 100,000 ฉบับ จำหน่ายในราคาฉบับละ 100 บาท  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้มอบให้เหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม ไว้ใช้จ่ายในกิจการสาธารณกุศลต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ของสภากาชาดไทย
          

สำหรับ ผลการหมุนวงล้อเพื่อออกรางวัลสลากบำรุงกาชาดการกุศล ประจำปี พ.ศ. 2567 ได้แก่
รางวัลที่ 1 มี 1 รางวัล รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ Fortuner เลขที่ออก 42599
รางวัลที่ 2 มี 1 รางวัล รถยนต์กระบะ 4 ประตู เลขที่ออก 55887
• รางวัลที่ 3 มี 5 รางวัล รถจักรยานยนต์ เลขที่ออก 15719    34668    15825   00423   69034
• รางวัลที่ 4 มี 5 รางวัล รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เลขที่ออก 61496    29368    13708    80314    44275
• รางวัลที่ 5 มี 10 รางวัล สร้อยคอทองคำ หนัก 2 สลึง เลขที่ออก  2 9 8 6 3    44518    01309    37257    03311    76263   07819    77844    50856    74387
• รางวัลเลขท้าย 3 ตัว หมุน 2 ครั้ง มี 200 รางวัล พัดลมตั้งพื้น เลขที่ออก 290  629

          ทั้งนี้ รางวัลจะจ่ายให้แก่ผู้ถือสลากที่ถูกรางวัลมาขอรับเท่านั้น สามารถตรวจสอบผลการออกรางวัลได้ที่ ศาลากลางจังหวัดนครปฐม ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง หรือ Facebook : สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดนครปฐม / สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม  ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 034-340018 ในวันเวลาราชการ

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

สำนักงานอาชีวศึกษาจัดกิจกรรมประกวดสิ่งประดิษฐ์ “สุดยอดนวัตกรรม อาชีวศึกษา”

สำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดนครปฐม และสมุทรสาคร จัดกิจกรรมประกวดสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ ประจำปีการศึกษา 2568 “สุดยอดนวัตกรรม อาชีวศึกษา”

นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัด

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. ที่อาคารอเนกประสงค์ วิทยาลัยเทคนิคนครปฐม นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดการประกวดสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ ประจำปีการศึกษา 2568 “สุดยอดนวัตกรรม อาชีวศึกษา” ระดับกลุ่ม สำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดนครปฐม และสมุทรสาคร โดยว่าที่ร้อยตรี ดร.ชนะคมศร คงยืน ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนครปฐม ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานอาชีวชีวศึกษาจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีนโยบายในด้านพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนผู้เรียนอาชีวศึกษา เป็นการยกระดับคุณภาพอาชีวศึกษา

ว่าที่ร้อยตรี ดร.ชนะคมศร คงยืน ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคนครปฐม

  โดยการส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยพัฒนานวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์อาชีวศึกษาทุกระดับของสถานศึกษาในสังกัด เพื่อเพิ่มสมรรถนะผู้เรียนสู่กำลังคนสมรรถนะสูง สร้างทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม ทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ด้วยการสร้างผลงาน สร้างสรรค์งานวิจัยและนวัตกรรมอาชีวศึกษา ที่เกิดจากการบูรณาความรู้และทักษะในสาชาวิชาชีพ จาการเรียนรู้คิด วิเคราะห์ สร้างสรรค์ พัฒนาผลงานนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ ให้มีมาตรฐานเทียบได้กับระดับสากล และบูรณาการนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ และองค์ความรู้อาชีวศึกษาสู่ชุมชน สังคม ประเทศชาติ และนานาชาติ รวมทั้งส่งเสริมให้มีเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายได้กิจกรรมการประกวดสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ (OVEC Show & & Share)

สำหรับการประกวดสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ในครั้งนี้ แบ่งเป็น 7 ประเภท ได้แก่ สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตรหรือเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสมัยใหม่, สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์อุปกรณ์อัจฉริยะ, สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานสิ่งแวดล้อม, สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีอาหาร, สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ (HEALTH CARE), สิ่งประดิษฐ์ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ และสิ่งประดิษฐ์ประเภทกำหนดโจทย์ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการออกแบบผลิตภัณฑ์แฟชั่นไทย (Thai Fashion) โดยมีสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดนครปฐม ส่งผลงานเข้าร่วม จำนวน 76 ผลงาน และสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดสมุทรสาคร ส่งผลงานเข้าร่วม จำนวน 25 ผลงาน รวมทั้งสิ้น 101 ผลงาน


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม – ภาพ/ข่าว

รองปลัดกระทรวงแรงงาน นั่งหัวโต๊ะ รับข้อเสนอสมาคมฯ เตรียมพร้อมพัฒนาทักษะให้คนพิการและครอบครัว

รองปลัดกระทรวงแรงงาน นั่งหัวโต๊ะ รับข้อเสนอสมาคมฯ เตรียมพร้อมพัฒนาทักษะให้คนพิการและครอบครัว

นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เผยผลหารือร่วมสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย พร้อมรับข้อเสนอการพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่คนพิการทางสายตา มีแผนในปี 2568 พัฒนาทักษะให้คนพิการและครอบครัว จำนวน 600 คน

นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา ได้หารือร่วมกับนายเอกกมล แพทยานันท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย และคณะ เพื่อหาแนวทางการพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่คนพิการทางสายตา โดยขอให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานร่วมกับสมาคมในการพัฒนาหรือจัดทำหลักสูตรการฝึกอบรมเพื่อคนพิการทางสายตา การรับรองหลักสูตรการฝึกอบรมของกลุ่มผู้พิการทางสายตาเพื่อใช้ประกอบการยื่นขอรับการสนับสนุนการฝึกอบรมจากหน่วยงานภาครัฐอื่นที่มีภารกิจในการส่งเสริมและสนับสนุนคนพิการ รวมถึงดำเนินการจัดอบรมทักษะอาชีพให้แก่ผู้พิการทางสายตา เพื่อเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นและเพิ่มโอกาสการจ้างงานที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาอาชีพและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้พิการทางสายตา สำหรับหลักสูตรที่สนใจและต้องการให้ฝึกอบรมเบื้องต้น ได้แก่ หลักสูตรด้านการนวดไทย การทำอาหาร การทำขนม และงานที่เป็นทักษะด้านหัตถกรรม

นายเดชา กล่าวต่อว่า ในการส่งเสริมและพัฒนาทักษะให้แก่กลุ่มเปราะบางนั้น กรมพัฒนาฝีมือแรงงานมีเป้าหมายดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2568 มีเป้าหมายในการพัฒนาทักษะให้แก่คนพิการและครอบครัว จำนวน 600 คน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการแบ่งเป้าหมายไปให้จังหวัดเพื่อดำเนินการ โดยในปีนี้ มุ่งเน้นกับการฝึกทักษะที่จำเป็นและสามารถส่งเสริมให้คนพิการและครอบครัวที่ผ่านการอบรมแล้วมีงานทำ หรือสามารถป้อนเข้าสู่สถานประกอบกิจการที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับพื้นที่พักอาศัยเพื่อลดปัญหาเรื่องการเดินทาง เป็นการแก้ไขปัญหาทั้งการประกอบอาชีพของคนพิการและครอบครัว และสถานประกอบกิจการที่ต้องการจ้างคนพิการเข้าทำงานซึ่งต้องปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงสามารถนำค่าจ้างคนพิการไปใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีตามระบบการยื่นภาษีนิติบุคคลได้ด้วย ดังนั้น กลุ่มเปราะบางเหล่านี้ควรได้รับโอกาสอย่างทั่วถึง ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เร่งจัดทำหลักสูตรฝึกอบรมที่เหมาะสมกับการฝึกอบรมของผู้พิการ รวมถึงผู้พิการทางสายตาด้วย เพื่อเป็นการส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ผู้พิการได้มีทักษะสามารถนำไปประกอบอาชีพหรือเพิ่มโอกาสในการจ้างงานต่อไป จึงยินดีที่จะให้การสนับสนุนตามภารกิจของกรมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมและเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

ดังนั้น ผู้ดูแลคนพิการ บุคคลในครอบครัวที่ต้องดูแลคนพิการ หรือผู้พิการเองที่ต้องการประกอบอาชีพ ให้แจ้งความประสงค์เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรต่าง ๆ โดยแจ้งความประสงค์ได้ที่เว็บไซต์ของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ที่ลิ้ง DSD Training Needs Survey หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4 หรือกองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ 0 2245 4035

งานรวมพลคนรักบอนสีด่างป้าย ครั้งที่ 2

กำแพงแสน.เปิดงาน “รวมพลคนรักบอนสีด่างป้าย ครั้งที่ 2 ผู้นิยมคนรักบอนสีร่วมงานจำนวนมาก

เมื่อวันอาทิตย์ 17 พ.ย.67 ที่ผ่านมา นายนรวีร์ ขันธหิรัญ นายอำเภอกำแพงแสน เป็นประธานเปิดงาน “รวมพลคนรักบอนสีด่างป้าย ครั้งที่ 2 โดยมี นายสุวัจชัย เกียรติสกุลทอง นายก อบต.สระพัฒนา ร่วมงาน จัดขึ้นที่ อบต. สระพัฒนา ต.สระพัฒนา อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

โดย นายณัฐวุฒิ วัฒนกิจรุ่งโรจน์ หรือ คุณวุฒิ เจ้าของสวนกล้วยไม้ J&W Orchid ในนามผู้จัดงาน
  เปิดเผยว่า งานรวมพลคนรักบอนสีด่างป้าย ครั้งที่ 2 ได้จัดประกวด 1.ใบไทยด่างป้าย 2.ใบกลมด่างป้าย 3.ใบยาวด่างป้าย 4.ใบกาบด่างป้าย 5.ใบไผ่ใบหอก 6.ไม้เหลืองด่างป้ายไม่ค้ำไม่จำกัดความสูง 7.ด่างป้ายไม่ค้ำใบความสูงไม่เกิน 5 นิ้ว 8. ดารานพรัตน์ รวมทุกหน้า ส่วนรายการพิเศษ 1.แสงจันทร์ 2.กู้ดไนท์ 3.ซันเซสสกาย 4.ซันชายเดย์ 5.รวมพลศิลาแผลงทุกหน้า รวมรางวัลกว่า 200,000 บาท

นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวต่อว่า วัตถุประสงค์ในการจัดงาน เพื่อผลักดันและส่งเสริม บอนสีให้เป็นที่รู้จัก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งเสริมและกระตุ้นยอดขายบอลสีให้กับพ่อค้าแม่ค้าเพื่อเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้านการเกษตรภายในประเทศ ดึงดูดตลาดจากต่างประเทศให้รู้จักบอนสีและเข้ามาซื้อขายกับประเทศไทย สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักพัฒนาสายพันธุ์บอนสีให้มีความสวยงามหลากหลายมากขึ้น ให้ต่างชาติทราบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาสายพันธุ์บอลสี แนวหน้าของโลกในส่วนของบอลสีนั้น มีราคาตั้งแต่หลักสิบถึงหลักแสนบาท อีกด้วย

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เอาใจสาย IT เปิดอบรม”ฟรี” 3 หลักสูตร

กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน คัดโปรโมชั่นเด็ดเอาใจสายไอที จัดฝึกอบรม ฟรี!!! นักซอฟต์แวร์ DevOps Engineer อัดเต็ม 3 หลักสูตร

   นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสารสนเทศหรือ IT ที่พัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้มีตำแหน่งงานใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยหนึ่งในตำแหน่งที่มีความสำคัญในการพัฒนาซอฟต์แวร์ คือ DevOps Engineer หรือตำแหน่งของนักพัฒนาและผู้ปฏิบัติงานซอฟต์แวร์ กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานไอที โดยมีหน้าที่เป็นผู้ที่ออกแบบระบบการใช้ซอฟต์แวร์ให้สามารถนำมาใช้ได้จริง แก้ปัญหาซอฟต์แวร์ได้ ช่วยให้หน่วยงานผลิตซอฟต์แวร์ได้เร็วขึ้นและมีคุณภาพมาก จึงมีค่าจ้างในแต่ละเดือนค่อนข้างสูงตั้งแต่ 55,000 – 78,000 บาท

   กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน จึงดำเนินการตามนโยบายนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ต้องการพัฒนาทักษะฝีมือด้านเทคโนโลยีดิจิทัลผลิตกำลังแรงงานที่มีฝีมือป้อนสู่ตลาดแรงงาน โดยมอบหมายให้สถาบันพัฒนาบุคลากรดิจิทัล DiSDA คัดเลือกหลักสูตรที่จำเป็นและเป็นที่ต้องการของสถานประกอบกิจการในการพัฒนาพนักงาน เพื่อ Upskill ให้พนักงานมีทักษะสูงขึ้น รวมถึงแรงงานที่มีทักษะด้าน IT เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว แต่ต้องการเพิ่มศักยภาพของตนเองให้สามารถยกระดับเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้ ซึ่ง DiSDA เป็นหน่วยงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีหน้าที่หลักในการพัฒนาและจัดฝึกอบรมด้านดิจิทัลเป็นหลัก จึงคัดเลือกหลักสูตรที่อยู่ในความต้องการของตลาด เปิดรับสมัครฝึกอบรม 3 หลักสูตรสู่เส้นทาง DevOps Engineer ขึ้น โดยใช้ระยะเวลาฝึกอบรมไม่นาน เพียง 30 ชั่วโมงก็สามารถนำไปใช้หรือประยุกต์ใช้ในการทำงานได้

นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับ 3 หลักสูตร ประกอบด้วย (1) การออกแบบระบบในรูปแบบไมโครเซอร์วิส Microservice ฝึกอบรมระหว่างวันที่ 6 – 7,16 – 17 มกราคม 2568 (2) การออกแบบระบบให้รองรับการทำงานผ่านคลาวด์ Cloud Native ฝึกอบรมระหว่างวันที่ 13 – 14,20 – 21 กุมภาพันธ์ 2568 และ (3) การพัฒนาโปรแกรมอัตโนมัติด้วย DevOps (CI/CD) ฝึกอบรมระหว่างวันที่ 10 – 11,17 – 18 มีนาคม 2568 ทั้ง 3 หลักสูตร อบรม On-site ณ อาคาร Smart Training Center สถาบันพัฒนาบุคลากรดิจิทัล กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน กรุงเทพมหานคร รับจำนวนจำกัดเพียงหลักสูตรละ 20 คนเท่านั้น ในครั้งนี้ อบรมให้ฟรี เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับแรงงานได้พัฒนาตนเอง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ ประมาณ 3,000 – 5,000 บาทต่อหลักสูตร อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การฝึกมีคุณภาพ ซึ่งผู้เข้าอบรมต้องมีความรู้พื้นฐานด้านดิจิทัลในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น ใช้โปรแกรมภาษา Java ได้ หรือผ่านการอบรม Basic Network มาแล้ว หรือมีประสบการณ์การทำงานในด้านดิจิทัลหรืองานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น จึงกำหนดให้มีการสอบคัดเลือกผู้เข้าอบรม ในวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ผ่านระบบออนไลน์

  ผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้เข้ารับการฝึกอบรมต้องเตรียมโน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์มาใช้ในการฝึกอบรมด้วย สมัครได้ที่ https://forms.gle/H3hwtAzMREnjVA3G7 และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2643 4981 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4 นายเดชา กล่าวในท้ายสุด

ตร.กำแพงแสน เปิดมาตรการ เปิดโรงเรียน เปิดโรงรถ ทำลายท่อซิ่ง

ตำรวจ สภ.กำแพงแสน เปิดโครงการมาตรการเปิดโรงเรียน เปิดโรงรถ ทำลายท่อซิ่ง

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่15 พ.ย.67 พ.ต.อ.ปราโมทย์ โพธิ์พันธุ์ ผกก.สภ.กำแพงแสน เปิดโครงการมาตรการเปิดโรงเรียน เปิดโรงรถ และแถลงข่าวทำลายท่อซิ่ง พร้อมด้วย พ.ต.ท.ยศพงศ์ พันธุ ผกก.ป.สภ.กำแพงแสน พ.ต.ต.ไชยวัฒน์ ทองคงหาญ สวป.กำแพงแสน  โดยเริ่มขึ้นที่โรงเรียนกำแพงแสนวิทยา อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

   พ.ต.อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจัดขึ้นตามนโยบายของ พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.พิพัฒน์ ชุ่มมณีกูล
รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญ โรงเรียนกำแพงแสนวิทยา ซึ่งโรงเรียนกำแพงแสนวิทยานั้น เป็นโรงเรียน ประจำอำเภอ มีนักเรียนวัยรุ่น ศึกษาอยู่เป็นจำนวนมากและมีโอกาสเสี่ยง ที่นักเรียนนั้นจะนำรถไปใช้ในการกระทำความผิด ทั้งในเรื่อง การแข่งขันรถในทางฯ หรือนำรถไปดัดแปลงสภาพรถให้เกิด ท่อไอเสีย เสียงดัง แล้วนำไป ขับขี่ก่อความเดือดร้อนรำคาญกับประชาชนทั่วไป

   โดยวันนี้สุ่มตรวจรถจยย.ของนักเรียนกลุ่มเสี่ยงในการดัดแปลงสภาพรถ ได้จำนวน 18 คัน พร้อมทั้งทำการว่ากล่าวตักเตือน ให้แก้ไข พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ห้ามมิให้แข่งรถในทางหากพบเห็นจะดำเนินการโดยเด็ดขาดและจริงจัง โดยจะมีการติดตามผลเป็นประจำทุกๆเดือน

  ในส่วนของผลปฏิบัติงานของ สภ.กำแพงแสน รถจยย.ที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ดัดแปลงสภาพท่อไอเสีย ส่งเสียงดังไม่พกสำเนาคู่มือประจำรถนั้น สภ.กำแพงแสน ได้กวดขันจับกุม ตั้งแต่ เดือน มกราคม พ.ศ. 2567 จนถึงปัจจุบัน โดยมีผลการจับกุม ดังนี้ ตรวจยึดรถจยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไม่พกสำเนาทะเบียนรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถตัดแปลงสภาพรถ ท่อไอเสียเสียงดัง พร้อมจัดทำประวัติกลุ่มเสียง จำนวนทั้งสิ้น 320 คันกับ และ เปรียบเทียบปรับแล้ว จำนวนทั้งสิ้น 299 คัน ส่วนยังมิได้มาทำการเปรียบเทียบปรับและแก้ไขอีก จำนวน 21 คันได้มีการตรวจยึดท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐาน มอก.ทั้งสิ้น 45 อัน โดยผู้ครอบครองรถนั้น สมัครใจส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปทำลายเอง สภ.กำแพงแสน จะนำมาทำลายที่บริเวณ ด้านหน้า สภ.กำแพงแสนต่อไป

ราชบุรี – ซ้อมใหญ่ฟ้อนรำ ทำอาหารเตรียมงาน “เล่นว่าว กินข้าวนำกัน”

   ซ้อมใหญ่ฟ้อนรำเกือบ 300 ชีวิต เตรียมงานเทศกาล “ เล่นว่าว กินข้าวนำกัน ” ที่วัดพระศรีอารย์ จ.ราชบุรี ชาวบ้านโชว์เมนูอาหารพื้นถิ่น แกงถั่วใน ส้มตำลาวเวียง และขนมพอคำ

วันที่ 11 พ.ย. 67 ที่วัดพระศรีอารย์ ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้มีการซักซ้อมการฟ้อนรำสุดยิ่งใหญ่อลังการของการเตรียมจัดงานเทศกาล “ เล่นว่าว กินข้าวนำกัน ” ของชาวไทยเชื้อสายลาวเวียง  จัดโดยมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาพื้นที่ (บพท.) ขับเคลื่อนทุนทางวัฒนธรรมตามโจทย์การพัฒนาเชิงพื้นที่ บริเวณลานหน้าวัดพระศรีอารย์ อ.โพธาราม ระหว่างวันที่ 19 – 20 พ.ย. 67 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ด้วยการซักซ้อมฟ้อนรำลาวเวียง

  ด้วยนางรำจากหลายพื้นที่เกือบ 300 คน ควบคุมดูแลการซ้อมโดย ดร.รัชนิดา รอดอิ้ว อาจารย์คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง นายสันทัด สุทธิพงษ์ ประธานสภาวัฒนธรรม อ.โพธาราม มีทั้งกลุ่มเด็กและเยาวชนจิตอาสา และผู้สูงอายุแต่งกายด้วยเสื้อผ้าทอมือสีสันสดใสมาในชุดลาวเวียงประจำถิ่น ชาวบ้านบางคนนุ่งผ้าก่วย ซึ่งเป็นผ้าของชาวลาวเวียง ที่หาชมได้ยากแล้วสำหรับผ้าทอมือลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณ์ในท้องถิ่นได้ถูกนำมานุ่งสวมใส่รำในวันเปิดงาน

   การจัดงานครั้งนี้ พระครูวิทิตพัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ ได้นำว่าวจุฬาตัวใหญ่ และว่าวไฟมาแสดงโชว์ เพื่อซักซ้อมก่อนถึงวันจัดงานจริง อีกทั้งทางชุมชนได้นำอาหารพื้นถิ่นที่ขึ้นชื่อของชาวลาวเวียงทั้งอาหารคาว หวานมาทดลองการทำโชว์ให้กับคณะนางรำได้ชิมระหว่างช่วงฝึกซ้อมการรำ อาทิ แกงถั่วใน เป็นแกงพื้นถิ่นของชาวลาวเวียง มีวัตถุดิบ ได้แก่ ถั่วเขียวคั่ว หัวปลี กระเทียม หอม กระชาย ตะไคร้ พริกแห้ง ปลาช่อนย่าง จะใช้ทุกอย่างลงไปโขลกรวมกันยกเว้น ถั่วเขียว ปลาช่อนย่าง และหัวปลี โดยให้นำเครื่องที่โขลกลงไปคนในหม้อที่มีน้ำเดือดได้ที่ เสร็จแล้วจึงใส่ปลาช่อนย่างและถั่วเขียวคั่วและหัวปลีลงไป แล้วคนให้เข้ากันให้ทุกอย่างสุกได้ที่จนน้ำเริ่มข้น ชิมให้รสชาติกลมกล่อม จะมีกลิ่นหอมของกระชายโชยออกมา รสชาติคล้ายน้ำยากะทิใส่ปลาคล้ายภาคกลางของไทย กินกับข้าวสวยร้อน ๆ อร่อยมาก

  
ต่อมาเป็นส้มตำลาวเวียงมีวัตถุดิบที่คล้ายของไทยหลายอย่าง จะมีที่แปลกคือ จะใส่ละมุดดิบ กล้วยดิบ ลูกยอ ลูกขนุนดิบ จะใส่ปลาย่าง ส่วนผักอื่น ๆ ก็มีลักษณะคล้ายกัน แต่จะไม่มีปลาร้า ไม่มีปูเค็ม เหมือนทางของไทยอีสาน รสชาติแซบ สามรส ออกเปรี้ยวนำ สอบถามชาวบ้านบอกว่ากินส้มตำลาวเวียง ไม่ต้องกลัวจะเสาะท้อง เพราะวัตถุดิบจะเป็นสมุนไพรรักษาท้องทั้งหมด เช่น กล้วยดิบ ลูกยอ เป็นสมุนไพรอย่างดีช่วยให้สบายท้อง ที่สำคัญภาชนะที่ใช้ในงานนี้จะเป็นภาชนะที่ย่อยสลายได้ เพื่อเป็นการช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของชุมชน


   นอกจากนี้ทางเจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ ยังได้ให้ชาวบ้านผัดหัวไชโป้วผัดไข่ ผัดกระเพรา และผัดเผ็ดมะเขือ พร้อมข้าวสวยร้อน ๆ มาเลี้ยงชาวบ้านที่มาร่วมงาน ซึ่งหลวงพ่อบอกว่างาน เล่นว่าว กินข้าวนำกันปีนี้ ทางวัดได้เตรียมเมนูอาหารพื้นถิ่นไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ชิมไว้พร้อมแล้ว


ส่วนเมนูอาหารหวานพื้นถิ่นชื่อว่า “ ขนมพอคำ ” ใช้วัตถุดิบมีถั่วเขียว พริกไทย กระเทียมเฉพาะไส้ ส่วนเนื้อแป้งจะมีแป้งมัน แป้งข้าวเหนียว มีใบป่านเป็นใบไม้ในท้องถิ่นลาวเวียงนำมาอบแล้วตำผสมเข้ากับแป้ง ซึ่งส่วนมากชาวบ้านจะเอามาผสมทำขนมเทียน มีลักษณะเหนียวนุ่ม โดยจะนำมาปั้นเป็นลูกกลม ๆ จะมีไส้อยู่ข้างใน พอปั้นมีไส้แล้วจึงนำไปทอดให้เหลือง พอได้ที่ก็ช้อนขึ้นพักไว้ จากนั้นเคี่ยวน้ำตาลให้เหนียวข้น แล้วนำขนมลงไปคนให้เข้ากันอีกรอบจะได้รสชาติหวานนอก คล้ายกับการกินขนมไข่เต่ากับไส้ขนมเทียนไส้เค็ม ลักษณะกรอบนอกนุ่มใน อย่างไรก็ตามสำหรับการฝึกซ้อมครั้งนี้ได้รับความร่วมแรงร่วมใจจากชุมชนลาวเวียงจากหลายพื้นที่ ซึ่งอาศัยอยู่ในจังหวัดราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เดินทางมาร่วมฝึกซ้อม หวังให้การจัดงานเทศกาล เล่นว่าว กินข้าวนำกัน ของ จ.ราชบุรี ที่จัดขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของชาวไทยเชื้อสายลาวเวียง และประเพณีการเล่นว่าวกินข้าวนำกันที่ถูกฟื้นฟูเป็นครั้งแรก โดยหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันสนับสนุน จะยิ่งใหญ่ตระการตาขนาดไหนต้องรอชมในวันเปิดงานที่ลานหน้าวัดพระศรีอารย์ วันที่ 19–20 พฤศจิกายนนี้

ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

เหล่ากาชาดจังหวัดกาญจน์ รับสิ่งของบริจาค เตรียมจัดงานวันรวมน้ำใจให้กาชาด ประจำปี 2567

กาญจนบุรี – เหล่ากาชาดจังหวัดกาญจน์ รับสิ่งของบริจาค ในงานวันรวมน้ำใจให้กาชาด ประจำปี 2567 เพื่อจัดหารายได้นำไปใช้สำหรับดำเนินการตามภารกิจของเหล่ากาชาด

วันนี้ 7 พฤศจิกายน 2567  นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นางวิมลทิพย์ เวียงสิมมา รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ว่าที่ ร.ต. ศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมรับสิ่งของบริจาค ในงานวันรวมน้ำใจให้กาชาด ประจำปี 2567 โดยมีผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมบริจาคเงินและสิ่งของได้แก่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน ตู้เย็น โทรทัศน์ หม้อหุงข้าว กระติกน้ำร้อน พัดลม เตารีด อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม และอื่นๆ ณ บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี

ทั้งนี้ ของบริจาคดังกล่าว เพื่อนำไปใช้ในการออกร้านกาชาดประจำปี 2567 ภายในงานสัปดาห์สะพานข้ามแม่น้ำแควและงานกาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ประจำปี 2567 ในระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน 8 ธันวาคม 2567 ณ บริเวณลานข้างองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี สำหรับกิจกรรม “มัจฉากาชาด” จำหน่ายใบละ 20 บาท และ “การจำหน่ายสลากกาชาดการกุศล” ในราคาใบละ 100 บาท เพื่อร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ รถยนต์ Toyota yaris Ativ 1.2 Sport และรางวัลอีกมากมาย ซึ่งรายได้จากการจัดกิจกรรมฯ จะนำไปใช้สำหรับดำเนินการตามภารกิจของเหล่ากาชาดจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลของสภากาชาดไทย มีหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งส่งเสริมคุณภาพชีวิต ภายในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ต่อไป

     ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์

ราชบุรี – ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เตรียมจัดเทศกาล “ เล่นว่าวกินข้าวหนำกัน ”

มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี ร่วมกับอำเภอโพธาราม วัฒนธรรมจังหวัด และภาคีเครือข่าย เตรียมจัดเทศกาล “ เล่นว่าวกินข้าวหนำกัน ” ระหว่างวันที่ 19-20 พ.ย. ลานหน้าวัดพระศรีอารย์ เพื่อสืบสานวัฒนธรรมลาวเวียง


   พระครูวิทิตพัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ ผศ.ดร. ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ดร.นภสร โศรกศรี วัฒนธรรมจังหวัด นายศุภชัย ครุฑดำ นายอำเภอโพธาราม พร้อมภาคีเครือข่าย แถลงเตรียมจัดงานเทศกาล “ เล่นว่าว กินข้าวหนำกัน ” เพื่อสืบสานวัฒนธรรมชาวไทยเชื่อสายลาวเวียง ครั้งที่ 1 บริเวณหน้าลานวัดพระศรีอารย์ ต.บ้านเลือก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โดยมีผู้แทนจากเทศบาลตำบลบ้านเลือก ผู้แทนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2 ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมการจัดงาน ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 20 พ.ย. 67


  ผศ.ดร.ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการอุดมการศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม ได้ทำงานสำคัญในการดึงเอาทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างคุณค่า เพื่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนประเทศ หรือ ที่รู้จักกันในคำว่า ซอฟเพาเวอร์ หนึ่งในซอฟเพาเวอร์ก็คือ งานประเพณี หรือ เรียกว่า เฟสติวัล ทุนทางวัฒนธรรมที่ผ่านงานที่เป็นเทศกาล ทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยฯได้เข้ามาดำเนินการขับเคลื่อนในพื้นที่ตำบลบ้านเลือก เพื่อนำขึ้นมาเป็นเทศกาลจะเป็นเหมือนตัวแทน จ.ราชบุรี ทำให้เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ สิ่งที่สำคัญจะต้องยึดโยงกับคนในตำบลบ้านเลือก จากงานวิจัยค้นพบว่าตำบลบ้านเลือกมีชาวลาวเวียง 7 หมู่บ้านได้เล่นว่าวมาแต่โบราณ จึงต้องดึงเอาพื้นที่ที่มีทุนทางวัฒนธรรมผ่านงานเทศกาล เนื่องจากรัฐบาลอยากจะทำให้เทศกาลได้สร้างมูลค่าเศรษฐกิจให้กับประเทศ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ จ.ราชบุรี ที่เลือกพื้นที่ อ.โพธารามในการจัดงานดังกล่าว สิ่งที่สำคัญจะต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม


เทศกาล เล่นว่าวกินข้าวหนำกัน เป็นทุนทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ทำอย่างไรที่จะให้มหาวิทยาลัยฯได้เข้าไปช่วยทำให้ทุนทางวัฒนธรรมนี้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะส่งผลด้านการท่องเที่ยว จะมีคนมาเที่ยวชมงานครั้งแรกของราชบุรี ที่มหาวิทยาลัยฯ ได้เข้ามามีส่วนร่วม มองว่าที่โพธาราม ชุมชนบ้านเลือกมีประเพณีสำคัญคือ ประเพณี เล่นว่าว ซึ่งจริง ๆ แล้วว่าวมีทั้งระดับโลก และในประเทศ จึงเป็นการมาช่วยกันฟื้นฟูสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่งที่เกิดขึ้นใน อ.โพธาราม ที่สำคัญที่บ้านเลือกยังมีชุมชนเก่าแก่ คือ ลาวเวียง มีหลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น ประเพณีแต่งกายและเรื่องอาหาร ทั้ง 2 อย่าง จึงนำมาผนวกกันจัดเทศกาลเล่นว่าว กินข้าวหนำกัน ถือเป็นสิ่งที่จะช่วยกันฟื้นฟูสิ่งที่ดีงามให้กับคนราชบุรี สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ขับเคลื่อนเป็นซอฟเพาเวอร์ให้กับประเทศไทย


  พระครูวิทิตพัฒนโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระศรีอารย์ กล่าวว่า ฤดูกาลเล่นว่าวมาแล้ว ฤดูหนาวมาแล้วต้องไปเที่ยวกัน ฤดูกาลจะบอกว่ามีอะไรให้เรากินให้เราเที่ยวบ้าง เราต้องไปตามฤดูกาลนั้น เป็นซอฟเพาเวอร์ไม่จนไม่เจ็บ เพราะไม่จนก็คือไม่ต้องซื้อ ไม่เจ็บก็เป็นมีสมุนไพร บรรยากาศมี ธรรมชาติมี ขอให้ไปเที่ยวกันตามฤดูกาล วัดพระศรีอารย์ มีฤดูกาลเล่นว่าวกินข้าวหนำกันของลาวเวียง คนที่เป็นลาวขอให้มาเลยทั่วประเทศ มากินข้าวฟรี ที่วัดพระศรีอารย์ มีผักต้มน้ำพริก ไข่เจียวให้กินฟรี ไม่จน ไม่เจ็บ
สำหรับการจัดงานมีไฮไลท์สำคัญ จะมีการนำว่าวจุฬา 9 ศอก ติดดอกลายเบญจรงค์กว่า 10,000 ดอก มาเป็นจุดถ่ายภาพของการจัดงานเทศกาลว่าว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายภาพที่สวยงามกับความอลังการของว่าวไทยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและใหญ่ที่สุดในโลก มีการประกวดว่าวชิงแดน การประกวดว่าวสวยงาม การประกวดนวัตกรรมจากกระดาษว่าว ของนักเรียนและประชาชนทั่วไป การเรียนรู้และการประดิษฐ์การทำว่าวปักเป้าโบราณ นิทรรศการว่าวไทย การประกวดหนุ่มสาวลาวเวียง การแสดงพื้นถิ่นพหุวัฒนธรรม ลาวเวียง ตอน ลาวเวียงบนแผ่นดินสยาม การแสดงนางรำของตำบลบ้านเลือกและเครือข่าย 200 คน การแข่งขันกีฬาพื้นบ้านเชื่อมสัมพันธ์ อาทิ เดินกะลา ตีคลี ยิงหนังสะติ้ก ท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุคสมัยโบราณของการนั่งแคร่ไม้ไผ่กินข้าวหนำกัน จากอาหารพื้นถิ่นของชาวลาวเวียง กินฟรี เที่ยวฟรีมีความสุข กระตุ้นการท่องเที่ยวต้อนรับลมหนาวปลายปีนี้ เชิญมาเที่ยวกันได้

ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

“ปธ.อธิการบดี” มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ลงนาม MOU พัฒนาเครือข่าย มหาวิทยาลัยฯ

ผู้บริหาร ทปอ.มทร. ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ กับเครือข่ายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล

  วันที่ 28 ตุลาคม 2567 ที่ มทร.รัตนโกสินทร์ นำโดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี ในนามประธานอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปอ.มทร.) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การขับเคลื่อนนวัตกรรมพร้อมใช้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อพัฒนาพื้นที่ (Appropriate Technology) ระหว่างหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กับเครือข่ายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล

  โดยมีผู้ร่วมลงนาม ได้แก่ 1.ดร.กิตติ สัจจาวัฒนา ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ 2.รศ.ดร.พิชัย จันทร์มณี อธิการบดี มทร.กรุงเทพ 3.ศ.ดร.สุวัจน์ ธัญรส อธิการบดี มทร.ศรีวิชัย 4.รศ.ดร.ประมุข อุณหเลขกะ อธิการบดี มทร.สุวรรณภูมิ 5.รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดี มทร.อีสาน 6.รศ.ดร.อุเทน คำน่าน รักษาราชการแทนอธิการบดี มทร.ล้านนา 7.รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด รักษาราชการในตำแหน่งอธิการบดี มทร.ธัญบุรี 8. ดร.ณัฐวรพล รัชสิริวัชรบุล อธิการบดี มทร.พระนคร และ 9. รศ.ดร.ฤกษ์ชัย ฟูประทีปศิริ อธิการบดี มทร.ตะวันออก

  ทั้งนี้ รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ อธิการบดี มทร.รัตนโกสินทร์ ประธานอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (ทปอ.มทร.) กล่าวสรุปแนวทางการขับเคลื่อนและสนับสนุนการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่เป็นนวัตกรรมพร้อมใช้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมไปใช้ประโยชน์ ของเครือข่ายมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ร่วมกับ บพท. ณ ห้องกมลมาศ ชั้น 6 โรงแรม เดอะสุโกศล กรุงเทพมหานคร

ภาพ-ข่าว ประพฤติ อรรฆธน

กระทรวงแรงงานจับมือ”คาเธ่ย์ แปซิฟิค”คัดเลือก”แอร์-สจ๊วต” กว่า 1,000 อัตรา

ข่าวดี!! ก.แรงงาน จับมือ คาเธ่ย์ แปซิฟิค “ปลัดบุญสงค์”นำทัพ MOL Matching คัดแอร์-สจ๊วต กว่า 1,000 อัตรา จ้าง 3 ปี ฟัน 40,000 บาท/เดือน เริ่มสแกนคัดเลือก 27-29 ต.ค.นี้ ที่ รร.แมริออท สุวรรณภูมิ

วันที่ 27 ตุลาคม 2567 นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพบปะพูดคุยให้กำลังใจกับผู้ที่มาเข้ารับการสอบสัมภาษณ์คัดเลือกพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เพื่อเข้าทำงานกับบริษัทคาเธ่ย์ แปซิฟิค ซึ่งเป็นสายการบินของฮ่องกง ที่มีความต้องการพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินกว่า 1,000 อัตรา


โดย คุณ Patrick Chan (แพททริค ชัน) , Talent acquisition manager-service delivery (inflight) (ผู้จัดการแผนกบุคคลฝ่ายสรรหาบุคลากร การบริการบนเครื่อง) มอบหมายให้คุณ Elaine Yip (อีเลน ยิป),
Talent acquisition Lead -Hong Kong (หัวหน้าแผนกบุคคลฝ่ายสรรหาบุคลากร การบริการบนเครื่อง) เป็นผู้ให้การต้อนรับ ณ โรงแรมคอร์ทยาร์ด บาย แมริออท กรุงเทพ สุวรรณภูมิแอร์พอร์ต

นายบุญสงค์ กล่าวว่า ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้แรงงานไทยได้ไปทำงานในประเทศที่มีศักยภาพ สอดคล้องกับนโยบาย “หลักประกันสังคมเด่น เน้นทักษะทันสมัย คนไทยมีงานทำ สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย เศรษฐกิจ แรงงานไทยมั่นคง” โดยเฉพาะตลาดแรงงานในต่างประเทศ ปัจจุบันมีแรงงานไทยทำงานอยู่ในต่างประเทศ จำนวน 142,924 คน ประเทศที่มีแรงงานไทยทำงานมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น อิสราเอล และมาเลเซีย ตามลำดับ ในส่วนของฮ่องกงมีแรงงานไทยทำงานอยู่ จำนวน 1,947 คน และปัจจุบันพบว่า ฮ่องกงยังขาดแคลนแรงงานทักษะฝีมือและกึ่งฝีมือเป็นจำนวนมาก รวมถึงตำแหน่งในภาคธุรกิจการบิน โดยเฉพาะพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่พบว่ายังมีความต้องการสูง

นายบุญสงค์ กล่าวต่อว่า ในวันนี้ ผมพร้อมด้วยท่านอธิบดีกรมการจัดหางาน และท่านทูตแรงงานเมืองฮ่องกง และผู้บริหารบริษัทคาเธ่ย์ แปซิฟิค จึงได้มาเยี่ยมการสัมภาษณ์งานและพบปะพูดคุยเพื่อให้กำลังใจน้องๆ ที่มาสอบ ซึ่งผู้ที่ผ่านการสัมภาษณ์และผ่านการตรวจร่างกายตามเงื่อนไขที่ทางบริษัทกำหนดนั้น จะได้รับการจ้างงาน และเดินทางไปทำงานที่ฮ่องกง โดยจะได้รับค่าจ้าง 9,100 เหรียญฮ่องกง หรือประมาณ 40,248 บาท (1 HKD = 4.4229 บาท) มีระยะเวลาสัญญาจ้าง 3 ปี ชั่วโมงการทำงาน 70 ชั่วโมง ค่าล่วงเวลา จำนวน 180 เหรียญฮ่องกงต่อชั่วโมง หรือประมาณ 796 บาทต่อชั่วโมง วันลาหยุดประจำปี จำนวน 21 วัน สิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาล ค่าที่พัก ปีที่ 1 – ปีที่ 2 จำนวน 7,000 เหรียญฮ่องกงต่อเดือน หรือประมาณ 30,960 บาทต่อเดือน และปีที่ 3 จำนวน 5,800 เหรียญฮ่องกงต่อเดือน หรือประมาณ 25,653 บาทต่อเดือน

“โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงแรงงาน กับ บริษัทคาเธ่ย์ แปซิฟิค ดำเนินการรับสมัครและจัดส่งคนหางานไปทำงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน (Flight Attendant) ซึ่งในปี 2567 ได้ดำเนินการ 3 ครั้ง รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,213 อัตรา ครั้งแรกเดือนมกราคม รับสมัคร 413 อัตรา ผ่านการคัดเลือก 412 คน ขณะนี้ได้เดินทางไปทำงานเรียบร้อยแล้ว ครั้งที่ 2 เดือนพฤษภาคม รับสมัคร 400 อัตรา ผ่านการคัดเลือก 389 คน เดินทางไปทำงานแล้ว 155 คน เตรียมเดินทางไปอีก 245 คน และในวันนี้เป็นครั้งที่ 3 รับสมัครเดือนกันยายน 400 อัตรา มีผู้มีสิทธิสอบ 894 คน ซึ่งกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานแรงงาน ณ เมืองฮ่องกง และกรมการจัดหางาน ได้ร่วมกันดำเนินการประกาศ และคัดเลือกบุคคลตามเงื่อนไข โดยวิธีการสอบสัมภาษณ์วันละ 300 คน ในระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคมนี้” นายบุญสงค์ กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สนใจที่จะไปทำงานต่างประเทศ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวการรับสมัครงานไปทำงานต่างประเทศได้ที่ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน http://www.doe.go.th หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506

องคมนตรี ติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและช่วยเหลือราษฎรบ้านหนองเสือ ตำบลหนองดินแดง อำเภอเมืองนครปฐม

  องคมนตรี ลงพื้นที่ติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการพิจารณาแนวทางช่วยเหลือราษฎรบ้านหนองเสือ ตำบลหนองดินแดง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

วันที่ 25 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุก องคมนตรี ประธานอนุกรรมการการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่ภาคกลาง ลงพื้นที่ติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและการพิจารณาแนวทางช่วยเหลือราษฎรบ้านหนองเสือ ณ โรงเรียนบ้านหนองเสือ (เรืองวิทยานุกูล) ตำบลหนองดินแดง อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยมีนางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย ดร.สุทธิวัฒน์ มากมี ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดหนองเสือ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรโยธา กรมชลประทาน ผู้แทนจากรมเจ้าท่า ชลประทานจังหวัด เกษตรจังหวัด นายอำเภอเมืองนครปฐม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะครูและนักเรียนให้การต้อนรับ พร้อมประชุมรายงานตามที่ได้มีราษฎรบ้านหนองเสือ ยื่นหนังสือต่อเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ถวายฎีกา) กรณีประสบปัญหาอุทกภัยในฤดูฝน เนื่องจากคลองท่าผา-บางแก้ว ช่วงที่ไหลผ่านโรงเรียนวัดหนองเสือ มีความตื้นเขิน และไม่มีพนังกั้นน้ำ จึงไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้มีน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมพื้นที่โรงเรียนและบ้านเรือนประชาชนโดยรอบ ในช่วงฤดูแล้งจะประสบปัญหาน้ำอุปโภคบริโภคและการทำเกษตรกรรม

โดยที่ประชุมได้มีแนวทางการแก้ไข ตลอดถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น เบื้องต้นกรมชลประทานเตรียมดำเนินการขุดลอกคลองระบายน้ำ 1 ขวา ท่าผา-บางแก้ว ความยาว 9 กิโลเมตร พร้อมรื้อถอนสิ่งกีดขวางทางน้ำ อีกทั้งก่อสร้างพนังกั้นน้ำพร้อมติดตั้งราวกันตกทั้งสองฝั่ง ความยาวรวม 220 เมตร และปรับปรุงถนนคันคลองระบายน้ำ 1 ขวา ท่าผา-บางแก้ว ความยาวรวม 280 เมตร

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ กปร. ได้เตรียมสรุปผลและข้อมูลจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสนอต่อที่ประชุมคณะองคมนตรี ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อพิจารณากลั่นกรอง และกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงมีพระราชวินิจฉัย รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต่อไป

พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุก องคมนตรี

โอกาสนี้ องคมนตรีได้แนะนำการปลูกหญ้าแฝก เพื่อช่วยป้องกันการพังทลายของคันดิน อีกทั้งนำตัวอย่างการสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมของมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ซึ่งสามารถป้องกันน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมลงพื้นที่ดูสภาพปัญหาคลองที่จะต้องดำเนินการแก้ไข สภาพโดยรวมของโรงเรียน และมอบอุปกรณ์กีฬาให้โรงเรียนบ้านหนองเสือ


สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม - ภาพ/ข่าว

ราชบุรี – นักวาดโปสเตอร์หนังในตำนาน ยึดอาชีพมานานกว่า 40 ปี อนาคตคงเหลือแค่อนุรักษ์ผลงาน

ราชบุรี – พาไปชมนักวาดภาพโปสเตอร์หนังเก่า ทั้งในและต่างประเทศ จากฝีมือศิลปินชาว อ.เมือง จ.ราชบุรี ยึดอาชีพมานานกว่า 40 ปี ปัจจุบันเหลือน้อยมา ต่อไปคงเหลือให้เห็นแค่การอนุรักษ์ผลงาน


วันที่ 21 ต.ค. 67  ภาพโปสเตอร์หนังหรือใบปิดยุคเก่า ที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ ผลงานการวาดของนายจินดา อมรรัตนวงศ์ อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 / 5 หมู่ 5 ต.บางป่า อ.เมือง จ.ราชบุรี ที่ได้ยึดอาชีพการวาดรูปโปสเตอร์หนังสีน้ำมัน และสีอะคริลิค มานานกว่า 40 ปี โดยใช้นามปากกาว่า “ จินดา และเดชกร ” มีผลงานเป็นที่รู้จักมากมาย ที่เข้าสู่โรงภาพยนตร์นับพันเรื่อง อาทิ ภาพยนตร์จีน ตำรวจผ่านรก นำแสดงโดยเจิ้นจื่อตัน จางเอี้ยวหยัง โหดเด็ดเดียว นำแสดงโดย โจวเหวินฟะ จางจู่หง โรงเรียนกำจัดผี 2 และโรงเรียนกำจัดผี 3 และอีกหลากหลายผลงาน ล้วนแล้วแต่สร้างชื่อเสียงกับภาพยนต์ในวงการหนักไทย และหนังต่างประเทศจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

นายจินดา อมรรัตนวงศ์ อายุ 66 ปี

  นายจินดา อมรรัตนวงศ์ ศิลปินนักวาดภาพโปสเตอร์หนัง กล่าวว่า เข้าสู่วงการวาดภาพมานานเกือบ 40 ปีแล้ว โดยเฉพาะโปสเตอร์หนังน่าจะอยู่ราว ๆ เกือบ 30 ปี จุดประกายของการวาดภาพช่วงแรกจะชอบเดินแถวโรงหนังต่างจังหวัด สมัยนั้นเป็นเด็กอยู่ จ.ตรัง เห็นมีการเขียนโปสเตอร์หนังขนาดใหญ่ที่มีชื่อ อาจารย์ทองดี อาจารย์บรรหาร ซึ่งเป็นศิษย์ของอาจารย์เปี๊ยกมาก่อน จึงมีความคิดว่าสักวันจะต้องมีชื่อ มีลายเซ็นในโปสเตอร์นี้ให้ได้ พออายุได้ 13 ปี ได้ขึ้นรถไฟจากภาคใต้มาตามหาอาจารย์อยู่ประมาณ 1 ปี ระหว่างนั้นได้ไปเรียนเกี่ยวกับสัดส่วนวาดภาพก่อน และมีโอกาสได้พบอาจารย์ทองดี และได้เรียนรู้อยู่กับอาจารย์มาด้วย จนออกมารับงานเอง เกิดจากมีเรื่องจุดประกายในงานแสดงที่ศาลาแดง มีการสะสมโปสเตอร์หนัง การจัดใบปิดหนังขึ้นมาจะเชิญพวกศิลปินมาร่วมงานพอสมควร และมีผลงานมาขายในครั้งนั้นจนกลายเป็นที่นิยม ถึงขั้นฝรั่งบินมาซื้อ ตั้งแต่นั้นเริ่มกระจายข่าวเรื่อยมา

  ส่วนปัจจุบันนี้มองว่าศิลปะโปสเตอร์ได้ซบเซาลง ก็เลยหันมาทำพวกเขียนภาพเหมือน เขียนภาพวิว สีน้ำมันเรื่อยไป ได้มีพื้นที่แสดงผลงานบ้าง ส่วนราคาของใบปิดราคาอยู่ประมาณ 50,000 บาท โดยฝรั่งชาวต่างชาติจะเรียกใบปิด แต่คนไทยจะเรียกว่า โปสเตอร์หนัง โดยตนเองจะวาดต้นฉบับแล้วทางคนจ้างนำไปจัดตีพิมพ์ ตอนนั้นได้เขียนต้นฉบับให้สหมงคลฟิล์ม ทางสหมงคลฟิล์มได้ส่งให้โรงพิมพ์ไปพิมพ์แล้วจำหน่ายไปทั่วประเทศไทย ทุกจังหวัดที่มีโรงหนัง

  ส่วนช่วงนี้พบว่าโปสเตอร์ได้กลับมานิยมอีกครั้ง มีราคาบางภาพจับต้องไม่ได้ อย่างเช่น งานของตนเองที่เคยวาดในอดีต และได้ติดตามหามานาน เพราะมีราคาแพง บางภาพเคยเป็นผลงานของตนเอง ก็ต้องไปตามหาซื้อกลับมาเก็บไว้เป็นที่ระลึกกับผลงานที่ทำไว้ประมาณ 1,000 เรื่อง ส่วนที่ซื้อมาเก็บไว้ประมาณ 200 เรื่องแล้ว ชิ้นหนึ่งราคาอย่างต่ำประมาณ 150 – 2,000 บาท บางเรื่องมีราคาแพงถึง 6,000 บาท ส่วนอนาคตมองว่ายังไม่รู้จะเป็นอย่างไร เพราะระบบเอไอได้เข้ามาในยุคปัจจุบันนี้แล้ว แต่ก็สู้ทำด้วยมือไม่ได้

   ส่วนของตนนั้น ยังมีคนชาวต่างชาติที่ยินยมชื่นชอบภาพโปสเตอร์หนัง มาสั่งวาดอยู่บ้างเป็นช่องเวลา อีกทั้งที่บ้านเปิดเป็นร้ายขายสเต็ก กาแฟสด ร้าน “ จินดา คาเฟ่ ” ช่วงวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อน จิบกาแฟ แลภาพวาด ยังได้เพลิดเพลินไปกับรูปภาพโปสเตอร์สมัยเก่า ๆ ยุค 40 ปี ให้หลัง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันก็ยังยึดอาชีพวาดภาพอยู่ ยังคงมีชาวต่างประเทศให้ความสนใจสั่งวาดภาพโปสเตอร์หนังกันอย่างต่อเนื่อง ฝีไม้ลายมือการวาดบอกได้คำเดียวว่าไม่ธรรมดา ล่าสุดทราบว่ามีชาวต่างชาติได้สั่งจองวาดโปสเตอร์ไว้มากกว่า 4 ผลงาน และจะบินมาซื้อโปสเตอร์ภาพดังกล่าวที่ยังกำลังเขียนในอีก 2 เดือนข้างหน้านี้ด้วย
ขณะเดียวกันยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาศึกษา และเข้าชมผลงาน รวมถึงนางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เข้ามาเยี่ยมชมการวาดภาพของอาจารย์จินดา อมรรัตนวงศ์ ถือเป็นศิลปินวาดภาพโปสเตอร์หนัง ที่มีความละเอียดอ่อน ประณีต และสวยงาม เหลืออยู่ในจังหวัดราชบุรี และอนาตดหากไม่มีการสืบทอด อีกไม่นานนักวาดโปสเตอร์หนัง คงเหลือแค่การอนุรักษ์ไว้ให้ชมกันเท่านั้น เนื่องจากปัจจุบันนักวาดเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนแล้ว

ชมคลิป.

https://drive.google.com/file/d/1Zv2xGmmeD7hVHY9GtL6ToGTkiyWxoxgl/view?usp=sharing

   ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

นครปฐม Kick Off เปิดตัว “โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ”

จ.นครปฐม Kick Off เปิดตัว “โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ผ่านการถ่ายทอด (Live) กิจกรรมระบบออนไลน์ จากตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อ“ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” ให้ผู้ประกอบการ-ประชาชน กลับมาคึกคักอีกครั้ง

    วันที่ 16 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. ที่ท็อปซุเปอร์มาร์เก็ต ศูนย์การค้าเซ็นทรัลศาลายา จังหวัดนครปฐม นายปรีชา ดิลกพรเมธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย พาณิชย์จังหวัดนครปฐม ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลศาลายา ร่วมงาน Kick Off เปิดตัว “โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ผ่านการถ่ายทอด (Live) กิจกรรมระบบออนไลน์ จากตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เพื่อ“ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” ให้ผู้ประกอบการ-ประชาชน กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ

   ในส่วนจังหวัดนครปฐม จัดขึ้นที่ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต ศูนย์การค้าเซ็นทรัลศาลายา จังหวัดนครปฐม  โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครปฐม ร่วมกับบริษัทเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด สาขาศาลายา จัดกิจกรรมธงฟ้า พาณิชย์ร่วมกับท็อปลดราคา ลดค่าของชีพ ระหว่างที่ 16-29 ตุลาคม 2567 นอกจากนี้ยังมีจุดจำหน่ายสินค้าภายใต้โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตลาดพาณิชย์ @นครปฐม จำนวน 12 ร้านค้า เพื่อสนับสนุนพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้แก่เกษตรกร ผู้ผลิต และผู้ประกอบการจังหวัดนครปฐม ระหว่างวันที่ 15 – 21 ตุลาคม 2567  ณ บริเวณหน้าร้าน sizzler ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลศาลายา อีกด้วย

  ทั้งนี้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างที่ผ่านมา และรัฐบาลมีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ผ่านการเติมเงิน 145,000 ล้านบาท เข้าระบบที่มีการแจกเงินสด 10,000 บาท ถึงมือประชาชนผู้มีรายได้น้อย และกลุ่มเปราะบางที่ได้รับเงินเป็นกลุ่มแรก

  สำหรับโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ “โครงการเงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจ” เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและคุ้มค่าภาษีมากที่สุด โดยในรอบนี้จะเน้นไปที่ผู้ประกอบการรายเล็กซึ่งถือเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ประกอบการทั้งหมด เป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อ “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” มีระยะเวลาทั้งสิ้น 5 เดือน ได้ดำเนินการไปแล้วตั้งแต่เดือนกันยายนและยาวไปจนถึงมกราคมปีหน้า

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

ผบช.ภ.7 แถลงผลงานกวาดล้างแก๊งลักจยย.ขายออนไลน์

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แถลงผลงานกวาดล้างแก๊งลักจักรยานยนต์ขายออนไลน์

วันที่ 15 ตุลาคม 67  ที่ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 7 ถนนขวาพระ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 ได้แถลงข่าวว่า ตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และตำรวจ สภ.นครชัยศรี ได้จับกุม นายธนัต หรือ ท๊อป  อายุ 33  ปี ภูมิลำเนา อ.เมืองกำแพงเพชร  จ.กำแพงเพชร ข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป” ปัจจุบันประกอบอาชีพ ขับรถรับจ้างขนส่ง ของบริษัทขนส่งเอกชนรายหนึ่งและเป็นผู้ครอบครองรถยนต์กระบะที่ใช้ในการก่อเหตุ  

พร้อมด้วย นางสาวพรรณราย หรือ นุช   อายุ 29 ปี ภูมิลำเนา อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ และนายพลกฤษณ์ หรือ ต้อม อายุ 34  ปี ภูมิลำเนา อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ที่บ้านเลขที่ 133 ถ.ลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร พบรถจักรยานยนต์จอดอยู่ภายในบ้านพักจำนวน 16 คัน อ้างว่ารับจำนำมาจากบุคคลอื่น และยังพบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสารข้อมูลจดทะเบียน และข้อมูลบัตร ประชาชน ของเจ้าของรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับจึงได้ตรวจยึดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องและยึด รถจักรยานยนต์ 16 คันดังกล่าว มาเพื่อตรวจสอบขยายผลต่อไป 

ผบช.ภ.7 กล่าว ว่าให้ประชาชนตรวจสอบการจะซื้อรถจักรยานยนต์ ทางออนไลน์ต้องตรวจสอบราคา เอกสารให้ครบถ้วนแน่ชัดก่อน และที่สำคัญหากพบว่าราคาถูกเกินหรือรถหลุดจำนำ เมื่อท่านซื้อไปอาจจะถูกดำเนินคดีข้อหารับของโจร เพราะคนร้ายแก๊งนี้จะขายในระบบออนไลน์แบบยกคัน มีเฉพาะเอกสารสำเนาหน้าเล่มเท่านั้น และหรือบางคันเป็นเอกสารปลอม

Cr.ภาพ-ข่าว ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ ‘ฅนข่าวนครปฐม’

เปิดแล้ว!! “ฮาร์เบอร์แลนด์ เซ็นทรัล นครปฐม” ธีม “Thai Thai Fostival” เนรมิตบรรยากาศงานวัดมหาสนุก

   เซ็นทรัล นครปฐม”ฮาร์เบอร์แลนด์ ” สวนสนุก  ธีม “Thai Thai Fostival” เนรมิตบรรยากาศงานวัดมหาสนุก จัดเต็ม 4 โซนสุดบันเทิงสไตล์ไทย ที่ยิ่งใหญ่บนพื้นที่กว่า 1,500ตร.ม. ของชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐม แรงบันดาลใจจากบรรยากาศของงานวัดพระปฐมเจดีย์ สะท้อนวัฒนานธรรมและสถาปัตยกรรมท้องถิ่น

   วันที่ 4 ต.ต. 2567 ที่บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้เปิดตัวความสนุกครั้งใหม่ ฮาร์เบอร์แลนด์ เซ็นทรัลนครปฐม สนามเด็กเล่นในร่มขนาดใหญ่ระดับเวิลด์ลาส ปักหมุดพื้นที่ความสนุกใจกลางหัวเมืองที่สำคัญของไทยที่ประตูสู่ภาคตะวันตก บนพื้นที่กว่า 1,500 ตารางเมตร เติมเต็มไลฟ์สไตล์กลุ่มครอบครัวยุคใหม่ ส่งเสริมพัฒนาการ สร้างความสุข และเติบโตไปพร้อมกับเด็กๆ ภายใต้สโลแทน “Your Family Happy Moments”

โดยที่ ฮาร์เบอร์แลนด์ ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครปฐมจะพาย้อนวันวานไปกับความสนุกแบบไทยๆ ในธีมล่าสุด “Thai Thai Festiva!” งานวัดมหาสนุก จำลองบรรยากาศงานวัดสไตล์ไทยคลาสสิก สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่นของนครปฐมเข้าไว้ในโซนต่างๆ ได้อย่างลงตัว ใช้ลวดลายและสีสันที่สะท้อนบรรยากาศของ งานวัดพระปฐมเจดีย์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม
ท้องถิ่น ทั้ง ร้านอาหาร, แสงสีจากไฟงานวัด, ชิงช้าสวรรค์, ม้าหมุน และปาลูกโป้ง

โดยจะให้ทุกคนได้สัมผัสบรรยากาศงานวัดแบบดังเดิม เต็มอิ่มกับ 4 โซนเครื่องเล่น จากผู้ผลิตชันนำในสหราชอาณาจักร ที่มาพร้อมมาตรฐานความ
ปลอดภัยระดับสูงสุดของโลก ติดตั้งโดยทีมงานมืออาชีพจากยุโรป เพื่อให้ฮาร์เบอร์แลนด์ เซ็นทรัล นครปฐม เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับทุกคนในครอบครัว ตอกย้ำ Family Destination ด้วยการมอบประสบการณ์สุดพิเศษที่
ร่วมความสนุกสนาน ความบันเทิง ความปลอดภัย และการเสริมสร้างพัฒนาการสำหรับเด็กทุกวัย ทั้ง 4 โซนความสนุก ที่รวมเอาเครื่องเล่น Highight ที่เด็กๆ ชื่นชอบ มาปลุกพลังความสดใส

พร้อมให้ Junior Jungle โซนเครื่องเล่นขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับเด็กสูงตั้งแต่ 121 ชม. ขึ้นไป รวมถึงผู้ปกครองและผู้สูงอายุ มีสโลเตอร์กว่า 20 แบบ และเครื่องเล่นหลากหลายรูปแบบให้เลือกสนุก เช่น Ferns Whee Soiral Tube Side สนุกตื่นเต้นกับลไลด์เกลียว สูงกว่า 6 เมตร และ Valo Jump เกม AR Interactive Jump
กับจอยักษ์ 86 นิ้ว

และ Kids Island : พื้นที่ออกแบบเพื่อเด็กสูง 101-140 ชม. มีเครื่องเล่นและสไลเดอร์น่ารักหลายรูปแบบให้เด็ก ๆได้เพลิดเพลิน เช่น Cotton Candy Free Fall Slide สนุกเร้าใจกับสไลด์ลอยตัวกลางเวหา และ Ninja Pods เกมไล่ล่าหาปุ่มไฟในสนามประลองความเร็ว

พร้อม โซน Lige VIIe : สำหรับเด็กเล็กอายุตั้งแต่ 65-120 ชม. เน้นเสริมพัฒนาการต้านประสาทสัมผัส ผ่านการเล่นเครื่องเล่นขนาดเล็ก เช่น มินิญัตเตอร์ บ้านบอล และเครื่องปืนป้ายที่มีความแข็งแรงของเด็ก ๆ โดยมีพินบุพิเศษเพื่อความปลอดภัย
โซนHabor Town เมืองจำลอง บทบาทสมมติให้เด็กๆ ได้สวมสร้างบทบาทอาชีพต่างๆ เสริมสร้างจินตนาการกับอาชีพในฝันกับเมืองจำลอง ที่มาพร้อมร้านค้าสุดน่ารัก เช่น Cafe Cake, School, Theatre, Garage

ค่าเข้าสำหรับเด็กสูง 65-80 ชม. และ อายุมากกว่า 18 ปี บัตรราคา 160 บาท, เด็กความสูง 81-140 ชม. บัตรราคา 420 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือน และ ผู้ใหญ่อายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าฟรี และขอแนะนำโปรโมชั่นช่วงเปิดตัว Fun Smile 4 Get 3 16 E-Voucher เด็ก 4 Codes แถมฟรี E-Voucher ผู้ใหญ่ 3 Codes ราคา 1,750 บาท

ตั้งแต่ 4 – 31 ตุลาคม 67 ติดตามความเคลื่อนไหวเซ็นทรัลพัฒนา คลิก https:wwww.centralpattana.co.th/th/shopping/shopping-update/lifestyle-activities

ฮาร์เบอร์แลนด์ #Harbori.and #CentralPattana #เข็นทรัลพัฒนา #contrairairaironpathom #เซ็นทรัลนครปฐม

ตอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่: แผนกประชาสัมพันธ์ บริษัเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด(มหาชน) โทร. 092-414-9642 Email: hatatthero@centraipattana.co.th
โทร.062-426-3014 Emalt marinassonasongconjiortona.co.itlina

ตำรวจนครปฐม จับตีนแมวใจบาปงัดตู้บริจาควัดดังนครปฐม เอาเงินเล่นพนันออนไลน์-เสพยา

ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม จับตีนแมวใจบาปงัดตู้บริจาควัดดังนครปฐม เผยเอาเงินไปเล่นพนันออนไลน์-เสพยา

วันที่ 3 ตุลาคม 67 ที่ สภ.เมืองนครปฐม พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.นครปฐม  พ.ต.อ.อิทธิพล พรเทวบัญชา ผกก.สส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.ฤทธิชัยปกรณ์ ดำรงค์อิทธิสกุล รองผกก.สส.สภ.เมืองนครปฐม ได้ร่วมกันแถลงข่าวว่า.

  พ.ต.ต.สำราญ บัวเย็น สว.สส.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมกำลังร่วมกับสืบจังหวัดนครปฐม จับกุมตัว นายอมรเทพ จ่างแสง อายุ 31 ปี ชาวตำบลศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดนครปฐม ข้อหาว่า “ลักทรัพย์ในที่บูชาสาธารณะในเวลากลางคืน โดยทําอันตรายสิ่งกีดกั้นสําหรับ คุ้มครองทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทําผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” ได้ที่บ้านหลังหนึ่งจังหวัดนนทบุรี พร้อมตรวจยึดของกลางมีนาฬิกาข้อมือสีดํา 1 เรือน (4,500 บาท) เงินสด 29,851.75 บาท รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีแดง-ขาว หมายเลขทะเบียน 1 กก 3128 สิงห์บุรี กระเป๋าสะพายข้างสีดํา-น้ําตาล 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Oppo 1 เครื่อง กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ําเงิน เสื้อเชิ้ตสีฟ้ามีลาย (ชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ) เบื้องต้นนายอมรเทพ ให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามหมาจับและเป็นคนก่อเหตุจริง ได้เงินเอาไปใช้ซื้อยาเสพติด และเล่นพนันออนไลน์ และบอกว่าวิธีลักจากวัดนี้ง่ายดี ส่วนที่วัดกลางบางพระ หลวงพ่อสมหวัง งัดตู้แล้วแต่ไม่ได้ทรัพย์ไป

พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช กล่าวว่า ผู้ต้องหาคดีนี้ได้เข้าไปลักทรัพย์ที่วัดดอนขนาก ต.ดอนยายหอม อ.เมืองนครปฐม เมื่อ 27 กันยายนที่ผ่านมา และจากการสอบประวัติอาชญากรรมพบว่านายอมรเทพ เคยถูกจับกุมคดีลักทรัพย์มาหลายท้องที่ และมีคดีอาญาที่ 201/2564 ข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 สภ.ปลายบาง ภ.จว.นนทบุรี คดีอาญาที่ 1892/2567 ข้อหา ลักทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ สภ.เมืองนครปฐม และคดีอาญาที่ 538/2557 ข้อหา ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง สภ.พุทธมณฑล

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก นายอภิชาต หนักไหล่ ผู้รับมอบอํานาจจาก เจ้าอาวาสวัดดอนขนาก มาแจ้งพนักงานสอบสวนว่าได้มีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดได้งัดตู้บริจาคและนําเงินในตู้บริจาคของ วัดดอนขนาก แล้วหลบหนีไปโดยทางวัดดอนขนาก ได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังจนทราบว่า คนร้ายได้ก่อเหตุเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 เวลาประมาณ 09.00 น. และเวลา 21.00 น. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตํารวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบคนร้ายเป็นชายไทย มีหนวดเครา สวมใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ําเงิน กางเกงขายาว ขับขี่รถจักยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีแดง-ขาว หมายเลขทะเบียน 1 กก 3128 สิงห์บุรี เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ โดยคนร้ายทําทีเข้ามาเที่ยวในวัดดอนขนาก และฉวย โอกาสทําการก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าวชุดจับกุมได้แกะรอยจากวงจรปิด จนสามารถจับกุมตัวได้ที่ทางสาธารณะ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เวลา 22:30 น. วันที่2ตุลาคม 2567

ขอขอบคุณภาพ-ข่าว ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ

นนทบุรี.เทศบาลเมืองบางคูวัดได้รับรางวัล ท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูง ปี 2567

เทศบาลเมืองบางคูวัด จ.นนทบุรี ได้รับรางวัล ท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูง ปี 2567


   ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า นายวีระ กล่ำสนอง นายกเทศมนตรีเมืองบางคูวัด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาฯ หัวหน้าส่วนราชการเข้ารับรางวัลท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูง ประจำปี 2567 (Local Award 2024) ซึ่งเทศบาลเมืองบางคูวัด ได้รับรางวัลท้องถิ่นที่มีศักยภาพสูงระดับดีมาก (Gold ซึ่งเทศบาลเมืองบางคูวัด เป็นหนึ่งในเทศบาล ที่ได้รับรางวัล อันทรงเกียรติ จาก กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ณ อาคารศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ห้องวายุภักษ์ 5-6 ชั้น 5 โรงแรมเซ็นทาราไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ถนนแจ้งวัฒนะกรุงเทพมหานคร

นายวีระ กล่ำสนอง นายกเทศมนตรีเมืองบางคูวัด

  นายวีระ กล่ำสนอง นายกเทศมนตรีเมืองบางคูวัด เปิดกับผู้สื่อข่าว ภายหลังเข้ารับรางวัล อันทรงเกียรตินี้ว่า ตนและคณะผู้บริหาร รู้สึกดีใจอย่างยิ่ง ที่ได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัล ในครั้งนี้ จากนโยบายที่ตนแถลงต่อสภาไว้นั้น ได้มอบหมายให้ ว่าที่ร้อยตรี สมชาย ทองมี ปลัดเทศบาลเมืองบางคูวัด หัวหน้าส่วนราชการ ต่างๆรวมถึงเจ้าหน้า ผู้ปฎิบัติงานทุกคน ที่ให้ความร่วมมือ ทุ่มเท กำลังกายกำลังใจ ปฎิบัติงาน กันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย จนทำให้เทศบาลเมืองบางคูวัด ได้ผ่านการพิจารณา จากคณะกรรมการ ตัดสินให้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้

นายวีระ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตนขอขอบคุณ ข้าราชการประจำ และเจ้าหน้าที่ ทุกคนที่ให้ความร่วมมือ สนองนโยบาย ที่ตนเคยแถลงไว้กับสภาฯ เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะทำต่อไป ตามกฏระเบียบอย่างเคร่งครัด เพื่อประโยชน์ และการดำรงชีพ ประกอบอาชีพ อย่างมีคุณภาพ และยั่งยืนสืบไป

   ประพฤติ อรรฆธน ภาพ-ข่าว

ราชบุรี. ไทย มอญ พม่า แห่ขอหวยบ่วงนาคบาศเพียบหวังเสี่ยงโชคเลขเด็ด

ราชบุรี ยังแน่นสำนักสงฆ์พุปะหังวงษ์วนาราม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ไทย มอญ พม่า แห่ขอหวยทั่วสารทิศ นำไข่ไก่มาถวายบ่วงนาคบาศ หลังมีโชค มีลาภ ไปเมื่องวดที่ผ่านมาถูกกันจนเงินสะพัดนับล้าน

วันที่ 29 ก.ย. 67 ที่สำนักสงฆ์พุปะหังวงค์วนาราม ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี สืบเนื่องจากเมื่องวดประจำวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา มีผู้ที่ถูกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว 37 เลขท้าย 3 ตัว 008 และ 408 จากขอบ่วงนาคบาศ หรือ งูกินหาง ได้รับโชคกันไปเป็นจำนวนมาก จากการจุดธูป แต่ละคนได้โชคตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาท รวม ๆ แล้วเงินสะพัดประมาณ 2 – 3 ล้านบาท และยังมีคนถูกสลากพลัส ทั้งเลขท้าย 2 ตัว และ 3 ตัว ถึง 87 ใบรับเป็นแสนบาท ก็เดินทางมาแก้บนด้วย

  ขณะที่ตลอดทั้งวันจนถึงช่วงค่ำ ยังมีคอหวย ทั้งชาวไทย มอญ พม่า ผู้ใช้แรงงาน ได้ทยอยเดินทางมา นำข้าวสาร 5 กิโลกรัม ไข่ไก่ 9 ฟอง และเหรียญจำนวน 9 บาท ใส่พานถวายบ่วงนาคบาศ และจุดธูปขอเลข เพื่อหวังเสี่ยงโชคในงวดประจำวันที่ 1 ตุลาคม 2567 นี้ จนแน่นไปด้วยประชาชนเต็มศาลา ทั้งนี้ทางสำนักสงฆ์พุปะหังวงษ์วนาราม ได้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ด้วยการนำขันโตก พาน และภาชนะไว้สำหรับใส่ข้าวสารและไข่ไก่ ส่วนคนที่ถูกเมื่องวดที่ผ่านมาก็มาแก้บนด้วยไข่ไก่ และยังมาขอเลขอีกครั้งในงวดนี้

  อย่างไรก็ตาม ภายหลังมีการถวายข้าวสาร ไข่ไก่แล้ว สายตาทุกคนจับจ้องรอลุ้นเลขจากธูปสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ที่มีการจุดเพื่อให้เห็นตัวเลขขึ้นมาว่าจะออกเป็นเลขอะไร โดยทุกคนจ้องมองลุ้นกันตั้งแต่เริ่มจุดธูป ไฟจะไหม้ธูปไปทีละน้อยจนเห็นเป็นตัวเลขทีละตัวโผล่ออกมาจนครบ 3 ตัว ต่างคนต่างนำโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเลขกันไว้เพื่อนำไปเสี่ยงโชคสร้างบรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมาก ส่วนเลขที่ได้จะเป็น 27 – 28 – 23 – 25 – 59 – 94 – 235 – 594  เป็นต้น

  กลุ่มชาวมอญ และพม่า ผู้ใช้แรงงาน กล่าวว่า บ้านอยู่ประเทศพม่า มาทำงานรับจ้างเผากะลา ในพื้นที่อำเภอปากท่อ ได้เลขจากการจุดธูป 235 เคยซื้อลอตเตอรี่รัฐบาลไทย เคยถูก 2 ตัว แต่ไม่เคยถูก 3 ตัว วันนี้ได้มาถวายข้าวสาร จึงมาขอโชคจากบ่วงนาคบาศ ได้ไหว้พร้อมกันกับเพื่อน ๆ เพราะมาทำบุญที่นี่บ่อยอยู่แล้ว และยืนยันว่างวดนี้ได้แน่ ๆ

   สำนักสงฆ์พุปะหังวงค์วนาราม มีธรรมชาติที่สวยงาม เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งได้อันเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากประเทศศรีลังกา คือ พระกรด้านขวา ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาประดิษฐานไว้ที่ในเจดีย์ โดยมีประมุขสงฆ์สูงสุดจากประเทศศรีลังกาได้อันเชิญมาไว้ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ เมื่อหลายปีก่อน และยังมีรูปปั้นเป็นที่ประดิษฐานขององค์พญานาคมี ชื่อว่าพญาวาสุกรีนาคราชสีทองอร่าม 9 เศียร แผ่พังพานอยู่ด้านชายเขา ส่วนด้านหน้ามีองค์พญาดำแสนสิริจันทรานาคราช หรือ องค์ดำแสน มีผิวกายสีดำน่าเกรงขาม ถัดมาก็จะมีองค์ท้าวเวสสุวรรณที่ทรงอิทธิฤทธิ์ บริเวณภายในสำนักสงฆ์ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้านในถ้ำให้ประชาชนได้กราบสักการะขอพร ขอโชค ขอลาภเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกหลายจุดยังเป็นที่ประดิษฐานขององค์พญานาคมี ชื่อว่าพญาวาสุกรีนาคราชสีทองอร่าม 9 เศียร แผ่พังพานอยู่ด้านชายเขา ส่วนด้านหน้ามีองค์พญาดำแสนสิริจันทรานาคราช หรือ องค์ดำแสน มีผิวกายสีดำน่าเกรงขาม ถัดมาก็จะมีองค์ท้าวเวสสุวรรณที่ทรงอิทธิฤทธิ์ บริเวณภายในสำนักสงฆ์ยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้านในถ้ำให้ประชาชนได้กราบสักการะขอพร ขอโชค ขอลาภเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกหลายจุด
   

  บ่วงนาคบาศ มีลักษณะงูกินหาง เป็นวงกลม มีการลงรักปิดทองคำไว้บริเวณลำตัว และส่วนหัวหลายจุด ตามตำราโบราณเชื่อกันว่า เป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่พบเห็นได้ยากมาก เป็นเครื่องรางแห่งโชคลาภ และป้องกันภัย เรียกว่าราชแห่งทรัพย์สมบัติ นำพาโชคลาภและเงินทองมาแก่ผู้ที่บูชา มีเมตตามหานิยม ใครมีจะช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายดี มีกินมีใช้ ไม่มีวันอด บนโต๊ะจะมีบายศรีคู่ ซ้าย ขวา มีการนำไข่ไก่ดิบ 9 ฟองวางไว้บนพาน หรือ โตก ด้านในจะใส่ข้าวสาร และเงิน 9 บาท อธิฐานขอโชคลาภ สุดแล้วแต่ดวงบุญของแต่ละคน ซึ่งมีชาวบ้านต่างหลั่งไหลนำไข่ไก่มาถวายเพื่อขอโชคลาภกันตลอดทั้งวันอย่างไม่ขาดสาย

  ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ท่องเทื่ยวนครปฐมจัดงาน Coffee Gallery Fest ชวนคอกาแฟมาชิมชมช้อป 27-29 กันยายน ที่เซ็นทรัลนครปฐม

ท่องเทื่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม จัดงาน Coffee Gallery Fest ชวนคอกาแฟมาชิมชมช้อป

ชมคลิปhttps://drive.google.com/file/d/14p7dQc46uJMwmTXlMeNB5GZGtC2br47U/view?usp=drivesdk

ที่ลานโปโมชั่น ชั้นG ศูนย์การค้าเซ็นทรัลนครปฐม ต.สนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม น.ส.อโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เปิดงาน ”ปฐมนคร Coffee Gallery Fest “ ระหว่างวันที่ 27-29 กันยายนนี้ มีนางสาวกิรดา ลำโครัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม รายงาน ว่าจังหวัดนครปฐมเป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครมีความหลากหลายด้านการท่องเที่ยว สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น องค์พระปฐมเจดีย์ วัดไร่ขิง พระราชวังสนามจันทร์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี สถานที่แสดงงานศิลปะ และร้านกาแฟสวย ๆ จำนวนมาก ทำให้นครปฐมได้รับการขนานนามว่าเป็น”เมืองหลวงแห่งร้านคาเฟ่” รวมทั้งร้านอาหารที่ขึ้นชื่ออีกมากมาย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นที่ดึงดูดแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนจังหวัดนครปฐม นอกจากนี้จังหวัดนครปฐมยังมีศิลปินที่มีชื่อเสียงด้านศิลปะมากมาย สมควรแก่การเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความคิดการแสดงออกทางศิลปะที่หลากหลาย และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมการจัดกิจกรรมภายใต้โครงการส่งเสริมการการท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย (Smart Tourisn)

จังหวัดนครปฐม “ปฐมนคร” Cafe & Gallery Fest ในครั้งนี้
กิจกรรมในงานประกอบด้วย การออกร้านจำหน่ายกาแฟ เครื่องดื่ม อาหารสินค้าด้านศิลปะ ของที่ระลึก ของดี ของจังหวัดนครปฐม จากผู้ประกอบการร้านค้า ชุมชนท่องเที่ยวของจังหวัด 40 บูท การจัดแสดงนิทรรศการผลงานด้านศิลปะของศิลปินที่เป็นที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนครปฐม พร้อมทั้งมีการแสดงดนตรีของศิลปินที่มีชื่อเสียง “น้องกีต้าร์ สิริขวัญ “ แชมป์ดวลเพลงชิงทุนช่อง One 10 สมัย การแสดงดนตรีสดจากเยาวชนในพื้นที่ และการบรรยายให้ความรู้และสาธิตการชงกาแฟ (Coffee Basic) พร้อมสอนการชงกาแฟสำหรับผู้เข้าร่วมงานที่สนใจ จากกูรูด้านกาแฟภาคตะวันตก”โรงคั่วกาแฟอมตะลา” ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม

ราชบุรี. นายก อบจ.ราชบุรี ตรวจพื้นที่กาดวิถีคูบัวเตรียมปรับปรุงโฉมใหม่


  นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี พา 2 รองนายกฯ เลขา และเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตลาดวิถีชุมชนคูบัว หลังแถลงนโยบายเสร็จ พร้อมหารือแนวทางปรับปรุงพื้นที่ทรุดโทรมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโฉมใหม่

      นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี นายธนวัชร นิติกาญจนา รองนายก อบจ. นายชิตสกนธ์ รังษีเสริมสุข รองนายก อบจ. พร้อมสมาชิก อบจ. ผู้บริหาร อบจ. ชุดใหม่ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกาดวิถีชุมชนคูบัว ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดโขลงสุวรรณคีรี ต.คูบัว อ.เมือง โดยมีพระครูใบฎีกาสุพจน์ ธีรวโส เจ้าอาวาสวัดโขลงสุวรรณคีรี นายประยง พิมเพราะ นายก อบต.คูบัว นายอดุลย์ พิมพ์เพราะ กำนัน แบะผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงชาวบ้านเป็นพ่อค้า แม่ค้าภายในกาดวิถีชุมชนคูบัวมารอต้อนรับ

โดยตลาดแห่งนี้ เริ่มก่อตั้งมาเมื่อปี 2560 มีลักษณะการสร้างออกแบบเป็นวิถีไท- ยวน ตกแต่งสถานที่คล้ายภาคเหนืออย่างสวยงามร่มรื่น ด้านข้างมีโบราณสถานหมายเลข 18 สมัยทวารวดี ร้านค้าชุมชนก่อสร้างเป็นซุ้มไม้ไผ่ออกแนววิถีอนุรักษ์ธรรมชาติ แต่ขณะนี้มีสภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา อีกทั้งมาเจอปัญหาสถานการณ์โควิด 19 ทำให้มีนักท่องเที่ยวลดน้อยลง ทางวัดและชุมชนไม่มีงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมพัฒนาพื้นที่ จึงทำให้เกิดชุมชนประสบปัญหาด้านรายได้ และความเป็นอยู่ หลังเดินเยี่ยมดูสภาพพื้นที่แล้ว ทางคณะได้หารือกับเจ้าอาวาสวัด และนายอบต.คูบัว เพื่อหาแนวทางร่วมกันพัฒนา

  โดยชาวบ้านที่เป็นแม่ค้าขายของภายในกาดวิถีชุมชน เสนอขอให้ทาง อบจ. เร่งสนับสนุนงบประมาณเข้ามาปรับปรุงโดยเร็ว เพื่อให้ทันช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะเป็นช่วงไฮซีซั่น จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวต่างจังหวัด โดยเฉพาะช่วงวันหยุดเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้เกิดผลดีกับกาดวิถีชีวิตคูบัว ทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากการค้าขาย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

  นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี กล่าวว่า ต้องประสานงานระหว่าง 3 ฝ่าย ได้แก่ วัด อบต. อบจ. ร่วมกันเพื่อพัฒนาตลาดแห่งนี้ เป็นโครงการเดิมที่มีอยู่แล้ว ตลอดเวลาที่สร้างมาไม่ได้มีการบูรณะรักษาแต่อย่างใด นักท่องเที่ยวก็ยังหายไปจะทำอย่างไรที่จะให้นักท่องเที่ยวกลับมา ที่นี่มีความพร้อมเรื่องการวางรูปแบบไว้ แต่มีปัญหาเรื่องชำรุดทรุดโทรม เป็นสิ่งที่ผู้บริหารต้องมาร่วมคิดร่วมทำดูแผนงานเพื่อดึงนักท่องเที่ยวกลับมา อบจ.ให้ความสนใจและตั้งใจที่จะมาพัฒนาตรงนี้ด้วย และถือเป็นวันแรกที่ได้แถลงนโยบายว่าจะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใน จ.ราชบุรี และจะสร้างรายได้อย่างไรให้กับประชาชนชาวราชบุรี หลังจากได้มาฟังเจ้าอาวาสพูดถึงประวัติของตลาดแล้วทำให้รู้ว่า แนวทางจะต้องดำเนินการอย่างไรเพื่อพัฒนาตลาดให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนต่อไป
สำหรับเรื่องงบประมาณยังไม่ได้กำหนด เพียงแต่จะดูเรื่องแผนงานว่าต้องการให้เป็นรูปแบบไหนบ้าง เช่น กิจกรรมการแสดง ร้านค้าต่างๆ จึงนำไปเป็นเรื่องของการกำหนดงบประมาณดำเนินการ ส่วนเรื่องการประชาสัมพันธ์คงต้องอาศัยสื่อมวลชนมาช่วย และ อบจ.ก็จะพยายามพัฒนาทีมงานประชาสัมพันธ์ เพื่อให้คนทั้งประเทศได้รับรู้ว่า แหล่งท่องเที่ยวของ จ.ราชบุรี มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ผู้ว่าฯ นครปฐมชื่นชมทีมกู้ภัย-มธ. ที่ไปช่วยเหลือพี่น้องประสบอุทกภัยภาคเหนือและอีสาน

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ชื่นชมทีมกู้ภัย-มธ. ที่ไปช่วยเหลือพี่น้องประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

วันที่ 25 กันยายน 67 ที่ห้องประชุมศาลากลางนครปฐม ต.ถนนขาด อ.เมืองนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวชื่นชม และมอบประกาศเกียรติคุณอาสาสมัคร เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม มูลนิธิหลวงพ่อสมหวัง วัดกลางบางพระ มูลนิธิกู้ภัยพรานพิทักษ์ มูลนิธิร่วมกตัญญูนครปฐม มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง (เขตชาญธน) ทีมตอบโต้ภัยพิบัติฯจังหวัดนครปฐม (N.D.R.T) ทีม Volunteer Rescue Team Thailand องค์กรสาธารณกุศล ของจังหวัดนครปฐมที่ได้ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ผู้ป่วย อีกทั้งช่วยลำเลียงอาหาร เวชภัณฑ์ รวมถึงเสนอแนะหารือ การรับมืออุทกภัยในจังหวัดนครปฐม และการปฎิบัติงานร่วมมือกันในทุกภาคส่วน ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นายเทิดศักดิ์ นัดสูงวงศ์ หัวหน้าชุดปฎิบัติภารกิจ มูลนิธิหลวงพ่อสมหวัง กล่าวว่า ในส่วนของมูลนิธิหลวงพ่อสมหวัง สนับสนุนเรือ รถเทรนเลอร์ รถยก และกำลังพล เข้าช่วยเหลือพร้อมกับคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม ตั้งโรงครัว ทำอาหารให้แก่พี่น้องประชาขน ผู้ประสบภัย ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับการร้องขอสนับสนุน ที่จ.เชียงราย และจังหวัดภาคเหนือที่ประสบภัยจนถึงจ.หนองคาย

โดยพวกเราในนามขององค์สาธารภัย เราทำงานด้วยใจรักและอุดมการณ์ วันนี้รู้สึกดีใจมากที่จังหวัดนครปฐม โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านเห็นความสำคัญ และเชิดชูเกียรติพวกเรา ทำให้พวกเรามีขวัญใจ ในการทำงานเพื่อสังคมต่อไป ซึ่งการมอบประกาศเกียรติคุณ นี้เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้รับจากจังหวัดนครปฐม ซึ่งก็เป็นความภาคภูมิใจของพวกเราทุกคน

ภาพ-ข่าว ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ ฅนข่าวนครปฐม

ราชบุรี – รวมกลุ่มศิลปินระดับโลกรวมพลังจิตอาสาสอนเทคนิควาดรูปจากสีน้ำให้นักเรียน จ.ราชบุรี

   กลุ่มศิลปินระดับโลก อดีตข้าราชการบำนาญและศิลปินวาดภาพอิสระใช้เวลาว่างมาเป็นจิตอาสาสอนนักเรียนโรงเรียนวัดบางลี่ ( วุฒิพันธุ์วิทยา ) อ.เมือง จ.ราชบุรี เรียนรู้เทคนิคศิลปะวาดภาพสีน้ำด้วยอุปกรณ์ง่าย ๆ

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 67 ที่โรงเรียนวัดบางลี่ (วุฒิพันธุ์วิทยา ) ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี จัดกิจกรรมสอนศิลปะวาดภาพด้วยเทคนิคแบบง่าย ๆ โดยได้เชิญอดีตข้าราชการบำนาญและศิลปินนักวาดภาพมืออาชีพ เคยมีผลงานการประกวดในระดับประเทศและระดับโลกมาสอนให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – มัธยมศึกษาปีที่ 3 อาทิ อาจารย์สุรินทร์ สหวิศิษฏ์ อดีตข้าราชการครู เคยสอนอยู่ที่โรงเรียนวัดใหญ่ศรีสุพรรณ เขตธนบุรี อาจารย์บัญญัติ พวงทอง ศิลปินวาดภาพอิสระ เคยนำผลงานไปร่วมการแข่งขันหลายประเทศ อาจารย์อุดม นิลรัตน์สุวรรณ อดีตข้าราชการสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง นางประนอม ไชยอ่อน อดีตครูโรงเรียนดรุณาราชบุรี และเพื่อน ๆ จิตอาสามาช่วยกันสอนเด็ก ๆ

  โดยได้คัดเลือกนักเรียนที่มีความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 60 คน โดยการแบ่งกลุ่มชั้นออกเป็น 2 กลุ่ม สอนเทคนิคเบื้องต้นการใช้สีน้ำแบบใช้ฟองน้ำเป็นอุปกรณ์ง่าย ๆ มาช่วย อีกกลุ่มเป็นการใช้พู่กันในการลงสี ซึ่งจะมีความแตกต่างกัน ภาพจะดูมีความอ่อน ความกลางและความเข้มของสี มีความลึก ความตื้น มีมิติของภาพในการวาดซึ่งแบ่งออกเป็น 3 มิติ เป็นลักษณะการวาดเป็นวิวทัศน์ต่าง ๆ สอนเทคนิคการลงสี การใช้ฟองน้ำปาดลงบนกระดาษให้เปียกชุ่ม รอเวลา แล้วจึงลงสีให้ดูมีน้ำหนักของภาพไล่ไปเป็นระดับ เช่น การลงสีภูเขา ลงสีต้นไม้ที่มองแล้วจะให้แสงที่แตกต่างกัน เป็นเทคนิคการวาดภาพศิลปะเบื้องต้นที่ให้ความรู้ที่ถูกต้อง

อาจารย์ สุรินทร์ สหวิศิษฏ์ อายุ 69 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนวัดใหญ่ศรีสุพรรณ เขตธนบุรี

  อาจารย์ สุรินทร์ สหวิศิษฏ์ อายุ 69 ปี อดีตข้าราชการครูโรงเรียนวัดใหญ่ศรีสุพรรณ เขตธนบุรี เปิดเผยว่า ให้ความรู้เด็กเกี่ยวกับเรื่องเทคนิคสีน้ำ ให้เด็กเข้าใจว่าภาพเปียกบนเปียกคืออะไร การระบายกระดาษให้เปียกก่อน หรือ เอาน้ำทากระดาษให้เปียกแล้วจึงใช้สีเปียกลงไป เป็นเทคนิคสีน้ำขั้นพื้นฐานที่เด็กต้องรู้และทำความเข้าใจ ถ้ารู้จักเทคนิคเหล่านี้แล้วเด็กก็จะได้ทำสีน้ำได้ง่ายขึ้น เด็กได้ความรู้พอประมาณ ได้เพลิดเพลินกับงานศิลปะมากยิ่งขึ้น

อาจารย์บัญญัติ พวงทอง หรือ อาจารย์อู๊ด อัมพวา ศิลปินวาดภาพอิสระ

อาจารย์บัญญัติ พวงทอง หรือ อาจารย์อู๊ด อัมพวา ศิลปินวาดภาพ กล่าวว่า เป็นกระบวนการเริ่มต้นเทคนิคการใช้สีน้ำ ให้เด็กรู้จักการใช้สีที่บางใส ให้เกิดการเปรียบเทียบระหว่างสีโปสเตอร์กับสีน้ำ ซึ่งเป็นเชื้อน้ำเหมือนกัน แต่วิธีการเขียนสีน้ำควรจะบางใส จะให้น้ำเป็นตัวเดินเรื่องให้เด็กได้รู้กระบวนการเป็นหลักเป็นเทคนิคเบื้องต้น ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้นั้นจะใช้ฟองน้ำ สีน้ำจริงๆต้องมีแปรง มีพู่กันหลายแบบ แต่เด็กต่างจังหวัดจะขาดอุปกรณ์พวกนี้ จึงให้เด็กสามารถหยิบใช้ฟองน้ำที่หาง่ายเอามาแทนแปรงที่มีราคาแพงได้ ซึ่งเด็กก็ทำได้ดีระดับหนึ่ง ส่วนทักษะยังคงต้องไปฝึกต่ออีก จากการสอนวันนี้มีแววหลายคน โดยสีน้ำเป็นเทคนิคที่ยาก อุปกรณ์บางอย่างก็ยังไม่เอื้ออำนวยในการสอนเท่าที่ควร มีลักษณะเปื่อยง่าย จะต้องมีเกรดในการเลือกนำมาใช้ แต่ถือว่าเด็กทำได้ดี

  ดร.จักรพงศ์ มัตสยะวนิชกูล ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบางลี่ ( วุฒิพันธุ์วิทยา ) กล่าวว่า ทางโรงเรียนอยากให้เด็กมีทักษะกระบวนการด้านศิลปะ และยังเป็นความต้องการของเด็กส่วนใหญ่ด้วยในการอยากเรียนรู้และตอนนี้มองว่าเด็กเป็นอะไรที่สำคัญ ถ้าได้เรียนตรงศิลปะเป็นพื้นฐานที่มีอาจารย์มีความรู้ความสามารถมาสอน ก็จะนำความรู้ติดตัวนำไปใช้ในชีวิตประจำวันหรือนำไปใช้ในอนาคตต่อไปได้


อย่างไรก็ตามจากการสอนเรียนสีน้ำวันนี้ มีการแบ่งกลุ่ม 2 กลุ่ม เรียนสลับกัน ช่วงเช้าและช่วงบ่ายระหว่างการใช้พู่กันและฟองน้ำมาเป็นเทคนิคในการลงสีเบื้องต้น กลุ่มแรกใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำปาดลงบนกระดาษ มีการวาดภาพวิวทิวทัศน์ ภูเขา ต้นไม้ การลงสีค่อนข้างอ่อน มีการแบ่งออกเป็น 3 มิติ ส่วนการวาดภาพโดยใช้พู่กันจุ่มน้ำปาดลงบนกระดาษวาดวิวทะเล ต้นไม้ มีเรือจอดอยู่ในทะเล ลักษณะการใช้อุปกรณ์ที่แตกต่างกัน ส่งผลให้สีที่ลงน้ำหนักเข้มในภาพมีความแตกต่างกันกับการใช้ฟองน้ำ ซึ่งเด็ก ๆ จะได้รับวิชาความรู้ทั้ง 2 เทคนิคแบบง่าย ๆ ของการเรียนวาดภาพด้วยสีน้ำ ซึ่งสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปเรียนในสาขาวิชาในมหาวิทยาลัยในอนาคตต่อไป

ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดงานวันศาสนูปถัมภ์ และวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ครบปีที่ 22

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดงานวันศาสนูปถัมภ์ และวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ครบปีที่ 22

วันที่ 23 กันยายน 2567 ที่หอประชุมพุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม สมเด็จพระพุฒาจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์งานวันศาสนูปถัมภ์ และวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ครบปีที่ 22 โดยมี นางสาวอโรชา นันทมนตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม นายอำเภอพุทธมณฑล ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ร่วมพิธี

นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

  นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตอ เป็นหน่วยงานรัฐ ไม่สังกัดกระทรวงหรือทบวง ภายใต้บังคับบัญชาขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี สถาปนาขึ้นเมื่อวานที่ 3 ตุลาคม 2545 ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 มีภารกิจเกี่ยวกับการดำเนินงานสนองงานคณะสงฆ์และรัฐ โดยการทำนุบำรุง ส่งเสริมกิจการพระพุทธศาสนาให้การอุปถัมภ์ คุ้มครองและส่งเสริมพัฒนางานพระพุทธศาสนาดูแล รักษาจัดการศาสนสมบัติ พัฒนาพุทธมณฑลให้เป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนา รวมทั้งให้การสนับสนุน ส่งเสริมพัฒนาบุคลากรทางพระพุทธศาสนา

  ทั้งนี้ได้ประกอบพิธีทำบุญทักษิณานุปทาน อุทิศกุศลแก่ท่านพุทธศาสนนูปถัมภกที่ล่วงลับไปแล้ว และพิธีทำบุญเนื่องในวันคล้ายสันสถาปนาสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 3 ตุลาคม เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นขวัญกำลังใจแก่บุคคลากรของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมทั้งเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาธรรม ต่อผู้มีสาธารณูปการทำให้หน่วยงานเจริญก้าวหน้ามาจนถึงปัจจุบัน พร้อมมอบรางวัลพุทธาคุณาการ บุคลากรต้นแบบ ดีเด่น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2567 อีกด้วย

ชมคลิป.https://drive.google.com/file/d/1AJX1I1pmLCwg_LOG1eOfacPUMEmK7l4M/view?usp=sharing

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว

ราชบุรี – กกต.รับรองนายก อบจ. เตรียมแถลงนโยบายสานงานต่อวันที่ 26 กันยายนนี้

   คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดราชบุรี ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งให้ นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จ.ราชบุรี หลังได้รับการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 ด้วยคะแนนเสียง 237,976 คะแนน เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา


  ได้ฤกษ์งามยามดี นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จ.ราชบุรี พร้อมด้วยนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ ภรรยา นายสุพจน์ ยอดรัก ที่ปรึกษา นายกฯ และคณะผู้บริหารของ อบจ.ราชบุรีชุดใหม่ ประกอบด้วย นายธนวัชร นิติกาญจนา รองนายก อบจ. นายชิตสกนธ์ รังสีเสริมสุข รองนายก อบจ. นายดุสิต จิรภัทรากร นายวรวัฒน์ น้อยโสภา นายชาคริสณ์ กรปัญญากุล เลขานุการนายก อบจ.ราชบุรี ได้เดินทางมาทำงานวันแรกที่ตึกองค์การบริหารส่วนจังหวัด

ทั้งนี้ทุกคนได้พร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลือง โดยเริ่มแรกเข้าสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งประดิษฐานอยู่ด้านหน้าตึกองค์การบริหารส่วนจังหวัด เพื่อความเป็นสิริมงคล

จากนั้นได้ขึ้นไปยังห้องรับรองชั้น 2 มีผู้นำท้องถิ่นหลายคนได้นำพระพุทธรูป และช่อดอกไม้ มามอบเพื่อแสดงความยินดีกับนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จ.ราชบุรี พร้อมเปิดตัวทีมบริหารชุดใหม่ในการทำงานพัฒนาท้องถิ่น จ.ราชบุรี นอกจากนี้ทีมบริหารได้แจ้งว่าจะมีการนัดเปิดประชุมสภาพร้อมแถลงนโยบายครั้งแรกในวันที่ 26 กันยายน 2567 นี้

     ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ราชบุรี – รพ.กรุงเทพเมืองราชเตรียมจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อหัวใจและสมอง( Run with the Flow 2024 สนามที่ 4 อุทยานหินเขางู)

  โรงพยาบาลกรุงเทพเมืองราชเตรียมจัดกิจกรรม Run with the Flow 2024 สนามที่ 4 อุทยานหินเขางู ในวันที่ 20 ตุลาคมที่อุทยานหินเขางู เพื่อนำเงินรายได้จากค่าสมัครหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วมอบให้มูลนิธิเวชดุสิตฯ

   โรงพยาบาลกรุงเทพเมืองราช เตรียมจัดกิจกรรม Run with the Flow 2024 สนามที่ 4 อุทยานหินเขางู อ.เมือง จ.ราชบุรี ในวันที่ 20 ตุลาคม 2567 ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 กันยายน โรงพยาบาลกรุงเทพเมืองราช ได้มาตั้งบูธประชาสัมพันธ์งานวิ่ง Run with the Flow 2024 วิ่งเพื่อหัวใจและสมอง ที่สนามกีฬากลางจังหวัดราชบุรี มีผู้สนใจเข้าร่วมสมัครกันอย่างต่อเนื่อง

โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้มูลนิธิเวชดุสิตฯ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ต่อไป สำหรับการวิ่งแบ่งออกเป็นระยะ 5 กิโลเมตร และ 10.5 กิโลเมตร โดยระยะทาง 5 กิโลเมตรมีค่าสมัคร 500 บาท ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร มีค่าสมัคร 650 บาท นักวิ่งจะได้เสื้อที่ระลึกพร้อมเหรียญรางวัล ระยะ 10.5 กิโลเมตร ปล่อยตัวเวลา 06.00 น. ระยะทาง 5 กิโลเมตรปล่อยตัว 06.15น.

  นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลยังเปิดโอกาสบริการตรวจสุขภาพราคาพิเศษสำหรับนักวิ่งทุกท่านเบื้องต้นเพื่อค้นหาความเสี่ยงของโรคด้วยผลเลือด ปัสสาวะ และเอกซเรย์ปอด ราคา 1,500 บาท (ไม่รวมค่าสมัครวิ่ง) แพ็กเกจตรวจสุขภาพความผิดปกติของปอด หลอดเลือดแดง การกระจายของเลือด ภาวะน้ำท่วมปอด หัวใจล้มเหลว Ches X-ray ราคา 590 (ไม่รวมค่าสมัครวิ่ง) แพ็กเกจตรวจหาคราบหินปูนที่หลอดเลือดแดงของหัวใจ สาเหตุการตีบของหลอดเลือด CT Coronary Calcium Score ราคา 4,500 บาท ( ไม่รวมค่าสมัครวิ่ง) ทางโรงพยาบาลจะจัดส่งคูปองตรวจสุขภาพไปให้ทางE-mail ภายใน 7 วัน หลังจากขั้นตอนการชำระเงินได้รับการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว สามารถรับบริการได้ที่ศูนย์สุขภาพโรงพยาบาลกรุงเทพเมืองราช ชั้น 2 โทร 032-322274 -80 ต่อ 218 , 233

  ขอขอบคุณภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ราชบุรี. ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี มอบทุนนักศึกษาเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ 119 ทุน กว่า 5 แสนบาท

ราชบุรี – มอบ 119 ทุนนักศึกษาเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ อธิการบดี ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี ร่วมกับคณะกรรมการส่งเสริมกิจการ คสม. มอบทุนแก่นักศึกษาเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 119 ทุน รวมกว่า 5 แสนบาท

  เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 67  ผศ. ดร.ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี เป็นประธานมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษา ทุนละ 5,000 บาท จำนวน 119 ทุน รวมเป็นเงิน 595,000 บาท แก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ ที่ห้องประชุมอาคารอำนวยการ มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง โดยมี ผศ.อรรถพล อุสายพันธ์ รองอธิการบดี พร้อมคณบดี และผู้บริหารของมหาวิทยาลัยฯ นายขจร สุทธิ์วนิช นางชื่นจิตต์ เจริญงาม นางกมรวรรณ ดาวประกายมงคล ที่ปรึกษา คสม. นายเรืองชัย เนตรปฐมพร ประธานคณะกรรมการฯ ดร.อภิวัฒน์ วังวิวัฒน์ รองประธาน คสม.

  และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คสม. และผู้มีอุปการคุณอีกหลายท่าน ที่ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาจำนวนดังกล่าว ที่ได้เดินทางมามอบทุนการศึกษาด้วยตัวเอง อาทิ ผู้บริหารโรงแรม ผู้บริหารบริษัท เจ้าของโรงงาน และห้างร้านต่าง ๆ นอกจากนี้ นายพัฒนพงศ์ ชื่นชอบ นายอำเภอจอมบึง ได้ร่วมมอบเงินสมทบมาอีก 10 ทุน จำนวน 50,000 บาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาแก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ ด้วย

  ผศ.ดร.ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณคณะกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงทุกท่าน โดยประธาน คสม. อยู่ในคณะมาตั้งแต่ต้น มีหลายบทบาทหน้าที่ เป็นศิษย์เก่า เป็นนายกสมาคมศิษย์เก่า และเป็นประธาน คสม. มาสองสมัยของมหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง ส่วนเรื่องทุนการศึกษานั้น ได้ให้โอกาสแก่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยฯ เฉลี่ยปีละ 100 ทุน เกือบ 20 ปีมาแล้ว ส่วนหนึ่งได้สำเร็จการศึกษาและไปทำหน้าที่เป็นพลเมืองดี เป็นผู้นำของชุมชน เป็นผู้นำทางการศึกษาหลายท่าน หลังจากที่ได้ดูประวัติผู้ที่ได้รับทุนบริจาค จากคณะกรรมการ คสม.จอมบึง โดยนักศึกษามาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย ถ้าจะแบ่งสัดส่วนเขตต่างจังหวัดประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ในพื้นที่ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ หลายคนที่ คสม.ได้บริจาคทุนการศึกษาไป ซึ่งจะมีกระบวนการคัดกรองมาแล้ว รวมทั้งของนายอำเภอจอมบึงที่กรุณามามอบให้อีก 10 ทุน ขอให้นักศึกษาใช้เงินอย่างคุ้มค่าที่สุด และอยากให้ทุกคนมีผลงานที่จะเดินต่อไป ยังมีอีกหลายช่องทาง เช่น อยากมีงานทำ ก็จะมี คณะกรรมการ คสม. มีช่องทางที่สามารถช่วยได้ เพื่อให้ทุกคนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฯจนจบการศึกษา

  ทั้งนี้ภายหลังการรับมอบทุนแล้ว นายสมบูรณ์ วิชัยบุญ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คสม. ผู้ตรวจประวัติในการคัดสรรค์นักศึกษาที่เข้ารับทุน ได้กล่าวให้โอวาทกับนักศึกษาว่า ทุกคนที่ได้รับทุน ก็ให้นำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายด้านการศึกษาอย่างเหมาะสม เพื่อต่อยอดการศึกษาที่ดีในอนาคตต่อไป ขณะที่ทางด้านตัวแทนนักศึกษา ก็ได้กล่าวขอบคุณทางมหาวิทยาลัยฯ และคณะกรรมการ คสม. ว่าเงินที่ได้จำนวน 5,000 บาท จะนำไปใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นสำหรับการศึกษาที่แท้จริง


ขอขอบคุณภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

ราชบุรี – สุดยอดศิลปินสีน้ำ’ชาวราชบุรี’ ผลงานมากมายจากรางวัลสีน้ำระดับโลก


    ศิลปะจากปลายพู่กัน ศิลปิน ฉายา อ.อู๊ด อัมพวา ชาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้รับเชิญไปแสดงภาพเขียนสีน้ำในต่างแดน มีผลงานมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไฉนคนไทยไม่ส่งเสริม

อาจารย์ บัญญัติ พวงทอง (อู๊ด อัมพวา)

  ภาพวาดสีน้ำสวย ๆ ที่แขวนโชว์อยู่ภายในบ้านเลขที่ 51 / 2 ต.วันดาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ของ อ.อู๊ด อัมพวา หรือ อาจารย์ บัญญัติ พวงทอง วัย 61 ปี ผู้เป็นศิลปินที่เคยคว่ำหวอดอยู่ในวงการเบื้องหลังการทำงานอยู่ฝ่ายฉากกำกับศิลป์ โดยใช้ศิลปะมาประกอบฉากการแสดงของ อ. อู๊ด อัมพวา ที่เคยทำงานร่วมกับศิลปินดาราหลายคน อยู่เบื้องหลังจัดหาอุปกรณ์ประกอบฉากให้กับรายการก่อนบ่ายคลายเครียดในอดีต และอดีตผู้อยู่เบื้องหลังการทำมิวสิคเพลงเพื่อชีวิตให้กับ นายสุรชัย จันทิมาธร หรือ น้าหงา คาราวาน เมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา

  จากนั้นได้ผันตัวเองมาใช้ชีวิตการวาดรูปที่ตัวเองชอบ ทั้ง สีน้ำ สีน้ำมัน กับหลากหลายแนวรูปแบบตามจินตนาการ ความคิดที่ไม่เคยหยุดนิ่ง อุปกรณ์การวาดภาพแต่ละชิ้นล้วนมีคุณภาพเพื่อสรรสร้างผลงานออกมาอย่างวิจิตรงดงามหาชมได้ยาก ทั้งการใช้เทคนิคการวาด การใช้สี มุมมองของแต่ละภาพมีมิติ ดูแล้วบ่งบอกถึงความรู้สึกได้ว่า วาดภาพเหล่านั้นมีคุณค่าเป็นอย่างดี หลายภาพที่ถูกนำไปแสดงยังต่างประเทศมากมาย เช่น ภาพวาดคนกับม้าซึ่งได้รับรางวัลที่ประเทศสิงคโปร์ สื่อถึงความหมายรวมใจเป็นหนึ่ง หมายถึง คนกับม้าจะต้องรวมใจเป็นหนึ่งจึงจะไปด้วยกันได้ ถือเป็นภาพที่บอกเล่าเรื่องราวแสดงถึงอารมณ์ในรูปที่วาดให้สื่อออกมาจนได้รับรางวัลเหรียญทองแดงมาแล้ว

  อาจารย์ อู๊ด หรือบัญญัติ พวงทอง เล่าถึงงานวาดภาพว่า มีความรู้จาการเรียนศิลปะและตั้งใจที่จะมาทำอาชีพนี้ แต่ช่วงนั้นทำงานบริษัทไว้หลายแห่ง และได้ห่างออกมาเพราะไม่ใช่งานตรงที่อยากทำ จึงหันมาทำร้านวาดรูป ช่วงนั้นวาดสีน้ำมัน สีอะคลิลิค เพื่อความอยู่รอด ส่วนมาใช้สีน้ำช่วง 15 ปีที่แล้ว เพราะมีศิลปินรุ่นใหญ่แนะนำให้ไปทางการวาดรูปด้วยสีน้ำ จากการที่ได้มาเห็นงานวาดหลายแบบ จึงใช้สีน้ำมายาวนานหลายปี ตระเวนแสดงไปหลายแห่งที่ต่างประเทศ อีกทั้งในประเทศไทยเวทีจะน้อยไม่ค่อยมีงานจัดแสดงสีน้ำ กลายเป็นว่าเราต้องทำส่งต่างประเทศอย่างเดียว ช่วงนั้นรับงานช่างเขียนอุโบสถด้วย ได้ค่าแรงมาก็ทุ่มกับสีน้ำหมด ส่งงานแต่ละประเทศต้องใช้เงินขั้นต่ำ 2 – 3 พันบาทต่อชิ้น จะมีค่าขนส่ง ค่าติดตั้งงานในต่างประเทศ ค่าสูจิบัตร เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องให้แต่ละแห่งในการจัดแสดงผลงาน ส่วนงานตัวเองเป็นงานแลนด์สเคป ส่วนใหญ่ของสีน้ำ เป็นวิวทั่วไป ทุ่งนา ป่าเขา ยังมีซิตี้สเคป จำพวกเมืองต่าง ๆ ชอบทุกงานที่ทำ

  โดยประเทศที่ได้รับรางวัลที่ 1 คือ ที่ประเทศอินเดีย เป็นภาพเด็กยากจนกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ อาจสื่ออารมณ์ของความหิว มีความหมายในรูปนั้น ได้รางวัลเหรียญทอง ไม่มีเงินรางวัลให้ แต่เขาจะดูแลเรื่อง ค่าเครื่องบินไปกลับ ค่าเป็นอยู่ร่วมงาน ได้เกียรติบัตร ได้รางวัลเป็นอุปกรณ์การวาดภาพกลับมา ส่วนเรื่องที่ประทับใจคือ ได้มีโอกาสไปสอนการวาดภาพที่ประเทศสเปน พร้อมกับนำรูปไปขายที่นั่นด้วย รวม ๆ ขายครั้งนั้นเป็นเงินหลักแสนบาท ส่วนรูปที่ราคาแพงสุดที่เคยขายได้เป็นไซส์เล็กราคาภาพละ 80,000 บาท ส่วนใหญ่งานขนาดใหญ่ ๆ จะไม่ค่อยมีคนซื้อเพราะไม่มีที่ติด ขณะที่ภาพวาดออกมาเล็กที่สุด ซึ่งนำไปแสดงที่ประเทศอินเดีย มีขนาด 4 ซม. x 8 ซม. หรือประมาณเท่ากับใบนามบัตร เป็นงานเทศกาลสีน้ำที่แสดงงานจะมีชิ้นนี้ที่มีขนาดเล็กสุด ตอนนี้กำลังทำอีกชิ้นหนึ่งที่เล็กกว่านี้ โดยมีผู้จัดคนเดียวกัน รูปเล็กในการเขียนต้องใช้กล้องขยายเข้ามาช่วย เวลาเขียนต้องเอากล้องขยายบังและเอาพู่กันแทรกไว้หลังกล้องขยายเขียน มีการเขียนภาพที่เล็กสุดแบบนี้เพียงแค่ตนเองและอาจารย์อีกท่านหนึ่งเท่านั้น

  อ.อู๊ด อัมพวา ยังเคยเป็นจิตอาสาเคยมีโครงการทำมาตั้งแต่ก่อนโควิด 19 จะมีศิลปินอยู่ในกลุ่มประมาณ 5-6 คน เมื่อก่อนจัดตอนวันเกิดจะไปสอนฟรี ให้แก่เด็ก ป. 1 – ป. 6 พอช่วงโควิดก็ไปต่อไม่ได้ จึงหยุดยาวเรื่อยมา คงมีบางแห่งที่เชิญไปสอนเป็นวิทยากรพิเศษ แต่ถ้ามีโครงการดี ๆ สามารถบอกมาไปสอนให้ได้

  อ.อู๊ด มองว่าประเทศไทยให้ความสำคัญเรื่องนี้น้อยไป ซึ่งเคยไปหลายประเทศมาแล้ว เช่น ประเทศจีนที่ให้ความสำคัญมาก จะดึงดูดหัวใจคนได้ คนถ้ามีศิลปะในหัวใจจะใช้ชีวิตไปได้สวยงาม เคยสอนลูกจากที่ช่วงหนึ่งที่เคยเกเร ได้จับไปเรียนศิลปะ ไปขัดเกลาจิตใจออกมาใช้ชีวิตได้สวยงาม มองว่าศิลปะสมัยนี้เปิดกว้าง ไม่จำเป็นต้องมาวาดภาพแบบนี้ รุ่นใหม่จะใช้สมองมากกว่ามือ ทุกคนมีศิลปะอยู่ในหัวใจอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มีเวที หรือ มีคนสนับสนุน ไม่ส่งเสริม ทำให้เสียดายโอกาส อาจจะโดนอย่างอื่นดึงออกไป ถ้ามีผู้ใหญ่ในวงการช่วยสนับสนุนสามารถดึงคนเหล่านี้กลับมาได้ ส่วนผลงานที่วาดไว้ตอนนี้มีอยู่ 200 – 300 ชิ้น ที่ยังไม่ได้ใส่กรอบ และที่แสดงอยู่ต่างประเทศก็ยังมี ซึ่งต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ ก็อาจจะจัดแสดงเดี่ยวอีกสักครั้งหนึ่งก่อนที่จะหมดแรง คงจะมีอีกชุดที่กำลังรวบรวมอยู่
วันนี้จึงถือเป็นโอกาสดี มีเด็กน้อยสนใจมาหัดเรียนศิลปะการวาดภาพจากสีน้ำ ด้วยเทคนิคต่าง ๆ เป็นภาพดอกไม้ ใช้กระดาษเฉพาะใช้พู่กันจุ่มน้ำปาดลงบนพื้นกระดาษให้ชุ่ม มีเทคนิคการต้องรอให้กระดาษแห้งหมาดได้ที่ แล้วจึงใช้พู่กันแต่งแต้มสีสันลงไป แต่ละสีมีความหนัก เบา ไม่เท่ากัน ทำให้ภาพออกมาดูมีมิติได้อารมณ์ นอกจากนี้ยังมีการแสดงการวาดภาพด้วยเกรยอง เรียกง่าย ๆ คือ เป็นแท่งถ่านสีดำรูปร่างสี่เหลี่ยม ใช้ปาด ลาก ถูก หรือ ขีดเขียนไปตามความคิดที่เห็นตรงหน้า ใช้เวลาเพียง 5-6 นาที ต่อ 1 รูป ให้หันหน้าเอียงประมาณ 45 องศา ทำให้ภาพออกมาดูมีอารมณ์ ดูมีมิติ และความสวยงามเสมือนจริง

   ประเทศไทย มีสุดยอดศิลปิน ด้านศิลปะสีน้ำจากปลายพู่กันเช่นนี้ แล้วไฉนหน่วยงานราชการไทยถึงไม่คิดส่งเสริม มารอให้ต่างชาติแย่งชิงความได้เปรียบไป ขณะที่นักศึกษาคนรุ่นใหม่ที่เรียนจบด้านศิลปะ ต้องไปละเลงภาพแสดงออกถึงความสามารถอยู่ริมกำแพงอย่างนั้นหรือ
  สำหรับสนใจสามารถ เข้ามาศึกษาชมงานศิลปะ หรือ มาเรียนรู้เทคนิคการวาดภาพได้ที่บ้านอาจารย์ อู๊ด อัมพวา ติดต่อไปที่.   โทร 089-7526181

ขอขอบคุณ ภาพ-ข่าว พันธุ์ – จรรยา แก้วนุ้ย จ.ราชบุรี

อบจ.นครปฐม เพิ่มคุณภาพทางการศึกษา สพม.มอบคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อการเรียน

องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม เพิ่มคุณภาพทางการศึกษา สพม.มอบคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อการเรียน

วันที่ 4 กันยายน 2567 ที่ห้องประชุมชั้น 3 โรงเรียนราชินีบูรณะ ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ดร.สุเนตร ขวัญดำ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม เป็นประธานมอบคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ให้แก่ตัวแทนนักเรียน โรงเรียนราชินีบูรณะ อ.เมืองนครปฐม โรงเรียนภัทรญาณวิทยา อ.นครชัยศรี โรงเรียนวัดไร่ขิง อ.สามพราน โรงเรียนกำแพงแสนวิทยา อ.กำแพงแสน โรงเรียนบางเลนวิทยา อ.บางเลน โรงเรียนคงทองวิทยา อ.ดอนตูม และโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชฯ อ.พุทธมณฑล เพื่อใช้ในการเรียน การสอนในระดับมัธยม ให้เกิดประสิทธิภาพทางการศึกษา ของนักเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม

  ดร.สุเนตร ขวัญดำ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม กล่าวว่า ในนามของผู้บริหารการศึกษา ขอขอบคุณองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ที่ให้ความสำคัญด้านการศึกษา สร้างให้นครปฐมเป็นเมืองแห่งการศึกษา และเป็นความโชคดีของนักเรียนที่ได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน(แท็บเล็ต) และอยากจะสื่อสารถึงลูกๆนักเรียนทุกคนว่าครูเองก็ดีใจที่ได้รับการสนับสนุน และเป็นการสนับสนุนอย่างทั่วถึง และทราบว่าเป็นหนึ่งเดียวของประเทศที่ให้การสนับสนุนการศึกษา และขอให้ลูกๆนักดรียนทุกคน นำอุปกรณ์การศึกษา(แท็บเล็ต)ที่ได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษาเพื่ออนาคตของเรา

  ด้านว่าที่ร้อยตรีมนต์เมืองใต้ รอดอยู่ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชินีบูรณะ ประธานเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการมัธยมศึกษาจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า โรงเรียนราชินีบูรณะ มีนักเรียนกว่า3,000คน ได้ทำเรื่องของการสนับสนุนคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต เพื่อการเรียนการสอนอาจจะดูมากกว่าโรงเรียนอื่น เนื่องจากเราเป็นโรงเรียนต้นแบบที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการเรียนการสอน เพราะการพัฒนาด้านการศึกษาต่องรอบรู้ ก้าวไกล ทันต่อสังคม และเป็นการลดการใช่เอกสาร หนังสือ วันนี้เราจะร่วมกันสร้างระบบการศึกษาแบบก้าวหน้าไปพร้อมกัน ให้นครปฐมเป็นเมืองแห่งการศึกษา ดังความตั้งใจของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ที่อยากเห็นลูกหลานนครปฐมได้รับการศึกษาที่ยั่งยืน และมีมาตรฐานเท่าเทียมกัน

ขณะที่นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ กล่าวว่า การจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการศึกษาด้านคอมพิงเตอร์แท็บเล็ต เพื่อการศึกษานี้เป็นการผ่านงบประมาณของสภาอบจ.นครปฐม ที่เห็นพ้องต้องกันที่ให้การสนับสนุนการศึกษาของนครปฐม ให้เท่าเทียม และนี่เป็นเหตุผลที่ อบจ.นครปฐม ไม่คิดจะสร้างหรือโอนโรงเรียนมาอยู่กับ อบจ. เพราะทุกโรงเรียน นักเรียนทุกคนคือลูกหลานของพวกเรา ลูกหลานของคนนครปฐมเท่าเทียมกัน เพราะการศึกษาเป็นรากฐานที่มั่นคงของเยาวชน และประเทศชาติ

ขอบคุณภาพ-ข่าว ทวีพล หลิมชัยสุวรรณ คนข่าวนครปฐม

นครปฐม.โครงการสุขใจมอบถุงยังชีพ ผู้ป่วยติดเตียง 800 ถุง งบกว่า 500,000 บาท

โครงการสุขใจที่ได้แบ่งปัน จัดโครงการปีที่ 2 ตามแนวคิด”สุขใจที่ได้แบ่งปัน”ให้กับผู้มีรายได้น้อยและผู้ป่วยติดเตียงเพื่อเป็นการบรรรเทาช่วยเหลือรายจ่ายในครัวเรือน

นายอนุชา สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 5 จังหวัดนครปฐม

  วันที่.30.ส.ค.67 เวลา.10.00.น ที่หอประชุมเฉลิมพระเกรีรติ 60 พรรษามหาราชินี อำเภอนครชัยศรี จ.นครปฐม นายอนุชา สะสมทรัพย์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 5 จังหวัดนครปฐมเป็นประธานนพิธีพร้อมด้วยนายอารุช เอมโอฐ นายอำเภอนครชัยศรี  ดร.พระครูปฐมชยาภิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดใหม่สุปดิษฐาราม อำเภอนครชัยศรี และ นางสุรภาพร จิรักษา (เจ้หนิง ชัยศรี)

ได้ร่วมกันบริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงและผู้มีรายได้น้อย(สุขใจที่ได้แบ่งปัน) ในเขตพื้นที่อำเภอนครชัยศรี จำนวน 800 ชุดๆ ละ 750 บาท โดยประสานไปยังเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบลทั้งหมด 25 แห่งในอำเภอนครชัยศรี เป็นผู้รับไปส่งต่อถึงมือผู้ป่วยติดเตียงและครอบครัวที่มีรายได้น้อยต่อไป

ขอบคุณ ภาพ-ข่าว กชมน ศรีทรัพย์

ผู้ว่าฯ นครปฐม พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ การบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำท่าจีน

ผู้ว่าฯ นครปฐม พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ การบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำท่าจีน

       วันที่ 30 สิงหาคม 2567 เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมโครงการชลประทานนครปฐม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม พร้อมด้วย นางสาวอโรชา นันทมนตรี นายธีรยุทธ์ จันทร์ดิษฐวงษ์ นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม  โครงการชลประทานนครปฐม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุกแห่ง นายอำเภอทุกอำเภอ แขวงทางหลวงนครปฐม แขวงทางหลวงสมุทรสาคร และแขวงทางหลวงชนบท  สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สถานีอุตุนิยมวิทยานครปฐม กลุ่มประสานงานลุ่มน้ำท่าจีน สทนช.ภาค 2 และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครปฐม (อุทกภัย) ปี 2567 ครั้งที่ 2/2567  เพื่อติดตามสภาพภูมิอากาศสถานการณ์น้ำและการระบายน้ำ รวมถึงการบริหารจัดการน้ำกลุ่มลุ่มน้ำท่าจีน


      ซึ่งจังหวัดนครปฐม ได้เตรียมรับสถานการณ์ผลกระทบจากภาวะลานีญา ช่วงเดือนกันยายน-กลางเดือนพฤศจิกายน ประกอบกับร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง ผลกระทบจากพายุหมุนเขตร้อน 1-2 ลูก จะทำให้ฝนตกชุกไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2567 นอกจากนี้โครงการชลประทานนครปฐม ได้แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงที่ปากน้ำท่าจีน ช่วงปลายเดือนสิงหาคม  และเดือนกันยายน 2567 มี 3 ช่วงเวลา ดังนี้ 1.ระหว่างวันที่ 30-31 สิงหาคม และ 1-5 กันยายน 2567 2.ระหว่างวันที่ 15-18 กันยายน 2567 3. ระหว่างวันที่ 21-22 กันยายน 2567 ทั้ง 3 ช่วงจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ อ.สามพราน นครชัยศรี และอำเภอบางเลน ทั้งนี้ตามสถิติระดับน้ำทะเลหนุนสูงที่ปากแม่น้ำท่าจีน มีค่าตั้งแต่ 1.35 เมตร ขึ้นไป จะส่งผลกระทบในเขตพื้นที่จังหวัดนครปฐม บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำ อ.สามพราน นครชัยศรี และ อ.บางเลน เกิดสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งนอกแนวคันกั้นน้ำ

  นายธันยา จรูญสมาธิศักดิ์ ผู้อำนวยการกลุ่มประสานงานลุ่มน้ำท่าจีน กล่าวว่า สถานการน้ำในแม่น้ำท่าจีนขณะนี้ มีปริมาณค่อนข้างสูง เช่นพื้นที่ลุ่มต่ำในพื้นที่อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ในหลายพื้นที่น้ำค่อนข้างจะเต็มตลิ่งแล้ว ทั้งนี้ได้ประสานขอความร่วมมือหากในช่วงน้ำทะเลหนุนสูงขอให้ลดการระบายน้ำลงมายังจังหวัดนครปฐม  เนื่องจากเข้าสู่สถานการณ์ฤดูน้ำหลากแล้ว นอกจากนี้ พื้นที่การเกษตร แปลงนาข้าว ในหลายพื้นที่ เช่น จังหวัดชัยนาท จังหวัดสุพรรณบุรี ได้เร่งเก็บเกี่ยวเพื่อเตรียมเป็นพื้นที่รองรับน้ำ ในช่วงเดือนตุลาคมซึ่งจะเป็นช่วงน้ำสูงสุด และคาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำไม่ถึงขั้นวิกฤตเมื่อเทียบกับในช่วงปี 2554 ที่ผ่านมา

ด้านนายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม (ผู้อำนวยการจังหวัดนครปฐม) ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการดังนี้
โครงการชลประทานนครปฐม ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการระบายน้ำ ให้ประชาชนเข้าใจ โดยเฉพาะเมื่อถึงระดับที่ต้องเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน ขึ้นที่สูง หรืออพยพโยกย้ายไปยังที่ปลอดภัย  และติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ที่ได้รับจัดสรรใหม่ ประจำจุดพื้นที่เสี่ยง เพื่อเร่งระบายน้ำให้สอดคล้องกับช่วงน้ำทะเลหนุนสูง โดยในช่วงบ่ายวันนี้ จะจัดประชุมชี้แจงผู้รับผิดชอบในการควบคุมเปิด-ปิด ประตูระบายน้ำทุกแห่ง เพื่อวางแผนการระบายน้ำทั้งระบบ นอกจากนี้ มอบให้โครงการชลประทานนครปฐม สรุปข้อมูล ความคืบหน้า ของคลองลัดต่างๆ  ว่าดำเนินการในขั้นตอนใด พบปัญหาอุปสรรคอย่างไร โดยให้รายงานในการประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครปฐม (อุทกภัย) ครั้งต่อไป
แขวงทางหลวงนครปฐม ประสานแขวงทางหลวงสมุทรสาคร เตรียมจัดทำแนวป้องกัน ไม่ให้น้ำท่วมขังถนนบรมราชชนนี ในช่วงฝนตกหนักอีก 2 เดือนข้างหน้านี้
ทุกอำเภอจัดกิจกรรม big cleaning day  ทำความสะอาด ขุดลอกคูคลอง กำจัดผักตบชวา กระตุ้นให้ประชาชนในพื้นที่ ตื่นตัวช่วยกันป้องกันน้ำท่วมบ้านเรือนตนเอง ทั้งในระยะสั้น และระยะยาวตลอดไป ทั้งนี้ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครปฐม (อุทกภัย) จะได้ติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งแก้ปัญหา ช่วยเหลือ บรรเทาผลกระทบความเดือดร้อนของประชาชนโดยทันที

ชมคริป.https://drive.google.com/file/d/1_YGpXT7XI7TL7kGJlTeOWjEw2XjpJ9gK/view?usp=sharing

 
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ภาพ/ข่าว       

พิธีเททองรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี จำนวนสามองค์อัญเชิญประดิษฐานสามภาค

วันที่ 17 สิงหาคม 2567 เวลา13.09 น.ที่โรงหล่อวิเชียร ตำบลสามควายเผือก อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม

รศ.ดร.จุฑามาศ สัตยวิวัฒน์ จากสถาบันวิจัยจุฬาลงกรณ์
เป็นประธานในการประกอบพิธีเททองหล่อรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี ร่วมด้วย ศ.นพ.ประเสริฐ บุญเกิด คณะแพทยศาตร์รพ.รามาธิบดี โดยมี นพ.สวรรค์ กาญจนะ อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอเบตง เป็นประธานดำเนินการ่วมกับพุทธศาสนิกชนที่มีความศรัทธา ร่วมพิธีมากมายในการนี้ ได้กราบนิมนต์พระภิกษุ จากวัดสามควายเผือก จำนวน 5 รูป มาร่วมเจริญพระพุทธมนต์

  ในพิธีเททองหล่อรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี
คณะผู้จัดสร้างจึงขออนุโมทนาบุญแก่พุทธศาสนิกชนทุกท่านที่มาร่วมสร้างรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี จำนวนสามองค์ในครั้งนี้ สำหรับองค์สมเด็จฯ ที่สร้างเป็นเนื้อทองเหลืองปิดทองคำแท้ขนาด 29 นิ้ว เพื่ออัญเชิญไปถวายวัดต่างๆดังนี้
1.ถวายวัดพะโคะ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ประดิษฐาน ณ.อาคารปฎิบัติธรรม เฉลิมพระเกียรติวิมุตติราชจักรี
2.ถวายวัดระฆังโฆษิตาราม กรุงเทพมหานคร
3.ถวายวัดในภาคเหนือ
ซึ่งในขณะนี้ได้ประสานงานไปแล้วส่วนจะเป็นวัดในจังหวัดใด นั้นกำลังประสานให้ทางวัดนั้นๆ ตอบกลับมาก่อน

  นายแพทย์สวรรค์ กาญจนะ ประธานดำเนินการร่วมกับพุทธ ศาสนิกชนทั่วประเทศกล่าวว่า ปฎิมากรในการสร้างครั้งนี้โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดอกเตอร์ฐิติพันธุ์ จันทร์หอม ผู้อนุญาตจัดสร้างโดย พระครูปุญญาพิศาลเจ้าอาวาสวัดราชประดิษ(พะโคะ)เจ้าอาวาส วัดพะโคะ และจะประกอบพิธีพุทธาภิเษก ในวันเสาร์ 7 กันยายน 2567
ณ วัดแดง อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เวลา 19.09 น. จึงขอบคุณผู้มีจิตเป็นกุศลที่มาร่วมพิธี เททองหล่อหลวงปู่โตในครั้งนี้ ขออานิสงฆ์นี้ ได้อำนวยพรให้ทุกท่าน ทุกครอบครัว มีความสุข เจริญด้วย ลาภยศ สารเสริญสืบไป นายแพทย์สวรรค์ กล่าวในที่สุด

ขอขอบคุณภาพ-ข่าว ประพฤติ อรรฆธน